[Special] Truth or Dare #เกมท้ารัก :SpecialVIII:Playing With Fire [11.12.2018]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Special] Truth or Dare #เกมท้ารัก :SpecialVIII:Playing With Fire [11.12.2018]  (อ่าน 177038 ครั้ง)

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1

Truth or Dare
(Special)

Intro


มันมีเหตุผลที่ผมตั้งชื่อเพลงนั้นว่า ‘Butterfly’


คืนนั้น พิชญ์พูดถึงมันขึ้นมา


‘พี่รู้ไหม ผีเสื้อน่ะมีชีวิตได้ไม่เกิน 14 วันเท่านั้นหลังจากโตเต็มวัย’


คืนแรกที่ได้อยู่ลำพังเด็กน้อยในอ้อมกอดกระซิบถาม เสียงแหบพร่า ลมหายใจยังสั่นไหวร้อนจัดจากกิจกามที่เพิ่งพ้นผ่าน


ความบริสุทธิ์ถูกพราก แก้มขาวแดงปลั่ง ไม่ต่างจากผิวกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยจากการตักตวงรสรักอย่างหิวกระหาย


เมื่อถูกบังคับให้อยู่ในอ้อมกอดทั้งที่เปลือยเปล่า ร่างบอบบางจึงห่อเกร็ง มือไม้เกะกะหาที่วางไม่ได้จนถูกรวบไว้ จรดริมฝีปากลงปลายนิ้วปลอบประโลมให้ผ่อนคลาย


เพราะเป็นครั้งแรกจึงตระหนกลุกลน เด็กน้อยกะพริบตามองผม ก่อนเสซบลงไหล่ไม่กล้าสบตา ริมฝีปากบวมเจ่อยังเจื้อยแจ้วกลบความกระดากอาย สั่นประหม่ากับร่างกายที่แนบชิดลึกซึ้งกับคนอื่นครั้งแรกอย่างน่าเอ็นดู


ไม่เฉลียวใจเลยว่าเพิ่งสละร่างกายผุดผ่องแสนหวานให้ปีศาจ


ไม่เอะใจว่าหลังจากนี้จะมีแต่ความเจ็บปวด


‘สงสารมันเหรอ’ ผมถาม จูบซับรอยน้ำตาจากหางตาถึงแก้มใส


อ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยทำให้ใคร


‘เปล่า ผมนับถือมันต่างหาก’


ไม่เคยถนอม ไม่เคยอยากมีอ้อมกอดอุ่นเพื่อใคร


‘อายุสั้นขนาดนั้น แต่ก็ยังเลือกที่จะบิน’


‘…’ ตั้งใจล่อลวง แต่กลับเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำถลำลงไป


‘เปราะบาง แต่เลือกชีวิตอิสระ อวดปีกสวยจนกว่าตัวจะตาย’


ปีศาจไม่เคยรู้ว่าตัวเองมีหัวใจ กระทั่งผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนไหวถึงใจกลาง


ผีเสื้อตัวน้อยที่ยกยิ้มแสนซนหลังรวบรวมความกล้าแตะจูบลงบนริมฝีปากผม


‘เก่งเนอะ’


แรงปรารถนาถูกขับให้ลานลามอีกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยปล่อยให้ลุกลามเกินตั้งใจ


ทุกครั้งเพื่อเพียงผ่าน ปลดเปลื้องราคะไร้รู้สึกให้กันและกัน


‘คุณพิชญ์’ แต่กับคนนี้ กลับไม่อาจห้าม


‘หืม?’


‘อีกครั้ง ไหวไหม’


อยากรั้ง อยากหนี อยากครอบครอง อยากผลักไส


อยากปกป้อง อยากทำลาย


...เผาปีกสวยจนมอดไหม้


‘...ครับ’


ทั้งอยากปล่อยให้สยายบินอิสระในช่วงชีวิตอันแสนสั้น


ทั้งอยากพาจมลงก้นทะเล กอดถนอมไว้จนสิ้นอายุไขไปพร้อมกัน









----------------------------------------------

สวัสดีค่า หายหน้าไปนาน วันนี้เรามีข่าวมาแจ้งค่ะ
พอดีว่ากำลังจะทำหนังสือทำมือรวบรวมตอนพิเศษ #เกมท้ารัก ที่ไม่มีในเล่มหลัก
เป็นตอนสั้นๆ ที่เคยเขียนลงทวิตเตอร์ และตอนพิเศษที่เขียนขึ้นใหม่อีกเล็กน้อยค่ะ
กำหนด Pre-Order ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2561 นี้
ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะแจ้งอีกทีประมาณ 1-2 อาทิตย์ก่อนเปิดพรีนะคะ
ระหว่างนี้จะอัพเนื้อหาให้อ่านกันไปเรื่อยๆ เพื่อการตัดสินใจ
ถ้าใครยังคิดถึงกันอยู่ก็ฝาก #เกมท้ารัก ด้วยนะคะ


ปล. เผื่อมีใครงง ตอนนี้คืออดีตก่อนพี่เตจะทิ้งน้องไปค่ะ
เราอยากย้อนให้เห็นของพี่ที่ขัดแย้งในตัวเองและเจ็บปวด
แต่หลังจากนี้ไม่มีดราม่านะคะ มีแต่ความหวาน เกียมสำลักได้เลย 5555

ขอบคุณมากๆ ค่า
-Martian-

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth or Dare

(Special : I)

Moon’s Tear


 

อีกครั้งที่เห็นพี่เตร้องไห้ เราสองคนอยู่ที่บ้านใหญ่



เป็นวันเรียบเรื่อยอากาศแจ่มใส คุณพ่อพาผมเดินดูสวนอวดต้นไม้ที่พ่อผมบ่นว่าอยากได้



ระหว่างคุยเรื่อยเปื่อยผมรับรู้ได้ถึงสายตาที่มองลงมาจากชั้นสอง



พี่เตยืนอยู่ตรงนั้น ริมระเบียงห้องนอนของเขา จ้องผมนิ่ง ก่อนยิ้มบาง



เขากำลังเรียกผม...



ผมยิ้มตอบ ไม่รีรอเมื่อคุณพ่อมองเราแตะไหล่อนุญาตให้ผมขึ้นไปหา



ผมดีใจที่ระยะหลังพี่เตยิ้มมากขึ้น หัวเราะมากขึ้น ยอมให้ตัวเองมีความสุขอย่างไร้ข้อกังขา



แต่ผมกลับดีใจกว่าเมื่อเห็นน้ำตาของเขา



น้ำตาของพระจันทร์ที่ยังคงงดงาม แม้หม่นแสงเหลือเพียงเสี้ยว



เป็นสัญญาณที่ดีว่าความเจ็บปวดที่อัดแน่นอยู่ในใจถูกระบายออกมาบ้าง เป็นสัญญาณว่าเขายอมให้ตัวเองอ่อนแอ เปิดใจยอมรับการปลอบประโลมจากคนรอบข้าง



“สวัสดีครับ” ผมสวนทางกับคุณอาหมอที่ยิ้มทักทาย มองผมกับประตูห้องที่ปิดอยู่ก่อนเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ



“พยายามได้ดีมาก ทั้งสองคน”



เพราะรู้ดีว่ากว่าจะผ่านมาถึงจุดนี้ได้เราต่างสาหัส เพราะจมกับมันมานาน ความรู้สึกผิดคล้ายเพื่อนสนิทลึกซึ้งที่ยังหลอกหลอน ฉายซ้ำ



คุณอาหมอบอกว่าใต้ธารน้ำแข็งที่พี่เตอยู่นั้นหนาวเหน็บ และอ้างว้างเกินกว่าที่คนข้างบนจะเข้าใจ



สิ่งสำคัญคือการยอมรับ เคียงข้าง



ในที่สุดเราฉุดเขาขึ้นสู่ผิวน้ำ ให้หายใจได้อีกครั้ง 



“ขอบคุณนะครับ”



“ขอบคุณตัวเองเถอะ ถ้าไม่มีพิชญ์ช่วยทำให้เจ้าเตเปิดใจ อาคงช่วยอะไรไม่ได้”



ผมยิ้ม ยกมือไหว้ลา คุณอาหมอขอตัวลงไปหาคุณพ่อที่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน



ผมเปิดประตูห้องนอนเข้ามาพบว่าเขานั่งอยู่ปลายเตียง เหม่อนิ่งไปยังที่ที่ไกลแสนไกล ดวงตาคู่สวยเคลือบอาบหยาดน้ำใสที่ยังไม่แห้งเหือดดี



ถือวิสาสะเดินเข้าไปนั่งคร่อมตักเขาไม่ทันให้รู้ตัว พี่เตตื่นจากภวังค์ มองหน้าผมแล้วยิ้มจางๆ อีกครั้ง



ยกมือประคองสองแก้มบรรจงเกลี่ยคราบน้ำตาให้แผ่วเบา จดจำร่องรอยจางที่ไม่มีโอกาสได้เห็นมานาน



“ผมดีใจที่พี่ร้องไห้”



โดนดุอย่างไม่ต้องสงสัย...



ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นว่าน้ำตาของผมกำลังไหลเช่นกัน



"พี่ร้องไห้กับผมได้ รู้ใช่ไหม" ผมกระซิบบอกพลางกอดเขา กระชับแน่น อุ่นไอจากร่างกายแผ่ซ่าน หัวใจเต้นประสาน 



...เราจูบกัน



ยิ้มให้กัน หัวเราะและปาดน้ำตาให้กันอย่างคนโง่เง่าอยู่อย่างนั้น ซ้ำไปซ้ำมา







พายุผ่านพ้นแต่ยังมีเมฆฝนคั่งค้าง



พี่เตบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่จะปล่อยผ่านได้ ถ้าไม่สะสางคงไม่มีทางเดินไปข้างหน้าอย่างสบายใจ



เขาจึงตัดสินใจสารภาพกับครอบครัวผมว่าเคยทำร้าย เปิดรอยแผล เปลือยอดีตแสนเจ็บปวดที่เกือบก่อโศกนาฏกรรม



เราเคยเลือกที่จะปิดเป็นความลับเพราะมันเป็นเรื่องยากจะเข้าใจ ลำพังคนในวัยเดียวกันเผชิญโลกที่โหดร้ายใบเดียวกันยังยากจะจินตนาการถึงความทุกข์ที่สาหัสกว่าความตาย



นับประสาอะไรกับผู้ใหญ่ที่กรำแดดกรำฝนคนละแบบ เผชิญโลกที่แตกต่างกัน



ผมกลัวผลลัพธ์แต่เขาบอกว่าเราไม่อาจปิดมันไว้ตลอดกาล



อีกอย่างเขารู้ว่าพ่อกับคุณแม่ของผมเป็นคนหัวโบราณแต่ไม่ได้ใจแคบปิดรับความคิดที่ผิดแผกจากที่เคยเข้าใจ



"ขอโทษครับ" สิ้นคำบอกเล่า พี่เตนั่งคุกเข่าจำนนต่อความผิดที่เคยก่อไว้



พ่อผมไม่พูดอะไร แต่ผมมองออกว่าท่านเข้าใจ... ไม่ใช่พี่เตคนเดียวที่ทำผิดพลาด ก่อนหน้านี้พ่อเพิ่งเปิดใจขอโทษผมเรื่องวิธีที่เข้มงวดเกินไปจนบางครั้งกลายเป็นบ่วงรัดคอ ทำร้าย



เราต่างผิดพลาด



สิ่งที่ต้องทำคือยอมรับและแก้ไข



ส่วนคุณแม่



“แม่ไม่ได้ถนอมน้องพิชญ์มาเพื่อให้เธอทำร้าย” น้ำเสียงตำหนิ แววตารวดร้าวขึ้งขวางมองคนรักของผมอย่างตรงไปตรงมา



ผมไม่เคยเห็นคุณแม่โกรธขนาดนี้เลยสักครั้ง ด้วยเป็นห่วง ด้วยรัก แต่ถึงอย่างนั้นท่านยังมีเหตุผลมากพอที่จะทำความเข้าใจ



เมตตาพอที่จะให้อภัย



“แต่เตรู้แล้วใช่ไหมว่ามันไม่ใช่ทางออก” เรามีบ้านที่ใหญ่มากพอจะต้อนรับสมาชิกใหม่ โอบรับทั้งตัวตนและบาดแผลของเขาเอาไว้



“รู้แล้วใช่ไหมลูกว่าชีวิตตัวเองมีค่า ทั้งน้องพิชญ์ ทั้งพ่อกับแม่ ทุกคนอยู่ข้างเตนะ” มีอ้อมกอดที่อุ่นพอจะให้เขาซุกตัวลงมาได้



เป็นอีกครั้งที่ผมเห็นน้ำตาของดวงจันทร์



เป็นอีกครั้งที่เขาปลดเปลื้องความอดกลั้น ยอมให้ตัวเองอ่อนแอและร้องไห้



ไม่จำเป็นต้องละอาย



ไม่จำเป็นต้องหลั่งน้ำตาอย่างโดดเดี่ยว เงียบงัน



ไม่จำเป็นต้องซุกซ่อนร่องริ้วขรุขระไว้ใต้แสงนวลสว่างเช่นที่ผ่านมา






#เกมท้ารัก

-Martian-

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth or Dare

(Special : II)

Wake Him Up

 

ส่วนมากคนที่ตอบสนองต่อนาฬิกาปลุกเป็นคนแรกคือพี่เต ...แต่ไม่ใช่ทุกครั้ง



บางวันผมตื่นก่อนเขา ได้มีโอกาสจ้องใบหน้าหล่อเหลาใต้แดดอ่อนยามเช้า



นาฬิกาปลุกยังไม่ดัง และผมมีวิธีปลุกที่น่าสนใจกว่านั้น



ปลายจมูกคลอเคลียปลายจมูก

               

ริมฝีปากก่อกวนริมฝีปาก

               

ผละมองคนขี้เซาที่นิ่งสนิทก่อนจูบซ้ำ ลามเรื่อยมาถึงปลายคาง ไรหนวดจางๆ ชวนจั๊กจี้เมื่อไล้ริมฝีปากแผ่วเบา

               

หยอกเย้าบนใบหน้าสักพักจึงลากผ่านลำคอ กดจูบลูกกระเดือก ไหปลาร้า หัวไหล่เปลือยเปล่า แกล้งงับกล้ามแขนเบาๆ

               

ในที่สุดได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเมื่อริมฝีปากจรดลงตำแหน่งที่ผมโปรดปราน จุดเริ่มรอยแผลเป็นกลางแผ่นอกกว้าง

               

“ตื่นหรือยัง” เสียงหัวเราะทุ้มไม่ตอบคำถาม เปลือกตาบางเปิดสบตาผมคล้ายตำหนิก่อนปิดลงอีกครั้ง

               

ราวยินยอมให้กระทำตามใจ

               

ผมยิ้ม ก้มลงลากริมฝีปากสำรวจรอยแผลเก่าอีกครั้ง จูบต่อริมฝีปากจากหน้าอกถึงหน้าท้องสวยที่หดเกร็งก่อนผ่อนจนได้ยินเสียงลมหายใจหนัก

               

จังหวะหายใจสะดุดอีกครั้งเมื่อคมฟันกัดลงที่ขอบกางเกงพลางดึงมันลงต่ำ

               

ปลดปล่อยความแข็งขึงชูชันเป็นอิสระ

               

“ตื่นแล้ว” ตอบคำถามตัวเองเจือหัวเราะ



กอบประคองตัวตนคนรักไว้ในฝ่ามือ ค่อยๆ ลงน้ำหนักปลุกปั้นจนราคะคลั่ง ก่อนครอบริมฝีปากลงไป ดูดดุนลิ้นไล้เรื่อยจากส่วนปลาย เชื่องช้า ทีละน้อย กระทั่งกลืนกินทั้งหมดไว้ แทรกลึกถึงลำคอ

               

“คุณพิชญ์” เสียงแหบพร่าเรียกชื่อ



“เงยหน้าสิ” ออกคำสั่ง พลางเอื้อมมือบีบคางบังคับ มุมปากบางยกยิ้มพอใจเมื่อเห็นทุกการกระทำในสายตา

               

ฝ่ามือเลื่อนลูบกรอบหน้าแกล้งไล้วนกดแก้มที่อวบอูมด้วยรูปร่างแก่นกายที่คับแน่นอยู่ภายใน



เสียงครางต่ำสลับกับลมหายใจหนักขณะลูบไล้ใบหูหยอกเย้า เร่งให้ขยับด้วยจังหวะคุ้นเคยปลุกเร้า นิ้วเรียวเกลี่ยเส้นผมที่ยาวปรกสะเปะสะปะไม่ให้เกะกะใบหน้า จดจ้องทุกการขยับรูดรั้ง



“อืม...เด็กดี” นานพอจะทำให้ริมฝีปากชาเจ่อ น้ำตาเอ่อคลอจากความอึดอัดในโพรงปาก ความแข็งขึงแทรกเข้าออกทวีรุนแรงจนแทบคลั่ง



ตอบรับน้ำหนักที่ขยำเส้นผมในจังหวะสุดท้ายด้วยริมฝีปากที่กดลงจนสุดความยาวอีกครั้ง โอบรับทั้งหมดไว้ด้วยความร้อนฉ่ำชื้นในโพรงปาก



เติมชื้นฉ่ำด้วยทะเลกามที่ทะลักจนสำลักจึงคายตัวตนของเขาเป็นอิสระอีกครั้ง ปล่อยให้ฉีดพ่นละเลงลงใบหน้า ขณะไล้เลียรสราคะข้นขาวที่รดเปรอะขอบปาก



เมื่อสัตว์ร้ายสงบจึงเงยหน้าสบสีรัตติกาลอีกครั้ง ยิ้มพอใจเมื่อเห็นดวงตาคมตื่นเต็มตา



“อรุณสวัสดิ์ครับ”



“หึ...”



