กาลเวลาที่ผ่านพ้น...
คนที่มีชีวิตอยู่ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป เหลือแต่เพียงความทรงจำของคนที่เคยมีชีวิต จดจำอยู่ในห้วงความรู้สึกที่โหยหา แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนาน ทุกชีวิตมีดับและมีสลาย มีพบพานก็ต้องมีวันลาจาก
งานเลี้ยงย่อมมีวันต้องเลิกรา
แต่ความรักและความอาลัยก็ยังคงอยู่
ตราบจนชีวิตจะหาไม่
“โอ๊ย!! เจ็บ...เจ็บ”
ผู้หญิงคนหนึ่งร่ำร้องด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว ขาทั้งสองข้างสั่นระริกยามที่เด็กในท้องกำลังจะลืมตาออกมาสู่โลกภายนอก
“หายใจลึกๆ นะครับ ดีมากครับ”
“ฮึก ฮือ ฮือ ฉันเจ็บ”
“อีกนิดครับ อีกนิด”
หญิงสาวกำมือแน่น เธอพยายามที่จะหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ แต่มันก็ยากเย็นเหลือเกิน ดวงตาของเธอปรือตามองไปบนเพดานด้วยหยาดน้ำตา
“กรี๊ด!!!”
สิ้นเสียงร้องสุดท้าย
อุแว๊...อุแว๊...
เด็กน้อยก็ลืมตาขึ้นมาดูโลก
หญิงสาวมองลูกน้อยที่อยู่บนมือของพยาบาล เธอยิ้มต้อนรับให้กับสมาชิกใหม่ของครอบครัว...นานเหลือเกินกว่าจะเห็นหน้าลูกคนนี้ ดีจริงที่ปลอดภัย
“เจน...เจนลูกแม่”
นั่นคือเสียงสุดท้ายที่เธอเอ่ยพร้อมกับสติที่เลือนราง
จากเด็กทารกในวันนั้น เริ่มกลายเป็นเด็กน้อยเมื่ออายุเข้าปีที่ห้า ใบหน้าหวานที่ได้แม่มาเต็มๆ เผยยิ้มกว้างยามที่เรียกหามารดาตน เสียงหัวเราะที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาทำให้ใครที่เห็นต่างก็อดที่จะชื่นชมในความน่ารักนี้ไม่ได้
จากเด็กชายวัยห้าขวบก็แปรเปลี่ยนเป็นหกขวบและเจ็ดขวบตามช่วงปี แต่ยิ่งโตก็ยิ่งมีสิ่งหนึ่งที่ผู้เป็นแม่รู้สึกแปลกใจ และมันเป็นความลับที่รู้กันเพียงแค่สองคน
เด็กคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น
“แม่จ๋า หนูฝันอีกแล้ว”
เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ย ใบหน้าหวานเอียงคอยามที่นึกถึงความฝันที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“ฝันเหมือนเดิมเหรอจ๊ะ”
“ฮะ”
เด็กน้อยพยักหน้ารับ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวโตขึ้นความฝันก็หาย”
มันเป็นคำปลอบประโลมทุกครั้งที่ผู้เป็นแม่มักจะเอ่ยกับลูกชายตัวน้อย โลกหลังความตาย วิญญาณ หรือจะเรื่องเหนือธรรมชาติ เธอไม่เคยลบหลู่ แต่ก็หวังว่าสักวันมันจะหายไปจากลูกชายตัวน้อย เพราะตอนนี้ลูกเธอยังคงเป็นเด็ก บางทีเพราะความบริสุทธิ์นั้นถึงทำให้เกิดเรื่องเหลือเชื่อขึ้นมาก็ได้
“ฮะ” เด็กน้อยโผเข้ากอดผู้เป็นมารดา
เพราะว่ายังเป็นเด็กจึงได้เชื่อในคำสอน เด็กน้อยหลับตานิ่งสนิท ความฝันเมื่อคืนยังคงตามหลอกหลอนอยู่ไม่ห่าง
เสียงเรียก
และน้ำตาของใครอีกคน
เด็กน้อยยังไม่เข้าใจ ความรู้สึกที่เศร้าหมองกลับทำให้คนตัวเล็กน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้สาเหตุ จนคนเป็นแม่ต้องเช็ดน้ำตาจ้าละหวั่น...ด้วยความสงสารลูก เธอจึงหยิบสร้อยเส้นหนึ่งที่มักจะคล้องคออยู่เป็นประจำมาสวมให้กับลูกน้อยตรงหน้า มันเป็นสมบัติทางใจที่ไม่มีราคา เป็นมรดกตกทอดตั้งแต่สมัยปู่ทวดที่ได้ให้ไว้ เพียงเพื่อรอพบเจ้าของที่แท้จริง บางทีสิ่งนี้มันอาจช่วยลูกของเธอได้
“แม่ฮะ” เด็กน้อยนึกฉงน มองสร้อยที่อยู่ในมือ
“เก็บไว้นะลูก มันเป็นตัวแทนของแม่ ถ้าลูกฝันอีกเมื่อไหร่ก็กำสร้อยเส้นนี้ไว้ เข้าใจนะ”
“ฮะ” เด็กน้อยรับปากรับคำ
ดวงตากวางมองคนที่อยู่ในรูปภาพ ผู้ชายคนนี้ช่างหล่อเหลา เพียงแค่แรกเห็นกลับทำให้รอยยิ้มของเด็กชายวัยเจ็ดขวบยิ้มกว้าง ความรู้สึกหนึ่งมันกำลังบอกว่า...คิดถึง
อยากเจอ...อยากเจอเหลือเกิน...
