คืนวันที่ 31 ไปสวดมนต์ข้ามปีมาเอาบุญมาฝากทุกคน ขอให้มีความสุขนะคะ
ใครปีชงบ้าง มะเส็ง กุล ขาล วอกยังไงให้ไปแก้ชงฝากดวงกับเทพ ไท่ส่วยเอี้ย จร้า!!!
ดวงราศี ธนูดีมากที่สุด รองมา มังกร กุมภ์ มีน เมษ พฤกษก พิจิก
ปานกลาง เมถุน กรกฎ กันย์ สิงห์
ดวงซวยในปีนี้คือ ราศี ตุลย์ จร้า ใครเกิดราศีนี้หมั่นทำบุญถวายสังฆทานนะเอ่อ
ไปฟังมาอีกที เชื่อไม่เชื่อแล้วแต่ดุลยพินิจ
สีโฉลกปี 2013 เขียว ฟ้า ชมพู แดง จร้า
ขอให้มีความสุขเตรียมรับตรุษจีนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ กันต่อไป กระสวยร้อยหัวใจ
Part 3 “ไปมาไงมึง ถึงได้หอบหิ้วลูกไปอยู่ร้านน้องสวยคนงาม” ไอ้เป้ถาม ระหว่างช่วยกันเปลี่ยนล้อแม็กบิ๊กไบค์
“กูไม่มีคนเลี้ยงกระสวยช่วยดูให้ ห้องเช่าเก่าไกลไป กูขุนลูกตื่นตีห้าไม่ไหว” บอกมันตรงๆ
“อ้าว!..แล้วน้องแก้วเมียสุดสวยมึงหละ” ยังไงคงไม่พ้นต้องตอบคำถามนี้
“แก้วไม่อยู่แล้ว” ผมเลี่ยงรายละเอียด
“ทำไมวะ..อย่าบอก” ไอ้เป้เป็นเพื่อนสนิท ไม่ผิดถ้าบอกความจริงกับมัน
“อืม..อย่างที่มึงเข้าใจนั่นแหละ”
“เฮ้ย!พูดจริงพูดเล่น กูนึกว่ามึงอำ” มันตกใจ ก็น่าหรอก
ลูกสาวผมเพิ่งได้ขวบสองเดือนแม่มาทิ้งไป..เป็นใครก็ตกใจ
“จริง..กูต้องเอาลูกย้ายมาอยู่กับกระสวย”
“ว้าว!..คงไม่ได้...ฮั่นแน่!!!” มันชี้นิ้วทำลากเสียงล้อ
“อะไร..ไม่มีอะไรทั้งนั้น เร็วช่วยกูยกล้อไอ้ห่า มัวแต่เล่น ปากคุยมือทำด้วยสิวะ” เปลี่ยนเรื่อง
“แหนะๆ!..ออกลูกตีรวน สงสัยงานนี้นครสุดหล่อ คงหาแม่ใหม่ให้หลานสาวกูแล้ว
อกหักจากหญิงแท้เปลี่ยนมาควงหญิงเทียมไม่เลวนะมึง” สะอึก..ไม่เคยคิดเรื่องนี้ในหัว
พอมันแซวทำเอาอึ้งไปเหมือนกัน อย่างว่าพวกพนักงานขี้หลี
พากันไปอุดหนุนกระสวยประจำ ขยันหม้อขายขนมจีบไม่เว้นวัน ไอ้เป้ก็หนึ่งในนั้น
มันเคยเปรยให้ฟัง รูปร่างหน้าตาอย่างกระสวย มันไม่มีเกี่ยงถ้าจะเอาขึ้นมาล่ะก็ จัดได้เต็มที่ไม่มีฝืน
“พอเลยไอ้ห่า น้องเขาเสียหาย ได้ยินถึงหูกระสวยกูมองหน้าเขาไม่ติดไอ้สัด..ไม่ได้น้ำใจจากสวย
กูคงมาทำงานได้หรอก มึงเลิกงี่เง่าแล้วมาช่วยกูยกล้อ” ปรามเสียงแข็ง ให้รู้ผมจริงจัง
“จุ๊ๆ!พ่อพระเอกช่องหลากสี ไม่ทันไรออกตัวปกป้องเชียวนะมึง สงสัยไอ้ไม่มีอะไรในกอไผ่
คงมีนอกกอเสียแล้วโว้ย ลองมึงร่วมชายคา พวกกูแห้วตามระเบียบ ไอ้ห่าครมึงแม่งประจำ หงิมๆหยิบชิ้นปลามัน..ไอ้สัด”
พูดจบผมไล่เตะมันทันที กลายเป็นเราวิ่งไล่กันในโรงซ่อมเป็นเด็กไปแล้ว
