ผมจูงมือภูมิลงมาข้างล่าง อาปุ้ยกำลังตักข้าว จัดโต๊ะวุ่นวาย
“มาแล้วครับ เดี๋ยวช่วย”
“อ้าวหนุ่มๆไม่ต้องช่วยๆไปล้างมือมาทานกัน น้องภูมิทานได้ใช่มั้ยลูก”ที่อาปุ้ยถามแบบนี้เพราะอารู้ถึงเทือกเขาเหล่ากอไอ้ภูมิว่าผู้ดีแค่ไหน
“ได้ครับ”
“ไอ้ภูมิมันกินได้หมดแหละอา ขอแค่อย่าเผ็ดเป็นพอ มันเป็นเด็กน้อยน่ะ หึหึ” เพราะมีอาปุ้ยอยู่ด้วย ภูมิเลยไม่กวนผมกลับ เสร็จกูละมึง ฮ่าๆ ระหว่างทานข้าวอาปุ้ยก็หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคุย ภูมิมันก็เป็นผู้ฟังที่ดี ยิ้มบ้าง ครับบ้าง
“พีม อาทิตย์หน้าอาไปดูงานที่สิงคโปร์นะ”
“ดูงานหรือเคาท์ดาวน์อา”
“ฮ่าๆ ฉลาดมากหลานชั้น รู้ทันๆ แล้วพีมจะอยู่ไหนปีใหม่ จะขึ้นเชียงใหม่รึเปล่า”
“ไม่อ่ะครับ ปีนี้พีมคงอยู่กรุงเทพกับเพื่อนๆ เนอะภูมิ” ภูมิตอบอืมพร้อมกับยิ้มรับ เห็นมันยิ้มได้ผมก็เบาใจ ไม่ชอบเลยไอ้หน้าหงอยๆของมันตอนที่อยู่บนห้อง
“ถ้าน้องภูมิว่างก็มาอยู่เป็นเพื่อนเจ้าพีมมันบ้างนะลูก”
“ครับ” น่ะ ยิ้มอีกแล้ว อืม มันชักจะยิ้มบ่อยจนผิดสังเกตแล้วแฮะ อาปุ้ยใส่กัญชาลงในแกงจืดยัดไส้รึเปล่าวะ
ทานข้าวเสร็จอาปุ้ยก็ขอลาขึ้นไปนอนเลย อาไม่ใช่เด็กอนามัยนอนก่อนสามทุ่มแต่อย่างใด แต่เพราะสังขารไม่ไหวเลยรีบนอน ฮ่าๆ ส่วนผมกับภูมิก็ช่วยกันเก็บโต๊ะเก็บจานมาล้าง จริงๆต้องเรียกว่าผมทำแล้วมีไอ้ภูมิพยายามช่วย
“เดี๋ยวกูล้างเอง มึงไปดูทีวีเหอะ เบนเทนกำลังมานะมึง”เอาการ์ตูนเข้าล่อ
“กูอยากช่วย”
“มึงทำเป็นหรอ”
“ไม่เป็น แต่อยากทำ” ถึงกูไม่ให้ทำ มึงก็จะทำอยู่ดีแหละภูมิ
“งั้นมึงล้างน้ำสะอาดนะ” มันมองงงๆ ผมเลยต้องอธิบายให้คุณชายเขาเข้าใจ “มึงทำยังไงก็ได้ให้ไอ้ฟองน้ำยาล้างจานหลุดออกให้หมดจนมันไม่ลื่น ทำได้มั้ย”
“อืม” ถึงผมไม่ค่อยไว้ใจมันเท่าไรแต่ก็ต้องปล่อยให้มันทำ และก็เป็นการล้างจานที่ทุลักทุเลที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา เพราะไอ้ภูมิ!! เดี๋ยวก็เร่งน้ำ เดี๋ยวแม่งผ่อน ซักพักก็ทำจานหลุดมือ ล้างจานควรจะเปียกแค่มือ แต่ผมเหมือนไปเล่นสงกรานต์มา ทนไม่ไหวเลยไล่ตะเพิดมันออกไปรอที่ห้องนั่งเล่น ก่อนไปมันยังเอามือเปียกๆมาจับหัวผมอีก
และตอนนี้ ได้ยินเสียงแว่วๆเหมือนสกูปปี้ดูดังคลอเสียงหัวเราะของภูมิ
“อ่ะมึง ฝรั่ง สาลี่ ลิ้นจี่ ส้ม ช่วยกันกินให้หมด ก่อนที่อาปุ้ยจะลงมาเจอแล้วฟาดกบาลกู โทษฐานไม่สวาปามวิตามินจากธรรมชาติ” ไอ้วิตามินมันช่วยให้ส่วนสูงเพิ่มได้มั้ยวะ ทำไมอาถึงได้บังคับขู่เข็ญให้ผมกินทุกครั้งหลังอาหาร
ภูมิมันยิ้มบอกว่าอาปุ้ยน่ารักดี ใช่สิเดี๋ยวนี้ซี้กันแล้วนิ ผมกับมันนั่งกินผลไม้ที่อาปุ้ยบรรจงปอกไว้ให้จนหมด สกูปปี้ดูก็จบพอดี มีแฟน(นิสัย)เด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายและปรับตัวให้ชินกับการดูการ์ตูนเป็นงานประจำ ดูเสร็จพวกผมเลยขึ้นมานั่งๆนอนๆบนห้อง
………………………………………..
ผมชวนมันเล่นเกมส์แต่มันไม่เล่น บอกว่าเจ็บนิ้ว แม่งคนอุตส่าห์ต่อจอยส์ให้ ภูมิมันนอนอ่านหนังสือรถแข่งอยู่บนเตียง ส่วนผมที่ถูกมันปฏิเสธการดวนวินนิ่ง ก็ต้องมานั่งคุยเอ็มกับผองเพื่อนแก้เซ็ง
แค่เห็นสถานะไอ้คิวผมก็เริ่มฮา มันขึ้นสถานะว่า กูจะฆ่าน้องรหัส ส่วนไอ้เต้ย กูจะแจ้งความ ผมเลยลากมันสองตัวมาคุยกัน ฮ่าๆๆ ในเอ็มมันยังกัดกันได้ สุดยอดมากเพื่อนเลิฟ น้องรัก
แต่ที่แรงกว่าใครในสามโลกคือสถานะไอ้ฟ่าง รักแทนครับ สาดดด ส่วนของผมน่ะหรอ P&P ^^ หึหึ บรรดาเพื่อนเวรทั้งหลายเข้ามาแซวให้รึ่ม ไอ้ปันบอกว่าเหมือนชื่อขนมเค้ก อันนั้นมัน S&P โว้ย
“ฮ่าๆ อ๊ากก ฮ่าๆๆ”
“พีม”
“ฮะๆ เออ มีไรมึง ฮะๆ” ผมยังฮาไอ้คิวกับไอ้เต้ยโต้ตอบคารมผ่าน MSN
“ขำอะไรนักหนาวะ”
“หึหึ กูขำไอ้คิวกับไอ้เต้ย แล้วก็พี่ชายมึงอ่ะ แม่งขึ้นสถานะรักแทนครับ”
“คงไปทำอะไรให้ไอ้แทนโกรธละสิ”
“อ้าวหรอ แต่มันก็รักกันดีเนอะ”
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องรักกัน” ประสาทสัมผัสทุกส่วนของผมสะดุดกับคำว่า “รัก” แฟนกันต้องรักกัน ผมกับภูมิเป็นแฟนกัน แสดงว่า เราก็….
“ภูมิ ชอบกับรักมันต่างกันยังไงวะ” ผมเอ่ยถามโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมองคนข้างหลัง
“ไม่รู้”
“แล้วทำไมมึงถึงชอบกู” ผมเคยถามคำถามนี้กับมันหลายครั้ง ทั้งที่ผมก็รู้ว่าคำตอบ แต่ครั้งนี้ผมอยากจะเปลี่ยนคำถามเป็นอีกคำ ผมอยากจะถามทั้งมันและตัวผมเอง
ว่าตอนนี้ความรู้สึกของผมกับภูมิที่มีให้กัน มันเรียกว่าอะไร
“ไม่รู้ ไม่มีเหตุผล”“อืม งั้นเหรอ” แล้วเราก็เงียบกันไป ผมออกจากเอ็ม มาเล่นเกมส์สิ้นคิดตีปังย่า แต่ทำไมผมถึงเห็นแต่หน้าภูมิเต็มจอคอมแพคก็ไม่รู้ ทั้งที่ผมหันหลังให้มัน
“พีม”
“อือ” ผมหันกลับมา ก็เห็นไอ้ภูมิกำลังนั่งกอดกีต้าร์อยู่ปลายเตียง ทำให้ผมต้องเลิกคิด แล้วเลิกคิ้วมองมันด้วยความสงสัยแทน
“มานั่งนี่ดิ๊” มันตบลงข้างๆตัวเอง
“ทำไม มึงจะปล้ำกูหรอ” ผมยิ้มถามกวนตีนมัน แต่ก็ยอมเดินไปนั่งที่ปลายเตียงข้างๆมันตามที่มันบอก
“หึ ถ้ากูทำจริง มันจะเรียกว่าสมยอม”
“หราาาา แล้วเรียกทำไมวะครับ”
“จะร้องเพลงให้ฟัง”
“โหหห แฟนกูจะโชว์โรแม้นเว้ยเฮ้ย”
ภูมิผลักหัวผมเบาๆ ผมยิ้มแซวมันก่อนจะเปลี่ยนขึ้นไปนั่งขัดสมาธิ หันหน้าเข้าหากัน เพื่อรอฟังว่าภูมิจะร้องเพลงอะไร ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ผมกับภูมิมีให้กันเรียกว่าอะไร แต่มันก็คงไม่สำคัญมากไปกว่าการได้อยู่ด้วยกันแบบนี้หรอกเนอะ
“ตั้งใจฟังนะเตี้ย” มันอมยิ้มเขินๆ
“คร้าบบบ”
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ฟังอินโทรให้รู้ ว่ามันจะร้องเพลงอะไร เสียงนุ่มทุ้มของภูมิก็ร้องท่อนแรกของเพลง ทำเอาผมต้องรีบกลั้นรอยยิ้มและข่มความเขินไว้อย่างสุดความสามารถ
http://www.4shared.com/embed/65549259/1ac74423(จิ้มเพลงเบาๆ ร้องคลอไปทีละบรรทัดตามเพลง เพื่อเพิ่มอรรถรสนะคะ)
รัก... การที่เราจะหลงรักใคร สักคนหนึ่งนั้น
มันต้องมีเหตุผลสักเท่าไร
เพราะเขาคุยเก่ง เพราะเขาน่ารัก
หรือเขาสวยมาก อ่อนโยนสดใส
ผมไม่รู้หรอก และก็ยังไม่ค่อยแน่ใจภูมิไม่หลบตาผมเลยแม้แต่วินาทีเดียว นอกจากว่ามันจะก้มลงดูกีต้าร์บ้างบางครั้ง รอยยิ้มอ่อนโยนของมันกับดวงตาที่มีแต่ความจริงใจถูกส่งมาให้ผม จนผมไม่สามารถกลั้นรอยยิ้มไว้ได้อีกต่อไป
รัก... รู้ใช่ไหมว่าผมรักคุณ
คุณคือคนนั้น แต่ถ้าคุณจะถามว่าทำไม
เพราะรอยยิ้มคุณช่างดูคุ้นเคย
เพราะความใจดี ไม่มีอ่อนไหว
กี่ร้อยพันคำตอบ มันก็ยังไม่ตรงกับหัวใจ
ก็มันรัก... รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
บอกว่ารักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
ไม่รู้ต้องใช้คำใด อธิบาย ต่อความรู้สึกนี้
คำใดจะเหมือนหัวใจที่รู้สึกรัก... ก็ผมแค่รู้ว่าใช่มันก้มลงจูบแก้มผม ที่กำลังกำผ้าปูที่นอนจนแทบจะกระชากเตียงหลุดติดมือ อย่าว่าแต่เอาไฟมาลนเลย แค่เอาไฟฉายมาส่องผมก็พร้อมจะละลายแล้ว ภูมิเองก็ไม่ต่างกัน มันเขินและเริ่มไม่กล้าสบตาผม แถมยังจับคอร์ดผิดตั้งสองสามครั้ง ทำให้ผมต้องหัวเราะออกมา และเอื้อมไปตบแก้มมันเบาๆ
ก็มันรัก... รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
ก็มันรักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
ไม่เห็นต้องคิดมากมาย
บอกว่ารัก... รักโดยไม่มีเหตุผลได้หรือเปล่า
มันเหงาเมื่อคุณไม่อยู่ตรงนี้ไม่รู้ทำไม
บอกว่ารักเพราะใจเรียกร้อง แค่นี้ได้ไหม
ไม่เห็นต้องมีคำใด ไม่เห็นต้องคิดมากมาย
ก็ความรักนั้นใช้หัวใจ...อธิบายเพลงของภูมิจบลงแล้ว เราสบตากันนิ่ง ความรู้สึกมากมายคงไม่อาจถ่ายทอดให้หมดภายในเพลงๆเดียว แต่เรารับรู้มันได้จากดวงตาของกันและกัน ภูมิก้มลงจูบที่ริมฝีปากของผมผมเพียงแผ่วเบา และผละออกมาเพื่อส่งรอยยิ้มเขินๆและแววตาจริงใจให้ผม ผมก็ยิ้มให้มันเช่นกัน
“กูไม่รู้จริงๆว่าทำไมถึงรักมึง รู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว ไม่ใช่กูไม่ลองหาคำตอบ แต่หาแล้วมันไม่เจอ ต่อไปไม่ต้องถามแล้วนะ ว่าทำไมกูถึงรักมึง เพราะกูไม่มีเหตุผลจะให้ รู้แค่ว่ากูรักมึงก็พอ”สาดดดดดดดดดดดดดดดดด ตายเลยมั้ยกูเนี่ย
“หึ”
^_^
ผมพยักหน้ารับรู้ และเรายิ้มให้กันได้ไม่นาน หน้าของผมกับภูมิก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าหากัน ริมฝีปากเราสัมผัสกัน เรารับรู้ลมหายใจของกันและกัน
ภูมิขบกัดริมฝีปากผมซ้ำๆย้ำๆจนผมรู้สึกวาบหวิวในอก แต่ผมก็ไม่คิดจะยอมมันฝ่ายเดียว ลิ้นเรายังหยอกล้อเกี่ยวกันไม่ห่าง มันเป็นรสจูบที่อ่อนหวานและหนักหน่วงอยู่ในที และทำให้ผมรู้สึกดีจนต้องจูบไปยิ้มไป
ผมกับภูมิจูบกันอีกครั้งและอีกครั้ง
ภูมิบอกกับผมว่า
ไม่เห็นต้องมีคำใด ไม่เห็นต้องคิดมากมาย
ก็ความรักนั้นใช้หัวใจ...อธิบาย
นั่นสิเนอะ
ขอบคุณนะภูมิ ที่มึงใช้หัวใจ เพื่ออธิบายให้กูรู้จักคำว่า “รัก”
หวังว่ามึงก็คงจะเข้าใจคำว่า "รัก" ที่กูอธิบายด้วยหัวใจให้มึงฟังนะTBC>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
…………………………………………………
ผิดสัญญาอีกแล้วคะ ผู้หญิงคนนี้ชอบปล่อยของก่อนกำหนดตะร๊อดๆ ตอนนี้เลยมาแบบชิลล์ๆ เบาๆ แต่อยากจะกรี๊ดดด สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยย
มีฉากกุ๊กกิ๊กบ่อยก็อย่าเพิ่งเบื่อกันนะคะ ต้องไปโทษน้องภูมิกับน้องพีมคะ (เฮ้ย ผมไม่เกี่ยวนะ ไอ้ภูมิเลย มันคนเดียวเลย : ไอ่พีมแกอย่าร้อนตัว)
พีมเอ๋ยคงรู้แล้วใช่มั้ยจ๊ะ ว่าความรักมันไม่มีเหตุผล คึคึ แอบเห็นมีคนชอบไอ่น้องมิคด้วย เหอๆ ของแบบนี้นานาจิตตังเนอะ (มองข้างๆ ภูมิก็ภูมิเถ๊อะ เจอนิชมิคมีหนาวครับ : มิคเมิงอย่าถือหางตัวเอง)
ปล ขอบคุณไอ้น้องชายที่เป็นแรงบันดาลใจในการแต่ง (ถ้ามันรู้ตัวอาจมีกระทืบ ฮี่ฮี่ มีพี่สาวขาวายก็ซวยไปนะเมิง)
ปลอีก ขอบคุณทุกๆคอมเม้น ที่คอยเชียร์ภูมิกับพีมนะคะ สองคนนั้นคงปลื้มใจแน่ๆ แต่ปีใหม่นี้คาดว่าคงไม่เหลือสติมาลงอ่ะคะ เพราะตาลจะตามไปส่องภูมิกับพีมว่าพากันไปฉลองปีใหม่ที่ไหน
(จะตามพวกผมทำม๊ายยย แค่นี้ก็หลอนแล้ว+_+ อย่าบ่นๆไอ่หนู) แล้วก็จะตามฟ่างกับแทนต่อ (ใครให้ตาม คนเค้าจะใช้เวลาส่วนตัว มารยาทน่ะมีมั้ย >=< เออ ไม่ตามก็ได้ ดุจริงมึง) งั้นตามไอ่คิวกับ…ดีกว่า(เจอกันในวงเหล้านะป้า ฮ่าๆๆ โอ๊ย #เขกกบาลมัน# ป้าพ่อง )
คงหลังปีใหม่ซักสามวันเราค่อยมาเจอภูมิกับพีมเนอะ งั้นตาลก็ขอถือโอกาสนี้สวัสดีปีใหม่พี่ๆน้องๆแฟนนิยายทุกคนล่วงหน้านะคะ ขอให้ได้แฟนหล่อๆรวยๆ(แล้วมาแบ่งให้เค้าบ้างเน้อ) สุขภาพแข็งแรง ขอให้โชคดีตลอดปีตลอดไปนะจ๊ะ Happy New Year จ้า^__^