หลังจากนี้ นาฬิกาปลุกคงไม่จำเป็น









------------------------------------------------------

ถ้าไม่ซนคงไม่ใช่ยัยพิชญ์ 5555




#เกมท้ารัก

-Martian-

ออฟไลน์ megatef4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
หนูลูกกกกก ทำไมปลุกได้ถูกใจพี่จริงๆ เลย :jul1:
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ AeAng11

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 528
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หนูพิชญ์เดี๋ยวแม่ตีตายยยเลย
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
 :jul1: ดิฉันจมกองเลือกตายแล้วค่าาาา

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
อ่านแล้วได้แต่อุทานว่าหนูลูกกกกก มันน่าตีนัก  :hao7:

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ไม่รักนวลสงวนตัวเลยหนูพิชญ์ ขอบคุณคนเขียนมาก น่ารักสุดๆโดยเฉพาะความพยายามของพิชญ์ที่อดทนกับพ่อเตสุดเล่นตัว555 เรื่องอเมริกาที่ไม่ใช่อเมริกานี่สุดจริง ก็ว่าทำไมไปตปท.ถึงต้องเลิกสถานเดียว เรื่องนี้น่ารักมากขอบคุณนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth Or Dare

(Special)

Call Me Papa

 



นานๆ ทีจะมีเวลาออกมาในที่สาธารณะด้วยกันสักครั้ง เพราะต่างนั่งจมอยู่ในกองงาน พอมีเวลาว่างก็หมดไปกับการกกกอดนอนขี้เกียจอยู่ในห้องจนหมดวัน



เบื่อๆ ผมเลยชวนพี่เตออกมาเดินห้างบ้าง นึกครึ้มอยากมาดูเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นใหม่ของร้านประจำ แต่ไม่ได้รีบร้อนอะไร เลยเดินเอื่อยเฉื่อยดูโน่นนี่ทั้งที่ไม่มีอะไรที่สนใจจริงจัง พี่เตเดินอยู่ข้างๆ ผม โดดเด่นจนคนเหลียวหลังเหมือนเคย



ระหว่างเราไร้บทสนทนา มีสบตากันบางครั้งหรือสะกิดเรียกเวลาเจอของที่น่าจะเหมาะกับอีกฝ่าย แม้แต่ตอนที่เห็นร้านไอติม พี่เตก็หันมามองผม แล้วเดินนำไปซื้อให้อย่างรู้ใจ



“หวาน” บ่นไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้อยู่แล้ว แต่ก็ยังสั่งรสเดิมทุกครั้ง ขนาดที่พี่เตซื้อมาตุนไว้ให้ในตู้เย็นไม่เคยขาด เพราะรู้ว่าเป็นรสหวานที่ผมถูกใจ มักมองหาเวลาเครียดหรืออยากหาของหวานเติมห่างกาย



“เลอะ” คิ้วเข้มขมวดน้อยๆ ยกนิ้วขึ้นมาปาดคราบไอศกรีมออกจากริมฝีปากให้ ผมเลียซ้ำแล้วส่งยิ้มทะเล้นกลับทันเห็นสายตาอ้อยอิ่งที่จับจ้องริมฝีปากผมไม่วางตา



แววตาแบบที่รู้ว่าถ้าอยู่ที่ห้อง เขาคงดึงผมไปจูบแรงๆ สักที แต่นี่ที่สาธารณะร่างสูงจึงทำได้เพียงยกนิ้วที่เปรอะไอศกรีมจากกลีบปากผมขึ้นมาจรดปลายลิ้นเบาๆ



ผมหัวเราะ ดึงมือเขาออกเดินอีกครั้ง รับรู้ได้ว่าระยะระหว่างเราใกล้ขึ้น คล้ายมีออร่าหวานๆ จากไอศกรีมฟุ้งกระจายอยู่ในมวลอากาศ



กินไอติมจนหมดก็เป็นจังหวะที่เดินมาถึงร้านพอดี พนักงานที่คุ้นหน้าคุ้นตาเอ่ยทักทายอย่างสุภาพ เชิญผมกับพี่เตนั่งที่โซฟาพร้อมเสิร์ฟน้ำ แล้วหยิบคอลเล็กชั่นใหม่ออกมาให้ดู



ไม่ใช่แบรนด์ดังอะไร แต่เป็นแบรนด์ที่เห็นครั้งแรกก็ถูกใจ และหลังจากนั้นไม่ว่าคลอดอะไรออกมาผมก็ไม่พลาดเลยสักครั้งถึงไม่ได้มาเองก็จะให้จัดส่งไปที่บ้าน คราวนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง



ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดีขณะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อจ่ายเงินซื้อทั้งคอลเล็กชั่น แต่ไม่ทันอีกคนที่ยื่นแบล็คการ์ดตัดหน้าให้พนักงาน



“ดีอ่ะ มีแฟนนิสัยรวย” ผมหัวเราะเลิกคิ้วล้อเลียนไม่คิดดึงดันจะจ่ายเองตามตำรานางเอกขี้เกรงใจ



พี่เตเลิกคิ้ว ก่อนยกยิ้มมุมปาก “ไม่ได้ให้ฟรี”



ผมหัวเราะ รู้ดีว่าของตอบแทนที่เขาต้องการคืออะไร เลยยกยิ้มยั่วตีหน้าเดียงสากะพริบตาถี่ๆ พลางเกาะแขนแกร่งวางคางบนบ่าอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน



“แล้วจะตอบแทนอย่างดีเลยค่ะ”



หวังยียวนให้หมั่นไส้ แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้าน



จุ๊บ



“เฮ้ย!” เป็นผมเสียอีกที่ร้องเสียงหลง ผงะหนีเมื่อถูกฉกริมฝีปากต่อหน้าธารกำนัน



“หวาน” แถมยังแกล้งตีหน้ามึนเอ่ยรสชาติที่ติดอยู่ในปาก ไอหวานของไอศกรีมคล้ายจะตีอวลขึ้นมาอีกครั้ง



ผมมองตาขวางเพราะเห็นพนักงานอมยิ้มก่อนพากันหนีไปราวจะให้เวลาส่วนตัว แต่ไม่ทันได้ต่อว่าก็ถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะด้วยการยกมือเกลี่ยแก้มร้อนเบาๆ


คนเจ้าเล่ห์หัวเราะ สบตาด้วยสายตาที่ทำเอาผมชะงัก นิ้วโป้งปาดเช็ดริมฝีปากผมก่อนไล้เลียปลายนิ้วลิ้มรสตกค้าง มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ



“ป๊ะป๋าจะรอรางวัลจากหนูพิชญ์นะคะ”



ผมเบิกตากว้างก่อนระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น



ใครสอนคำพูดประหลาดๆ แบบนี้ให้เขาวะ



...ไอ้ป๊าแน่ๆ

 

               





“เฮ้ย กูไม่ได้สอน” พี่เจดปฏิเสธพัลวัน แต่แววตาเจือขบขัน



“มันเรียกมึงงั้นจริงดิ ขนลุกสัด ไปเอามาจากไหนวะ”

               

ท่าทางบ่งบอกว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ได้ฟัง ผมหรี่ตามองคาดคั้น “ถ้าไม่ใช่ป๊าแล้วจะใครอ่ะ”

               

ช่วงนี้พี่เตสนิทกับพวกกลุ่มปีสี่เพราะไปช่วยไอ้พี่เจดทำงาน ทั้งแก๊งค์เป็นพวกทะลึ่งตึงตัง ไม่ใครก็ใครคงสอนคำพูดประหลาดๆ ให้เขา

               

“เราเอง”

               

แต่คำตอบกลับใกล้ตัวกว่าที่คาด... ใกล้ขนาดที่กำลังนั่งตักผม ยอมให้โอบเอวแต๊ะอั๋ง

               

กระต่ายนุ่มนิ่มยกมือสารภาพพลางเอี้ยวตัวกลับมาสบตาใสซื่อ ส่วนผมเบิกตากว้างกับคำตอบเหนือจินตนาการ

               

เจไดเนี่ยนะ...

               

“เตวิชญ์บอกว่าอิจฉาเวลาพิชญ์เรียกเจดว่าป๊า เลยมาปรึกษาเรา”

               

ช่วงนี้ผมเห็นพี่เตคุยกับแฟนป๊าบ่อยๆ นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่านอกจากเรื่องดนตรีแล้วยังมีอะไรให้คุยกัน

               

วันนี้ความจริงกระจ่าง

               

“เราเลยบอกว่าป๊ะป๋าก็ความหมายเดียวกัน”

               

“เดี๋ยวๆ แล้วคำว่าหนูพิชญ์นี่เจสอนด้วยเหรอ” คราวนี้ไม่ใช่ผมที่สงสัย เป็นพี่เจดที่เบิกตากว้างยิ่งกว่า

               

“...”

