“นี่คุณนิดา เลขาผม”
ผมยกมือไหว้หญิงวัยกลางคน เธอยิ้มใจดีมาให้ ต่างจากคนในแผนกอื่นนะ ที่ดูออกเลยว่าฝืนยิ้มสุดๆ
คุณภพเป็นกรรมการผู้จัดการ ทำงานหนักกว่าคนอื่นเขา แต่ท่าทางก็ดูมีความสุขดี เพราะCEOเป็นอาแท้ๆ ผมว่าต่อให้เขาบริหารได้ไม่ดี อาเขาก็ไม่ว่าอะไรหรอก
ร่างสูงพาผมมาดูโต๊ะทำงานตัวเอง โต๊ะไม้โล่งๆ มีเพียงที่ทับกระดาษเซรามิคก้อนดำๆกลมๆตั้งอยู่ ถ้าผมนั่งลง ก็จะมองหน้าเขาได้ตรงเป๊ะ พอคิดก็เริ่มจะเบื่อแล้วสิ นั่งมองหน้าทั้งวันเนี่ยนะ งานอะไรเสียศักดิ์ศรีชะมัด ....แต่เราเลือกเองนี่หว่า
ภายในห้องทำงานเขา(และผม)ค่อนข้างรก มุมห้องมีกองกระดาษเป็นตั้งๆ อีกทั้งต้นไม้ยังถูกวางเรียงอย่างไม่เป็นระเบียบหลายต้น ข้างหลังโต๊ะทำงานเขาเป็นชั้นบิลด์อิน มีแฟ้มเอกสารมากมายเรียงรายแน่น ถัดจากชั้นก็เป็นเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องแฟกซ์ เครื่องแสกน ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ และห้องน้ำในตัว! ทุกอย่างมีพร้อมสรรพ ทำอย่างกับว่าจะไม่ออกจากห้องนี้นั่นแหละ
“อยากได้อะไรหรือเปล่า”
ผมส่ายหน้า
“ผมว่าห้องคุณมีครบทุกอย่างแล้วนะ มีงานอะไรให้ทำก็บอกเลยนะ ผมว่านั่งเฉยๆมันน่าเบื่อ”
“งั้นชงกาแฟให้หน่อย”
ถอนหายใจพรืด
“ผมหมายถึงงานในบริษัท”
“ใครจะโง่ให้ทำ มีหวังปลอมแปลงเอกสารแกล้งบริษัทน่ะสิ”
“ผมว่าผมไปแจ้งตำรวจข้อหาทำร้ายร่างกาย กับกักขังหน่วงเหนี่ยว ให้คุณเสียชื่อจะง่ายกว่ามั้ย”
“แล้วทำไมไม่ทำ?”
เขากอดอก พิงโต๊ะทำงาน ส่งสายตาท้าทายมาให้
“ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ”
“หึ! แล้วที่ทิ้งงานตัวเองมานี่ไม่เสียเวลาเลยว่างั้น?”
“ก..ก็ดีกว่าเสียเงินค่าทนายแหละน่า อยู่กับคุณ ยังไงผมก็ได้เงินเดือน”
ฟู่ว เกือบเถียงไม่ได้แล้วเรา
“เถียงคำไม่ตกฟาก”
เขายิ้มสยอง พร้อมกับก้าวเท้าอาดๆมาประชิดตัว ผมถูกดันลงกับโต๊ะตัวเอง
หน้าหล่อๆก้มหายใจรดกัน ผมเม้มปากแน่น
ห้องเขาครึ่งบนมันเป็นกระจก!
ยังเห็นหัวพี่นิดาก้มๆเงยๆอยู่เลย
“อือ” ปฏิเสธนะแต่เปิดปากรับเอาลิ้นร้อนเข้ามาหยอกเล่น
“ได้เวลางานละ ชงกาแฟซะ”
เขาผละออก นั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ทำราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในห้องนี้
วางมาดเจ้านายเสียจนผมลืมนายสามภพคนเก่าไปเลย
……………….
