เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 52
ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แปลกไปกว่าทุกวัน ทั้งๆที่เมื่อคืนผมนอนไม่หลับเลยแต่กลับตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า ถอนหายใจออกมาเบาๆตอนที่ดึงขาเล็กๆที่ตั้งอยู่บนอกเพราะนอนดิ้นให้กลับไปอยู่บนเตียง เผลอยิ้มออกมาตอนมองดูหัวหอมที่หลับสนิทแบบนอนฉีกแข้งฉีกขาเต็มที่ ลูบผมนุ่มๆของมันก่อนจะเผลอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนออกมาอีกแล้ว เรื่องที่ทำให้หนักใจจนนอนไม่หลับกับประโยคของมันที่พูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเองแล้วไม่เดินกลับออกมาอีกเลย
' มึงยังจำตอนที่มีนาเข้ามาคุยกับกูได้มั้ย ทุกอย่างในวันนั้นมันก็เหมือนกันกับในวันนี้นั่นแหละ วันนั้นมึงบอกกูว่ามึงไม่มีเหตุผล มึงหึง อยากจะให้กูไม่ต้องไปยุ่งกับน้องเค้า วันนั้นกูยอมทำตามมึงเพราะกูเข้าใจมึง แล้วทำไมวันนี้ มึงถึงไม่เข้าใจกูบ้างวะ '
ก็จริงอย่างที่มันพูด ถ้าหวนกลับไปคิดว่าให้น้องมีนามานั่งคุยกับมันสองต่อสองผมเองก็คงไม่ชอบใจเหมือนกัน ถอนหายใจออกมาอีกครั้งผมพิงตัวเองเข้ากับหัวเถียง ทั้งๆที่คิดว่าเมื่อวานจะได้เคลียร์แล้วก็คืนดีกัน สุดท้ายแม่งดันแย่กว่าเก่าอีก รู้งี้กูใช้วิธีไอ้หัวหอมดีกว่า แม้ว่าวิธีนั้นมันอาจจะมีต่อมากกว่านั้นในแบบผู้ใหญ่ แต่คิดไปคิดมา แม่งก็คงรู้สึกดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้เพราะตอนนี้แค่คิดว่าอีกไม่นานต้องออกไปเจอมัน ก็ไม่รู้จะทำหน้าแบบไหนแล้ว ดูท่าทางมันจะโกรธผมมากกว่าเมื่อวานซะอีก แล้วกูยิ่งง้อใครไม่ค่อยเป็นอีก.. ทุกอย่างก็ยิ่งแย่เข้าใหญ่
“ แค่คิดก็เครียดจนลงกระเพาะแล้ว " ก้มหน้าลงแล้วถอนหายใจออกมาเซ็งๆ ผมเหลือบมองหัวหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ เจ้าตัวเล็กที่ดึงน้องหมีของตัวเองเข้าไปกอดไว้แน่น แก้มกลมๆที่กำลังบี้กับหมอน ปากสีชมพูเจ่อขึ้นมานิดหน่อยเพราะเบียดอยู่หัวของคุณหมี ขนตายาวสีดำเป็นแพ
ถ้าเป็นเด็กก็ดีเหมือนกันนะ เข้าไปอ้อน ไปง้อ ไม่ถึงสิบนาทีก็ดีคืนกันแล้ว ต่อให้อีกคนโกรธแค่ไหนแต่สุดท้ายก็แค่โดนแก้มแรงๆแบบเต็มฟอดก็เท่านั้น
ลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นชุดนักศึกษาเรียบร้อย ตอนที่เดินมาที่เตียงเจ้าตัวเล็กก็ดึงตัวเองขึ้นนั่งแล้วมองมาทางผม แววตาง่วงงุนของเด็กที่เพิ่งตื่นนอน หัวหอมกางแขนสองข้างออกกว้าง
