“อ้าปาก” คำสั่งแรกออกมาแล้ว พระจันทร์เบือนหน้าหนีเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยความต้องการของตัวเองออกไปบ้าง
“ไม่เป็นไร จันทร์กินเองได้ ไม่ต้องป้อนหรอก”
“...อ้าปาก”
“...ฮื้อ พี่ยะ...จันทร์กินเองได้จริงๆ...”
“แต่พี่จะป้อน...เร็วๆ...อ้าปาก”
“...อื้อ...” สงเสียงบ่นขัดใจไปเล็กน้อย แต่สุดท้ายอย่างพระจันทร์น่ะหรือจะเอาชนะพี่ยะได้ สุดท้ายก็ต้องยอมกลายเป็นง่อยให้เขาบริการป้อนถึงปากอยู่นั่น
“ไม่เอาแล้ว...อิ่มแล้ว”
“กินให้หมดอย่างอแง เพิ่งได้สามคำเองจะอิ่มได้ยังไง...เพราะกินข้าวอย่างกับแมวดมอย่างนี้ล่ะสิวันนี้ถึงได้เป็นลมน่ะฮึ...อ้าปาก”
“เอ่อ...พี่ยะไม่มีงานอื่นแล้วเหรอ...”
“ไม่ต้องมาแกล้งเปลี่ยนเรื่องเลยจันทร์ ถ้าวันนี้กินไม่หมดพี่ไม่ยอมไปไหนแน่ๆ อ้าปากเร็ว...อีกคำหนึ่ง”
“...ไม่เอาแล้ว จันทร์อิ่มแล้วจริงๆ...” ดวงตากลมโตช้อนมองคนป้อนที่จ่อช้อนคาไว้ที่ปากด้วยสายตาอ้อนวอนขอให้สงสาร แต่สุริยะมณฑลไม่มีให้แม้แต่ความเห็นใจ หมอบอกเขาว่าร่างกายพระจันทร์นั้นอ่อนแอ พักผ่อนน้อย และมีเรื่องเครียด จึงทำให้เป็นลมไปในวันนี้ ดังนั้นเขาจะต้องดูแลให้พระจันทร์กินข้าวให้เยอะกว่านี้ แล้วก็ต้องไม่ให้เครียด แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเขาเลย
ดูสินั่น...พอยอมอ้าปากกินข้าวคำที่สี่ไปก็ทำหน้าผะอืดผะอม และในที่สุดเจ้าตัวก็รีบพุ่งตัวเข้าไปที่ห้องน้ำ แล้วอาเจียนเอาข้าวที่ทานไปเล็กน้อยเมื่อสักครู่ออกมาหมด
“นี่อ้วกประชดพี่หรืออะไร ถ้าขืนยังไม่ยอมกินให้มากกว่านี้นะพี่จะจับให้กินข้าวผ่านทางสายยางเลยคอยดู” คนเอ่ยคำพูดใจร้ายพยายามช่วยประคองตัวพระจันทร์เอาไว้ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ช่วยลูบหลังให้
แต่ทว่าท่าทางอาเจียนจนทรมานของพระจันทร์เริ่มทำให้คนปากดีเริ่มเครียดเขม็งขึ้นมาอย่างจริงจัง เด็กหนุ่มผิวขาวอาเจียนเอากระทั่งน้ำย่อยในกระเพาะออกมาก็ยังไม่หมดท่าทางผะอืดผะอม จนสุริยะมณฑลต้องบอกให้พระจันทร์ฝืนหยุดอาเจียนแล้วบ้วนน้ำเปล่า
“แค่ก...แค่ก...”
“พระจันทร์ ทำไมอาเจียนหนักขนาดนี้ พี่ว่าไปหาหมออีกทีดีกว่า เมื่อกี๊หมอคงตรวจไม่ละเอียด ไปโรงพยาบาลน่าจะวิเคราะห์ได้ถูกจุดกว่านี้...”
