>>> ต่อ บทที่ 15
ขอโทษค่ะ หมายเรียกที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้
ถุ๊ยยย เวลาอย่างนี้ยังจะมาเล่นมุก! เสี่ยแบตหมดเร้อออ (สำเนียงถิ่นออก)
โอ๊ย ยิ่งติดต่อเสี่ยไม่ได้ เขายิ่งลนลาน วิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมจะออกไปหาเสี่ยถึงที่บริษัทให้ได้ พอออกก็รีบกินข้าวต้มกุ้งที่แม่บ้านเอาไว้ให้ กินแปบๆ กลืน แปบๆ แล้วดื่มน้ำจนเกือบเป็นกรดไหลย้อน แต่พอท้องอิ่ม ปัญญาเขาถึงค่อยบังเกิดว่า...
คนระดับเสี่ยลองหุ้นมีการเปลี่ยนแปลงขนาดนี้ ฝ่ายเลขาหรือไม่ก็คนที่ดูแลเรื่องหุ้นคงติดต่อไปถึงหน้าห้องเสี่ยแล้ว แถมพ่อเสี่ย...ท่านประธานคนก่อนก็ยังอยู่ ถ้ายังไม่ถึงขนาดหลงๆ ลืมๆ เรื่องในบริษัทยังไงต้องรู้อยู่แล้ว ถึงจะวางมือไปแล้วก็เถอะ ดีไม่ดีเสี่ยอาจจะนั่งเฝ้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้วก็ได้ หรือไม่ ต่อให้เสี่ยยังนอนกกกับคุณปุยฝ้าย พ่อของเสี่ยที่อยู่บ้านเดียวกันก็ต้องไปปลุกเสี่ยให้ตื่นมาอยู่ดี แล้วแบบนี้เขาวิ่งไปหาเสี่ยให้เหนื่อยทำไมว้าาา~~~
เฮ้อ~ แต่พอเขาคิดได้เขาก็ได้แต่โล่งอก เขาที่เพิ่งบรรลุถึงแก่นสัจธรรมก็ถอนหายใจมองซากกุ้งที่อยู่ในชามอย่างเศร้าๆ โถ ข้าวต้มกุ้งลูกพ่อ เมื่อกี้พ่อกินไปแบบไม่รู้รส พ่อขอโทษด้วยนะเจ้ากุ้งนะ ไปนอนอืดให้กรดไฮโดรคลอลิก (HCl) ย่อยต่อเอานะ เมื่อกี้พ่อเคี้ยวไม่ทัน ไม่ทันได้ลิ้มรส พ่อขอโทษ
และเพราะเขาใช้ความตื่นเต้นหมดไปกับเรื่องหุ้น ดังนั้นไอ้เรื่องคลับฟรายเดย์ที่อาจจะเกิดขึ้นนี่ถือว่าเป็นเรื่องจิ๊บๆ ไปเลย ลองมาเถอะ เขาแถเอาตัวรอดได้ ถึงจะแถได้แบบน่าเกลียดแต่เขาก็เตรียมทางแถไว้แล้ว หรือถ้าหากแถไม่ได้ อย่างมากที่สุดเขาก็แค่ลาออกจากบริษัท ยังดีที่เสี่ยทำบ้านให้เสร็จแล้ว เพราะงั้นถึงตกงานเขาก็กลับไปอยู่บ้านได้ ค่อยๆ เปิดค่อยๆ บริหารธุรกิจแบบโฮมสเตย์ไป เปลี่ยนสวนผลไม้ลุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ถึงเขาจะไม่มีอัลปากามาเป็นเหยื่อล่อ แต่ลองขายบริการดีๆ (หมายถึงสร้างความพอใจให้กับลูกค้ากับมีบรรยากาศที่ดีเยี่ยม