ขอบคุณน้องๆหนูๆ เพื่อนๆที่มาให้กำลังใจนะคะ
@tawada_j ที่จริงตอนนี้ยังไม่หลุดจากเกมนะคะ แต่กำลังพยายามทำอย่างอื่นบ้างเพื่อจะดึงตัวเองออกไปจากเกม
@dahlia ก๊อปปี้ชีวิตใครมาเหรอ อิอิ ลองตามอ่านต่อไปค่ะว่าจะเป็นไง คนเขียนก็ยังไม่รู้เลย เพราะยังเขียนไม่จบ
@yeyong ตัวละครไม่บ้าหรอกค่ะ คนเขียนน่ะบ้ากว่า
@padigree ที่จริงก็ไม่เคยเขียนแบบนี้มาก่อนนะคะ แค่ทดลองดู ไม่รู้จะไปรอดมั้ย
@krappom เรื่องสั้นแน่นอนค่ะ แต่แต่งน้านนาน ไม่เอามาลงชาตินี้คงไม่จบ เลยเอามาลงซะเลย จะได้เขียนให้จบ
@♥โซดาน้อย♥ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ตามอ่านต่อไปนะ ห้ามทิ้งกันด้วยจ๊ะ
@jannie ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากแฟนประจำค่ะ หวังว่าเรื่องนี้จะถูกใจนะคะ
@thaitanoi ตอนนี้รู้ชื่อแล้วค่ะ คิดออกแล้วว่าชื่ออะไรดี
@PandP ติดตามกันต่อเลยค่ะ
@DEMON3132 ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากแฟนประจำอีกคนค่ะ ขอให้อ่านแล้วหายเหนื่อยนะคะ เจอแบบนี้กันทั้งนั้น
เวลาผ่านเรื่องหนักๆมันแทบแย่ แต่ที่สุดแล้วมันก็ผ่านไปได้ทุกที จนเรามีเวลามานั่งลัลลาอ่านนิยายกันอย่างสบายใจแบบนี้
อืมหวังว่าจะตอบครบทุกคนนะคะ ไม่รู้จะขยันตอบไปได้แบบนี้ทุกครั้งรึเปล่า ได้ข่้าวว่างานก็กองอยู่เหมือนตัวละคร ไหนจะงานนอกเก็บผักปลูกผัก เลี้ยงปลาวุ่นวาย
ติดตามกันต่อไปนะคะ อ่านกันเล่นๆ ขอให้ชอบกันค่ะ
************************************
วันศุกร์ถึงที่ทำงานเช้านี้...ไม่มีอะไรใหม่...
แต่... ‘กูว่าเมื่อคืนกูเคลียร์กองเอกสารบนโต๊ะไปหมดแล้วนี่หว่า’
หันซ้ายหันขวามองหาคนเอางานมาให้ แต่ก็ไม่มีใครยอมสบตา หลบตาเป็นกระสือกันไปหมด รื้อๆ กองดู...
‘เชี่ย.....งานกูที่ไหน จ๊อบเดส...ตอนสมัครมาใหม่ๆไม่มีทุกสิ่งอย่างนี่เลย....แล้วนี่มันงอกมาจากไหนวะ’หันไปถามพี่ม้าที่ซวยๆ เดินผ่านมาพอดี
“พี่ม้าครับ..นี่งานของใคร พี่มาวางที่โต๊๊ะผมทำไม วางจนแทบไม่มีที่จะวางงานของตัวเองแล้ว”
“ไหนค้า มามะ พี่ม้าดูให้”พี่ม้าทำเสียงดัดจริต ทำเป็นเนียนเดินมาพลิกดูงาน
แต่คนฉลาดอย่างเขาดูละครมาเยอะทั้งช่องสามช่องเจ็ด...ร้ายเงียบมันเป็นแบบนี้แหละ
นังคุณหญิงระย้ามาเองถึงจะไม่มาวางยาพิษก็ต้องแอบเอางานมากองไว้ให้แน่ๆ ตาวิบวับซะขนาดนี้
