ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชมกรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 "Yes,I love him"
ตอนที่ 1 ท่ามกลางอากาศร้อนภายในโรงงานผลิตยาบ้า กลิ่นควันปืนผสมผสานกับกลิ่นสารเคมี เสียงร้องตะโกนค่อยๆ เงียบเสียงลง เหลือเพียงเสียงของเจ้าพนักงานที่ออกคำสั่งต่อกลุ่มผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ที่นั่งเรียงแถวอยู่กับพื้นโรงงาน
ขณะที่การตรวจค้นโรงงานยังคงดำเนินต่อไป ที่ห้องเก็บของด้านใน ร.ต.ต.ตาลาไตพบเด็กชายตัวเล็กซุกตัวอยู่ที่มุมห้อง
"ชื่ออะไรน่ะเรา"
"หมี่" เด็กน้อยตอบทั้งที่ยังไม่คลายแขนที่กอดเข่า กลิ่นจากร่างกายเล็กๆ มอมแมมผอมโกรกบอกว่า อาจไม่ได้อาบน้ำมานานกว่าสัปดาห์
เมื่อยื่นมือออกไป หมี่ก็ยื่นมือสั่นเทาออกมาจับไว้ แล้วลุกตามออกมาจากห้องด้านหลัง ตาลาไตให้เด็กน้อยยืนหลบอยู่หลังตู้ใหญ่ ขณะที่ชี้ไปที่แถวของคนงานที่กำลังถูกควบคุมตัวออกไป
"พ่อเราอยู่ในแถวนั้นหรือเปล่า"
หมี่เหลือบมองไปที่แถวของคนงาน หยดน้ำใสเอ่อล้นขอบตาขณะที่พยักหน้ารับ
มือใหญ่จับศีรษะเล็กๆ "ไปด้วยกันนะ"
"หนูจะได้อยู่ห้องขังเดียวกันกับพ่อมั้ย"
คำถามใสซื่อทำให้เพื่อนตำรวจอีกคนที่เพิ่งจบมาหมาดๆ เหมือนกับตาลาไต หันมาบอกด้วยคำพูดง่ายๆ "ไม่หรอก ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นก่อน แล้วให้ญาติมารับ เรามีปู่ย่าตายายที่ไหนหรือเปล่า"
เด็กน้อยส่ายหน้า มือเล็กๆ จับมือของตาลาไตไว้แน่น
ดวงตาที่มองมา ทำให้ตาลาไตพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด "ไปอยู่กับฉันมั้ย"
นายตำรวจคนนั้นยังคงเตือน "พูดอย่างนั้นเด็กมันจะคิดว่าจะพาไปอยู่ด้วยนะ"
"ก็ไปอยู่ด้วยกันจริงๆ น่ะสิ"
"ยุ่งยากว่ะตาล คิดให้ดีนะโว้ย ชาวนาเลี้ยงงูเห่าโดนกัดตายห่ามานักต่อนักแล้ว"
...เด็กที่เติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมเลวร้ายมักถูกปีศาจร้ายกัดกร่อนความสดใสแบบเด็กๆจนหมดไป แต่ตาลาไตกลับเชื่อว่าความใสซื่อที่มองเห็นคือความจริง ไม่ใช่ภาพลวงตา...