โปรดอย่าคิดลึก) ไม่นานคนก็คงติด แต่ถึงไม่ติดเขาก็ไม่จำเป็นต้องง้อเพราะเขาไม่ได้ติดหนี้(ไม่ได้กู้เงินมาทำธุรกิจ) อาจจะต้องเอาสร้อยไปจำนองบ้างถ้าหนุนไม่ทันจริงๆ แต่ถึงยังไงซักวันเขาก็ต้องหาทางไถ่คืนอยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้สร้อยของเสี่ยนอนเหงาอยู่ในโรงรับจำนำเล่นหรอก
พอคิดได้แบบนี้ เขาก็ปลอดโปร่งขึ้นเยอะ เมื่อวานเขาอาจจะมีเศร้าๆ ไปบ้างเพราะเรื่องมันเยอะ ปุบปับก็ต้องมาเจอคุณปุยฝ้าย แถมถูกจับแบบคาหนังคาเขา เขาเลยตั้งตัวไม่ค่อยติด แต่ตอนนี้เขามีสติดีแล้ว ปล่อยวางแล้ว
เขาหอบหิ้วของฝากที่ซื้อมาหลายถุงไปแจกเพื่อนๆ พี่ๆ ที่บริษัท ไล่แจกไปตั้งแต่ยาม พี่สาวแผนกประชาสัมพันธ์ที่เคยอ้อยไว้ ไปจนถึงแผนก HR แผนกที่สามารถไล่คนออกก็ได้รับคนเข้าก็ได้ ป่วยก็ต้องมาหา หายก็ต้องมากราบ เรียกได้ว่าน่ากลัวยิ่งกว่าเสี่ยที่เป็นเจ้าของบริษัท แถมมาทีไรก็เจอตัวแต่ไม่สามารถตีสนิทได้
พอแจกของคนนอกหมดก็ถึงเวลาเผชิญหน้ากับคนในแผนกต่อบ้าง เรียกว่าถ้าเกิดเหตุการณ์คลับฟรายเดย์เขาต้องเจอเหตุการณ์ในแผนกก่อนเพื่อน เขาเรียกขวัญกำลังใจตัวเอง แล้วสูดลมหายใจดังฮึบๆ เปิดประตูห้องเข้าไปหวังพบมาม่า
แต่พอเดินเข้ามาเท่านั้นแหละ
ทุกอย่างเงียบกริ๊บ...
ตอนนี้แปดโมง แต่ทุกคนของที่อยู่ในห้องนี่ แต่ละคนสภาพเหมือนคนที่วิญญาณออกจากร่างมาก ถ้าหลับไม่พอ ก็คงเมาแฮงค์ ประมาณว่าที่หยุดไปสี่วัน (ส่วนของเขาลาเพิ่มล่วงหน้าสามวันเป็นเจ็ดพอดีเป๊ะ) วิญญาณเลยยังไม่กลับเข้าร่างเลยว่างั้น
เขาไล่แจกของฝากให้รุ่นพี่ตามโต๊ะด้วยความเซ็ง อะไรวะ คนอุตส่าห์อยากกอดมาม่า อยากกอดเผือก ถุงมือเตรียมรับเผือกร้อนก็เตรียมเอาไว้แต่ไม่มีใครเล่นด้วย พอเจอหน้าไอ้ขิมที่กำลังขึ้นอืด (หน้าก็ยังแต่งไม่เสร็จ) เขาก็เลยโยนปลากรอบกับทุเรียนทอดไปให้มันอย่างคนหาเรื่อง ส่วนไอ้รุตเจ้ากรมข่าวกรองเอาทุเรียนทอดไปถุงเดียวพอ โทษฐานทำหน้าที่ม่เต็มหน้าที่ คนเป็นชู้นั่งอยู่นี่ มึงไปประกาศสิวะ กูรอเผือกอยู่เนี่ย!
แต่ก็นั่นแหละ ได้แต่คิดแต่พูดไม่ได้!