งานที่สบายที่สุดในโลก
ถ้าพ่อแม่รู้จะต้องอิจฉามากแน่ๆ ที่ลูกมีงานสบายๆ นั่งในห้องแอร์ หายใจแย่งอากาศเจ้านายไปวันๆ นึกเบื่อๆก็รดน้ำต้นไม้ จัดเอกสาร ไม่ก็เก็บกวาด แย่งงานแม่บ้านไปหมด
ผมแทบไม่ได้ออกไปพบเจอผู้คน ดังนั้นผมจึงคิดไปเองว่าพี่นิดาคือคนที่สนิทด้วยที่สุด
ยังไงเสีย พี่แกก็ยิ้มเป็นมิตรให้เราอ่ะนะ
ส่วนเขาไม่ค่อยชวนผมคุยเท่าไหร่ งานยุ่งมาก บางวันไม่ได้เข้าห้องด้วยซ้ำ เพราะออกไปดูฝ่ายผลิตอีกตึก พอขอตามไปก็ไม่ให้ไปอีก บอกว่าเดี๋ยวเราไปหว่านเสน่ห์พนักงาน ให้อยู่เล่นเกมในห้องไป
ผมนะ กะว่าจะหลอกเอาตังค์ เกาะเขากินไปวันๆสักหน่อย ที่ไหนได้ ...หลอกได้แค่ค่าข้าวเที่ยง นอกนั้นเราซื้อเอง อุตส่าห์จะซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่สักหน่อย เบื่อคนรู้ทัน
RRRR
“พี่แทนนน”
/”ว่าไงเรา เสียงสดใสเชียว”/
“ก็ทำงานสบายนี่นา ไม่ได้ถูกเจ้านายกดหัวใช้เหมือนคนเก่า”
/“อ้าวๆ เดี๋ยวจะโดน”/
ผมหัวเราะเสียงดังที่ได้แกล้งคน
ตั้งแต่ออกมา พี่แทนยังคงติดต่อผมอยู่ด้วยความเป็นห่วง แปลกนะที่เราไม่หวั่นไหวกับเขาเลย ถ่านไฟเก่ามันมอดสนิท จุดไม่ติดจริงๆ
“พี่แทนเป็นไงบ้าง”
/”สบายดี นี่ไม่คิดจะถามคำถามอื่นเลยเหรอ โทรมาทีไรถามแค่เนี้ย”/
“อยากฟังอะไรล่ะ เดี๋ยวพูดให้”
/“กวนว่ะ”/
“ไม่รักไม่กวนหรอ...อ่ะ!”
คุณเขาเปิดประตูแรง ทำเอาตกอกตกใจ ผมปรับเสียงตัวเองให้เบาลง
“คุณภพเขามาแล้วอ่า นัทวางก่อนนะ”
/”ครับ”/
ผมกดวาง ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้คนหน้าบึ้ง
เขายืนนิ่ง หันหน้าหนีเหมือนคนงอน ผมว่าเขาได้ยินที่คุยกับพี่แทนเมื่อกี๊แน่ๆ
“งานเครียดเหรอ ผมนวดให้มะ”
ลองใจกล้ายื่นมือไปที่ไหล่เขา แต่โดนปัดทิ้งอย่างไม่ไยดี
ร่างสูงเดินดุ่มไปที่เหล่ากระถางต้นไม้ ได้ยินเสียงหายใจหนักก็พอเดาได้แล้วว่าจะเกิดอะไรต่อไป
สงครามเราสงบมานานหลายวัน ต้องถึงคราวประทุอีกแล้วหรือ....
เพล้ง!!