“ อาขมม อุ้ม อุ้มกาลิคหน่อย อุ้ม " มันว่าเสียงงอแง ผมก็เดินไปนั่งบนเตียงเอื้อมมือไปดึงคนงอแงมานั่งที่ตักก่อนที่ใบหน้าน่ารักนั่นจะซบลงไปที่อก ลูบหลังเล็กเบาๆก่อนจะหยิบขวดน้ำลายการ์ตูนที่หัวหอมชอบมาเปิดฝาแล้วยื่นให้ดูด
“ กินน้ำหน่อยอะ " ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมหัวหอมถึงต้องกินน้ำตอนที่ตื่นนอนทุกครั้ง แต่ว่าตอนที่มันมาอยู่ที่นี่อาทิตย์แรกๆ วันนึงมันตื่นขึ้นมาแล้วร้องไห้งอแงกอดผมไว้แน่น ตอนนั้นคิดว่ามันคงหิวนมแต่เพราะมันยังเช้าอยู่มาก ง่วงก็ง่วงเลยจัดการหยิบน้ำตรงหัวเตียงให้กินไปก่อน แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นว่า ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา เจ้าตัวเล็กต้องกินน้ำก่อน
“ อาขม ไม่กินแล้ว " มันยื่นขวดให้ผมก่อนจะนั่งนิ่งๆอยู่แบบนั้นสักพัก
“ เราไปอาบน้ำกันดีกว่า เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ " อุ้มมันลงจากเตียงวางลงบนพื้น
หัวหอมก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ดึงเก้าอี้ที่เป็นบันไดของตัวเองออกมาจากข้างประตู แล้วจัดการแปรงฟัน ล้างหน้า ถอดชุดนอนแล้วเดินไปอาบน้ำ จัดการเช็ดตัวด้วยตัวเอง ทาแป้ง แล้วก็แต่งตัวด้วยชุดนักเรียน มือเล็กหยิบถุงเท้ามาใส่เองแม้ว่าจะต้องคอยช่วยบ้าง แต่ก็ถือว่ามันทำด้วยตัวเองเยอะกว่าที่ผมทำให้
" อาขม "
" ครับผม "
" อาขมคืนดีกับป๊ายัง เกี่ยวก้อยกันยัง " คำถามที่ทำให้ผมนิ่งไปสักพัก ไม่คิดว่ามันจะจำได้ ผมก้มลงไปจัดถุงเท้าของมันให้เข้าที่ก่อนจะเงยหน้ายิ้มให้มัน
" ดีกันแล้วสิ " ผมตอบ " จำได้ด้วยเหรอ ความจำดีเว้ย "
“ จำด้ายยย ก็กาลิคอยากให้ป๊ากับอาขมดีกันไวๆ "
“ ใจดีจัง เป็นห่วงอาขมกับป๊าด้วย ขอบคุณนะครับ " ใบหน้าน่ารักพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วพาเดินออกไปนอกห้อง
“ ป๊ายังไม่ตื่นเลย " หัวหอมเอ่ยบอกตอนที่หันมองไปรอบๆแล้วไม่เจอใคร มันวิ่งไปที่ห้องไอ้ภาพก่อนพูดเสียงเคาะประตูพร้อมกับมือที่ก็เคาะไปด้วย " ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ป๊า ป๊าตื่นนน ตื่นได้แล้วนะ เช้าแล้ว เดี๋ยวจะสายน้า~ ป๊า~ "
เดินเข้าไปในครัวตอนที่เห็นไอ้ตัวเล็กกำลังวุ่นวายอยู่ที่ประตูห้องของภาพ จะบอกว่าหลบหน้ามันที่กำลังจะออกมาจากห้องเลยเดินเข้าในครัวก็ได้ ก็อยู่ๆใจผมมันกลับเต้นแรงขึ้นมาตอนที่คิดขึ้นมาว่า ถ้าได้สบตากับมันตอนนี้จะทำหน้ายังไง หรือพูดอะไรออกไปเป็นคำแรกดี
“ ตื่นแล้วว ไหนมาอุ้มหน่อยยยยย " เปิดประตูออกมาแล้วก้มลงอุ้มไอ้ตัวเล็กไว้เป็นอย่างแรก ภาพหอมไปที่แก้มกลมๆนั่นเต็มฟอด " ทำไมแก้มเด็กมันถึงหอมแบบนี้ หื้มมมม "