เฮอะ ไม่มีเล่นด้วยเขานั่งแกะทุเรียนทอดของฝากของตัวเองกินแทนเองก็ได้ ไม่มีเผือกทอด กินทุเรียกทอดแทนก็ยังดี ถุย ไม่ใช่แล้ว! ไม่มีเผือกให้กินก็ดีแล้ว
แต่ก็เพราะไม่เกิดเหตุการณ์ดราม่า เขาเลยทำงานไปแบบเสียวสันหลังไป พอระเบิดไม่ลง เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ระเบิดลูกนี้ถึงจะทำให้เราเดือดร้อย ตอนนี้เขาเหมือนนั่งอยู่บนปากภูเขาที่พร้อมจะปะทุ พอมีสะเก็ดไฟมาโดนก้นที เขาก็สะดุ้งโหยงที จะเอาชะงักออกก็ไม่ได้ เพราะเสี่ยมัวแต่ยุ่ง คุณปุยฝ้ายเองก็เงียบ เสี่ยได้แต่ติดต่อมาทางไลน์บอกว่าไม่ว่างๆๆๆ จะให้ถามเรื่องคุณปุยฝ้าย ก็กลัวจะเป็นการก้าวก่ายไม่เข้าเรื่อง
แต่พอผ่านวันอังคาร พุธ พฤหัสฯ ศุกร์ ไป เขาก็เริ่มทำใจได้แล้วว่าคงไม่มีมาม่าเกิดขึ้นแน่ๆ แถมตอนนี้ที่แผนกเองก็วุ่นเพราะที่หุ้นบริษัทขึ้น คราวนี้ทุกคนต่างทำตัวเป็นคนมีข่าววงในของตัวเองไม่แพ้ไอ้รุต วิจารณ์ไปกินขนมของฝากไปเรียกว่าสุดยอดมากๆ ปากแต่ละคนมันเยิ้มเตรียมคลอเลสเตอรอลขึ้นแต่ก็ไม่ยอมหยุดกินหยุดพูด ทำเอาเหตุการณ์คลับฟรายเดย์เขาตกกระป๋องไปเลย
ส่วนเขาที่เป็นเจ้าของของฝากก็อุตส่าห์ร่วมแจมไปกับเขาด้วย แย่งขนมกินกับไอ้ขิมจนมันถึงขั้นเอากีบ เอ๊ย ขาถีบ ตอนนี้หัวหน้าแผนกไม่อยู่ ทุกคนเลยกลายเป็นหนูร่าเริง เห็นว่าถูกเรียกไปประชุมร่วมกับผู้ถือหุ้น หัวหน้าในแผนกอื่นก็ถูกเรียกตัวไปหมด เสี่ยคงพยายามจำกัดความเสียหาย ไม่ก็เอาไปอบรมว่าอะไรที่ควรพูดอะไรที่ไม่ควรพูด
เรื่องหุ้นขึ้นลงถือว่าเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากๆ แถมพวกเม่าก็ตกใจง่าย หุ้นเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยก็ใจเสาะเทขายแล้ว
มาถึงตอนนี้หุ้นบริษัทเริ่มกลับมาทรงๆ แต่ยังมีแรงเทขายทำกำไรอยู่เรื่อยๆ พวกคนในบริษัทที่ไม่คิดมากก็เทขายทำกำไรออกมานิดหน่อย เขาที่หมดตัวไปแล้วก็ได้แต่กัดฟันขายออกไปบ้างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตมาก ความจริงเขาก็อยากเทขายเพื่อเอากำไรคืนมาให้หมดเหมือนล่ะนะ แต่ขืนเขาขายหมด ตอนนี้เสี่ยฆ่าเขาตายแน่ๆ คิดขายหุ้นกินตอนที่บริษัทเกิดวิกฤติ คราวนี้ต่อให้เสี่ยโอ๋เขาแค่ไหนก็ไม่เก็บเขาไปทำพันธุ์แล้ว
และถึงหุ้นที่อยู่ในมือเขาจะไม่ได้มีจำนวนที่สูงมาก แต่ถ้าหากทุกคนคิดแบบเขา เอาแต่ขายหุ้นแล้วก็รอช้อนซื้อ เจอแบบนี้ไปหลายคนบริษัทเสี่ยก็ขาดทุนไปหลายบาทแล้ว แถมยังอาจจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกเมื่อไหร่ก็ได้ เขาที่เห็นราคาหุ้นขึ้นๆ ลงๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าขาย... เขาก็รวยแล้ว ติดก็แต่ที่ว่าเขายังมีจรรยาบรรณเหลือให้เสี่ยอยู่นิดๆ เพราะงั้น..เขาเลยแก้ปัญหาด้วยเกาะไอ้ขิมกินซะเลยฐานที่มันขายหุ้นได้เยอะ
จะว่าไปแล้วเขาก็ต้องขอบใจไอ้ขิมมันนะ เพราะมันเลยเขาถึงได้มีไอโฟนใช้ให้เช็คหุ้นได้ง่ายๆ ลองเป็นซัมซุงฮีโร่ เขาคงได้แต่เอาไปปาหัวหมาแตก นี่แหละน้า เขาถึงว่าเชื่อเมียสิแล้วจะเจริญ ถึงไอ้ขิมจะไม่ใช่เมียเขาแต่ก็ถือว่ามันเป็นแม่คนที่สองของเขานี่แหละ แล้วอย่าเอาไปบอกมันนะ เดี๋ยวมันกระทืบหลังหักเอา
ส่วนไอ้รุต...เจ้ากรมข่าวกรองของจริง ตอนนี้มีสภาพโทรมมาก ไม่รู้มันไปหาข่าวกรองไปถึงแหล่งไหน กลับมาแต่ละทีมีสภาพเหมือนถูกดักปล้ำ หัวเหอยุ่งเนคไทหลุดหลุ่ย เขาที่สนิทกับมันพอควรเลยถามไปว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ที่ไหนได้มันเสือกชูนิ้วกลางให้ซะงั้น แล้วมีเหรอที่เขาจะยอม ชูกลับไปให้มันหนึ่งอันถ้วน เขาเลยโดนหัวหน้าแผนกที่เพิ่งกลับมาพอดีเขกหัวไปหนึ่งโป๊ก ส่วนไอ้รุตคนเริ่มเรื่องกลับรอดไปได้เพราะเอามือออกไปแล้ว อะไรวะ หัวหน้าไม่เข้าข้าง!