"หมี่จะกัดฉันมั้ย"
"ไม่"
"สัญญา"
"สัญญา" เด็กน้อยตอบทันที
ขณะที่คนสองคนยิ้มให้กันพร้อมกับคำสัญญา แต่ร.ต.ต.ฉลองที่เป็นเพื่อนร่วมงานกลับส่ายหน้าไม่เชื่อคำสัญญานั้นสักนิด
รอให้รถผู้ต้องหาออกไปแล้ว ตาลาไตถึงได้พาหมี่ไปขึ้นรถตำรวจแล้วพาไปที่สถานีตำรวจด้วยกัน ตามกระบวนการทางกฎหมายต้องส่งเด็กไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าของทางราชการ จนการเดินเรื่องขอรับเลี้ยงเสร็จสิ้น
ขั้นตอนที่ไม่สามารถปกปิดเป็นความลับ ต่อให้ไม่อยากให้พ่อที่แท้จริงรู้ความเคลื่อนไหวของหมี่ ว่ากำลังจะได้ออกไปจากสถานรับเลี้ยง แต่คิดว่าความลับไม่มีในโลก เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องไปสอบถามจากกลุ่มผู้ต้องหาเกี่ยวกับเด็กผู้ชายที่พบอยู่ในโรงงาน รวมถึงเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับเด็กคนนี้
ชายคนหนึ่งยกมือบอกว่า เป็นพ่อของเด็กชายหมี่ และบอกว่าเอกสารต่างๆ รวมอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าที่ซุกไว้ในโรงงาน กับประวัติฉบับย่อที่ว่า แม่ที่แท้จริง ไม่ใช่แม่ที่ระบุชื่ออยู่ในเอกสาร แต่เป็นสาวพม่าทิ้งลูกไปตั้งแต่คลอด
ตอนนั้นพ่อทำงานอยู่ในสวนอ้อย เมื่อแม่ที่แท้จริงทิ้งไป พ่อก็ไปขอให้คนงานหญิงอีกคนที่มีครอบครัวแล้วช่วยรับเป็นลูก เพื่อให้หมี่มีสูติบัตร แต่เด็กชายก็ไม่เคยเข้าโรงเรียน เพราะพ่อย้ายที่อยู่และย้ายงานไปเรื่อย ทำให้พอจะรู้หนังสือกับบวกเลขได้ตามที่พ่อสอนให้
พ่อเลี้ยงหมี่มาโดยลำพังจนกระทั่งมีคนชวนมาทำงานที่โรงงานผลิตยาบ้า
แม้การถูกจับกุมในคดียาบ้า จะทำให้ถูกตัดสิทธิ์การเป็นผู้ปกครองเด็กไปโดยปริยาย แต่เจ้าหน้าที่ของบ้านเด็กกำพร้าก็ยังนำเอกสารมาให้พ่อของหมี่ลงลายมือชื่อรับทราบ ตามขั้นตอนของกฎหมาย
"เอาจริงหรือวะเนี่ยตาล" ฉลองยังคงเป็นห่วงเรื่องที่ตาลาไตรับหมี่มาเลี้ยง
"มาถึงขั้นนี้แล้ว ยังสงสัยอะไรอยู่อีกวะเนี่ย"
"ก็สงสัยสิวะ เลี้ยงเด็กนะโว้ย ชีวิตคนไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วงานอย่างเรา ห่วงหน้าพะวงหลังไม่ได้ มึงเองก็ยังเช่าหออยู่อยู่เลย"
ตาลาไตยอมรับ "ขอบใจที่เตือน แต่ก็คิดไว้ว่าจะพาไปอยู่กับพ่อที่บ้านสวนน่ะ ไม่ได้ให้อยู่ที่นี่หรอก"
"เออ ดี" ฉลองเห็นด้วย แต่ก็ยังไม่วายที่จะหามุมให้ต้องเป็นห่วง "แต่เด็กมันจะไม่รู้สึกเหมือนโดนผลักต่อๆ กันไปหรือวะ"
