✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✿ Wonder Lover อลวลวุ่นรัก...กลับชาติมาเกิด ✿ [ภาค1+2] 14/09/59  (อ่าน 245746 ครั้ง)

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
คู่นี้ฟินมากกกก

จะรอดูว่าหมอทศจะใช้ไม้ไหนกับอลัน. อิอิ :hao3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 12 กุหลาบแดงข้างกาย

   “ทำไมพ่อทศไม่มากับเราด้วยล่ะฮะ อลันคิดถึงพ่อทศ”เด็กน้อยผิวขาวแก้มใสเอียงคอถาม

   นานนับอาทิตย์แล้วที่พาลูกชายหนีคนคนนั้นมาอีกครั้ง เหมือนกันแต่แตกต่างกันที่ความรู้สึก ความทรงจำที่เกิดขึ้นในช่วง
สั้นๆยังคงค้างคา รอยจูบในคืนสุดท้ายที่เคียงข้างกายยังคงตราตรึงอยู่ข้างในใจ

   “เขาเขาติดธุระ ไม่ว่างมากับเรา”

   ทั้งหมดที่ทำลงไปเกิดขึ้นจากความสับสน อีกหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิดมาในร่างกายของเขา สิ่งที่เชื่อมต่อความสัมพันธ์ของ
เขาให้ต่อติดกับทศกัณฐ์กำลังฝังอยู่ภายในร่างกายของเขาอีกครั้ง

   อเลนยังคงไม่ยอมรับตัวเอง และแน่นอนว่าทำใจให้ยอมรับในการมีตัวตนของทศกัณฐ์ไม่ได้ง่ายๆ

   “แต่อลันคิดถึงพ่อทศ เรากลับไปหาพ่อทศไม่ได้เหรอฮะ”

   “ไม่ได้หรอก อลันไม่คิดถึงคุณตากับคุณยายเหรอครับ”

   “คิดถึงฮะ แต่อลันก็คิดถึงพ่อทศ เราบอกคุณตากับคุณยายไม่ได้เหรอฮะว่าอลันมีพ่อแล้ว”อลันมุ่ยหน้า ถามออกมาอย่างไร้
เดียงสา

      “ไม่ได้ครับ อลันห้ามบอกใครเด็ดขาด”เพราะทศกัณฐ์เป็นยักษ์ ไม่มีทางที่ครอบครัวของเขาจะยอมรับทศกัณฐ์ได้
แน่นอน

   “ฮะ อลันไม่บอกก็ได้”ตอบเสียงอ่อย “แต่อลันบอกได้ไหมฮะว่าอลันกำลังมีน้อง”

   คำตอบของอลันทำให้อเลนชะงัก ปากกาในมือร่วงหล่นลงไปบนสมุดโน้ต ดวงตาคมสวยจ้องมองลูกชายทันทีด้วยความ
ประหลาดใจ

   “ใครเป็นคนบอกอลัน”

   “ก็อลันเห็นน้องในนี้”มือป้อมเล็กแตะลงบนหน้าท้องของอเลนอย่างเบามือ แก้มป่องใสยิ้มจนแก้มเกือบจะปริแตก

   “อลันอย่างพึ่งบอกใครนะครับ เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ตกลงไหม”

   “ตกลงฮะ เอาไว้เซอไพรส์คุณตาคุณยาย”เกี่ยวก้อยสัญญากันเสร็จสรรพ

   หัวใจที่อยู่ในอกของอเลนกำลังสั่นถึงแม้จะนานนับอาทิตย์แต่ชื่อของทศกัณฐ์ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ราวกับว่ากลิ่นกายเจือ
กลิ่นบุหรี่ของอีกฝ่ายตามหลอกหลอนเขาไปทุกที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายแทบตลอดเวลา แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ยังคง
หลงเหลืออยู่ เขาคิดเพียงแค่นั้น



   เช้าวันถัดมา ทั้งที่เป็นหน้าหนาวแต่อากาศภายนอกทำให้อเลนประหลาดใจ แสดงแดดอุ่นส่องผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง
ที่เปิดทิ้งเอาไว้ เรียวคิ้วบางขมวดมุ่น หรือว่าเขาจะคิดไปเองว่าเมื่อคืนเขาได้ปิดหน้าต่างทุกบานในห้องแล้ว

   พลันกายโปร่งบางกำลังจะลุกขึ้นมือก็สัมผัสถึงอะไรบางอย่างทำให้สะดุ้งเล็กน้องก่อนจะหยิบยกมันขึ้นมาดูอย่างเบามือ

   ดอกกุหลาบไร้หนามสีแดงสด กลีบของมันราวกับสีของเลือดก็ไม่ปาน ทว่ามันมานอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของเขาได้ยังไง
กัน

   ถามคนในบ้านไม่มีใครรู้ที่มาของดอกไม้สีแดงสดแม้สักคนเดียว ความสงสัยยังไม่จบเพียงแค่นั้น ในเมื่อเช้าวันแล้ววันเล่า
ตื่นมาเขาจะพบกับดอกกุหลาบสีแดงเสมือนเลือดวางอยู่บนเตียงข้างกายทุกวัน

   เกือบเดือนจนดอกไม้ดอกแรกเริ่มแห้งเหี่ยว อเลนจ้องมองดอกกุหลาบดอกแรกในแจกันที่นำดอกไม้ใส่เอาไว้ กลีบของมัน
ค่อยๆร่วงโรยลงมา และเขาก็จ้องมองมันเช่นนี้ทุกวัน จนกระทั่งกลีบสุดท้ายร่วงหล่นลงสู่พื้น

   “อเลน ตื่นรึยังลูก มีคนมาหาแน่ะ”เสียงของพ่อปลุกให้ละสายตาจากกลีบกุหลาบสีน้ำตาลอมแดงบนพื้น

   “ใครเหรอครับ”ถามพลางเดินไปเปิดประตู สบตากับผู้เป็นพ่อแล้วส่งยิ้มให้ตามปกติ

   “พ่ออยากให้ลงไปดูเองมากกว่า”

   “เดี๋ยวผมลงไปครับ”

   “เร็วเข้าล่ะ ก่อนที่แม่เขาจะเป็นอะไรไปซะก่อน”คำที่พ่อทิ้งท้ายทำให้เลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าคงจะเป็นเพื่อนหรือญาติ
พี่น้อง ใครสักคนที่มาที่บ้านตามปกติ

   ทว่าเพียงก้าวเดียวที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องรับแขก ดวงตาคู่สวยก็เบิกกว้าง ร่างสูงของอมนุษย์ที่คุ้นเคยทำให้หัวใจดวง
เล็กในอกหล่นวูบ นัยน์ตาสั่นระริกกับภาพที่ได้เห็น ถึงแม้จะตอกย้ำว่าเบื้องหน้านั้นคือภาพลวงตา แต่ยิ่งเพ่งมองภาพกลับยิ่งพล่า
เบลอ

   ทศกัณฐ์อยู่เบื้องหน้า กำลังจ้องมองมาที่เขาพร้อมกับรอยยิ้มคุ้นเคย มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? อเลนกวาดสายตาเมื่อทศ
กัณฐ์นั้นนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นพรมหนา จ้องมองพานดอกไม้ธูปเทียนเบื้องหน้าของทศกัณฐ์

   “มานั่งก่อนสิ ส่วนพ่อหนุ่มก็ลุกขึ้นได้แล้วล่ะ”

   “ขอบคุณครับ”

   “มานี่สิอเลน”เมื่อลูกชายนิ่งอึ้งราวกับสติหลุด ผู้เป็นพ่อจึงได้เรียกให้มานั่งข้างกายมารดาผู้มีเชื้อสายต่างชาติ

   “แล้วนึกยังไงถึงมารับผิดเอาตอนนี้เสียล่ะ”

   “ที่ผ่านมาผมอยากที่จะดูแลอเลนกับลูกมาตลอด ติดแค่ผมหาพวกเขาไม่เจอ”ยักษ์หนุ่มตอบด้วยความสัจจริง ถึงแม้กลิ่น
ของยักษ์นั้นจะรับรู้ได้ไม่อยาก หากแต่การอยู่คนละผืนแผ่นดินทำให้ยากต่อการติดตามลูกเมียได้ง่ายๆ

   “แล้วฉันจะเชื่อใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ทำร้ายลูกของเรา”หญิงชาวต่างชาติถามด้วยสำเนียงชัดถ้อยชัดคำราวกับเป็นเจ้าของ
ภาษา ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องยักษ์หนุ่มแน่นิ่งราวคล้ายพยายามจะอ่านความคิดเสียให้ได้

   “ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ ไม่มีวันที่ผมจะทำร้ายเขากับลูกของเรา”

   “งั้นก็ดี ดอกธูปเทียนนี่พวกเราจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน”

   “พ่อ!!”จากที่นั่งเงียบอยู่นานแย้งทันควัน เด็กหนุ่มลูกครึ่งเกร็งตัวเมื่อดวงตาของยักษากำลังจ้องมองมาที่เขา พลันหัวใจก็
เต้นระรัว

   “เด็กที่อยู่ในท้องนั่น คิดว่าเมื่อไรจะบอกแม่กับพ่อล่ะ”

   “ระ เรื่องนั้น”

   “พ่อกับแม่จะรับเอาไว้แค่คำขอขมาและยกโทษในสิ่งที่เขาได้สำนึกผิด พร้อมที่จะให้โอกาสกับคนที่ต้องการ แต่ลูกจะให้
หรือไม่นั้นมันขึ้นอยู่กับลูก แต่ยังไงก็ต้องดูอลันกับลูกในท้องอีกคนที่กำลังจะเกิดมา”

