[2]
“ไอ้จามึงมีชีวิตอยู่ที่ไหน” ไอ้หมงโทรมาหาผม พร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงรนๆ
“กำลังจะถึงคณะ ทำไมวะ” ผมตอบไปอย่ารำคาญ
“มึงพูดว่าไงวะ กูไม่ได้ยิน มีแต่เสียงลม”
“ก็กูขี่มอไซด์อยู่จะให้เงียบสงบได้ไงหละวะ กูกำลังจะถึงคณะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผมโวยวายตอบมันกลับไป
“เฮ้ย อย่ามานะเว้ย มึงหยุดแล้ววนกลับหอไปเลย ถ้ายังอยากมีชีวิตต่อ” เสียงมันที่ผมได้ยินมันดูตื่นๆชอบกล ทำให้ผมต้องหยุดรถเพื่อคุยกับมันให้ชัดๆ
“ทำไมกูไปคณะไม่ได้วะ” ผมถามแบบกลัวๆ ที่คณะมันมีสัตว์ประหลาดบุกหรือไงเนี่ย
“ถ้ามึงอยากมาเจอหน้าพี่เคสุดหล่อของมึงก็มาเลย แต่กูไม่รับประกันนะว่ามึงจะมีแขนขาอยู่ครบหรือเปล่า” แค่ได้ยินชื่อพี่เค ผมก็ถึงกับต้องกลืนน้ำลาย อะไรกันวะเนี่ย ตามมาถึงที่เลยหรือวะ แล้วรู้ได้ไงว่าคณะผมอยู่ไหน
“งะ งะงั้นกูกลับหอก่อนนะ” ผมตอบกลับไปด้วยความกลัวสวัสดิภาพของร่างกายตัวเอง
“เออ เดี๋ยวกูกับไอ้เรย์ตามไป” ไอ้หมงมันบอกผมก่อนจะวางสายไป
ซวยอีกแล้ว เรื่องน้ำก็น่าจะจบแล้วนี่หว่า ทำไมยังตามมาอีกเนี่ย หรือจะเป็นเรื่องหนังสือที่ตกใส่พี่แก...บ้าน่า พี่เคไม่เห็นว่าเป็นผมนี่ แล้วจะมาตามถูกได้ไงกัน โอ๊ย คิดแล้วปวดหัว หนีก่อนดีกว่า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“พี่เคมาได้ไงวะ” ตอนที่ผมเปิดประตูรับไอ้เพื่อนสองตัวของผมแล้ว ผมก็รีบถามถึงพี่เคทันที
“กูจะรู้ได้ไงหละ กูไปถึงคณะพี่แกก็นั่งอยู่ใต้ตึกตรงทางขึ้นคณะ เรียกถามทุกคนที่ผ่านเลยนะเว้ย” ไอ้หมงทำท่าสยองใส่ผม
“ถามอะไรวะ” ผมหละงงกับมัน จะบอกก็ไม่ยอมบอกว่าพี่เคมาถามอะไร
“น้อง! รู้จักนินจา 032 ไหม” มันเอียงคอเล็กน้อย สายตาแข็งมองจ้องมาที่ผม มันทำให้ผมกลัวอยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากหน้าตาน่ากลัวนั้นแล้ว ยังน้ำเสียงที่เข้มจนหวั่นนั่นอีก
“คำพูดตามนั้นทุกคำ แต่เสียงและหน้าโหดกว่าที่กูทำ.....เยอะ!” ไอ้หมงบอกในสิ่งที่ผมหวาดอยู่ไม่ใช่น้อย
“อะไรกันวะ แค่น้ำแก้วเดียว ทำไมต้องตามมาหาเรื่องขนาดนี้เลยวะ” ผมเดินวนไปวนมาบ่นให้ไอ้เรย์กับไอ้หมงฟัง
“ไม่น่าเป็นแบบนั้น เพราะตอนนั้นพี่เคก็เห็นหน้ามึงแล้ว ทำไมต้องมาไล่หามึงด้วยการถามชื่อ มันเหมือน......เหมือนพี่เคไม่รู้จักมึง แต่มีความแค้นอะไรกับคนชื่อนินจา” ไอ้หมงทำท่าครุ่นคิดก่อนที่จะตอบผมกลับมา
“มึงคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมวะ ว่าพี่เคอาจจะอ่านจากปกสมุด” ผมเริ่มคิดเหตุการณ์ต่างๆดูอีกที