"แต่มันก็ดีกว่าให้อยู่ในบ้านเด็ก ฯ หรือให้อยู่ตามลำพังที่หอพัก" ตาลาไตพูดแล้ว ตีศอกใส่เพื่อนเบาๆ "ห่วงไอ้หมี่เหมือนกันก็บอกมาเหอะ"
"ไม่ได้ถึงขนาดเป็นห่วงอะไรหรอก แต่คิดว่าเลี้ยงเด็กน่ะมันยาก ให้เล่นด้วยกันแป๊บๆ น่ะใครก็ทำได้ แต่ถ้าถึงขนาดขอรับมาเลี้ยงแบบที่มึงทำเนี่ย เป็นเรื่องที่ชาตินี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นกับกูเด็ดขาด"
"เออ กูเชื่อ" ตาลาไตพูดพลางหัวเราะ
ฉลองยังไม่มีครอบครัว เพราะเป็นคนที่กระหายความสำเร็จในการทำงานมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต ซึ่งมันก็ดีสำหรับการเป็นเพื่อนร่วมงาน
เมื่อตาลาไตมาหาหมี่ที่บ้านเด็กฯ หมี่ถามคำถามเดิมเหมือนทุกครั้งที่มาหา "เมื่อไหร่หนูจะได้ไปจากที่นี่"
มือใหญ่ขยี้ผมเด็กน้อย แม้จะยังตัวผอมเหมือนเดิม แต่อย่างน้อยหมี่ก็สะอาดกว่าตอนที่พบกันครั้งแรกมาก "อีกไม่นานหรอก น้าอยากทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน"
ปรียาหรือบุ๋มส่งซองเอกสารของหมี่ให้นายตำรวจหนุ่มขณะที่นั่งลงข้างๆ "ทำไมให้หมี่เรียกน้า ไม่เรียกพ่อล่ะ"
ตาลาไตขยับให้หมี่นั่งตัก ขณะที่หันไปบอกกับบุ๋ม "พ่อของหมี่มีคนเดียว เขาอาจเลือกอาชีพผิดทำให้ต้องไปจบชีวิตที่นั่น แต่จากสภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ ก็ต้องถือว่าเขาเป็นพ่อที่ดีเท่าที่จะทำได้ ที่ไม่เคยให้ลูกชายทดลองใช้ยาที่เขาทำ"
"หมี่อ่านเป็นคำๆ ได้ เขียนไม่ค่อยเป็นประโยค ส่วนเรื่องบวกเลขคล่องมาก คูณหารไม่ได้เลย ภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึง" บุ๋มรายงาน
นายตำรวจพยักหน้ารับทราบ "ไม่เป็นไร ขอเพียงรักดีไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ แต่ผมจะขอเปลี่ยนชื่อหมี่ด้วย ไหนๆ ก็ใช้นามสกุลผมแล้ว เปลี่ยนชื่อเป็นยุวาให้ที"
"แปลว่าอะไรยุวา"
ดวงตาของเด็กจ้องมองหนุ่มสาวที่คุยกันอย่างสนิทสนม
ถึงทั้งคู่จะไม่ได้แนะนำว่าอีกฝ่ายมีความสำคัญอย่างไร แต่สมองมันก็รับรู้ได้เองว่าเขาเป็นคู่รัก
"เด็กหนุ่ม ผมส่งวันเดือนปีเกิดหมี่ไปให้พ่อ พ่อก็ไปขอให้พระแถวบ้านตั้งให้ ทีแรกผมว่าจะให้ชื่อรักดี"
"หื้อ" บุ๋มทำเสียงสูง "ตั้งชื่อไม่เผื่อเวลาที่หมี่จีบสาวเลย ชื่อยุวาเก๋กว่า"
"ผมก็ว่างั้น" ตาลาไตยอมรับ "แต่ที่อยากให้เขาชื่อรักดี เพราะจะได้เตือนใจเขาว่าให้รักดี ทำดีไง"
"คนชื่อใจดี แต่กลับใจร้ายมีให้เห็นเยอะแยะ"