   “ครับ”

   ตอบเพียงแค่นั้นก็ตวัดสายตาไปมองทศกัณฐ์

   “พ่อกับแม่ต้องไปธุระข้างนอก อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เป็นแขก ดูแลเขาให้ดี  ส่วนอลันเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วพ่อกับแม่จะรับมา
จากบ้านพี่อลิสเขาให้เอง”

   สุดท้ายทั้งที่ไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่ก็จำยอมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เสี้ยววินาทีที่ถูกปล่อยให้อยู่กันตามลำพัง

   ความร้ายกาจของยักษ์หนุ่มมากหน้าก็ปรากฏ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์คลี่ออกมา ดวงตาสีเหลืองอำพันทอประกายวาววับ

   “นายหนีฉันสองรอบแล้วนะ รู้ใช่ไหมว่านายตัดโอกาสของตัวนายเอง”

   เขาแค่กระพริบตาแค่นั้น อเลนสาบานกับตัวเอง เพียงชั่ววูบร่างกายสูงใหญ่ก็อยู่เบื้องหน้า ร่างของเขาถูกดันจนแผ่นหลัง
บางชิดพนักพิงโซฟา

   “จะทำอะ อื้อ”

   ริมฝีปากร้อนผ่าวกดจูบลงทัณฑ์ลงมาอย่างโหยหา หัวใจที่เก็บซ่อนเอาไว้ข้างในอกเต้นระรัว รสจูบที่คุ้นเคยปลุกกระตุ้นให้
ความคิดสับสนจนแทบบ้า

   เนิ่นนานจนรอยจูบนั้นตราตรึง กลิ่นบุหรี่คุ้นเคยคุกกรุ่นอยู่ในโพลงปากชัดเจนจนคิดว่าต่อให้ทำความสะอาดสักแค่ไหนก็คง
ไม่หมดไป

   “นายทำให้ฉันเกือบบ้า”

   คุณหมอยักษ์บอกเสียงห้วน ปลายนิ้วสากแตะลงที่คางมนดันให้เงยขึ้นมาสบเข้ากับตาคู่สีอำพัน

   “อย่า”

   “ฉันควรจะทำยังไงกับนายดี”จะลงโทษยังไงที่ทำให้ทศกัณฐ์คนนี้คลั่งจนฟาดงวงฟาดงากับความโง่ของตัวเอง

   “ไม่ คุณไม่ต้องทำอะไร แล้วกลับไปซะ”

   “นายคิดว่าฉันถ่อมาถึงที่นี่เพื่อที่จะให้นายไล่รึไง ห่ะ”น้ำเสียงยังคงบ่งบอกถึงความดิบเถื่อนที่มีมานานไม่เคยเสื่อมคลาย

   “ต้องการอะไรกันแน่”

   “ฉันจะจับนายขังเอาไว้เหมือนที่เคยทำก็ได้ แต่รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่ทำ”

   “ผมไม่อยากรู้”ตอบเสียงเครือ เบือนหน้าหนี แต่ก็ถูกปลายนิ้มนั้นบังคับให้หันกลับมามอง

   “แต่นายต้องรู้”

   “ผมบอกว่าผม…ไม่อยากรู้ไงล่ะ เลิกยุ่งและไปจากชีวิตผมกับลูกสักที”

   “ดูเหมือนว่าเวลาที่ฉันให้นานมันจะไม่ได้ช่วยอะไร”

   “ต่อให้สิบปี ยี่สิบปี หรือแม้กระทั่งหมดชาตินี้มันก็ไม่มีทางช่วยอะไร มันไม่มีทางช่วยให้ผมเลิกเกลียดคนที่ทำให้ชีวิตผม
เป็นแบบนี้”

   ทั้งที่ความรักของเขาควรจะได้สมหวังกับคนที่อยู่ในฝันมาตลอด กักขังหัวใจของเขาเอาไว้ให้ไม่มีอิสระ อีกทั้งยังทำให้มัน
สั่นคลอนจนเสียความเป็นตัวตน และคนเดียวที่เขาโทษก็คือทศกัณฐ์

   “แล้วฉันจะมาใหม่”

   รอยจูบประทับลงบนหน้าผากมน อเลนหลับตาลงเมื่อริมฝีปากนั้นแนบชิด จะต้องทำอย่างไรในเมื่อยิ่งใกล้ชิดหัวใจดวงนี้
มันยิ่งควบคุมไม่อยู่

   ถึงแม้สัมผัสของจูบนั้นจะจางลง แต่รอยจูบยังคงตราตรึง เพียงลืมตายักษ์หนุ่มเบื้องหน้าก็อันตรธานหายไป ทิ้งเอาไว้เพียง
กลิ่นกายหอมบุหรี่กับเบื้องหน้าที่ว่างเปล่า หยดน้ำตาเพียงหยดเดียวแต่กลับเปี่ยมไปด้วยสิ่งต่างๆมากมายร่วงหล่นลงมา



   เช้าของอีกวัน ทันทีทีตื่นขึ้นมา ดวงตาคู่สวยตวัดมองไปยังข้างกาย เพราะอะไรเขาจึงหวังให้มันเป็นเหมือนกับทุกครั้ง ทุก

ครั้งที่มีดอกไม้สีแดงสดราวกับเลือดวางอยู่ แต่วันนี้กลับว่างเปล่า ความรู้สึกราวกับถูกฉุดให้ร่วงหล่นจากริมผาลงมาสู่หุบเหวลึก

   “แม่อเลนฮะ อลันหิวตื่นแล้ว”เสียงเจื้อยแจ้วทักทายยามเช้าขอองลูกชายดังพร้อมๆกับประตูห้องที่เปิดออก เช่นทุกครั้งที่
ลูกชายมักจะเข้ามาปลุก แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน

   ร่างสูงใหญ่กายกำยำสมบุรุษในชุดลำลองแทรกผ่านประตูเข้ามา ในอ้อมแขนอุ้มอลันเอาไว้ ใบหน้าคมกร้านประดับรอยยิ้ม
เล็กๆที่มุมปากส่งมาให้เขา

   “ไง”

   คำทักทายสั้นๆปลุกให้หลุดจากภวังค์ จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ

   “ทำไมคุณถึงได้…”

   “มันน่าแปลกใจมากนักรึไงที่ฉันจะมาหาลูกเมียของตัวเอง”

   “ใครเป็นเมียคุณกันคุณทศ”

   “ใครก็ตามที่อุ้มท้องลูกของฉัน”

   “หมายถึงใครก็ได้สินะ”ตอบกลับทันทีทันควันโดยไม่ได้ยั้งคิดว่านั่นคือคำประชดประชัน ใบหน้าขาวสะอาดหากไม่มองดูดี
ดีคงจะแยกไม่ออกว่าเป็นหญิงหรือว่าชายเบือนหน้าหนี

   “หึ”ทศกัณฐ์หัวเราะในลำคอ อุ้มลูกเดินเข้าไปหาร่างสูงโปร่งที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงไม่ยอมขยับกาย

   “แม่อเลนฮะ ไม่ดีใจเหรอฮะ”

   “ดีใจเรื่องอะไรกัน”หันมาถามลูกชาย

   “ดีใจที่พ่อทศมาหาเราไงฮะ อลันดีใจมากเลย”หน้ากลมใสซบลงบนอกพ่ออย่างเอาใจ

   “ก็ไม่นี่ ไม่มีอะไรน่าดีใจ”เบือนหน้าหนีดังเดิม

   “จริงเหรอฮะ ทำไมถึงไม่ดีใจล่ะฮะ แม่อเลนเกลียดพ่อทศเหรอฮะ”คราวนี้เด็กน้อยแก้มใสมุ่ยหน้าเงยหน้าขึ้นมาถามทศ
กัณฐ์

   “ไม่รู้สิ พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยแม่คงจะไม่รักพ่อ”ทศกัณฐ์แสร้งตีหน้าเศร้าใส่ลูกชาย

   น้ำเสียงน่าหมั่นไส้นั้นทำให้อเลนหันขวับมามองการแสดงบทบาทย่อมๆของยักษ์เถื่อนที่กำลังหลอกล่อให้ลูกชายเบ้ปาก
ทำท่าจะร้องไห้เพราะแม่ไม่รักพ่อ

   นั่นทำให้อเลนกระวนกระวาย ดวงตาคู่สวยกรอกไปมา

   “แม่อเลนไม่รักพ่อทศ”

   “มะ มันไม่ใช่อย่างนั้น”รีบแก้ต่างพร้อมกับเหลือกตาขึ้นเมื่อเห็นดวงตาคู่เหลือบอำพันกำลังยิ้มเยาะตนอยู่กลายๆ

   “แต่แม่อเลนไม่ดีใจที่พ่อทศมาหา”

   “ดะ ดีใจสิ ดีใจครับ”

   “นายดีใจแน่นะ”พอได้ทีก็เข้าผสมโรงกันยกใหญ่ทั้งพ่อทั้งลูกทำให้แม่คนนี้กระอักกระอ่วน

   อย่างน้อยก็ยังดีกว่าที่ผ่านมา ดีกว่าปล่อยให้เขาอุ้มท้องอลันคนเดียวเหมือนกับครั้งดีแล้ว อย่างน้อยในครั้งนี้ทศกัณฐ์ก็ยัง
ตามมา ตามหาตนกับลูก

