...
...
...
นั่นล่ะตอนจบของนิทานเรื่องนี้
ห้ะ อะไรนะ? อ่า ...แน่นอนสิ มันจบลงแล้วจริงๆ เป็นแค่นิทานก็ต้องสั้นให้สมกับเป็นนิทานหน่อยสิ
มันขึ้นว่า ‘The End’ แล้วคุณก็เห็น ไม่มีใครไม่ชอบตอนจบที่มันแฮปปี้เอนดิ้งหรอก ผมเองก็ชอบ และ
มันเองก็ชอบ เพราะแบบนั้นมันถึงได้เร้าหรือให้ผมเล่านิทานเรื่องนี้ให้ฟังทุกวันก่อนนอน
ไม่รู้สึกเบื่อบ้างเลยหรือไงนะ
ผมยังเบื่อเลย
หืม? อ่า เปล่าหรอก ผมไม่ได้เบื่อนิทานที่เพิ่งเล่าจบไปแต่อย่างใด
แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้ผมเบื่ออย่างนั้น?
ก็.......
“อ๊ะ! เบาๆ ...เบาแรงอีกหน่อย อ๊า!”
ตั๊บ! ตั๊บ!
กระแทกซะดังเป็นเสียงตุ๊กแกร้องเลยนะมึง
นี่ไง! นี่ไงล่ะเรื่องที่ผมโคตรจะ bored
ร่างกายที่ถูกจับให้คลานเข่า สะโพกที่สั่นจนแทบโก่งโค้งต่อไปไม่ไหว ...กับร่างกายที่ผ่านสมรภูมิอันดุเดือดมาแล้วถึงสองยก
มึงไม่คิดจะให้กูหยุดพักเลยหรือไง!
ตั๊บ!
“พอ ...พอก่อน อ๊ะ หยุดสัก อ๊า ...หยุดสักที”ผมร้องขออย่างหมดท่า ทั้งที่เป็นฝ่ายยั่วมันก่อนแท้ๆ แต่สุดท้ายก็ต้องขอโบกธงขาว ยอมแพ้ให้กับความหื่นของมันเลย
ตั๊บ! ตั๊บ!
“อืมม~”เคลิ้มสิมึง ควงเอวเพลินเลยสิมึง
“อย่า ...พอแล้ว อ๊าา!”
แรงกระแทกกระทั้นจากคนข้างหลังทำให้ผมทรุดนอนคว่ำหน้าลงกับเตียงทันที น่าเจ็บใจที่ของดีอันเป็นผลผลิตจากชาติยุโรปของมันไม่หลุดออกบั๊วะจากร่องทางของผม แม้จะไม่ลึกเท่าเมื่อกี้ก็ตาม
บัดซบ! ทั้งที่ตั้งใจจะให้มันหลุดออกไปแท้ๆ แต่...
ตั๊บ!
เมื่อไหร่มึงจะตั๊บแกสักที เอาแต่ตั๊บตั๊บอยู่นั่น
ผมรู้สึกหงุดหงิดก่อนที่จะรู้สึกเอะใจแปลกๆ ไม่ควรเป็นแบบนั้นสิ
“เจ็บ ...อ๊า หยุดเถอะ ...
นะ อ๊ะ!”
ปกติมันไม่เคยเมินเสียงพูดของผมนะ ถ้าผมร้องว่าเจ็บเมื่อไหร่ จากที่ตะบี้ตะบันใส่ไม่ยั้ง มันจะชะงักกึกหยุดเคลื่อนไหวในทันที
แต่ครั้งนี้แปลก นอกจากไม่ชะงัก มันยังทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงของผมซะอย่างนั้น
เอ๊ะ หรือว่า...