“ แล้วแก้มของป๊าหอมมั้ย "
“ ไม่รู้สิ กาลิคหอมหน่อย " ยื่นแก้มให้ลูกชายตัวเองหอม แต่อีกคนก็ส่ายหน้าก่อนจะมาทางผมที่ก็นิ่งไปทันที
“ ให้อาขมหอมก่อน " ภาพเหลือบมองผมที่ตอนนั้นก็มองมัน แต่อีกคนก็หลบหน้าก่อนจะหันไปหอมแก้มหัวหอมต่อ
“ อาขมไม่ว่างทำอาหารเช้าอยู่ กาลิคหอมป๊าหน่อยไม่ได้เหรอไง "
“ ก็ได้ กาลิคจะหอมป๊าเองนะ " ว่าแบบนั้น ก่อนมันจะก้มลงหอมแก้มภาพแล้วทำหน้ายู่ " ไม่หอมเลยป๊าาา ป๊าทาแป้งแบบกาลิคสิ จะได้หอมๆแบบกาลิค "
“ เหรอ โอเคไว้จะทานะ ตอนนี้กินขนมปังกันก่อนดีกว่า จะได้ไปโรงเรียน " ร่างสูงชี้ชวนให้ดูขนมปังที่ผมใส่จานมาวางไว้บนโต๊ะ จัดการรินนมสามแก้ว ผมยื่นให้มันอีกคนก็พยักหน้ารับเหมือนจะขอบคุณ เรากินอาหารเช้ากันแบบเงียบๆ คงเพราะหัวหอมไม่พูดเราสองคนก็เลยไม่รู้จะพูดอะไร
หลังกินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย เราก็ขับรถไปเรียนกันเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนดิมคือบรรยากาศภายในรถที่เงียบสนิทและไม่มีใครพูดอะไรออกมา ภาพจอดรถส่งกาลิคที่โรงเรียนผมปลดเข็มขัดนิรภัยออกก่อนจะพูดขึ้น " เดี๋ยวกูออกไปส่งหัวหอมเอง "
" อื้ม " ภาพพยักหน้ารับ ผมก็ดึงอีกคนขึ้นจากตักแต่ทว่าเจ้าตัวเล็กก็ขืนตัวเองไว้
" ไหงไม่ลุกละวะหัวหอม ไปโรงเรียนกัน เดี๋ยวสายนะ "
" ป๊า อาขม " มันเรียกเรา " กาลิคอยากจะให้ทั้งป๊าแล้วก็อาขม ไปส่งกาลิคข้างในโรงเรียน ไปส่งกาลิคพร้อมกันได้มั้ย " คำขอร้องที่ทำให้เราทั้งคู่นิ่งไป
หัวหอมคงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไประหว่างผมกับไอ้ภาพ ถึงปากจะบอกมันออกไปว่าดีกันแล้วแต่ว่ามันเองก็คงรู้ว่าเรายังไม่ดีกัน เพราะทุกอย่างรอบตัวของมันไม่เหมือนเดิม มันไม่สนุกสนานและมันก็ไม่มีความสุข
“ ได้สิครับ " ไอ้ภาพบอกมันลงจากรถ ผมเองก็ลงจากรถเหมือนกัน ปิดประตูล๊อครถเรียบร้อย เจ้าตัวเล็กก็ดึงผมที่มันจูงมืออยู่เข้าไปหาภาพ มือข้างนึงของมันเลยจับมือผม ส่วนอีกข้างก็เลยจับมือของภาพ เราเดินเข้าไปในเขตโรงเรียนด้วยกัน
“ เย้~ วันนี้ทั้งป๊าทั้งอาขมมาส่งกาลิคพร้อมกันเลย "
“ ทำเหมือนเราไม่เคยมาส่งพร้อมกันอย่างงั้นอะ " ผมถามมันก่อนจะยิ้ม " ปกติก็มาส่งพร้อมกันบ่อยๆนะ มารับก็บ่อยไม่ใช่เหรอ "
“ ก็เวลาที่อาขมกับป๊ามาส่งกาลิคที่โรงเรียน ทั้งป๊าทั้งอาขมมีความสุขมากเลย กาลิคเลยอยากจะให้ป๊ากับอาขมมีความสุขเหมือนเดิม เลยให้ป๊ากับอาขมมาส่งด้วยกันเลยยยยย " มันว่าก่อนจะแกว่งมือเราไปมา
