แหะๆ หายหัวไปสองวัน ไปสอบมาคร่า
มาอ่านต่อกันเถอะนะคะอย่ามัวพูดมาก เนาะตอนที่7
“นั่นสินี่มันอะไรกันน่ะตากัน”
ในที่สุดสิ่งที่ผมกลัวก็เกิดขึ้นสีหน้าที่โกรธขึงของพ่อกับแววตาที่ผิดหวังของแม่ทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“ฮึกๆ พ่อครับแม่ครับ ผม ฮึกๆ ขอโทษ” ผมร้องไห้ออกมาแทบจะทันทีผมไม่อยากเห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของพ่อกับแม่สักนิด ผมทำให้พ่อกับแม่เสียใจ ผมเป็นลูกที่เลวมากใช่ไหม
“ไม่เอานะกัน คนดีไม่ร้องนะครับ”เซ้นส์เข้ามากอดผมไว้แน่น
“ไอ้กันถ้าแกยังเห็นว่าฉันเป็นพ่อ แกอยู่ก็หยุดทำอะไรทุเรศๆแบบนั้นซะ”พ่อสั่งก่อนจะแยกผมออกจากเซ้นส์
“คุณลุงครับ กันเป็นเมียผม คุณลุงจะทำแบบี้ไม่ได้นะครับ”
“หยุดพูดไอ้คำบ้าๆพวกนั้นซะคุณภาสวิช คุณจะเป็นเกย์ เป็นกระเทยมันก็เรื่องของคุณแต่อย่าดึงลูกผมไปเป็นกับคุณด้วย”ผมยืนร้องไห้ดูการโต้เถียงของคนสองที่ผมรัก ผมไม่รู้ว่าต้องเข้าข้างใคร ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ไม่รู้อะไรทั้งนั้น
“กัน!!!” เสียงทั้งสามดังขึ้นพร้อมๆกับสติของผมที่ค่อยหายไป
ผมตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับอาการอ่อนเพลียก่อนจะสังเกตเห็นว่าพ่อกับแม่นั่งหน้าเครียดอยู่บนโซฟา
“ตื่นแล้วเหรอ ตากัน”แม่ทักก่อนจะเดินมานั่งที่ข้างเตียง
“ตื่นแล้วก็ดีจะได้กลับบ้านกัน” พ่อพูดด้วยเสียงเด็ดขาด
“พ่อครับแม่ครับ ผมขอโทษที่ทำให้พ่อกับแม่เสียใจแต่ผมรักเซ้นส์จริงๆนะครับ เราสองคนรักกันจริงๆนะครับ”
“แกหยุดพูดอะไรทุเรศๆแบบนี้ซะทีได้ไหมไอ้กัน แล้วเตรียมตัวกลับบ้านซะ ”
“แต่พ่อครับ”
“ไม่มีแต่ กลับบ้านซะแล้วอย่าคิดจะหาทางติดต่อกับไอ้นั่นอีก”พ่อยังสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเหมือนเดิมก่อนจะเดินออกจากห้องไปนั่นคือการออกคำสั่งกลายๆว่าไม่ต้องการให้ผมขัดใจ ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องผิดหวังแต่ผมก็รักเซ้นส์มากจนไม่รู้ว่าถ้าไม่มีเขาผมจะอยู่ยังไง
(ภาคเซ้นส์)
ผมยกแก้วขึ้นดื่มเป็นรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ของวันหลายวันแล้วที่ผมต้องนั่งดื่มแบบนี้ผมคิดออกจริงๆว่าผมต้องทำยังไง ผมรู้ว่ากันรักผมแต่กันแคร์พ่อกับแม่มาก ผมเคยคิดนะครับว่าถ้าพ่อแม่ของกันไม่เห็นด้วยกับความรักของเราผมอาจจะพากันหนีไปอยู่ไกลๆสักพักแต่เท่าที่ดูคงทำไม่ได้ เพราะกันคงไม่ยอมไปกับผมแน่ๆ
“บอสครับ มีคนมาหาครับ”
“ไปบอกเขาว่าฉันไม่อยากพบใครทั้งนั้น”
“แต่เขาบอกว่าถ้าไม่ยอมพบ บอสอาจจะเสียใจไปตลอดชีวิตนะครับ”
“เออ งั้นไปบอกให้เขาเข้ามา”
“นี่กินหรืออาบว่ะเนี่ยใจคอจะกินเหล้าทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอ” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลังผม
“พี่โอ๋”
“เออ พี่เอง ”
“ไปไงมาไงครับ”
“มีคนเขาวานให้พี่มาดูใจเราน่ะ”
“พี่หมายความว่าไง”
“พี่กันให้พี่มาดูเราน่ะ แต่เห็นสภาพแล้วพี่ไม่รู้จะกลับไปบอกพี่กันยังไงเลยเนี่ย”
“บอกแค่ว่าผมสบายดีก็พอครับพี่”
“เฮ้ย นี่จะตัดใจจริงๆเหรอ”
“คงงั้นมั้งพี่”
“ถ้างั้นก็เป็นบุญของพี่กันแล้วล่ะ ที่จะหมั้นน่ะ” พี่โอ๋บอกเสียงเรียบแต่หน้าเครียด
“พี่หมายความว่าไง ใครหมั้น!!!” O_o
“อีก3วันพี่กันจะหมั้น แต่ก็ดีแล้วล่ะไหนๆนายก็จะตัดใจแล้วนิก็ปล่อยพี่กันไปแล้วกัน”
“โอกาสสุดท้ายแล้วนะ ถ้าไม่คิดจะสู้ก็ปล่อยมือจากพี่กันซะ”พี่โอ๋ทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป
นั่นสิทำไมผมถึงทำตัวอ่อนแอแบบนี้ล่ะ ทำไมผมไม่คิดจะสู้เพื่อกันสักครั้งผมมันไอ้คนขี้ขลาดผมตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ ต่อให้ต้องตายผมก็จะต้องทำให้คุณลุงกับคุณป้ายอมรับ ”ลูกเขย” คนนี้ให้ได้ สู้โว้ยยยยยยยยยยย (เริ่มรั่ว ฮ่าๆๆ) แต่ก่อนอื่นผมต้องไปตามที่ปรึกษาก่อนนะครับ
ผมนั่งมองเงาชายหนุ่มที่สะท้อนในกระจกอย่างท้อใจ ชุดผ้าไหมสีทองที่ใส่อยู่ ดูก็รู้ว่าต้องมีงานมงคล ไม่อาจทำให้คนในกระจกยิ้มได้ นี่ไอ้คนอมทุกข์คนนี้มันคือผมจริงๆเหรอ แทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเป็นไปได้มากขนาดนี้
“ตากันไปเถอะลูก บ้านหนูวิอยู่ไกลเผื่อรถติดมันจะไม่ทันฤกษ์หมั้นนะลูก”
“ครับแม่” ผมตอบรับแม่ไปอย่างเนือยๆใช่ครับวันนี้เป็นวันที่ผมจะหมั้นกับใครก็ไม่รู้ผมไม่มีโอกาสเห็นหน้าคู่หมั้นของตัวเองด้วยซ้ำ แล้วใครคนนั้นคนที่บอกว่ารักผมนักหนา ป่านนี้ไม่รู้มันทำอะไรอยู่ ชิ ไอ้บ้าเอ้ย!!
ผมเดินออกมาสมทบกับพ่อที่คอยอยู่ที่รถด้วยสีหน้าเรียบเฉยตั้งแต่วันนั้นพ่อก็ไม่เคย ยิ้มหรือพูดกับผมอีกเลย ผมรู้ครับหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่ยินดีนักหรอกที่ลูกชายไปเป็น ”เมีย” คนอื่น
“ไปเถอะนายเคนเดี๋ยวจะไม่ทัน” พ่อสั่งคนขับรถ
รถยนต์เคลื่อนออกมาจากบ้านอย่างช้าๆแต่มันเหมือนกับรวดเร็วในความคิดของผมถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะหยุดเวลาไว้แล้วหนีไปให้ไกล ไกลจากทุกคน ผมผิดเหรอครับที่ผมอยากจะอยู่กับคนที่ผมรักทำไมทุกคนทำเหมือนกับว่าผมไปฆ่าคนตายมา
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด เสียงเบรกลากยาวทำให้ผมแทบตกจากเบาะ ว่าแต่ลุงเคนจะเบรกทำไมครับแกคงไม่คิดจะดริฟรถเล่นหรอกนะ (ยังตลกได้อีกเนาะ)
“เบรกทำไมนายเคน”
“มีคนมาจอดรถขวงรถเฮาครับคุณท่าน” (ลุงเคนเป็นคนอีสานเพราะฉะนั้นอ่านเป็นอีสานจะไดอารมณ์กว่านะคะ)
ผมมองออกไปนอนรถก็เจอกับรถยนต์ที่คุ้นตาถอดขวางทางอยู่ อย่าบอกนะว่า ไอ้หื่นนั่นมันมา ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรรู้แค่ว่าผมดีใจ ดีใจมากที่เซ้นส์มา ภาพของคนที่คิดถึงค่อยๆลงมาจากรถทำให้ผมเผลอยิ้มกว้าง อาจจะกว้างที่สุดในชีวิตแล้วมั้งครับ
“หึ ในที่สุดมันก็มา”พ่อพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะลงไปบ้าง ผมกับแม่รีบตามลงมาทันทีเพราะกลัวจะเกิดเรื่อง
“สวัสดีครับคุณพ่อ”
“อย่ามาเล่นลิ้นคุณภาสวิช เอาตรงๆคุณมาทำไม”
“มารับเมียกลับครับ” เซ้นส์พูดก่อนจะหันมายิ้มให้ผม เขินเหมือนกันนะที่เขาพูดคำนั้นออกมา
“ไอ้ภาสวิช!!! หยุดพูดคำทุเรศๆพวกนั้นซะ ” พ่อตะโกนก้องก่อนจะชี้หน้าเซ้นส์
“ผมคงหยุดไม่ได้หรอกครับ คนอย่าง ภาสวิช เจริญรัตนไพศาล ทำอะไรแล้วรับผิดชอบเสมอและผมกับลูกชายท่านก็ได้เสียกันแล้ว ผมขอรับผิดชอบด้วยการแต่งงานครับ”
“หึ แต่งงานเหรอ ได้ผมให้คุณแต่ง”
“จริงเหรอพ่อ” ผมพูดด้วยความดีใจ พ่อยอมแล้วในที่สุดพ่อก็ยอม
“แต่มีข้อแม้ว่า…….คุณต้องรอดจากกระสุนผมก่อนนะ” พ่อพูดพลางชักมือปืนมาจ่อเซ้นส์ทันที””