ผมเอี้ยวตัวอย่างยากลำบากเพื่อหันกลับไปมองคนข้างหลังด้วยความแคลงใจ
เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนสุขภาพดีปลิวไสวสมกับเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ของโฆษณาแชมพูยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่ง
นัยน์ตาสีน้ำเงิน ต่างเชื้อชาติกับผมที่ตาดำสนิท หลับพริ้มราวกับกำลังเคลิบเคลิ้ม ...หรืออารมณ์หื่นเริ่มพุ่งทะลุปรอทแล้วก็ย่อมเป็นไปได้อีกเหมือนกัน และน่าจะเทไปทางข้อหลังมากกว่าเสียด้วยซ้ำ
เหงื่อผุดผายเต็มวงหน้าหล่อเหลาแดงก่ำด้วยแรงอารมณ์สวาท ...ทั้งที่ตอนเด็กๆออกจะน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มอย่างกับตุ๊กตาแท้ๆ ตุ๊กตา Annabelle สิมันน่ะ
นอกจากหน้าของมันที่แดงก่ำ หูของมันเองก็เช่นกัน ...เอ๊ะ หูมัน?
ผมเบิกตากว้าง
ร่างที่กำลังหรรษากับการควงเอวกระแทกกกระทั้นอย่างเมามันถูกขาเรียวขาวของผมถีบเข้าอย่างเต็มรักจนกระเด็นเกือบล่วงตกเตียง ผมจิ๊ปากเมื่อมันไม่ตกอย่างที่หวังเอาไว้ ก็แน่ล่ะ มันเล่นสูบพละกำลังของผมออกไปเสียแทบไม่เหลือ มีแรงยกขาเตะมันได้ก็โคตรแกร่งแล้ว
“เป็นอะไรไป ไม่ชอบให้ควงเอวหรอ เอ...แต่ปกติก็เห็นทำหน้าเสียว— โอ๊ย!”ปาหมอนอัดหน้าแม่ง จะด้านหนาไปถึงไหนวะหน้ามึงเนี้ย
พอโตเริ่มพูดชัดเข้าหน่อยล่ะก็แทบไม่ได้หยุดปาก โดยเฉพาะกับไอ้เรื่องลามกๆ ...ไม่น่าเลยผม
“เป็นอะไร ทำไมโกรธ?”สีหน้าเริ่มไม่สู้ดี จากเลือดสูบฉีดดีจนแดงก่ำไปทั้งหน้า ตอนนี้มันเริ่มซีดเป็นฝรั่งขี้นกต้มเปื่อยแล้วครับ
ร่างสูงใหญ่รีบคลานเร็วๆเข้ามาหาผม มันเอื้อมมือมานะ แต่เหมือนไม่กล้าแตะตัว เอื้อมมาแต่ก็ชะงักค้างไว้อย่างนั้น จนผมต้องเป็นฝ่ายจับดึงมือมันทั้งสองข้างให้มากอดรอบเอวแทน ยกนิ้วโป้งขึ้นเกลี่ยริมฝีปากบางที่มันใช้ฟันขบจนซีดกว่าหน้า มันเริ่มผ่อนคลายถึงได้คลายฟันออก
“เลือดซิบเลย”
ผมถอนหายใจขณะที่มันทำหน้าหมางง ยื่นหน้าเข้าใกล้พลางตวัดลิ้นเลียเลือดจากปากล่างที่แตกเพราะถูกเจ้าของมันขบระบายอารมณ์เอา
มันเบิกตากว้างหน้าตาตื่นตระหนก ก่อนที่หน้าซีดๆจะแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุก
ได้กูไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง กี่ท่าต่อกี่ท่า ไอ้อาการอายเมื่อถูกผมเริ่มก่อนนี่ก็ไม่ยอมหายไปเสียที
แต่ก็ดีแล้วล่ะ
เลื่อนมือเกาคางมันเบาๆ ยิ้มตอบน้อยๆเมื่อมันส่งยิ้มกระชากหัวใจมาให้
“เพราะเป็นแบบนี้ไม่เคยเปลี่ยนเลยไง ถึงได้
รัก”
คิ้วสีเดียวกับผมของมันเลิกขึ้นน้อยๆ
“พูด ...พูดว่าอะไร?”
