[story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [story]!!! เป็นตุ๊ดหง่ะ บัดซบจริงๆเลยยยยยย !!! โดย ตุ๊ด ตจว.  (อ่าน 203160 ครั้ง)

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
"อยากกลับไปหาเธอ แต่มันคงทำให้เค้าลำบาก
และเค้าก้อคงหนักใจ ที่ฉันยังมาเจอ
อยากโทไปหาเธอ บอกเธอว่าฉันนั้นรักเธอมาก


แต่เค้าคงพูดแทนฉันแล้วหมดทุกคำ"

(ไม่เข้ากะเรื่องของพี่แบะเลย แต่อ่านแล้ว เพลงนี้ก้อแว๊บเข้ามาในหัว งงตัวเองเหมือนกัน)


เปนกำลังใจไห้ที่แบะนะคับ

ปล.อยากไห้กลับไปเปนเหมือนเดิม แต่มันก้อยากที่จะรับได้อ่ะนะ

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เศร้าอะ :เศร้า1:

เคยผ่านความรู้สึกนั้นมาแล้ว

มันลำบากจริงๆนะ :เฮ้อ:

suregirl

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่าควรจะบอกว่า
รักคือการให้อภัย    หรือ
เจ็บแล้วต้องจำ     ดี
เฮ้อ

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เช้ามืดของวันต่อมา  ฉันขึ้นรถเที่ยวแรกที่ท่ารถพัทยาเหนือเข้าหมอชิต กว่าจะถึงกรุงเทพและต่อรถเข้าบ้านอีกสองเที่ยวสามเที่ยว ก็เย็นย่ำมากๆ แต่ทว่าบรรยากาศสองฟากทางเต็มไปด้วยความทรงจำ ฉันได้กลิ่นหอมละมุนของความหลัง ทันทีที่รถเหยียบเข้าตัวจังหวัดบ้านเกิด

ใจจริงฉันอยากไปไหว้ศพอาจารย์ตั้งแต่วันแรกที่ถึง แต่ด้วยเกรงว่าจะมืดและบ้านอยู่ไกลมาก ฉันจึงตัดสินใจไว้สมทบกับอีบริทย์พรุ่งนี้จะดีกว่า  ถึงตัวจังหวัด ฉันต่อรถเข้าอำเภอทันที ไม่ได้กลับบ้านมาซะนาน ดูมีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปมาก ต่างจากที่ฉันเทียวนั่งรถเรียนอยู่หลายโข  ทางที่เคยเป็นแค่ถนนลูกรัง วิ่งทีฝุ่นตลบ เดี๋ยวนี้ก็หันมาราดด้วยยางมะตอย ข้างทางที่เคยเขียวครึ้มด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ถูกจับจองด้วยบ้านเรือนผู้คนเป็นหย่อมๆ
แต่จะถึงกระนั้นก็ไม่เป็นไร  ความทรงจำดีๆ มันไม่เคยลบเลือนไปจากสมองฉันอยู่แล้ว

18.30 น. โดยประมาณ รถประจำทางจอดลงตรงป้ายสุดท้าย ฉันค่อยๆเดินจากรถ และเห็นอีบริทย์นั่งรออยู่แล้วที่ศาลาแสนเก่าและขาดการดูแลรักษา

"อ๊ายยยส์ อีแบะ" อีบริทย์กรี๊ดเสียงดัง กร่างตามประสาเจ้าถิ่น มันถลาทำท่าจะมากอดฉัน ดีที่ฉันยกส้นตรีนขู่เอาไว้ก่อนทัน อีเชี่ย ผิดผีหมด

"แหม ก็คนคิดถึง" มันบ่นอุบ กรูก็คิดถึงไม่แพ้กันหรอก คิดถึงทุกอย่างเลย ตอนนี้สมองฉันมีแต่เรื่องดีๆ ที่ผุดขึ้นมามากมายอย่างอัตโนมัติ ลืมเรื่องร้ายๆ ไปได้หมดเชียว ฉันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นบรรยากาศที่ฉันคุ้นเคย ตอนนี้อยุ่รายล้อมฉันแล้ว เหมือนฝันไปเลยเชียว

"ไปตลาดนัดกัน กรูอยากกินปลาเห็ด" ฉันเอ่ยปากชวน และจำได้เสมอว่าทุกเย็นของที่นี่ คนจะแอ้อึงกันตลาดนัด แหล่งรวมของกิน และของใช้กระจอกๆ ตามประสาบ้านนอก

ฉันประคองตัวพร้อมกระเป๋าเป้หนักอึ้งขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์คนใหม่ของอีบริทย์ ในบรรดาเพื่อนทั้งหมด อีนี่น่ะล่ำซำและสบายสุดๆ แระ มันค่อยๆ สตาร์รถมอเตอร์ไซด์และค่อยๆ ออกตัวอย่างนิ่มนวล เราคุยกันไปตลอดทางตามประสานานๆ เห็นหัวกันที

ถึงตลาด เรากลับไม่ได้กินปลาเห็ดอย่างที่ตั้งใจไว้ แหม! มาช้าไปหน่อยเดียวเอง  ตลาดที่นี่ดูเติบโตขึ้นตามมูลค่าซื้อขาย (- -*) หลายๆคนที่จำชั้นได้ก็เข้ามาทักกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่เคยเห็นคนสวยล่ะซิ..

"โห.. อีแบะใช่ไหมเนี่ย ตายๆๆ แม่คุณ ทีแรกนึกว่าผู้สาวที่ไหน " ป้าขายกับข้าวร้านประจำ ทักทายฉันอย่างตื่นเต้น  ฉันตื่นเต้นเช่นกัน ก่อนจะอุดหนุนกับข้าวแกมาหลายอย่าง ไม่รู้จะกินกันหมดหรือเปล่าเลยเนี่ย แต่ช่างเหอะ เพราะข้าวมื้อต่อไปที่กำลังจะได้กิน จะเป็นมื้อที่ฉันรอคอยที่สุด ต้องอร่อยมากแน่ๆ

พอครั้นซื้อกับข้าวเสร็จ ฉันรีบชวนอีบริทย์กลับบ้าน คิดถึงพ่อแม่ อยากเจอแย่แล้ว อีบริทย์ก็เข้าใจ ฉันเห็นมันละจากไอติมกะทิที่เพิ่งซื้อมากิน แล้วหันมาขับมอเตอร์ไซด์อย่างไม่มีปริปากบ่นซักคำ ไม่นานเราก็มาถึงบ้าน เหมือนบ้านฉันกำลังรอคอยฉันอยู่  แม่เปิดไฟหน้าบ้าน เปิดหน้าต่างประตูไว้รอทุกบาน และทันทีที่ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซด์ดังมา แม่กะพ่อแกก็กระโจนขึ้นมาดูที่หน้าต่างทันที  สิ่งแรกที่เห็นคือ ยิ้มหวานๆ พ่อแม่นี่แระ
"แม่หวัดดี พ่อหวัดดีค่ะ" ฉันรีบยกมือไหว้ ก่อนจะแบกกระเป๋าเป้สะพายไว้ที่ไหล่