ในวินาทีนั้นผมเหลือบมองภาพ ส่วนภาพเองมันก็เหลือบมองผม ก่อนที่เราทั้งคู่จะก้มลงไปมองหัวหอม ไม่รู้ว่ามันตอนนี้จะรู้สึกยังไง ไม่รู้จะเสียใจรึเปล่า กับท่าทางที่เงียบๆของเราตอนนี้
" หัวหอม " ผมเอ่ยเรียกมันขาเล็กๆนั่นก็หยุดเดินพอดี เพราะใกล้ถึงจุดที่เราต้องส่งมันให้กับคุณครูแล้วแต่เพราะผมยังมีสิ่งที่อยากจะถามมันอยู่เลยต้องหยุดอยู่ตรงนี้ ย่อตัวลงตรงหน้ามันอีกคนก็เอียงหน้า " อาขมมีอะไรจะถามหน่อย ตอนนี้หัวหอมกำลังรู้สึกเสียใจรึเปล่าที่ป๊ากับอาขมไม่พูดกัน "
" กาลิคไม่ได้เสียใจน้า " มันส่ายหน้า " ก็คุณครูเคยเพื่อนๆที่ทะเลาะกันว่า เราอยู่ห้องเดียวก็ต้องทะเลาะกันบ้าง แต่เราก็ต้องดีกันไว้น้า~ เราจะได้มีความสุขแล้วก็เล่นกันทุกวันเลยไง คุณครูบอกแบบนั้น แล้ว แล้วอาขม ป๊า กาลิคก็อยู่ด้วยกันเหมือนกันเหมือนเพื่อนในห้องเลยใช่มั้ยครับ กาลิคก็เลยรู้ว่าเราก็ต้องโกรธกันบ้าง แต่ว่าก็ต้องดีกันไว้น้า~ " มือเล็กที่จับมือไอ้ภาพดึงมือนั้นให้เอื้อมมือมาจับมือผม " เราจะได้ความสุขเหมือนเดิมไง "
“ เราไม่ได้โกรธกันหรอก " ภาพเอ่ยบอก หัวหอมก็หันไปมองคนเป็นพ่อ ผมเองก็ด้วย " เราก็แค่มีเรื่องที่ต้องคุยกันให้เข้าใจแต่ตอนนี้ ยังไม่ได้คุยจนเข้าใจก็เท่านั้นแหละ "
“ จริงเหรอป๊า " เจ้าตัวเล็กถามก่อนจะยิ้มกว้างออกมา แล้วหันมองผมกับพ่อของตัวเองสลับกัน " งั้นอาขมกับป๊าก็ต้องคุยกันให้เข้าใจเร็วๆด้วยน้า~ "
“ ครับผม " ภาพรับคำ ผมก็เอื้อมมือไปลูบหัวมัน
“ เข้าโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวสายนะครับ " บอกแบบนั้นใบหน้าน่ารักก็พยักหน้ารับก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดผม แล้วก็ไอ้ภาพ
“ ป๊ากับอาขมเย็นนี้มารับกาลิคด้วยกันอีกนะ " โบกมือบ๊ายบายเราก่อนขาเล็กนั่นจะเดินเข้าไปในโรงเรียน ผมลุกขึ้นยืนพร้อมไอ้ภาพตอนที่หลังเล็กนั่นหายไปจากสายตา
“ ไปเรียนกันเถอะ " ร่างสูงพูดออกมาเสียงเบามัันหันหลังเดินไปที่รถ แล้วนั่นก็เป็นคำสุดท้ายที่มันพูดกับผมตั้งแต่ขับรถออกไปจากโรงเรียนหัวหอมจนถึงมหาวิทยาลัย
เลื่อนเก้าอี้ในห้องเรียนออกผมนั่งลงข้างไอ้โมที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับหน้าจอมือถือ คงกำลังคุยกับไอ้ชัดอยู่แน่นอน ยิ่งช่วงนี้ตัวติดกันยังกับตังเม ความรักสุกงอมเต็มที่ ไอ้โมก็สวยวันสวยคืน และผมก็คิดว่าเหตุผลที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ก็คงเพราะมันมีความสุขมากๆกับความรักที่เป็นอยู่นั่นแหละ ส่วนกูที่หม่อนหมองเหมือนอมทุกข์บวกกับไม่ได้ขี้มาหลายวันนั้น.. คงมีความรักก็ใกล้ถึงวันอวสานเต็มทีแล้วสินะ