ผมหัวเราะ
พลิกให้มันอยู่ข้างล่าง แล้วเป็นฝ่ายควบคุมมันแทน
เมื่อทุกอย่างลงตัวจึงได้ค่อยขยับเอวช้าๆ สองมือใหญ่ของมันตะปบเข้าที่แก้มก้นทั้งสองข้างของผม บังคับหยุดไม่ยอมคล้อยตามง่ายๆเหมือนอย่างเคย
“เมื่อกี้ พูดว่าอะไร?”น้ำเสียงคาดคั้นพอกันกับสีหน้า
โง่จริง ทั้งที่ตัวเองไม่เคยขัดใจได้เลยแท้ๆ
สุดท้ายมันก็ต้องยอมพ่ายแพ้เมื่อลูกชายตัวยักษ์ถูกผมบีบรัดเสียแน่น มันตีเพี้ยะเข้าที่แก้มก้นของผม คาดว่าคงแดงปื้ดเป็นรอยมือไปหมดเพราะก่อนหน้านี้ก็โดนมันตีมาแล้วหลายครั้ง
ผมเอื้อมหยิบบางอย่างที่หล่นอยู่แถวขอบเตียง ดีนะที่ไม่ตกหายไปไหนเสียก่อน
“อ๊ะ!”สะดุ้งเมื่อจู่ๆมันก็ลุกขึ้นนั่ง ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมนั่งคร่อมขาแกร่งทั้งสองข้างของมันไว้ ในขณะที่ส่วนเชื่อมต่อของเรายังคงทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ผมคล้องติด
สิ่งนั้นไว้ที่หูของมัน
“ทีหลังต้องติดให้แน่น เข้าใจไหม? ...อ๊า! นี่!”ฟาดเข้าให้ที่ไหล่เมื่อมันกดแทรกกายเข้ามาลึกเสียจนเสียวปลาบไปหมด
“เมื่อกี้พูดว่าอะไร?”
ยังไม่ยอมจบ
“ของดีมีรอบเดียว”
“ใช่ที่ไหน”มันยิ้มเจ้าเล่ห์ คำว่า ‘ผมหื่นครับ’ เริ่มแปะเต็มหน้าของมัน ใบหน้าหล่อเหลาโน้มเข้าใกล้ ขบเบาๆที่ลาดไหล่ของผม พลางกระซิบเสียงพร่า “ตลอดยี่สิบปีมานี้ ยังว่าแค่รอบเดียวเองหรอ ทั้งที่ก็ใช้
ของดีทำให้มีความสุขไปแล้วตั้งหลายต่อหลายรอบแท้ๆ”
“ไอ้ ...อ๊ะ เบาๆ”ผมซบหน้าเข้ากับไหล่ของมัน ขณะที่มันผ่อนจังหวะลงตามที่ผมขอ
แตกต่างจากเมื่อสักครู่ลิบลับที่มันไม่แม้แต่จะรับฟัง ...ไม่ใช่เพราะไม่ฟังแต่ไม่ได้ยิน
“เจ็บหรอ?”
“...เปล่า เสียว”ผมเม้มปาก รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมดทั้งหน้าทั้งตัว
มันยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมทั้งเกลียดทั้งรัก
“งั้นจะทำเบาๆ แต่ให้เสียวกว่าตอนทำแรงๆ แบบนั้นดีไหม?”
มึงไปติดไอ้ความทะลึ่งตึงตังนี้มาจากใครกันนะ?
ตั้งใจไล้มือลูบเครื่องช่วยฟังที่เป็นคนติดให้มันเองกับมือเมื่อกี้จนมันกลับมาเป็นไอ้หื่นที่ยอมรับฟังกันอีกครั้ง โน้มต้นคอหนาลงมา ...แตะริมฝีปากจูบปลายหูของมันเบาๆ
“ตอนอื่นจะถอดออกก็ได้เพราะไม่ว่าจะพูดรู้เรื่องหรือไม่รู้เรื่องก็จะเข้าใจ แต่ขอร้อง...”
