[ต่อจากด้านบน]
“พี่ปั้น ตื่นมากินข้าวเช้าก่อนครับ”
ฟึ่บ!
“อ้าว พี่ปั้น ทำไมหันหลังให้ผมแบบนี้ล่ะครับ กินข้าว กินยาก่อน พี่ปั้นค่อยนอนต่อก็ได้”
“...เราขอนอน”
“โห พี่ปั้นเสียงแหบมากเลย มาครับ ตื่นก่อน”
“เราขอ”
“หรือว่า...ที่ไม่ยอมตื่น อยากให้ผมพิสูจน์ความร้อนแบบเมื่อคืนใช่ไหมครับ”
พรึ่บ!
“นาย...โอ๊ย!” ...เจ็บเเผล...
“ค่อยๆ ครับ ถ้าอยากตีผมต้องค่อยๆ ลุก”
หลังจากมีเสียงคนจอมเผด็จการอย่างนายดังอยู่ข้างหู เราก็ลุกขึ้นมาจ้องหน้าเขาด้วยสายตาปั้นเวอร์ชั่นตื่นนอนผสมปั้นเวอร์ชั่นตาขวาง
…กวนแต่เช้าเลยเด็กอะไร...
“ผมก็ยุ่ง”
“ไม่ต้องมาจับหัวเรา” เราปัดมือเขาออก นายหัวเราะแล้วยื่นมือมาจับปลายคางอีก
“หน้าก็บึ้ง”
“ปล่อยนะเว้ย”
“โห พูดจาไม่น่ารักเลย ตื่นมาต้องทำหน้าสดใสนะพี่ปั้น”
“ใครจะสดใสแบบนายกัน ง่วงจะตายแล้ว” เราพึมพำ พร้อมกับลุกขึ้น นายถอยไปยืนอารมณ์ดีอยู่ข้างๆ เตียง ดูเหมือนเขาจะอาบน้ำเรียบร้อย แต่วันนี้ใส่เสื้อบาสเบอร์เก้าที่คงจะมีติดกระเป๋า กับกางเกงยีนส์ที่เขาใส่มาเมื่อวาน
“ไปครับ ผมซื้อข้าวมันไก่มาให้ เจ้าดังแถวท่าพระเลยนะ”
“นายตื่นกี่โมงเนี่ย” เราเดินลากขามาที่ห้องน้ำ เขาเดินตามมา และดูท่าทางเขาจะไม่มีร่องรอยของความง่วงเลย
“ไม่ได้นอนต่างหาก”
“งึมงำอะไร แล้วเมื่อกี้บอกว่าไปท่าพระหรอ นายไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้”
“ไม่ได้นะครับ อยากให้พี่ปั้นได้กินอะไรอร่อยๆ จะได้หายเจ็บไวๆ”
“เว่อร์ไปแล้ว” เราหันมามองหน้าเขา อยากจะดุว่าทำอะไรเกินตัวจริงๆ ซอยถัดไปก็มีร้านอาหารตั้งเยอะ แต่เอ๊ะ...
“นาย”
“ว่าไงครับ”
“จะยืนตรงนี้อีกนานไหม เราจะเข้าห้องน้ำ”
เขายิ้มตาหยี ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงกวนประสาท “เห็นพี่ปั้นไม่ว่าอะไร นึกว่าอยากชวนอาบน้ำให้ซะอีก”
“คนโรคจิต!”
ปัง!
ถ้ามีคนถามว่าวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ของคุณเป็นแบบไหน? บางคนก็อาจจะตอบว่า ไปพักผ่อน ดูหนัง ฟังเพลง ทำการบ้าน นัดติวอะไรแบบนั้น แต่สำหรับเรา...ปกติแล้วเราจะนอนเฉยๆ ทิ้งความเหนื่อยล้ากับการเรียนไว้ที่มอ นอนเปื่อยๆ ไปครึ่งค่อนวัน แล้วค่อยทำงานที่ค้าง ไม่ก็หยิบหนังสือดีๆ มาอ่านซักเล่ม พร้อมกับนอนกินขนมจนแม่บ่น
...เอ่อ แต่ตอนนี้มีคนบ่นอีกคนแล้วล่ะ...
“กินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยขนม แถมนอนด้วย เดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูหรอกพี่ปั้น”
“ทำไมนายขี้บ่น”
“ก็ดูพี่ปั้นสิ จริงๆ เลย ไม่คิดว่าพี่ปั้นจะเป็นคนแบบนี้นะเนี่ย”
“เราเป็นแบบไหน พูดให้ดีนะ” เขาเดินมาที่โซฟา ยกเท้าเราออกพอเราไม่ยอมก็แกล้งนั่งทับขาเรา กวนสุดๆ เราทนไม่ไหวเลยขยับท่าทางใหม่ นั่งขัดสมาธิบนโซฟาแต่หันหน้าไปทางคนที่ว่าเราเป็นหมู
...เราไม่ใช่หมูรู้ไว้ซะ! เจ้าเด็กน้อย...
“อืมม ก็...คิดว่าตอนแรกพี่ปั้นดูไม่ค่อยพูด ตามคนไม่ทัน คงจะไม่มีปากมีเสียงกับใคร” เขาเท้าคางกับหมอนอิง ส่วนตาก็มองมาทางเรา “แต่ตอนนี้ เถียงผมทุกคำ แถมทำร้ายร่างกายผมด้วย”
เขาทำหน้างอนๆ ซึ่งนั่นทำให้เราหลุดหัวเราะ
“เราก็เป็นแบบนั้นกับนายคนเดียวป้ะ” ...ถ้าคนอื่นมาเห็น ล้อเราตายเลย... เราเบะปาก คิดภาพว่าถ้ามีคนรู้เข้า ภาพลักษณ์เนิร์ดๆ ของเราคนป่นปี้แหงแซะ เรายักไหล่แล้วก็ต้องชะงักเพราะนายมองเราตาไม่กระพริบ
“เราพูดอะไรผิดไปหรอ” เราชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“พี่ปั้น...อย่าไปพูดแบบนี้กับใครนะครับ” เขากระแอมพร้อมกับยกหลังมือเช็ดจมูก เบนสายตามองไปที่พื้น
“พูดอะไร”
“ก็...นั่นแหละครับ พี่ปั้นเป็นแบบนี้กับผมคนเดียวผมก็ดีใจแล้ว” เขายิ้ม แถมยังขยับตัวเข้ามาใกล้อีกต่างหาก “ถ้าพี่ปั้นอยากจะเศร้า อยากจะร้องไห้ อยากจะยิ้ม อยากจะหัวเราะ อยากจะทำตัวบ้าบอ อยากจะงอแง ใส่ใคร ขอให้คนๆ นั้นเป็นผมนะครับ”
“นาย...” เราถอยจนหลังชนกับแขนโซฟาอีกฝั่ง หัวใจเต้นแรงเพราะคำพูดเขาอีกแล้ว “นี่นาย...”
“ครับ” เขาส่งเสียงขานรับในลำคอ แล้วยื่นหน้ามาใกล้ จนเราเห็นตัวเองในแววตาเขา เราเลย..ยื่นฝ่ามือทั้งสองข้างไปวางที่แก้มเขา แล้วก็…
แปะ!
“...ว่าเราเป็นบ้าหรอ”
“อ่า...แล้วก็อีกอย่าง พี่ปั้นเป็นคนที่ไม่โรแมนติกเอาซะเลย” เขาถอนหายใจแล้วพลิกตัวไปนั่งดูทีวี บ่นพึมพำอะไรคนเดียวไปตลอดทั้งเช้านั่น เราถามอะไรก็ไม่ตอบ เราเลยง้อเขาด้วยคุกกี้ที่เรารัก ไม่นาน นายก็เผลอยิ้มแล้วก็กลับมากวนประสาทได้เหมือนเดิม
...นายนั่นเเหละจะอ้วนเป็นหมู โธ่ คุกกี้เรา...