"ดีลูก ทำไมถึงซะเย็นเลย" พ่อใส่รองเท้าหูคีบเก่าๆ เดินเข้ามาหาฉันก่อนจะช่วยฉันถือกระเป๋า ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว กับการกลับมาของฉันในมาดของกระเทยสมบูรณาการ พ่อแกเลิกแปลกใจไปนานแระ

"ก็ได้มารถเก่า แถมจอดนานเป็นชั่วโมง" ฉันบ่นอุบเรื่องรถที่ชอบจอดข้างทางเพื่อรับผู้โดยสารตามจุดต่อรถต่างๆ

"อ๊ะ แม่ นี่" ฉันชูถุงกับข้าวอวด ในขณะที่เดินเข้าใกล้แม่แกเต็มที

"ซื้อทำไมเยอะนักหล่ะลูก แม่ก็ทำกับข้าว" แม่บ่นตามเคย แต่ก็รับกับข้าวไปจากฉันไปตรวจดูอย่างรวดเร็ว

ฉันถอดรองเท้าผ้าใบที่ใส่มาออก เท้่าชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะอากาศร้อนอบอ้าว เข้าไปในบ้านวางกระเป๋ากองไว้กับพื้นได้ ฉันวิ่งไปห้องน้ำทันที อยากล้างเท้า และอั้นฉี่มาหลาย ชม. มากแล้ว

"ก๊อกๆๆ" ฉันเคาะประตูห้องน้ำแรงๆ แกล้งน่ะแหล่ะ พ่อแม่ขำอย่างตลก

"เออ กรูขี้อยู่" เสียงเอ็มตอบกลับออกมา  คงมีเพียงเท่านี้แหล่ะบ้านฉัน เอมันก็ย้ายไปอยู่กับเมียมันแล้ว (แต่คืนนี้มันจะมากินข้าวด้วย) เห็นว่ากันว่าเมียมันกำลังท้องกำลังไส้  นี่ไม่เท่าไร ฉันจะกลายเป็น อา คนแล้วเรอะ T_T

พอเอ็มออกจากห้องน้ำ  แม่ก็ใช้ให้ไปตามเอ

"บอกพี่เมิงนะ ว่าน้องมาแล้ว ให้มากินข้าว" แม่กำชับเอ็ม ความจริงโทรไปก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเดิน คราวนี้รู้แล้วใช่ไหม ว่าฉันติดงกมาจากใคร

ไม่กี่นาทีต่อมา เอก็มา พร้อมกับเมียขี้เหร่ๆ ของมันอีกคน ซึ่งฉันไม่รู้ืจัก เรานั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย และกับข้าวที่คาดว่าจะเหลือ ก็กลับหายเกลี้ยงไปทันตา มันเจริญอาหารอย่างบอกไม่ถูก

....
วันแรกนี่เหนื่อยจิงๆ นั่งรถทัวร์มาทั้งวันจนตูดด้านชา เดินทีบิดซ้ายบิดขวาไม่เท่ากัน แต่อย่างนั้นก็เถอะ ฉันยังนั่งคุยกะพ่อแม่ อีบริทย์จนดึกดื่น ท่ามกลางกองทัพยุง ที่บินมากัดอย่างไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน

"เก็บเงินไว้นะลูก จะได้ไม่ลำบาก เหมือนพ่อแม่" พ่อฉันพูด ความจริงเงินก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความสุขเสมอไปหรอก ฉันแอบค้านพ่อในใจ

"เออ แล้วนี่ ไม่มีฟงมีแฟนกับเค้าเรอะ" แม่ฉันถาม เหมือนมีคนเอาลิ่มมาตอกทีหัวใจของฉัน โชคดี ที่มีเพื่อนดีๆ อยู่ข้างๆ

"โอ๊ยย ใครเค้าจะมาเอามัน สวยสู้หนูไม่ได้ซักนิด" อีบริทย์ตอบติดตลก พ่อหัวเราะเบาๆ ก่อนเราจะย้ายกันเข้านอน  แม่กลางมุ้งนอนให้ฉันกะอีบริทย์อยู่ข้างล่างเหมือนเมื่อก่อน  พัดลมเก่ากึกตัวเดิมสมัยหลายปีที่แล้ว ยังอยู่อย่างสมบุกสมบรร ทำไมแม่ไม่ซื้อตัวใหม่บ้างนะ อุตส่าห์ส่งเงินให้ปีตั้ง 200

"เฮ้ย อีแบะ เมิงกินยาอะไรวะ ทำไมตัวขาวขึ้นเยอะเลย" อีบริทย์ถามฉัน มันเอาแขนมาเทียบสีผิวกับชั้นใหญ่ ห่างกันอยู่ประมาณ 2 เฉดเห็นจะได้

"ก็กรูไม่ได้ขี่มอไซด์ตากแดดหัวแดงจีบผู้ชายอย่างเมิงไง" ฉันพูดประชดมัน แม่เพิ่งเล่าให้ฟังว่าอีบริทย์ติดเด็กผู้ชายรูปหล่อคนนึง ยังเรียนไม่จบ ม.6 เลยมั้ง พอพูดงี้มันก็ทำกระบิดกระบวยใหญ่เลย

"อีเชี่ย อย่าล้อกรูดิวะ" มันหน้าแดง ก่อนจะเอามือมาหยิกฉันเจ็บๆ ทีนึง

"น้องมันน่ารักจริงๆ นะเมิง เทพบุตรของกรูเลยแหล่ะ" มันพูดพร้อมเอาหมอนปิดหน้า สงสัยละอายแก่ใจ  ฉันหล่ะได้แต่ส่ายหัวไปมา  อย่างนี้จะเรียกว่าเลี้ยงต้อยดีไหมหนอ

"เมิงว่า น้องมันจะรักกรูไหมวะ" อีบริทย์ยิ้มหน้าแฉ่ง นอนตะแคงถามฉัน

"อ้าว กรูจะรู้กะเมิงหรอ" ฉันด่าไป อีนี่ มันจะบ้าหรอไง

"แหมๆ กรูก็ถามในฐานะเมิงมีประสบการณ์มาแล้วไง เผื่อ.." อีบริทย์พูดต่อ แต่ฉันหันหลังให้มันทันที มันเลยหยุดพูด