เขาเตะกระถางต้นไม้ล้มระเนระนาด ก้มหยิบเอกสารที่ผมอุตส่าห์จัดอย่างเป็นระเบียบไว้มาปาเล่น แล้วก็ปาใส่หน้าผมด้วย
พี่นิดาร้องโวยวายให้เขาหยุด พนักงานใจกล้าหลายคนเริ่มมามุงดู
“โอ๊ย!!” เขาผลักผมล้มลง ง้างมือจะตบ แต่เคราะห์ดีมีพนักงานผู้ชายมาล็อคตัวไว้
ไม่รู้ผีตนใดเข้าสิง หรือเพราะผมเดือดจัด ถึงได้ลุกขึ้นตบเขา
“อย่าเพิ่งฆ่ากันตายเลยค่ะ”
พี่นิดาคว้าผมเอาไว้
ผมหยุดหอบหายใจแรง มองเขายกมือกุมแก้มตัวเอง
เห็นตัวเล็กแบบนี้ แต่มือหนักนะจะบอกให้
“ผมไม่ได้ชอบความรุนแรงหรอกนะ แต่แม่งสะใจดีว่ะ”
พูดจบพี่นิดาก็พยุงผมออกไปด้านนอก พาไปนั่งในห้องแม่บ้าน
ผมไม่ได้สะอึกสะอื้นเสียใจกับการกระทำของเขา หลงนึกว่าเขาจะดีขึ้นแล้วเชียว
อย่างน้อยๆก็ไม่น่าจะโมโหร้ายแบบนี้ ผมไม่ใช่สิ่งของนะ!
“อย่าเสียใจไปเลยค่ะ เวลางานยุ่งๆ ก็ชอบปาข้าวของเล่น”
ผมหัวเราะทั้งน้ำตา พี่นิดานี่ปลอบใจอะไรประหลาดๆ ผมว่ามันน่าเครียดกว่าเก่านะ
“ตอนนี้รอให้ผู้จัดการเขาหายโกรธก่อนดีกว่าค่ะ แล้วคุณนัทไปทำอะไรให้เขาโกรธคะเนี่ย”
“เงียบๆน่านังปอ ไม่มีมารยาท”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมรู้ตัวว่าผมเองก็ไม่น่าเคารพเท่าไหร่ ไม่แปลกหรอกถ้าพนักงานจะพูดไม่คิดใส่บ้าง”
ปากยิ้มแต่สายตาด่ากลับ
ยัยนี่ชอบมาอ่อยเจ้านายตัวเองประจำ ผมหลอกด่านางหลายครั้งแล้ว ไม่รู้สำนึกบ้างหรือเปล่า
.
.
.
ผมนั่งเล่นคุยเล่นกับป้าแม่บ้านจนถึงเวลาห้าโมงเลิกงาน เขาก็มาพอดี สีหน้านิ่งๆตามปกติ จึงยังเดาอารมณ์ไม่ได้
ป้าแม่บ้านหลบออกจากฉากไป ทิ้งผมไว้คนเดียวเสียอย่างนั้น
“คุณเห็นผมเป็นอะไร? นึกจะตบจะตียังไงก็ได้ใช่มั้ย”
ถามเพราะอยากรู้คำตอบ ไม่ได้กวน
“ต้องให้พูดอีกกี่ครั้ง ว่าที่เราตกลงกันมันคืออะไร”
เขาถามกลับเสียงเย็น
“ให้ผมเป็นนายบำเรอคุณจนกว่าคุณจะพอใจ เพราะว่าคุณเหงามากๆ เมียตาย เพื่อนไม่มี เก็บกด เห็นแก่ตัว แถมยังเคยโดนผมทิ้งเลยรู้สึกเสียหน้า เสียศักดิ์ศรี ...พอมั้ย!”
เขากัดกรามแน่น คงอยากต่อยเราเต็มแก่
“ต่อยสิ”
ผมท้า ยื่นหน้าให้ด้วย
“ต่อยไปก็เสียมือเปล่า!”
เขาเปลี่ยนมาจับต้นแขนผมแน่น ดึงให้เดินตาม
ระหว่างทางต้องเจอกับพนักงานจอมสอดรู้ ซุบซิบนินทากันสนุกปาก
“ผมกลับรถตัวเองได้ จะให้ไปไหน?”
“บ้านฉัน”
สรรพนามที่เปลี่ยนไป บ่งบอกถึงความไม่ไว้ใจเรา
มันแย่.....ฝืนทนทำดี ทนเอาใจมาตั้งนาน แต่มาพังเพราะโทรศัพท์กับแฟนเก่า
ตำแหน่งของผมเนี่ยขาดทุนย่อยยับเลยนะ
ขับรถตามท้ายคนขี้โมโหจนถึงบ้านหลังใหญ่ดูเงียบสงบ
ร่างสูงดึงผมออกจากรถตัวปลิว เลื่อนมากุมมือผมไว้
แสดงละคร....