“ มาแล้วเหรอมึง " ไอ้โมหันมาถามผมก็พยักหน้ารับ " เป็นอะไร หน้าตาดูไม่ได้ ไม่ได้นอนเหรอวะ "
“ อื้ม นอนไม่ค่อยหลับ "
" ทำไมอะ กาลิคไม่สบายเหรอ "
" เปล่าหรอก " ฟุบลงบนโต๊ะหลังจากบอกมันเสร็จก่อนจะเอียงหน้าถามมัน " โม เคยมีผู้ชายมาจีบมึงมั้ย "
“ ถามทำไมวะ " มันหันมาบอกยิ้มๆ " ก็ไอ้ชัดไง "
“ ไม่สิ ไม่ใช่ไอ้ชัดกูหมายถึงคนอื่น หลังจากคบกับชัดแล้วเคยมีคนเข้ามาจีบมึงบ้างมั้ย " คำถามที่ชวนให้อีกฝ่ายขมวดคิ้ว โมส่ายหน้าไปมา
“ ไม่มี ทำไมวะ มึงมีคนมาจีบเหรอ "
“ ก็ไม่เชิงว่าอย่างงั้น แต่ไอ้ภาพบอกว่าเป็นอย่างงั้น ไอ้หัวหอมก็บอก " ผมตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ไอ้โมฟังตั้งแต่ที่พาหัวหอมไปฉีดยา เจอกันที่ห้าง แม้แต่เรื่องที่ทะเลาะกับไอ้ภาพเมื่อคืน " มึงคิดว่าไงวะ "
" ขออยู่ฝั่งไอ้ภาพแล้วกัน " มันพูดสั้นๆผมก็ถอนหายใจออกมาแล้วฟุบลงที่โต๊ะอีกครั้ง
“ กูไม่รู้จะง้อมันยังไง นี่มันเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรกับกูเลย พอเป็นแบบนั้นกูเองแม่งก็เริ่มไม่ถูก ไม่รู้จะพูดกับมันด้วยประโยคไหนดี มึงว่าเอาไงดีวะ "
“ ก็ชวนมันคุยก่อนดิ แบบเรื่องทั่วๆไป เรื่องกาลิคก็ได้ แล้วจากนั้นก็ค่อยเข้าเรื่อง พอเข้าเรื่องแล้วมึงก็จัดการบล๊อคเบอร์คุณหมอเค้าไปเลยแล้วกัน "
“ บล๊อคเลยเหรอวะ "
“ นี่ถามจริงๆ มึงคิดว่าหมอเค้าจะโทรมาทำไม ถ้าไม่โทรมาจีบมึง " โมเอียงหน้าถาม " ขายแพคเก็ตตรวจสุขภาพกับมึงเหรอ ? มันไม่ใช่หน้าที่หมอนะกูว่า "
“ มึงรู้มั้ยตอนนี้ที่กูอยากจะบล๊อคเบอร์ของหมอไม่ใช่ว่าคิดว่าเค้าจะมาจีบกูนะ แต่กูรู้สึกว่ากูเองก็ควรเข้าใจภาพอย่างที่มันเข้าใจกูเหมือนกัน คิดสภาพว่าถ้าน้องมีนาโทรมาหาภาพกูเองก็คงไม่อยากจะให้มันคุย ไม่ว่าจะคุยเรื่องอะไรก็ไม่อยากจะให้มันคุยทั้งนั้น เหมือนมันกลัว กลัวว่าพอได้พูดแล้ว ถ้ารู้สึกดีขึ้นมาจะทำยังไง ถ้าไอ้ภาพหันไปชอบมีนาขึ้นมา กูจะทำยังไง "
“ ภาพเองก็คิดแบบนั้นแหละ มึงเองก็รู้ไม่ใช่ว่าไม่รู้สักหน่อย แล้วทำไมยังไม่กล้าคุยกับมันวะ "
“ ไม่รู้จะเริ่มยังไง " ผมก้มหน้าลงก่อนจะถอนหายใจแล้วกระทืบเท้าไปมา หงุดหงิดตัวองเหมือนกัน ที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนพูดไม่ออกไปเฉยๆแบบนี้