“ปั้นลูก เป็นไงบ้าง”
เราตื่นมาอีกทีด้วยเสียงปลุกของแม่ พอลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองนอนหลับอยู่บนโซฟา แถมตอนนี้ก็เป็นเวลาสามโมงกว่าแล้วด้วย
“เจ็บนิดหน่อยครับแม่ เเต่ว่าตอนนี้ดีขึ้นมากเเเล้วครับ”
“ปะลูก ล้างหน้าล้างตาก่อนจะได้สดชื่น” แม่เอาผ้าห่มที่คลุมตัวเราไปพับ เรามองอย่างตามงงๆ
“นายล่ะครับแม่”
“น้องกลับไปประมาณชั่วโมงก่อนแล้วล่ะลูก บอกว่าต้องเอารถไปคืนเพื่อน แม่จะให้กินข้าวเย็นก่อนค่อยกลับก็ไม่ทัน นายนี่เป็นเด็กดีจริงๆ เลยนะ ตอนแม่เข้าบ้านเห็นนายกำลังห่มผ้าให้ปั้นอยู่เลย”
“นายไปแล้วหรอครับ”
…ยังไม่ได้ขอบคุณเลย...
“ไปๆ ลุกไปล้างหน้า เดี๋ยวพ่อกับแม่พาไปเช็คร่างกายที่โรงพยาบาลอีกที อะ แล้วเราต้องไปโรงพักอะไรอีกไหม”
“ไม่แล้วครับ เมื่อวานเรียบร้อยแล้วครับ”
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางไปโรงพยาบาล ระหว่างรอผลตรวจร่างกาย พ่อกับแม่ก็คุยเรื่องอุบัติเหตุ แถมยังถามเรื่องนายอีกเยอะแยะไปหมด และดูเหมือนว่าเราจะตอบไม่ค่อยได้เลย
“บ้านนายเขาอยู่ไหนน่ะปั้น”
“เอ่อ...” นั่นสิ เขาอยู่บ้านหรือเขาอยู่หอนะ “ปั้นก็...ไม่แน่ใจครับพ่อ”
“แล้วเขาชอบอะไรเป็นพิเศษไหมลูก ถ้านายมาอีกแม่จะทำอาหารให้สุดฝีมือเลย”
“เขาชอบบาสครับแม่”
“ปั้น แม่หมายถึงอาหาร”
“เอ่อก็...เขากินได้หมดเลยนะแม่ ปั้นอยากกินอาหารญี่ปุ่นก็พาไป ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าหมูอะไรแบบเนี้ย แล้วเมื่อวานซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้ เขาบอกว่าชอบบะหมี่”
“หือ นั่นมันของพี่ปั้นชอบไม่ใช่หรอ”
“อ่า...” จริงด้วย...ที่เขากินเพราะเราชอบรึเปล่านะ...
“ปั้นเนี่ยไม่ได้เรื่องเลย นี่รู้ไหมก่อนไป นายกำชับแม่ใหญ่เลยบอกว่าปั้นไม่สบาย ให้บังคับกินยาด้วย”
“หรอครับ”
“เราน่ะไปถามเขามาด้วยล่ะ คราวหน้าแม่ต้องกักตัวนายให้ได้จริงๆ เนอะพ่อเนอะ”
“อืม เออ นายมาขอไปรับปั้น” พ่อหันมาบอก แม่เลยสำทับ
“แล้วพ่อก็เลยอนุญาต ปั้นก็ห้ามปฏิเสธถือว่าเป็นความสบายใจของพ่อแม่แล้วก็นาย ถ้าน้องไม่มีรถก็มาเอารถบ้านเราได้ นายเขามีใบขับขี่อะไรเรียบร้อยเลยด้วย แม่ว่าเขาไว้ใจได้ ใช่ไหมลูก”
เราพยักหน้าเงียบๆ แล้วก็เริ่มคิด...เราไม่ได้รู้จักเขาอย่างที่เขารู้จักเราเลยแม้แต่นิดเดียว...
ในตอนนั้นประโยคนึงก็ผุดเข้ามาในความคิด
...เราอยากรู้จักนายให้มากกว่านี้...
ไม่สิ
...เราต้องรู้จักนายให้มากกว่านี้นะข้าวปั้น...