“มะ...ไม่เอาพี่ยะ จันทร์อยากนอน ไม่ต้องไปหาหมอหรอก” เด็กหนุ่มรั้งชายแขนเสื้อของคนพูดเร็วทำเร็วให้วางโทรศัพท์มือถือในมือลง
“แต่พระจันทร์...”
“ไม่มีแต่...อุ้มหน่อย เดินไม่ไหว...อยากนอนต่อแล้ว”
“พรุ่งนี้เช้าถ้าไม่ดีขึ้นพี่จะให้เราลามหาวิทยาลัยแล้วไปหาหมอกับพี่ โอเคมั้ย”
“ก็ได้ครับ แต่พี่ยะอย่าแอบโทรไปหาหมอให้มาดูจันทร์ตอนหลับนะ จันทร์ไม่ได้เป็นอะไรมาก วันนี้แค่เรียนเยอะไปหน่อยแล้วก็กินข้าวไม่ตรงเวลาน่ะก็เลยทรุด จันทร์รู้ตัวเองดีหรอก...”
“ถ้ารู้ตัวเองดีก็ช่วยบอกพี่หน่อยเถอะว่าเราไม่ไหว ไม่ใช่ไปล้มในสนามบินให้พี่ใจหายใจคว่ำแบบวันนี้อีก ถ้าพี่รับไว้ไม่ทันเราจะเป็นยังไง หัวฟาดพื้นไปนี่เป็นเรื่องอื่นเลยนะ” คนพูดพูดไปมือก็ช้อนอุ้มตัวพระจันทร์พากลับมาที่เตียงตามคำขออย่างเรียบร้อย และแน่นอนว่าการจะปล่อยให้คนรักต้องนอนเหงาอย่างเปล่าเปลี่ยวอีกนั้นไม่มีเสียหรอก เขารีบเอาตัวเองสอดเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันทันทีที่พระจันทร์ตลบผ้านวมผืนหนานุ่มขึ้นมากองอยู่บนอก
“พี่ยะขึ้นมาทำไม ลงไปเลยนะจันทร์จะนอน” เสียงขุ่นเอ่ยบอก แต่คนหน้ามึนก็ยิ่งแทรกท่อนแขนเข้าไปรวบตัวพระจันทร์เข้ามากอดไว้แน่น ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรเขาติดหมอนข้างกลิ่นหอมตัวนุ่มคนนี้ที่สุดเลย
“จันทร์ก็นอนไปสิ พี่จะกล่อมให้ไง”
“ไม่เอา มีพี่นอนด้วยเดี๋ยวก็ไม่ได้นอนอีก” ประโยคสุดท้ายนั้นมันดังงุดงิดมาจากใต้ผ้าห่ม เมื่อคนป่วยยกผ้าขึ้นมาห่มมิดเหลือแต่ตา ในขณะที่มือนั้นก็ต้องคอยผลักไสท่อนแขนหนาๆที่เอาแต่ลูบเอวเขาไม่หยุด
“ทำไมจะไม่ได้นอนล่ะครับ หืม? เพราะอย่างนี้รึเปล่า...หรือว่าเพราะอย่างนี้...”
“พะ...พี่ยะ...มะ...ไม่เอา...ไม่เอานะไม่เอา...หยุด เดี๋ยวนี้...”
พระจันทร์ดิ้นหนีจนตัวแทบบิด ก็อย่างนี้แรกของพี่เขาคือการสอดมือเข้ามาในเสื้อ ส่วนอย่างนี้สองของชายหนุ่มคือการสอดมือเข้ามาในกางเกง...นี่จะไม่สงสารคนป่วยจริงๆใช่มั้ย...