“อูย!!..สูอย่าทำข้อย..เป้กลัวแล้ว พี่ครจ๊ะพี่ครจ๋า” ปากมันไม่หยุดแซว ไอ้นี่มันตัวป่วนระดับเทพจริงๆ
“กลับมาเหนื่อยๆ อาบน้ำค่อยทานข้าวนะจ๊ะ” กระสวยลงมาเปิดประตูให้ หลังผมกดกริ่งยืนรอหน้าบ้าน
“ทานเลยแล้วกัน พี่จะได้แปรงฟันรอบเดียว ทำไมสวยลงมาเปิดประตูให้พี่ล่ะ เด็กๆไปไหน” หมายถึงคนงานต่างด้าว
“พักผ่อนหมดแล้ว วันนี้ลูกค้าเยอะขายเกลี้ยงไม่เหลือ กับข้าวพี่สวยลงมือทำให้ใหม่ สองอย่างพอเนอะ”
ซึ้งใจเธอจริงๆ ตั้งแต่ย้ายมาอาทิตย์ที่แล้ว เธอดูแลผมกับลูกไม่ขาดตกบกพร่อง เทียบกับแก้วไม่ได้ครึ่งเธอเลยสักนิด
“ขอพี่ขึ้นไปดูลูกก่อน หลับอยู่ใช่ไหม” ถ้ากระแตไม่หลับ คงตามกระสวยต้อยๆ ลูกสาวผมติดเธอมาก เรียกแม่ตลอด
ผมสอนให้เรียกน้า สวยดันปรามไว้ บอกอย่าให้เด็กรู้สึกขาดแม่ ไว้โตกระแตเข้าใจได้เอง
ยกเหตุผลแบบนี้เลยจนปัญญา เรื่องติดใจผมไม่มีปัญหาสักนิด ยังไงก็ได้ห่วงแต่กระสวยจะอายมากกว่า
“กระแตหลับห้องสวย” เธอบอกหน้าระบายยิ้มอบอุ่น
“อีกแล้วเหรอ สามวันแล้วพี่ไม่ได้นอนกับลูก” เปรยเฉยๆ ไม่ได้ตัดพ้อ เข้าใจที่ลูกหลับห้องเธอ
สาเหตุกว่าผมเลิกงานสามทุ่ม เธอเอาลูกเข้านอน จำเป็นต้องใช้ห้องเธอ
พักนี้เจอหน้าลูกแค่ช่วงเที่ยง ผมแวะมากินข้าวที่ร้าน อยู่เล่นกับลูกไม่เกินชั่วโมง ก็ต้องกลับไปเข้างานบ่าย
เท่าที่สังเกต กระแตไม่ยักงอแง ผมกลับไปทำงานไม่เคยร้องตาม คุ้นกระสวยอย่างไม่น่าเชื่อ ดูลูกมีความสุขดีทีเดียว
“พี่ครพูดเหมือนสวยไปแย่งลูกพี่มา” น้ำเสียงน้อยใจแล้ว งานเข้าไหมล่ะ
“เฮ้ย!เปล่าพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น พี่กังวลกลัวเป็นภาระกลางดึกร้องกินนมรบกวนสวยแย่
ไหนต้องตื่นตีสี่มาทำของขาย พักผ่อนน้อยคงไม่ดีต่อสุขภาพ” ไม่ได้พูดเอาดีเข้าตัว เกรงใจจริงๆ
“ถ้าเป็นเรื่องนั้นไม่ต้องห่วง สวยแค่มีหน้าที่ปรุงรสชาติ เรื่องเตรียมวัตถุดิบเด็กๆเขาทำกัน
ยิ่งกระแตไม่เคยกวนสวยเลย สามคืนที่ผ่านมาแกหลับสนิทมาก”
พูดไปก็จนปัญญาเถียงอยู่ดี ผมไม่ได้ยินลูกร้องด้วยสิ กระสวยเล่าว่ากลางวันลูกหลับเป็นเวลา
ทานข้าวกินนมปกติไม่หงุดหงิดกวนใจ ปล่อยให้เล่นเต็มที่ ทำให้แกเหนื่อยพลอยหลับสนิทตอนกลางคืน
เลยไม่มีปัญหาเรื่องตื่นมากวนใจ
ก่อนหน้าไม่รู้แก้ววางตารางเวลาลูกแบบไหน สังเกตวันหยุดมักบังคับให้ลูกนอนกลางวันเป็นส่วนใหญ่
พอตื่นก็เอานมยัดปาก เหมือนไม่อยากให้ลูกตื่นมาซน เพราะแบบนี้ดึกๆกระแตถึงตื่นมางอแงประจำ ลูกนอนมากเกินไปนี่เอง
“ถ้างั้น..พี่ขึ้นไปดูลูกหน่อยนะ”
