เอาตอนพิเศษมาลงก่อน ยังคิดตอนจบไม่ออก แต่จบแน่ ๆ แล้ว ไม่รู้จะเขียนอะไรต่อดี ก็นี่มันเรื่องสั้นนิคะ อิอิอิ
ตอนพิเศษ : คู่อึดตายยากส์พี่ริทเล่า ;
นุ่มนิ่ม.....
ยืดยุ่น.....
ให้ความรู้สึกดีทุกครั้งที่กดน้ำหนักปลายนิ้วลงไป
ผมกำลังกอดน้อง มือนั้นจิ้มแก้มป่อง ๆ เล่นอย่างเพลิดเพลิน.....สุขีสุขี.....
“กูรำคาญ” เสียงทุ้ม ๆ ของน้องบอกอย่างมีอารมณ์.....แน่นอนว่าไม่ใช่อารมณ์แบบนั้น น้องคว้ามือผมไป แล้วกัดสุดแรง.....
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกซ์”
อาศัยช่วงที่ผมไม่ทันระวัง พ่อเนื้อตันก็พลิ้วออกจากอ้อมแขนแมน ๆ ของพี่ริท ลงไปนอนกลิ้งโคโร่อยู่บนพื้น น้องจริงจังกับการกลิ้งมากไปนิด กลิ้งไปยันหน้าประตูห้อง แล้วลุกขึ้น สะบัดหัวแบบมึน ๆ
“สุดทนแล้ว วัน ๆ ไม่ได้ทำห่าอะไรเลย เล่นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้แม่มทั้งวัน กูอยากทำอย่างอื่น.....อย่างอื่นน่ะ เข้าใจมั้ย.....ฟรายยยย!!!!!”
น้องวีนง่ะ(สาบานว่าแถวบ้านเรียกวีน).....แต่ถึงจะโกรธแค่ไหน อารมณ์ไหนน้องก็หน้าเดียว จะสุข จะทุกข์ ดีใจ เสียใจ แมร่งก็มีอยู่หน้าเนี้ยะ( -_- )หน้าเดียว แต่ผมก็ชอบนะ เห็นแล้วอยากฟัดเล่น ผมชอบบีบเนื้อตรงแก้มของน้องให้ขึ้นมาเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วเอาฟันขบเล่นเบา ๆ แต่ทุกครั้งที่ผมเล่นแบบนี้ ผมก็จะโดนน้องตบจนขี้หูไหล เพราะน้องกลัวขี้กลากขึ้นหน้า......
“ก็พี่ริทนึกว่าเราชอบ พี่ก็เลยจัดให้” จริง ๆ นะครับนี่ ผมจัดให้จนไม่มีอะไรจะจัดแล้ว ทั้งซาดิสม์ มาโซคิสม์ วิตถาร เอฟรี่ไทม์ เอฟรี่แวร์ ตามที่สาธารณะ.....แม้แต่ในมหาลัยผมก็จัดให้น้อง น้องก็....อ๊ะ....อื้อ....โอ๊ะ.....อ่าห์
เหลืออย่างเดียวที่ยังไม่ได้ลองเห็นจะเป็น....
ลองให้น้องรุก
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่เอานะ ผมยังไม่อยากรับบทเมีย มันดูจะไม่เข้ากับใบหน้าอันแสนระยำตำบอนของผมเลยแม้แต่น้อยนิด
“มึงไม่ต้องมาคิดพิเรนทร์ ไงกูก็ไม่เสียบมึงหรอก.....ห่า.....ถ้าไม่เสียดายข้าวเช้า กูจะอ้วกใส่หน้ามึง” เหมือนเมียจะรู้ทัน ผมก็เลยเดินเข้าไปหมายจะคว้าตัวน้องมากอดไว้หลวม ๆ ตามแบบฉบับของนิยายโรมานซ์ แต่น้องทำสีหน้าหวาดผวาเหมือนกับว่าผมกำลังจะเดินไปเตะปากน้อง
“กูสู้นะ.....ขอบอกให้แซ่บ”
ไอ้แก้มยุ้ยตั้งการ์ด ทั้งที่กำลังหน้าซีดเผือด....เลือดไม่ไปเลี้ยง
น่ารักนะเราน่ะ
“งั้นไปเที่ยวบ้านพี่ริทเอามั้ย พี่อยากให้แม่เจอหน้าว่าที่ลูกสะใภ้”
“กูไม่ไป”
แหม่ชัดถ้อยชัดคำจริงนะพ่อคุณ
.