               

“พี่เจครับ?”

               

แต่กลับไม่ได้คำตอบ เจไดกระโดดดึ๋งหนีจากตักผมเดินหนีไปหาพี่เตที่เตรียมอาหารเย็นอยู่ในครัว



สองคนกระซิบกระซาบ ก่อนหันกลับมาสบตาผมกับป๊าแล้วต่างหัวเราะอย่างเป็นปริศนา

               

“ป๊า แฟนป๊าร้ายอ่ะ”

             

 “เออ กูก็เพิ่งรู้เหมือนกัน” 

               

วันหลัง จะไม่ปล่อยให้สองคนนี้ปรึกษาเรื่องแปลกๆ กันตามลำพังเด็ดขาดเลยครับ










----------------------------------------------------

ตอนนี้เคยเอาลงทวิตเตอร์มาก่อนค่ะ ใครตามอยู่อาจจะคุ้นๆ บ้าง

แต่ปรับนิดหน่อย+เพิ่มตอนท้าย พาป๊าเจดกับเจไดจาก #หมีแต่รัก มาร่วมแจมให้พอน่ารักๆ

หวังว่าจะชอบกันนะคะ



ฝาก #เกมท้ารัก ด้วยน้า

ขอบคุณมากค่า

-Martian-

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-11-2018 00:46:16 โดย makok_num »

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แงงงงงงง อยากให้น้องพิชญ์ไปเรียกป๊ป๋าเตบนเตียงในชุดนอนไม่ได้นอนค่ะ แค่ก

ออฟไลน์ ดาวลูกไก่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
แงงง ทำไมน่ารัก พี่เตคนดุคุยอะไรงุ้งงิ้งกับกระต่าย หนูเจก็น่ารัก ยอมให้เค้าแต๊ะอั๋งด้วยย ว่าแต่คุณคนเขียนสนใจมีตอนพิเศษของป๊ากับกระต่ายมั้ยคะ คิดถึงสองคนนี้เหมือนกัน

ออฟไลน์ fullfinale

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
น่ารักจัง กุ๊งๆกิ๊ง กัน

คิดถึงพี่เต น้องพิชญ์ มากกกกกก :o8:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
พี่เตแดดดี้มากๆๆๆๆๆๆๆ   :hao6:

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth Or Dare

(Special)

La La Ring

 

วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าเพราะพี่เตทำงานจนเกือบเช้า ผมไม่ได้ปลุกเขา เพียงกดจูบหนักๆ ทักทายแล้วผละออกเพื่อเข้าไปจัดการธุระส่วนตัว เตรียมออกไปใช้ชีวิตตามหน้าที่



อาบน้ำเสร็จพี่เตก็ตื่นพอดี



ถ้ารีบร้อนเราคงเร่งสลับกัน พี่เตเข้าไปอาบน้ำบ้าง ปล่อยให้ผมแต่งตัว



ทว่าเจ้าของใบหน้างัวเงียกลับยังนั่งจ้องผมนิ่ง หยดน้ำที่เกาะบนร่างเปลือยเปล่าไม่ได้ทำให้ความร้อนจากสายตาคู่นั้นเจือจาง เรียกให้เงยหน้าสบตากลับบนเงาสะท้อนบานกระจก ตั้งคำถาม



"ไม่ค่อยเห็นเวลาผิวเกลี้ยงแบบนี้" มุมปากบางยกยิ้ม ผมเลิกคิ้ว หัวเราะขัน



“หมายความว่าไง”



เพราะไร้แวววาวเครื่องประดับ หรือหมดจดไร้ร่องรอยรักสีกุหลาบ



เมื่อคืนต่างคนต่างเพลียจนหลับ เพียงกกกอดส่งไออุ่น เว้นว่างจากกิจกาม พี่เตหัวเราะ คงเดาออกว่าผมกำลังนึกถามพิเรนทร์ในใจ



“ไม่เคยเห็นถอดพวกนั้น” เพยิดหน้าไปทางกล่องกำมะหยี่ที่วางเรียงไว้บนโต๊ะข้างกาย



"พี่ไม่สังเกตมากกว่า" ใช่ว่าไม่เคยเปล่าเปลือยไร้เครื่องประดับ ผมถอดเสมอเวลาอาบน้ำ



...ทว่าเวลาอาบน้ำด้วยกัน เขาคงไม่มีเวลาได้สังเกต



"ชอบแบบไหนมากกว่า" พี่เตไม่เคยว่าเรื่องที่ผมเจาะตามร่างกาย แต่ผมก็ไม่เคยถามว่าเขารู้สึกยังไง



ดวงตาคมมองผมหัวจรดเท้า เรือนร่างไร้เครื่องประดับกลับแวววาวในสีรัตติกาลพราวระยับ



"ชอบทั้งหมด"



ราวกับร่างกายกำลังถูกหลอมด้วยดวงตาลึกล้ำคู่นั้น...



"โลภจัง" ผมแสร้งหัวเราะ กลบความประหม่า



แต่แล้วกลับนึกสนุก สบดวงตาที่ยังจ้องตรงมาผ่านกระจกอีกครั้ง



"ถ้าให้เลือกที่เดียว พี่อยากเจาะให้ผมตรงไหน?"



"หืม?" เขาเลิกคิ้ว ด้วยรูปประโยคประหลาด



ไม่ใช่ให้เจาะ แต่เจาะให้



รอยยิ้มมุมปากร้ายเรียกให้หมุนตัว โยนกล่องเครื่องประดับลงบนเตียง คลานเข่าตามคร่อมร่างทั้งที่ยังเปลือยเปล่า



"เตวิชญ์"



"..."



"ท้าหรือจริง?”




-----------------------------------------------

พี่เตจะให้น้องเจาะตรงไหนเพิ่มน้อ...

เป็นความลับค่ะ 55555







[แจ้งข่าว Pre-Order]


แอบมาเคาะกำหนดพรีออเดอร์เล่มพิเศษล่วงหน้าค่ะจะได้เตรียมตัวเตรียมไตกัน ><

Special Truth Or Dare #เกมท้ารัก จะเริ่มเปิดพรีออเดอร์วันที่ 8/12/561 - 8/01/2562 นี้ค่ะ

หนังสือจำนวน 120+ หน้า

ราคา 280 บาท รวมค่าจัดส่งลงทะเบียนค่ะ


ลิ้งก์สำหรับจองจะนำมาโพสต์ให้ในวันเปิดพรี พร้อมกับตัวอย่างอีก 1 ตอนนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูน้องพิชญ์กับพี่เตมากๆ น้า



ปล. แจ้งอีกทีว่าเล่มที่กำลังจะเปิดจองไม่ใช่เล่มหลักนะคะ เป็นตอนพิเศษที่เขียนเสริมขึ้นมา ส่วนเล่มหลักสามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือเว็บไซต์ของ EverY ค่ะ



ขอบคุณมากๆ ค่า

-Martian-


ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องพิชญ์ก็ไม่น่าถามอะ พี่เตจะเจาะตรงไหนได้

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ใช่ที่คิดไว้ไหมน๊า...หืดหาด..ดดดดด   :z1: :z1: :z1:

ออฟไลน์ Psycho

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 388
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ชอบสีเทาๆ

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth Or Dare

(Special)

We’re both Sick

 



ผมเคยกังวลกับจิตใจแหลกสลายเรื้อรัง อยากวิ่งหนี อยากจากไป หนทางเดียวที่จะไม่ต้องทำให้คนที่รักมาลำบากกับอาการป่วยไข้



พิชญ์กลับหัวเราะบอกว่าผมขี้ขลาด การหนีโดยไม่พึ่งพากันต่างหากที่ทำร้ายคนที่รัก



‘มีใครบ้างที่ไม่เคยป่วยไข้’



‘…’



‘ถึงเวลานั้น ผมอยากมีพี่อยู่ข้างๆ



อดีตจวบจนปัจจุบัน



กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง… ผมก็ไม่มีทางเอาชนะเด็กคนนี้ได้เลย

 



“พิชญ์” ในวันที่พยากรณ์อากาศรายงงานการมาเยือนของฤดูหนาว ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเมื่อรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของคนในอ้อมกอดที่ผิดปกติ



“ตัวร้อน”



เอื้อมมือไปเปิดไฟพลางแตะริมฝีปากกับขมับชื้นเหงื่อ คนถูกปลุกส่งเสียงงัวเงีย พลิกตัวกลับมาซุกใบหน้าในอ้อมกอด ไถจมูกกับอกผมไปมา



