◑
คุ ณ ไ ม่ ต ร ง ป ก
ตอนที่ 14 : รูปภาพ
_________
ความรู้สึกแรกหลังจากรู้สึกตัวคือสัมผัสที่วนไล้บริเวณสะโพกเชิงกราน เขาพยายามปัดมันออกหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล และกว่าที่จะตื่นเต็มตัวเพราะรำคาญมันเต็มทน จังหวะหัวใจที่มันเต้นรัวก็ยากเกินจะหยุด
เพราะการลากมือใหญ่ไปตามผิวเนื้อ
บนบริเวณที่มีผีเสื้อสีดำสยายปีกแผ่ความสวยงามของมันให้ได้มองเห็น
และกว่าที่จะคิดอะไรได้ทัน คนด้านหลังก็กระซิบชิดใกล้พร้อมกับร่างกายที่แนบไปแทบทุกส่วน
“Do you know it?...”
“...”
“You are beautiful more than butterfly”
เสียงแหบแห้งดังเพียงแค่ในลำคอ ลมหายใจอีกคนรินรดอยู่ชิดใบหู ไล่ลงไปตามลำคออย่างเชื่องช้า ทิ้งเวลาอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะใช้ฟันขบลงที่บริเวณหัวไหล่
“อืออ สายแล้วหรือยังครับ ภัทรต้องไปทำงานนะ”
“ภัทรอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่ห้องเจ้านายดูบ้างไหมล่ะ” คีรติหยอกล้อ เปลี่ยนทิศทางของนิ้วชี้ลงล่างมากขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่แก้มก้น
สะโพกมน
ลามมาจนต้นขา
“อื้ออ—”
เสียงครางหวานตอบรับการปรนเปรอที่มอบให้ เคลิบเคลิ้มเสียจนกว่าจะรู้ตัวก็ในตอนที่อีกฝ่ายพลิกตัวขึ้นอยู่ด้านบน เป็นท่าที่เราสองคุ้นเคยมันตลอดทั้งค่ำคืน เขาตอบรับลิ้นร้อนที่มอบจูบให้อย่างหนักหน่วง แม้เราเพิ่งจะผ่านบทรักมาหมาดๆ แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยผ่อนปรนให้อีกเลยสักนิด
“เสพติดภัทรซะแล้วสิ”
ผ้าห่มสีขาวคลุมร่างกายเราเอาไว้ในตอนที่ขยับเคลื่อนไหวตอบรับ แต่จู่ๆ ขาที่ตั้งชันก็หยุดชะงักเพราะเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่อยู่แสนไกล
กริ๊งง!!!
ในตอนแรกเขาทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้นและพยายามตอบรับอารมณ์ของคนตัวสูง แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อรอให้เสียงแรกหายไป เสียงที่สองและสามก็ตามมาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดหย่อน
“อือ—”
มือเล็กผลักอกอีกคนอย่างแผ่วเบา รวบเอาชุดคลุมที่วางไว้ใกล้มือเข้าสวมใส่อย่างรวดเร็ว เขาเดินออกจากพร้อมพร้อมกับสายตาเรียวรีที่มองอย่างเสียดาย แต่ถึงอย่างนั้นภัทรก็ไม่ได้สนใจและตรงดิ่งไปยังโทรศัพท์ของตัวเอง
ข้อสันนิษฐานเขามีไม่มากนักเกี่ยวกับปลายสาย
และหนึ่งในนั้นที่เขาเดาเอาไว้มันก็ถูกเผง
เพราะเป็นธนกฤษที่โทรเข้า
นอกจากนั้นยังระรานเขาด้วยข้อความอีกเป็นสิบ
จองเวรจองกรรมเหมือนหมาวัดที่มันกัดไม่ยอมปล่อย
“หึ!”
เครื่องสีดำสนิทดับลงเมื่อเจ้าของมันกดปิดการใช้งาน เขวี้ยงมันไปอีกทางด้วยความรู้สึกหงุดหงิด
“เสื้อผ้าวางไว้บนเตียงนะ วันนี้เราคงต้องไปทำงานเลทนิดหน่อย”
เขาหันขวับอย่างตกใจเมื่อเสียงอีกฝ่ายดังแทรก เห็นคีรติยืนกอดอกพิงกรอบประตูอยู่ในชุดเดียวกัน เมื่อเป็นดังนั้น เท้าจึงก้าวไปตามทางแล้วหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
มือทั้งสองคล้องคอเอาไว้อย่างออดอ้อน ก่อนที่จะขยับตัวเพิ่มความสูงเล็กน้อยแล้วทาบทับริมฝีปากกับไรหนวดบริเวณคาง
กดมันลงอีกครั้งที่ข้างแก้ม
จากนั้น การช้อนตามองจึงตามมาพร้อมกับประโยคชักชวนที่ทำเจ้าของห้องต้องยิ้มมุมปาก
“งั้นให้ภัทรโกนหนวดให้ก่อนสิครับ”
“...”