เมื่อก่อนถ้าโกรธกับมันคงเข้าไปกอดคอแล้วบอกว่า ' มึงอะอย่าโกรธกูดิวะ แม่งงง อะไรกันน ตุ๊ดอ๋อวะ น้อยใจไปได้ ' จากนั้นก็หน้าด้านคุยกับมันไปเรื่อยแล้วสุดท้ายก็ดีกันเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนนั้นแล้ว ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิมจะพูดอะไรมันก็ยากขึ้น
“ มึงเป็นเพื่อนสนิทกันมันนะ เมื่อก่อนโกรธกันง้อไงก็ง้อไปแบบนั้นแหละ "
“ ตอนนี้กับตอนนั้นมันไม่เหมือนกันนะเว้ย จะให้พูดเหมือนเดิมได้ไง "
" กูจะบอกให้นะ เพราะมึงคิดอยู่ตลอดว่ามันไม่เหมือนเดิมนั่นแหละ มันก็เลยเป็นแบบนี้ แต่ถ้ามึงคิดว่าทุกอย่างเหมือนเดิมแต่มันแค่เพิ่มขึ้น ตอนนี้มันก็คงไม่มีอะไรยากหรอก "
" เหรอ "
“ ก็เรื่องที่มันเพิ่มขึ้นตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ก็มีแค่เรื่องหึงกัน กับเซ็กส์ ไม่ใช่เหรอวะ อย่างอื่นมันก็ยังเหมือนเดิม " ก็อาจจะจริงอย่างที่ไอ้โมพูด ทุกอย่างรอบตัวผมมันก็ยังเดิม เราอยู่ห้องเดียวกัน มามหาลัยด้วยกัน กินข้าวเย็นพร้อมกัน เลี้ยงหัวหอมด้วยกัน แต่ที่เพิ่มมาก็แค่ ภาพเป็นคนที่สามารถจูบผมได้แล้ว หรือแม้จะหึงผม ก็ทำได้ " กูว่านะขม ถ้ามึงคิดว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิมได้ มึงคงมีความสุขกว่านี้อะ อย่างน้อยวันนี้มึงก็คงดีกับมันไปแล้วแหละ "
เดินมาที่รถของมันหลังจากเลิกเรียนมองเข้าไปในรถที่ไม่มีใครมา ผมพิงแผ่นหลังลงที่ประตูรถ ในสมองของผมคิดถึงแต่คำพูดของไอ้โม มันอาจจะจริงอย่างงั้นเพราะตลอดมาก็เหมือนเอาแต่คิดว่า ไม่ใช่เพื่อนแล้วเราเป็นแฟนกัน คิดแบบนี้อยู่ตลอดจนตัวเองก็โคตรที่จะเกร็งตอนที่อยู่ใกล้มัน
ติ๊ด
เสียงปลดล๊อครถพร้อมกับไฟที่วาบขึ้นผมหันไปดูอีกทางไอ้ภาพเดินมาพร้อมหนังสือของมัน ผมยิ้มก่อนจะเอ่ยถาม " เรียนเสร็จแล้วเหรอมึง "
“ อื้ม " มันตอบสั้นๆ ใบหน้าคมที่นิ่งอยู่บอกผมว่า มันก็ยังโกรธผมอยู่เหมือนเดิม ภาพเปิดประตูเข้าไปในรถ ผมเองก็เปิดเข้าไปนั่งตามมัน
“ แล้ววันนี้พอไปรับหัวหอมกลับมาจากโรงเรียนแล้วเราไปกินอะไรกันดีวะ มึงอยากจะกินอะไร "
“ กูได้ทั้งนั้นแหละ มึงลองถามไอ้กาลิคแล้วกัน " แล้วทุกอย่างก็เงียบไป ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะมองมันที่ขับรถนิ่งๆ ก็ไม่รู้จะชวนพูดอะไรอีกคราวนี้ในรถก็มีแต่ความเงียบอีกครั้ง รถแล่นมาถึงโรงเรียนของไอ้หัวหอมเราจอดรถที่ลานจอดก่อนจะเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน ผมที่หันไปบอก “ ถ้ามึงไม่อยากจะพูดก็ไม่ต้องพูด แต่ต่อหน้าไอ้หัวหอมก็ช่วยพูดหน่อยแล้วกัน “
