นั่งอ่านรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย(ทั้งแม่พี่ทีและแม่พี่ปอ)จะรู้เลยว่าพี่สองคนเหมือนจะคบๆกัน
แต่อาจจะยังไม่รู้ว่่าตอนนี้นั้นเป็นยังไงกันอยู่ บางทีผู้ใหญ่เขาก็ดูรู้แต่แค่ไม่พูดก็เท่านั้นเอง
ใจนึงก็สงสารพี่ปอนะ แต่ความจริงแล้วเราก็ไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง
เพราะเราก็ไม่ได้เห็นทุกฉากทุกตอนในการกระทำในชีวิตประจำวันของเขาและเราก็มีหน้าที่การงานของเราที่จะต้องรับผิดชอบ
ตอนที่เขาอยู่ข้างนอก ตอนที่เขาคุยกับคนอื่น และตอนที่เขามาพูด มาคุย มาเล่าเรื่องให้เราฟังนั้นเหมือนกันหรือเปล่าเพราะเราไม่ได้อยู่ด้วยตัวติดกันตลอดเวลา บางเรื่องเขาเล่าแต่บางเรื่องก็เก็บไว้ไม่ได้เล่าก็มีเยอะแยะ
การถูกคนรักทำให้เจ็บไปแล้วครั้งนึงยอมทำให้ความเชื่อใจลดลงไปเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
และการที่จะทำให้ความเชื่อใจนั้นกลับมามีเหมือนเดิมก็ทำได้ยากด้วยเช่นกัน
เราอาจจะคิดว่าเราเชื่อมันนะแต่ในใจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรอก
ข้างในลึกๆแล้วเราก็ยังเป็นห่วงมันอยู่ แต่ในหัวเราคิดว่าเราเลิกกันแล้วก็ช่างมันสิแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรมากมาย
ใจนึงก็เขาใจพี่ทีที่ได้เลือกและตัดสินใจทำมันลงไปแล้ว และคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปนั่นดีที่สุดของทั้งสองฝ่าย
แต่อีกใจไฉนถึงได้โอนเอียงไปทางพี่ปอ จากที่ได้อ่านที่พี่ทีเล่าก็เหมือนว่าพี่ทีก็ยังรักพี่ปออยู่เหมือนเดิม
อยากกลับไปแต่ก็กลัวเหมือนเก่า ไม่อยากเจ็บซ้ำ (คิดเองเออเอง ขอโทษครับ อิอิ)
ตอนนี้สับสน ไม่รู้จะอยู่ข้างไหนดี เข้าใจพี่ทีก็เข้าใจนะ แต่พี่ปอก็ทำตัวน่าสงสารซะงั้น
อยากให้กลับมาคบกันเหมือนเดิมก็อยาก แต่ก็เคารพการตัดสินใจของพี่ที
แต่ถ้าพี่จะกลับมาคบกันอีกก็อยากให้พี่ทีดัดหลังพี่ปอให้นานๆ ใจอ่อนง่ายๆก็ใช่เรื่อง ฮ่าๆๆๆ
พี่ปอสู้ๆนะ พี่ทีอย่าใจอ่อนนะ
รักพี่ทั้งสอง (ยิ้มให้พี่ทีจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่)
สุดท้าย
หลังจากที่ได้อ่านน้องดาวและน้องเดือนจนน้ำตาคลอเบ้า
มันทำให้ผมคิดได้ว่า....ชีวิตผมในตอนนี้ยังโชคดีอยู่มากจริงๆ