“แล้วจากนั้น…”
มือเขาวางไว้ตรงสาบเสื้อ พร้อมจะเลื่อนลงต่ำในยามที่พูดต่อ
“...เราค่อยว่ากันอีกที”
#คุณไม่ตรงปก
บรรยากาศในห้องทำงานดูแตกต่างออกไปจากทุกทีแม้แต่พี่เล็กก็ยังรู้สึกได้
“เป็นอะไรรึเปล่าเรา วันนี้ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ”
มือเขาดันแว่นบนใบหน้าเล็กน้อยในตอนที่ส่ายหัวเพื่อเป็นการปฏิเสธ พยายามเก็บอารมณ์ในตอนที่ตักอาหารตามสั่งขึ้นทานอย่างเอร็ดอร่อย
“เปล่านี่ครับ”
“โกหกพี่ไม่ได้หรอกนะเว้ย”
“น้องบอกไม่มีก็ไม่มีสิเล็ก ยังไปคาดคั้นเขาอีก”
หญิงสาววัยกลางคนที่นั่งด้วยกันอีกหนึ่งเข้าข้าง ทำเอาเลขาของเจ้านายหัวเราะเบาๆ กับการทะเลาะกันที่มักจะเกิดขึ้นตลอด
“อาทิตย์หน้าพวกการเงินเขาจะจัดทริปที่หัวหินกัน สนใจไปด้วยไหม?”
พี่มดเอ่ยถามก่อนจะหยิบน้ำอัดลมแก้วโตขึ้นดูด เขามองหน้าพี่เล็กในทันทีหลังจากได้รับคำเชิญชวน เห็นแววตาอีกฝ่ายมีท่าทีสนใจอยู่ไม่น้อย
“ไปได้หรอพี่? เผื่ออยากไปแบบส่วนตัวๆ”
“ได้สิ นี่จะชวนพวกน้องๆการตลาดไปด้วย ไปกันเยอะๆจะได้สนุก”
“น่าสนใจแฮะ” ภัทรตาลุกวาว นานทีเขาจะได้ออกไปเที่ยวที่อื่นบ้างนอกจากร้านเหล้าที่มักจะเข้าประจำ
“ไปเสาร์กลับอาทิตย์เป็นไง จะได้ไม่ต้องลางาน”
“ก็ได้นะพี่ แต่บางทีเสาร์อาทิตย์ผมก็เข้าบริษัท”
“เหมือนกันครับ”
“ยากเลยแฮะ”
บทสรุปของการไปเที่ยวจบลงด้วยเสียงอ่อยของสาวการเงิน ช้อนในมือพี่เล็กเขี่ยไปมาบนอาหารบ่งบอกว่าเจ้าตัวผิดหวังพอกัน ก่อนที่เราจะเริ่มประเด็นใหม่และตัดสินใจจะเก็บเรื่องนี้ไว้คิดทีหลัง
“เออภัทร วันก่อนมีคนมาถามหาเรา เห็นบอกว่าชื่อธนกฤษอะไรสักอย่าง พี่ไม่รู้ว่าเขามาติดต่องานอะไรหรือเปล่า”
เพราะชื่อของบุคคลต้องห้ามที่อยู่ในประโยคทำเอาเขาต้องชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะปั้นหน้าอย่างยิ้มแย้มกลับไป
“สงสัยจะเป็นอย่างนั้นมั้งครับ”
“นั่นสิ ช่วงนี้พี่เห็นเขามาคุยงานกับคุณคีอยู่บ่อยๆ”
มือเล็กกำส้อมแน่น รู้ได้ว่ายังไงธนกฤษก็ไม่มีทางปล่อยมือจากตัวเองเป็นแน่ ร่างเล็กรีบทานมื้อกลางวันก่อนจะขอตัวออกมาอย่างเร็วไว
โทรศัพท์คู่ใจที่ปิดเครื่องไว้ตั้งแต่เช้าถูกเปิดใช้งานในทันที เมื่อหน้าจอสว่างวาบ ข้อความสุดท้ายของคนควงเก่าก็ปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรก
เป็นประโยคง่ายๆ
แต่ทำเอามือเขาสั่นจนควบคุมไว้ไม่อยู่
Tanakrit : แล้วเจอกันนะครับ
ทันทีที่อ่านข้อความจบ ประตูห้องทำงานก็เปิดออกพร้อมกับคนสองคนที่เดินเข้ามา ภัทรหลับตาพร้อมกับกำหมัดแน่น ทุกอย่างเป็นไปตามที่อีกฝ่ายวางแผนเอาไว้เป็นอย่างดี