“ไม่ต้องมองพี่ตาปรอยแบบนี้เลยนะ รู้ตัวมั้ยว่ายิ่งตอนที่เราป่วยเนี่ย มองพี่ตาเยิ้มขนาดไหน” คนพูดเอาศอกเท้าหมอนไว้ข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็เอาลูบแขนลูบเอวพระจันทร์ไปทั่ว
“พี่ยะ! ไม่เอานะ จันทร์ป่วยอยู่...” คนป่วยหน้าแดงเถือก พยายามยื้อเอวกางเกงเอาไว้อย่าวสุดชีวิต
“รู้ครับ...ว่าป่วย...แต่ตอนนี้น่ะพี่...” ชายหนุ่มลากเสียงยาว ในกังวาลแว่วอารมณ์สุนทรีย์เสียจนน่าหมั่นไส้
แล้วจู่ๆคนที่นอนค้ำศีรษะคนอื่นอยู่ก็ยื่นหน้ายื่นจมูกเข้ามาใกล้ พระจันทร์เขยิบหนีเสียจนหมอนบุ๋ม แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ได้แค่นั้น เมื่อสุริยะมณฑลเอาจมูกเข้าไปชิดจนชนกัน แล้วค่อยๆร้องเพลงเพลงหนึ่งออกมา
“...อยากจะกินกลืนเธอทั้งตัวไม่อยากเหลือไว้ให้ใครได้กลิ่น~ อยากได้ยินเพียงเสียงของเธอเพรียกบอกรักเพ้อ…ถึงฉันผู้เดียว กดอารมณ์ทนไปไม่ไหว ใจมันหวิวหวาม~ ไม่เจอคงขาดใจ...” เสียงทุ้มนุ่มขาดหายไป
ดวงตาสองคู่สบประสานกันอย่างไม่มีใครยอมใคร และสุดท้ายก็เป็นพระจันทร์ที่ยอมหลบตาไปก่อนพร้อมร้องท่อนต่อไปให้อีกฝ่ายฟังด้วยใบหน้าแดงๆ
“...โอ๊ย โอ๊ย...”
“...แค่นี้เหรอ เอาให้จบท่อนนี้สิ...” สุริยะมณฑลเรียกร้อง ในตอนแรกพระจันทร์ส่ายหน้าให้ แต่สุดท้ายก็ทนสายตารบเร้าไม่ไหว ยอมร้องต่อให้จนจบ
“...โอ่ย โอ๊ย...ตัวหนักจังเธอ...”
“...”
สิ้นสุดเสียงร้องเพลง สุริยะมณฑลหรี่ตามองคนที่นอนขดอยู่ใต้ร่างเขาด้วยอารมณ์ทั้งขำทั้งขรึม นับวันเขาชักจะปล่อยให้เด็กคนนี้มาปีนเกลียวเขามากเกินไปแล้ว
“หนักใช่มั้ย หนักมากเนอะ...เดี๋ยวจะทำให้หนักยิ่งกว่านี้อีก เอาให้หนักด้วยอึดอัดด้วยเลยดีกว่าเนอะ เหมือนตอนนั้นไง ตอนที่เรากลับมาจากเกาะ แล้วพระจันทร์ก็เป็นหวัด...บนเตียงนั้นที่โรงพยาบาล...อื้ม...”
เสียวจ้วบดังขึ้นเบาๆเมื่อริมฝีปากสีชมพูอมส้มทำการอาจหาญชาญชัยยื่นเข้าไปปิดปากคนเชี่ยวชาญกว่าก่อน พระจันทร์จูบไม่เก่งหรอก ทำเป็นแค่เอาปากไปประกบ นอกนั้นก็ไม่รู้วิธีอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาตัวเองก็ทำได้แต่เป็นผู้ตาม อีกฝ่ายจะชักนำเขาไปอย่างไรก็สุดแล้วแต่เขาจะพอใจ
“พี่ยะ...ไม่เอา...”
“ไม่เอาแต่พี่อยากให้ อย่าคิดนะว่าตัวเองเริ่มก่อนแบบนี้แล้วมันจะหยุดลงง่ายๆ...เตรียมตัวเลยคนดี ถึงป่วยพี่จะไม่ละเว้นให้แน่...”