เขาที่เจอความลำเอียงก็ได้แต่บ่นหงุงหงิงใส่ไอ้รุตไปเรื่อย รอจนมันอารมณ์ดี มันถึงได้ยอมคายข่าวออกมาบ้าง ข่าวส่วนใหญ่ก็ไม่พ้นเรื่องหุ้นกับเรื่องคุณปุยฝ้าย แต่เขาที่กำลังกระดิกหูเตรียมฟังข่าวเต็มที่ ดันถูกหัวหน้าแผนกตะโกนขัดจังหวะก่อนว่า
" คุณพระแพง! ท่านประธานเรียก!"
หา ท่านประธาน.........เรียก?
เรียกทำไมอ่ะ
" ยังจะมาทำหน้างง คุณไปทำอะไรไว้! ท่านสั่งให้เอาเอกสารขึ้นไปด้วย!"
เอาเอกสารไหนขึ้นไปด้วย!?
" เอกสารที่คุณเป็นคนกรอกข้อมูลคราวก่อนไง เอ้า หาเอกสารให้เจอแล้วรีบไปได้แล้ว ท่านรออยู่!"
ท่านรออยู่ด้วย!?
เฮ้ยยยย!! เสี่ยเรียกหาเขาจริงๆ เรอะ! เขานึกว่า เสี่ยอยากมีประสบการณ์ใหม่เรียกเขาไปกินแก้เครียดในที่ทำงาน แต่นี่ถึงกับต้องเอาเอกสารไปด้วย!? แต่เอกสารอันนั่น... เสี่ยเป็นคนแก้เองก่อนส่งกลับมาให้เขานะ! ทำไมเสี่ยไม่ถ่ายตัวสำรองไว้!?
" เอ่อ ผมไม่ไปได้ไหมอ่ะ" รู้สึกเสี่ยวสันหลังแบบแปลกๆ ถึงหน้าตาหัวหน้าแผนกจะดูเครียดๆ ไม่ได้ล้อเล่น แต่เขารู้สึกแปลกจริงๆ นะ แปลกชนิดที่ว่าเป็นสัญชาตญานเอาตัวรอด ไม่อยากซวยอย่าไปห้องคุณท่าน
เขายืนกระต่ายขาเดียว ยังไงๆ ก็ไม่ยอมเข้าห้องคุณท่าน เอ๊ย ไปหาเสี่ย ความวัวยังไม่ทันหาย เสี่ยยังจะเอาความควายเข้ามาแทรก? เรื่องคุณปุยฝ้ายคราวก่อนยังไม่เคลียร์ เสี่ยยังอยากก่อเรื่องเพิ่ม? แต่พอเขาเห็นหน้าหัวแผนกที่ทำหน้าอยากจะงับหัวเขาเต็มที่ เขาก็รีบควานหาเอกสารเจ้าปัญหาเอกสารลวกๆ หรือเอกสารมันจะมีปัญหาจริงๆ วะ แบบนี้... ถ้าเขาไป เขาก็ถูกด่า แทนการถูกกินตับน่ะเซ่!
" หัวหน้า... ผมไม่ไปได้ไหมอ่ะ" ไม่อยากไปเลยอ่า ไม่อยากถูกเสี่ยงับหัวเล่น
" ไปเดี๋ยวนี้!!!" แง๊
" ครับผ๊ม!!"