ธนกฤษเหลือบมองในตอนที่เดินผ่าน ยิ้มทักทายอย่างสุภาพให้กับการเจอกันของเราสอง แต่ไม่มีใครรู้หรอก
ว่ารอยยิ้มเหล่านั้นมันดูจอมปลอมสิ้นดี
แขกผู้มาใหม่นั่งตรงข้ามกับประธานบริษัท เรียกร้องหาเอกสารที่เขาต้องจัดเตรียมอยู่หลายครั้ง จนกว่าจะลงตัวก็ปาไปครึ่งชั่วโมงที่งานเริ่มต้นอย่างจริงจังจากคนสองคนที่นั่งอยู่
คีรติยังไม่มีท่าทีที่แปลกไปจากเดิมนั่นทำให้ภัทรรู้ว่าธนกฤษยังไม่ได้ลงมือทำอะไรอย่างที่เคยขู่เอาไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ดีเพราะเขาก็ยังไม่อยากให้ความลับเกี่ยวกับตัวเองแพร่กระจายในเร็ววัน
เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงที่คนสองคนยังมีสีหน้าจริงจังกับแผ่นกระดาษขาว บ้างก็เกิดเสียงดังในตอนที่ปรึกษาหารือกันอย่างไม่ลงตัว แต่สุดท้ายทั้งสองก็เอนตัวพิงกับเบาะแล้วจบบทสนทนาลงด้วยการจิบชาร้อนที่เขานำไปวางไว้ให้
“ภัทรช่วยจัดเตรียมเอกสารแผนงานพรุ่งนี้ให้ผมทีนะ”
“ได้ครับ”
“บ่ายนี้ยังไม่ต้องเข้าประชุม เดี๋ยวผมจัดการเอง”
“ครับ”
คีรติเดินเข้ามาสั่งงานก่อนที่ใครบางคนจะเข้ามาสมทบตามหลัง สองมือล้วงกระเป๋าอย่างมาดมั่นพร้อมกับมองเราสองคนสลับกันไปมา
“เชิญครับคุณกฤษ อีกสิบนาทีคุณอาจะเข้ามาแล้ว”
เจ้านายเขาเป็นฝ่ายเชิญชวน แต่อีกฝ่ายกลับปฏิเสธและบอกเหตุผลที่ทำเอาเขาไม่สามารถเลี่ยงการเผชิญหน้าได้
“คุณคีไปก่อนเลยครับ ผมมีเรื่องจะรบกวนภัทรนิดหน่อย”
สายตาเรียวรีจดจ้องไปยังคนพูด ก่อนที่มันจะเหลือบมาทางเขาช้าๆอย่างระมัดระวัง เจ้าตัวไม่อยากเสียมารยาทจึงอมยิ้มแล้วเดินจากไป เหลือไว้เพียงแต่คนที่กลอกตาขึ้นฟ้าแล้วถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
เปาะ!
“หายไปสามวัน โทรศัพท์ไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ อืมมม——ภัทรช่วยคิดหน่อยสิว่าบทลงโทษจะเป็นอะไรดี”
ลูกแอปเปิลที่ถูกโยนขึ้นฟ้าร่วงหล่นลงมาในมือใหญ่อย่างเหมาะเจาะ เจ้าตัวทิ้งน้ำหนักลงข้างโต๊ะ ใช้มือข้างที่ว่างเท้าไปด้านหลังเพื่อพยุงตัว
เขาไม่ตอบ ได้แต่ยืนกัดฟันกรอดพร้อมกับกำมือแน่น
“ไปทานข้าว ดูหนัง หรือว่าเดทกันสักรอบสองรอบ” อีกคนเอี้ยวตัวมาใกล้จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่พรั่งพรู คนที่นั่งอยู่พยายามเบี่ยงตัวออก สายตาจ้องมองผ่านแว่นสีใสไปยังอีกทาง
“ไม่น่ารักเอาซะเลย”
คราวนี้ธนกฤษใช้เสียงต่ำในการข่มขู่ ใบหน้าไม่มีวี่แววว่าจะเล่นอีกต่อไป
“อะไรก็ว่ามา”
ในเมื่อไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้มากความ การยอมรับในสิ่งที่พอจะทำได้บ้างจึงเป็นทางเลือก
“คืนนี้...”