"ผมก็รู้ ถึงได้ไม่ขัดใจพ่อ ชื่อยุวาก็ดีจะได้เป็นเด็กหนุ่ม มีความสดใสร่าเริง แข็งแรงตลอดไป"
"พ่อบอกมาละสิ"
"แน่นอน พยายามโน้มน้าวมากเลยนะ ไม่อยากให้หลานชื่อรักดี เขาว่าเชย"
แขนเล็กๆ กอดเอวหนาของตาลาไตแน่นกว่าเดิม ซุกหน้าลงกับอกกว้าง ทำให้ตาลาไตกอดตอบ
"อยู่ที่นี่อีกไม่กี่วันก็จะได้ไปแล้ว"
หมี่พยักหน้า หยดน้ำตาไหลเรื่อย "ร้องไห้อีกแล้ว" ตาลาไตแกล้งแหย่ แต่หมี่ก็ยังไม่หยุดร้องไห้
อีกไม่กี่วันถัดมา ตาลาไตลางานแล้วรีบขับรถไปรับหมี่ตั้งแต่เช้า เด็กน้อยผมสั้นเกรียน สวมเสื้อผ้าชุดใหม่วิ่งมากระโดดกอดนายตำรวจรูปร่างสูงใหญ่ไว้แน่น
บุ๋มถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กยืนยิ้มภูมิใจอยู่ข้างๆ
"เป็นไงหล่อใช่มั้ยล่ะ"
"หล่อมาก" ตาลาไตเห็นด้วย ทั้งที่ใจจริงรู้สึกว่าดวงตากลมแบบตาชั้นเดียวแบบนั้น ทำให้มีหน้าตาที่ค่อนไปทางแม่ที่แท้จริงมากกว่าพ่อ บวกกับสีผิวและรูปร่างเล็ก ถึงจะไม่เหมือนผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้ดูเข้มแข็งแบบเด็กผู้ชายในวัยเดียวกัน
"ไปกันเถอะ" หมี่ดึงมือตาลาไตให้เดินออกมาจากบ้านเด็กฯ แต่ตาลาไตกลับรั้งไว้
"เดี๋ยวสิ น้าต้องไปห้องครูใหญ่ก่อน"
ขั้นตอนสุดท้ายใช้เวลาอีกไม่ถึง 10 นาที หมี่ก็ออกจากบ้านเด็ก ฯ พร้อมกับตาลาไตและบุ๋ม
ตาลาไตไม่ได้พาหมี่กับบุ๋มไปที่หอพัก แต่ขับรถกลับไปที่ชัยนาท
บ้านไม้ใต้ถุนสูงในสวนผักและผลไม้
ชั้นล่างคือห้องครัว กับใต้ถุนโล่งกว้างที่มีแคร่สูงสารพัดประโยชน์วางอยู่ เพราะเป็นตั้งแต่ที่นอนพักกลางวันของพ่อ ที่นั่งทำงานของแม่ ที่นั่งกินข้าวของครอบครัว และที่ประชุมของทุกคนในบ้าน ส่วนโต๊ะไม้ตัวหนาสำหรับกินข้าว ถูกย้ายไปอยู่ด้านข้าง เพื่อวางกระถางต้นไม้ต้นเล็กๆ
ส่วนชั้นบนคือ ห้องโถงกว้าง กับห้องนอน 3 ห้อง
ห่างจากบ้านหลังใหญ่ไม่ถึง 10 เมตรคือโรงเก็บของ ทั้งพืชผัก และปุ๋ย
พ่อกับแม่ และวิภากับวันชาติมารออยู่ที่บ้าน เพื่อสรุปเรื่องให้ตรงกันว่าอะไรที่สามารถพูดได้ และอะไรที่ไม่สมควรออกจากปาก แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรอตาลาไต
รวมถึงคำถามค้างคาใจที่ถามกันมาหลายครั้ง แต่ก็ยังคงถามกันต่อไป
...หมี่เป็นลูกใคร....
เมื่อมาถึง แม่ชี้บอกให้ขึ้นไปคุยกันบนเรือน แทนที่จะคุยกันที่แคร่ตัวใหญ่หน้าครัว
...แสดงว่าเรื่องนี้จริงจังมาก ไม่สมควรให้ใครนอกบ้านที่อาจบังเอิญแวะมาหา ได้ยินเรื่องที่จะคุยกัน...