แล้วดูสิทำตาโตอย่างกับพิสมัยในวนิดา
“อ๋อ....งานของเราน่ะแหละ..ทำแทนจอย ไอ้น้องหนูจอยมันออกไปแล้ว..”ฟังน้ำเสียง ดูหน้าตา รอยยิ้มระริกในแววตา...พี่มันยิ้มเยาะกูวะ
“ออกไปแล้ว...” ตะโกนแทบไม่ออกเสียงขลุกๆอยู่ในลำคอ ถึงกับเข่าอ่อนทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรอย่างว่าเล้ย เขาต้องรีบจับโต๊ะไว้
ไอ้จอยน่ะตัวช่วยของเขา...ช่วยมาตั้งแต่ต้น พอใครเอางานมาสุมๆก็มีจอยที่คอยแบ่งไปทำ
มิน่ามันมาดีแตกเอาหลังๆ ต้องแอบเอาเวลาไปหางานใหม่แน่ๆเลย
‘ทำไมไม่ชวนกันบ้างว้า’
“ทำไมออกไม่บอกกันเลยเนี่ย...ไอ้จอยนะไอ้จอยทิ้งกันได้ลงคอ”เขาทำได้แค่บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง
“ก็น่านน่ะสิพี่ล่ะงง...อยู่ดีๆก็บอกไม่ไหวจะออกท่าเดียว เด็กสมัยนี้ไม่ไหว ไม่อดทน ไม่สู้งานกันเลย ดูสิเดือดร้อนต้องหาคนใหม่มาทำ..”
พี่ม้าทำเป็นบ่น แต่ทำไมบ่นไปยิ้มไป เขาเริ่มสงสัย หรือว่าแกจะบ้า จะดีใจทำแป๊ะอะไรที่เขาต้องมาทำงานคนเดียว
“แล้วคนใหม่เมื่อไหร่จะมาล่ะพี่ม้า...แค่งานตัวเองผมก็ทำเต็มเวลาจนล้นเวลาแล้วนะ...ทำของจอยอีก..ผมกลัวงานสะดุด”
แต่ในใจน่ะอยากบอกว่า แค่งานกูก็จะตายอ่า..อยู่แล้ว ไปเอางานมาเพิ่มให้กูทำมั้ย เงินเดือนก็ไม่เพิ่ม
พี่ม้าเงยหน้ายิ้มหวาน พยายามส่งรอยยิ้มปลอบประโลมใจให้ แต่ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าพี่แกไม่ได้จริงใจเอาเสียเลย
“ไม่เป็นไรจ๊ะหนูมีอะไร บอกพี่..พี่ช่วยเอง”หึหึ เขาได้แต่นึกในใจ ใช่ ช่วย...แต่จะเป็นช่วยซ้ำเติมสิมากกว่า
“แต่หนูคงต้องรอนานหน่อย กว่าจะรีครูท สอบสัมภาษณ์ อย่างน้อยสองเดือนนะคะ พี่ม้าว่า”
ก็ได้แต่ปลง..เลยโบกมือให้พี่ม้าไปให้พ้นๆหน้า ช่วยก็ไม่ได้ช่วย จะไสหัวไปไหนรีบๆไปเลยเกะกะสายตา
เขาควรรีบสะสางงานก่อนดีกว่า ไม่อยากคุยแล้ว เสียเวลาเว้ย
“งั้นผมขอตัวทำงานก่อนน่ะพี่ เดี๋ยวไม่เสร็จ”
วันนี้เลยไม่มีเวลามาคิดปัญหาเรื่องเกี่ยงงานเลย แค่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของจอยกับของตัวเอง ก็จะตายห่าแล้ว
วันศุกร์ที่เขาโคตะระไม่มีความสุขเลย แต่ยังดีพรุ่งนี้วันเสาร์ได้พักบ้างแล้วโว้ย
แต่กว่าจะกลับได้ก็เวลาเดิม สองทุ่มอีกแล้ว....เฮ้อเหนื่อย...