ธนกฤษตอบรับ
พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เกิดขึ้นอีกหน
“...ร้านที่เราเจอกันครั้งแรก หวังว่าจะไม่เลทแล้วกันนะครับ”
และไม่วายที่เจ้าตัวจะกดจูบลงข้างแก้ม
#คุณไม่ตรงปก
นิโคตินที่อัดเข้าเต็มปอดไม่สามารถลบความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นในใจได้เลยสักนิด เขาใช้เท้าบดขยี้ก้านบุหรี่ที่กำลังมอดไหม้ ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปด้านในผับสุดหรู
เขายังจำได้ ในวันที่เจอกับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก
ธนกฤษคือชายที่มีแต่คนรุมล้อม และเขาเองก็เล็งเป้าไว้เป็นอย่างดี
ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่ว จนเจอกับใครสักคนที่นั่งอยู่บริเวณมุมร้าน รอบข้างมีผองเพื่อนของเจ้าตัวนั่งกันอยู่เต็ม
“มาไวดีนี่ครับ”
ทันทีที่นั่งลงมือข้างซ้ายของอีกฝ่ายก็พาดทับบริเวณไหล่ เขาเหล่มองเจ้านายมันด้วยหางตา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพื่อหยั่งเชิง
ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ดูแล้วน่าจะอายุน้อยกว่าต่างรวมตัวซุบซิบกันในทันทีหลังจากเห็นกิริยาแสดงความเป็นเจ้าของ สายตาหลายคู่จับจ้องอย่างมีเลศนัย แม้จะไม่ได้แสดงออกมากเท่าไหร่แต่ภัทรก็รู้สึกได้จากการกระทำ
อึก!
ปัก!!
แก้วตรงหน้าที่มีแอลกอฮอลล์วางอยู่ถูกหยิบขึ้นกินเพื่อระงับอารมณ์ เสียงของมันที่ถูกวางกระทบบนโต๊ะทำเอาคนอื่นๆสะดุ้ง เขาใช้สายตาเบนไปรอบๆอีกครั้ง จ้องหน้าทีละคนคล้ายเป็นการบอกว่าอย่ารุ่มร่ามกับตัวเองไปมากกว่าเก่า ก่อนจะใช้แขนเช็ดหยดน้ำที่ไหลรินออกจากริมฝีปาก
“เอ่อ...”
“เอาแขนออกไปจากเอวได้แล้ว” ภัทรเค้นเสียงต่ำ ธนกฤษทำหน้าเข้าใจแต่ก็วางพาดไว้ยังไหล่ที่เดิม
“ทุกคนนี่ภัทร” อีกฝ่ายแนะนำเขาอย่างเป็นทางการกับเพื่อน “ถ้าถามว่าเป็นอะไรกันขอไม่ตอบ”
เสียงวิ้ดวิ้วดังขึ้นโดยรอบหลังจากจบประโยค หลายคนยกแก้วขึ้นชนกันคล้ายกับถูกใจคำพูดนั้นเสียเต็มประดา
ตามประสานักปาร์ตี้ตัวยง
“คนคุยรึเปล่าาา”
“อย่างไอ้กฤษน่ะนะไม่มีทางหรอก”
“นั่นดิวะ”
“ไม่คุยแล้วระดับนี้ นอนเลย”
“ฮ่าๆ”
“หุบปากกันไม่เป็นรึไงวะ?”