“ปวดหัว” เสียงออดอ้อนแหบพร่าอย่างน่าเป็นห่วง ผมถอนใจยกมือสางผมนุ่มเบาๆ พลางจูบหน้าผากใสซ้ำๆ



“พี่ไปเอายามาให้”



หลายวันก่อนหน้านี้พิชญ์โหมงานหนัก พักผ่อนน้อย แถมอากาศเปลี่ยนจึงไม่แปลกที่ร่างกายน้องจะรับไม่ไหว



ผมเอายามาให้ พร้อมกับผ้าชุบน้ำเช็ดตัว คนป่วยเป็นผักเหี่ยวจับพลิกไปทางไหนก็ไหลตาม จนผมหยิบเสื้อมาให้ใส่ปกปิดท่อนบนที่เปลือยเปล่าเพราะเจ้าตัวขี้ร้อน ขี้รำคาญ จึงมักจะใส่เพียงกางเกงวอร์มตัวเดียวห่อคลุมร่างยามหลับ



“ไม่เอาอ่ะ” พิชญ์ส่ายหน้า ยังอยู่ในท่าชันเข่าซุกใบหน้าครึ่งหนึ่งลงไป สียังหน้างัวเงียเสียงอู้อี้จากพิษไข้



“ต้องใส่ อากาศหนาว” ผมดุ หยิบเสื้อสเวตเตอร์ที่พับไว้คลี่ออก กำลังจะบังคับใส่



“กอดพี่ก็ได้” แต่เหตุผลนั้นทำเอาชะงักไป



“หืม ไม่กลัวพี่ติดไข้หรือไง” หลุดหัวเราะ เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่ไม่สบาย พิชญ์จะไล่ผมไปนอนนอกห้องให้ได้เพราะไม่อยากให้ติดหวัดไปตามกัน



คราวนี้กลับงอแงให้กอดซะอย่างนั้น



“หนาวๆ” คนเอาแต่ใจเงียบไปสักพัก ก่อนแกล้งงอแงเฉไฉ แต่สองมือกลับยื่นออกมาออดอ้อนให้เดินเข้าไปกอด



ผมยอมวางเสื้อแล้วสวมกอดร่างบางที่ยังอุ่นจัดจากพิษไข้ ดึงตัวน้องลงมานอนอีกครั้ง เกยก่ายอยู่บนร่าง ราวจะให้การแนบชิดถ่ายเทอุณหภูมิร่างกายมาไว้ที่ผมบ้าง



จูบซับหน้าผากและขมับซ้ำๆ ในความมืดและเงียบงัน กระทั่งพิชญ์หลับไป



ผมเห็นด้วยกับน้อง บางทีการกกกอดด้วยร่างกายเปล่าเปลือยแบบนี้ อาจอุ่นกว่าใส่เสื้อกันหนาวเป็นไหนๆ

   



รุ่งขึ้น ความดื้อดึงกลับกลายเป็นว่าง่าย



นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พิชญ์ไม่สบาย แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ยอมนอนติดเตียง แถมใบหน้าขาวซีดเซียว แทบไม่คุยกับผมทั้งที่ปกติคงงอแงบ้างเวลาถูกบังคับให้กินยา ดื้อจะลุกมาทำงาน หรือไม่อยากอาหาร



เด็กรั้นดูซึมหม่นจนผมหวั่นใจ



[ เขากำลังหงุดหงิดน่ะ ] แต่ดูเหมือนท่าทางแบบนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก



คุณแม่หัวเราะเบาๆ ระคนอ่อนใจเมื่อผมเล่าอาการให้ฟัง



[ น้องพิชญ์ไม่ชอบเวลาที่ตัวเองป่วย เขาบอกว่าร่างกายมันงี่เง่าไม่ได้ดั่งใจ ถ้านิ่งแบบนี้แสดงว่ากำลังพยายามเก็บอาการไว้ ]



ผมขมวดคิ้ว “แล้วผมทำอะไรได้บ้างไหมครับ”



ตั้งแต่เช้าผมป้อนข้าวป้อนยาเช็ดตัวให้จนไข้ลดแต่น้องก็ไม่มีทีท่าว่าจะร่าเริงขึ้น จนปัญญาถึงขั้นต้องโทรไปปรึกษาคุณแม่น้องเผื่อว่าจะมีคำแนะนำ



เพิ่งรู้ตัวว่านี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเองหันหน้าหวังพึ่งคนอื่นบ้าง ตอนที่แม่ป่วย ผมดึงดัน คิดหาหนทางผิดๆ จนพาเราทั้งคู่ไปถึงทางตัน...



[ ถ้าไข้ลดแล้วก็ไม่มีปัญหาจ้ะ เดี๋ยวหายป่วยเขาก็กลับมาดื้อเหมือนเดิม ]



ทีแรกผมลังเลเพราะกลัวว่าจะรบกวน และทำให้เป็นห่วง เดือดร้อน แต่น้ำเสียงท่านยังคงใจดี วางใจให้ผมดูแลน้องอย่างใจเย็น



“ครับ” ผมรับคำ แต่เหมือนคุณแม่จะดูออกว่าผมยังไม่หายกังวลใจ ท่านหัวเราะ แล้วบอกเคล็ดลับให้



[ แต่ถ้าเตอยากน้องพิชญ์ให้ร่าเริงไวๆ... ]



ผมตั้งใจฟัง สายตายังมองไปที่คนป่วยที่เอาแต่นอนซึมอยู่บนเตียงอย่างน่าสงสาร คิดว่าดีแล้วที่ผมโทรไปปรึกษา เพราะคุณแม่ของพิชญ์รู้เกี่ยวกับน้องแทบทุกอย่าง



มันทำให้ผมเข้าใจว่าแบบนี้เอง ที่เรียกว่าครอบครัว

 



ต้มยำร้อนๆ ถูกยกมาวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียง ผมนั่งลงข้างคนที่หลับอยู่ก่อนค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปแทนที่หมอนใบโตอย่างเงียบเชียบ



“อือ... คุณแม่เหรอ” พอเริ่มลูบหัวน้องเบาๆ คนป่วยก็ส่งเสียงพึมพำพลางโอบแขนรอบเอวผมก่อนจะลืมตา “พี่เต?”



ผมยิ้มตอบสีหน้าประหลาดใจ ฝ่ามือยังคงลูบผมน้องอยู่อย่างนั้นตามคำแนะนำ



ก่อนวางสายคุณแม่ทิ้งสูตรต้มยำที่น้องชอบอ้อนให้ทำให้กินเวลาป่วยเอาไว้พร้อมบอกว่าพิชญ์ชอบนอนหนุนตัก ชอบให้ลูบหัวเอาใจจนกว่าจะหลับ



“คุณแม่บอกมาใช่ไหม” พอได้กลิ่นต้มยำแทนที่จะเป็นข้าวต้มจืดๆ เหมือนตอนเช้าคนป่วยเลยจับได้ ใบหน้าเซื่องซึมเบะปากทำท่างอแงใส่



“แล้วได้ผลหรือเปล่า” ผมแกล้งเลิกคิ้ว สางผมยาวๆ เล่นขณะที่พิชญ์ซุกหน้ากับหน้าท้องผมส่ายหัวปฏิเสธ



“ขี้โกงว่ะ” หัวเราะกับเสียงบ่นพึมพำ ก่อนดึงเจ้าของใบหน้ารั้นขึ้นมานั่งคร่อมตัก บังคับให้เผชิญหน้ากัน



“คุณพิชญ์” เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังที่จะทำให้น้องจะตั้งใจฟัง



“งี่เง่ากับพี่ได้ รู้ใช่ไหม” เมื่อได้ยินคำพูดตัวเองย้อนกลับ แววตาสีน้ำตาลอ่อนจึงวูบไหว



น้องเคยพูดแบบนี้ในวันที่ผมร้องไห้ ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นขอร้องให้พึ่งพิงเคียงข้าง



“จะงอแง เอาแต่ใจยังไงก็ได้ แต่อย่าซึมแบบนี้ พี่เป็นห่วงนะครับ รู้ไหม”



ยิ่งได้ยินน้ำเสียงออดอ้อนที่ไม่ได้ฟังบ่อยนักกำแพงที่พยายามสร้างก็พังทลาย จากที่ปั้นท่าเข้มแข็งมาได้ตลอดวันก็ยอมแสดงความอ่อนไหว



“อือ” ซุกใบหน้าที่คล้ายจะร้องไห้กับไหล่ผม พลางบ่นระบายความอึดอัดในใจ



“พิชญ์ปวดหัวจะแย่แล้ว ปวดหัวๆๆๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว หงุดหงิดๆ เมื่อไหร่จะหายยย” เสียงสะอื้นเคล้าเสียงบ่นงุ่นง่านนานหลายนาที



เด็กรั้นยิ่งโวยวายหงุดหงิดเมื่อได้ยินผมปลอบไปขำไป

 





พอพิชญ์ร่าเริงขึ้นผมเลยโทรไปรายงานคุณแม่อีกครั้งเพื่อให้ท่านสบายใจ



สองสามวันต่อมาไข้ก็หาย แต่ผมก็ยังให้น้องกินยาต่อ ยังทำอาหารแก้หวัดกันเอาไว้



“พี่เต” ข้าวต้มร้อนๆ ถูกตักพักไว้ในถ้วยพอดีกับที่เอวของผมถูกรวบจากด้านหลัง เสียงเรียกออดอ้อนพร้อมกับริมฝีปากร้อนจูบหลังคอผมซ้ำๆ



“จะเอาอะไร หือ?” เลิกคิ้วถามพลางเอี้ยวตัวกลับไปสบตาคนที่ทำท่างอแงใส่แต่เช้า



“ผมไม่สบาย” ว่าพลางผละอ้อมกอด ถอยหลังกลับไปกระโดดขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์แววตารั้นร้าย



“ปวดหัว?” ผมยิ้ม รับรู้ถึงความเจ้าเล่ห์ของเด็กเอาแต่ใจ



“ไม่รู้ว่าเป็นอะไร” พิชญ์ส่ายหน้า ยกแขนโอบรอบคอเมื่อผมขยับเข้าไปใกล้ ยกขาเกี่ยวเอวผมไว้ในท่วงท่าอันตราย



ผมหัวเราะ ปล่อยให้คนอ้างว่าป่วยโน้มคอลงไปใกล้จนสัมผัสถึงลมหายใจ



สบตาซุกซน ก่อนจะยกยิ้มแล้วเลื่อนริมฝีปากกระซิบข้างหูแผ่วเบา



“ข้างในมันร้อนไปหมด...” 



“...”



“คุณหมอฉีดยาให้พิชญ์หน่อยได้ไหม”








----------------------------

เดิมทีจะอัพตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายค่ะ แต่ขออีกตอนดีกว่า 5555

ใจจริงอยากจะอัพให้อ่านทุกตอนเลยล่ะ แต่มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับคนที่จะซื้อหนังสือสินะคะ ;-;

เจอกันอีกทีวันเปิดพรีน้า ><



ฝาก #เกมท้ารัก ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยัยพิชญ์น่าตีขึ้นทุกวัน ไม้เรียวในมือแม่สั่นไปหมด หนูยั่วมากลูกกกก

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
นุ้งพิชญ์น่ารักอ่ะ    :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth Or Dare

(Specail)

Intern (1.1)


           

ปิดเทอมฤดูร้อนตอนปีสี่ คือช่วงเวลาของการก้าวเข้าสู่ชีวิตจริงไปอีกขั้น

           

สุดท้ายผมเลือกฝึกงานที่บริษัทพ่อพี่เตอย่างที่ท่านเคยคะยั้นคะยอ

           

แต่เพียงบริษัทในเครือที่แยกออกมาเพื่อดูแลโครงการขนาดเล็ก สาเหตุหนึ่งคือสไตล์งานที่ผมชอบ แต่อีกสาเหตุเพราะผมแพ้เดิมพันคุณลูกชายผู้บริหารที่ตีหน้ามึนลงโทษกันด้วยการบังคับผมส่งพอร์ตงานมาที่บริษัท

               

แน่นอนว่าผมได้ที่ฝึกงาน ถึงจะไม่ใช่เพราะพี่เต แต่ผมยังให้เขารักษาความสัมพันธ์ของเราไว้เป็นความลับเพราะไม่อยากวุ่นวาย

               

ชีวิตเด็กฝึกงานไม่ได้ยากแต่ก็ไม่ได้สนุกอย่างที่หวัง

               

ระยะแรกผมอึดอัดที่แทบไม่ได้หยิบจับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน งานหลักคือชงกาแฟกับออกไปซื้อข้าวให้พี่ๆ ในทีมไปวันๆ แต่พอเข้าอาทิตย์ที่สองอะไรๆ เริ่มเข้าที่เข้าทาง เริ่มมีงานเขียนแบบ Perspective กับงานเรนเดอร์ให้ทำ พี่เติ้งที่เป็นพี่เลี้ยงผมใจดีมาก ยอมให้ผมลองทำงานหลายๆ แบบพร้อมกับสอนในสิ่งที่ไม่รู้ทุกเรื่องจนเราสนิทกัน



ผมพยายามของานพร้อมกับแสดงความสามารถที่มีออกมา ไม่เข้าใจก็ถาม เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่ดูเหมือนจะมีเรื่องหนึ่งที่ลำบาก

               

"คุณพิชญ์ เสื้อคอกว้างนะ" ผมยืดตัวเต็มความสูงจากที่ก้มตัวลงยันโต๊ะเพราะกำลังคุยกับรุ่นพี่ เลิกคิ้วมองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยสูทเต็มยศแถมมีเลขาเดินตาม ท่าทางคงไปคุยกับพวกผู้ใหญ่มา เพราะอาการบูดบึ้งออกหน้าออกตา

               

“ขอโทษครับ” ผมพยายามกลั้นยิ้ม ปัดคอเสื้อยืดที่ย้วยลงมาเกือบถึงอกไปด้านหลัง ปกติเวลาทำงานทุกคนจะแต่งตัวสบายๆ แค่มีแจ็กเกต หรือเสื้อคอปกเตรียมไว้สวมเวลารับลูกค้าหรือมีประชุมสำคัญ

               

แต่คุณลูกชายผู้บริหารกลับยังงุ่นง่าน เหลือบตามองพี่เติ้งสลับกับผม



"อย่าคุยในเวลางาน ไม่เข้าใจมาถามผม"



หึงชัดๆ 



“ครับ” ผมแกล้งรับคำนอบน้อม ดึงแปลนกลับมาที่โต๊ะ เพราะได้ข้อมูลที่อยากรู้ครบตั้งนานแล้ว



อันที่จริงพี่เตคงมองออกว่าผมกำลังคุยเล่นในเวลางาน ถึงได้ดุ แต่โดยปกติออฟฟิศไม่ได้เคร่งขนาดไม่ให้พักระหว่างงาน ส่วนใหญ่ถ้างานไม่เร่งจริงๆ ก็ยืดหยุ่นตามสบาย โดยเฉพาะกับเด็กฝึกงานแทบไม่จำเป็นต้องโดนจับตามอง



คงมีแต่ผมนี่แหละที่โดนดุเป็นประจำ



“ไม่เป็นไร...”



"คุณพิชญ์ มาที่ห้อง" พี่เติ้งถึงกับชะงักกลางประโยค เมื่อพี่เตหันหลังกลับมาทั้งที่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว พี่เลี้ยงเบิกตาค้างท่าทางตกใจที่ผมถูกเรียกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแบบนั้น



ในขณะที่ผมได้แต่รับคำ ลุกขึ้นเดินตามร่างสูงไป



ถอนใจเจือขบขันกับเรื่องที่เจอเป็นประจำ

 









"เตวิชญ์พี่จะเรียกผมทุกวันแบบนี้ไม่ได้" สรรพนามเปลี่ยนทันทีที่อยู่ลำพัง



ต้องขอบคุณอภิสิทธิ์ของคุณลูกชายผู้บริหารที่มีห้องส่วนตัวปิดม่านมิดชิดแถมไม่มีใครกล้าโผงผางเข้ามารบกวนเพียงแค่เอ่ยปากบอกเลขาว่าไม่ว่าง



ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจหลบสายตาภายนอกจากการกระทำอุกอาจ ลืมสถานะเจ้านายลูกน้องจากตำแหน่งนั่งของผมที่พิงสะโพกกับโต๊ะยืนระหว่างขาของคนที่นั่งบนเก้าอี้ต่ำกว่า



"อืม" แขนแกร่งโอบแผ่นหลังดึงร่างชิดกันมือซุกซนที่ไล้ไปทั่วในสาบเสื้อ ใบหน้าซุกอยู่กับซอกคอ สูดกลิ่นสลับจูบซ้ำไปซ้ำมาราวกระหาย



"คนอื่นเขาคิดว่าพี่รังแกผม" ผมว่า ใช้นิ้วชี้ดึงปมเนคไทของเขาลงมาพร้อมปลดกระดุมสองเม็ดบนให้คลายความอึดอัด



พี่เนมเคยสารภาพว่าเคยกังขาว่าผมเป็นเด็กเส้น เพราะเรียนสถาบันเดียวกับพี่เต แต่พอเห็นท่าทางเข้มงวด กับออร่าขึ้งขวางที่มักแผ่ออกมาเวลาเห็นผมอยู่กับพวกพี่ๆ เป็นประจำก็เริ่มเอนเอียง คล้ายจะเป็นโจทก์เก่ากันมากกว่า



"ก็จริงไหม" ร่างถูกดึงลงไปนั่งตัก มือและปากซุกซนยังคงรุ่มร่าม



"ไม่ใช่แบบนี้...อะ!" หลุดสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ นิ้วเรียวยาวเกี่ยวรั้งสายโซ่ที่ซุกซ่อนในสาบเสื้อ



รั้งเกี่ยวห่วงเงินบนยอดอกสองข้างที่ถูกเชื่อมไว้ด้วยกัน



"วันหลังอย่าใส่เสื้อขาว มันเห็นนี่ชัดเกินไป" นิ้วเรียวร้ายยังแกล้งไล้เส้นสายจากซ้ายไปขวา



เพียงบางเบาแต่กลับทวีรสสัมผัสซ่านจนหลุดครางน้ำตาคลอ



"ระ รู้แล้ว อย่าจับสิ!" ผมดึงมือพี่เตออก ผุดหนีจากความแนบชิดระยะอันตราย



ถ้ารู้ว่าจะกลายเป็นจุดอ่อนแบบนี้วันหลังคงต้องปลดสายก่อนออกจากบ้าน



"ร้อนไหม พี่รวบผมให้" คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มขบขันลุกขึ้นตาม นิ้วเรียวเกี่ยวเส้นผมทัดหูก่อนเลื้อยมาถึงหลังคอ 



ผมสบสีรัตติกาลที่พราวระยับด้วยเลศนัยอย่างรู้ทัน



"ไม่ต้องมาแผนสูง ผมรู้พี่ทำรอยไว้"



พี่เตหัวเราะเมื่อถูกจับได้ทั้งที่ริมฝีปากไวเท่าลมหายใจ



เพียงชั่วครู่ขณะเบี่ยงเบนความรู้สึกผมไปที่ยอดอกที่ถูกรั้ง กลีบกุหลาบถูกฝังลงที่หลังคอผม



ผลิบาน ประกาศชัดจับจองผิวกาย   

 







Intern (1.2)

 

           

"เติ้ง น้องที่เพิ่งมาฝึกงานชื่ออะไรนะ ที่ผมยาวๆ"



"อ่อ น้องพิชญ์ น่ารัก เฟรนด์ลี่สัด"



“เออ โคตรน่ารัก ตอนเจอครั้งแรกกูนี่ใจสั่น”



“มึงชอบแบบนี้เหรอ?”



“มึงไม่ชอบ?”



“เปล่า น้องมันก็น่ารัก”



“แล้วหน้าบึ้งเพื่อ”



“...”



"เห็นว่ามาจากที่เดียวกับลูกชายบอส เด็กเส้นป่ะวะ"



"กูว่าไม่เส้นนะ น้องโดนดุตลอด คุณเตโคตรโหด"



“ดุเรื่องไร”



“คุณเขาบอกว่าน้องแต่งตัวไม่เรียบร้อย ชอบคุยในเวลางาน แต่กูก็ว่าปกตินะ มึงกับกูยังแต่งสถุลกว่าอีก ส่วนเรื่องที่คุยส่วนใหญ่ก็เรื่องงาน น้องมันไม่รู้ก็มาถาม แค่นั้น”



“แล้วมึงได้บอกคุณเตป่ะ”



“มึงกล้าบอกป่ะล่ะ”



“แต่มึงเป็นพี่เลี้ยงอ้ะ”



“ไม่เอาว่ะ กลัวหัวขาด”



“โห ขนาดนั้น กูเคยได้ยินว่าโหด แต่ไม่คิดว่าจะเคร่งแม้แต่กับเด็กฝึกงาน”



"เออโหดสัด เรียกเข้าห้องแต่ละทีน้องแม่งเดินเหงื่อแตกน้ำตาคลอออกมา กูล่ะสงสาร”








---------------------------------------------

ใครบอกจะอัพอีกตอนเดียว 5555 เอาเป็นว่าจะอัพเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจเนอะ ;-;

อยากเอาตอนนี้มาลงเพราะเผื่อใครไม่เคยอ่านในทวิตอาจจะยังไม่รู้จักพี่เติ้งกับพี่เนมที่เป็นพี่เลี้ยงฝึกงานให้น้องพิชญ์ค่ะ

เป็นตัวประกอบที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้พอน่ารักๆ

แต่ไม่มีเรื่องของตัวเองนะคะ พามาป่วนเท่านี้แหละ 5555



ปล. วันนี้เพิ่งได้ข่าวดีจากบก. ว่าเรื่อง #หมีแต่รัก (คู่ป๊าเจด กับเจได) ซึ่งเป็นภาคแยกจากเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาแล้วนะคะ ดีใจมากเลย แล้วก็คิดได้ว่าช่างเป็นเซตที่อารมณ์ต่างกันสุดขั้วมาก เรื่องหนึ่งหม่นเทาส่วนอีกเรื่องมุ้งมิ้งชมพูพาสเทลมาเลย 55555

ยังไงก็ฝากทั้ง #เกมท้ารัก ทั้ง #หมีแต่รัก เลยนะคะ



ขอบคุณมากๆ ค่า

-Martian-

ออฟไลน์ megatef4

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
พี่เตคะ นั่นเด็กฝึกงานนะ เล่นบทเจ้านายลูกน้องสินะ  กร๊าวใจจจ  :hao7:
ขอบคุณค่าาา

ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจาะหน่มน๊มเพิ่มอีกข้าง หนูจะยั่วขนาดนี้ไม่ได้นะลูก

ออฟไลน์ มนุษย์บิน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 407
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
จะกร้าวใจไปล้าวววว

ออฟไลน์ Josett

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่เตดุไปอะะ ใจสั่นเลยยย :katai1:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1

ออฟไลน์ makok_num

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Truth Or Dare

(Special)

Because Of Rain





ข้างนอกฝนตกไม่หยุด อากาศเย็นๆ เหมาะกับเครื่องดื่มอุ่นๆ ผมเลยสลัดความเกียจคร้านลุกขึ้นมาชงกาแฟ



ฟ้ามืดแล้ว แต่เพราะยังมีงานฟรีแลนซ์ที่รับไว้เพื่อไม่ให้ช่วงปิดเทอมว่างเกินไป ไม่ได้เร่งรีบถึงทำไปพักไปตามอารมณ์ได้ 



หยิบแก้วเอสเพสโซ่ร้อนออกมายืนข้างหน้าต่างบานสูงมองวิวของท้องฟ้าที่ฉาบด้วยม่านฝนพลางฮัมเพลงจากหนังที่เพิ่งดูจบ เปียกปูนวิ่งมาพันแข้งพันขาจนผมต้องย่อตัวลงไปลูบหัวลูบหลังเล่นกับมัน



“เหงาอ่ะดิ” ตู่เอาเองว่าเจ้าตัวเล็กที่ชักจะไม่เล็กคงกำลังมีความคิดอย่างเดียวกัน



ช่วงนี้พี่เตกลับบ้านบ่อยๆ เพราะถูกพ่อบังคับให้เข้าไปช่วยงานที่บริษัท แลกกับการโอนกรรมสิทธิ์เพ้นท์เฮ้าส์นี้ให้เขาเป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ คนขี้งกก็เลยยอมทำ



ทั้งที่ไม่เคยคิดถึงเรื่องมรดก แต่ไม่ทันเรียนจบก็ต้องเข้าไปแสดงตัวในฐานะอนาคตผู้บริหาร เล่นเอาทั้งพี่เตทั้งคนบริษัทลำบากใจไปตามกัน ถึงอย่างนั้นคุณพ่อก็ดูจะไม่คิดมากเรื่องเสียงนกเสียงกา เพราะใจจริงแล้วท่านเองก็อยากป่าวประกาศเรื่องสถานะของพี่เตมานาน เลยถือโอกาสติวเข้มไปพร้อมๆ กับการทำให้ทุกคนค่อยๆ ยอมรับในความเดียว



งานหิน แต่ผมไม่คิดขัดเพราะอยากให้สองพ่อลูกใช้เวลาอยู่ด้วยกัน



แล้วอีกอย่าง... เวลากลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ เสือยิ้มยากกลับกลายเป็นแมวป่าขี้อ้อนเป็นเท่าตัว



“คิดถึงๆๆ” ผมงอแงใส่เปียกปูน จับหน้าซนๆ ส่ายไปมาก่อนจุ๊บหน้าผากมันหนึ่งทีอย่างมันเขี้ยว ไม่ทันไรเจ้าตัวเล็กก็ดิ้นหนี ส่งเสียงเห่าพลางวิ่งขึ้นบันไดไปที่ชั้นลอย พอดีกับที่เสียงประตูเปิดออก



พอพ่อมาก็ลืมผมทันที



ผมหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบ ฟังเสียงทุ้มต่ำทักทายเจ้าตูบนิ่งๆ เปียกปูนเหมือนพอใจที่เห็นเจ้าของกลับบ้าน วอแวสักพักก็วิ่งกลับเข้ามุมของตัวเอง นอนแผ่อย่างเกียจคร้าน



ผมยืนมองเจ้าของขายาวๆ ก้าวลงบันไดมาช้าๆ สูทตัวนอกถอดออกมาพาดแขนพลางปลดเนคไทกับกระดุมสองเม็ดบนด้วยท่าทางที่ทำเอาในหัวผมสบถออกมาว่าฮอตเป็นบ้า



และผมต้องกำลังหน้าแดงอยู่แน่ๆ เพราะดันคิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา...



“มาทำอะไรตรงนี้” ใบหน้าคมทำท่าประหลาดใจที่เห็นผมยืนรับลมอยู่ริมหน้าต่างทั้งที่ฝนตกหนัก แต่มันไม่ใช่คำถาม คนพูดถึงได้เดินมารวบเอวผมโดยไม่คิดจะฟังคำตอบใดๆ จมูกโด่งซุกลงกับซอกคอสูดกลิ่นสลับจูบลงตามลาดไหล่เปลือยก่อนเลื่อนกลับมางับใบหูผมเบาๆ



“ตัวเย็นหมด เดี๋ยวก็ไม่สบาย”



ผมหัวเราะ อาศัยจังหวะที่เขาวุ่นวายกับซอกคอวางแก้วกาแฟลงที่ขอบหน้าต่างไม่อย่างนั้นคงหกเลอะตอนที่เขายกตัวผมขึ้นนั่งบนขอบหน้าต่างอีกบานหลังจากได้ยินเสียงกระซิบท้าทาย



“งั้นพี่ก็ทำให้ผมอุ่นสิ”



เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังข้างหู ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกทาบทับด้วยอวัยวะเดียวกัน ร่างกำยำประชิดเข้ามาจนแผ่นหลังเปลือยเปล่าแทนจะแนบกับผืนกระจกเย็นเฉียบถ้าหากเขาไม่เอาฝ่ามือรองไว้ให้



เรียวลิ้นกระหวัดสลับกับขบริมฝีปากหยอกเย้าอยู่นาน กว่าเขาจะยอมผละออกไป มองหน้าผมด้วยสายตาและรอยยิ้มมุมปากที่ราวจะทำให้ใจผมเหลวละลายได้ทุกครั้ง



“ผมตกหลุมรักครั้งแรกวันฝนตก”



อาจเป็นเพราะเสียงหยาดฝนที่อึงอลเป็นฉากหลัง ผมถึงได้นึกอยากบอกเล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต



พี่เตขมวดคิ้ว ท่าทางงุ่นง่านขึ้นมาทันทีตอนที่ถามออกมาห้วนๆ ว่า “ใคร”



ผมหลุดหัวเราะ ลืมไปว่าผมยังไม่เคยพูดถึงเหตุการณ์นี้ให้เขาฟัง



ครั้งแรกที่ผมเจอเขา



“เป็นเด็กลูกครึ่งที่ย้ายมาเรียนกลางเทอม” ผมทำท่านึกแล้วเกริ่น ยิ้มราวเพ้อถึงความหลัง



“หล่อมาก เป็นนักบาสโรงเรียนอีกต่างหาก”



พี่เตขมวดคิ้วแน่น ผมยิ่งขำ เจ้าตัวคงเริ่มจับทางได้ว่าผมพูดถึงใคร



“เล่นดนตรีก็เก่ง การเรียนดีเลิศ อ่อ แถมแข่งวาดรูปชนะผมขาดอีกต่างหาก” คราวนี้พี่เตหลุดหัวเราะบ้าง กระชับแผ่นหลังผมแน่นจรดหน้าผากแตะกันพลางสบตาผม รอฟังว่าจะพูดถึงเขายังไงอีก



“พี่เคยถามว่าทำไมผมถึงรักพี่ใช่ไหม” ผมสบตากลับ ยกมือขึ้นมาทาบแก้มเขาเกลี่ยใต้ดวงตาคู่สวยเบาๆ ทิ้งช่วงให้ลมหายใจสัมผัสกันและกัน “ถ้าผมบอกว่าเพราะผมเป็นคนเดียวที่ได้เห็น วันที่ดวงตาคู่นี้อ่อนโยนที่สุด พี่จะเชื่อไหม”



เปิดเผยความลับที่ซุกซ่อนไว้ ความลับที่ผมครอบครองอย่างหวงแหนตลอดหลายปีที่ผ่านมา



พี่เตทำหน้าไม่เข้าใจ ผมยิ้ม เกลี่ยแก้มตอบอย่างแสนรัก



“เย็นนั้นฝนตก พี่กำลังอุ้มลูกหมาตัวหนึ่งไว้บนตัก ปลอบมันซ้ำๆ ทั้งที่กำลังร้องไห้”



ท่ามกลางสายฝน ในสถานที่ไร้ผู้คน เขาลักลอบหลั่งน้ำตาให้ลูกหมากำพร้าที่ไม่มีใครสนใจ ผมไม่เคยเห็นใครทำแบบนั้น ไม่เคยเห็นสีดำเฉดไหนอ่อนโยนและสวยงามเท่ารัตติกาลในดวงตาเขา



“อา... นั่นมัน...หมาตัวนั้น...” เพียงลมหายใจสอดประสานหนึ่งครั้งพี่เตทำท่านึกขึ้นได้ ผงะออกไป ท่าทางเหมือนจะโต้แย้งอะไรแต่สุดท้ายงุ่นง่านไร้คำอธิบาย



“ไม่เห็นจะน่าประทับใจตรงไหน” เขางอแง ก้มหน้าลงมาซบไหล่ผมอีกครั้ง หัวเราะในลำคอ



“น่ารักจะตาย ผมตกหลุมรักพี่ตั้งแต่แรกพบเลยรู้ไหม” ผมกอดเขากลับ หุบยิ้มไม่ได้ พี่เตหัวเราะอีกครั้ง แกล้งงับหูผมแรงๆ ก่อนผละออกมาหรี่ตาคาดคั้น



“ยังมีเรื่องน่าอายของพี่เก็บไว้อีกไหม เล่ามาให้หมด คุณพิชญ์”



ผมเลิกคิ้ว แกล้งทำเป็นคิด ยียวนจนคนโตกว่าหมั่นไส้อุ้มผมขึ้นจนผวาคว้าไหล่พร้อมกับยกขาก่ายเอวสอบอัตโนมัติ ทว่าพอก้มหน้าลงสบดวงตาสีรัตติกาลพราวระยับแล้วหลุดยิ้มอีกครั้ง แสร้งทำเป็นหันมองนอกหน้าต่าง



“ฝนหยุดแล้ว” โน้มตัวลงกระซิบพลางขบใบหูหยอกเย้าจงใจกัดรั้งตำแหน่งต่างหูที่ผมเป็นคนเจาะให้



“ไว้ฝนตกคราวหน้า พิชญ์จะเล่าให้ฟัง”



ยังมีอีกหลายสิบหลายร้อยเรื่องเกี่ยวกับเราที่ผมยังไม่ได้เล่า หลายสิบเรื่องที่ผมยังเก็บไว้ในลิ้นชัก



ยังไม่ใช่วันนี้ที่ผมจะบอกให้เขาฟัง



ยังไม่ใช่วันที่บรรยากาศเป็นใจ เพราะในหัวผมกำลังวุ่นวาย ขบคิด...



ว่าสูทกับเนคไทจะใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง...บนเตียง




-----------------------------

แจ้งข่าว Pre-Order เล่มพิเศษเกมท้ารัก



มาแล้วววว รายละเอียดและฟอร์มจองหนังสือเล่มพิเศษเกมท้ารักค่ะ ><

[Pre-Order] Special Truth Or Dare #เกมท้ารัก

รายละเอียดหนังสือ ::
???หนังสือรวบรวมตอนพิเศษที่ไม่มีในเล่มหลัก
- ขนาดเล่ม 12.5*18.5 cm. (เล็กกว่า A5)
- จำนวน140+ หน้า
- ของแถมที่คั่น 1อัน และโปสการ์ด 1ใบ

- ราคาเล่มละ 280 บาท (รวมค่าส่งลทบ.)

- ระยะเวลาในการโอนตั้งแต่ 08/12/2018 - 08/01/2019

- รายละเอียดการโอนและฟอร์มแจ้งโอน  (คลิกที่ตัวหนังสือสีแดงได้เลยค่ะ)

- ส่วน e-book เล่มพิเศษจะมาหลังปิดพรีแล้วนะคะ ^^



ฝากพี่เตกับน้องพิชญ์ด้วยน้า
ขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนนะคะ ^^

-Martian-





ออฟไลน์ HappyYaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จะรอแบบ e-book นะคะ ขอบงานเขียนของคุณมาก ๆ มีความเซ็กซี่ในตัวอักษรทั้งที่ไม่มีฉากเรท ประทับใจการใช้คำมาก ๆ ค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด