ตอนที่ 7 ที่พักพิง(2) ขายาวพาตัวเองไปถึงที่พี่ชินนั่ง
ท่ามกลางแสงไฟสีส้มสลัวๆ ผมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่ชิน
"ทำไมมานั่งคนเดียว แล้ววุฒิล่ะครับ?"
พี่ชินสะดุ้งตกใจ เพราะคงไม่รู้ตัวว่ามีคนเดินมา ขณะที่พี่เหลียวหน้ามามอง ผมเห็นพี่ชินร้องไห้
ผมตกใจ ก่อนหน้านี้ พวกเรายังหัวเราะต่อกระซิกกันที่ร้านสะดวกซื้ออยู่เลย ทำไมตอนนี้ พี่ชินเป็นแบบนี้ไปได้
คว้าไหล่ให้พี่ชินหันมาหาผมตรงๆ
"พี่ชินเกิดอะไรขึ้นครับ มีอะไรหรือเปล่า? "
ฟึ่บ!
พี่ชินไม่ตอบ ทันใดนั้น ใบหน้าขาวเนียนที่มีน้ำตาอาบแก้ม ฟุบหน้าลงบนไหล่ของผม
"พี่เหนื่อยจัง!" พี่ชินเจอะอะไรมาถึงทำให้หมดความอดทนจนน้ำตาไหลราวกับเขื่อนแตก
เสียงนั้นดับลง ผมกระชับมือพี่ชินแน่น
ผมยังไม่พูดอะไร จนกระทั่ง บ่าข้างซ้ายของผมชื้นไปด้วยน้ำตา ผมดีใจนะที่ได้เป็น
ที่พักพิงให้พี่ชินยามไม่สบายใจ
ผมบีบกระชับฝ่ามือพี่ชินที่เย็นเฉียบแล้วกล่าว
"ผมไม่รู้ว่าพี่เหนื่อยอะไรมา แต่ถ้าพี่ร้องไห้แล้วสบายใจ พี่ร้องออกมาเยอะๆเถอะครับ"
ความสงบไร้ซึ่งสิ่งรบกวน มีเพียงดนตรีประกอบอย่างเสียงคลื่นทะเลซัดสาดมาเป็นจังหวะผนวกกับลมทะเลที่พัดผ่านมาปะทะผิวกายให้ความเย็นสบายเนื้อหนัง
ผมนั่งจับมือพี่ชินเงียบๆ ไม่อยากจะหาเหตุผลแล้วว่าทำไมอยู่ดีๆพี่ชินถึงร้องไห้ขึ้นมา
เสียงสะอื้นเล็ดรอดออกมาเบาๆ ผมลูบหลังลูบไหล่พี่เพื่อปลอบใจไปด้วย
สักพักใหญ่ๆ ที่ผมนั่งนิ่งเป็นดั่งเสาหลักให้เขาพักพิง พี่ชินปล่อยมือผม ผละห่าง แล้วลุกขึ้นพรวด
"ขอบคุณนะติ พี่ว่าเรากลับห้องกันเถอะ"
พอเขาจะก้าว ผมคว้าข้อมือเขาไว้
"พี่ชินสบายใจขึ้นรึยังครับ?"
พี่ชินพยักหน้า จากนั้น เราสองคนถึงเดินกลับห้องด้วยกันด้วยการไม่พูดไม่จามาตลอดทาง
ถึงที่หมาย พี่ชินเดินมาส่งผมที่ห้องก่อนกลับห้องของเขา
เหี้ยเอ้ย!
ผมสบถอย่างหงุดหงิด เมื่อพี่ตั้นไม่ยอมเปิดประตูห้องให้สักที
นี่เพิ่งสี่ทุ่มกว่า ไม่น่าเป็นไปได้ที่พี่ตั้นจะหลับแล้ว
"ติ นอนห้องพี่ก็ได้นะ วุฒิก็อยู่ด้วย"
"แปปนึงนะพี่ ผมขอโทรหาพี่ตั้นก่อน"
ผมตัดสินใจ โทรหาพี่ชาย รอจนสายตัดก็ยังไม่รับ
"ดึกแล้วอย่ากวนเขาเลย"
ผมมองหน้าพี่ชินที่ดูเพลีย เลยไม่อยากเป็นภาระอีก
"ก็ได้ครับ" สองเท้าก้าวเข้ามาในห้องพี่ชิน ผมขมวดคิ้วที่ไม่เห็นวุฒิอยู่ในห้อง
ผมไม่รู้ว่าเป็นแผนของพี่ชายอีกหรือเปล่า?
"สงสัยวุฒิออกไปตามพี่แน่เลย"
ผมพูดเพื่อให้พี่ชินสบายใจ จังหวะที่ควักโทรศัพท์ออกมาจะลองโทรหาพี่ชินอีกรอบ เห็นข้อความจากพี่ตั้นปรากฏขึ้นมาเสียก่อน
'เพิ่งได้ยินโทรศัพท์ วุฒินอนอยู่ห้องกู มึงนอนห้องชินเลยนะ'
"สงสัยพี่ตั้นคงชวนวุฒิไปเมาด้วยแน่เลย พี่ชินโอเคไหม? ที่ต้องนอนกับผมแค่สองคน"
ผมบอก พี่ชินพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ ส่วนผมขณะที่รอก็แอบขโมยชุดเพื่อนมาไว้ใส่นอน เพราะชุดของผมอยู่อีกห้อง
ได้ชุดที่จะใส่ ระหว่างที่รอพี่ชินอาบน้ำ ผมยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องพี่ชินอยู่
คนเข้มแข็ง ถ้าได้ร้องไห้ออกมาแล้ว แสดงว่ามันหนัก
ขณะที่ผมนั่งคิดแต่เรื่องพี่ชิน ผมไม่รู้เลยว่ามันนานพอที่จะทำให้ใครอีกคนเดินออกมาจากห้องน้ำ
ถึงตาของผมที่ไปอาบน้ำบ้าง ผมใช้เวลาไม่นานก็จัดการธุระตัวเองเสร็จ ผมเดินมาถึงปลายเตียง เห็นพี่ชินนอนแล้ว
ผมไม่รู้ว่าเขาหลับหรือยัง? จึงเดินไปนั่งฝั่งที่พี่นอนตะแคงเพื่อมองใบหน้าอีกฝ่าย ผมเห็นพี่ชินไม่หลับแต่กลับนอนร้องไห้จนน้ำตาเปียกหมอน
ผมทิ้งตัวลงนอนตะแคงตาม ยื่นมือไปประคองใบหน้า ใช้ปลายนิ้วโป้งปาดน้ำตาให้พี่
"ยังไม่ดีขึ้นเลยหรือครับ?"
รอยยิ้มเล็กๆส่งมาพลางพยักหน้า
"ผมต้องทำยังไงเหรอ? พี่ถึงจะดีขึ้น"
ผมบอก ฝ่ามืออุ่นๆของผมยังวางทาบลงบนแก้มของพี่ชินราวกับช่วยรองรับน้ำตาแทนหมอนที่เขานอนหนุน
พี่ชินไม่ตอบแต่หยาดน้ำใสยังคงไหลออกจากดวงตาอยู่เรื่อย
มันเจ็บนะ เมื่อเห็นคนที่รักเป็นแบบนี้ แต่ทำอะไรไม่ได้
ผมต้องทำยังไงครับพี่ชิน...
และแล้วสายตาซุกซนของผมเผลอเห็นรอยจ้ำช่วงแผ่นอกที่เห็นจากการเผยอของช่องหว่างระหว่างเม็ดกระดุมเสื้อเชิ้ต
รอยจ้ำสีแดงคล้ำอมม่วงแบบเดียวกับที่เคยเห็นจากพี่ชินเมื่อนานมาแล้ว
.รอยการทำรัก.
"พี่ชินไปเจอแฟนเก่ามาหรอครับ?"
"รู้ได้ไง?"
"ไม่รู้ครับ แค่ถาม"
ผมตอบนิ่งๆ แต่พี่ชินดูอึกๆอักๆ ไม่ตอบ แต่กลับร้องไห้หนักกว่าเก่า
สาเหตุที่ร้องไห้ เรื่องแฟนเก่าชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่ชอบเลยที่พี่ชินเป็นแบบนี้
ผมใช้ข้อนิ้วเกลี่ยน้ำตาพี่ชินอย่างไม่นึกรำคาญ
"ตาบวมแล้วครับ"
พี่ชินกดหน้าลงต่ำเหมือนอาย เมื่อผมบอก ผมใช้ข้อนิ้วไล่ไล้แก้มเนียน ก่อนจะตัดสินใจ ลุกขึ้นกึ่งนั่งเอี้ยวตัวไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่โต๊ะหัวเตียง เข้าช่องยูทิวป์ เปิดเพลงที่ผมชอบและเมื่อไหร่ที่ฟัง ผมจะนึกถึงพี่ชิน
อยากให้เขาฟัง เพื่อหวังว่าพี่ชินจะดีขึ้น
"พี่ชินครับ ผมชอบเพลงนี้ ผมอยากให้พี่ฟังเผื่อพี่จะรู้สึกดีได้บ้าง"
พี่ชินเลิกคิ้วขึ้นสูงมองหน้าผม
"ผมไม่ขอให้พี่ชอบ แต่ผมขอให้พี่ฟังความหมายของเพลงก็พอ"
จากนั้น ผมกดเล่นมิวสิควีดีโอเพลง
'เวลาเธอยิ้ม ของ POLY CAT'ไม่รู้ว่าต้องโตท่ามกลางหมู่ดอกไม้มากมายขนาดไหน
เธอจึงได้ครอบครอง รอยยิ้มที่สวยงามขนาดนี้ทำให้รักใครไม่ได้อีกเลย วินาทีที่เธอ เจอกับฉันมันทำๆ ให้...
ความเดียวดายสลาย เพราะได้เจออะไรที่คู่ควร
ฉันขอบคุณและให้คำสัญญา ว่าจะรักษาไว้..
อ้อ! ยังมีหลายคนที่ไม่รู้และผมไม่เคยบอกใคร ผมยังพอมีข้อดีอยู่บ้างนะ
ผมร้องเพลงเพราะและถ้าจะให้พูดในบรรดาคนที่ผมชอบ
พี่ชินจะเป็นคนแรกที่ได้ฟังผมร้อง
ผมร้องคลอตามเพลงเมื่อถึงท่อนฮุก
ฉันไม่ต้องการใครอีก
ดวงดาวทั้งฟ้าต้องเสียใจ
และ...ไม่มีสิ่งไหนสวยงามต่อไป
ตราบที่โลกนี้มีคนอย่างเธอ
และฉันคือคนโชคดี
ได้อ่านความหมายทุกคำกวี
ไม่มีบทไหนงดงามอีกแล้ว
ตราบที่โลกนี้ยังมีชื่อเธอ
ได้โปรดให้ฉันเป็นคนสุดท้าย...ได้ไหม
เธอคือชีวิตและลมหายใจ
ผมนอนร้องเพลงเบาๆพลางพิจารณาใบหน้านั้นอย่างละเอียด จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาแดงก่ำ ปากสั่นๆกลั้นเสียงสะอื้น แก้มขาวเนียนที่ผมลูบไล้ ในขณะเดียวกัน ผมก็คอยทำหน้าที่เช็ดน้ำตาให้ด้วย
กระทั่ง เพลงจบ ผมเห็นพี่ชินแซว ผมดีใจนะที่เห็นเขายิ้มได้
"ร้องเพลงเพราะก็ไม่บอก" ผมหัวเราะ ก่อนพูดต่อ
"ฮ่าๆ...ของดีต้องนานๆอวดทีครับพี่"
พี่ชินหลบตา ผมเปล่งวาจาอีกครั้ง
"ผมชอบเวลาพี่ยิ้มจัง วันไหนพี่เครียดขอให้เปิดเพลงนี้ขึ้นมาฟัง หรือไม่ก็...นึกถึงผมนะ"
พี่ชินช้อนตามองผม ก่อนจะวางฝ่ามือลงทับบนหลังมือของผม
"ติ"
"ครับ""คิดยังไงกับพี่?" กึก!
ผมช็อค ไม่คิดว่าพี่ชินจะใช้คำถามจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว ผมใจเต้นแรงไม่เป็นส่ำกับคำถามที่ผมมีคำตอบอยู่ในใจ แต่พูดออกไปไม่ได้
ผมจึงต้องโกหก
"คิดอยากทำให้พี่สบายใจครับ"
มันเหนื่อยนะที่ต้องหักห้ามใจ บอกตัวเองอย่าหวั่นไหว ข่มความรู้สึกไว้ไม่ให้ทำอะไรมากกว่านี้ เพียงเพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันค้ำคอ
แค่นี้ผมก็เห็นแก่ตัวที่แสดงออกความรู้สึกของตัวเองมากเกินไป จนผมไม่อยากให้พี่ชินสงสัยในตัวผม
"งั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ขอบคุณตินะ ติเองก็นอนเถอะ พี่ง่วงแล้วล่ะ"
"ผมหวังว่าตื่นมาพรุ่งนี้พี่จะหายเครียดนะครับ"
"ขอบใจนะติ ฝันดี"
ผมอยากดึงตัวเขาเข้ามาหลับในอ้อมกอดของผม แม้จะอยากกอดสักแค่ไหน ก็รู้ดีว่าทำไม่ได้
ความเป็นจริงสิ่งที่ทำได้คือแค่...
การกอดและจูบราตรีสวัสดิ์พี่ชินในฝัน
................
วันรุ่งขึ้น
ผมตื่นก่อนพี่ชิน ตั้งใจจะหนีหน้า แต่จังหวะที่ผมออกจากห้อง ผมสวนกับวุฒิที่มันดูท่าทางแปลกๆ อันที่จริงวันนี้ พวกผมมีทริปดำน้ำ ดูปะการัง แต่ผมโกหกเพื่อนว่าไม่สบาย และบอกให้วุฒิไปดำน้ำกับพวกพี่ชิน พี่ตั้นเลย
แต่วุฒิกลับตอบทันควันว่าถ้าผมไม่ไป ก็ไม่ต้องให้พี่ตั้นไป ผมงงเป็นไก่ตาแตกที่พอพูดถึงพี่ตั้นดูวุฒิไม่พอใจ แต่ก็พยักหน้ารับเออออ
ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องของผมก็พบว่าพี่ตั้นอาบน้ำอยู่
พอพี่ตั้นอาบน้ำเสร็จ ผมบอกว่าผมไม่ไปดำน้ำ แต่ผมยังไม่ทันบอกว่าวุฒิมันให้พี่ตั้นอยู่กับผม พี่ตั้นก็พูดขึ้นมา
"วุฒิคงอยากให้กูอยู่กับมึง"
"อืม พี่รู้?"
"ไม่รู้ แค่เดา" ผมนั่งมองพี่ตั้นนั่งประสานมือไว้บนเข่าทำหน้าเครียดเหมือนคนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา พี่ตั้นดูผิดกับเมื่อวาน
"พี่ตั้นเป็นอะไรหรือเปล่า?"
"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร"
"แน่ใจ" ผมมองคนที่ให้คำตอบสวนทางกับการกระทำ
"อืม"
"ทำไม เมื่อคืนวุฒิมานอนกับพี่"
"วุฒิมาตามชิน แล้วไม่เจอ กูเลยให้มานั่งเล่นที่ห้องก่อน จากนั้นมันเผลอหลับ" "มั่นใจนะว่ามีแค่นี้"
"อืม มีแค่นี้"
ประหลาดใจที่พี่ตั้นถามคำตอบคำ ไม่กวนตีนเหมือนเคย
"พี่ตั้นโกหก""อย่าจับผิดกู สนเรื่องของมึงเถอะ เมื่อไหร่จะสู้วะติ...สู้เพื่อหัวใจของมึงเองน่ะห้ะ..."
ผมเงียบ ผมจะสู้ไปทำไม ในเมื่อผมยินดีที่จะเสียสละให้เพื่อนตั้งแต่แรก
"เรื่องนี้ผมจัดการเองได้"
"ตามใจ ถ้างั้นกูขอออกไปเดินเล่นหน่อยแล้วกัน"
"พี่ตั้น ผมห่วงพี่นะ"
"ขอบใจ" ผมมองพี่ตั้นที่พยักหน้ารับ จนกระทั่ง เสียงปิดประตูดังขึ้น ผมก็ทิ้งตัวลงนอนหลับตาอีกครั้ง หวังว่าจะลืมเรื่องพี่ชินช่วงหลับบ้างก็ยังดี
กระทั่งเวลาผ่านไปจนถึงมื้อเที่ยง ผมนั่งกินข้าวกับพี่ตั้นสองคน เนื่องจากวุฒิกับพี่ชินยังไม่กลับมาจากดำน้ำ
พี่ตั้นมีสีหน้าดีขึ้นเล็กน้อย ผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ชายของผม
จบมื้อเที่ยง ผมกับพี่ตั้นกลับห้องมานั่งดื่มเบียร์กันแต่หัววัน เราตกลงกันแล้วว่าจะดื่มแค่คนละกระป๋อง เพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอที่พวกวุฒิดำน้ำเสร็จ
น่าเบื่อนิดหน่อย ตรงที่พี่ชายผมไม่ร่าเริงเหมือนเคย เขานั่งกินเบียร์เงียบๆ จนเวลาผ่านไปถึงสี่โมงเย็น วุฒิและพี่ชินกลับมาถึงห้อง มันก็โทรมาบอกผมว่า มื้อเย็นให้ต่างคนต่างกินเลย แล้วค่อยนัดเจอกันอีกทีตอนออกไปดื่มที่บาร์ตามที่คุยกันไว้เมื่อวาน
ผมวางสายจากเพื่อน รู้สึกว่าวุฒิมีพิรุธ ผมบอกพี่ตั้นให้รู้ เขาก็พยักหน้าเนือยๆ...
สองคนนี้ เป็นอะไรกันวะเนี่ย!...
ผมบอกพี่ตั้นว่าไม่หิว เขาก็เช่นกัน กลายเป็นว่าจากที่ตั้งสัจจะจะดื่มกระป๋องเดียว กลับเพิ่มจำนวนเพราะไม่รู้จะทำอะไร พวกเราเลยเดินถือกระป๋องเบียร์หวังไปดื่มรอวุฒิและพี่ชินที่เตียงผ้าใบริมชายหาดเพื่อฆ่าเวลา
เวลานี้ ผมดื่มเบียร์ไปแล้วสองกระป๋อง แต่พี่ตั้นเนี่ยสิ ซัดไปสามกระป๋อง เขาจะต่อกระป๋องที่สี่ ผมต้องยกมือห้ามว่าต้องไปนั่งดื่มที่บาร์กันอีก
พี่ตั้นพยักหน้า ไม่พูดอะไร ผมไม่อยากถามแกมากกลัวจะวกเข้ามาเรื่องตัวเองอีก
สองพี่น้องนั่งทอดสายตามองไปยังท้องทะเลกว้างใหญ่ที่ไกลสุดลูกหู ลูกตา
ผมว่าความคิดคนเรานี่มันอิสระจนบางครั้งก็อันตรายเกินไปนะ หากเราไม่ควบคุมมัน
เพราะผมไม่เคยสลัดความคิดเรื่องพี่ชินออกไปได้เลย ผมต้องใช้ความพยายามพอสมควรที่จะลืม และแล้วเสียงโทรศัพท์ของผมดังขัดความคิด ผมรับสายวุฒิที่บอกว่าให้ไปเจอกันที่ล็อบบี้
"พี่ตั้นไปไหวไหมวะ"
"ไหว" มองหน้าพี่ชายที่หน้าแดงจนชักกลัวว่าเขาจะเดินไปไหวจริงๆหรอ?