เสียงหยอกล้อจบลงเมื่ออีกคนเอ็ดขึ้นมากลางวง บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากในตอนแรก เขาจิ๊ปากอย่างหงุดหงิด หยิบยกบุหรี่ขึ้นจ่อริมฝีปาก รีบจุดแล้วพ่นควันมันออกไปซ้ำๆด้วยความรำคาญใจ
“ผมบอกว่าไง” เสียงคนด้านข้างปรามชิดใกล้ แต่เขากลับไม่สนใจ เตรียมตัวจะลุกเพื่อหนีไปทางอื่นแต่ก็โดนดึงให้กลับมานั่งที่เดิม
“รู้แล้วน่า”
“ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับ อย่าคิดมากเลยน้า” จมูกโด่งถูไถบนไหล่คล้ายกำลังออดอ้อนอย่างเอาใจ ภัทรเหล่มองแล้วรับแก้วที่อยู่ในมืออีกฝ่ายขึ้นดื่ม
เอาวะ
ตามใจบ้างเล็กๆน้อยๆเขาคงไม่เสียหายอะไรมากนัก
เสียงเพลงยังคงดังกระหึ่มแม้จะล่วงเลยข้ามวัน บนโต๊ะกลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อแอลกอฮอลล์ออกฤทธิ์ เขาดื่มบ้าง สูบบุหรี่บ้าง และไม่วายที่จะโดนคนข้างจะแอบฉวยโอกาสในตอนที่เผลอ
เขาขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำเมื่อรู้สึกว่ามึนเมาจนแทบทนไม่ไหว แต่ดูเหมือนว่าคนที่เดินตามมาจะไม่ปล่อยให้ห่างตัว เส้นทางจากห้องน้ำเปลี่ยนเป็นมุมขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่
หลังเขาชนกำแพงจากแรงผลัก
ตามด้วยริมฝีปากทาบทับส่งมอบจูบให้
ธนกฤษปรนเปรอจนรู้สึกเคลิบเคลิ้ม อาจเพราะสติที่เลือนหายไปจากการดื่มอย่างหนัก เขาพยายามใช้แขนแกร่งเป็นที่มั่นเพื่อทรงตัว เสื้อเชิ้ตสีดำถูกล่วงล้ำทีละนิด จูบที่ร้อนแรงดำเนินต่อไปอย่างชำนาญ จนกว่าในตอนที่มือใหญ่จะบ่งบอกความต้องการผ่านแรงที่บีบเค้น
อีกคนก็เอ่ยคำชวนที่ภัทรเองก็เข้าใจมันได้เป็นอย่างดี
“ไปห้องผมนะ...”
“...”
“...ถึงภัทรแทบแย่”
ก็แค่คำชวนให้มีเซ็กส์แบบง่ายๆ ทำไมเขาจะไม่รู้
ใจดวงเล็กเต้นแรงให้กับอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง จะโทษธนกฤษอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเขาก็ความต้านทานต่ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดนเล้าโลมนิดๆหน่อยๆใจก็เตลิดเปิดเปิงจนหยุดไม่อยู่
และค่ำคืนที่อีกคนเฝ้าใฝ่ฝัน
เขาก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
ก็แค่ one night stan ครั้งเดียว คนอย่างภัทรคุ้นชินมันเป็นอย่างดี
ถ้าไม่ติดที่ว่าตราประทับที่คีรติทำไว้จะทำให้เกิดความรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
เพราะไม่อยากทำให้ใครอีกคนเสียใจ เขาเลยปฏิเสธออกไปอย่างทันท่วงที
“เป็นอะไรครับ”
อีกคนถอยไปเพียงก้าวเมื่อเขาปฏิเสธ พยายามที่จะล่วงเกินร่างกายเขาอีกครั้งแต่คราวนี้ภัทรกลับออกแรงมากกว่าเก่าจนธนกฤษกระเด็นไปอีกทาง
ผลัก!!
“อะไรเนี่ยภัทร!”
“จะกลับแล้ว”
“เดี๋ยว!!”
คราวนี้มือเล็กสะบัดพันธนาการที่อยู่บนแขนออกอย่างรวดเร็ว จ้องมองกลับด้วยสีหน้าที่เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่
“อยากมากก็หาแถวนี้แก้ขัดก่อนไป!”
คนที่ยืนตรงหน้าขบกรามแน่น และก่อนที่เขาจะได้เดินจาก อีกฝ่ายก็ทิ้งท้ายไว้แผ่วเบาจนทำให้ใจหวิว
“เกิดอะไรขึ้นก็ให้รู้ไว้แล้วกันว่าคุณเลือกมันเอง”
.
.
.
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ภัทรก็ไม่รู้เลยว่าสิ่งไหนที่เขาควรจะทำในเวลาแบบนั้น
เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียใจทีหลังในตอนที่ยืนหน้าโต๊ะเจ้านาย
มีรูปภาพวางประปรายพร้อมกับคำถามที่เอื้อนเอ่ยออกมา
เป็นคำถาม...จากรูปภาพของเขาและธนกฤษยืนจูบกันหลากหลายอิริยาบถ
และมีคำถาม...จากรูปเขาที่เป็นตัวตนของคนในอดีต
“ตอบผมมาหน่อยสิว่ามันหมายความว่ายังไง”#คุณไม่ตรงปก100719
before30october
ปล.แอบไปเปิดอีกเรื่องนึงไว้ เผื่อใครอยากอ่านก็ลิ้งค์นี้นะฮะ >
ผ า เ พี ย ง ฟ้ า