"เรื่องความรัก อย่ามาถามกรู" ฉันตอบ

///////


บ่ายโมง ฉันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จในชุดเสื้อเชิตสีขาว กระโปรงสีเทา อีบริทย์ถอยรถกระบะเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าบ้าน ฉันเดินตามมันไปขึ้นรถ

"เมิงชัวร์ป่ะเนี่ย" ฉันถามอย่างระแวงๆ เมื่อรู้ว่าอีบริทย์จะเป็นคนขับรถไปวันนี้

"แหม อีนี่ ดูถูกกรูซะแระ กรูขับมาปีนึง เพิ่งชนไป 2 ครั้งเอง" อีบริทย์อ้างสถิติ ซึ่งก็ไม่ทำให้ฉันสบายใจขึ้นเลยซักนิด เครียดหนักกว่าเดิมซะอีก

"แล้ว แล้ว เมิงมีใบขับขี่แล้วหรอ" ฉันถามกล้าๆ กลัวๆ เมื่ออีบริทย์เริ่มสตาร์ทรถ มันหันหน้ามาทำงงๆ นี่เมิงอย่าบอกนะ ว่าไม่มีอ่ะ

"ใบขับขี่?" มันย้อนเสียงสูง ขมวดคิ้วหากันอย่างงงๆ

"กรูอายุถึงแล้วหรอวะ?" ดูมัน - -* อีสาด อายุขนาดเมิงรอทำใบมรณะบัตรทีเดียวเลยก็ได้

"เหอๆๆ อีฟายยย พอๆ เลยเมิง เมิงจอดเลย เดี๋ยวกรูเหมามอไซด์รับจ้างไปเอง" ฉันพูดเย้าแหย่ อีบริทย์หัวร่อ

+ + + + + + + + +

งานศพของอาจารย์ มีคนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นพวกอาจารย์ข้าราชการ และนักเรียนนักศึกษา ทั้งในและนอกเครื่องแบบ เท่าที่ฉันรู้จักน่ะมีไม่กี่สิบคนหรอก  อย่างว่า ปีนึงอาจารย์สอนเด็กกี่คน และกี่สิบปีมาแล้ว ที่อาจารย์ทำแบบนี้  อาจารย์เป็นคนทุ่มเทกับการสอนหนังสือมากๆ ฉันเห็นแกทำงานหนัก และแม้บั้นปลายชีวิตของจารย์จะไม่สวยหรู  แต่คุณงามความดีที่จารย์เคยทำ จะยังอยู่ และจะจารึกในใจลูกศิษย์ทุกคนตลอดไป

"ชีวิตมันก็แค่นี้เองเนอะ" ฉันพูดพึมพำกับอีบริทย์ซึ่งออกอาการเศร้าโศกเสียน้ำตา

"น่านดิ" มันตอบ ก่อนจะหาทิชชู่เช็ดน้ำหูน้ำตายกใหญ่ เมื่อเงียบหายดีแล้ว เราไปช่วยเด็กรุ่นน้องเสิร์ฟน้ำเสริ์ฟท่าแขกในงาน  ฉันกะมางานจารย์อีกที ก็มันเผานั่นเลย


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
แงๆๆๆ ทำไมมันเจ็บปวดไปถึงกระดูกหัวเข่าเยย
 :monkeycry4: :monkeycry4: :monkeycry4:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สุขและเศร้า เคล้ากันไป

 :monkeysad2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เศร้าเนอะ  ลืมอะไรก็ลืมได้  แต่ลืมหัวใจเรานี่มันลืมยากอยู่นะ
เอาใจช่วยคุณแบะจ้า  :เศร้า1:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
และแม้ความเศร้าเสียใจที่มาพร้อมกับบรรยากาศงานศพ มันจะทำให้ฉันเลิกคิดถึงปัญหาส่วนตัวไปพักนึง  แต่ก็นั่นแหล่ะ แค่พักเดียว เวลาที่ฉันเจอเพื่อนรุ่นเดียวกัน เค้ามักจะถามหาเอกกับฉัน นั่นไม่ดีเลย สำหรับคนเพิ่งตัดใจอย่างฉัน

"อีแบะ ทำไมเมิงไม่หาผัวใหม่" อีบริทย์ถามฉัน ในขณะที่พยายามประคองรถให้ไปตามถนนชานเมือง ในขณะที่ท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแม้แสงจันทร์

"หาไปทำไมวะ" ฉันย้อนถาม ชีวิตคนมันสั้น ไม่นานเราๆ ก็จะเหมือนอาจารย์นั่นแหล่ะ

"อ้าว อีเชี่ยย มีผัวมันสนุกนะเว้ย" อีบริทย์ขึ้นเสียง อีสาด กรูรู้หรอกว่าหนุกอ่ะ

"ง้านเมิงหา เดี๋ยวกรูขอยืมเมิงใช้ ดีมะ" ฉันพูดติดตลก แต่อีบริทย์เบะปาก เกือบ 360 องศา

"อีแบะ" อีบริทย์เรียกฉันอีกครั้ง เมื่อเสียงหัวเราะเริ่มจางหาย มันพูดกับฉันจริงจัง

"กรูขออะไรเมิงอย่างสิ ได้ไหม" มันพูด ตอนนี้กรูขอแค่เมิงพากรูกลับบ้านอย่างปลอดภัย เมิงจะขออะไรกรูให้ทั้งนั้นแร่ะ - -*

"เมิงอย่าไปคบไอ้เวนนั่นอีกเลยนะ ถือว่ากูขอ"
อีบริทย์ค่อยๆ จอดรถข้างทาง ก่อนจะหันมามองฉันเพื่อรอคำตอบ  ฉันยิ้มให้เพื่อน ซึ่งตรงข้ามกับจิตใจ ก่อนจะตอบไปว่า


"อืม...ได้"

*********

สองสามวันหลังจากนั้น ทำฉันมีความสุขมากถึงมากที่สุด ฉันไม่อยากกลับไปทำงานอีกเลย  หวังว่าซักวัน ฉันจะกลับมาเปิดร้านอะไรซักอย่างที่นี่ ฉันอยากจะอยู่กับพ่อ แม่ฉันที่นี่ อยุ่กับเพื่อนๆ อยู่กับธรรมชาติ ความซื่อและจริงใจของผู้คน

ก่อนวันฉันกลับหนึ่งวัน ฉันต้องไปเผาอาจารย์ ในใจฉันกลัวจะเจอกับเอกอยู่เหมือนกัน แต่กำลังใจที่ฉันมีตอนนี้ก็คงเพียงพอ สมมติถ้าต้องเจอกันจริงๆ หล่ะนะ