เวลาหกโมงเย็น สองพี่น้องเดินไปหาวุฒิ ณ จุดนัดพบ
พวกเราเดินไปหาบาร์กึ่งร้านอาหารริมชายหาด จนกระทั่งเจอะที่ถูกใจ เป็นโต๊ะตั้งพื้นพร้อมเบาะรองนั่ง พวกเราทิ้งตัวลงนั่งของแต่ละฝั่งโต๊ะทั้งสี่ด้าน
ร้านนี้ มีแต่ชาวต่างชาติเลยไม่ค่อยมีใครสนใจพวกผมเท่าไหร่ ทุกคนต่างก็มาพักผ่อนและสร้างสรรค์ในแบบที่ทุกคนต้องการก็แค่นั้น
ทุกคนเลือกสั่งเมนูเดียวกัน เป็นเหล้าถังที่มีส่วนผสมของ Vodka+Red Bull
เพื่อไม่ให้บรรยากาศกร่อยจนเกินไป ผมชวนวุฒิคุยและถามมันว่าไปดำน้ำมาเป็นอย่างไรบ้าง มันตอบว่าสนุกแต่แดดแรง และบางเกาะก็ลงเล่นน้ำไม่ได้เนื่องจากแมงกระพรุนเยอะเกินไป
ผมพยักหน้าเออออ แต่ตลอดเวลาที่นั่งมา ผมรู้อยู่อย่าง
พี่ตั้นกับวุฒิมีปัญหากัน แต่พยายามทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาถึง ทุกคนยกมาชนกันแล้วดื่ม
ผมค่อยๆดื่มเพราะก่อนหน้าผมเพิ่งดื่มเบียร์มาแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่าพี่ตั้นเป็นบ้าอะไร ถึงไปท้าพี่ชินให้ดื่ม Vodka+Red Bull หมดถัง
ผมพยายามห้ามพี่ชินว่าอย่าไปเชื่อ แต่พี่ชินกลับบ้าจี้รับคำท้า ผมมองพี่ชินด้วยความเป็นห่วงที่เขาดื่มจนหมดจริงๆ
พี่ชินกวักมือเรียกพนักงานเพื่อสั่งเมนูเดิมต่อ
"พี่ชิน เดี๋ยวก็เมาหรอกครับ"
ผมห้าม
"ไม่หรอก ขอบคุณนะ"
พี่ชินตอบแค่นั้นพลันยิ้มมุมปาก
ผมล่ะกลัวจริงๆ กลัวพี่จะเมามากเกินไปแล้วดูแลตัวเองไม่ได้
เมื่อเครื่องดื่มของพี่ชินมาเป็นถังที่สอง ผมเห็นพี่ตั้นแทรกขึ้น
"วุฒิไปห้องน้ำเป็นเพื่อนพี่หน่อย"
"ไปเองไม่เป็น?"
"วุฒิ อย่าให้พี่ต้องบอกว่า..."
"เออๆก็ได้...พี่ชิน เดี๋ยวผมมานะครับ"
ผมมองหน้าวุฒิที่หันไปบอกพี่ชินก่อนจะลุกตามพี่ตั้นไป ผมมองสองคนสลับกันไปมาด้วยความไม่เข้าใจ
จนกระทั่ง สองคนลับตาไป ผมยิ้มแหยๆให้พี่ชินที่อีกฝ่ายจ้องมองมาทางผมพลางไล่นิ้วไล้ขอบแก้วเล่น
เมื่อพี่ตั้นและวุฒิไม่อยู่ ผมล้วงอมยิ้มจูปาจุ๊บส์ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นยื่นให้พี่ชิน
'อมยิ้ม' เป็นสัญลักษณ์ที่เรารู้กันสองคน
หากเห็นอมยิ้ม พี่ชินจะรู้ว่าผมต้องการสื่อถึงอะไร
"แกะให้หน่อยสิ" ผมใจกระตุก เมื่อพี่ชินยิ้มและอ้อนผม
ผมข่มใจแกะเปลือกพลาสติกที่ห่ออมยิ้มจูปาจุ๊ปส์รสสตรอเบอร์รี่ทั้งๆที่มือสั่น แกะเสร็จ ผมยื่นให้ แต่พี่ชินส่ายหน้าแล้วบอก
"ป้อนหน่อย" พี่ชินเป็นอะไรเนี่ย!...
ผมนั่งอึ้ง เมื่อพี่ชินจ้องผมตาหวาน ยกมือท้าวคางบนโต๊ะ ทำตัวน่ารัก น่ามอง
นาทีนี้ ผมสับสนว่าผมเป็นคนหรือไอศกรีม
ทำไมร่างจะละลายไปกับการส่งสายตาหวานฉ่ำคู่นั้น
พี่ชินอย่ามองแบบนั้นเถอะ...ได้โปรด!...
ผมมือสั่น ยื่นอมยิ้มไปจ่อปากอีกฝ่าย พี่ชินไม่รับอมยิ้มไปถือเองกลับวางมือทับไปบนหลังมือของผม ส่งปลายลิ้นออกมาแตะอมยิ้มจากนั้นใช้ลิ้นเลียวนอมยิ้มช้าๆ ตวัดปลายลิ้นซ้าย-ขวาไป มา ผมกลืนน้ำลายดังเอื้อก มันคงจะดีกว่านี้ ถ้าพี่ชินจะถืออมยิ้มเอง
ราวกับมีมนตร์สะกด ผมนั่งนิ่ง แต่ลึกๆใจเต้นแรงและเร็ว แต่ผมก็ไม่อยากละสายตาไปจากใบหน้าซ่อนหวาน
ลมทะเลพัดแรงจนเส้นผมปลิวสไว แก้มแดงๆ รอยยิ้มเล็กๆติดจะยั่วเย้า และดวงตาคู่สวยอันหวานเยิ้มกำลังจดจ้องมองผม ภายใต้แสงสีส้มสลัวๆ ทำให้กรอบหน้าพี่ชินดูมีมิติ เขาดูมีเสน่ห์และน่ามองขึ้นอีกมากโข
พี่ชินยังคงใช้ลิ้นเล่นและเลียอมยิ้มอย่างหยอกเย้า
เห็นอย่างนี้ พี่ชินใช้ลิ้นได้โคตรยั่วเลยให้ตายเถอะ พระเจ้า..
ผมพยายามห้ามความคิดตัวเองให้หยุดจินตนาการไปทางทะลึ่ง
ผมกลืนน้ำลายลงคอได้ยากลำบาก เราสองคนยังจ้องตากัน พี่ชินหยุดเลียอมยิ้มที่ผมถืออยู่ก่อนจะยัดเข้าปาก
พี่ชินอมแล้วดูดอมยิ้มด้วยท่วงท่าสบาย แต่คนที่จะตาย คือ ผม นี่แหละ
มือไม้ผมอ่อนแรง ถ้าพี่ชินไม่จับมือผมไว้อยู่คงร่วงไปแล้ว
จากที่พี่ชินนั่งพับเพียบเปลี่ยนอิริยาบถมานั่งคุกเข่า โถมตัวมาด้านหน้า โน้มหาผมจนปลายจมูกของเราเกือบชนกัน
สายตาที่ยั่วเย้า รอยยิ้มที่ยั่วยวน พี่ชินดึงอมยิ้มออกมาจากปาก นำมาแตะที่ริมฝีปากล่างของผม จนได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากอมยิ้มรสตรอเบอร์รี่ พี่ชินเอ่ยเสียงแผ่ว
"ช่วยพี่กินหน่อย"
ฮื่อออออออ....พี่ชินไม่ควรทำอย่างนี้
หากจะเปรียบเทียบคงเหมือนพี่ชินใช้ค้อนใหญ่ทุบกำแพงแห่งความอดทนของผมที่กำลังพังทลายลงเรื่อยๆ
ผมใจเต้นแรงแทบทะลุออกจากอก ผมยังไม่อ้าปากรับอมยิ้ม แต่พี่ชินที่รออยู่ก็ส่งสายตาอ้อนวอน ร้องขอ
ผมอ้าปากรับอมยิ้มเข้ามาในปากเพื่อรับรู้รสสตรอเบอร์รี่หวานๆที่มีส่วนผสมหลอมรวมของพี่ชินซ่อนอยู่ในนั้น
ผมหน้าร้อนเห่อ ใจเต้นรัว ก่อนจะดึงอมยิ้มออกมา
พี่ชินยังคงอยู่ในอิริยาบถเดิม ใบหน้าเราใกล้กัน เขายิ้มกัดปาก ดึงอมยิ้มออกไปจากมือผม แล้วเอาเข้าปากตัวเองอีกครั้ง
พี่ชินดูดอมยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้น พี่ชินโน้มหน้ามาใกล้จนริมฝีปากเขาเฉียดมุมปากของผมและกระซิบ
"หวานดีเนอะ ติว่าไหม?"
ผมอุตส่าห์ตะเกียก ตะกายขึ้นมาจากหลุมรักของพี่ชินหวังจะหนีไปให้ไกล
แต่แล้วพี่ชินกลับมาออดอ้อนใส่ มันยิ่งทำให้ผมถลำและรักจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วผมจะปีนขึ้นจากหลุมรักนี้สำเร็จได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่า นาทีนี้ พี่ชินจะรู้ไหมว่าท่าทางยั่วยวนทั้งหมดของพี่ มันทำให้ลูกชายของผมตื่นตัวจนแข็งขึ้นมา
แล้วอย่างนี้ ใครจะรับผิดชอบ!...
......................................
อะไรคือการชวนให้กินอมยิ้มอันเดียวกันคะพี่ชิน พี่เมาไหม? 555
ขอบคุณนักอ่านที่แวะเข้ามาจ้า