“แบบนั้นน่าจะเป็นไปได้” ไอ้หมงดีดนิ้ว เหมือนผมไปจุดประเด็นให้มัน
“แล้วมึงว่า...ถ้ามีสมุดเล่มนึง ตกใส่หัวมึง.....มึงจะโกรธไหมวะ” ผมค่อยๆเปล่งเสียงออกมาทีละนิด เพราะเริ่มเข้าใจเรื่องมากขึ้น
“ก็โกรธดิวะ หัวกูไม่ใช่โต๊ะ จะได้มารองรับสมุดนะ”
“มึงโกรธ.....แล้วมึงคิดว่าคนอย่างพี่เค จะโกรธไหมหละ” ผมกลั้นใจถามไอ้หมงไป
“กูว่าไอ้คนที่ทำตกใส่หัวพี่แก ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตหรอกวะ” มันยังทำท่าปาดคอให้ผมเสียวอีก
“นี่มึงอย่าบอกนะว่ามึงเป็นคนทำสมุดตกใส่หัวพี่แก” ไอ้เรย์ที่นั่งเงียบอยู่นานก็ถามออกมา ส่วนไอ้หมงพอจับใจความได้ก้หันมาจ้องหน้าผมเช่นกัน
“ก็กูไม่ตั้งใจ” ผมพูดออกมาเบาๆ
“กูถึงว่า ไอ้สมุดที่พี่เคถืออยู่มันคุ้นๆ สรุปเป็นของมึงเองหรอ” ไอ้หมงถามผม ทำให้ผมได้แต่พยักหน้าให้
“ตอนที่กูรอมึงเข้าห้องน้ำเมื่อวานนี้ กูเผลอทำสมุดตกจากชั้นสองไง แล้วพอดีที่ชั้นล่างมี...พี่เคยืนอยู่” ผมต้องก้มหน้าหลบสายตาของเพื่อนๆ เหมือนมันจะไม่เชื่อหูตัวเอง
“ก่อเรื่องสองรอบในวันเดียว ถ้าพี่เครู้ว่ามึงทำ ไม่ต้องหาทางรอดเลย” ไอ้หมงทำท่าบีบคอตัวเอง
“เออ กูรู้แล้วว่าไอ้พี่เคนั่นมันน่ากลัว แล้วไงหละมันทำไปแล้วนี่หว่า” ผมบอกพวกมันอย่างคนหมดหนทาง ซึ่งเพื่อนผมทั้งสองก็ได้แต่ส่ายหน้าเท่านั้น โอ๊ยยยยยยยยยยยย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ผมมานั่งดักรอไอ้คนที่ชื่อนินจาที่คณะมันแต่เช้า ถามอยู่หลายคนไม่มีใครรู้จักมันเลยหรือไงวะ
“น้อง! รู้จักนินจา 032 ไหม” ผมถามเด็กกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านมา ซึ่งเด็กกลุ่มนี้ก็พากันส่ายหน้าแล้วรีบเดินเลี่ยงออกไป......เป็นอะไรกันวะ
ผมถามอยู่นานก็ไม่ได้เรื่องอะไร พาลทำให้หงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“น้อง! รู้จักนินจา 032 ไหม” ผมถามไอ้เด็กคู่กรณีที่ผมเจอที่โรงอาหารเมื่อวานนี้ แต่วันนี้มันมากันแค่สองคน
“ไม่รู้จักครับ” มันสองคนหันไปมองหน้ากัน ก่อนที่ไอ้คนหน้าตี๋จะหันมาตอบผม
“อะไรวะ คนคณะนี้ทำไมมันไม่รู้จักกันเลยหรือไงวะ” ผมสบถออกมา เพราะเริ่มหงุดหงิดกับการตามหาไอ้นินจาแล้ว
“เอ่อพี่ครับ คือ รุ่นนึงมันมี 600 กว่าคน รู้จักกันไม่ครบหรอกครับ” ถ้าไม่เห็นท่าทางหวาดๆของไอ้ตี๋นี่ผมก็คงคิดว่ามันกวนผมละครับ
“โธ่โว้ย!” ผมเอาสมุดที่อยู่ในมือฟาดเข้ากับอากาศ เพื่อระบายความหงุดหงิด ก็ทำให้ไอ้สองคนที่ผมถามเมื่อคู่แทบจะวิ่งหนีไปทันที
