ปริศนาอักษรไขว้.....หัวใจยุ่งเหยิง 13
ตาหวาน.....หวานทั้งตัว...ใครนึกว่าหวานแค่ตากันล่ะ หวานทั้งตัวต่างหาก
ยิ่งเรียวปากช่างตะโกนโวยวายนั่นยิ่งหวาน ผิวแก้มเนียนใสไม่ต้องพูดถึงเลย ทั้งหอมทั้งนิ่ม
ไม่เสียแรงที่พยายามตามจีบ .... เด็กอะไร หวานได้ทั้งเนื้อทั้งตัว และมีรสชาติ เผ็ด ๆ มันส์ ๆ ประกอบด้วยอีกต่างหาก
ไม่รู้ว่าป่านนี้ จะเป็นยังไงบ้าง เด็กลืมง่าย คงนอนอ่านการ์ตูนสบายใจเฉิบไปแล้วมั้ง....ป่านนี้
หนุ่มร่างสูง จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าไปอยู่ในชุดธรรมดา และเดินยิ้มตลอดทางขึ้นตึก
ตาหวาน ตาหวาน...คิดถึงแต่ตาหวาน....อยากจะชิมให้หมดทั้งตัวเลย
อยากรู้นัก จะหวานมากกว่าที่เห็นมากแค่ไหน
ว่าแล้วก็โทรไปแหย่เล่นสักนิดดีกว่า
เอาไงดีน๊าาาาาาาาาา
ส่งข้อความไปหากก็แล้วกัน
อันนี้ดีกว่า
............คิดถึงตาหวานจังครับ.............
ร่างสูงอมยิ้มถูกใจ เมื่อข้อความถูกส่งไปเรียบร้อยแล้ว ตาหวานนี่แปลก พักนี้ยอมคุยกับโรคจิตด้วยนะ ทำเล่นไป
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"นี่.......ตอนนี้ฉันเสียพลังงานจากการต่อสู้น่ะ...อือใช่....มันเป็นร่างขั้นสุดยอด
ของฟรีสเซอร์ เรื่องดราก้อนบอล กระเทยแหละ เออ ใช่มันเป็นกระเทย..."
ตาหวานเอ๋อ....ไม่ร้องคาราโอเกะ ไม่ได้อ่านการ์ตูน ไม่ได้เล่นเกมส์ แต่เปลี่ยนมาคุยโทรศัพท์กับหนุ่มนิรนามโรคจิตแทน
หลังจากที่ปรึกษาปัญหาชีวิตกับไอ้แคปไม่ได้ เลยต้องเปิดโทรศัพท์มาคุยกับไอ้โรคจิตแก้กลุ้มไปพลาง ๆ ก่อน
"นี่...มาเจอกันหน่อยได้มั้ย...ฉันอยากเจอนายนะ...เอาการ์ตูนมาให้ด้วยได้มั้ย...ฉันจะรอ....แล้วเลี้ยงคาราโอเกะฉันด้วยนะ"
ตาหวานกดวางโทรศัพท์ไปแล้วอย่างหงอยเหงา วันนี้รู้สึกไม่สดชื่นเลย เหมือนกับว่าเสียพลังชีวิตไปมากโข จากนังกระเทยปลาคนนั้น
คิดบ้าอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เลยนัดโรคจิตมาเจอ เอาน่ะ เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไปในที่ที่มีคนมากมายก็พอแล้ว
ยิ่งคิดยิ่งซึม ยิ่งคิดยิ่งเศร้า นังปลาเน่าไม่มาหาไอ้แคปเลย นับตั้งแต่โดนกระเทยควายจูบไป ตาหวานก็เริ่มเกิดอาการแปลก ๆ
ไม่รู้สึกสนุกกับการเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูนก็ไม่สนุก ใจมันพะวงคิดไปถึงแต่นังกระเทย หน้าประหลาดนั่นตลอด
กลัวมันจะมาหาไอ้แคป กลัวต้องปะทะคารมย์กับมัน แต่ก็ชะเง้อคอคอยรอมัน แต่อีกระเทยบ้ามันก็ไม่มา
ตาหวานอยู่ในโลกของเด็ก ยังไม่เข้าใจ ว่าอาการแบบนั้นเขาเรียกว่าคิดถึง
ตาหวานอาบน้ำแต่งตัวและเดินออกจากห้องไปอย่างเบื่อหน่าย
