ตอนที่ 6“คะ..คุณ...คุณเผ็ด อ..อย่าทำอะไรผมเลยนะ ผมขอร้อง”
ร่างบางไหว้วอนอีกฝ่าย ดวงตากลมโตมีน้ำใสไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงสะอื้นไห้ทำให้หัวใจของชายหนุ่มแกว่ง แต่อารมณ์โกรธเกี้ยวที่มีอยู่ภายในอกก็เอาชนะแววตาเว้าวอนนั้น มือหนาบีบคางเล็กเอาไว้ พร้อมกับจ้องมองเข้าไปในนัยน์ตากลมโตคู่กันอย่างท้าทาย
“เมื่อคืน...ยังยอมกูอยู่เลยไม่ใช่หรือ จะกลัวอะไร”
“อึก...คุณเผ็ด...”
เผ็ดทอดสายตาไล่มองร่างบางที่สั่นเทาอยู่ใต้อาณัติ ร่างกายเปลือยเปล่าของดรีมทำให้เขาหยุดอารมณ์ดิบภายในกายไม่ได้ จมูกโด่งซุกไซร้ฟ่อนเฟ้นตามผิวลื่นด้วยความกระหาย มือหนาก็ลูบไปตามผิวเนียนไม่หยุด ยิ่งได้ลองก็ยิ่งเสพติดมากขึ้น ไม่ว่าจะดอมดมตรงไหนก็ได้กลิ่นหอมละมุนจากกายบางนี้ หยุดไม่ได้ หยุดไม่ได้เลยจริงๆ
“อึก..ฮือ..คุณเผ็ด”
ตั้งแต่ที่ได้ลิ้มรสความหอมหวานตรงหน้าตั้งแต่เมื่อคืน ก็ทำเอาชายหนุ่มห้ามตัวเองไม่อยู่ อยากสัมผัส อยากจะครอบครองร่างกายคนนี้อีก ริมฝีปากหยักทาบทับลงกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง เขาใช้มือบีบกุมคางมนจนคนตัวเล็กเผยอปากเชื้อเชิญอย่างจำยอม ลิ้นร้อนตวัดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานอยากฉกฉวย ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งติดใจ รสจูบที่ไม่ประสีประสาของร่างบางยิ่งทำให้ชายหนุ่มได้ใจเข้าไปใหญ่
มือหนาลูบไล้ไปตามผิวลื่น แกล้งปัดป่ายไปมาแถวต้นขาขาวลามมาถึงแท่งเนื้อน้อยน่ารักของอีกฝ่าย ก่อนจะกอบกุมแล้วคลึงเค้นจนร่างบางครวญครางอย่างสุขสม ภายในหัวของดรีมเริ่มขาวโพลนเนื่องจากอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกตัวอีกทีก็สัมผัสถึงนิ้วเย็นของร่างสูงแทรกเข้ามาภายใน
“อ๊ะ...คะ...คุณเผ็ด”
ดวงตากลมโตของเจ้าลูกกวางในมือนายพรานเริ่มสั่นระริกด้วยความตื่นตระหนก ร่างสูงโน้มตัวลงทาบทับริมฝีปากลงปากหวานอีกครั้ง เพื่อให้อีกฝ่ายได้คลายความเจ็บปวด เกิดมาดรีมไม่เคยรู้ตัวเลยว่าตัวเองจะถูกชักนำอย่างว่าง่ายด้วยรสจูบอันหอมหวานที่แฝงไปด้วยความดุดันของอีกฝ่าย ตัวเขาเผลอไผลไปตามรสหวานที่ปลายลิ้น จนกระทั่งความรู้สึกเจ็บแล่นปรี๊ดเข้าสู่ร่างกาย แผลเก่าที่บวมช้ำจากศึกรักเมื่อคืนยังไม่ทันได้หายดี ยิ่งมาเจอแรงอารมณ์เดือดพล่านของร่างสูงยิ่งทำให้ดรีมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้สึกถึงกายอันร้อนระอุและแข็งขืนของคนเบื้องบนที่ค่อยๆแทรกเข้ามาในตัวร่างบางทีละนิด
“อึก! …ผ...ผมเจ็บ”
“เป็นของกู...”