“พี่ครทานข้าวอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อน เนื้อตัวสะอาดเข้าใกล้ลูกจะได้ไม่สกปรก” พอโดนท้วงอึ้งสนิท
ความเคยชินผมมักอุ้มลูกในชุดทำงาน ลืมว่าตัวเองคลุกฝุ่นเขม่าน้ำมันรถมาทั้งวัน
นิสัยผู้ชายมักมองข้ามเรื่องหยุมหยิม ความจริงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาก
“ตกลง ขอพี่ล้างมือแป๊บ” เลี่ยงเข้าไปล้างมือในห้องน้ำ พานคิดไปด้วย กระสวยพิถีพิถันเรื่องเล่านี้มาก
เสื้อผ้าอุปกรณ์ของใช้ลูก ถูกเก็บใส่กล่องพลาสติกปิดฝากันฝุ่นละอองหมด แชมพู..สบู่แป้งทุกอย่างแยกเป็นเรื่องราว
ไม่หมกยัดรวมของผู้ใหญ่เหมือนตอนแก้วดูแลลูกแม้แต่น้อย
“อร่อยไหมจ๊ะ” ระหว่างกินข้าว เธอนั่งเป็นเพื่อนด้วย
“ฝีมือทำกับข้าวของสวยเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่งั้นพนักงานบริษัทฯละแวกนี้คงไม่ติดรสมือเป็นลูกค้าประจำหรอก”
พูดความจริงไม่ได้แกล้งชม
“อร่อยพี่ครกินเยอะๆสิ” เหลือบสบตาเธอ ตาคมสวยเบือนหลบ กิริยาแบบนี้อดกระตุกยิ้มมุมปากจนได้ เขินผมสินะ
“ขอบใจมากนะ” จู่ๆนึกอยากขอบคุณเธอขึ้นมา
“ไม่เป็นไร..พูดบ่อยไปแล้ว สวยบอกแล้วคิดว่าเป็นพี่น้อง เรื่องแค่นี้ไม่ลำบากอะไรหรอก”
น้ำใจที่หายาก กลับได้มาง่ายๆ แถมคนที่หยิบยื่นให้ ไม่เกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย
“ถึงยังไง พี่ก็รู้สึกเป็นบุญคุณอยู่ดี ไม่ได้สวยพี่คงลำบาก มีอะไรพอตอบแทนได้ ให้บอกพี่มาเลยนะ”
“ไม่มีหรอกน่า ห่วงแต่พี่กังวลเรื่องคำซุบซิบมากกว่า” พอเธอยกประเด็นนี้มาพูด ผมชะงักมือที่กำลังตักข้าวค้างนิ่ง
“พี่ไม่สนหรอก สวยโดนด้วยเหรอ” ห่วงเธอมากว่า
“ลูกค้ามีถามบ้าง คงเห็นกระแตเรียกสวยว่าแม่ บอกไปแล้วลูกพี่ชาย สวยกลัวพี่ครถูกคนในบริษัทฯมองไม่ดีเอาหนะ”
เธอยังมีแก่ใจนึกถึงผม ทั้งที่ผมเป็นคนมาอาศัยเธอแท้ๆ
“เรื่องนั้นสวยไม่ต้องกังวล ใครคิดยังไงพี่ไม่สนใจ ถ้าสวยไม่ลำบากใจก็ดีแล้ว” พูดจบตักข้าวกินให้อิ่ม
จะได้อาบน้ำปลีกตัวไปดูลูก ขอหอมแก้มเจ้าหญิงน้อยชื่นใจก่อนนอนเสียหน่อย
“ก๊อกๆๆ..พี่เข้าไปได้ไหม” เคาะเรียก หลังอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อย
“เปิดเข้ามาเลยจ๊ะ ประตูไม่ได้ล็อก” ได้ยินแบบนั้นผมหมุนลูกบิดผลักเข้าไป
กระสวยนั่งพิงหัวเตียงถือหนังสือในมือค้าง คงอ่านรอผมเข้ามาดูลูก
เจ้าหญิงน้อยหลับอุตุบนเตียงข้างกระสวย เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ ท่าทางหลับสนิทของลูก ดูมีความสุขไม่น้อยทีเดียว