ลอนดอน
ปัจจุบัน
ณ โบสถ์แห่งหนึ่ง
ดวงตาวาวหลุบตาลงพร้อมกับมือที่ประสานกันเพื่ออธิฐานต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้า ร่างน้อยผมสีดำสนิทอยู่ท่ามกลางแสงสว่างของพระผู้เป็นเจ้า เจ้าตัวใส่เสื้อสีดำดูเข้ากับเส้นผมที่ดำสนิท ใบหน้าหวานที่ดูอ่อนเยาว์กับผิดที่ขาวผุดผ่องท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า รอยยิ้มบางที่เกิดขึ้นเมื่อได้อธิฐานสิ่งที่อยู่ในใจ
“เจน”
“ครับ” ร่างน้อยเอ่ยรับพลางลุกขึ้นหันมองคนที่เดินมาจากทางด้านหลัง
“ไปเถอะ ได้เวลาแล้ว”
“ครับ”
‘เจน เกรย์’ ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดพยักหน้ารับคำก่อนที่จะเดินตามหลังผู้มาตาม...แต่สองมือยังคงกำสร้อยคอที่หวงแหนไว้แน่น
เสียงฝีเท้าเบาเดินพร้อมกับจังหวะการเต้นของหัวใจ นึกแปลกใจนักที่วันนี้หัวใจมันเบาหวิวอย่างน่าประหลาด เหมือนมีบางอย่างมันกำลังฉุดรั้งเอาไว้ทำให้ร่างน้อยโหยหา ร่ำร้อง และอยากที่จะอยู่ที่นี่...เพื่อรอคอย...ใครบางคน
“เจน?” บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยทักเมื่อเห็นคุณหนูตรงหน้าแปลกไป คนตัวน้อยเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกันตัว
“เอ่อ ไม่มีอะไรครับ” ยิ้มบาง “ไปกันเถอะ” เจนส่ายหน้าให้กับความเหม่อของตัวเอง สองขาที่หยุดนิ่งพร้อมก้าวเดินต่อไปข้างหน้า...ร่างน้อยเดินจนใกล้จะถึงกับประตูโบสถ์ เดินสวนผู้คนมากมายที่หลังไหลเข้ามาเพื่อกราบไหว้และขอพรพระผู้เป็นเจ้า
“เอ็ดเวิร์ด”
เสียงหนึ่งเอ่ยดังมาจากทางด้านหลัง...สองขาหยุดนิ่งอีกครั้ง ดวงตากวางหันไปมองยังชื่อที่ได้ยินโดยบังเอิญ
ชายคนหนึ่ง...เขาสวมเสื้อสีน้ำตาลอ่อน กำลังหันหลังให้ ร่างน้อยมองชายแปลกหน้าที่ชื่อคุ้นหู ผู้ชายคนนั้นหันด้านข้างให้ ทำให้เห็นหน้าไม่ค่อยชัด ชายหนุ่มกำลังยกยิ้มให้กับใครอีกคน สองสายตาประสานกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่เจนกำลังก้าวออกจากประตู
ใจดวงน้อยเต้นระรัว
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ความบังเอิญ...
โชคชะตา...
หรือพรหมลิขิต...
END
TAKE
จบเนอะ...จบจริงๆ
ขอให้เอ็ดเวิร์ดกับอาร์เจนมีความสุขในชาติภพใหม่ ขอให้เจอกันเร็วๆ
และสุดท้ายขอบคุณที่เข้ามาอ่านและชอบกันนะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เทคเขียนแนวย้อนยุค อาจไม่ดีมากนักแต่ก็ตั้งใจเขียนเต็มที่ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ท้ายและท้ายสุด อยากบอกอะไรกับนิยายเรื่องนี้ไหม เทคอยากอ่าน อิอิ ><