เขาแสดงละครได้แนบเนียนเหลือเกิน
ลงทุนก้มกราบพ่อแม่ ร้องไห้น้ำตาไหลพราก พร่ำบอกว่าตัวเองผิด
และบอกว่าผมคือ ‘รักแรก’ รักที่เขารอคอยมาตลอด ดังนั้นจึงขอคบ ถึงแม้ผมจะเป็นผู้ชายก็ตาม
ที่ทำแบบนี้เพราะความหึงหวง ทำให้ผมขอเลิก เขาจึงพาผมมาแนะนำตัวว่าเขาจริงจัง จะปรับปรุงตัวเอง โดยให้พ่อแม่เป็นพยาน
แม่เขาร้องไห้สงสารลูก และกระซิบอะไรบางอย่างซึ่งทำให้เขายิ้มออกมา
ร่างสูงลุกขึ้นหายไปด้านบน เหลือผมคนเดียว
“มานั่งนี่สิ”
หญิงสูงวัยเรียกผมให้นั่งข้างๆ ผมไหว้ท่านทั้งสองอีกครั้ง
“ไม่น่าเชื่อนะว่าคนที่มีเรื่องกับพีชจะเป็นคนที่เจ้าภพมันรัก”
จะให้พูดอะไรต่อเนี่ย เริ่มมาก็อัปมงคลละ
“ไม่ต้องกลัวเราหรอกหนู ชื่อนัทใช่ไหม?”
“ครับ”
“ให้อภัยภพมันเถอะนะ ความผิดมันครั้งแรกเอง คนมันเคยมีความรักก็งี้แหละหนู”
คุณพ่อกล่าวบ้าง ผมครับๆอย่างเดียว
นี่ไม่รู้นิสัยลูกตัวเองหรือยังไง ความรุนแรงไม่ใช่เรื่องให้อภัยกันได้ง่ายๆนะ ยอมมาหลายครั้งแล้ว!
ผมลืมตัวชักสีหน้าไป ท่านทั้งสองดูตกใจ
“คุยกันดีๆดีกว่าลูก แม่ไม่อยากให้มันเจ็บจากความรักอีก รู้ไหมตอนแม่หาผู้หญิงดีๆอย่างพีชมาให้ มันก็ไม่อยากแต่งหรอก แต่พอแต่งแล้วมันก็ทำตัวดีนะ พอใจกับชีวิตคู่ดี”
“เป็นผู้เป็นคนมากขึ้นเลยหละ พอครั้งนี้มันได้อยู่กับคนที่รัก ก็เลยทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากไปหน่อย”
คุณพ่อช่วยพูดอีก
ผมยิ้มแหยๆอย่างคนไม่ยอมรับสาส์น
ตั้งใจบอกความจริงดีกว่า
“อันที่จริง....เราทะเลาะ--”
“มาแล้วครับ”
จิ๊!