มองดูรอบๆ งาน วันนี้มีนักเรียนที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษามากันเกือบเต็มวัด ฉันเห็นกลุ่มกระเทยน้องๆ ใส่เสื้อรัดติ้ว กางเกงขาเดป ดูแล้วก็ตลกดี  น้องๆ พวกนี้พากันมองฉันใหญ่เลย หุหุ เหมือนกันกับฉันสมัยก่อนแร่ะ เจอกระเทยผมยาว มีนม ก็ชอบมองเหมือนกัน มันเป็นความใฝ่ฝัน

"หลับให้สบายนะคะ" ฉันพูดพึมพัม ก่อนจะวางดอกไม้จันทร์ลงในโลงศพที่เพิ่งเปิดฝาโลงออก อาจารย์ดูเปลี่ยนไปมาก ศพเริ่มอืด และมีสำลีอุดหูอุดจมูกไว้ สีผิวซีดเผือดจนจำแนกไม่ได้ว่าสีอะไร  แต่ยังไงๆ ก็ยังเป็นอาจารย์ของฉันอยู่ดี

เมื่อถึงเวลา ศพอาจารย์ถูกไสเข้าเมรุ เสียงเพลงเศร้าดังระงมไปหมด ฉันมองเห็นแต่ภาพคนร้องไห้ อาจารย์จะรับรุ้อะไรได้อีกหล่ะ ฉันมองตามควันสีดำที่ลอยล่องสู่ท้องฟ้า เราลากันตรงนั้น ตรงปลายฟ้า เราจะเป็นครูอาจารย์กัน ตลอดไป

////////

วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นสายโดยมีเจตนานิดหน่อย แต่ด้วยหน้าที่ ฉันต้องกลับแล้ว แม่เก็บของให้ฉันตั้งแต่เมื่อวาน มีของกินไปฝากอีต๋องอีกกระบุงเบอเร่อ มันต้องดีใจแน่ๆ

พ่อกับแม่ ลาฉันที่ท่ารถหน้าหมู่บ้าน ในขณะที่อีบริทย์อาสาจะนั่งรถไปส่ง แต่ฉันห้ามไว้ ขอบใจหล่อนมาก ที่เป็นเพื่อนที่ดีเสมอ ฝากดูแลครอบครัวฉันด้วย แล้วเราจะพบกันใหม่

ไม่ถึง 15 นาที รถประจำทางก็มา ฉันหอบข้าวของขึ้นรถไป หันกลับมามองทุกคนอีกครั้งแล้วน้ำตาจะไหล ฉันต้องรีบหันหน้ากลับมาอย่างด่วน เอาวะ...เพื่ออนาคต

รถแล่นออกไปช้าๆ หันกลับไปอีกที ฉันเห็นแต่ฝุ่นตลบ และมองไม่เห็นใครอีกแล้ว...
……………………………………………………………………………

รถโดยสารเทียบชานชาลาที่กรุงเทพ ก่อนที่คนขับจะกดปุ่มเทกระจาดไล่ผู้โดยสารลงไป ฉันตระเตรียมสัมภาระเอาไว้เรียบร้อยแล้ว มีของฝากจากบ้านนอกถึงอีต๋องอีกต่างหาก  ความจริงฉันหลับมาเกือบตลอดทางหล่ะนะ หลับๆ ตื่นๆ แต่ไม่รู้เป็นไง พอรู้ว่าใกล้จะถึงกรุงเทพ กลับนอนไม่หลับไปดื้อๆ อย่างนี้เรียก คนมีแผลในใจได้หรือเปล่า

ถึงกระนั้นเสีย ฉันยังคงเหยียบเท้าลงกับพื้นดินเมืองมหานคร ฉันกระเตงกระเป๋าใบใหญ่ไว้ที่สีข้าง และเดินหิ้วของอีกอิรุงตุงนังเพื่อจะไปซื้อตั๋วอย่างยากลำบาก เพราะตลอดทางจะมีพวกแท๊กซี่และวินมอไซด์เข้ามาถามเสมอ

"ไปไหนเพ่ ไปไหนเพ่"

ฉันเดินส่ายหัวไปมาเหมือนพัดลมอยู่นาน กว่าจะพ้นจากคนเหล่านั้น ครั้งนึงเมื่อฉันยังไม่สันทัดในกรุงเทพ  ฉันมีความประสงค์จะซื้อตั๋วไปบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัด (เพื่อนในมหาลัย) ด้วยความไม่ประสีประสา ฉันไปขอความช่วยเหลือจากคนพวกนี้

"พี่คะ ซื้อตั๋วไป...  เท่าไรคะ" ฉันถาม

"โอ๊ยยย ไกลน้อง เดินไปไม่ไหวหรอก นั่งรถไป 200 ไปไหม" ไอ้นั่นตอบ ดีนะที่ฉันฉลาด (ฟามจริงตังค์เหลือไม่พอ) ไม่ตกเป็นเหยื่อ ตอนแรกก็ตกใจ นึกว่ามาซื้อตั๋วผิดที่ ดีไปถามเจ้าหน้าที่ก่อน ฉันเลยเดินไป 10 นาทีซื้อตั๋วได้สำเร็จ (จำเอาไว้น้าเมิง เจออีก หัวแตกแน่)

ได้ตั๋วรถกลับพัทยาแล้ว ฉันก็นั่งรออีกอยู่สัก 10 นาที ระหว่างนี้ก็ฟังเสียงรถบีบแตรและดมกลิ่นควันท่อไอเสียกันไปอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ทำไมนะ  แต่ฉันคิดถึงเค้า  อยากรู้ว่าเค้าทำอะไรอยู่ แต่เค้าคงไม่รู้ ว่าฉันอยู่ใกล้เค้านิดเดียวตอนนี้

* * * * * * * * * * * * *

ถึงท่ารถพัทยาเหนือ ฉันโทรจิกอีต๋องให้มารับอย่างด่วน ที่นี่ฝนตกหนักมาก น้ำท่วมตามถนนเหมือนทุกครั้งที่ฝนตก อีต๋องรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดี

"ฮัลโหล มารับกรูด้วย" ฉันพูด อากาศรอบตัวหนาวเย็น และอยากอาบน้ำนอนเต็มที่

"อีแบะ เมิงกลับมาเองได้เปล่า กรูไม่สบาย" อีต๋องตอบ น้ำเสียงจืดๆ สงสัยอากาศเปลี่ยนไปมา เลยได้คราวอีต๋องจะเปื่อยเข้าเสียแล้ว ปกติถึกยิ่งกว่าควาย

ละสายกันไป ฉันจำใจเดินฝ่าฝนไปรอรถสองแถว ระหว่างนี้นึกอยากจะทิ้งกระเป๋าที่แบกติดตัวมาด้วยอย่างเสียไม่ได้  เนื้อตัวฉันเปียกโชกไปด้วยฝน นี่มันเพิ่ง 3 ทุ่ม แต่ทว่าไม่มีรถโดยสารที่ไหนอยากวิ่งตอนฝนตกหนักหรอก  ฉันรอรถนานมากๆ หนาวก็หนาว จนอีต๋องก็โทรเข้ามาหาอีก

"เมิงอยู่ไหน กลับได้เปล่า" มันถาม

ฉันพูดเอามือป้องโทรศัพท์ เพราะกลัวมันจะโดนละอองน้ำแล้วจะเจ๊งกะบ๊ง
"รอรถอยู่เว้ยย รถไม่มีเลย" ฉันตะโกนตอบ เพราะต้องสู้กับเสียงน้ำฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่

"เอ้ยๆๆ ง้านเมิงรออยู่ข้างหน้าหล่ะนะ" อีต๋องพูด "เดี๋ยวกรูวานให้เต้มันไปรับ" ฉันได้ยินประมาณนั้น เพราะเสียงฝนดังมาก ฉันรับปากและก็รอต่อไป

มาเร็วๆ เน้อ กรูหนาว....