   เขาควรจะทำยังไงกับความสับสนของตัวเองดี ในเมื่อเหตุผลที่หนีมาเป็นเพราะว่าท้องลูกของทศกัณฐ์คนที่สอง ไม่ใช่ว่า
เสียใจ แต่เป็นเพราะเขาไม่ได้ยินยอม เพราะทศกัณฐ์ไม่ได้บอกกล่าวให้เขาได้เตรียมใจและร่วมกันตัดสินใจ มันไม่ใช่การโกรธ
เกลียด แต่เป็นการโกรธเคืองเสียมากกว่า

   “อืม”พยักหน้ารับ

   “แล้วแม่อเลนรักพ่อทศไหมฮะ”

   อลันยิ้มแป้นจนแก้มปริ ถามเสียงใสกอดคอพ่อทศกัณฐ์แน่น แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความนิ่งเงียบครู่ใหญ่จนอลันหน้ามุ่ยอีก
ครั้ง

   “ว่าไง ถึงนายไม่ตอบฉัน แต่อย่างน้อยนายก็น่าจะมีคำตอบให้กับลูกของเรา”

   “คุณอย่าใช้ประโยชน์อลันในทางที่ผิดได้ไหม”

   ไม่ใช่อะไร แค่แอบเห็นสองพ่อลูกขยับตาให้กัน ถึงจะเสี้ยววินาที แต่ก็เห็น จึงได้รู้ว่าสองพ่อลูกเขาแท็กทีมกันมาอย่าง
ดิบดี

   อลันเองก็สมบทบาทไม่แพ้พ่อ หรือว่ายักษ์จะเจ้าเล่ห์อย่างนี้ทุกตน เหมือนกับลูกของมณี เด็กแฝดที่กัดคออลันจนเป็นรอย
เพื่อที่จะจองตัวเอาไว้ตั้งแต่เด็ก

   อเลนทำท่าจะลุกหนีสองพ่อลูก คำตอบมันมีอยู่ในใจ แต่ไม่อยากตอบเพราะความเจ้าเล่ห์ที่คูณสองกันมา

   “พ่อทศฮะ อลันรักพ่อทศนะฮะ”

   “พ่อก็รักอลัน”

   “แต่แม่อเลนไม่รักพ่อทศ อลันเสียใจ”

   “พ่อก็เสียใจ”

   สองพ่อลูกพากันตัดพ้อ กอดกันกลม เขาได้แต่ถอนหายใจเดินหนีเข้าห้องน้ำไป พอออกมาสองพ่อลูกก็ไม่อยู่แล้ว

   สะดุดตากับดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่ เกือบจะใหญ่กว่าตัวของอลันด้วยซ้ำ คิ้วเรียวยาวขมวดมุ่น เหมือนถูกสะกดให้
เดินเข้าหาช่อดอกกุหลาบสีเลือดช่อนั้นที่วางอยู่บนที่นอน

   หยิบยกมันขึ้นมาอุ้ม กดจมูกดอมดมกลิ่นหอมเคล้ากลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเฉพาะกายที่ทำให้รู้สึกว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
ชีวิตของเขาไปเสียแล้ว กระดาษการ์ดสีแดงถูกพลิก ข้อความ

   ‘ฉันจะขอร้องนายเป็นครั้งสุดท้าย รีบรับรักฉันสักที ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน’

   ให้ตายเถอะ นี่มันเรียกว่าประโยคขอร้องซะที่ไหน สงสัยจะอายุเยอะจนหลงลืมไปรึเปล่าว่านี่มันประโยคคำสั่งที่เอาไว้ข่มขู่
กัน

   นาฬิกายังบอกเวลาเช้าอยู่เลย แต่สองพ่อลูกก็ทำให้เขาถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า อเลนหอบดอกไม้ลงมาจากชั้นบน
ของบ้าน ใบหน้าบึ้งตึง

   ตาคู่สวยกวาดมองไปยังโต๊ะอาหาร เห็นพ่อกับแม่และอลันนั่งประจำที่ แต่ที่เกินมาก็คือทศกัณฐ์

   ร่างสูงใหญ่กำลังขะมักเขม้นกับการประกอบมื้ออาหารอยู่เบื้องหน้าเตา ใบหน้านั้นกำลังจริงจังอยู่กับวัตถุดิบและเครื่องปรุง
อลันเองยังคงจ้อกับคุณตา ส่วนแม่ของเขาก็กำลังมองทศกัณฐ์อย่างพออกพอใจ

   สร้างภาพ!! นี่คงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดเสียล่ะมั้ง

   “ทำไมลงมาช้าจัง มาสิ พ่อทศเขาเป็นพ่อครัวเองเลยนะวันนี้”พ่อบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

   “แล้วนั่นดอกไม้อะไรกัน สวยเชียว”แม่เอ่ยชมดอกไม้ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

   ทุกคนต่างก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่ายิ่งเหนื่อยหน่ายใจกับทศกัณฐ์ วางดอกไม้ลงบนโต๊ะ เดินไปหยิบแจกันในตู้ใกล้ๆพลางตอบ

   “เขาให้มาน่ะครับ”

   “โรแมนติกแต่เช้าเลยนะ”แม่ของเขายังคงชมทศกัณฐ์ไม่ขาดปาก



   “ทำไมของผมไม่เหมือนของคนอื่นล่ะ”แย้งเมื่ออาหารตรงหน้าของเขาไม่เหมือนของคนอื่น ไม่ยักรู้ว่าทศกัณฐ์เองก็ทำ
อาหารเป็น และยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นอาหารอิตาเลียนที่ครอบครัวของเขาชอบกินเพราะส่วนผสมส่วนมากจะใช้ชีสที่ได้มาจาก
ฟาร์มของที่บ้าน

   “นั่นมันอาหารของคนปกติ”

   “แล้วผมไม่ปกติตรงไหน”

   “จานที่อยู่ข้างหน้านายสำหรับคนท้อง”ทศกัณฐ์ยิ้ม นั่งลงข้างๆกัน

   “ผมท้อง ไม่ได้ป่วย”

   “นายอาจจะลืมว่าฉันเป็นหมอ”เถียงไม่ออกเพราะว่าทศกัณฐ์เป็นหมอจริงๆ ถึงแม้จะไม่ใช่หมอแบบธรรมดาทั่วไปก็ตาม

   “ดูท่าลูกคนนี้คงจะแข็งแรงกว่าอลันเสียล่ะมัง”พ่อของอเลนหัวเราะ

   “นั่นสินะคะ ดูแลกันดีขนาดนี้”

   “คุณตากับคุณยายต้องรักน้องเท่ากับอลัน ห้ามรักมากกว่านะฮะ”อลันรีบออกตัว ตากลืมโตเบิกกว้างหน้ามุ่ย

   “รักเท่ากันนั่นแหละน่าเจ้าเด็กคนนี้”

   “อลันก็รักน้องเหมือนกันฮะ”อลันยิ้มแก้มปริตักอาหารคำโตเข้าปากเคี้ยวตุ้ย



   “ออกมาคุยกับผมหน่อย”หลังจากมื้อเช้าจบลงทุกคนก็ไปรวมกันอยู่ที่ห้องนั่นเล่น เว้นเสียแต่ทศกัณฐ์ที่ถูกดึงออกมาเสีย
ก่อนที่จะทำเหมือนส่าเข้ากับครอบครัวของเขาได้ดีไปมากกว่านี้

   “คำตอบของฉัน?”

   “ห่ะ?”เอียงคอขึ้นปรายตามองอีกฝ่าย ใบหน้าคมสวยยิ่งหน้าบึ้งไม่พอใจ จนป่านนี้ยังกล้าจะมาเอาคำตอบจากเขาทั้งที่ตั้ง
คำถามแบบไม่มีที่มาที่ไป

   “ฉันไม่ได้ใจเย็นพอที่จะให้เวลานายมากขนาดนั้นหรอกนะ”

   กายสูงเคลื่อนเข้ามาใกล้ดันให้แผ่นหลังของอเลนแนบชิดกับผนังห้องครัว ใบหน้าคมดุโน้มเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแตะลง
บนหน้าผากมน ลมหายใจร้อนเป่ารดได้กลิ่นควันบุหรี่จางๆ

   “ช่วยถอยออกไปก่อนจะได้ไหม”

   เพราะว่าหัวใจมันเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อถูกจ้องด้วยสายตาแบบนั้นในระยะใกล้ขนาดนี้ ดวงตาคู่สวยหลุบต่ำมองปลายเท้า
ตัวเอง

   “ว่าไงล่ะ คำตอบของฉัน”

   “คำถามของคุณมันไม่ใช่คำถาม”

   “ไม่ใช่คำถามแล้วมันคืออะไร นายกำลังจะทำให้ฉันหมดความอดทนนะ”จมูกโด่งไล่ลงมาเฉียดผิวแก้ม

   “ถอยออกไป”ดันแผงออกของอีกฝ่ายเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้ไปมากกว่านี้

   “ตอบมา”

   “มันเรียกว่าข่มขู่ไม่ใช่คำถาม”

   “ฉันข่มขู่นายยังไง?”