“พี่ยะ...ไม่นะ ไม่เอา...จันทร์...อื้ม...”
เสียงครางเป็นลูกแมวซมไข้ค่อยๆดังแบบสะอื้นฮึกฮักเมื่อโดนเจ้าของตัวใหญ่พยายามที่จะงับปากเขาแล้วกอบโกยน้ำหวานจากโพรงปากเสียจนหายใจไม่ทัน พอเห็นดังนั้นเจ้าของลูกแมวจึงยอมเปิดช่องว่างให้คนตัวเล็กได้พักหายใจเล็กน้อย ก่อนจะก้มลงไปปิดปากเจ้าลูกแมวซ้ำอีกครั้งเมื่อความหวานที่ได้ชิมนั้นช่างติดลิ้นเสียเหลือเกิน
จูบหวานล้ำที่สุริยะมณฑลก้มลงป้อนให้ถึงปากทำให้สมองของพระจันทร์ค่อยๆขาวโพลน คิดอะไรต่อไม่ออก มันตันๆแล้วก็ตื้อๆ เพราะความคิดทั้งหมดมันถูกบังคับให้ลอยวนไปวนมาอยู่รอบๆตัวผู้ชายร่างสูงตรงหน้าไปหมดแล้ว
“ตระ...ตรงนั้น...ฮึก...”
“มันลื่นแล้วนะพระจันทร์ วันนี้ไม่ต้องใช้เจลก็น่าจะเข้าได้นะ...” สุริยะมณฑลเกี่ยวชั้นในและกางเกงแพรของคนตัวเล็กที่นอนระทวยอยู่ในอ้อมกอดถอดออกไปพร้อมๆกันอย่างคุ้นเคยมือ จากนั้นก็ไม่ต้องมีการอารัมภบทกันนาน เพราะฝ่ามือใหญ่จัดการแปะเข้าไปที่หว่างขาของคนป่วยใต้ผ้าห่ม แล้วลูบสำรวจตามอำเภอใจในทันที
“มัน...มันจะ...เจ็บ...” พระจันทร์กล้าที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปตรงๆ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอาย แต่ในเวลาแบบนี้พี่ยะไม่เคยที่จะไม่รับฟัง...ใช่...เขาแค่รับฟัง แต่น้อยครั้งมากที่จะทำตาม...
ตอนนี้สุริยะมณฑลยกตัวเองขึ้นไปทับเหนือร่างพระจันทร์แบบเต็มตัวแล้ว แต่กระนั้นก็ระวังที่จะไม่ถ่ายเทน้ำหนักของตัวเองลงไปมากเกิน ท่อนขาใหญ่ทั้งสองข้างเบียดเข้าแทรกระหว่างขาของพระจันทร์แล้วเทน้ำหนักลงไปตรงนั้นเพื่อช่วยทรงตัว เมื่อเข้าที่เข้าทางแล้วช่วงบนของพระจันทร์ที่ถูกละเลยมานานก็ถูกจัดการในทันที
นิ้วมือกร้านใหญ่แตะผ่านยอดอกนิ่มๆของคนนอนโอนอ่อนแผ่วๆ จากนั้นก็ค่อยๆปลุกปั่นมันขึ้นช้าๆ ก่อนที่ตัวเองจะเอาศีรษะมุดกลับเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วงับติ่งเนื้อนุ่มนิ่มที่เริ่มแข็งตึงขึ้นมาผ่านผ้า แล้วปล่อยให้มันเด้งกลับซ้ำๆ จากนั้นพระจันทร์ก็ได้ยินเสียทุ้มห้าวอู้อี้ดังลอดเสื้อขึ้นมาว่า
“พี่ว่าช่วงนี้เราอ้วนขึ้นมั้ย นมเริ่มตั้งเต้าแล้วนะพระจันทร์...”