----------------------------------------

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
รักเพื่อนต๋องจริงๆเลย
เป็นเพื่อนที่ดีมั่กๆ  :give2:

เอาใจช่วยคุณแบะนะ  :yeb:


คำสุดท้าย ฟังแล้วเศร้าจัง = =

"มาเร็วๆ เน้อ กรูหนาว"
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-04-2007 20:48:36 โดย o LulLaby o »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
สงสารจัง ยิ่งหนาวกาย แต่ใจหนาวกว่า
 :impress3: :impress3: :impress3:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องมันเศร้าอ่ะ :monkeycry2:

ดีที่มีกำลังใจดีๆจากเพื่อนๆ และครอบครัว

เป็นกำลังใจให้นะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ทำไมเวลาเศร้าต้องมาพร้อมกับสายฝนหนา

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
"ชั่วโมงครึ่ง" นานไปไหมกับการขับรถมารับฉัน ห่างจากบ้านไม่ถึง 10 กิโล 
ฉันปากเขียว และผิวหนังซีดและเหี่ยวย่นตามฝ่ามือ เพราะยืนตากฝนมาเป็น ชม.ๆ ตอนนี้สัมภาระที่เคยดูแลเอาไว้ให้ห่างสายฝน ถูกวางกองลงปลายเท้า เปียกโชกไปด้วยฝนที่สาดเข้ามาไม่หยุดหย่อน

"ปี๊นๆๆ" ไอ้เต้บีบแตรเรียกในขณะที่ยังจอดรถไม่หยุดดีเสียด้วยซ้ำ

ไอ้เรื่องจะออกมาช่วยถือของน่ะหรอ ฝันไปได้เรย มันกดเปิดท้ายรถให้ฉัน แล้วตัวอิฉัน หญิงสาวแสนสวยและบอบบาง ก็ต้องหอบ everything ไปเทใส่หลังรถเอง แค่นั้นมันยังบ่นจะแย่

"โห เจ๊ รถผมเปียกหมดเรย พาเข้าคาร์แคร์ให้ด้วยเลยนะ เลอะเทอะไปหมด" ไอ้เต้ทำหน้าเบ้ ก่อนจะเบียดรถเข้าอีกเลน เพื่อรอเลี้ยวไปถนนอีกสายต่อไป

เชอะ.. ให้ช่วยแค่นี้ทำเป็นบ่น น้ำใจหายากจิงๆ ในเมืองใหญ่ๆ เนี่ย ฉันคิดค่อนขอด ในใจ หยดน้ำฉันหยดเต็มเบาะนั่งและไหลเปรอะไปยังพื้น ฉันหนาวจะแย่ แต่ไอ้เต้ กลับไม่มีทีท่าจะลดแอร์ลงซักนิด

"เป็นอะไรตัวสั่น" มันถามหน้าตาบ๊องแบ๊ว สาดด เป็นนางแมวขอฝนหล่ะม้าง พูดไม่คิด

"ขับๆ ไปเฮอะ" ฉันพูดอย่างอารมณ์เสีย ได้ยินเสียงมันหัวเราะหึๆ อยู่ข้างๆ ฉันแกล้งหลับตา เพราะไม่อยากจะสร้างสงครามประสาทกับเด็กไม่รู้จักโต

รถมันแล่นช้าได้ใจมาก เพราะฝนตกลงมาขังเป็นแอ่งเบ้อเริ่มกลางถนน ขับรถฝ่าไปก็ครึ่งคันได้แร่ะ มีบางคนเครื่องดับ ก็ต้องเข็นกันให้จ้าหล่ะหวั่น ใครขับมอเตอร์ไซด์ ก็ต้องเดินจูงกันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูไอ้เต้ก็หงุดหงิดอยู่ไม่น้อย นี่มันก็ดึกอยู่

"ทำไรอยู่หรือเปล่า" ฉันถามดีๆ

เต้ทำหน้างงๆ ก่อนหันมาตอบอย่างไม่รู้ว่าตั้งใจกวนหรือเปล่า

"อ้าว ก็ขับรถไง เจ๊ บ้าเปล่า" มันหันมาแว๊ดใส่ฉัน ฉันได้ทีเลยแกล้งเอาหัวโขกกระจกรถมันซะ 1 ที สม

"หมายถึงตอน จะมาน่ะ ทำอะไรค้างอยู่หรอ" ฉันอธิบายเพิ่มเติม มันถึงบางอ้อทันที

"ช่วยตัวเอง (จริงๆ มันพูดอีกคำนึง) อยู่เลย ตอนเจ๊ต๋องโทรอ่ะ อิอิ" ไอ้เต้พูดอย่างไม่อาย ไม่รู้ว่ามุขไหนของมัน

ฉันเบือนหน้าหนีเข้าหากระจกและมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนเดิม เบื่อไอ้เด็กบ้านี่ชะมัด

"โหยย เจ๊ เรื่องธรรมชาติน่า คนไม่มีแฟน หุหุ" มันยังไม่เลิก ไม่พอเท่านั้นยังเอามือมาสะกิดตรงขาของฉันยิกๆ อี๊ ล้างมือมายังเนี่ย มือข้างไหนเนี่ย

"เจ๊ๆ แล้วเจ๊ไม่มีแฟน เจ๊ไม่เหงาหรอ" มันถาม ในขณะที่รถก็ยังติดแอ้งแม้งอยู่ตรงนั้น ไปไหนไม่ได้

"ทำไมต้องเหงา" ฉันเถียงสั้นๆ มันทำหน้าไม่เห็นด้วย

"อ้าว คนเราเกิดมาก็ต้องมีความรัก ต้องมีแฟนเป็นของธรรมดา มีอะไรจะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ อยู่คนเดียวไม่มีความสุขหรอก แน่ะ..ดูผมดิ ต้องช่วยตัวเอง สู้มีแฟนไม่ได้" ไอ้เต้พูด ความจริงมันก็หล่อดีนะ บ้านก็รวย แต่แหม พูดจาหมาไม่แด๊กมากๆ แล้วผู้หญิงที่ไหนเค้าจะเอาหล่ะเนี่ย