ฮึกๆๆ พอถูกหัวหน้าแผนกไล่ เขาก็ส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทั่วห้อง ซึ่งทุกคนก็ให้ความช่วยเหลือดีมาก หลบตาเขากันให้พรึบ ทีมีของกินนะ รักเขาอย่างงั้น รักเขาอย่างนี้ แต่พอจะให้ไปหาท่านประธานเป็นเพื่อนหน่อยแต่ละคนนี่ทำเป็น.....
"Held og lykke!" ไอ้รุตตะโกนส่งมาเป็นภาษาเดนิช แต่เขาแปลไม่ออก และถึงมึงจะเป็นคนเดียวที่สบตากู แต่กูไม่ต้องการเว้ย! เขาส่งนิ้วกลางไปให้มันอีกหนึ่งอัน ออกเสียงเอชฺ มาชัดขนาดนี้ กูขอเดาก่อนเลยว่ามึงด่าให้กูไปนรก (Hell) แน่นอน เพราะงั้นเอานิ้วกลางไปอีกรอบ!
" คุณพระแพง!!!"
" ไปเดี๋ยวนี้แล้วครับผ๊ม!"
เชอะ หัวหน้าแผนกไม่เข้าข้าง เขาไปอ้อนเสี่ยให้เข้าข้างก็ได้
ถ้าเสี่ยยังจะยอมให้เขาอ้อนน่ะนะ....
ปล.เรื่องหุ้นนี่เราศึกษามาคร่าวๆ นะคะ ถ้าผิดก็ติงได้
>> มี Hidden Scene ต่อข้างล่างนะคะ พอดีรีไรท์แล้วเนื้อหางอก อัดลงอันเดิมไม่หทดORZ
>>>>> พรุ่งนี้จะมาต่อไหม ถ้าปั่นไม่เสร็จ จะเอาตอนของเสี่ยมาขายเอาหน้ารอดแทนเพราะแต่งจบแล้ว T^T
Hidden Scene II
เรื่องราวบนเตียงของเขากับพระแพง เอาตรงๆ เลยมันก็คือที่สุดแห่งความลามก อย่างตอนวันที่เขาสำเร็จโทษแพงที่ชอบส่งสาวไปเรื่อย ความจริงเขาก็ไม่ได้โกรธแพงหรอก แค่หาเรื่องให้แพงง้อกับตามใจเขาก็เท่านั้น
คืนนั้นเขากับแพงจบกันที่โรงแรมที่หาได้ง่ายๆ ในอโกด้า ความจริงเขาก็อยากเล่นเพลย์แบบอุปกรณ์อยู่หรอก แต่ติดอยู่ตรงที่ว่าแพงไม่เคย แถมเกิดบังคับแพงมากๆ เจอแพงกวางเหลียวหลังมาทีเขาก็หมอบแล้ว ตัวเขากับแพงเอาจริงๆ ก็คือขนาดพอๆ กัน ติดที่เขาล่ำกว่าแพงเล็กน้อย แต่แพงมีกำลังของเด็กหนุ่มเป็นอาวุธ ขืนจับไม่ดีเจอแพงสวนกลับมาทีเดียวเขาก็จอดแล้ว ดีนะที่แพงว่าง่าย คืนนั้นเขาเลยจัดการแพงแบบเบาะๆ ด้วยการเล่นสนุกโดยใช้ถุงยางอนามัยแบบแปลกๆ แทน
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้หรือไม่เคยไปเลือกถุงยางตามเซเว่น เขาจะอธิบายคร่าวๆ ว่าถุงยางจะแบ่งง่ายๆ เป็นแบบเรียบกับแบบมีลูกเล่น แบบเรียบก็คือถุงยางที่คนปกติใช้กันทั่วไป ถ้าดีหน่อยก็จะเป็นแบบบางเฉียบ ใส่ก็เหมือนไม่ได้ใช้ ให้ความรู้สึกและอารมณ์เหมือนแบบยิงสด ส่วนอีกแบบก็คือแบบมีลูกเล่น อันนี้จะมีทั้งแบบขีด แบบปุ่ม แบบพองตรงหัว ฯลฯ เอาเป็นว่าแบบมีลูกเล่นนี่ คนใส่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรหรอกเพราะด้านในส่วนใหญ่เป็นแบบเรียบ ต้องเป็นของที่สั่งมาจากนอกถึงได้แบบด้านในที่มีลูกเล่น