เสียงทุ้มครางแผ่วเบาประชิดใบหูเล็กที่ขึ้นสีแดงจัด ไม่รู้ว่าหูฝาดไปรึเปล่า แต่หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามดังลั่นกับประโยคสั่นๆนั้น
ร่างสูงถาโถมแรงอารมณ์ที่เดือดพุ่งกระแทกกระทั้นเข้าไปในตัวร่างบาง พร้อมกับแขนแกร่งที่โอบตวัดกอดรัดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมแขน ถึงแม้จะเจ็บเพราะความดุดันที่อีกฝ่ายส่งเข้ามา แต่ดรีมรู้สึกว่า ภายในความดุดันและโหดร้ายของร่างสูง กลับมีความอ่อนโยนที่แฝงเข้ามาในตัวเขาด้วย ส่วนชายหนุ่มในตอนแรกตั้งใจจะระบายความใคร่ใส่ ‘ของจำนำ’ ของเขาเท่านั้น พอได้เห็นแววตาคู่สวยและได้สัมผัสทุกส่วนของร่างบาง กลับทำให้ชายหนุ่มเผลอแสดงความรู้สึกในส่วนลึกออกมา หัวใจแกร่งเริ่มเต้นตึกตักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
อ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดร่างบางไว้ทั้งคืน พอตื่นเช้าขึ้นมาก็ตกใจที่คนในอ้อมกอดนั้นตัวร้อนเหมือนไฟสุม ชายหนุ่มได้แต่นิ่งคิดว่าตัวเขาเป็นอะไร ทำไมต้องโกรธคนตัวเล็กขนาดนั้น จริงๆแล้วเขาควรรับเช็คเงินสดจากเพื่อนของดรีม เค้นเอาให้ครบจำนานหนี้ของไอ้ภูริชซะหน่อย เรื่องทั้งหมดก็คงจบ ใครจะมีชีวิตอย่างไรก็ช่างหัวมันปะไร เขาได้หนี้คืนก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ
ไม่....
เขาไม่ใช่พวกหน้าเงินขนาดนั้น เผ็ดแค่อยากได้เงินก้อนจากคนอย่างภูวิช ผู้ที่ขายทุกอย่างแม้กระทั่งคนรักของตัวมันเอง เขาอยากรู้ว่าไอ้ภูริชมันจะรักแฟนของมันอย่างที่แฟนมันรักหรือเปล่า ดรีมอุตส่าห์ยอมมาเป็น ‘ของจำนำ’ ส่วนไอ้ภูริชจะหาเงินมาใช้หนี้เพื่อไถ่ตัวแฟนหรือเปล่า แต่ถ้ามันไม่จ่ายหนี้ครบตามกำหนด ‘ของจำนำ’ ที่ว่าก็อาจจะตกเป็นของเผ็ดโดยสมบูรณ์ ดรีมจะไม่มีวันได้หนีจากเขาไปไหนได้ เพราะเผ็ดคือเจ้าของ ร่างสูงยกยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง
เดี๋ยวนะ....
นี่...เขากำลังยิ้มอยู่หรือ
“อื้อ..”