.....
..............
...
.
“ร้อนชิบ นี่ผิวขาว ๆ ของกูจะต้องมาแดด โดนลมให้ระคายเคืองด้วยหรือนี่” ไอ้หน้าบวมบ่นอุ่บอิ่บ หนังจากที่ลงจากรถสองแถวเข้ามาในตัวอำเภอ แล้วก็ยังไม่ถึงบ้านของผมซักที
“เดินอีกแปบเดียวเองครับ ข้างหน้านู่น.....อีกแป๊บบบบเดียวเท่านั้น”
“กันดารโครตอ่ะ บ้านพี่”
“คร๊าบบบบพ่อคนในเมือง ได้ข่าวว่าเด็กต่างจังหวัดเหมือนกันนิ”
“ต่างจังหวัด แต่กูก็อยู่ในตัวเมืองเฟร้ยยย”
ผมไม่อยากจะเถียงน้อง พอเอาเข้าจริง น้องก็ปากเก่งไปงั้นแหละ พอผมควักเอาคลิปที่ถ่ายไว้แบล็คเมล์มาขู่ น้องก็หุบปากฉับ พร้อมตอบสนองคำบัญชาของผมในทันที โดยไม่ต้องให้พูดซ้ำ แต่พูดกันตามตรง.....ทำแบบนั้นผมก็สงสารน้องเหมือนกันนะนี่
ผมเหลือบมองผิวขาว ๆ ที่แดงเป็นจ้ำด้วยผดผื่นจากอากาศร้อน น้องแต่งตัวได้ยั่วกิเลสมากมาย ทั้งเสื้อสีเขียวคอวีสุดลึกที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ หน้าอกขาวทำผมปึ๋งปั๋ง เจ้าหัวจุกสีแดงสดก็เห็นเป็นนูนขึ้นมา น้องสวมแว่นกันแดด รองเท้าผ้าใบ แล้วก็กางเกงขาสั้นลายพรางแบบผู้ชายเซอร์ ๆ ไม่ใช่อะไรหรอก มันอ้วนน่ะ!!!!! (ลองจินตนาการเด็กอ้วนสวมยีนส์ตัดขาทรงฟิตเปรี๊ยะสิครับ
)
“มองเชรี่ยไร ถึงยังเนี่ย กูคัน อยากอาบน้ำ อยากนั่งตากลมเย็น ๆ ริมน้ำ บ้านมึงติดคลองใช่ม๊ะ คงจะเย็นสบายน่าดูสินะ” น้องพูดฉอด ๆ น้ำเสียงบ่งบอกถึงความตื่นเต้น
“ถึงแล้วครับ เดินเข้าไปเลย”
“เฮ้ย.....เข้าได้จริงอ่ะ นี่มันคือทางเข้าเหรอ.....ไม่ใช่แล้วม๊าง” น้องงงครับ ก็ทางเข้าน่ะมันทั้งรกแล้วก็ดูเหมือน ๆ กันไปหมด ก็มันเป็นบ้านสวน ก็ต้องมีร่องสวน มีป้ายไม้ปักอยู่เพื่อบอกให้รู้ว่าเนี๊ยะ.....ทางเข้าบ้านกู
“กูไม่เข้าอ่ะ มันเปลี่ยว”
“พี่ริทไม่ทำอะไรน้องกลางวันแสก ๆ หรอกครับ เดินเข้าไปเถอะ”
ผมกุมมือนุ่ม ๆ เอาไว้ก่อนจะจูงน้องให้เดินเข้าไป น้องนั้นขืนตัวในตอนแรก แต่แล้วก็เปลี่ยนใจเดินตามผมเข้ามา มือของน้องบีบมือผมเป็นพัก ๆ น้องคงไม่รู้ตัวกระมัง....ผมหันไปมองหน้าเอ๋อ ๆ ของน้อง มันน่ารักจริง ๆสิน่า.....
ผมนี่เลวเนอะ น้องเค้าก็เป็นเด็กผู้ชายธรรมดา ๆ แท้ ๆ แต่ผมก็ไปยัดเยียดความเป็นเมียให้เค้าซะงั้น.....เอ....ผมใช้รูปประโยคถูกมั้ยนะ หรือต้องบอกว่ายัดเยียดความเป็นผัว......กันล่ะนี่
“บ้านมึงสวยเนอะ....ไม้ทั้งหลังเลยป่ะ ขอถ่ายรูปได้มั้ย....”