ตกกลางคืนเราก็เอาแต่นอนมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่วางอยู่บนหน้าท้อง แอพลิเคชั่นสีเขียวบนจอไม่แจ้งเตือนขึ้นมาพักใหญ่ หายไปไหนของเขาทั้งวัน เราเผลอกัดเล็บ
...เอาน่า ทักก่อนไม่เห็นเป็นไรเลย...
เรากดพิมพ์ข้อความ ภายในห้องมีเพียงเสียงแป้นพิมพ์เท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเรา เพิ่มเสียงกรนเบาๆ ของพ่อที่ทะลุผนังมาด้วยแล้วกัน
...โอเค เริ่มพิมพ์...
“นายย หายไปไหนมา เฮ้ย ไม่ได้ๆ ลบๆๆ นาย ยังไม่ทักอีก จะบ้าหรอ ลบๆๆๆ นาย กลับไม่บอกเลยนะ โอ๊ยย จะคิดไรเนี่ยปั้น”
เราโคตรเหมือนสาวน้อยเลย แน่นอนว่าไม่ใช่เด็ดขาด! แค่ทักเขาไปแค่เนี้ย ชิลๆ
“นาย จะกลับทำไมไม่ปลุกเราก่อน ไปแบบนี้ใช้ไม่ได้เลย อ่านแล้วตอบกลับด้วย ไม่งั้น อาทิตย์หน้าเราจะหนีกลับมาก่อนไม่รอนาย”
....กดส่งเลย...
"Enter!"
เราจ้องจนตาจะทะลุเข้าไปในคอมฯ นายก็ไม่อ่าน ไม่ตอบกลับมา สงสัยเขาจะนอนแล้วมั้ง เราเงยหน้ามองดาวเรืองแสงแล้วก็ถอนหายใจ เผลอห่อไหล่ หูตก ...นอนก็ได้เรา... เราถอดใจ เลื่อนเม้าส์ไปเพื่อจะปิดคอมแต่ก่อนจะปิดคอมนั้น จู่ๆ แจ้งเตือนไลน์ก็เด้งขึ้นทางด้านขวาของจอ เรารีบกดตอบกลับทันทีโดยไม่มองชื่อทันที
read Khaopun
นี่ นายไม่เห็นข้อความเราหรอ เราพิมพ์ไปตั้งเยอะ
แล้วส่งสติ๊กเกอร์มาทำไม
ตอบเราเดี๋ยวนี้
เราขมวดคิ้ว สงสัยว่าทำไมเขาเงียบแปลกๆ
ไม่กี่วิหลังจากนั้น เราก็ได้คำตอบ...
NchaN ?
ข้าวปั้นป้ะ
นี่เราชานะ
ชานนท์ ...สิ่งที่หลีกเลี่ยงก็ปรากฏต่อหน้าโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
แน่นอน มันรวดเร็วชนิดที่ว่า...
...เราหรือคุณไม่ทันได้ร้องคำว่าตุ๊ดตู่ออกมาเลยด้วยซ้ำ…
____________
กว่านายจะมา หวังว่าพี่ปั้นคงไม่ไหม้
อ่านจบเเล้วเป็นยังไงกันมั่งงง
ส่วนตัวเราชอบความเป็นธรรมชาติของนายนะ ถถ เนียนเป็นธรรมชาติเชียวพ่อเอ๊ย
ส่วนพี่ปั้น เรามีความรักให้ก็พอเเล้ว อย่ากลอกตา5555
คิดถึงทุกคนเหมือนเดิมนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เลิฟ
แถมนิดโหน่ย
นาย - พี่ปั้น ถ้าพี่ปั้นเกิดเป็นดาว อยากเป็นดาวอะไร
พี่ปั้น - อืมม ดาวอะไรดีล่ะ
นาย - ดาว มยุรีไหมพี่ปั้น? เฮ้ๆ อย่าบอกนะไม่รู้จัก
พี่ปั้น - หือ ดาวมยุรีอยู่กาเเล็กซี่ไหนหรอ *กระพริบตางงๆ*
นาย - *คอตกไว้อาลัยให้คนไม่เก็ทมุก* กาเเล็กซี่อาร์สยามครับ