   “ก็ที่บอกว่าจะหมดความอดทนนั่นไง คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”

   “นายโง่รึไง”

   “ใครกันแน่ที่โง่  คุณทศ!!”ผลักอกอีกฝ่ายแรงๆทั้งที่รู้ว่าไม่มีวันสะทกสะท้านเพราะอีกฝ่ายเป็นยักษ์ แต่ก็อดไม่ไหว เหลือ
อดกับความหน้ามึนเต็มทน “จะให้ผมตอบว่าผมรับรักคุณได้ยังไงในเมื่อคุณเองยังไม่เคยพูดมันออกมาดีดีสักครั้ง”

   “นายเอาอะไรมาพูด ฉันบอกกับนายทุกวันเผื่อนายจะไม่รู้”

   “คุณบอกตอนไหน?”ถึงแม้จะเจ้าเล่ห์ชอบเอาแต่ใจแต่ก็ไม่ได้หมายความจะมาโกหกกันซึ่งหน้าอย่างนี้ได้

   “ก็ตอนที่นายหลับยังไงล่ะ ฉันบอกนายทุกวัน”ทศกัณฐ์เบือนหน้าหนี กัดฟันกรอดกับบทสนทนาที่ดูจะยืดยาวจนยักษ์ที่
ความอดทนต่ำอย่างเขาแทบจะทนไม่ไหว

   “คุณบ้ารึไง”

   “กล้าว่าฉันว่าบ้า? ปากนายนี่จริงๆเลยนะ ตอบมาได้แล้วอย่ายืดยาว”

   “ผมไม่มีคำตอบให้คุณหรอก”

   “นายอย่ามาเรื่องมากได้ไหม”

   “คุณนั่นแหละอย่ามาเรื่องมาก แค่บอกรักต่อหน้ามันยากนักรึไงถึงได้บอกตอนหลับ”

   “ฉันรักนาย พอใจรึยัง คราวนี้ก็ตอบมาได้แล้วว่านายจะรับรักฉันไหม”

   “ถ้าผมตอบว่าไม่ล่ะ คุณจะทำอะไร จะทำร้ายครอบครัวกับลูกผมไหม”
   “ถ้าขืนนายตอบว่าไม่”กดเสียงต่ำโน้มหน้าลงมากระซิบข้างหู “ฉันจะจับนายขังเอาไว้ ทำให้นายท้องลูกของฉันคนแล้วคน
เล่า จนกว่านายจะยอม”

   “ฮะ ฮึก”

   ทั้งน้ำเสียงและประโยคคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ร่างกายมันสั่น ลมหายใจร้อนที่เป่ารดหูทำเอาใจเต้นระรัวไม่เป็นส่ำ

   “ว่าไง ตอบมาก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”ยังคงข่มขู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

   “อืม”แต่ก็พยักหน้าตอบรับ ใบหน้าคมสวยขึ้นสี ริมฝีปากเม้มเข้าหากันแน่น

   “ก็แค่นั้น”

   สิ้นเสียงริมีปากของยักษ์ขวานผ่าซากอย่างทศกัณฐ์ก็ประกบจูบลงมา ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง มือยกขึ้นดันไหล่ของทศกัณฐ์
ออกทันทีทันใดเมื่อลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามา

   ทำให้กลิ่นบุหรี่ลอยคลุ้งอยู่ในโพลงปาก แต่ยิ่งทำให้ตกใจมากกว่าเก่าจนต้องทุบเข้าที่แผ่นหลังกว้างก็คงไม่พ้นผู้เป็นพ่อที่
เดินเข้ามาในครัว

   ทศกัณฐ์ยังคงไม่ยอมปล่อย เอลนเบิกตากว้าง ทว่าผู้เป็นพ่อนั้นกลับเดินเลยผ่านราวกับเขากับทศกัณฐ์เป็นอากาศธาตุ

   “หายไปไหนกัน เห็นว่าเดินเข้ามาในนี้ หรือว่าตาฝาด”บ่นพึมพำแล้วเดินกลับออกไป

   ตาคู่คมสวยตวัดมองไม่พอใจ แต่ได้คำตองจากดวงตาดุดันเหลือบสีเหลืองทองเป็นประกาย คำตอบที่เหมือนกับว่ากำลัง
หัวเราะเยาะคล้ายกับเป็นเรื่องตลก

   ไม่ว่ายังไงเขาก็คงหนียักษ์ตนนี้ไม่พ้น มีแต่จะต้องยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและทำตามความรู้สึกของตัวเอง ปล่อย
อดีตที่ไม่มีวันเป็นจริงทิ้งไป






   “ตามมาสิ ฉันมีอะไรจะให้นาย”ถูกดึงให้ตามขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง

   กล่องหีบไม้เก้าใบไม่ใหญ่มากถูกยื่นมาเบื้องหน้า เขาได้แต่มองมันด้วยความฉงน

   “อะไร”

   “รับไปสิ”

   “แล้วมันคืออะไร”ถามเพราะมันดูเก่ามากและทองที่ฉลุเป็นลวดลายประดับอยู่รอบๆดูมีค่าทำให้เขาไม่กล้ารับมันมาจากมือ
ของทศกัณฐ์

   “บอกให้รับก็รับไปเถอะน่า”

   “ใครจะไปกล้ารับทั้งที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

   “อย่าได้ปฏิเสธเชียว รับไป”ยัดมันใส่มือบาง

   ทันทีที่อเลนรับมันมาถือ อะไรบางอย่างข้างในหีบไม้ประดับทองคำกับบุษราคัมดูสูงค่าส่งผ่านมาที่เขา อะไรที่เหมือนกับ
เคลื่อนไหวเป็นจังหวะเดียวกับหัวใจของเขา

   มือข้างที่ว่างแตะลงบนฝาของหีบใบเล็ก พยายามควบคุมไม่ให้มันสั่น หัวใจในอกเต้นโครมครามหวังว่าไม่ให้เป็นอย่างที่ใจ
คิด ค่อยๆแง้มเปิดฝาของหีบไม้ออกมา

   ก้อนเนื้อสีแดงสดเต้นตุบๆเสียงก้องหูทำให้อเลนหน้าชา ดวงตาสั่นระริกกับสิ่งที่ได้เห็น

   “ทะ ทำไมถึงเอามาให้ผมล่ะ”

   ถามเสียงสั่นพล่าจ้องมองสิ่งที่อยู่ในหีบไม้แน่นิ่ง

   “มันเป็นของนายแล้ว ดูแลมันดีดีล่ะ”บอกด้วยน้ำเสียงที่เจือความอบอุ่น แตะมือลงบนเส้นผมนุ่มย้ำๆเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแน่

นิ่งไป

   “บ้าไปแล้ว”ถึงจะบ่นอุบอิบแต่ก็ปิดฝาหีบลงแล้วกอดถือมันเอาไว้แน่นเสมือนว่ากลัวมันหายไป

   ‘หัวใจของทศกัณฐ์’อยู่ในกำมือของมนุษย์อย่างเขา บอกใครใครจะเชื่อ มีเพียงตัวของเขาเท่านั้นที่รับรู้ จะทำยังไงได้
นอกจากดูแลมันอย่างดี ในเมื่อรับเอามาแล้ว ต่อให้มาอ้อนวอนขอคืนก็จะไม่คืนให้แน่




พี่ทศถึงแม้จะดิบๆไม่หวาน แต่พี่แกก็เอาหัวใจให้เลยนะเออ แบบถ้าน้องไม่ยอมพี่ก็จะปล้ำจนกว่าจะยอม 55 น่ารักไหมล่ะ

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
หมอทศหวานแบบเถื่อนๆนะ  :-[

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
งื้ออออออออออออออ น่าร้ากกกก

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
อื้อหือออ สมกับเป็นทศกัณฐ์กันๆ บอกรักก็ยังฮารดคอร์555

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
หวานไม่มาก แต่ทีเด็ดพี่แกเยอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dreeanm

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:


คุณทศนี่โรแมนติคในแบบฮิมเนอะ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
เฮียแกหวานปนเถื่อนเนอะ 5555

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ทวงครั้งที่ 13 สองคนเหงากลายเป็นเรา


   ดวงตาดุดันของยักษ์สูงวัยจับจ้องมองร่างมนุษย์ที่นอนทอดร่างไปตามความยาวของโซฟาในห้องรับแขก บนตัวมีเจ้าสุนัข
ขนปุยสีขาวตัวเล็กนอนส่ายหางกระดิกไปมาส่วนเจ้าตัวก็เอาแต่จ้องมองเจ้าสุนัขด้วยสายตานิ่งเฉยต่างจากความร่างเริงของสุนัข
ในอ้อมกอดโดยสิ้นเชิง

   วสินเดินเข้าไปใกล้ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวข้างกัน มีเพียงแววตาประหลาดใจเท่านั้นที่ปลายตามามองก่อนจะหันกลับไป
ดังเดิม

   “วันนี้ตรงกับวันเกิดของเจ้า”

   ยักษาเอ่ยปากในความเงียบ แล้วก็ได้ผล ร่างที่นอนทอดกายชันตัวขึ้นลุกก่อนจะปล่อยให้เจ้าสุนัขได้วิ่งเล่นตามอำเภอใน
จองมัน

   วาลีจ้องมองวสินแน่นิ่ง ไม่มีวันรู้เลยว่าในดวงตาคู่สีโศกนั้นแสดงถึงความรู้สึกอะไร เพราะชายหนุ่มเพียงแค่จ้องและก็จ้อง
ราวกับว่าต้องการจะสำรวจยักษ์ตรงหน้าอย่างละเอียด

   “เจ้ารู้สึกไม่สายเช่นนั้นหรือ”

   เมื่อเห็นว่าวาลีมีท่าทีแปลกไปวสินก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงเสียไม่ได้ ฝ่ามือใหญ่ของยักษ์เอื้อมเข้าหาใบหน้าขาวซีด