“ให้อยู่ตลอดชีวิตก็ยังได้เลยครับ”
“ฮึ......เก็บไว้แต่งเมียเหอะมึง”
นับวัน....น้องก็ยิ่งกันเองกับผมเหลือเกิ๊น นานน๊านจะเรียกผมว่าพี่.....ต้องเป็นช่วงที่น้องป่วยหรือเบลอจากการสอบจริง ๆ เท่านั้น ไม่นับตอนทำเรื่องอย่างว่า ที่น้องครางชื่อผมออกมาชัดถ้อยชัดคำ
ผมพาน้องเข้าไปข้างในตัวบ้าน ลานหน้าบ้านของผมเชื่อมติดกับศาลาริมน้ำ และมีหลังคากำบัง อากาศเย็นสบายดีเหลือเกิน ผมไขกุญแจเพื่อจะเอาสัมภาระเข้าไปเก็บ ขณะที่เจ้าตัวนั่งเสียบหูฟังแล้วฮัมเพลงเบา ๆ เสียงของน้องทุ้มแล้วก็นุ่มหูขัดกับใบหน้าอย่างแรง แล้วนี่ก็คือเพลงที่น้องร้อง....
กลับเข้ามาอีกครั้ง บ้านที่ฉันอาศัย
ปิดประตูเปิดไฟ แต่ใจไม่พักสักที
อยากให้เธอคนนั้น มาอยู่ด้วยกันในนี้
มันก็คงจะดีกว่า ที่ฉันได้แค่มอง
หลงรักเธอ อยากจะเป็นเจ้าของ
แต่พอมาถึงที่นอน ก็รู้เลยว่าเป็นแค่ฝัน
เพราะบ้านนี้มันเล็กเกินไป
คงไม่พอจะไปขอเธอ เข้ามาอยู่ด้วยกัน
ลำพังแค่ฉันคนเดียว อยู่ยังไม่สบาย
ถือดีอย่างไรจะเก็บเธอไว้ในนั้น
บ้านนี้มันเล็กเกินไป คงต้องยอมรับว่า
ไม่พร้อมจะดูแลเธอได้นาน
เมื่อไรที่คิดถึงเธอ
ค่อยเดินไปมองก็แล้วกัน เสียงดีกว่าต้นฉบับอีกนะนั่น ทำเป็นเล่นไปเหอะ
“มองเชรี่ยไร คนกำลังนั่งทอดอารมณ์ ไปหาน้ำท่ามาต้อนรับแขกไปไป๊” เจ้าตัวตันโบกมือไล่ ผมขำ....ไม่รู้จะเถียงอะไร ปกติผมก็ไม่เคยเถียงน้องอยู่แล้ว ใครจะถือสาคนที่เก่งแต่ปากอย่างน้องกันล่ะ....
ผมแปลกใจที่บ้านช่องเงียบเชียบผิดปกติ หน้าต่างทุกบานปิดสนิท ทั้ง ๆ ที่ติดเหล็กดัด บรรยากาศก็อบๆ เหม็นอับเหมือนปิดทิ้งไว้หลาย ๆ วัน ของกินในตู้เย็นก็ไม่มีของสดเลยซักอย่างเดียว ผมรินน้ำเย็นใส่แก้ว ระหว่างที่จะเดินไปหาน้อง มือก็ผลักหน้าต่างที่อยู่ใกล้ ๆออกเพื่อระบายอากาศ
“ฮัลโหลแม่”
“ว่าไงริท.....ลูก......พูดดัง ๆ นิดนึง แม่ไม่ค่อยได้ยิน”
“แม่อยู่ไหนอ่ะครับ นี่ริทเพิ่งกลับมาถึง”
“อ้าวนี่ริทกลับบ้านเหรอลูก....ทำไมไม่โทรมาก่อน พ่อกับแม่กับน้องมาเยี่ยมลุงมอญ ลุงมอญเพื่อนพ่อเราน่ะ แกป่วยเป็นมะเร็ง”
“แม่อยู่ไหนเนี่ย”
“แม่อยู่ลาดลี(ราชบุรี) เนี่ย ตอนนี้มาเดินตลาด จะซื้อของไปทำให้ลุงมอญเค้ากิน เค้ากินอะไรไม่ค่อยได้”
“แล้วแม่จะกลับมาเมื่อไหร่อ่ะ นี่ผมพาแฟนมาเปิดตัวเนี่ย ว๊า.....คลาดกันซะงั้น”
เสียงน้องตะโกนด่าขึ้นมา ผมรีบเอามือปิดโทรศัพท์ ยังไม่อยากให้แม่เซอร์ไพรส์ในสถานการณ์แบบนี้
“อีกสองสามวันน่ะลูก ริทคงกลับไปเรียนก่อน ยังไงก็ฝากดูแลบ้านด้วย จะไปจะมาก็ล๊อคให้เรียบร้อย แค่นี้นะลูก”