เฮื้อก...! วินาทีนั้นพระจันทร์แทบหัวใจหยุดเต้น มือเย็นเฉียบขยุ้มหลังเสื้อคนที่ง่วนอยู่กับอกเขาให้เงยหน้าขึ้นมาหา ก่อนจะเอ่ยถามเสียงสั่นว่า
“พะ...พี่ยะ...รู้ได้ยังไง...”
“หึหึ...ถามแปลก พี่จับของพี่อยู่ทุกวัน ทำไมพี่จะดูไม่ออกว่ามันแฟ่บ...หรือว่าใหญ่ขึ้น...”
“...คะ...คือ...มัน...”
“แต่นิ่มๆแบบนี้ก็ดีนะพี่ชอบ หอมดีด้วย...หอมหวานๆเหมือนนม...”
“พี่ยะนะ! ถ้าชอบใหญ่ๆตู้มๆก็ไปคอนโดพี่เลยไป...มาจับทำไมคนไม่มีนมอย่างจันทร์น่ะ...”
“อะไร ทักแค่นี้นี่หึงพี่ไปโน่น...ไม่เอาน่ะอย่าทำตัวน่ารักมากไปกว่านี้เลย ตั้งใจไว้ว่าวันนี้จะแค่รอบเดียวเพราะเห็นใจคนป่วย แต่ทำแบบนี้พี่จะหยุดไม่ได้เอานะพระจันทร์...”
“พี่ยะ..!”
“ครับ”
“นี่แน่ะ...จะทำอะไรก็ทำ...อย่าพูดมาก” พร้อมกับที่พูด พระจันทร์เอามือกดศีรษะอีกฝ่ายลงทับอกแบนๆของตัวเองอีกครั้ง ตั้งใจจะกดไม่ให้เขาหายใจออก แต่ทว่าคนไม่เคยสิ้นลายกลับแลบลิ้นเลียแผล่บเข้าให้ พระจันทร์ตาโตปล่อยมือออกแทบไม่ทันเพราะความเสียวมันแล่นปรี๊ดถึงปลายนิ้ว
...คนอะไรไม่รู้...กะล่อนที่สุด!...
“อ่ะ...อ๊ะ..อ๊า...พี่ยะเจ็บ!...มันฝืด...”
“ฝืดที่ไหน นี่ไงเข้าไปได้แล้วตั้งหนึ่งนิ้ว...มันบับทักทายนิ้วพี่ใหญ่เลย ไม่รู้สึกเหรอ” คนพูดลองกระดิกปลายนิ้วที่สอดเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่ายทีเผลอด้วยดวงตาเป็นประกาย จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนไหวของพระจันทร์เขาจำได้หมด และไม่ลังเลเลยที่จะโจมตีจุดนั้นซ้ำๆ จนพระจันทร์ก้นลอยแทบไม่ติดพื้นเตียงแล้วตอนนี้
“พะ...พอนะ...ไม่เอาแล้ว...อ๊ะ...พี่...อ๊า...ไม่...ไม่เอา...มันจะ...จะออก...”
“อะไรจะออกครับ...นี่แค่นิ้วเดียวเองนะ จะไปแล้วเหรอ...”
“อะ...มะ...ไม่...ไม่เอา...พี่ยะ...อย่าแกล้งจันทร์...อย่าแกล้งน้อง...”
“ก็น้องน่าแกล้ง...พอแกล้งแล้วตรงนี้ของน้องพระจันทร์ก็จะร้องไห้ออกมา แต่อย่าเพิ่งนะครับคนดี...รอพี่อาทิตย์ก่อนนะ...”