เขาที่เตรียมการมาอย่างดีแล้วก็ได้แต่ลากแพงเข้าไปในโรงแรม จัดการหาข้ออ้างเพื่อที่จะสำเร็จโทษ ตอนที่แพงใช้ปากให้เขาก็รู้สึกดีอยู่หรอก แต่ก็อยากแกล้งแพงมากกว่านี้ สุดท้ายเขาเลยให้แพงเป็นฝ่ายเลือกถุงยางที่เตรียมไว้ ได้มาแบบไหนก็ว่าจะใช้แบบนั้น แพงที่ไม่เคยเห็นยี่ห้อพวกนี้มาก่อนก็ได้แต่มองมาแบบตัดพ้อ ถึงจะไม่รู้จักเพราะไม่มีขายที่ไทยแต่แพงก็รู้ว่ามันต้องมีอะไรในก่อไผ่แน่ๆ เขาที่แกล้งแพงก็ได้แต่ทำหน้านิ่ง ทำเป็นหงุดหงิดให้แพงหงอเล่น จนสุดท้ายแพงก็ยอมอ่อนข้อเลือกมาหนึ่งอัน ก่อนจะฉีกซอง แล้วใส่ให้น้องชายเขา
" เสี่ยยยยยยยยยยยย" เสียงแพงกรีดร้องโหยหวนตอนที่เห็นถุงยาง แต่ไม่ทันแล้วเด็กน้อย เสี่ยพร้อมจะงาบ เพราะฉะนั้นอย่าเล่นตัวให้เจ็บตัวเล่น
คืนนั้นเขากับแพงเล่นกันสนุกมาก (หรืออาจเป็นเขาสนุกแค่คนเดียว) เพราะแพงทั้งตอดทั้งรัด แถมถุงยางอนามัยแบบจุดก็ครูดเข้าไปแบบเน้นๆ จนแพงเสียวซ่าน จากที่ดิ้นๆ อยู่ก็เปลี่ยนมาเป็นยกก้นด้วยความหวาดผวาแทน แล้วไม่ว่าเขาจะถอยเข้าหรือถอนออก แพงก็ตอดรัดเขาแน่นทุกครั้ง แล้วจากที่ปกติแพงจะไม่ค่อยจะส่งเสียงร้อง คราวนี้ไม่รู้ว่าเสียวมากหรือยังไง แพงถึงได้ร้องออกมาเสียงดังมาก ถึงคำส่วนใหญ่จะเป็นคำว่า "อย่า" กับ " พอแล้ว" แต่ยิ่งฟังเขาก็ยิ่งขนลุก ได้แต่สอดใส่เขาไปในตัวแพงไม่ยั้งจนปลดปล่อยออกมาหนึ่งรอบ แพงเองที่ตื่นตัวจนเกือบจะปล่อยแล้วแต่พอเขาไม่ขยับมือให้แพงก็ปล่อยออกมาไม่ได้ ได้แต่ขมิบตอดรัดเขาจนเขาตื่นตัวขึ้นมาอีกหนึ่งรอบ
คืนนั้นกว่าเขาจะยอมปล่อยให้แพงไปได้เขาก็เสร็จไปแล้วสองยก เรียกได้ว่าอดใจไม่ไหวจนต้องไปก่อนเลยทีเดียว ส่วนแพงเองก็อึดมาก ขนาดไม่ได้ปลดปล่อยออกมายังอดทนไม่ให้สลบได้ เป็นเขาน้ำคงทะลักไปถึงคอหอยแล้ว สุดท้ายคืนนั้นเขาเลยเล่นไปแค่สองรอบด้วยความสงสารแพง ที่พอปล่อยออกมาได้ก็ปล่อยยาวออกมาเป็นสายน้ำ ทำเอาเตียงเลอะไปหมด ปกติเขาไม่ชอบเตียงเลอะๆ และเด็กทุกคนก็ต้องใส่ถุงยางด้วย แต่วันนั้นเขาถือว่าเป็นข้อยกเว้น เลยลากแพงลงมาจากเตียงแล้วหนีไปนอนที่โซฟาแทน พอเห็นว่าแพงมีแรงลุกก็ลากไปอาบน้ำแล้วฟัดกันอีกรอบ