วิภาเป็นน้องสาวคนรองของตาลาไต ไม่ได้อยู่บ้านนี้ เพราะแต่งงานไปแล้วมีลูกชายกับลูกสาวอย่างละคน ทั้งคู่อายุไล่เลี่ยกับหมี่
ส่วนวันชาติหรือต่อเป็นคนเล็ก ยังโสดและยังอยู่ที่บ้านนี้ แล้วก็ไม่ค่อยมีใครเรียกชื่อเล่นว่าต่อ ทุกคนพากันเรียกชื่อจริงจนหลงลืมชื่อเล่นไปแล้ว
พอตาลาไตบอกว่ารับเด็กมาเลี้ยงคนหนึ่ง และจะพามาฝากพ่อกับแม่ วิภาก็ขอให้หมี่ไปอยู่บ้านของเธอ แต่พ่อแม่และวันชาติไม่ยอม การตัดสินใจเรื่องนี้ได้ข้อสรุปตั้งแต่หมี่ยังอยู่ที่บ้านเด็ก ฯ คือหมี่ต้องอยู่กับพ่อ แม่ และวันชาติ
ประเด็นถัดมาคือเรื่องเรียนหนังสือ แม้พ่อกับแม่จะเห็นว่าไม่น่าห่วงเพราะขอแค่ให้จบภาคบังคับ แต่วันชาติก็บอกว่า อยากให้ฟางเด็กท้ายสวน มาช่วยสอนพิเศษให้หมี่ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
"ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เพราะไอ้ฟางมันจะได้ไม่ไปซ่าที่ไหน ให้มันมาสอนหมี่ที่บ้าน ยังไงก็อยู่ในสายตาทั้งพี่ทั้งน้อง"
"มันเกเรหรือไง" ตาลาไตถามด้วยความเป็นห่วง นึกถึงฟางเด็กหนุ่มตัวผอมผมเกรียนที่ยังมีน้องชายน้องสาวอีกอย่างละคน
"มันไม่ได้เกเรหรอก แต่มันกำลังอยู่ในวัยแรง มันเรียนเก่งนะพี่ตาล หัวแก้วหัวแหวนของพ่อใหญ่เขาหล่ะ" วันชาติพยักหน้าไปทางพ่อ
แม่ช่วยย้ำความมั่นใจ "ก็เตรียมให้มันสอนกันใกล้ๆ ข้า เพราะข้าก็ไม่ได้เข้าสวนแล้ว"
วิภาช่วยเสริม "แม่กลัวหมี่คิดว่า ตาลพามาทิ้งไว้ที่นี่ ที่จริงแม่อยากดูเองด้วยซ้ำ แต่ไอ้วันชาติสิ เตือนว่าแม่จะเจ็ดสิบแล้วนะ จะเล่นจะสอนหนังสือหมี่ยังไง"
...ปัญหาอยู่ที่การสอนหนังสือให้กับเด็กที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนนี่แหละ...
ดวงตากลมๆ จ้องมองผู้ใหญ่คุยกันจนกระทั่งหนุ่มวัยรุ่น ตาคม โดดเด่นที่ริมฝีปากอิ่ม เดินขึ้นมาบนบ้าน ยกมือไหว้ทุกคนแล้วนั่งลงข้างๆ เด็กน้อย
"ไปเล่นบอลกัน"
หมี่ส่ายหน้า ขยับกอดแขนตาลาไตแน่นกว่าเดิม
"เล่นไม่เป็นหรือ"
หมี่ไม่ตอบเงยหน้ามองตาลาไต แต่ตาลาไตบอกให้ไปเล่น "ไปเล่นเถอะ"
"แล้วน้าจะหนีไปหรือเปล่า"
"ไม่หรอกคืนนี้น้ายังอยู่กับหมี่ก่อน"
วิภาบอกกับหนุ่มตาคม "ฟางพาน้องเล่นหน้าบ้านนะ น้องยังไม่คุ้น"
เมื่อฟางพาหมี่ลงจากบ้าน ตาลาไตถึงได้หันมาหาบุ๋ม ที่นั่งอยู่ข้างกันมาตลอด หญิงสาวมีเพียงรอยยิ้มมุมปากที่ดูฝืนๆ ให้กัน จนกระทั่งเมื่อลุกไปดื่มน้ำ ตาลาไตถึงได้ถาม
"ไม่สบายหรือบุ๋ม"
"เปล่า แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายใจน่ะ" บุ๋มตอบตรงๆ ที่ผ่านมาบุ๋มไม่ใช่คนที่เรียกร้องอะไรมากมายนัก เพียงแต่สายตาของตาลาไตที่มองตามใครบางคนทำให้บุ๋มมีความรู้สึกไม่สบายใจ อึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งบอกไม่ถูกเหมือนกันว่า แอบเห็นสายตาแบบนี้ของตาลาไตตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันไม่ใช่ในตอนที่มาบ้านนี้ครั้งแรกแน่ๆ
ตอนนั้น ตาลาไตแทบไม่ได้มองเด็กหนุ่มคนนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม...