   ใกล้ขึ้นเรื่อยๆแล้วแตะลงบนผิวหน้าเพื่อเทียบความร้อนจากผิวกาย วาลีเบือนหน้าหนีเมื่อฝ่ามือร้อนนั้นแตะลงมา ราวกับมี
อะไรบางอย่างมากระทบผิวกายให้ได้รู้สึกเจ็บแปลบ ความรู้สึกที่พยายามจะค้นหาว่ามันคืออะไรเริ่มเด่นชัด หัวใจของมนุษย์อย่าง
เขาเต้มโครมคราม

   ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อที่จะเดินหนี ปัดมือของวสินออกในทันทีทันใด ทว่าแขนก็ถูกดึงเอาไว้ไม่ให้หนีได้ ถูกดึงให้

หันกลับมามองจ้องดวงตาคมดุของยักษ์

   “เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเจ้า ข้าอยากให้เจ้ามาที่นี่ในคืนนี้”

   วาลีไม่ตอบแตะพยายามดึงแขนออก

   “ได้หรือไม่วาลี”วสินถามย้ำ

   “ถ้านั่นเป็นคำสั่งผมก็ต้องทำตามอยู่แล้วไม่รึไง”

   “ไม่ มันมิใช่คำสั่ง หากแต่เป็นคำขอร้องของข้า”อุ้งมือใหญ่ปล่อยแขนของวาลีออก ประโยคของวสินยิ่งทำให้ดวงใจของวา
ลีไหววูบ ดวงตาคู่คมสั่นไหวก่อนจะหลุบตาลงจ้องมองปลายเท้าตัวเองนิ่ง
   “อืม”





   วาลีปิดประตูห้องนอนของตัวเองลงด้วยหัวใจที่สั่นรัว ยิ่งพยายามบังคับมันเขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันยากเกินกว่าที่เจ้าก้อนเนื้อใน
อกนี้จะกลับมาเชื่อฟังเขา ราวกับว่าเขาไม่ใช่เจ้าของของมันเสียแล้ว
   วาลีถอนหายใจออกมายาวๆ จ้องมองไปยังแสงสีส้มอ่อนที่ทอผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง เหมือนว่าค่ำคืนของวันนี้จะมาเยือน
เร็วกว่าปกติ หรือว่าเขาคิดไปเองกันแน่

   วสินต้องการอะไรทั้งที่เคยทำโหดร้ายกับเขาขนาดนั้น ไม่สิ เขาเองต่างหากที่เป็นอะไรกันแน่  ทั้งที่ควรจะโกรธ แต่กับรู้สึก
ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คั่นอยู่ระหว่างเขากับอีกฝ่ายมันเปลี่ยนไป

   จนสุดท้ายดวงอาทิตย์ก็ลาลับหายไปกับขอบฟ้า ชายหนุ่มเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยย่างก้าวที่มั่นคงแต่ถึงกระนั้นภายในใจ
กลับสั่นระรัว

   วาลีพาตัวเองมายังชั้นล่างของตัวบ้าน ยิ่งดึ่งบรรยากาศยิ่งเงียบสะงัด และแล้วสิ่งที่เห็นก็ทำเอาชายหนุ่มตัวชา

   โต๊ะกลางห้องเบื้องหน้ามีขนมเค้กก้อนใหญ่ประดับด้วยเปลวเทียนส่องแสงวิบวับสวยงาม แต่นั่นก็ไม่สู้ช่อดอกกุหลาบ
สีน้ำเงินเข้มช่อใหญ่ที่ทำเอาหัวใจของวาลีเต้นไม่เป็นจังหวะ

   ทุกสิ่งทุกอย่างบนโต๊ะถูกจัดแต่งเอาไว้อย่างสวยงามบ่งบอกถึงความตั้งใจของคนให้ วาลีสะดุดตาเข้ากับกระดาษการ์ดสี
ขาวที่วางแทรกอยู่ในช่อกุหลาบ

   ไม่รอช้าเขาหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน แต่เหตุใดเพียงแค่ปลายตามองตัวหนังสือไม่กี่บรรทัดกระบอกตามันก็รู้สึกร้อนผ่าวอย่าง
บอกไม่ถูก กระดาษการ์ดร่วงหล่นลงพื้นในทันที



   ‘สิ่งเดียวที่ข้าจักให้เจ้าได้คืออิสระ ชีวิตของเจ้าเป็นของเจ้าแล้ว

   จงดูแลรักษามันให้ดี เป็นสิ่งเดียวที่อาจจะทำให้เจ้ากลับมายิ้มได้อีกครั้ง

   รุ่งเช้าจักมีคนมารับเจ้าเอง ขอให้เจ้าเดินทางอย่างปลอดภัย’



   ราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบตีจนร่างแหลกสลายเป็นจุลย์ มันคืออะไรกันแน่ ความรู้สึกแบบนี้ รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังจะ
ตายทั้งที่ยังอยู่





   “เปิดประตู เปิดประตูเดี๋ยวนี้”ฝ่ามือผอมซีดกระหน่ำทุบตีบานประตูสีขาวไม่หยุด เขาอยากจะกรีดร้องหรือทำอะไรสักอย่าง
กับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเวลานี้ เจ็บ เจ็บจนร้องไม่ออก

   “ผมบอกให้เปิดประตู เปิดประตู!!”ตะโกนเรียกครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่มือที่ทุบบานประตูนั้นทั้งเจ็บและสั่นเทาไม่หยุด

   “เปิดสิ เปิด!!”ตะโกนจนเสียงสั่นพล่า กระบอกตามันเหมือนจะมีอะไรเอ่อล้นออกมา แต่มันกลับไม่มี เพราะว่าวาลีไม่เคย
รู้จักกับน้ำตาของตัวเอง ไม่เลยสักครั้ง

   

   “เจ้ามาทำอะไรที่นี่ วาลี เจ้ารู้ดีว่าคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง เหตุใดจึงยังมา”ประตูแง้มเปิดออกในที่สุด ใบหน้าหล่อเหลาที่ยัง
คงเยาว์วัยปรากฏอยู่เบื้องหน้า หากแต่ดวงตาดุดันนั้นทอประกายสีเขียวสว่างวาบ

   ทำให้วาลีชะงักเล็กน้อย เขาจดจำดวงตาคู่นี่ในคืนอันเลวร้ายได้เป็นอย่างดี หากแต่นั่นมันเป็นเพียงภาพในอดีต ความเป็น
จริงที่เกิดอยู่เบื้องหน้ามากกว่าที่สลักสำคัญ

   “ทำไมล่ะ เพราะอะไร”

   วาลีไม่พูดเปล่าดันประตูให้เปิดออกกว้าง ใช้เศษเสี้ยวของเวลาแทรกตัวเข้าไปในห้องก่อนที่ประตูจะถูกดันให้ปิดลง

   “ทั้งที่ผมเป็นคนเรียกร้อง อ้อนวอนที่จะไปจากที่นี่ตั้งแต่แรก ตลอดสามปีที่ผ่านมาแต่พวกคุณ พวกคุณกลับปฏิเสธมัน
อย่างเลือดเย็น พอมาตอนนี้คุณอยากให้ผมไปจากที่นี่ เพราะอะไรล่ะ ทำไมถึงอยากมาไล่ไปเอาตอนนี้”

   “เจ้าพูดถึงสิ่งใดกันวาลี ข้าไม่เคยคิดจะไล่เจ้า”

   “แล้วมันคืออะไร ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยที่จะใยดี แต่ทำไมถึงมาทำดีล่ะ เพียงเพราะแค่อยากจะไล่ผมออกไปไม่ใช่รึไง!!”

   วาลีพูดออกมาอย่างเหลืออด เจ็บแทบขาดใจยามที่ช่อดอกไม้สีน้ำเงินในมือถูกปาใส่ร่างของยักษ์ตรงหน้าจนมันร่วงลง
แตกกระจายอยู่บนพื้น กลีบของมันหลุดลุ่ยไม่หลงเหลือความสวยงามเอาไว้ให้เชยชม

   “ว่ายังไงล่ะ ที่มาทำดีก็เพราะว่าต้องการจะไล่ให้ผมออกห่างจากคุณใช่ไหม จะมาทำดีกับผมทำไมทั้งที่จะเมินใส่กันก็ได้
ยังไงก็จะตัดผมออกไปจากชีวิตอยู่แล้วนี่”

   “ข้ามิได้ไล่เจ้าหรอกว่าลี”วิสนตอบเสียงเบาเดินเข้าไปใกล้ ฝ่ามือใหญ่เอื้อมแตะใบหน้าที่ดูโกรธเกรี้ยวอย่างแผ่วเบา หาก
แต่ครั้งนี้วาลีไม่ได้แตะออก

   เพราะมันเป็นเหมือนกับสิ่งที่เขากำลังต้องการ ทั้งต้องการและโหยหา ไม่อยากที่จะห่างจากยักษ์ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

   “แล้วมันเพราะอะไรล่ะ เพราะอะไรทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการ”ในที่สุดน้ำตาที่ไม่เคยหลั่งรินก็ไหลลงมา เป็นเพราะความเจ็บ
ปวดที่ไม่อาจจะคะเนได้หรืออะไรกันแน่ที่ทำให้น้ำตาที่เหือดแห้งกลับมาอีกครั้ง

   

   “หากเจ้าถามข้าก็จักตอบเจ้า”วสินตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งแผ่วเบา