ความจริงเขาก็สงสารแพงอยู่หรอกนะ แต่แพงนี่สิทำท่ายั่วอยู่ได้ ไอ้ท่ายืนทำปากงอนๆ เจ่อๆ ปล่อยให้เขาปู้ยี่ปู้ยำนี่ถือว่าที่สุดมากๆ ถึงแพงจะไม่ค่อยตอบสนองแต่ส่วนล่างก็ยังตอดเขาอยู่ไม่เลิก เพราะแบบนี้ละมั้งเขาถึงชอบเล่นสามรอบกับแพงทุกครั้ง ในครั้งสุดท้ายที่แพงจะสลบอยู่ร่อมร่อแพงจะว่าง่ายมากๆ เขาอยากได้ยินเสียงร้องแพงก็ร้อง อยากให้แพงแอ่นก้นขึ้นแพงก็แอ่นให้ แถมเสียงแพงก็ยัง... เอาเป็นว่าเสียงแพงทุ้มต่ำและเซ็กซี่มากๆ มันไม่เหมือนเสียงแกล้งร้องแบบที่พวกชำนาญเขากรีดร้องกัน เสียงแพงจะต่ำและแหบพร่าเอามากๆ ยิ่งรวมกับท่าทางของแพงที่เหมือนยอมสยบอยู่ใต้ร่าง เขายิ่งตื่นตัวจนสามารถเสร็จได้โดยที่แพงไม่ต้องขยับมาก
อืมม คงเพราะแบบนี้ด้วยละมั้งเขาถึงติดแพงมากกว่าเด็กคนอื่น เพราะถ้าเป็นเด็กคนอื่นพอเป็นงานหน่อยก็ทำท่าแสแสร้งแล้ว ประมาณว่าไม่ได้เสียวจริงแต่ก็ยังส่งเสียงร้องออกมาให้เคืองหูเล่น เพราะแบบนั้นแหละเขาถึงไม่เคยกอดเด็กเกินสามสี่เดือนเลยซักครั้ง มีแต่แพงนี่แหละที่เขาอยากต่อสัญญาเพิ่ม แต่ก็นะ ตอนนั้นแพงต้องฝึกงานเขาเลยไม่อยากขัดขวางอนาคตเด็กมาก เลยได้แต่ตัดใจปล่อยแพงไปดื้อๆ
แต่ธนิตนี่สิ... เอาเป็นว่าเรื่องนี้รู้กันแค่เรานะ ธนิตน่ะหมายมั่นปั้นมือให้แพงเป็นเด็กมือหนึ่งให้ได้ เพราะแพงน่ะท่าทางใสซื่อ และถึงจะผ่านมือผู้ชายมาแล้วแพงยังมีสีหน้าให้อยากปราบพยศ เรียกได้ว่าเหมาะกับเสี่ยสายหื่นที่ชอบเล่นเอสเอ็มมากๆ เขาที่รู้ข่าวมาก็ไม่อยากให้เด็กดีอย่างแพงต้องมาเจอกับเสี่ยแบบนี้ เลยได้แต่ไถ่ตัวแพงออกมาด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าราคาสร้อยเสียอีก
เฮ้อ เรื่องโลกเบื้องหลังของวงการนี้น่ะนะ ลองเข้ามาแล้วใช่ว่าจะออกกันได้ง่ายๆ ยิ่งกับแพงที่ทำท่าจะขายได้อีกหลายต่อ ธนิตยิ่งไม่ยอมปล่อยให้แพงหลุดมือแน่ๆ คงกะขูดรีดจนแพงขายไม่ได้นั่นแหละถึงจะเลิก แล้วเขาที่อยู่ในวงการนี้มานานก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยเห็นเด็กที่ขายตัวต่อไม่ได้ ถ้าไม่ถูกใช้งานจนโทรม ก็ต้องติดยาเพราะชีวิตที่ผ่านมามันโหดร้ายมาก ส่วนโหดร้ายแค่ไหนเอาเป็นว่าเขาไม่อยากพูด
เพราะงั้นเรื่องของแพง เขาที่ติดใจพอดูเลยยอมจ่ายค่าไถตัวแพงเพิ่ม โดยมีข้อแม้ที่ธนิตไม่ยอมต่อรองอยู่เพียงข้อเดียวว่า "ถ้าแพงต้องการ" เขาก็ไม่สามารถขัดขว้างไม่ให้แพงขายตัวได้ ซึ่งพอได้ยินแบบนี้เขาก็รู้สึกว่าเป็นข้อตกลงที่รับได้ เขาช่วยแพงได้แค่นี้ แต่ถ้าแพงอยากขายตัวต่อใครจะไปช่วยแพงได้ แล้วถ้าหากแพงขายตัว ต่อไป... ไม่ว่าแพงน่าสงสารแค่ไหนเขาก็คงกลับมาช่วยแพงไม่ได้ แพงเลือกทางเดินแล้วและเลือกที่จะขายตัว เขาที่เป็นเสี่ยก็ได้แต่มองดูและนึกดูถูกเท่านั้นที่แพงขายตัวอีกรอบ