มันเอียงคอ เหมือนไม่เข้าใจแต่ผมรู้ว่ามันตอแหลแกล้งทำไปงั้นเพื่อให้ผมพูดประโยคน่าอับอายนั้นออกมา
อยู่กันมาตั้งหลายสิบปีทำไมผมจะไม่เข้าใจมัน
“อย่าลืม ...ใส่เครื่องช่วยฟังตอนเอากันด้วยสิโว้ย!”เรื่องอะไรผมจะต้องอายให้เห็นสมใจมันด้วยล่ะ
ไม่อายสักนิด ...ที่ร้อนไปทั้งหน้าก็เพราะเครื่องเริ่มติดแล้วต่างหาก
มันหัวเราะ ไม่พูดเพื่อตอบ
แต่กระทำเป็นคำตอบให้ผมแทน
ตั๊บ! ตั๊บ!
อยากจะขออีกอย่าง
“มึงเลิกกระแทกเป็นตุ๊กแกกำลังเบิ้ลเครื่อง แต่เครื่องไม่ติดสักทีจะได้มั้ย!”...
...
...
สวบ ...สวบบอกแล้วหากได้ยิน ไม่เคยมีสักครั้งที่มันจะไม่ฟังผม
น่ารักชิบหายเลย
สวบ“อ๊าา~♡♡”
เจ้าตึงน้อยๆของผมเกือบตีสี่แล้ว
มือหนาเกลี่ยไรผมของคนที่นอนคว่ำหน้าซุกหมอนเบาๆ นัยน์ตาต่างเชื้อชาติคนเอเชียทอประกายอบอุ่นยามพิศวงหน้าคนหลับ ก่อนที่มืออีกข้างจะทำหน้าที่ใช้ผ้าชุบน้ำที่บิดจนหมาดเรียบร้อยแล้ว ซับเช็ดหยาดเหงื่อบนดวงหน้านั้นอย่างเบามือ
เมื่อจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อีกคนจนเสร็จ จึงได้ทิ้งกายลงนอนข้างๆ ไม่กล้าดึงมากอดเพราะกลัวทำให้คนที่เพลียจากการร่วมรักหลายต่อหลายครั้งในคืนที่ผ่านมาไม่สบายตัว
หนุ่มตัวใหญ่กำลังจะแกะเครื่องช่วยฟังออก
หากทว่า....
"อืมม~ เจ้าตึงน้อย"
แย้มยิ้มกว้าง
สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว หลังถอดอุปกรณ์ที่เป็นดังอวัยวะชิ้นสำคัญอีกอย่างของร่างกายเก็บไว้ในลิ้นชัก ก่อนประคองร่างโปร่งบางมากอดเข้าแนบอก อีกฝ่ายครางรำคาญในลำคอ ก่อนจะถูซีกแก้มไปกับอกแกร่งเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยตีตรา เมื่อได้ที่ก็ค่อยๆสงบลงเข้าสู่ห้วงนิทรา
แตะจูบหน้าผากเกลี้ยงเกลาเบาๆ ...สุดถนอม
"ฝันดีนะครับ"
ครอบครัวเพียงคนเดียวที่เขาเคยสาบานเอาไว้ว่าจะปกป้องและอยู่เคียงข้างคนผู้นี้จนกว่าจะตายจากกัน เมื่อครั้งที่เสียคุณพ่อกับคุณแม่บุญธรรมไป
ความอบอุ่นที่เคยได้รับจากคนคนนี้เมื่อนานมาแล้ว ...ความอบอุ่นที่ไม่เคยมีใครมอบให้ แต่คนคนนี้กลับไม่คิดรังเกียจและมีแต่ให้เขามาตลอด
กระชับกอดแนบแน่น
ขอบคุณที่มาเป็นครอบครัวให้กัน
ขอบคุณที่รัก ...รักกันมาตลอด
"ขอบคุณนะครับ"The End……
…
(นิทานเรื่องนี้จบแล้ว)
(คราวนี้จบจริงๆนะ)
(ความจริงแล้วมันควรจะดราม่า แต่เพราะเป็นเรื่องสั้น...เลยเอวังด้วยฉะนี้ล่ะค่ะ)
Happy Ending