   ฝ่ามือใหญ่จับดวงหน้าซีดไร้สีเลือดให้เงยขึ้น เกลี่ยปลายนิ้วกับพวงแก้มอย่างแผ่วเบา เกลี่ยเอาหยาดน้ำตาที่ไหลรินออก
ไป ก่อนจะผละมือออก

   จับมือผอมซีดให้ยกขึ้นมา บังคับให้มันทางลงบนแผงอกแกร่ง ที่ด้านซ้ายในตำแหน่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต เสียงของก้อน
เนื้อที่อยู่ภายในอกนั้นเต้นโครมคราม วาลีรับรู้ได้ผ่านความร้อนของผิวกายของอีกฝ่าย

   “ใจของข้า เป็นของเจ้าแล้ววาลี”น้ำเสียงนั้นกระซิบเบา แต่กลับก้องทุ้มกังวานราวกับกำลังถูกเก็บเอาไว้ในความคิดส่วนที่
สำคัญที่สุด

   “ข้ามิอาจทนเห็นตัวเจ้านั้นเป็นทุกข์อีกต่อไป มิอาจทนเห็นเจ้าอยู่อย่างเดียวดายได้เหมือนก่อน หากอิสระสามารถทำให้
เจ้ากลับมายิ้มได้อีกครั้ง ถึงแม้ว่าใจข้าจักต้องเจ็บข้าก็ยอมได้เพื่อเจ้า”

   

   ดวงตาสีเหลือบเขียวมรกตจ้องมองมนุษย์เบื้องหน้าด้วยความรักใคร่ที่ล้มเปี่ยม โอบเอวสอบเข้ามาใกล้ชิดจนสัมผัสได้ถึง
ลมหายใจติดขัด เสียงหัวใจของยักษาเต้นแรงภายใต้ฝ่ามือของมนุษย์เบื้องหน้า ความร้อนของผิวกายที่ต้องกันในเวลานี้ร้อน
ราวกับเหล็กนาบไฟ ใบหน้าคมคายโน้มเข้าหาใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือดจนลมหายใจเป่ารดใบหน้า

   “หากเจ้ามิมีเยื่อใยต่อข้า จงปฏิเสธข้าเถิดวาลี เบือนหน้าหนีไปเสีย”


   ยิ่งดวงจันทร์ลอยขึ้นสูงเด่นมากเท่าไร ยักษายิ่งต้องสะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองมากเท่านั้น

   “ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

   ทว่าวาลีกลับนิ่งเฉยเงย ซ้ำยังเป็นฝ่ายโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ จนริมฝีปากแห้งปากแนบชิด ฝ่ามือที่แตะอยู่บนแผงอกกำ
แน่น หลับตาตอบรับจูบที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อนแต่ต้องเพลี่ยงพล้ำ ร่างถูกยกให้ลอยให้ด้วยแรงมหาศาลทั้งที่ริมฝีปากนั้นยังคงแนบ
สนิท

   ถูกวางลงบนผืนเตียง ครั้งนี้กลับแผ่วเบาและช่างอ่อนโยนผิดกลับคืนนั้นลิบลับ ชุดนอนถูกปลดออกอย่างรวดเลว ฝ่ามือ
กร้านที่ทั้งใหญ่และทั้งร้อนกวาดต้อนไปทั่วร่างกายทำให้รู้สึกไม่ต่างอะไรกับการนอนอยู่ในกองไฟที่กำลังโหมกระหน่ำ

   เสียงคำรามของยักษ์ที่ทาบทับอยู่เบื้องบนดังลอดไรฟัน ครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะควบคุมความชั่วร้ายที่มีเอาไว้ได้ หากแต่กิเลส
ตัณหาที่เกิดขึ้นนั้นกลับควบคุมได้ยากนัก

   วสินถอนจูบออกมานัยน์ตาสีมรกตจ้องมองไปยังกายเปลือยเปล่าเบื้องหน้า ลมหายใจหอบกระเส่ายากที่จะควบคุม ก่อนก้ม
ลงประทับจุมพิตลงบนหน้าผากมน

   “หัวใจของเจ้า มอบมันให้แก่ข้าได้หรือไม่”

   น้ำเสียงนั้นราวกับอ้อนวอนและร้องขอ วาลีพยักหน้าก่อนจะหลุบตาหนีเมื่อถูกจ้องมองหนักเข้า ร่างกายเวลานี้ไม่ต่างอะไร
จากขี้ผึ้งร้อนๆ แทบจะหลอมละลายอยู่เต็มทน

   “ผม อยากจะขอร้องคุณอย่างหนึ่ง คุณให้ผมได้ไหม”

   “สิ่งใดเล่าวาลีของข้า”

   เสียงนั้นช่างหวานล้ำและกระซิบอยู่ข้างหู ตะโบมจูบใบใบหน้าไม่หยุดหย่อน

   “ผมอยากมีลูก”

   สิ่งที่ได้ยินนั้นแทบทำให้ยักษาที่ตกอยู่ในอารมณ์กำหนัดนั้นแทบคลั่ง จ้องมองร่างข้างใต้อย่างไม่เชื่อหูของตน

   “เจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดกัน”

   “ผมอยากมีลูกให้กับคุณ เหมือนกับคนอื่นๆ”กลั้นใจบอกเสียงพล่า ขยับกายตอบรับฝ่ามือร้อนที่ฟอนเฟ้นอยู่ไม่หยุด

   “แต่ร่างกายเจ้าอาจจะรับความเจ็บปวดไม่ไหว เจ้ามั่นใจในสิ่งที่พูดหรือไม่”

   “มั่นใจสิ ผมมั่นใจ”

   

   ความเจ็บนั้นมันเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับการที่ถูกผลักไสไล่ส่งราวกับว่าคนอย่างเขาไม่มีความรู้สึก กลับกันมันเป็นแค่เพียง
เศษเสี้ยวเมื่อเอามาเทียบกัน วาลีจิกนิ้วมือลงบนผ้าปูที่นอนเมื่อความเจ็บมันเล่นริ้วไปทั่วร่างกาย กัดกันลงบนริมฝีปากจนเลือด
ซิบ

   จูบอ่อนโยนที่ประทับลงมาบนขมับเป็นยาชั้นดีที่ทำให้กัดฟันทนความเจ็บที่เกิดขึ้น เสียงร้องอื้ออึงถูกกลั้นเก็บเอาไว้ในลำ
คอ หอบหายใจถี่รัวเหมือนกระทิงดุที่กำลังบ้าคลั่ง

   จนในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างก็จบลง ความเจ็บปวดกลายเป็นความหฤหรรย์ยามที่ถูกโอ้โลมให้ได้คล้อยตาม สัมผัสที่ดิบเถื่อน
แต่ก็อ่อนโยนต่างจากในเวลาแรก

   ยิ่งดวงจันทร์ลอยสูงเด่นสันดานดิบก็ยิ่งถูกปล่อยออกมา ร่างกายของยักษากระแทกกระทั้งหนักหน่วงพาให้ร่างข้างใต้สั่น
คลอน ริมฝาปกขบเม้นไปทั่วผิวกายซีดเผือด ขบกัดทิ้งร่องรอยเอาไว้ทั่ว

   “ฮะ ฮึก”

   หยดเลือดค่อยๆผุดซึมออกมาทีละนิดหลังจากที่คมเขี้ยวของยักษ์สูงวัยนั้นถอดถอนออก ว่าลีได้แต่ขยับกายไปตามแรง
กระทั้ง ร่างกายสั่นระริกไปทั้งร่าง ถึงแม้ว่าวสินจะไม่ดุร้ายและป่าเถื่อนเท่ากับครั้งแรก แต่ความรุนแรงนั้นยังคงเดิม

   ปลายนิ้วผอมซีดจิกลงบนลาดไหล่แข็งแรงเมื่อวสินกระทั้นกายเข้ามาแรงราวกับพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ จนท้ายที่สุดมันก็
หยุดลง

   หลงเหลือเพียงลมหายใจถี่รัวหอบกระเส่าก้องไปทั่วห้อง ความเจ็บปวดกับรสชาติของบทรักอีกกทั้งร่างกายที่ไม่แข็งแรง
เป็นทุนเดิมทำให้ในที่สุดร่างกายที่ถูกโถมทับถูกฉุดดึงเข้าสู่นิทราโดยง่าย

   วสินถอนกายออกมาก่อนจะพรมจูบลงบนใบหน้านั้น ถึงแม้ว่าร่างกายของวาลีจะไม่แข็งแรง แต่การรักษาติดต่อกันมาสามปี
ทำให้เพียงพอต่อการตั้งท้อง และที่สำคัญวาลีทำในสิ่งที่ทำให้ยักษ์อย่างเขาตกใจนั่นคือการกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวดโดย
ไม่สลบไปเหมือนกับคนอื่นๆที่เขาเคยเจอ ถึงแม้จะอ่อนแอ แต่ก็นับว่าเป็นคนที่เข้มแข็งเป็นอย่างหนึ่งที่ดึงดูดให้ยักษ์อย่างเขา
สนใจในตัวของวาลี



   ------------------------------------------------------------------------------------------


   สามเดือนต่อมา

   “พี่ว่าอะไรนะ คุณวาลีท้อง!!”