เอาจริงๆนะ เขาเองก็ไม่ใช่คนโลกสวยถึงขนาดที่ว่ามองอาชีพขายตัวเป็นอาชีพทางเลือก อาชีพอื่นที่ดีๆ มีอีกเยอะ ถ้าแพงอยากรักสบายก็เท่ากับเป็นขยะสังคมแล้ว พูดแบบนี้อาจจะเกินไปหน่อยเพราะเขาก็เป็นคนซื้อบริการทางเพศ แต่เขาก็คิดแบบนี้จริงๆ และเขาก็ดีใจที่สุดท้ายแพงเลือกทางเดินที่ถูกต้อง
ถึงตอนนี้แพงจะอยู่กับเขาในฐานะชู้ แต่กับเขาแพงถือสำคัญกว่าคำว่าชู้มาก อาจจะไม่ถึงขั้นรัก แต่เขาก็ค่อนข้างจะเอ็นดู ดังนั้นช่วงหลังมานี่แพงขออะไรเขาก็ให้ (ถึงจะไม่ค่อยยอมขอเถอะ ไม่รู้ทำไม) พอแพงงอนหน่อยเขาก็ง้อ ลองกับเด็กคนอื่นเขาคงไม่ตามใจขนาดนี้
เฮ้อ พูดมากชักเรื่องเยอะ เอาเป็นว่าเรื่องธนิตก็อย่าไปบอกแพงก็แล้วกัน เขาอยากให้แพงสดใสและมองโลกในแง่ดีต่อไปแบบนี้ เป็นคนง่ายๆ ที่เขาสามารถอยู่ด้วยได้ อยู่ในระยะห่างที่พอใจและไม่ล้ำเส้น ส่วนเรื่องปุยฝ้าย... เขาไม่บอกดีกว่า ปล่อยให้รอลุ้น ตอนนี้เขาเตรียมปลอบใจแพงดีกว่า เพราะไม่รู้ตื่นมาแพงจะงอนอะไรอีกบ้าง ที่แน่ๆ ก็คงเป็นเรื่องถุงยางที่ต่อไปคงไม่ใช้แบบแปลกๆ แล้ว แต่เอาเถอะ เขายังมีของเล่นให้เล่นกับแพงอีกเยอะ ไม่เอาถุงยางก็ไม่เป็นไร โซ่ แส้ กุญแจมือ กับของเล่นเขายังมีอีกเพียบ แต่คราวหน้าเอาแบบเบาะๆ อย่างพวกเนคไทดีกว่า ประมาณว่าเสื้อเชิ้ตกับเนคไทเส้นเดียว...
โอย แค่คิดก็ของขึ้นแต่ต้องสงบใจไว้ เพราะขืนออกอาการมากแพงได้หนีเตลิดแน่ๆ ช่วงนี้แพงยิ่งดุๆ อยู่ด้วย ขืนปล่อยให้แพงเป็นไก่ตื่นเขาได้อดกินไก่พอดี สมภารไม่ควรกินไก่วัด แต่เขาเป็นท่านประธานบริษัทย่อมกินเด็กเลี้ยงได้ เพราะงั้นตอนนี้เอาใจแพงไปก่อน คราวหน้าไว้หาจังหวะเหมาะๆ ได้ค่อยจัดหนักๆแพงอีกรอบ เขาไม่กลัวแพงโกรธอยู่แล้ว เพราะแพงก็เหมือนลูกไก่ในกำมือ เอิ่ม ถึงแพงจะเป็นลูกไก่ที่ตัวใหญ่ไปหน่อยก็เถอะ แต่แพงก็ว่าง่าย ขอแค่เขาทำหน้านิ่งหน่อยแพงก็ยอมอ่อนข้อแล้ว
อ่อ แล้วก็อย่ามาแอบด่าเขาลับหลังว่าหาเขาเป็นเสี่ยหื่นนะ เขาแค่ทำไปตามอารมณ์ที่ตื่นตัวบ่อยเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆๆๆๆ
>>> พรุ่งนี้ไม่มาอีกแล้ว ปั่นไม่ทัน T^T
>>>> ไม่ได้ตรวจคำผิดอีกแล้ว ฝากตรวจด้วยนะคะ >< (ใช้อ่านคนอ่าน 5555)