เสียงผ้าสวบสาบและเสียงหัวเข็มขัดกระทบกันทำให้พระจันทร์พยายามลืมตาที่ปิดแน่นสนิทมาตลอดขึ้น เขามองไม่ถนัดหรอกว่าตอนนี้พี่ยะกำลังทำอะไรอยู่เพราะทัศนียภาพมันโดนกองผ้าห่มที่มันสุมอยู่บนตัวบดบัง แต่กระนั้นเขาก็พอจะเดาออกหรอก เมื่อตรงท่อนขาของเขาโดนฝ่ามือเปียกชื้นของพี่ยะจับแยกออกจนกว้าง พร้อมกับที่อะไรบางอย่างอุ่นๆร้อนๆเริ่มถูไถไปตามซอกขาของเขาเหมือนปลาไหลที่ต้องการหาทางไป
“ดะ...เดี๋ยว...พี่ยะ...อ่ะ จันทร์...ไม่เอานะ...ตรงนั้นมันยัง...เล็ก...มัน..อ่ะ...อ๊า...”
พูดไม่ได้หรอกว่าร่างกายของเขาถูกเตรียมให้พร้อมสำหรับรับอีกฝ่ายเข้ามาแบบนี้ แต่ตอนนี้ห้ามไปก็ไม่ทันแล้ว เมื่อส่วนหัวของมันมุดเข้ามาจนจมมิดอยู่ในร่างกายของพระจันทร์เรียบร้อยแล้ว
“อึก...อื้ม...”
ชายหนุ่มร่างสูงยืดตัวขึ้นไปจูบปลอบขวัญคนรองรับตัวตนของเขาอย่างหวานฉ่ำอีกรอบ พระจันทร์ส่งเสียงครางติดอยู่ในลำคอ ฝ่ามือเล็กน่ารักก็คอยแต่จะกระชากคอเสื้อของเขาออก แต่แรงเท่าแมวดิ้นแบบนี้น่ะหรือจะหยุดเขาได้...คนอย่างสุริยะมณฑลไม่ใช่คนกินมั่ว แต่ถ้าลองได้กินของโปรดเข้าแล้วล่ะก็ต่อให้ใครหาว่าเขาตะกรุมตะกรามเขาก็ไม่สนและไม่มีทางหยุดกินด้วย เลือดแม่เขามาเต็มตรงนี้ล่ะ เกลียดแรงรักแรง...และชอบแกล้งคนที่รักเป็นที่สุด...
“อ่า...พระจันทร์ รัดแรงๆครับ...พี่ชอบ...”
“ไอ้...พี่ยะ...โรค...จิต...”
“ฮ่าๆ...ก็เลียนแบบเหมือนในหนังไง...ไม่ชอบเหรอ...”
“ฮื้อ....อึก...พี่ยะ..อย่าพูด...มันกระเทือน...”
“อ้าวเหรอ...ขอโทษๆ พี่ก็แค่หัวเราะ...”
“ไอ้พี่ยะ! ฮื้อ...อ่ะ...ห๊า...อึก..อ๊า”
ไม่ต้องรอให้เกิดแรงสะเทือนเบาๆมากไปกว่านั้น สุริยะมณฑลก็จัดหนักจัดเต็มใส่ร่างขาวๆหอมๆของพระจันทร์ทันที ปลายเท้าของคนรองรับร่างกายของเขากระตุกเกร็ง มือน้อยกำแน่นจนข้อขึ้นขาว คนตัวโตกว่าจึงก้มลงไปจูบที่กำปั้นน้อยเบาๆแล้วเอามือตัวเองทั้งสองข้างมาสอดจับมือพระจันทร์เอาไว้แทน ก่อนจะพาโอบขึ้นไปตรึงเอาไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะขยับองศาเอวให้ได้มุมที่ถนัดแล้วลงมือเริ่มห่มสะโพกลงหาผิวเนื้อนิ่มๆเป็นจังหวะ
“...พะ...พี่ยะ...ช้า...อะ...อึก...อ๊ะ...”
“ช้าแล้วครับ...รัดพี่แน่นเสียขนาดนี้ขยับเร็วได้ไง...เดี๋ยวพระจันทร์ของพี่จะเจ็บ...”
“พี่ยะ...ฮึก...อื้อ...”