และไปยืนคอยโรคจิตก่อนเวลานัดที่หน้าร้านไอศกรีม
ยืนมองนาฬิกาไปมาหลายรอบ แล้วก็ไม่เห็นว่าไอ้โรคจิตจะมาหาสักที จนกระทั่งทนไม่ไหว ต้องเดินหนีเข้าไปกินไอศกรีมในร้าน
กินอย่างเซ็ง ๆ อะไร อะไร ก็เซ็งไปหมด น่าเบื่อชะมัด
"นังตาหวาน...ผัวไปไหนล่ะ"
ใครคนหนึ่งเอ่ยทักทาย และตาหวานก็เงยหน้าขึ้นมอง ด้วยความดีใจ นังปลาเน่า อีกระเทยบ้ามันมาแล้วเหรอ
แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นกลับไม่เห็นใครคนหนึ่งที่หน้าเปื้อนสี แต่งหน้าอุบาทว์เหมือนไปเล่นงิ้วสักคน
แต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มร่างสูง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา แต่กลับทำให้คน ๆ นั้นดูดีขึ้นมาได้ไม่ยากนัก
นายแบบเขามาถ่ายแบบเหรอวะ...หรือว่าเขาทักคนผิด
ตาหวานหันซ้ายหันขวาเพื่อความแน่ใจ
"หล่อนแหละ...ทำไม..งงเหรอ"
ถึงคำพูดจะเป็นแบบกระเทย พูด แต่น้ำเสียงกลับเป็นปกติไม่ได้สะดีดสะดิ้งเลยสักนิด ร่างสูงนั้นนั่งลงอย่างช้า ๆ
ที่ฝั่งตรงข้าม และส่งยิ้มให้ เล่นเอาตาหวาน...เปลี่ยนเป็นตาค้าง ช้อนไอศกรีมในมือหล่นลงพื้น
เหมือนเอี้ยก้วยเลย เอี้ยก้วยที่อยู่ในการ์ตูนจีนเรื่อง มังกรหยกอ่ะ ขอลายเซ็นต์ดีมั้ยวะ
ตาหวานยังคงงง และก็พบว่าคน ๆ นั้น สั่งไอศกรีมมานั่งกิน และขอช้อนมาให้ตาหวานอีกคัน
"เป็นอะไร....ชอบแบบกระเทยเหรอ...เดี๋ยววันหลังมาแบบกระเทยแล้วกันนะ"
ปลาหัวเราะออกมา เมื่อเห็นท่าทางของคนที่นั่งตรงข้ามที่ยังจ้องมองเขาตาไม่กระพริบ
"หล่อจนตะลึงเลยหรือไง....หือ"
ปากก็พูดและมือก็เอื้อมมาจับที่มือของตาหวานเอาไว้ ให้มือเล็ก ๆ นั้น ตักไอติมในถ้วยขึ้นกิน เพราะใกล้จะละลายเต็มทีแล้ว
ตาหวานก้มมองไอศกรีม ที่เริ่มละลาย แล้วก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี รู้แต่ว่ามัน มัน ทำตัว ทำตัว ไม่ถูก....ถ้าเกิดว่า
เป็นนังกระเทยปลาเน่า จะกรีดร้องใส่หน้ามัน แล้วเอาไอศกรีมราดหัว ให้มันเต้นเร่า ๆ ให้หนำใจ แต่นี่กลายเป็น
หนุ่มร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลา ดูดีมีชาติตระกูล ตาหวานเลยไม่กล้าจะพูดอะไรเลยสักคำ
"อ่ะ...หนังสือการ์ตูน..เอามาให้...เห็นหวานบอกอยากได้อยู่...เล่มนี้เขาไม่พิมพ์ออกมาแล้วนะ"
หนังสือในถุงกระดาษ ถูกเอามาวางไว้ให้ตรงหน้าคนที่ยังเงียบอยู่ และตาหวานถึงเพิ่งรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ด้วยวิธีการเดาที่ไม่ยากนัก
"โรคจิต...........ที่มันส่งข้อความ...บ้า ๆ พวกนั้นมา...คือ..คือ..นายงั้นเหรอ..."
คำถามถูกตอบโดยวิธีการพยักหน้ายิ้ม ๆ
"ไอ้บ้า...แกนังกระเทยหน้างิ้ว ........... แกหลอกฉันเหรอ...."