คนในอ้อมแขนเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาสีไข่ค่อยๆลืมขึ้น พอดวงตากลมโตสบกับดวงตาคมที่กำลังจ้องมองอยู่ก่อน ถึงกับต้องรีบหลับตาลงอีกครั้ง หรือยังกลัวเขาอยู่หรือ ชายหนุ่มคิดในใจ
“มึงไม่สบาย” เขาเอ่ยเสียงเรียบ
“อะ...ครับ”
“นอนต่อสิ” ร่างสูงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น จนคนตัวเล็กที่หลับตาปี้ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ
“กลัวหรือ”
“ปะ..เปล่าครับ” คนตัวเล็กก้มหน้างุด เผ็ดสังเกตเห็นใบหูขาวๆนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อแล้ว สงสัยจะเขิน
“คุณเผ็ด...เอ่อ...ปล่อยผมก่อนได้ไหมครับ ผมจะไปเตรียมอาหารเช้าให้”
“ไม่ต้อง มึงป่วยก็นอนพัก เดี๋ยวกูสั่งแม่บ้านเอง” ร่างสูงค่อยๆคลายอ้อมแขนก่อนจะลุกขึ้น
ทันทีที่ลุกขึ้นจากเตียง ร่างบางที่นอนอยู่ก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมหน้า อะไรกัน? เขินขนาดนั้นเลยหรือ แต่ทำไมรู้สึกเย็นช่วงล่างจังเลยล่ะ ชายหนุ่มก้มมองสำรวจตัวเองก็พบว่าเขาเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น ก็แหม่ เมื่อคืนจัดไปตั้งหลายรอบจนเผลอหลับไปทั้งคู่ จะเอาเวลาไหนมาลุกใส่เสื้อผ้ากัน
“หึหึ อายหรือ เมื่อคืน...ก็เห็นมาหมดแล้ว จะอายอะไร”
“คะ...คุณเผ็ดรีบไปแต่งตัวเถอะครับ!” ร่างบางพูดเสียงอู้อี้ใต้ผ้าห่ม
คนผีทะเล! ดรีมได้แต่แอบด่าในใจ
ดรีมเผลอหลับไปอีกรอบ รู้สึกตัวอีกทีก็เหมือนมีอะไรมาวางแหมไว้ตรงหน้าผากของเขา พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นเผ็ดยืนจ้องอยู่ เพราะช่องทางหลังยังเจ็บเสียดอยู่ ร่างบางจึงค่อยๆพยุงตัวเองลุกนั่งช้าๆ เมื่อยกมือสัมผัสสิ่งที่อยู่แปะอยู่บนหน้าผากก็พบว่าเป็นเจลลดไข้ พอมองสำรวจตัวเองก็ไม่ได้เปลือยเปล่าอีกแล้ว หรือว่า...คุณเผ็ดจะใส่เสื้อผ้าให้กันนะ
“นี่โจ๊ก...แล้วก็ยา กินซะ” ร่างสูงชี้ไปที่โต๊ะข้างเตียงที่มีถ้วยโจ๊กและยาสองสามเม็ดวางไว้อยู่ ก่อนจะกลับมากอดอกทำตัวเคร่งขรึมเหมือนเดิม
“ขอบคุณครับ”
ดรีมเอื้อมตัวไปประคองถ้วยโจ๊กก่อนจะค่อยๆตักกิน ตรงหน้าของเขาก็มีร่างสูงยืนกอดอกทำหน้าถมึงทึงมองมาที่เขาอยู่ แบบนี้ใครจะกินลงกันล่ะ
“อิ่มแล้วครับ”
“กินให้หมดสิ”
“แต่...ผมอิ่มแล้ว โจ๊กนี่มันเยอะเกินไปรึเปล่าครับ” อยากรู้จังว่าโจ๊กร้านไหน ทำไมมันมีปริมาตรเยอะเพียงนี้ กินไปเยอะแล้วแต่ก็ยังไม่พร่องลงเลย
“กลัวมึงผอมตายไปซะก่อน เลยสั่งพิเศษ…อิ่มแล้วก็กินยาซะสิ”
ดรีมพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะทำตามอย่างว่าง่าย
ว่าด้วยเรื่องโจ๊ก จริงๆแล้วเผ็ดสั่งลูกน้องตัวเองออกไปซื้อตั้งแต่เช้า หลังจากที่รู้ว่าคนตัวเล็กป่วย พร้อมกับให้ลูกน้องซื้อยามาด้วย โจ๊กสั่งมาห้าถุง แบ่งให้ไอ้ลูกน้องคนละถุงสองคน สำหรับตัวเขาถุงนึง และคนป่วยต้องกินดับเบิ้ลสองถุงไปเลย ตอนเด็กๆเวลาเผ็ดป่วยทีไร คุณหญิงแม่ชอบดับเบิ้ลข้าวและยาให้เขาเป็นสองเท่าอยู่ตลอด เพราะได้หายไวๆ ไม่รู้ว่าคุณหญิงแม่ของเผ็ดเอาความคิดผิดๆนี่มาจากไหน แต่กินข้าวเยอะตอนป่วยทีไร หายไวทุกที
นี่ไม่ได้แปลว่าเขาห่วงไอ้หน้าซื่อนั้นหรอกนะ...