“พลอยทำให้สวยนอนดึกเลย” หันไปเปรยเจ้าของห้อง
“ไม่หรอกจ๊ะ ปกติสวยนอนดึกเป็นนิสัย ติดนิยายต้องอ่านก่อนนอนเป็นประจำ” ชำเลืองดูหนังสือในมือเธอ
แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก หันไปดูลูกค่อยคุกเข่าคร่อมจูบแก้มใสหอมแป้งเด็กให้ชื่นใจ ที่ไม่อุ้มกลับห้อง
เป็นเพราะลูกผมมักสะดุ้งตื่น แล้วจะร้องเวลาโดนรบกวนตอนหลับ เคยลองแล้วกว่าจะปลอบให้หลับได้กินเวลานานพอสมควร
“สวยนอนเลยหรือเปล่า” หลังหอมลูกคลอเคลียหนำใจ ผมเงยหน้าถามคนที่นั่งจ้องไม่วางตา
ความจริงเข้าใจว่า เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่ ไม่คิดจะแอบมองผมนิ่งๆ
“พี่กลับ สวยค่อยปิดไฟนอน” พูดแบบนี้ เหลือทางเลือกที่ไหน นอกจากลงจากเตียง กล่าวราตรีสวัสดิ์
“ถ้างั้น นอนหลับฝันดีนะครับ” เธอยิ้มหวานจ๋อย ชักรู้สึกแปลกๆ รีบหันหลังกลับห้องนอนดีกว่า
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับกระสวย ทุกอย่างดูราบรื่นดีไม่มีเรื่องรำคาญใจเลย เข้าที่เข้าทางกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
กระทั่งปัจจุบัน ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เจ็ดเดือนแล้ว กระแตใกล้จะสองขวบฉลาดมาก คุยเก่งถามนั่นนี่ตลอด
เรื่องข่าวซุบซิบของผมกับกระสวย เริ่มเบาลงไปมากแล้ว หลังผมไม่ตอบอะไรอีก ใครอยากพูดอยากแซวทำเฉย
กระทั่งพวกเขาเลิกแซวกันไปเอง ความเข้าใจคงไม่เปลี่ยน แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างไอ้เป้
“ห่าคร..ตั้งแต่ได้แม่ใหม่ให้ลูก ดูมึงสดใสเฟี้ยวฟ้าวฉิบหายเลยว่ะ”
“เหี้ยไร..พูดแบบนี้อีกแล้วไอ้เป้” ต่อให้ปรามก็เท่านั้น ไม่มีหรอกที่มันจะจำ
“มึงนี่น้า..คนเขารู้หมดแล้ว ครอบครัวสุขสันต์แต่เล่นซุกแม่ของลูกไว้กับบ้านแบบนี้ มันไม่ยุติธรรมนะเว้ย
หัดพาเขาออกงานบ้างไอ้ห่า” ไปใหญ่ นี่มันพูดถึงงานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบริษัทฯ
เขาอนุญาตให้พาครอบครัวมาร่วมด้วย
“กูขี้เกียจเถียงมึง” ตัดรำคาญ เลี่ยงหันไปสนใจงานต่อ ทันเห็นมันทำปากมุบมิบบ่นไม่เลิก
“ก๊อกๆๆ” ผมมาเคาะประตูห้องสวย วันนี้ไม่ทำโอที เลิกห้าโมงครึ่งกลับมาเลย ไม่บ่อยนักที่ผมจะกลับเร็ว
“ก๊อกๆๆ” เคาะอีกครั้งก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับ หรือหลับ เด็กข้างล่างบอกอยู่บนห้องกับลูกสาวผมนี่
บิดลูกบิดดันไม่ล็อก ถือว่าเคาะแล้วนะ ตัดสินใจเปิดเข้าไปทันที