น้ำเสียงแผ่วเบา เอ่ยออกมา มันดูสงบเรียบ ผิดจากที่ปลาคิดไว้
ช่วยไม่ได้ที่เกิดมาโง่......เลยโดนล้อเล่นอยู่เรื่อยโดยไม่รู้ตัว
ผิดที่อยู่แต่ในโลกของการอ่านหนังสือการ์ตูนไปวัน ๆ และเล่นเป็นแต่เกมส์ ร้องได้แต่คาราโอเกะ
แต่ไม่เคยร้องไห้ เพราะร้องไม่เป็น
คนอื่นเขาก็คงอยากเล่นเกมส์ด้วย...........เลยแกล้งเล่นสนุก ๆ เพราะเห็นว่าตาหวานเป็นเด็ก
วันนี้ปลาเตรียมใจมาฟัง เสียงร้องแบบแสบแก้วหูของตาหวานเต็มที่ รู้แน่ว่าเด็กคนนี้ คงจะโวยวาย
แล้วเอาอะไรมาตีหน้าเขา เขาจะได้ถือโอกาส ขโมยจูบสั่งสอนเด็กบ้านั่นอีกสักที
แต่ผิดถนัด
ตาหวาน ตักไอศกรีมเข้าปาก ด้วยความเร็ว ใบหน้าเรียบเฉยสนิท ก่อนจะหยิบเครื่องเล่นเพลง ออกมา
และอุดหูเอาไว้ เดินไปจ่ายเงินที่เคาร์เตอร์ ไม่สนใจจะหยิบหนังสือการ์ตูนหายากที่เขาเอามาให้เลย
ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนหน้ายิ้ม ๆ ของร่างสูง ต้องหุบยิ้มกระทันหัน และเดินไปจ่ายค่าไอศกรีมก่อนจะวิ่งตามออกมาแทบไม่ทัน
"ตาหวาน...เดี๋ยวก่อน...หยุดก่อน...ตาหวาน"
แม้จะเรียกสักเท่าไหร่ ตาหวานก็ไม่ได้ยินอะไรเลย และยิ่งเพิ่มความดังของเสียงเพลงนั้นให้เพิ่มขึ้น
แม้ว่าร่างสูงนั้นจะฉุดแขนเอาไว้ แต่ตาหวานไม่ได้สะบัดหนี กลับเงยหน้ามองเจ้าของใบหน้าคมนั้น
ไม่มีคำพูดอะไรออกมาเลยสักคำ นอกจากความรู้สึกที่ปลาอ่านไม่ออกเลย ว่าเด็กคนนี้คิดอะไร
มันมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีแววโกรธ หรือแววเคียดแค้นอะไรทั้งสิ้น เหมือนไม่มีอะไรในดวงตาหวานซึ้งคู่นั้น
และในที่สุดเขาก็ต้องปล่อยเรียวแขนเล็กนั้นให้เป็นอิสระ ปล่อยให้เจ้าตัวเขาเดินจากไป เงียบ ๆ
โดยที่ไม่รู้ว่าจะใช้วิธีไหนมาง้อเด็กคนนี้ดี
กลเม็ดวิธีการร้อยแปด ที่เขาเคยใช้ง้อขอคืนดีคู่นอนของเขา ถูกประมวลเข้ามาในความคิด
ให้ดอกไม้ ออดอ้อน เอาใจ หรือจะทำยังไงดี แต่ที่รู้ ๆ วิธีการต่าง ๆ ไม่น่าใช้ได้กับตาหวานเลย
สักวิธีเดียว
ปลายังคงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น และกดโทรศัพท์โทรหาตาหวาน แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่เรียกเข้าไปเลย
คงจะกลับห้องแน่ ๆ ไปดักรออธิบายที่หน้าห้องคงจะทัน
ร่างสูงโบกแท็กซี่แล้วบอกที่หมายที่จะไป
"ตาหวาน....ง้อง่าย ๆ หน่อยเถอะนะ..ง้อยาก..ฉันเองก็ลำบากใจไปด้วยนะ"
ความคิดที่ไม่มีความรับผิดชอบ ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกโกรธมากแค่ไหน ถูกประมวลผลในหัวของร่างสูง และแสดงออกมาเป็นคำพูด
ตาหวานไม่ใช่คนช่างโกรธ แต่เป็นแค่เด็กขี้โวยวายเท่านั้น
สิ่งที่ใครหลายคนไม่รู้เลยก็คือ
เด็กขี้โวยวายงี่เง่างอแงคนนั้น
เคยโกรธกับน้องชาย ตัวเอง และไม่เคยพูดกันอีกเลย นานถึงสามปี
นี่มันอะไรกัน...ทำไมเขาถึงปฏิเสธคู่นอนคนอื่น ๆ ไปหมด และเอาแต่คิดว่าจะเอาอะไรไปเลี้ยงแมวดี เลยมาเดิน