“คร๊าบบบบ แม่.....กลับมาตอนเย็น ๆ เย็นมากมั้ยอ่ะแม่ ซื้อของโปรดมาทำให้ริทกับแฟนกินด้วยนะครับ.....ครับผม”
แม่วางสายไปแล้ว ผมก็เนียน ๆ พูดต่อ.....ตอแหลโครต ๆ แต่ขืนน้องรู้ว่าต้องอยู่ตามลำพังกับผม ในสถานที่ที่ค่อนข้างเปลี่ยว และเงียบแบบนี้....น้องคงหนีกลับไปก่อนแน่ ๆ เอาน่า อย่างน้อย ๆตอนดึก ๆ น้องก็คงไม่มีรถกลับ อย่างน้อย ๆ น้องก็ต้องจำใจอยู่ค้างกับผมหนึ่งคืน แค่หนึ่งคืนผมก็ดีใจแล้ว....ก็เพราะว่าอย่างน้อย ๆ ผมคงจะได้....อื้มมมมมม!!!! นั่นแหละ
ผมหย่อนตูดลงนั่งข้าง ๆพ่อตี๋อ้วน คว้าตัวพ่อมากก.....มากอด....หอมฟอด....หอมฟอด
“เชี่ย อย่าหอมเด่ เดี๋ยวคนเห็น กูอาย”
“แถวนี้ไม่มีใครหรอกครับน้อง บ้านหลังถัดไปอยู่ห่างออกไปไกลมากกกก”
“มึงฆ่าใครแล้วฝังเอาไว้มั่งรึเปล่าเนี่ย”
น้องนั้น....บางครั้งก็ตลกร้าย เราสองคนนั่งมองหน้ากันอยู่พักหนึ่งก็เริ่มสปาร์ค มือโอบลำตัวของน้องให้กระเถิบเข้ามา ริมฝีปากของผมคลอเคลียตามผมบ้าง ซอกคอบ้าง.....ติ่งหู.....แล้วก็แก้มนิ่ม ๆ ของน้อง
“เดี๋ยวแม่มึงก็กลับมาไม่ใช่เหรอ....อื้อ.....อาห์”
“เย็น ๆ นู่นแหละครับ” จริง ๆ คืออีกหลายวันนู่นแน่ะครับน้อง หึหึหึ
“พี่ริท.......ไปทำข้างในดิวะ”
“ตรงนี้เย็นสบายกว่าตั้งเยอะครับ” ผมดึงรั้งเสื้อคอกว้างของน้องจนเห็นหัวไหล่ขาวเนียน พักนี้น้องไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่ เพราะเข้ายิมบ่อยแล้วก็ควบคุมอาหาร....ซึ่งผมไม่ชอบเลย แต่ก็ต้องเคารพการตัดสินใจของเจ้าตัว ทำให้ตอนนี้น้องมีกล้ามเนื้อนิด ๆ เอาน่า....มันก็ยังมีก้อนเนื้อให้ผมได้ขยำเล่นอยู่
ผมถอดเสื้อน้องออก ผิวขาว ๆ นั้นเป็นผื่นแดงเต็มไปหมด กลิ่นเหงื่ออ่อน ๆ ลอยมากระทบจมูก ผมก้มลงหยอกล้อสองปุ่มสีชมพูเล็ก ขบกัดเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
“เชี่ย.....กูเสียวนะ พอแล้ว ไปทำข้างใน”
“ตรงนี้แหละครับ ตื่นเต้นดี”
ผมถอดกางเกงของน้องออก....เพียงครึ่งเดียว พูดให้เห็นภาพคือดึงลงมาถึงแก้มก้น จากนั้นผมก็จัดแจงรูดซิบ แล้วควักเอาพี่ริทตัวจริงออกมารับลมบ้าง พี่ริทนั้นเจออากาศเย็นก็ชูคออย่างเต็มที่ ผมรูดพี่เค้าเบา ๆ จนพี่เค้าแข็งได้ที่ ผมก็จับน้องขึ้นคร่อม สอดพี่ริทของผมเข้าไปในน้องอาร์มของน้อง
“ดีมั้ยครับ คนเก่ง.....หึหึหึ”
“ดีเหี้ยอะไรล่ะ กูแมร่ง....ซี๊ดดดดด กลัวคนจะมาเห็น”
“งั้นพี่ริททำนาน ๆ เลยนะครับ”
“สาดนิ.....อื้อ.....ลึกอีก....เออดี....กระทุ้งแรง ๆ เลย.....อื้มมมมม”
ผมถอดเสื้อตัวเองออกบ้าง แล้วเอนตัวน้องลงมา ให้แผ่นหลังขาว ๆ ได้สัมผัสกับแผงอกหนาล่ำของผม เป็นสัมผัสที่แนบชิดดีเหลือเกิน.......