"แล้วทำไมไม่มีหล่ะ เป็นเกย์หรอไง" ฉันพูดอย่างรำคาญในใจ ทั้งหนาวแระก็เหนื่อย ซ้ำร้ายดูเหมือนจะไม่พ้นไข้แน่ๆ คืนนี้

"เย้ยย ไม่ใช่  ชายทั้งแท่งนะเพ่" มันรีบแก้ตัวโหย๋งๆ ร้อนตัวจิงๆ ยิ่งได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจจากฉัน มันก็ยิ่งชักสีหน้าไม่พอใจ คราวนี้เริ่มขับรถปาดไปปาดมาซะแระ กว่าจะมาถึงบ้านได้ อ๊วกแทบพลุ่ง

ฉันรีบกระโจนลงจากรถ และลากข้าวของหลบฝนไปหน้าห้อง โชคดีได้อยู่ชั้น 1 ไม่ต้องขึ้นกระไดให้ยากลำบาก

"อีต๋องง เปิดประตูหน่อย กรูหนาวว" ฉันเคาะประตู สองสามครั้ง

อึดใจเดียวก็มีแสงสว่างเปิดขึ้นในห้อง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก

ฉันผลักเข้าไปในห้องและโยนข้าวของที่โชกไปด้วยน้ำลงพื้น

"หมด หมดกัน ของฝ่งของฝาก" ฉันบ่นอุบ ทุกอย่างเละตุ้มเป๊ะ ของกินไม่เป็นของกินเลยทีเนี้ยะ อุตส่าห์จะเอามาฝากคนป่วย ฉันทำท่าจะหัวเราะใส่อีต๋อง  แต่..

"เมิงเป็นอะไร ของเมิง" ฉันถามและหายใจไม่ทั่วท้อง อีต๋องเอามือป้องปิดหน้าตาไว้ใหญ่ แต่สายไปแล้ว ฉันเห็นใบหน้าบวมปูด และจ้ำเขียวๆ แดงๆ เห็นได้ชัด ของมันอย่างชัดเจน

....
ฉันโจนเข้าไปหาเพื่อนบนเตียงทั้งที่ตัวก็ยังเปียกอยู่ มีแผลบางแผลยังเกรอะไปด้วยคราบเลือดที่ล้างไม่หมด อีต๋องเริ่มพูดไม่รู้เรื่อง เพราะตัวมันร้องไห้ออกมา

"ใครทำเมิง" ฉันถาม จากหนาวๆสะท้านอยู่เมื่อกี้ เหมือนมีไฟสุมอยู่ในตัว ใบหน้าฉันร้อนผ่าว

"ไอ้โชค มันตีกรู ฮือๆ" เหมือนฉันจี้แผลหัวใจเพื่อน อีต๋องร้องไห้โฮ โผกอดฉันไว้แน่น

ไอ้โชค แมงดาในคราบผู้ชายในสายตาฉัน มันทำงานและอาศัยอยู่ร้านลาบ แถวหาดจอมเทียน เลยพัทยาใต้ไปอีกหน่อย ฉันเองเพิ่งรู้จักและรู้ว่ามันปิ๊งปั๊งกันกับอีต๋องก็วันนี้แร่ะ

"ใคร ไอ้โชคเป็นใคร แล้วมันทำเมิงทำไม" ฉันซักไซร้ไม่เลิก อีต๋องสะอึกสะอื้นและไม่ค่อยจะปริปากบอกอะไร ฉันถามอะไรก็ไม่ค่อยตอบ จนเองก็เริ่มโมโหในตัวมันอยู่ไม่น้อย

ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น เรานั่งแยกกันอยู่คนละฝั่ง ฉันนั่งตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนอีต๋องนอนหันหน้าไปทีทางอยู่บนเตียง  ได้ยินแต่เสียงสายฝนที่เทกระจาดลงมาไม่ยั้ง

"พรุ่งนี้ กรูจะพาเมิงไปแจ้งตำรวจ" ฉันลุกขึ้นบอกเพื่อน ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินไปห้องน้ำอย่างสุดเซ็ง

"กรูไม่ไป" อีต๋องตอบกลับมา

"เมิงต้องไป" ฉันตวาดเพื่อนอีกครั้ง และทนกับความโง่งมในตัวมันไม่ไหว

"ไม่ กรูไม่ไป"

"เมิงไม่ต้องมายุ่งเรื่องของกรู"

อีต๋องตะเบ็งกลับมา ก่อนที่มันจะใช้ผ้าห่มคลุมโปง เพื่อแสดงทีท่าว่าไม่อยากได้ยินอะไรจากฉันอีกแล้ว

+ + + + +

ฉันโกรธเพื่อนฉันมาก อาบน้ำในห้องน้ำน้ำตาก็ไหล ตอนนอนอยู่บนเตียง ใกล้ๆ มัน ฉันก็ร้องไห้  เราเป็นเพื่อนกันมาแต่เด็ก ไม่นึกว่าวันนึงมันจะเห็นผู้ชายดีกว่าฉัน เราเริ่มแตกคอกัน และเช้าของอีกวัน มันก็ไม่ไปส่งฉันทำงานอย่างที่เคย ได้ทีกับที่ฉันเป็นไข้ เลยถือโอกาสไปหาหมอ เอาใบรับรองแพทย์ไปลางาน ได้หยุดไปอีก 2 วัน

ฉันอึดอัดมากในช่วงเวลานี้ อีต๋องจะกลับห้องก็ตอนที่มันพร้อมที่จะอาบน้ำนอนได้เลย ส่วนฉันเอง อยู่คนเดียว ก็ได้แต่เล่นเน็ต เล่นโน่นเล่นนี่ จนไม่มีอะไรจะเล่นอีกแล้ว 
ฉันโทรไปหาอีบริทย์ อีบริทย์ก็พูดทำทีเข้าข้างอีต๋อง  นั่นสินะ คนมันกำลังมีความรักกันทั้งคู่ มันจะรู้ไหม ว่าวันที่มันจะต้องเจ็บเหมือนอย่างที่ฉันเคยเจ็บ รู้สึกยังไง ทำไมถึงไม่กลัวกันบ้าง...