“ อื้ม รู้แล้ว “ มันเดินนำผมไป กูอยากจะถีบสักที ถ้าไม่ติดว่าผู้ปกครองเยอะแยะเดี๋ยวเค้าจะเห็นว่าครอบครัวเรารุนแรงและใช้กำลัง ผมก็คงจะถีบแม่งให้กลิ้งแล้วละ ถามคำตอบคำ งอนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด งอนจนผมตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน แม้ว่าเรื่องทั้งหมด มันจะผิดที่ผมที่ไม่ฟังมันก็เถอะ
" K " พูดออกไปสั้นๆ ผมเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่มันหันมามอง อย่าให้กูโกรธมึงบ้างก็แล้วกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ
เสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้นหลังจากเรามาถึงไม่นาน เด็กตัวเล็กๆวิ่งออกมาหาพ่อแม่ตัวเองที่มารอรับ รวมถึงไอ้ตัวเล็กของผมด้วย สองแขนที่กางออกกว้างกอดเข้าที่ตัวผมก่อนจะยิ้มกว้าง
“ ป๊ากับอาขมมารับพร้อมกันเลย "
“ ใช่แล้ว " ผมบอก มันก็ทำหน้าตกใจขึ้นหน่อยๆ
“ อ๊ะ! ลืมอีกแล้ว " เสียงใสๆว่า ก่อนจะถอยหลังไปก้าวนึงแล้วก้มหน้าลงไหว้แล้ว " ป๊าสวัสดีครับ อาขมสวัสดีครับ "
“ สวัสดีครับ " เราพูดพร้อมกันก่อนจะก้มลงยิ้มให้มัน หัวหอมเข้ามากอดผมที่ก็อุ้มมันขึ้นมา
“ กลับบ้านกันดีกว่า อยากจะกินอะไรดีวันนี้ "
“ แล้ววันนี้ป๊ากับอาขมดีกันรึยัง " มันเอียงหน้าผมที่ตอนนั้นไอ้ภาพเองก็เอียงหน้าเข้ามาหาแล้วตอบมัน
“ ดีกันแล้วแหละ "
“ จริงเหรออาขม " มันยิ้มกว้างให้ภาพก่อนจะหันมาถามผมเพื่อความแน่ใจ
“ จริงสิ ดีกันแล้วแหละ "
“ ดีจังเลย เย้ๆ ดีกันแล้ว " ซบลงที่ไหล่ของผม เราเดินออกไปจากโรงเรียน ตอนที่เข้าไปนั่งกันในรถภาพก็เอ่ยถามผม
“ แล้วตกลงไปกินอะไรกันดี "
“ อื้ม " ผมคิดก่อนจะถามคนที่นั่งอยู่บนตัก " หัวหอมอยากจะกินอะไร แต่ไม่เอาเคเอฟซีนะ "
“ งื้อออออออ ก็อยากกินอันนั้นอันเดียวนี่~ " มันว่าเสียงดัง ท่าทางงอแงที่เรียกรอยยิ้มให้เรา แขนเล็กกอดอกก่อนจะหันหน้าหนีผม " งั้นไม่เลือกแล้ว อาขมจะกินอะไรก็กินเลย "
“ มีงอนอีกเว้ย " ไอ้ภาพว่าก่อนจะยื่นมือมาเกลี่ยแก้มมัน
“ ก็เพิ่งกินไปวันนั้นเอง กินอย่างอื่นบ้างสิ สเต๊กมั้ย ไปกินสเต็กหมูกันดีกว่า สปาเก็ตตี้ด้วยเป็นไง หัวหอมจะอยากกินมั้ยนะ "
“ อยากกกกกก " มันหันมาบอก ก่อนจะกอดคอผมไว้ " กินนะ อาขม กาลิคอยากกิน "
“ โอเค กินก็กิน "
“ ตกลงสเต็กนะ แล้วจะกินที่ไหน " มันถามผมก็คิด
“ ในห้างแล้วกัน "
“ โอเค "
ขับรถไปกินสเต็กร้านดังในห้างกันเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะตรงกลับบ้านแบบไม่รอช้า เสียงพูดคุยเจื้อยแจ๊วชวนให้ยิ้มกันมาตลอดทาง ไอ้ภาพแซวหัวหอมเป็นระยะ ตอนที่เราขึ้นมาบนห้องของคอนโดมันก็เจ้ากี้เจ้าการเอากุญแจจากมือผมไปเปิดประตูห้องให้