ก่อนกลับไปไม่ลืมแวะทอปส์ ซื้อของกินเข้าห้องหน่อย ไม่ได้อยากกินนะอาหารแช่แข็ง
แต่มันไม่ไหว เหนื่อย หมดแรงทำข้าวกิน เลยซื้อพวกมาม่า อาหารกระป๋องเพิ่มนิดหน่อย
เออ เกือบลืมซื้อไอสกรีม กับช็อกโกแลต กระดาษม้วนด้วย ไม่อยากใช้มือล้างก้นอีกแล้ว ขยะแขยง
ผู้ดีมีชาติตระกูลอย่างเขาถ้าไม่ใช่มือคนอื่นมาล้างให้เป็นไม่เอามือตัวเองล้างก้นเด็ดขาด
แต่ก็ดันลืมซื้อกระดาษทิชชู่ซะงั้น เมื่อวานเลยต้องใช้สองมือนี้ที่สร้างโลกช่วยไปก่อน
เหวยยยไม่เอาดีกว่าไม่พูดเรื่องก้นๆ แม่ไม่ปลื้ม.....
กลับมาเรื่องวันนี้ กินข้าวกล่องของเอสแอนด์พีไป กะเพราแบบนี้ก็ทำได้แต่ขี้เกียจ ก็พอกินได้วะเอาให้รอดไปวันๆก่อน
กินเพลินจนอ้วนลงพุง คงต้องหาทางไปลดพุงบ้าง อยากไปวิ่งจริงๆ ไม่ได้ออกกำลังกายมานานแค่ไหนแล้ว..
พรุ่งนี้ตื่นเช้าไปสวนรถไฟดีกว่า ไปวิ่งหาอาหารสายตาด้วย ชีวิตหนุ่มโสดอย่างเรามันแห้งแล้งเกินไปแล้ว
เฮ้อ...นอนดีกว่า
เสาร์แม่งเอ๊ย...นึกว่าจะตื่นเช้าๆดันตื่นสาย แปดโมงกว่า
แต่แรงความตั้งใจเยอะ ยังไงวันนี้ต้องวิ่งลดพุงให้สำเร็จ เลยดั้นด้นขึ้นรถเมล์ปุเลงๆไปสวนรถไฟจนได้
กว่าจะไปถึงแดดเริ่มแรงแล้ว แต่เขาจะวิ่ง จะวิ่ง (สะกดจิตตัวเองไว้ก่อน)
วิ่งๆไปเรื่อยๆเริ่มเหนื่อย ขาเริ่มหนักขึ้น หนักขึ้น เอ...แล้วทำไมไอ้รองเท้านี่มันวิ่งแล้วเสียงแปะๆยังไงไม่รู้
เขายกมือขึ้นดูเวลา..ไรวะเพิ่งสิบห้านาที ก็นึกว่านานเป็นชั่วโมง
ไม่ได้ๆ บอกตัวเองให้อดทนวิ่งต่อดีกว่า
แต่วิ่งไปอีกสักพักแรงกระแทกเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆเริ่มปวดน่อง จนวิ่งไม่ไหว
กว่าจะรู้ตัว ....สาดดดเอ๊ย.พื้นรองเท้าเสื่อม หลุดออกมาเป็นชิ้นๆ แล้วจะเดินยังไงส้นรองเท้าไม่เท่ากัน
เลิกๆ ไม่ไหวแล้ว ยิ่งวิ่งยิ่งปวดน่องมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้หยิบเอาไอ้รองเท้านี่มาใช้แค่ปีสองปี ยังใช้ไม่คุ้มเลย
ทำไมมันเสียง่ายยังอย่างนี้วะ ไอ้ยี่ห้อแพงๆไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย เสียดายเงินชิบ....
เขานั่งพักเหนื่อยบนสนามหญ้าดูคนอื่นวิ่ง ดีเหมือนกัน แรงหมดแล้ว
นานๆวิ่งทีำทำไมถึงเหนื่อยง่ายใจจะขาดอย่างนี้วะ อายุก็แค่ยี่สิบกว่าๆเรี่ยวแรงไม่รู้ไปไหนหมด
อายเด็กเล็กๆ ที่วิ่งกันอยู่เต็มสวน อากาศก็ดีเคลิ้มๆ จะหลับซะให้ได้
นั่งตากลมให้ตัวแห้งจากเหงื่อก่อนค่อยกลับบ้านดีกว่า
นั่งไปนั่งมาวิวดีไม่เลวเว้ย น้องคนนั้นน่ารักน่าจีบ หน้าใสกิ๊งยังกับไข่ปอก หมวยๆแบบนี้ชอบนักแล
แล้วแหมโพสท์ท่าให้ดูอีก เป็นนางแบบรึไงกัน สายตาเหลือบไปเห็นอีกคน
อ้าวน้องขา ดันมีแฟนแล้วก็ไม่บอก มาทำน่ารักให้คนอื่นหลงได้อีก
แล้วแฟนแม่ง...หล่อแมนขาวไฮโซได้อีก
อยากจะส่องกะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองทำไมเราไม่แมนๆแบบเค้าวะ จนป่านนี้เลยหาแฟนไม่ได้สักที
แล้วนี่มันจะสวีทยั่วกูรึยังไงวะ ไม่ได้สำนึกเลยว่าคนไม่มีแฟนมันเหงาแค่ไหน
อยากตะโกนบอกว่ารู้แล้วๆว่าน้องน่ารักนั่นน่ะเป็นแฟนกับมึงไอ้หน้าหล่อ
แน่ะ ทำเดินมานั่งข้างๆเราอีก หลบดีกว่าว่ะเหงื่อออกเต็มตัว ตัวเหม็นยังกับหมาเน่า
ส่งกลิ่นในรัศมีสิบเมตรกลิ่นแรงนรก เดี๋ยวจะทำบรรยากาศสวีทหวานเค้าล่มไปเปล่าๆ
“พี่คะ ช่วยถ่ายรูปคู่ให้หน่อยได้มั้ยคะ” ยังไม่ทันคล้อยหลังไป น้องน่ารักก็เรียกให้ช่วยถ่ายรูปให้
เขาก็อยากหนีแต่เห็นหน้าน้องแล้ว ก็คงต้องทำตามหัวใจสั่งมา
ชีวิตนี้ปกติเป็นคนไม่เคยแพ้อะไร แพ้อยู่อย่างเดียวคือคนน่ารัก เค้าว่ายังไงให้ทำอะไรก็ต้องยอม พยายามดัดเสียงให้เหมือนตู่ภพธร
“ครับ..ด้วยความยินดี ตรงไหนดีครับ” แต่ใจอยากถามแฟนน้องเป็นเห้..อะไร ยิ้มหวานให้กูอยู่ได้
“พี่คะช่วยมาถ่ายตรงนี้ค่ะพี่ ขอหลายๆใบนะคะ” น้องน่ารักกวักมือเรียกเขา
เขาก็ว่าง่ายทำตามสาวสวยยังกับสัตว์เลี้ยง เชื่องจริงๆกู
น้องน่ารักเรียกแฟนมาใกล้ๆ แล้วยิ้มหวานเจี๊ยบส่งไปให้อีก “พี่ตั้ง...มาบอกพี่เค้าหน่อยถ่ายตรงไหนยังไง เร็วๆเข้าสิ”
อ่อแฟนชื่อ ‘ตั้ง’ เดินยิ้มกริ่มมาแต่ไกลเลย สงสัยเค้าคงส่งยิ้มให้แฟน
ท่าจะรักกันมากจริงๆ หมั่นไส้คนมีแฟนโว้ย
อิจฉาแต่ก็ต้องข่มใจ เออเขาไม่มีแฟนเป็นของตัวเองบ้างให้รู้ไป
“น้องตาม...ไปรบกวนพี่เค้าทำไม เกรงใจ พี่เค้าจะเสียเวลาเปล่าๆ”
อ๋อน้องน่ารักชื่อ ‘ตาม’ น่ารักสมตัวจริงๆ พี่อยากตามน้องตามไปตลอดชีวิตเลยได้มั้ยจ๊ะ
“ไม่เป็นไรครับ ผมว่างๆอยู่ ถ่ายยังไงครับ ถ้าใช้ยากๆผมๆใช้ไม่เป็น”
ไอ้ตั้งแม่ม..เดินรี่เข้ามาชิดตัวเราเลย สอนใช้นู่นนี่นั่นใหญ่ ไหนมึงว่าเกรงใจไง
ไอ้เราก็ต้องพยายามเขยิบออก กลัวมันได้กลิ่นเต่า ขนาดตัวเองยังแทบทนไม่ไหว
นี่เกือบจะเดินชูจั๊กกะแร้แล้วหมุนๆ เป่าให้แห้งจนกว่าจะกลับแล้วนะ ไม่น่ามารั้งกันไว้เลย
แล้วนี่เค้าจะสอนหลักสูตรเร่งรัดให้เป็นช่างภาพมืออาชีพภายในหนึ่งวันเลยรึเปล่านี่
สอนมาเกือบสิบนาทีแล้วนะ จะจำได้มั้ยพี่น้องงงง
เขาจำอะไรไม่ได้เลย วันนี้กะมาวิ่งไม่ได้กะมาใช้สมองเลยทิ้งไว้ที่บ้าน
แถมยังกังวลมัวแต่คิดหาทางหนีบแขนไม่ให้เค้าได้กลิ่น เลยฟังที่เค้าบอกรู้มั่งไม่รู้มั่ง
เข้าหูซ้ายทะลุออกรูจมูกขวาไม่ผ่านก้านสมองเลย
“เอ่อ...จะให้ผมถ่ายลูกเล่นมาก ผมกลัวถ่ายไม่ดีนะครับ” ต้องรีบออกตัวไว้ก่อน
ไอ้ตั้งเลยเงยหน้าขึ้นมามอง ยิ้มล้อเลียนเขาได้อีก (ท่าทางเหมือนมันกลั้นหายใจไว้ด้วย มันคงเหม็นสุดๆ)
“โทษทีครับ ผมก็สอนเพลินเลย ก็แค่อยากให้ช่วยถ่ายรูปคู่ เล่นๆน่ะครับ พอดีผมพึ่งซื้อกล้องมาใหม่ รบกวนคุณ..เอ่อ..”
อ๋อ คุณจะถามชื่อผมหรือครับ ทำเป็นมารยาทดีนะมึง “ผมชื่อ..เหลิมครับ เฉลิม”
โคตรเกลียดชื่อตัวเองเลย แต่พ่อแม่ตั้งมาให้เลยเกรงใจไม่ไปเปลี่ยน ชื่อเต็มๆชื่อเฉลิมฉลอง
เพื่่อนบางคนก็เรียกหลอง แต่หลองกับเหลิม เขาว่าทั้งเชยทั้งแก่พอกัน
แค่มีใครมาเรียกชื่อ มีอยู่สองอย่างไม่ร้องยี้ ก็เผลอยกมือไหว้กัน ยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
ร่ำๆจะเปลี่ยนชื่อเป็นลิฟต์ หรือเป็นเลิฟ ก็ไม่เข้ากับหนังหน้า เลยจำใจชื่อเหลิมต่อไป
เอาให้มันเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลตามเจตนารมณ์ของพ่อแม่ไป
ไอ้ตั้งทำหน้าแปลกใจนิดหน่อยพอได้ยินชื่อ อยากบอกมันอย่ามายุ่งกับชื่อกู ชื่ออะไรก็ไม่เกี่ยวกับคุณ
แต่ไอ้ตั้งกลับยิ้มหวานจนนึกว่าน้องตามมายิ้มให้อยู่ตรงหน้า ทำเอาใจอ่อนยวบเป็นไอติมละลาย
“ผมชื่อตั้งนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก คุณเหลิมถ่ายตามสบายเลยครับ กล้องแบบนี้ถ่ายไม่ดีก็ค่อยไปลบเอาทีหลังได้ ถ่ายเยอะๆเลย”
อยากบอกมันว่า เขาไม่ได้ท้องผูกนี่หว่าจะได้อยากถ่ายเยอะๆ แต่ก็กลัวมันไม่รับมุก ได้แต่รับปากมันไป
“ครับๆ แล้วค่อยมาดูอีกทีว่าชอบไม่ชอบยังไง”
แต่เขาก็พอรู้นะว่ากล้องดิจิตอลมันเป็นยังไง ยังไม่เชยขนาดไม่รู้ว่าไอ้รูปพวกนี้มันลบทิ้งได้เรื่อยๆ
หลังจากนั้นก็เริ่มถ่ายไม่ยั้ง ถ่ายกันจนเพลีย คู่นี้ก็นะโพสท์ท่าอย่างกับว่าจ้างเขามาเป็นตากล้องให้
นี่พวกคุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า ไม่ใช่ว่าผมรับจ๊อบจากสตูดิโอเวดดิ้งนะ
รีเฟลค ไวท์เทนนิ่ง อะไรก็ไม่ได้เอามา ถ้าหน้าหมองอย่ามาโทษกันนะเว้ย
*****************************8
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