เผ็ดแค่อยากให้มันหายไวๆเพราะจะได้ใช้งานบนเตียงต่อได้อีก หึหึ
เผ็ดจมกับความคิดของตัวเองไปแวบนึง ก่อนจะกลับมาสู่ปัจจุบัน
“ขอบคุณมากครับคุณเผ็ด ที่ดูแลผม” ดรีมยิ้มขอบคุณอีกฝ่าย
“ใครบอกกูดูแลมึง กูแค่กลัวว่ามึงจะตายซะก่อน กูยังขี่มึงไม่ครบร้อยรอบเลย”
ร่างสูงอึกอักนิดหน่อยแต่ก็พยายามปรับโทนเสียงให้เป็นเสียงเรียบๆแบบธรรมชาติที่สุดเท่าที่เขาทำปกติ ไอ้รอยยิ้มบ้านั้นทำให้ชายหนุ่มถึงกับใจแกว่ง เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด ว่าแล้วเผ็ดก็รีบเดินตึงตังออกไป ปล่อยให้ดรีมนั่งทำหน้าฉงนอยู่บนเตียง
“เป็นอะไรของเขาน่ะ...”
ถึงจะแปลกในใจการกระทำของอีกฝ่าย แต่มันก็ทำให้ดรีมยิ้มร่าเลยทีเดียว ถึงเมื่อคืนจะโหดร้ายและดุดันในตอนแรก ต่อมาก็ทำดีด้วย(ถึงปากบอกจะไม่ได้เป็นห่วงก็เถอะ) การกระทำของร่างสูงมันดูขัดๆกันอย่างไรชอบกล เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย
แต่เชื่อเถอะ ภายในก้นบึ้งของจิตใจเผ็ดนั้น เป็นคนอ่อนโยนและใจดี
อีกด้านของประตูห้องนอน
“ฮัดชิ้ว!” ร่างสูงถูจมูกไปมา สงสัยจะเริ่มไม่สบายตามคนป่วยในห้องแล้ว
เพื่อเป็นการออกกำลังกายขัดขวางความป่วยที่จะเริ่มแทรกซึมเข้ามา...
ร่างสูงเดินออกจากห้องไป เคาะประตูห้องลูกน้องสองคนที่อยู่ห้องข้างๆเขา ไม่นานไอ้ลูกน้องสองแสบร่างควายก็กระวีกระวาดออกมาต้อนรับเจ้านาย
“อยากออกกำลังกายสักหน่อย” ร่างสูงเอ่ย
“นี่ครับ รายชื่อลูกหนี้ของเดือนนี้” ลูกน้องยื่นใบรายชื่อลูกหนี้ให้กับเจ้านาย
เอาล่ะได้เวลาไปออกกำลังแล้ว อ๋อ...ลืมบอกไป คุณเผ็ดชอบออกกำลังกายด้วยการไล่กระทืบลูกหนี้ที่เบี้ยวไม่ยอมจ่าย ออกกำลังกายแบบนี้ก็ได้เหงื่อเหมือนกัน ท้าทายด้วย
ว่าไหมล่ะ...
TBC.
talk ; เอาเสี่ยเผ็ดมาส่งยามดึกกกกกกก