เพราะเสียงหวานที่ครางระงมมันช่างน่ารัก และอาการออดอ้อนสัมผัสจากเขาโดยไม่รู้ตัวก็ช่างโดนใจ สุริยะมณฑลจึงก้มลงไปหาริมฝีปากชุ่มฉ่ำนั่นเป็นระยะ สลับกับก้มลงกัดยอดอกผ่านเสื้อผ้า สงสัยจบรอบนี้แล้วคงต้องพาอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนชุดใหม่เสียแล้ว ขืนปล่อยให้นอนเปียกทั่วอกขนาดนี้พรุ่งนี้ตื่นมาคงได้มีคนเป็นปอดบวมแน่
สุริยะมณฑลเฝ้ากกกอดวนเวียนจูบพระจันทร์อยู่จนอีกฝ่ายเริ่มสะอื้นฮักออกมาจริงจัง ริมขอบตาเริ่มมีน้ำตาหยาดไหลลง คงเป็นเพราะรู้สึกมากเกินไปแล้วไม่รู้จะระบายออกมายังไง สุริยะมณฑลจึงได้โอกาสจบเพลงรักครั้งนี้ลง เขาเป็นพวกอึดกับเรื่องแบบนี้มาก แต่พระจันทร์นั้นไม่ใช่...หลายครั้งที่เขาทำให้พระจันทร์ต้องขาดเรียนเพราะเพลียและมีไข้ต่ำๆ ดังนั้นเขาต้องเพิ่มความใส่ใจในตัวของคนรักให้มากกว่านี้
คิดแล้วชายหนุ่มก็จัดการสาวสะโพกของตัวเองออกมายาวๆแล้วกดซ้ำลงไปแน่นๆ จากนั้นจึงหมุนวนสะเอวให้สัมผัสแรงรัดรึงรอบๆกายเขาแน่นๆ เมื่อมันถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์ ชายหนุ่มก็ระเบิดของเหลวของตัวเองพุ่งใส่อีกฝ่ายไปเต็มแรง กดค้างเอาไว้ให้ร่างกายกระตุกปลดปล่อยตัวตนออกมาทั้งหมดให้มันพร่างพรายอยู่ในตัวของพระจันทร์...ถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่บ้ามาก แต่ใจลึกๆก็เคยมีแอบคิด ว่าถ้าเชื้อของเขาตัวใดตัวหนึ่งสามารถสร้างลูกทาผูกพันธ์พระจันทร์เอาไว้กับตัวเองได้ก็คงจะดีไม่น้อย...
“อ่า...พี่...พี่อยากให้จันทร์รับของพี่ไปทั้งหมด...ไม่แน่นะ ในนี้...สักวัน...อาจจะมีลูกของพี่ฝังอยู่ก็ได้...ฮ่า...”
และทันทีที่สิ้นเสียงคำพูดนั้น ร่างกายพระจันทร์ก็กระตุกหงึก พร้อมกับของเหลวในร่างกายตัวเองที่พวยพุ่งออกมาภายนอก...และสติที่ดับลงไปพร้อมคำพูดสุดท้ายที่ดังก้องอยู่ในหัว...
...ในนี้...สักวัน...อาจจะมีลูกของพี่ฝังอยู่ก็ได้...
...ลูก...
...ไม่จริง...---------------------------------------------
ลงครบจบสิ้นกระบวนความแล้วนะคะ
หลังจากนี้แพทจะลงตอนต่อไปเรื่อยๆ พร้อมๆกับลงตอนที่มีการแก้ไขไปด้วยค่ะ แต่อาจลงไม่ได้ทีเดียวนะคะเพราะบางตอนไม่แน่ใจว่าจะเกิดปัญหาพวกอักษรเกิน แล้วตอนมันจะล้นไปหรือเปล่า
แต่ดีใจที่ได้กลับมาลงเรื่องนี้ต่อเหมือนเดิมแล้วค่าาาาา ฮุฮิ