" ถึงแล้ววววววววว " วิ่งเข้ามานั่งที่โซฟา วางกระเป๋านักเรียนของตัวเองตั้งลงแบบนั้น และสิ่งแรกที่มันทำคือ คว้ารถของเล่นที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาไถไปมาตามโต๊ะ " บรึ้นๆ ไปเลยยยย ฉิ้วว "
“ หัวหอมเดี๋ยวจะอาบน้ำก่อน หรือจะทำการบ้านก่อน "
“ ทำการบ้านก่อน แล้วก็อาบน้ำ แล้วก็ดูการ์ตูน แต่ว่านะอาขม วันนี้น่ะที่โรงเรียนน้องรินเน่เล่าว่า คุณแม่ของน้องรินเน่ให้น้องรินเน่นอนคนเดียวแล้ว "
" อย่างงั้นเหรอ " ผมพยักหน้ารับ อีกคนก็พยักหน้ารับตาม
" แล้วน้องรินเน่ก็มาถามกาลิคว่า กาลิคน่ะนะ นอนคนเดียวรึเปล่า แล้วกาลิคก็บอกว่าเปล่า กาลิคนอนกับอาขม แล้วน้องรินเน่ก็เลยบอกว่า กาลิคไม่เป็นผู้ใหญ่เลย "
" อ้าว ทำไมอะ "
" ก็คุณแม่ของน้องรินเน่บอกกับน้องรินเน่ว่า เด็กที่นอนคนเดียวได้คือผู้ใหญ่แล้ว เพราะงั้นน้องรินเน่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็น้องรินเน่นอนคนเดียวได้แล้ว น้องรินเน่บอก "
“ เหรอออออ " เรื่องหลอกเด็กทั้งนั้นอะ นอนคนเดียวได้คือเป็นผู้ใหญ่มันใช่ที่ไหนกันเล่า ยังไงก็ตัวเท่าเมี่ยงอยู่ดีนั่นแหละ
“ แล้วก็นะ อาขม กาลิคอยากจะเป็นผู้ใหญ่บ้างอะ ให้กาลิคนอนคนเดียวได้มั้ย "
“ ห๊ะ ? “ ผมอ้าปากค้างกับคำถามของมันที่พูดขึ้นมา " เดี๋ยวนะเดี๋ยว คือ จะนอนคนเดียวแล้วจะให้อาขมไปนอนที่ไหนละ "
“ ก็ไปนอนห้องป๊าไง " มันชี้ไปที่ห้องของร่างสูงที่ก็ชะงักแก้วน้ำที่กำลังกินอยู่ในครัวทันที
" นี่ เดี๋ยวสิอยากจะนอนคนเดียวจริงๆนะเหรอ ไม่กลัวรึไง " ผมถามอีกคนก็นิ่งคิด
" ถ้าน้องรินเน่บอกว่าไม่น่ากลัว กาลิคก็จะต้องไม่กลัว ก็น้องรินเน่เป็นผู้หญิง น้องรินเน่ยังไม่กลัวเลย กาลิคเป็นผู้ชายก็ต้องไม่กลัวสิ " ถอนหายใจออกมาเบาๆ โมเม้นต์ผู้ชายเข้มแข็งจากไหนมาเข้าสิงลูกกูวะเนึ้ย แล้วประเด็นคือ เรื่องแม่งมีให้เกิดได้ทุกวัน แต่แล้วทำไมต้องเป็นวันนี้ วันที่ผมกับไอ้ภาพกำลังโกรธกันอยู่ด้วยวะ
" นี่ จะนอนจริงๆเหรอ อาขมให้เวลานะ คิดดีๆก่อน เดี๋ยวทำการบ้านให้เสร็จ อาบน้ำดูการ์ตูน แล้วค่อยบอกอีกทีก็ได้ "
" กาลิคจะนอนคนเดียว กาลิคจะเป็นผู้ใหญ่แบบน้องรินเน่ "
" คิดอีกทีน่า " คิดอีกทีเถอะลูกกกก แล้วตอนนั้นในใจของผม มันสวดมนต์ขอพรให้ระหว่างนี้หัวหอมเปลี่ยนความคิดอยากจะรู้อยากจะลองนั้นให้หมดไป ลืมคำพูดของน้องรินเน่ แล้วก็ลืมความอยากจะเป็นผู้ใหญ่ของตัวเองไปให้หมดสิ้น
.......................................................