:undecided:เข้าใจค่ะเจ๊สอง จืดจะพยามตัดให้ขาดดังชั่บ ๆ ๆ
:
:จืดอยากถามว่า ทำไมถึงไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องเศร้า ๆ กันหรอ เราว่ามันจี๊ดใจดีนะ หุหุ (แอบน้ำตาไหลพราก ๆ บีบหัวใจดีแท้
)
ตอนที่ 42 พอร้องไห้เสร็จแล้ว ฉันก็เดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ ชำระล้างความสกปรกของตัวเองให้มันไหลออกไปให้หมด พออาบเสร็จแล้ว ก็เดินออกมาโทรศัพท์หานังอั้มชวนมันกลับบ้านต่างจังหวัดกัน นังอั้มก็เห็นด้วย เพราะมันก็คิดถึงเพื่อนสาวเหมือนกัน
สักพักอาร์ทก็โทรมาหาฉัน แต่ฉันตัดสินใจไม่รับสายของเขา ฉันปิดเครื่องหนี ตอนนี้ไม่มีแม้แต่อารมณ์จะคุยกับใครแล้ว ไม่นานนักเบสก็เดินขึ้นมาข้างบน คงจะไปส่งยัยนิดที่ปากซอยมาแล้วนั่นแหละ
เบสเดินมานั่งตรงโต๊ะอ่านหนังสือ แล้วก็นั่งมองหน้าฉันไม่วางตาเลยทีเดียว เบสทำกับว่า ฉันไปทำอะไรผิดมายังงั้นแหละ (ซึ่งมันก็จริงถ้าเขาจะคิดแบบนั้น ก็ฉันมันเลวนี่นา)
“ไปไหนมาเหรอ เราไปหาที่คณะมา เห็นเพื่อนบอกว่ามีนัดนี่” ฉันคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเบสจะไปหาที่คณะ แล้วนี่ใครเป็นคนบอกเบสไปนะ
“กับอาร์ทน่ะ” ฉันไม่รู้จะต้องโกหกไปทำไม ก็เลยพูดไปตามตรง
“นึกเอาไว้อยู่แล้วล่ะ ทำไม มีเราคนเดียวมันยังไม่พอเหรอไง” ฉันนั่งก้มหน้า พูดอะไรไม่ออก
“นี่ถ้านิดไม่มาบอกเราว่าเค้าถูกอาร์ทมันบอกเลิกแล้ว เราก็คงเป็นไอ้โง่ให้จืดหลอกตลอดไปใช่มั้ย”
“ไม่ เราไม่ได้หลอกเบสเลยนะ....” ฉันพยายามอธิบายเค้า แต่ว่า
“อย่ามาโกหกหน่อยเลย เราไม่เชื่อหรอก” เบสเครียดมากทีเดียว แล้วฉันล่ะ ไม่ยิ่งกว่าเขาเหรอไง
“เราไม่ได้บอกให้เค้าเลิกกันนะ เบสเชื่อเราสิ เราไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะ” แต่ดูเบสคงจะเชื่อยัยนั่นมากกว่ามั้ง เค้าถึงดูฉุนจัดขนาดนี้
“แล้วนี่ไปกับมันที่ไหนมาล่ะ อย่าโกหกเรานะ”
“เอ่อ ไป... ไปที่ห้องอาร์ทมา” พอพูดไปแล้ว เบสก็โกรธจนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงซะแล้ว
“ทำงี้ได้ไงอ่ะ ใครบอกให้ไปห้องของมันกัน” เบสเดินมาเขย่าตัวฉัน ตอนนั้นฉันกลัวมาก (กลัวว่าจะโดนตบตีมั้ยเนี่ยตู)
“เราขอโทษ ขอโทษจริง ๆ เราไม่รู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้เลย เราขอโทษ” ฉันร้องไห้ออกมา
“อย่ามาบีบน้ำตา ทำสำออยหน่อยเลย” เบสกระแทกฉันลงบนพื้น แล้วเขาก็ไปยืนหายใจหนัก ๆ สักพัก เขาก็พูดสิ่งที่ทำให้ฉันต้องใจหายวูบ
“มีอะไรกับมันรึยัง” ไม่ ฉันไม่อยากให้เค้าถามคำถามนี้เลย เพราะฉันตอบไม่ได้ ฉันขอโทษ
“ไม่ตอบ งั้นก็.....” เบสตาแดงแล้ว ฉันไม่กล้ามองหน้าเขาเลย
“เราอย่าเจอกันสักพักดีกว่า” ฉันนั่งมองพื้น อึ้งไปชั่วขณะ น้ำตารื้นเต็มดวงตา ไม่อยากจะเชื่อที่เขาพูดออกมา ว่ามันจะเป็นเรื่องจริง
“หมายความว่ายังไง” ฉันพูดเหมือนคนไม่เข้าใจที่เบสพูดมา
“เรากลัว กลัวว่าจืดจะกลับไปหาอาร์ท แล้วตอนนั้นเราคงจะทนไม่ได้” เหตุผลแค่นั้นเองน่ะเหรอ ถึงกับบอกให้ฉันไป แค่นั้นเองน่ะเหรอ ฉันเข้าใจอะไรผิดไปรึปล่าว