“ช้าจริงๆ ดูซิหนูนัทหน้าบูดแล้ว จะทำอะไรก็รีบทำ”
เขาฉีกยิ้มกว้างราวกับมีความสุขมากกกก
นั่งคุกเข่าตรงหน้าผม พอจะรู้แล้วว่าทำอะไร
แหวนทรงกลมหนา มีลวดลายอย่างสมัยก่อน บุษราคัมสีเหลืองรูปเหลี่ยมประดับตรงกลางเด่นสวย
เขาคิดจะผูกมัดผม ไม่อยากให้ผมสู้ใช่ไหม ถึงได้ลงทุนขนาดนี้
คงจะให้พ่อแม่เขาเอ็นดูผมจนผมเกรงใจ กะว่าจะป่าวประกาศระดับความสัมพันธ์ของเราว่ามันแน่นแฟ้นแค่ไหนโดยการให้คนรับใช้ถือกล้องถ่ายรูป
หึ! โง่จริงๆ
ติดกับดักเราเข้าให้แล้วล่ะคุณภพ
ที่ผมยอมคุณทุกอย่าง ก็เพื่อแบบนี้แหละ
เอาเลย! ยิ่งพ่อแม่คุณเอ็นดูผมเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งปอกลอกจากท่านง่ายขึ้นเท่านั้น คุณมันงกนี่ เอาจากคนแก่ดีกว่า หลอกง่ายดี ถือซะว่าเป็นค่าที่ลักพาตัวผมละกัน
“มันจะดีเหรอครับ”
ถามความเห็นผู้ใหญ่ ถ่อมเนื้อถ่อมตัว
“ดีสิลูก”
ผมยื่นมือซ้ายออกไปด้านหน้า เขาบรรจงสวมแหวนและจุมพิตหลังมือแผ่วเบา
อยู่ๆในอกผมก็ไหววูบ
เป็นเพียงความรู้เสี้ยวเล็กๆของความสุข...นึกอยากให้มันเป็นเรื่องจริง
“ดูสิ น้ำตาคลอเลย”
น้ำตาที่เกิดจากความอ่อนไหว น่าจะทำให้เขาตายใจมากขึ้น
ผมลงนั่งที่พื้นเคียงข้างเขา กราบเท้าผู้ใหญ่ทั้งสอง ท่านลูบหัวผม แววตาฉายความสุข
“คืนนี้นอนนี่นะ”
เขากระซิบข้างหู แต่เสียงก็ดังอยู่ดี
“ชวนเข้าหอกันซะแล้ววัยรุ่นใจร้อน”
คุณแม่แซว
.
.
.
.
ผมขึ้นมาสำรวจห้องซุกหัวนอนคืนนี้
ห้องนอนเขาต่างกับห้องทำงานลิบลับ มันเป็นระเบียบสะอาดตา เขาสะสมของเล่นจากพวกแม็คโดนัลด์ พวกเคเอฟซีเต็มไปหมด พวกมันถูกจัดให้อยู่ในตู้กระจก ทำท่าทางน่ารักจนผมนึกถึงตอนเป็นเด็ก
“ไปอาบน้ำไป จะได้เข้าหอกัน”
น้ำเสียงหื่น
เขาอารมณ์ดีขึ้นเยอะ อย่างกับคนละคนที่ทำท่าจะตบผม
“คุณให้แหวนผมจริงๆเหรอ หรือให้เป็นพิธี”
“ให้จริงๆ”
“ไม่กลัวผมเอาไปขายเหรอ”
“อย่าพูดมาก ชอบให้อารมณ์เสียหรือไง”
เขาหน้าตึงขึ้น
เลยเข้าห้องน้ำหนีซะเลย พอถอดกางเกงถึงเจอโทรศัพท์ แอบเช็คข่าวสักหน่อยดีกว่า
ว่าแล้วไง ภาพผมถูกสวมแหวนแท็กมาจากเขา ทั้งเฟซทั้งไอจี แคปชั่นมีเพียงรูปหัวใจหนึ่งดวง
ไม่โรแมนติกเอาซะเลยตานี่
ตอนนี้โซเชียลเน็ตเวิร์คแทบแตก สายไม่ได้รับอีกเป็นสิบ หนึ่งในนั้นมีพ่อกับแม่ผมด้วย
ท่านต้องไม่ชอบใจมากแน่ๆ
รอให้โทรมาอีกรอบ ค่อยรับแล้วกัน
....................
ช่วงนี้อัพถี่เพราะอาทิตย์หน้าสอบ555
รู้สึกอะดรีนาลีนพลุ่งพล่าน อยากทำทุกอย่างพร้อมกัน
มีข่าวดี(?) แจ้งด้วยค่ะ
ข้าพเจ้าอัพนิยายเรื่องใหม่ นามว่า
คนนิสัยเสีย แนวดราม่า เคะพิการ(?) เมะขี้ตื๊อ
ไม่เรียงตามไทม์ไลน์ (ใครเคยดูเรื่อง500days of summer ก็ประมาณนั้น)