พูดไปสองไพเบี้ย ฉันกลายเป็นอากาศในสายตาเพื่อน ไม่มีใครฟังที่ฉันพูด ความห่วงใยจากฉันกลายเป็นส่วนเกิน ฉันทั้งอึดอัด ทั้งทรมาน ยิ่งเห็นแผลในตัวมันทีไร กลับเจ็บจี๊ด เหมือนเป็นแผลของฉันเอง รักเค้าแล้วโดนแบบนี้ ยุติธรรมแล้วใช่ไหม ในเมื่อไม่มีใคร ฟังที่ฉันพูด ฉันเอง.. ก็จะไม่ฟังใครเหมือนกัน

ฉันเลยโทรไป

หาเอก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :เศร้า1:  :เศร้า1:  :เศร้า1:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
อ้าววววว

ไหงเป็นแบบนั้นหละ






เชียร์จ๊อดเหมือนเดิม

เอิ๊กๆ :yeb:

rarmz

  • บุคคลทั่วไป
แป่วว แล้วโทหาเอกทะมัยละนั่น?

รออ่านตอนต่อไปละกัน เน๊อะ?

ปล. เต้นี่ น่ารักเน๊อะ ฮาฮา

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ่านถึง " ชั้นเลยโทรไปหา เอก"
"หอยหลอด" เป็นงั้นไปสิ เจ๊แบ๊ะ  :serius2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ความรักมักอยู่เหนือเหตุผลใดๆ  :เฮ้อ:

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
ง่ะ  :serius2:

เจ๊แบะโทไปคุยอะไรกับเอกเนี่ยยยยยย

อยากรู้ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ถ้าแน่ใจว่าโทรไปแล้วไม่มานั่งร้องไห้ต่อก็โทรไปเถอะนะครับ  คุณเฟียซ :call: :call:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
คนที่เรานึกถึงยามทุกข์ ก็คือคนที่อยู่ก้นลึกของหัวใจ
 :3024:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ยังไม่มาอีกเหรอ

รออยู่นะค้าบบบบบบบบบบบบบบบ

 :yeb:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
เรื่องนี้คุณแบะยังไม่มาต่อเลยอ่า 
รอกันไปก่อนน้า  มาเมื่อไหร่ จะอัพให้โดยไวจ้า  :yeb:

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
ว้าๆๆๆ เห็นมูมู่เข้ามาตอบ นึกว่าจะเอาตอนใหม่มาลงซะแล้วว  :give2:

ไม่เป็นรายๆ
สำหรับคุณแบะคนสวย รอได้อยุ่แล้ววว  :yeb:

mumumama

  • บุคคลทั่วไป
 :loveu: :loveu:ร่วมด้วยช่วยกันรออยู่คร้าบ :loveu: :loveu:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
มาแว้วววว  มาต่อกันเลยดีก่า 
ขอบคุณน้า  ที่เข้ามาให้กำลังใจ เป็นเพื่อนรอกัน  น่ารักมั่กๆ เลย ชื่นชมๆ  :loveu:
+++++++++++++++++++++++++++++++++
เอกแปลกใจมาก ที่ฉันโทรหาเค้า ฉันเองก็ประหลาดใจตัวเอง ที่ลืมไปเลยว่าเค้าเคยทำอะไรกับฉัน ตอนนี้ฉันแค่อยากปรับทุกข์ๆๆๆๆ กับใครซักคน ที่เค้าจะฟังฉันและไม่วางสายใส่ฉัน จนกว่าน้ำตาของฉันจะแห้งไป

6 ชั่วโมงต่อมา ฉันกำลังจะวางสาย เราคุยกันหลายเรื่อง ฉันไม่รู้จะเล่าทั้งหมดให้ฟังได้ยังไง เอาเป็นว่า จบกันที่ว่า

"เฟียซ.. เราเป็นเหมือนเดิมกันนะ" เอกพูด

...
...
....

"อื้มม.." ฉันตอบ

....

*************************************************

พรหล้า ณ แจงแวง
ขอเสนอ

ละครชีวิต

"อกกระเทยกลัดหนอง"

ตอน  ความวัว...ไม่ทันหาย

**************************************************

บ่ายแก่ๆ ของวันหนึ่ง  ฉันได้รับข้อความแปลกๆ จากอีต๋อง  พูดทำนองว่าเสียใจ ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว ฉันไม่รอช้า รีบโทรกลับไป (ตอนนั้นยังไม่ดีกันด้วยซ้ำ)

"เฮ้ย เมิงเป็นไรอีก" ฉันพูดกับมัน ด้วยภาษาที่คุ้นเคย แต่กลับได้ยินแต่เสียงร้องไห้ อย่าบอกนะ ว่าถูกตีมาอีกน่ะ ฉันกังวลในใจ

"กรู..กรู อยากตาย" อีต๋องฟูมฟายจนน่ากลัว

"เดี๋ยวๆๆ นะเมิง แป๊ปนะ เดี๋ยวกรูกลับไป" ฉันใจไม่ดี รีบขอลางานกลับห้องกระทันหัน  ฉันเรียกมอเตอร์ไซด์หน้าที่ทำงานแล้วบอกให้เค้ารีบให้เป็นพิเศษ 

15 นาทีโดยประมาณ ฉันวิ่งเข้าห้อง และไขประตูด้วยกุญแจสำรองที่ติดตัวไว้อย่างร้อนใจ กลัวจิงๆ หวังว่าเปิดไปคงไม่เจอมันน้ำลายฟูมปากอยู่ในห้อง

"อีแบะ...ฮืออๆๆ" อีต๋องโผกอดฉัน น้ำหุน้ำตาเปียกปอนไปหมด
"ใจเย็นเว้ย  เป็นไร ค่อยๆ บอกกรู" ฉันก็ใจแป้วเหมือนกันนะ แต่ถ้าเทียบกัน ก็คงยังมีสติมากกว่าอีต๋องอยู่หลายโข

อีต๋องส่ายหัว มันละจากตัวฉัน และกลับไปนอนฟุบหน้าร้องไห้กับที่นอน
ฉันถามเท่าไรกะไม่ตอบฉัน จังหวะดีๆ ก็เอามือฟาดหัวตัวเองแรงๆ หลายที  ฉันสงสารเพื่อนจับใจ และน้ำตาไหลไม่ปานเป็นเรื่องของตัวเอง เป็นไรของเมิงวะ.. (คงไม่พ้นเรื่องไอ้โชคแหล่ะ)

+ + + + + +

ประมาณทุ่มนึง ฉันเป็นคนจัดแจงหาข้าวปลา เตรียมไว้จะกินกันสองคน หลายอย่างดูน่ากินสำหรับฉัน แต่อีต๋องไม่แตะมันซักคำ  ซ้ำหนักกว่านั้น พี่ที่ร้านข้าวแกงยังโทรมาด่ามันอีก เพราะขาดงานไปเฉยๆ  ฉันเริ่มรู้สึกว่าหลายอย่างมันหนักเกินไปสำหรับเพื่อน ใจอยากจะบอกให้มันตัดใจจากไอ้โชคซะใจจะขาด แต่หวั่นจะต้องทะเลาะกันซ้ำอีกแน่

"กริ๊งงงๆๆ" เสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้น ไอ้ต๋องหยิบมาส่งให้ เพราะอยู่ใกล้มือ

"อ้าว ไอ้เอกโทรมา" อีต๋องพูด และทำหน้างง ก่อนจะส่งโทรศัพท์ที่ดังอยู่ตลอดให้ฉัน

"เมิงดีกับมันแล้วหรอ" มันถามฉันต่อด้วยความประหลาดใจ  ฉันรู้สึกผิดในใจ

"กรูเปล่า.." ฉันโกหกเพื่อน และลุกเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกห้อง...