นี่เหรอความรักของฉัน มันได้แค่นี้เองเหรอ ฉันคงกรรมเยอะล่ะมั้ง พอจะสมหวังก็กลับมีเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแต่ก็ดันมาเกิดขึ้นจนได้ ฉันทำกรรมอะไรไว้หนอถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ไม่รู้จักจบจักสิ้น
ฉันลุกขึ้นไปอย่างเหนื่อยล้า น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหลเลย เดินไปเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดใส่เป้ แล้วก็ของใช้จำเป็นบางอย่าง คืนนี้ฉันคงไม่สามารถอยู่มองหน้าผู้ชายคนนี้ได้แล้ว เค้าเอ่ยปากมาขนาดนี้ ฉันคงไม่หน้าด้านอยู่ต่อไปหรอก
“เก็บของทำไม จะไปไหนน่ะ” จะถามฉันทำไมเหรอ ก็ไล่ฉันแล้วนี่
“........” ฉันยังเก็บต่อไป ไม่สนใจเสียงที่เขาพูดมา
“ฉันถาม ไม่ได้ยินรึไง” มันจะตะคอกทำไม ฉันจะไปอยู่แล้วนะ
“เราอย่าเจอกันตลอดไป คงจะถูกกว่าใช่มั้ย” ฉันพูดทิ้งไว้แค่นั้น แล้วก็เดินหนีมันลงมาข้างล่าง ปล่อยให้เบสยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
ฉันวิ่งออกไปนอกบ้าน ฉันวิ่ง วิ่งไปจนสุดกำลัง แล้วก็ไม่เหลียวมองกลับไปที่นั่นอีกเลย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ฉันจะขอจดจำมันเอาไว้ ความทรงจำที่ดี ๆ กับเบส ฉันจะไม่ลืมมันเลย ขอบคุณที่ช่วยดูแลฉันมาตลอด ขอบคุณจริง ๆ ฮือ ๆ ๆ ๆ
////////////////////////////////
ตอนนั้นฉันเปิดมือถือเพื่อที่จะโทรหานังอั้ม เพราะตอนนี้ฉันไม่เหลือใครแล้วจริง ๆ นังอั้มรับสายงง ๆ มันคงรู้ว่าฉันร้องไห้มาแน่ ๆ เพราะเสียงฉันมันสั่นพร่าไปหมด มันเป็นห่วงฉันมาก ฉันบอกกับมันไปว่าจะไปหามันที่ห้อง มันก็บอกว่าให้นั่งแท๊กซี่มาเลยนะ เด๋วจะช่วยออกค่ารถให้
พอฉันขึ้นรถไปแล้ว เบสก็โทรเข้ามา ฉันไม่ยอมรับสายสักครั้งเดียว จนคนขับรถแท๊กซี่คงจะรำคาญแล้วล่ะมั้ง ช่างประไร โทรได้ก็โทรไป คนใจร้าย ไม่เคยเชื่อใจฉันเลย ฉันยอมมอบใจให้แล้วแท้ ๆ แต่กลับทำกันได้ แบบนี้อย่าได้เจอกันอีกเลย
กว่ารถจะมาถึงหอนังอั้มก็ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ฉันเห็นนังอั้มกับนังจิ๊บยืนโบกมือให้ที่ระเบียง แล้วมันก็หายเข้าไปในห้อง ที่แท้ก็วิ่งลงมารับฉันข้างล่างน่ะเอง พอฉันเห็นมันก็ยิ้มฝืด ๆ ไปให้ มันก็เฉ่งฉันเลย
“ยิ้มแบบนี้ มรึงอย่ายิ้มเลยดีกว่าว่ะ เสียความรู้สึก” อิอั้มกัดฉันซะ
“โดนเค้าทิ้งมาล่ะสิมรึง” อิจิ๊บกัดหนักยิ่งกว่า
“อิดอก มรึงก็พูดไป อิจืดยังไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังเลยนะอินี่”
“ก็นะ ดูจากสถานการณ์แล้ว มันน่าจะใช่นี่ยะ” มันพูดถูกแล้วล่ะ นังอั้มเอ้ย
“เหล้ายังเหลืออยู่มั้ย” ฉันหมายถึงเรดที่เปิดไว้ในผับที่ไปเที่ยวกันบ่อย ๆ น่ะ
“ยังเหลืออยู่ จะไปเหรอมรึง ไหวเร้อ”
“ไหวสิ กรูอยากกินเหล้า พากรูไปที” คนที่คิดพึ่งเหล้า ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องเลยนะ (อย่าเอาอย่างเน้อ)
“เออ มรึง เบสมันโทรมาหามรึงด้วยนะ” อิอั้มเพิ่งจะนึกออกหรือไงกัน
“แล้วมรึงบอกมันไปรึปล่าว”
“ปล่าว กรูบอกว่ามรึงไม่ได้โทรหากรูเลย” หวังว่ามันคงจะเชื่อน่ะนะ
“ช่างแมร่งเหอะ ไปเที่ยวกันดีกว่าพวกมรึง กรูคันละ” ฉันเริ่มกลับมามีนิสัยเหมือนเดิมแล้ว ในเมื่อฉันมันไม่ดี ฉันมันเลว ฉันก็จะเลวให้ดู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++