“ไอ้นินจา.....หายตัวหนีให้ได้ตลอดนะ” ผมกัดฟันพูดเบาๆ
“พี่เคครับ” ผมกำลังจะเดินออกจากคณะหลังจากทนรอไอ้นินจาบ้านั่นเกือบสามชั่วโมง แต่ก้ไม่เจอตัว อยู่ๆก็มีคนมาเรียกผมไว้ก่อน
“อะไร!” ผมหันไปดุไอ้คนที่มาเรียกผมไว้
“คือผมอยากจะขอถ่ายรูปพี่สักรูปจะได้ไหมครับ” หลังจากผงะจากเสียงดังของผมแล้ว ไอ้เด็กที่มาใหม่ก็ก้มหน้าก้มตาถามผมเบาๆ
ผมไม่ชอบที่จะให้ใครมาถ่ายรูปผม เพราะผมไม่ชอบเก๊กท่า แต่ถ้าแอบถ่ายทีเผลอผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ครั้งนี้ผมมีอะไรที่ดีกว่าการดุไอ้เด็กนี่
“อยากได้รูปพี่หรอ” ผมก้มหน้าลงไปถามไอ้เด็กนั่น
“ครับ”
“นายร้จักคนที่ชื่อนินจาไหมหละ ไปหาที่อยู่ของคนนั้นมาให้พี่ แล้วพี่จะยอมให้นายถ่าย” ผมบอกด้วยรอยยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ ซึ่งเด็กนั่นเมื่อได้ยินที่ผมบอก ก็รีบเดินกลับไปหาที่กลุ่มเพื่อนทันที
หึ หึ หึ ได้สนุกแน่ - - ไอ้นินจาตัวแสบ - -
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูอันดังสนั่นทำให้ผมต้องสะดุ้งตื่น เพราะหลังจากไอ้หมงกับไอ้เรย์กลับไปแล้ว ผมก็ไม่มีอะไรทำ ก็เลยนอนเล่น แต่ไหงหลับไปได้ยังไงก้ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็สี่โมงเย็นแล้ว ก็ตอนที่ได้ยินเสียงเคาะมหาโหดนี่หละ
“คร้าบบบ มาแล้วคร้าบบบบ” ผมตะโกนตอบไปหลังจากตั้งสติได้
“มีอะไรครั...........บ” เมื่อผมเปิดประตูก็พบกับนรกของแท้ยืนอยู่หน้าประตู
พี่เคมายืนเอามือค้ำกับบานประตู และส่งยิ้มอันน่ากลัวมาให้ผม ก่อนที่จะประมวลผมไปมากกว่านั้น ผมรีบปิดประตูทันที แต่ก็ช้ากว่าพี่เค เพราะตอนนี้ทั้งผมและพี่เคต่างยื้อบานประตูกันไปมา
“ไอ้เด็กตะเกียบเปิดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงดังของไอ้พี่เคทำให้ผมสะดุ้ง กลัวก็กลัว แต่ไอ้คำว่า – เด็กตะเกียบ – นี่สิทำเอาผมมือไม้อ่อน เพราะมันหมายถึงว่าพี่เคจำผมได้
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” พี่เคผลักประตูเข้ามายืนในห้องผมได้แล้ว และที่สำคัญกำลังยืนประจัญหน้ากับผมเต็มๆ รอยยิ้มที่ไม่บอกว่ามาอย่างเป็นมิตร มันทำให้ผมยิ่งสั่น
- ไอ้หมง ไอ้เรย์ กูรักพวกมึงนะ แต่กูทำบุญมาแค่นี้ เจอกันชาติหน้านะเพื่อน - ผมก็ได้แต่สวดภาวนาอยู่ในใจ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คราวนี้พี่เคตามน้องจามาถึงห้อง ไม่รู้ว่าน้องจาจะรอดไหม เป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