ไม่เห็นกระสวย มีแต่ลูกสาวผมหลับอยู่บนเตียง ในปากคาบขวดนมไปด้วย หลุดยิ้มกว้างเลย
ยิ่งโตกระแตยิ่งน่ารักน่าชัง อ้วนจ้ำม่ำทีเดียว แก้มยุ้ยผิวบางใสละเอียด ได้ของแม่เขามาเต็มๆ แก้วเป็นคนผิวเนียน
แต่หน้าลูกมีคนบอกเหมือนผมมากกว่า
ตรงเข้าไปหอมลูกให้ชื่นใจ คราวนี้ก่อนมาผมแวะล้างมือล้างหน้าสะอาดหมดจด ถึงไม่ได้อาบน้ำแต่อนามัยนะครับ
ได้ยินเสียงฝักบัวกับเสียงฮัมเพลงเจ้าของห้องในห้องน้ำ กำลังอาบน้ำอยู่สิท่า มิน่าผมเคาะประตูไม่ขานตอบ
“แอ๊ดๆๆ!!..อุ้ย!..อ้าว!” เสียงกระสวย เสียงผม เราต่างคนต่างอึ้งไปชั่วครู่
ก่อนกระสวยจะหันหลังมุดกลับเข้าห้องน้ำเฉย ในสภาพหน้าแดงหูแดงก่ำ
จะไม่ให้เธออายก็กระไรอยู่ เล่นนุ่งผ้าขนหนูกระโจมอก หยดน้ำเกาะพราวไปทั่วลาดไหล่
สภาพแต่งตัวล่อแหลมแบบนี้ ไม่ยักเคยเห็นเธอทำมาก่อน แม้ตอนอยู่บ้านกระสวยแต่งกายมิดชิดไม่มีโป๊เปลือยสักนิด
นี่คงไม่รู้ว่าผมอยู่ในห้องด้วย
“เออ..กระสวยพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ เจอกันตอนทานข้าว” ผมเลี่ยงออกไปเสียเอง ไม่งั้นคนสวยสมชื่อ
คงหลบอยู่ในห้องน้ำไม่โผล่ออกมาแน่
“จ๊ะ” เธอขานสั้นๆ ออกประตูไม่ลืมปิดล็อกให้เรียบร้อย เผลออมยิ้มจนได้ เธออายผมมาก
เล่นมุดหน้าหลบเข้าประตูไปแบบนั้น เห็นแล้วก็นะ...
เฮ้ย!..คิดอะไรอยู่วะ ส่ายหัวสะบัดไล่ความคิดบ้าๆ ชักไปกันใหญ่ แต่แหมก็นะ..ผิวพรรณในร่มผ้า
อะไรจะขาวจั๊วะขนาดนั้นวะนั่น ที่แน่ๆเรียวขาขาวไร้ขนให้เห็นสักเส้น ฮอร์โมนที่เธอกินมันเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ชะงัดนัก
ช่างผุดผาดหญิงอายจริงๆ
เลิกๆ คิด..สงสัยจะห่างเรื่องอย่างว่านาน ครั้งสุดท้ายคือสามเดือนที่แล้ว ใช้บริการหมอนวดไปกับพวกไอ้เป้
แค่สนุกหาทางปลดปล่อยของผู้ชายโสด ผมไม่ค่อยบ่อยหรอก ใช้เงินเยอะ ไปทีกินเงินไปหนึ่งในสามของเงินเดือนทีเดียว
นึกแล้วเสียดาย เก็บไว้ให้ลูกดีกว่า อาศัยน้องนางทั้งห้าพาท่องนภาเวลาหงี่จัด แต่พักนี้ชักแปลก
สายตาเผลอจับหน้าสวยผุดผาดของกระสวย ยอมรับเธอสวยจริงๆ สวยกว่าหมอนวดที่ผมไปใช้บริการเสียอีก
ให้ตาย..ผู้ชายสวยจนหญิงอาย
“เออ..สวย” ผมเรียก ระหว่างเรานั่งทานข้าวเงียบๆมาได้สักพักใหญ่ ผู้ร่วมโต๊ะเหมือนลืมเอาปากมา เป็นใบ้ไปเฉย
“จ๊ะ” สั้นอีกแล้ว ไม่แม้แต่สบตาด้วย หลุบดูแต่จานข้าว ทั้งที่ตักกินไปไม่เท่าไหร่ อาการแบบนี้ยังเขินไม่เลิกสิท่า
“พรุ่งนี้ไปกินเลี้ยงเป็นเพื่อนพี่นะ” ชวนเสียเลย
“เลี้ยงอะไร” ยอมเงยขึ้นมาแล้ว แต่แป๊บเดียวหลบอีกล่ะ
“เลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของบริษัทฯ”
“เออ..พี่ครไปคนเดียวดีกว่าไหม”
“ทำไมล่ะ สวยไม่อยากไปเหรอ”
“เปล่า..สวยไม่อยากทิ้งกระแตไว้”
“ฝากจันนาช่วยดูก็ได้ กลับไม่ดึกหรอก ไม่เกินสี่ทุ่ม”
“แต่...” ความจริงลูกผมนอกจากกระสวยแล้ว ยังมีจันนาอีกคนที่สนิทคุ้นเคยเป็นพิเศษ เหมือนพี่เลี้ยงแกเลย
ผมจ่ายเงินเพิ่มจากเงินเดือนที่กระสวยให้เธอด้วยนะ ถือว่าดูแลลูกให้ผม ส่วนคนอื่นๆ ลูกผมก็คุ้น
แต่ไม่สนิทใกล้ชิดเหมือนจันนา
“จะดีเหรอ พี่ครไม่กลัวคนมองแปลกๆหรือไง” ผมว่านี่มากกว่าที่เธอกังวล
“มองอะไร พนักงานบริษัทฯพี่ไม่มีใครไม่รู้จักสวยนี่นา แม้แต่ประธานบริษัทฯ ยังรู้จักสวยเลย
เห็นใช้เลขาสั่งกับข้าวไปทานออกบ่อย” พูดเรื่องจริง ประธานบริษัทฯผม ฝากท้องกับร้านกระสวยจนจะผูกปิ่นโตอยู่แล้ว
นับประสาอะไรพนักงานมนุษย์เงินเดือนที่เหลือ ลูกค้าประจำตัวแม่เลยเชียว โดยเฉพาะไอ้เป้..
“รู้จักน่ะใช่ แต่พาสวยไปแบบนี้ คนเขาจะคิด...”
“เอาน่า..พี่ไม่สนใจหรอก ใครจะพูดยังไงก็ช่าง หรือสวยลำบากใจไปกับพี่” ตัดบทดีกว่า ชักหงุดหงิดนิดๆ
ใช่เจ้าอารมณ์อะไรนะ ฟังดูเหมือนสวยแคร์คนอื่นมากกว่า
“ถ้างั้นก็ได้” เผลอยิ้มเลยกู
“อืม..แล้วตอนเย็น พี่ต้องขอโทษด้วยที่โผล่ไปอยู่ในห้อง พี่เคาะประตูแล้วไม่เห็นสวยขานตอบ
นึกว่าไม่ได้ยิน ถือวิสาสะเปิดเข้าไป จังหวะประตูไม่ได้ล็อก” ร่ายซะยาวเชียว
“ช่างเถอะ สวยอาบน้ำไม่ได้ยินจริงๆ ปกติพี่ครกลับสามทุ่มเป็นส่วนใหญ่ ถึงไม่ทำโอก็โทรบอก
วันนี้ไม่เห็นพูดอะไรเลย” ผมขี้เกียจทำโอ พักนี้ค่าใช้จ่ายไม่ถึงกับแร้นแค้น
หยุดพักได้บ้างไม่ต้องเครียดหาเงินหามรุ่งหามค่ำเหมือนก่อนหน้า
“พี่เปลี่ยนใจกะทันหัน” เธอเงยหน้าสบตาผม ตาคมสวยที่มองมาเหมือนสงสัย ทำให้อดยิ้มไม่ได้
“ไม่มีอะไร แค่ขี้เกียจเฉยๆ” บอกให้คลายกังวล
“จ๊ะ” เหมือนเธอไม่กล้าสู้ตาผมจริงๆ พอโดนจ้องรีบหลุบหนีดื้อๆเสียอย่างนั้น
“สวยอิ่มแล้ว พี่ครไม่ต้องเก็บนะ เดี๋ยวให้เด็กมาเก็บเอง ขอขึ้นไปดูลูกหน่อย เผื่อตื่นไม่เจอใครจะร้อง”
เธอเรียกลูกสาวผม
‘ลูก’ ได้สนิทปาก พอกับที่ลูกผมเรียกเธอว่า
‘แม่’ อย่างสนิทใจ..
มาต่อตอนใหม่ของเรื่องสั้นก่อนนะคะ
My Love คิดว่าพรุ่งนี้เย็นจะลงตอนใหม่ให้ค่ะ
เรื่องนี้ถ้าถูกใจคนอ่าน คนเขียนคงมีความสุขไม่น้อย
ขอมอบเรื่องนี้ให้กับกะเทย สาวประเภทสอง หรือผู้หญิงข้ามเพศทุกคน
ที่มีจิตใจดี นิสัยน่ารัก โอบอ้อมอารีย์ คนเขียนมอบมุมนี้ให้พวกคุณจร้า.....!!!!
Luk.