//////////////////

พักนี้ ฝนตกหนักอยู่ตลอด  ยิ่งทำให้หลายคนรวมทั้งฉันกับอีต๋อง รู้สึกหดหู่ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก  ฉันเปิดละครช่องหลายสี หวังว่าจะได้ยินเสียงหัวเราะลั่นจากเพื่อนซี้อย่างที่เคย แต่ก็ไม่ ไม่ได้ยินอะไรออกมาซักแอะ

"เมิงผอมเกินไปเปล่าวะ" ฉันพยายามผลักให้มันกินอะไรซะบ้าง

"ทำไม อิจฉากรูหล่ะสิเมิง" อีต๋องตอบติดตลก ฉันแกล้งหัวเราะ แต่ก็เฝื่อนซะ

"กรูสวยกว่าเมิงขนาด" ฉันเล่นด้วย อีต๋องประคองตัวนั่งบนที่นอน ก่อนจะเบิร์ดกะโหลกหัวฉัน 1 ที พร้อมคำถากถาง

"ย่ะะะ อีคนสวย เป็นไงหล่ะ โดนผัวเก่าทิ้งไปมีเมียน้อย สวยเจงจะโดนหรอ" อีต๋องพูด และนั่งหัวเราะอยู่คนเดียว  จิงๆ แล้วฉันจะไม่รู้สึกอะไรเลย ถ้าตอนนี้ ไม่ได้กลับมารีเทิร์นกับเอกอีกครั้ง

"เชอะ อย่างกรู จะหาผัวอีกกี่คนก็ได้" ฉันพูด ทั้งที่ในใจโหวงๆ อีต๋องแสยะปากใส่ ก่อนปิดไฟปิดทีวีและเข้านอน
…………………………………………………….



อีต๋องอาการน่าเป็นห่วง นอกจากจะร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรในบางเวลาแล้ว บางทีมันก็อาเจียน (เพราะอดข้าวแต่กินยาคุมอยู่เรื่อยๆ) ฉันให้ทางเลือกมันสองอย่าง ถ้าไม่ยอมให้ฉันจับส่ง รพ. มันต้องกลับไปเติมพลังที่บ้านเกิด  อีต๋องเลือกอย่างหลัง ซึ่งก็เข้าท่าดี

ฉันช่วยมันแพคเสื้อผ้าใส่กระเป๋า อีกทั้งโทรบอกอีบริทย์ที่ฟากโน้นให้แล้วเรียบร้อย ทุกอย่างจัดเตรียมไว้หมด ตั๋วรถก็ซื้อแล้ว สุดท้าย อีต๋อง ไม่ไป

"ไม่ไปแล้วๆๆๆ โชค เดี๋ยวแอนไปหานะ" มันบอกชู้รักในโทรศัพท์ ฉันเพิ่งรู้ว่ามันเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็นแอน ตามใจเมิงเหอะ อีสาด :-) อีบรมโง่ เชื่อแมร่งเข้าไป ไอ้แมงดา:-)เนี่ย สารพัดคำหยาบ พรั่งพรูออกมาในใจ

ฉันโกดตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า อีต๋องเองเหมือนรู้ตัว มันรีบแจ้นออกนอกบ้าน และไม่โผล่หัวกลับมาเลย 2 วัน นี่ไง ใครว่าเพื่อนแท้ไม่มีช่องว่าง ถึงเวลาจิงๆ มันก็เป็นกันทั้งนั้น ฉันเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าใคร ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนไปหน้าตาเฉยเหมือนกัน

โว๊ยยยย เซ็งว้อย ทำไมชีวิตมันถึงยุ่งยากอย่างนี้เนี่ย นี่เพราะเป็นกระเทยนั่นแหล่ะ

"เมิงเป็นกระเทยเพื่ออะไร" ครั้งนึงฉันถามอีต๋อง ในวันที่เราอยู่กันว่างๆในห้อง

อีต๋องทำหน้าเหมือนสายันต์ ก่อนจะตอบแอ๊บแบ๊วว่า

"เพื่อชิงมงกุฎ" อีต๋องตอบไปบีบสิวไปอย่างเมามันส์

"ผิด อีดอด" ฉันค้านทันทีทันใด อีต๋องทำหน้าไม่สบอารมณ์ คงประมาณกรูจะบีบสิว เมิงจะเอาอะไรกับกรู มันหันมองหน้าฉัน ทำหน้ากวนๆหน่อย

"เกิดมาเพื่อโดนผู้ชายหลอกไง :-)ย" ฉันแอบด่ามัน ก่อนจะเหวี่ยงหมอนจากที่นอนใส่มัน โดนเต็มๆ จนหัวมันผงะ มันทำหน้าเคียดแค้นปนขำ

"อ๋อ ให้ไอ้เอกมันหลอกน่ะหรอ" มันพูด พร้อมกะปาหมอนลูกเดิมใส่ฉัน เจ็บเหมือนกันนะเนี่ย

"ไม่ใช่หรอก ให้ไอ้โชคหลอกตั้งหาก" ฉันยอมมันซะที่ไหน ปาใส่เข้าดั้งมันนุ่น

"อุ๋ยๆๆ อีเชี่ย กรูเจ็บนะเมิง กรูเอาจิงๆแล้วนะ" อีต๋องหยิบหมอนลุกยืน มันโดดเต้นผางๆ ก่อนที่ทั้งสองจะฟาดฟันหมอนใส่กันอย่างเมามันส์

"ไอ้โชค"
"ไอ้เอก"
"ไอ้โชค"
"ไอ้เอก"
"....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2007 21:37:29 โดย มูมู่น้อย »

LulLaby

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: เฮ้ออออออออออ

หัวอกกระเทยกลัดหนอง  :monkeysad2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
คนเราก็มีผิดพลาดกันได้นะ
อยู่ที่เราจะพยายามแก้ไขมันหรือปล่าว
 :monkeysad:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

เปิดศึก ผัวใครดีกว่าใคร

55555

 :kikkik:

mumumama

  • บุคคลทั่วไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด