ตอนที่ 16
Part : Puppy Beer
“ไอ้เหี้ยเบียร์มึงเลิกทุบโต๊ะได้ยัง กูจะทำการบ้าน สาส”
ผมยิ้มแหยให้ไอ้นทีก่อนจะหันมาสนใจการบ้านตัวเองบ้าง แต่หัวมันก็ยังนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนอยู่ ที่ลุงดำแม่งจับ .. คลำ … จูบ …
ปึ้ก!
“มึงมาต่อยกับกูมาไอ้เหี้ยยยยยยยยยย !!!”
“เฮ้ยๆกูขอโทษ”
ผมรีบซอยเท้าหนีไอ้นทีด้วยความเร็วแสงแต่ก็ยังแพ้มันอยู่ดี มันจับผมล็อคคอแล้วตั้งท่าจะทุ่มผมกับพื้น ผมก็รีบโวยวายหาทางรอดให้ชีวิต
“มึงงงง กูขอโทษ กูผิดไปแล้วววว ช่วยกูด้วยหมู ไอ้เอกกกกกกกกกกก Help กู Please”
“ไม่ต้องไปช่วยมัน! ส้นตีนเหอะแม่ง คนทำงานไม่ได้โว้ย อยากต่อยมากนักกูจัดให้!”
ไม่รอดแน่ครับพี่น้อง บ้านไอ้นทีเป็นค่ายมวย! แถมมันยังมีเข็มขัดเป็นตัวรับประกันความสามารถมันอีก แล้วไอ้เบียร์สุดหล่อจะเอาอะไรไปสู้มันนนนนนนนนนนนนนนน
“พอเหอะน่าพวกมึง คนหันมามองกันหมดแล้ว อายบ้างเหอะ”
ไอ้หมูเดินเข้ามาช่วยผม ไอ้นทีแม่งก็บ่นโวยวายอีกสักพักก็ยอมปล่อย เราสามคนกลับไปนั่งที่เดิมแต่ก็หยุดมองคนแปลกหน้าที่ถือถุงอะไรสักอย่างมาให้ไอ้เอก
“มึงนั่นมันไอ้เบอร์หนึ่งปะวะ”
นทีพูดขึ้นมาทำให้ผมนึกออก
“เออ มันเอาอะไรมาให้ไอ้เอกวะ”
แต่ผมสงสัยเรื่องอื่น
“มันรู้จักกันตอนไหน มันพึ่งเจอกันไม่นานไม่ใช่หรอ แล้วทำไมไอ้เบอร์หนึ่งมันหิ้วของมาให้ไอ้เอกได้”
พวกผมยืนมองสักพักไอ้เบอร์หนึ่งในชุดชอปวิศวะก็ยกมือบ้ายบายไอ้เอกแล้วเดินไปสตาร์ทเวสป้าสีสนิมขับออกไป
คือที่พวกผมเรียกมันว่าไอ้เบอร์หนึ่งเพราะโพลจากสำนักไหนไม่รู้ในมหาลัยผมโหวตให้เด็กวิศวะนั่นเป็นหล่อเบอร์หนึ่งของมหาลัย ส่วนไอ้เอกเพื่อนผมก็เป็นไอ้เบอร์สอง แล้วพวกผมพึ่งเจอกับไอ้เบอร์หนึ่งตัวเป็นๆครั้งแรกเมื่อไม่นาน แถมแค่เดินผ่านกันด้วย
“อะไรวะเอก มันมาหามึงทำไม”
ผมเดินเข้าไปหยิบถุงเปิดดูก็เห็นเป็นเค้กหลายรส
“มันซื้อมาให้มึงหรอ”
นทีถามขึ้นมาก่อนจะหยิบเค้กมาแกะกิน ไม่ถงไม่ถามเจ้าของสักคำ
“มึงก็ไปแดกของมันขอมันยังเนี่ย ทำแบบกูนี่ ขออันนึงนะ”
“ถุ้ยไอ้เชี่ยหมู เออแม่งอร่อยดีว่ะรสชาเขียว”
“มีชาเขียวด้วยหรอ?”
“เออ ทำไมอ่ะ”
ไอ้เอกมันเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจหนังสือในมือมันต่อ ผมก็เลยขอมันกินมั่ง บลูบเบอร์รี่ชีสเค้กอร่อยจริงๆ
กินไปกินมาสุดท้ายพวกผมก็เหลืออย่างละชิ้นให้ไอ้เอกไป มันก็เก็บชาเขียวอีกกล่องไว้ให้ตัวเอง ส่วนที่เหลือมันว่าจะเอาไปให้สายรหัสมัน ไอ้เอกมันชอบซื้อเค้ก แต่ตัวเองดันไม่ชอบกิน ตลกดี
“ตกลงมันเอามาให้มึงทำไมวะ”
“กูซื้อ”
“ซื้อกับมันหรอ”
ก็ผมสงสัยอ่ะ
“อือ บ้านมันทำร้านเค้ก”
เกท…
“อร่อยดี ไว้สั่งมาอีกนะกูช่วยกิน เอ้อขอกล่องนึงได้ปะ”
“เลือกไปเลย”
“งั้นขออันนี้นะ”
ผมหยิบเค้กนมสดออกมา เพราะชิมแล้วไม่หวานมากเอาไปฝากคนที่บ้าน เดี๋ยวจะหาว่าไปอยู่กับเขากินฟรีอยู่ฟรี คิดแล้วก็หน้าร้อนผ่าว .. ผมใช้คำว่าคนที่บ้านเลยหรอเนี่ย บ้านมันหรอกไม่ใช่บ้านผม!
Tr.. Tr…
ผมกดรับโทรศัพท์ทันที ไม่ได้ดูเลยว่าเบอร์ใคร
“เลิกเรียนกี่โมง”
ลุงดำนี่หว่า
“วันนี้เลิกสี่”
“เดี๋ยวไปรับ อย่าพึ่งกลับเองนะ จะพาไปข้างนอก”
“ไปไหนอ่ะ ไม่ไปได้ปะ ขี้เกียจ”
“เถอะน่ะ เอาเป็นว่าตามนี้ รอที่ตึกภาคเลยนะ”
“เดี๋ยวดิ รู้หรอว่าตึกไหน”
จำได้ว่าไม่เคยบอกลุงเลยนะ
“ความชิบหายระหว่างประเทศใช่มั้ย?”
“สัมพันธ์โว้ยสัมพันธ์ พูดดีๆเดะ!”
“ปากแบบนี้สัมพันธ์คงสร้างไม่ได้ แต่ความชิบหายนี่แน่นอน หึหึ เจอกันตั้งใจเรียนล่ะ”
“รู้แล้วน่า”
ผมเบ้ปากใส่โทรศัพท์ทันทีที่ลุงดำวางสาย แม่งมาหาว่าผมปากหมา ใช่ที่ไหนเล่า! ออกจะพูดเพราะหน้าตาดีเป็นศรีแก่ชาติ เรื่องประเทศ
ชาตินี่สำคัญนะ เพราะผมเป็นคนรักชีพยิ่งชาติ …. เอ้ย รักชาติยิ่งชีพ!
เลิกเรียนไอ้เอกกับไอ้นทีก็รีบกลับ เพราะนทีมันขับพอร์ชไอ้เอกมา เพื่อนผมคนนี้มันตลกมีรถแต่ขับไม่แข็ง ไอ้นทีที่ชอบรถหรูเลยได้เป็นสารถีตลอด ช่วงนี้ปลายปีไอ้เอกต้องไปประชุมสรุปผลกำไรสารพัดบริษัทที่มันถือหุ้น ส่วนไอ้หมูก็ไปช่วยพ่อตัดหญ้าต่อ พ่อเป็นคนสวนมหาลัยแต่พวกผมไม่เคยรังเกียจมันเลยเพราะมันนิสัยดี ล่ำลาเพื่อนๆเสร็จผมก็มานั่งจุมปุ๊กรอลุงดำมารับ
“ดีจ้าเบียร์”
“อ้าวกุ๊บกิ๊บ ยังไม่กลับหรอ นั่งด้วยกันสิ”
ผมยิ้มให้เพื่อนร่วมสาขา
“ยังอ่ะ รอแฟนมารับ ละเบียร์อ่ะไม่กลับหรอ”
“รอลุงมารับอ่ะ แหน่ะ เป็นเด็กเป็นเล็กหัดมีแฟน ฮ่าๆ”
“บ้า ไม่เด็กแล้ว แล้วก็ล้อเล่นจ้ารอพี่ชายอ่ะ ฮ่าๆ เอ้อกิ้บขอยืมเลคเชอร์มะกี๊จดหน่อยได้ปะ จดไม่ทันช่วงแรกๆอ่ะ เบียร์รีบป่าว”
“ได้เลย ลุงยังไม่มายังมีเวลา ลายมือเบียร์อ่านยากหน่อยนะ”
ผมเปิดกระเป๋าหยิบสมุดส่งให้กิ้บแต่กลับมีมือบางคนมาปัดมือกิ้บออก
“เอ๊ะ …”
“พี่เนม ทำอะไรครับ?”
ผมขึ้นเสียงเพราะไม่พอใจ มาปัดมือเพื่อนผมแบบนี้ได้ไง กิ้บนี่หน้างงเลยทีเดียว
“เบียร์ไม่ได้ชอบชะนี ไปอ่อยคนอื่นแทนได้มั้ย?”
พี่เนมมองกิ้บตาวาว
“พี่เนม นี่เพื่อนผม! แล้วผมกับพี่ก็ไม่ได้เป็นไรกัน ไปกันเหอะกิ้บ”
ผมดึงมือกิ้บเดินออกมา แต่พี่เนมก็กระชากแขนผมไว้
“เพื่อนกันแล้วจับมือกันทำไม!”
“โอ้ยพี่ พอเหอะ อะไรนักหนา ผมกับพี่ก็จบกันไปตั้งเจ็ดแปดเดือนแล้ว รำคาญ ! ผมจะไปกับใครก็เรื่องของผม”
ตั้งแต่ผมบอกเลิกพี่เนม พี่เนมก็ประกาศกร้าวว่าถ้าพี่แกไม่มีความสุขผมก็อย่าหวัง ทำไมนะเมื่อก่อนผมถึงดูไม่ออกว่าการที่พี่เนมยิ้มน้อยๆ พูดเพราะๆมันเป็นแค่ละคร!
“อ๋อนี่ยอมรับแล้วใช่มั้ย ว่ากับอีนี่น่ะกิ๊กกันอยู่”
“เอ่อ เบียร์ .. กิ้บว่ากิ้บไปก่อนดีกว่า…”
กิ้บดึงมือออกจากมือผม ผมก็หันไปขอโทษกิ้บที่ทำให้ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
“ขอโทษนะกิ้บ สมุดเบียร์เอาไปก่อนก็ได้ค่อยมาคืน”
กิ้บรีบพยักหน้าแล้วเดินออกไปแต่พี่เนมก็ยังไปจิกหัวกิ้บให้หันมา ผมรีบขยับเข้าไปแงะมือพี่เนมออก
“โอ้ย …”
“หนอย … แรดใช่มะ”
“พี่เนมปล่อยเพื่อนผม!”
“เฮ้ยทำไรน้องกูวะ!”
คนมาใหม่กระโดดถีบพี่เนมจนถลาล้มใส่ผม ทำให้ผมล้มลงไปเป็นเบาะรองให้คนข้างบนทันที ศอกพี่เนมกระแทกลิ้นปี่ผมจนจุกพูดไม่ออก สักพักฝ่าเท้าหนักๆก็กระแทกเข้ามาใส่ตัวผม
“อย่าพี่กั้ง … คนข้างล่างเพื่อนกิ้บ!”
“เพื่อนอะไรจิกหัวแกอยู่หะยัยกิ้บ”
“คนนี้ต่างหากที่ทำกิ้บ เบียร์ช่วยกิ้บอยู่เมื่อกี๊”
“อ๋อไอ้กะเทยนี่ใช่มั้ย เดี๋ยวเหอะมึงกูจะกระทืบให้หายตุ๊ดเลยคอยดู!”
“พี่กั้งพอแล้ว คนมองเยอะแล้ว เดี๋ยวมีปัญหาปล่อยเขาไปเถอะ กิ้บขอโทษนะเบียร์ เจอกันพรุ่งนี้นะ”
ผมลืมตามองภาพกิ้บลากพี่ชายตัวเองออกไป แต่ความจุกทำให้ผมยังนอนพะงาบอยู่ที่เดิม ข้างๆก็เป็นพี่เนมที่กำลังชันตัวลุกขึ้น
“เบียร์เป็นยังไงบ้าง …”
ผมปัดมือพี่เนมออก
“อย่า …ยุ่ง”
“เบียร์ !”
เสียงคุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับที่มือแกร่งดึงผมขึ้นมา … ลุงกร
“เกิดอะไรขึ้น ใครทำ”
“ผม …”
“เบียร์ช่วยผมไว้ครับ มีรุ่นพี่จะลวนลามผม น้องมาช่วยไว้”
ผมถลึงตาใส่คนที่แต่งเรื่องขึ้นมาได้สดๆร้อนๆ แต่ความจุกยังทำให้ผมพูดอะไรไม่ออก
“เราก็โดนหนักเหมือนกันนะ ไปทั้งสองคน ไปโรงพยาบาลกัน ทำแผลก่อน แล้วนี่เดินไหวมั้ยเบียร์”
ผมพยายามจะเปล่งเสียงพูดออกมา แต่มันคงไม่ทันใจคนแก่เพราะลุงแกจัดการช้อนตัวอุ้มผมเหมือนนางเอกละคร โดยมีตัวร้ายคนใหม่อย่างพี่เนมเดินตามมา ให้ตายเหอะ! นี่มันเรื่องอะไรวะเนี่ย!
- ---------------------------------------- -
อร้ายยย เนมเริ่มออกฤทธิ์