ซื้อของที่ซุเปอร์มาเก็ตแห่งนี้ ซื้อกับข้าวอะไรตั้งมากมาย ซื้อมาทำไมเยอะแยะ วินไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
เมื่อก่อน ข้าวที่เอาไปให้แมว เป็นอาหารแมวชนิดเม็ด ไป ๆ มา ๆ เปลี่ยนเป็นอาหารแมวชนิดซอง เริ่มดีขึ้นมาหน่อย จากอาหารซองแบบนั้น
กลายเป็นข้าวกล่อง ที่มีกับข้าวเป็นปลาทอด ปลานึ่ง เวลาไม่นาน ข้าวกล่อง กลายเป็น ข้าวที่มีกับข้าว บางครั้งมีก๋วยเตี๋ยว มีข้าวหมกไก่ ไปโน่น
บางวันมีนม มีน้ำผลไม้ เป็นของแถมซะอีก และปัจจุบันมันพัฒนากลายเป็นปิ่นโตแบบเถา ที่มีกับข้าวหลายอย่าง รวมทั้งขนมหวาน หรือผลไม้เพิ่มเข้าไปด้วย
ปลาเคยถามว่าเขาจะเอาของกินไปไหนนักหนา เขาดันตอบว่าเอาไปเลี้ยงแมว และเพื่อนก็ทำหน้างง ๆ
วินเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเลี้ยงแมว แบบนี้ด้วย แมวที่เลี้ยงไว้ ขี้อ้อน จนอยากไปหาทุกวันเร็ว ๆ เพราะคิดถึง และอยากไปลูบหัวทุกวัน
วันก่อนตัวเล็กทำให้เขากลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหว เมื่อเจ้าแมว มีหูงอกออกมา และมีกระดิ่งห้อยคอเสียงดังกรุ๋งกริ๋ง แมว ทำตาแป๋ว ๆ และคลอเคลียเล่นกับเขา
และเขาก็เห็นว่าแมวที่เลี้ยงน่ารักดี ตัวเล็กเป็นแมวของเขาคนเดียว
บางครั้งเดินสวนกันไปมา กับแคป ในชมรมว่ายน้ำหรือโรงอาหาร เขาก็อยากจะพูดคุยด้วย
แต่ตอนนั้นมันเหนือกฎที่ตั้งไว้ ทำให้เขาไม่สามารถที่จะไปพูดคุยอะไรกับแคปได้เลย
"ตาหวานอันนี้หละมั้ง...อันนี้น่ะอร่อย...กูเคยกิน มันเป็นช็อคโกแลตถั่วเว้ย"
เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยอยู่ที่ล็อคถัดไป และตาหวานก็เกิดความงง ไอ้แคปกินช็อคโกแลต แถมรู้อีกต่างหากว่าข้างในเป็นถั่ว
ไอ้โง่นี่ก็โง้ โง่ เขาเรียกอัลมอนด์ ไอ้แคปดันเรียกว่าถั่ว คนกินขนมเด็กอย่างตาหวานรู้ดี แค่มองซองก็รู้แล้วว่าอันไหนอร่อย
"กินตอนไหนวะ...ไม่ยักบอกกูเลย..." ตาหวานเอ่ยถามเพื่อน และแคปก็หันมายิ้มก่อนจะก้มหน้าลงมาบอกเพื่อนที่ข้างหูเสียงเบา
"เจ้าของกูซื้อให้กิน....อร่อยมากเลยมึง..อย่าเอ็ดไป"
แคปหัวเราะร่า ก่อนจะหยิบช็อคโกแลตแท่งใส่ตระกร้า เดินลากตาหวานให้เดินตามมาด้วยกันอย่างมีความสุข
เพื่อไปหาขนมกินที่ล็อคถัดไป
วิน...ยืนมองนิ่ง....
เขาลืมไป ว่าตาหวาน และแคปเป็นแฟนกัน.....ที่กระซิบกระซาบกันหวานแหววแบบนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคู่รัก
วินยกโทรศัพท์ขึ้นกดหาหมายเลขที่ยังปรากฎอยู่ในเครื่อง อย่างช้า ๆ
ก่อนจะกรอกเสียงลงไป
"เอ็กเหรอ......ว่างมั้ย...คืนนี้มาเจอกันหน่อยสิ....ไม่เจอกันนาน ๆ ก็คิดถึงนะสิ...หรือว่านายไม่คิดถึงฉันกันล่ะ"
วินหัวเราะอย่างเสแสร้ง พูดคุยกับเจ้าของหมายเลข ก่อนจะกดวางเมื่อนัดสถานที่นัดพบกันเรียบร้อยแล้ว
ร่างเพรียวบางนำของที่ซื้อไปเก็บที่ และเดินตัวเปล่า ไม่ซื้ออาหารที่จะเอาไปเลี้ยงแมว เหมือนเช่นทุกวัน
TBC.....