   “ใช่”

   “ท้องกับคุณอาวสินเนี่ยนะ”ผมถามพลางเบิกตากว้าง

   “เจ้าอย่าพูดทั้งที่กินอยู่สิมณี”โดนดุเป็นรอบที่ร้อย

   “ท้องทั้งที่ผมก็ท้อง ชลาสินธุ์ก็ท้อง ไม่รู้ว่าพี่อเลนจะท้องไหม”

   “อืม เจ้านั่นก็ท้องอยู่”

   “จริงๆเลย คนพวกนี้คิดว่ามนุษย์เป็นแม่พันธุ์รึไง”อดที่จะบ่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่อยู่ในท้องของผมเนี่ยเป็นแฝดเหมือนเดิมรึเปล่า
เพราะไอ้ที่วิ่งเล่นอยู่รอบบ้านนี่ก็แทบจะจับไม่ทันอยู่แล้ว

   ว่าแต่ว่าพี่อเลนกลับไปต่างประเทศแล้ว คงไม่ใช่ว่าหมอทศหนีตามกันไปหรอกนะ เห็นว่าช่วงนี้แอบหายไปนานๆบ่อยๆ


   “แล้วครั้งนี้คิดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอชลาสินธุ์”หันไปถามชลาสินธุ์ที่นั่งอยู่บนตักพี่สุวรรณ สองคนนี้เขาก็ตัวติดกันตลอด

   ให้ชลาสินธุ์นั่งตักพี่วรรณล่ะก็ได้อยู่ แต่ถ้าให้ผมนั่งตักพี่ธาราคงต้องส่ายหน้า ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายร่างเป็นหมู
ตอนที่ทั้งกินและก็กินแบบล้างผลาญ คิดว่าถ้าได้ลูกผู้หญิงก็คงจะดี จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไปกัดลูกใครเหมือนเจ้าสินกับเจ้าสุด
ตัวแสบ

   “ข้าเองก็ยังไม่รู้เลย แล้วท่านเล่า อยากได้หญิงหรือชายกัน”

   “แน่นอนว่าอยากได้ผู้หญิง ไม่ไหวจะมาไล่จับ”ผมส่ายหน้าพลางยิ้ม

   “แต่ข้าว่าเป็นผู้ชาย”กระซิบข้างหูพลางสอดมือเข้ามาใต้เสื้อลูบไล้ผิวท้องที่พองนูน ถึงจะท้องแต่รู้สึกว่าความหื่นของพี่
ธารายังไงก็ไม่มีวันหยุดพักแม้วันหยุดราชการก็ตาม อดไม่ได้ที่จะหันไปตวัดตามอง


   “จะไปรู้เหรอ ผมไม่ใช่คนทำนี่”

   “ไว้ครั้งหน้าข้าจะทำลูกสาวให้เจ้าเอง”

   “ฝันไปเถอะ ไม่เอา ไม่ไหวแล้ว พอ ผมพอแล้ว”ส่ายหน้าไปมา จะให้ผมท้องต่อจากคนนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ผมหยัดตัวขึ้นลุก

เดินหนี พอนั่งกินนานๆมันก็เมื่อยเลยอยากจะยืดเส้นยืดสาย

   สงสัยถ้ามีเวลาว่างคงต้องหาเวลาไปเยี่ยมคุณแม่มือใหม่อย่างคุณวาลีบ้าง

   

   “ว่าไงมีนา มีอะไรกับน้าเหรอครับ”ผมย่อตัวเมื่อมีนาลูกครึ่งเงือกตัวเล็กเดินมาขวางตรงหน้า

   ปกติมีนาเป็นเด็กไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าพัฒนาการไม่ดีหรือว่ามีอะไรผิดปกติ แต่แค่ไม่ค่อยพูด แต่ก็เล่นกับคนอื่นๆ อยู่
รวมกับคนอื่นๆทั่วไปได้ปกติ แต่ที่แปลกคือทำไมจู่ๆถึงได้มายืนขวางผมล่ะ พาลให้คนอื่นๆหันมามองตามกันเป็นตาเดียว

   “ของมีนา”

   เสียงเล็กๆใสใสที่นานวันจะได้ยินเอ่ยออกมา ไม่ทันตั้งตัวมีนาก็เขย่งตัวเข้ามาใกล้ จูบลงบนหน้าท้องผมเฉยเลย งงเป็นไก่
ตาแตกเลยสิ แต่ที่ไม่งงคงจะเป็นพี่ธารากับชลาสินธุ์

   “เดี๋ยวสิ สุวรรณสินธุ์เจ้าจะทำเช่นนั้นโดยไม่ไถ่ถามน้าของเจ้าไม่ได้นะ”

   ชลาสินธุ์ลุกมาดึงมีนาออกไป แต่ไม่ทันแล้ว รู้สึกว่ามันมีแสงสีฟ้าอะไรแปลกๆออกมาจากท้อง แต่มันจากๆแวบเดียวแล้วก็
หายไป

   “อะ อะไรเหรอ”

   ไม่ถามไม่ได้แล้วอารมณ์นี้ ไอ้เด็กลูกครึ่งพวกนี้มันเล่นอะไรกัน เป็นอะไรกันไปหมด

   “สุวรรณสินธุ์ได้ทำการหมั้นหมายลูกของเราเอาไว้แล้ว”พี่ธาราเดินมาแตะเอว

   “มะ หมั้น ไอ้ที่สินกับสุดทำกับอลันอะนะ”หันไปถามอย่างไม่เชื่อหู คำตอบที่ได้คือพี่ธาราพยักหน้า

   นี่โลกของยักษ์กับเงือกมันหมุนเร็วหรือว่าผมเริ่มแก่ขึ้นเรื่อยๆ ทำไมรู้สึกว่าเด็กสมัยนี้มันแก่แดด นี่ลูกผมยังไม่ได้ออกจาก
ท้องผมเลย ผมยังไม่ได้เห็นแม้แต่ปลายเส้นผม

   เข้าใจความรู้สึกของพี่อเลนเอาก็ตอนนี้ แล้วนี่ลูกในท้องผมจะโดนมีนากัดไหมเนี่น เห็นเงียบๆแต่เดินมาฟาดลูกในท้องผม
เรียบเลยนะ

   ผมกระพริบตาปริบๆ เป็นเวลาเดียวกับเจ้าสินกับสุดวิ่งเข้ามาหา

   “แม่มณี เมื่อไรอลันจะมา”

   “คิดถึงอลันแล้ว ไหนแม่มณีบอกว่าอลันจะมาหา”

   นี่ก็อีกสองคน คอยเรียกหาแต่อลันเกือบทุกวัน แล้วนี่ผมจะต้องเตรียมรับมือยังไงกับเจ้าพวกลูกครึ่งตัวแสบที่นับวันแก่แดด
ขึ้นทุกวันๆ ไม่รู้ว่าจะมีลูกครึ่งลูกเสี้ยวอะไรโผล่มาอีกแค่ไหน

   แค่นั่นมันก็เป็นเรื่องของอนาคต เพราะยังไงซะสิ่งเหล่านี้มันก็คือสิ่งที่รายล้อมอยู่รอบตัวผม ก่อให้เกิดความสุขอย่างที่ไม่
เคยคิดว่าจะมามาก่อน ขอแค่ทุกคนยังอยู่ด้วยกัน จะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกก็คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตสินะ




   จบบริบูรณ์



มารอต่อภาค 3 กันเถอะนะ มารอดูเด็กๆกัน ว่าโตขึ้นใครจะเป็นอะไร แซ่บๆทั้งน๊านนนนน

หลายคนอาจคาดหวังกับคู่วาลี แหะๆ ขออภัยล่วงหน้าเด้อจ้า

มีใครอยากอ่ายคู่เบี้ยนมั่ง คู่อเลนกัยมณี 555 แค่มุ้งมิ้งกัน มิได้เกินงาม เอาแค่ขำๆ 555มีใครอยากอ่านไหม มีคนเสนอมา เลย
อยากสนองเป็นตอนพิเศษ





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อ่านไปอ่านมา ยักษ์นี่โรแมนติคยิ่งกว่าคนอีกนะ เขินๆๆๆ

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
 :-[ อยากได้ตอนพิเศษคู่วาสินค่ะ 555555555555555555555555555555

ออฟไลน์ plengpit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
คำผิดน้า

ความร่างเริงของสุนัข >ร่าเริง
เจ้ารู้สึกไม่สายเช่นนั้นหรือ>สบาย

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 o22 ตกใจเข้ามาเจอตอนจบ แต่พอรู้ว่าจะมีภาค 3 ก็โอเคค่ะ

อยากอ่านเรื่องราวของเด็กๆ ตอนโตเหมือนกัน  :pig4:

ออฟไลน์ azure

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ขอแปะคอมเม้นท์ไว้ก่อน้าาาาา :hao7:

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
อยากอ่านคู่อาวสิน  :katai2-1:

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5
คู่เงือกกะยักน้อยในท้องนี้ เป็นพี่น้องกันไม่ใช่โอ้ววม่ายยย :ling1:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
มีนาชนะเลิศ55555 หมั้นตั้งแต่ในท้องเลย :laugh: ถ้าอเลนกับมณีมุ้งมิ้งกันไม่โดนหึงโหดหรา แต่ก็อยากอ่าน รอตอนพิเศษกับภาค 3 ค่ะ สนุกมาก :pig4: :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ abcee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ยักษ์เล็กเนี้ยแก่แดดจริงๆ ฮี่ๆๆๆ สนุกมากๆ มารอภาค3น้า จะต่อที่กระทู้นี้หรือป่าวอ่า หรือว่าเปิดกระทู้ใหม่เหรอ ปูเสื่อรอน้า^^