"งั้นจะไปนอนที่โฮมสเตย์แถวนี้มั้ย" ตาลาไตถามต่อ
"ไม่ใช่เรื่องบ้านหรอก บ้านตาลหลังใหญ่กว่าบ้านบุ๋มที่บ้านนอกตั้งเยอะ เพียงแต่..." พอจะพูดเข้าจริงๆ ก็รู้สึกว่ากำลังคิดมากไปเอง
"เพียงแต่อะไร"
"บุ๋มบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกเวลาที่เห็นตาลมอง...ฟาง"
ตาลาไตถึงกับขำ ทำให้บุ๋มต้องตีที่แขนหนาๆ "อย่ามาขำนะ"
"ขำสิ ผมกับเด็กผู้ชายเนี่ยนะ"
...แถมยังเป็นเด็กผู้ชาย หัวเกรียนทรงนักเรียน คิ้วเข้มตาคมอีกต่างหาก....
บุ๋มนิ่วหน้า ไม่บรรยายภาพของสายตาที่ตาลาไตมองเด็กคนนั้น บางทีเขาอาจทำไปโดยไม่รู้ตัว มันอาจไม่มีความหมายอะไรมากไปกว่าความเมตตาเด็กลูกคนงานบ้านท้ายสวนที่เห็นกันมาตั้งแต่เกิด
....แต่สายตาแบบนั้นมันทำให้ไม่สบายใจ คล้ายกำลังเป็นส่วนเกิน....
การทำความรู้จักกับพี่เลี้ยงที่มีอายุห่างกัน 5 ปีไม่ค่อยมีความคืบหน้าที่ดีเท่าไหร่นัก เพราะหมี่ได้แต่นั่งดูฟางกับลูกคนงานคนอื่นเล่นบอลจนกระทั่งได้เวลาไปอาบน้ำกินข้าว หมี่ก็เกาะติดอยู่กับตาลาไตจนกระทั่งเข้านอน
"น้าตาลเป็นแฟนกับครูบุ๋มใช่มั้ย" หมี่ถาม เรียกชื่อเล่นของตาลาไตตามทุกคนในบ้าน
ตาลาไตพยักหน้า "ใช่"
"ที่ไม่ให้หนูอยู่ด้วย เพราะกลัวหนูอิจฉาลูกน้าหรือ"
"เฮ้ย ไม่ใช่" นายตำรวจตัวโตรีบอธิบาย "น้ายังไม่ได้แต่งงานกัน เรื่องลูกยังอีกนาน แต่งานของน้าไม่เป็นเวลา หมี่ยังเล็กอยู่มากจะกินจะอยู่ยังไงถ้างานติดพันน้าไม่ได้กลับบ้าน แล้วที่นี่ก็มีคนที่พร้อมจะดูแลหมี่ได้ดีกว่าน้า"
น้ำตาใสๆ หยดลงแก้มทันที "น้าบอกว่าจะอยู่ด้วยกัน"
"ต้องได้อยู่ด้วยกันสิ แต่หมี่ต้องเรียนจบ ม.6 แล้วสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ค่อยไปอยู่ด้วยกัน"
"จบ ป.6 ไม่ได้เหรอ" หมี่ต่อรอง
"ไม่ได้"
เสียงร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิมจนพ่อกับแม่ต้องเปิดประตูเข้ามาดู
"อยากไปอยู่กับน้า เอ็งก็ต้องเรียนหนังสือให้เก่ง ทำให้ทุกคนเห็นว่าเอ็งดูแลตัวเองได้ดี รู้หน้าที่ ไม่เกเร ตอนนี้อยู่กับปู่ก่อนเถอะ ปู่อยากได้คนช่วยปู่ทำสวน"
ขณะที่แม่บอก "เอ็งก็ตั้งใจเรียนเดี๋ยวเดียวก็ได้ไปอยู่กรุงเทพฯ แล้ว"
ทั้งที่แม่เป็นห่วงว่าหมี่จะเหงาเพราะการที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า แต่ตอนที่ตาลาไตกลับมาบ้านในอีกหลายอาทิตย์ถัดมา แม่กลับต้องให้คนไปตามหมี่ที่ตามพ่อเข้าสวนไปตั้งแต่เช้า
"ติดพ่อเอ็งหยั่งก๊ะตังเม" แม่พูดขำๆ "นอนก็ต้องนอนด้วยกัน เช้าให้พ่อเอ็งไปส่งโรงเรียน กลับมารีบตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านกับไอ้ฟางแล้วก็พากันหายจ้อยเข้าไปในสวน ค่ำลงหน้าบานเป็นกระด้งซ้อนรถเครื่องพ่อเอ็งกลับมาจากสวน"
"ก็ดีแล้วนี่ แม่กลัวว่าฟางจะพาหมี่เกเรไม่เรียนหนังสือไม่ใช่หรือไง"
"ก็ดีน่ะสิ" แม่หัวเราะร่วน "มันคุมพ่อเอ็งไม่ให้กินเหล้าโรงได้ชะงัดนัก มันกลัวพ่อเอ็งจะเหมือนพ่อมัน ร้องไห้ซะหยั่งกะพ่อมึงจะตาย ปู่อย่ากินเหล้า ปู่อย่าเหมือนพ่อ" แม่ทำเสียงเลียนแบบจนตาลาไตต้องหัวเราะตาม
ขณะที่คิดในใจ....พ่อของหมี่ยังมีชีวิตอยู่ในเรือนจำ แต่หมี่อาจหมายถึงคนอื่นในครอบครัวที่ตายเพราะเหล้า
"ไอ้ฟางก็พลอยอยู่ติดบ้านติดสวนมากขึ้น แต่วัยรุ่นนะ ต้องดูกันยาวยังไม่ค่อยไว้ใจ กลัวมันพาหมี่ซ้อนรถเครื่องไปร่อนที่ไหนแล้วได้เรื่องกลับมา"
แม่เล่าไปเรื่อย ๆ ระหว่างรอพ่อกับหมี่กลับมาจากสวน
...ท่าทางจะยิงปืนนัดเดียวได้นกมากกว่า 2 ตัว...
=====จบตอนที่ 1====สวัสดีวันที่ไม่มีแดด
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านเรื่องที่เรา 2 คนช่วยกันเขียน และหวังว่าคุณจะชอบ
ตอนที่ 2 มาวันเสาร์นะครับ
ไจฟ์กับที#ตอนที่1 #ตอนที่2#ตอนที่3 #ตอนที่4#ตอนที่5#ตอนที่6#ตอนที่7 #ตอนที่8 #ตอนที่9#ตอนที่10#ตอนที่11#ตอนที่12#ตอนที่13#ตอนที่14 #ตอนที่15#ตอนที่16 #ตอนที่17#ตอนที่18 #ตอนที่19#ตอนที่20 #ตอนที่21#ตอนที่22 #ตอนที่23#ตอนที่24 #ตอนที่25#ตอนที่26#ตอนที่27#ตอนที่28#ตอนที่29#ตอนที่30 #ตอนที่31ตอนจบ#Our Simply Sunday#Happy Birthday My love#JUICE#Lost#Jigsaw#Invisible Hand#1
#The Invisible hand#จบ