.
....
........
....
..
“มืดแล้วนะ แม่มึงยังไม่กลับมาอีก โทรหาดิ ไม่เป็นห่วงแม่มึงเหรอ” น้องบอกผม ตอนนี้เราทั้งคู่สวมแค่บ๊อกเซอร์คนละตัว นั่งอยู่ที่เดิมนั่นแหละ ผื่นร้อนบนตัวน้องไม่มีแล้ว จะมีก็แต่รอยจ้ำฝีมือของผม ดวงตะวันเริ่มคล้อยลงไปทุกขณะ จนในที่สุดก็เห็นเพียงแค่แสงสีแดงระเรื่อจากอีกฝากฝั่งกระนู้น เด็ก ๆ หรืออาจจะไม่เด็ก กำลังเล่นน้ำอยู่ที่ท่า....ผมมองไม่ค่อยชัดนัก น้องชกไหล่ผมเต็มแรง ผมจึงต้องหันไปมองเจ้าตัว
“เดี๋ยวก็กลับแล้วครับ เป็นห่วงแม่สามีรึไง”
“พอเห๊อะ.....หน้ามึงก็โหดนะ พูดจาเถื่อน ๆ แบบผู้ชายปกติบ้างเหอะ จะพระเอกละครไปไหน๊.......กูเข้าไปดูทีวีละ.....มีทีวีใช่มั้ยบ้านมึงอ่ะ”
กวนตีนตลอดจริง ๆ ไอ้เด็กอ้วน....ที่ไม่ค่อยจะอ้วนเท่าไหร่แล้ว
ผมเดินตามน้องเข้าไปอย่างหื่นกระหาย
ในใจนึกขอบคุณพรหมณ์ลิขิตและโชคชะตาที่เข้าข้างและเป็นใจ.....ผมเคยบอกว่าผมแค่ชอบน้อง แต่ตอนนี้นอกจากหลงในรูปร่างเรือนกายกับใบหน้านิ่ง ๆ นั่น ผมชักจะรักน้องขึ้นมานิด ๆ ซะแล้วล่ะ
กริ๊งงงงงง......กริ๊งงงงงงงง
“ฮัลโหลครับ......ผมรุ่นน้องพี่ริทครับ.......ครับผม.....ครับ....ครับ”
ว๊ากกกกกกก ไอ้แก้ม ใครให้มึงถือวิสาสะรับโทรศัพท์ให้กูว๊าาาาาาาาาาาาาา
“ไอ้พี่ริท ไอ้ตอแหล.....แม่มึงน่ะเค้าไม่กลับมาแล้ว ไอ้เลว.....กูจะกลับบ้าน.....จะกลับบ้านนนนนน อ๊ากกกกก”
น้องโวยวายเสียงดังลั่น หน้าตานั้นพร้อมจะมีเรื่อง
ว๊า.....เห็นทีผมคงต้อง
ควักรูปในโทรศัพท์ขึ้นมาขู่ซะแล้วจิ.....ไม่อยากเลยจริง ๆ นะนี่แต่นาน ๆ ทีพี่ริทขอเลวซักหน่อยเห๊อะ!!!..........................................................