ออฟไลน์ God

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
สนุกมากกกกกกกกก ชอบทุกคู่เลยค้า  :laugh:

ออฟไลน์ Smirnoff

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
รอภาค3 รอเด็กๆโต เอิ้กกกก มีนาหนูทำงี้เลยหรอลูก

ออฟไลน์ Mayniemo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :-[ เขินคะ รอภาค3 รอปักธงเลยยย นอนรอนั่งรอ
กำลังจะพิมพ์ว่าให้แต่งรุ่นลูกต่อ นึกว่าจบแล้ว
ตกใจหมดเลย  :hao7:
ปล.ชอบ3pมาก อยากอ่าน ขอแบบอลัน15เลยเป็นตอนพิเศษไม่ได้หรอคะ
 o13แบบน้ำจิ้มๆ

ออฟไลน์ โซ อึน

  • อยากให้โลกนี้มีเท่ากัน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-4
    • แฟนเพจเจ้าค่ะ
ตอนพิเศษ ผลไม้ต้องห้าม
   

   เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่ธาราได้รับความทรงจำกลับคืนมา ทุกคนก็ได้กลับมาจากเกาะนั้นพร้อมกับคำว่า
ครอบครัวสุขสันต์ เรียกง่ายๆก็คือมีความสุขกันถ้วนหน้านั่นเอง ต่างก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา งานเลี้ยงเล็กๆได้จัดขึ้นที่บ้านหลัง
ใหญ่ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวภายในซอยลึกของถนนเลี่ยงเมืองแห่งการท่องเที่ยว ทราบกันดีว่าบ้านหลังนี้ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง
ด้วยกำแพงที่สูงลิบและต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นทึบรอบบริเวณบ้าน

   และจะพลาดไม่ได้เลยเมื่อมีงานเลี้ยงก็ต้องมีความวุ่นวายและเสียงของเหล่าลูกยักษ์ลูกเงือกพันธุ์ผสมทั้งหลายส่งเสียงดัง
เจี๊ยวจ๊าวพาให้งานครึกครื้น

   เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปแต่รอยยิ้มของทุกคนยังคงไม่เลือนหายไปจากใบหน้าเว้นก็แต่เด็กๆพากันง่วงเหงาหาวนอนกันไป
เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นก็ทำให้บรรยากาศของงานเลี้ยงเงียบลงไปในพริบตา

   เด็กๆแยกย้ายพากันเข้านอน ส่วนผู้ใหญ่ทั้งหลายก็จับกลุ่มคุยกัน ศรีสุวรรณยังคงเฝ้าเงือกหนุ่มคนรักอย่างชลาสินธุ์อยู่ริม
สระน้ำ ธาราและคุณหมอยักษ์อย่างทศกัณฐ์นั่งคุยด้วยถ้อยคำที่ดูยังไงก็เหมือนจะไม่ค่อยลงลอยสักเท่าไร

   ซึ่งนั่นมันทำให้มนุษย์แท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งสองคนต่างก็พากันเบื่อหน่ายส่ายหน้าให้กับบทสนทนาของยักษ์คู่กัดที่ไม่ว่าจะ
เมื่อไรก็ไม่เคนคุยดีต่อกัน มันจะไม่อะไรถ้าเรื่องที่คุยในช่วงเวลานี้เป็นเรื่องเดิมๆซ้ำๆอย่างเรื่องพันธุ์ผสมรุ่นลูกเชื้อสายของธารา
ไปกัดคอจับจองลูกของฝั่งทศกัณฐ์ให้ได้ห่วงได้หวงกันตั้งแต่อ้อนแต่ออก

   มณีถอนหายใจให้กับธาราที่ยังคงเข้าข้างลูกแฝดตัวแสบที่เอานิสัยมาใช้ด้วยการทำเป็นไม่สนใจคำต่อว่าของทศกัณฐ์

   ทางด้านอเลนพอมองดูพ่อมือใหม่ที่หวงลูกชายจนออกนอกหน้าทั้งที่เหตุการณ์ที่กล่าวอ้างนั้นยังไม่เกิดก็ได้แต่ส่ายหน้า
ส่งยิ้มบางเบาให้กับรุ่นน้อง



   “ผมว่าเราไปหาอะไรกินในครัวกันดีกว่า”มณีพยักหน้าให้กับอเลนเป็นการรู้กัน

   “อืม ได้สิ”
   อเลนแตะแขนมณีเบาๆพากันเดินเข้าไปในบ้านแบบเงียบๆโดยที่สองสามียังคงนั่งถกเถียงกันถึงอนาคตของเหล่ายักษ์น้อย
ต่อไป

   “จะว่าไป ผมมีผลไม้น่าสนใจ พี่อยากลองไหม”

   “หืม?”อเลนเอียงคอมองใบหน้าขาวสะอาดของรุ่นน้องเล็กน้อย ใบหน้าที่เคยฝันถึงมาตลอดยี่สิบปี

   “รอแปบนะ ผมว่าผมซ่อนมันเอาไว้ในตู้นี่”

   มณีก้มตัวลงมุดตัวเข้าไปในตู้ใต้เค้าเตอร์ครัวเกือบครึ่งตัวในที่สุดก็โผล่ออกมาพร้อมกับผลไม้รูปทรงประหลาดรูปร่าง
หน้าตาจะว่าน่าเกลียดก็ไม่ใช่ ยิ่งมองยิ่งให้ความรู้สึกว่ามันน่ากินราวกับถูกมนสะกด มันเหมือนกับว่าพอมองเจ้าลูกขนาดพอดีมือ
สามสี่ลูกในมือที่ถืออยู่น้ำลายในปากมันก็พากันแตกฟอง ใจร่ำร้องว่าอยากจะกินมันเต็มแก่

   และนี่ก็คือผลไม้ที่แอบเก็บมาจากต้นอะไรสักอย่างที่ขึ้นแอบอยู่หลังบ้านบนเกาะนั้น เคยถามกับเจ้าบ้านอย่างธาราว่ามันคือ
ต้นอะไรอยากจะลองกิน แต่ก็ได้ความว่าห้ามกินมันเด็ดขาด มันเป็นผลไม้ต้องห้ามหรืออะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆไม่ได้ตั้งใจฟังคำ
เตือน และไม่แม้จะสนคำเตือนเลยสักนิด รอฉวยโอกาสเอาทีเผลอก็แอบไปเด็ดเอามาซะได้ มองดูจากสีเหลืองอมชมพูดูเหมือน
ว่ามันกำลังจะสุกงอมเต็มที่ซะด้วย ยิ่งถูกห้ามมันก็ยิ่งสงสัยว่ามันคงอร่อยมากจนถูกแอบเอาไว้ไม่อยากจะแบ่งใคร

   “น่ากินใช่ไหมล่ะ ผมบอกแล้วว่าน่าสนใจ”

   ทั้งคู่พากันเดิมมายังห้องรับแขกพลางทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวข้างกัน สายตาสองคู่ยังคงจับจ้องผลไม้สีสวยนั่น

   “อืม น่ากิน ไปเอามาจากไหน พี่ไม่เคยเห็นมาก่อน”

   “แอบเก็บมาจากบนเกาะ คิดว่ามันน่าจะอร่อย เอานี่ ผมให้พี่สองลูก แบ่งกัน”

   “แล้วมันจะไม่เป็นอะไรเหรอ ไปแอบเก็บเอามาแบบนี้”เจ้าของใบหน้าสวยราวกับรูปวาดของนางในวรรณคดีถามด้วยน้ำ
เสียงเจือกังวลแต่ก็รับมาโดยไม่ได้ปฏิเสธ เพราะใจก็นึกอยากกินอยู่เหมือนกัน

   “ไม่เป็นไรหรอก พี่ธาราไม่โกรธหรอก ถ้าโดนจับได้ก็แค่บอกว่าผมเป็นคนเอามา ผมรับผิดชอบเอง แค่นี้เรื่องเล็ก”

   “ถ้าไม่เป็นไนไรก็ดีแล้วล่ะ”น้ำเสียงใสของรุ่นพี่ตอบรับพลางเอนตัวพิงไหล่รุ่นน้องอย่างเคยชิน

   เพราะสำหรับอเลนแล้ว ไม่ว่าเมื่อไรต่อให้มีเจ้าของหรือว่าเป็นของใครยังไงซะมณีก็ยังเป็นคนที่น่าดึงดูดและน่าหลงใหล
เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ความลุ่มหลงและความรักที่มีต่อกัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงอดีต แต่มันก็ยังคงถูกเก็บเอาไว้ในความ
ทรงจำไม่มีลบเลือน

   ต่างกันก็แค่เวลานี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไป ความรู้สึกในใจได้ถูกชักจูงให้บิดเบือน หัวใจถูกลุกล้ำเข้ามาโดยที่ไม่
ยอมรับ สุดท้ายก็ถูกต้อนจนจนมุมด้วยเงื้อมือของทศกัณฐ์ ตกเป็นเบี้ยล่างของยักษ์ร้ายกาจอย่างทศกัณฐ์ไปจนได้ ยิ่งคิดก็ยิ่ง
เจ็บใจ อยากจะลองให้ทศกัณฐ์ตกเป็นเบี้ยล่างดูบ้าง อยากให้มีวันนั้น หากได้มองดูทศกัณฐ์หมอบราบอยู่เบื้องล่าง มันคงทำให้
เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมามากกว่านี้บ้าง นี่คือความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาภายในหัวสมองของอเลน ยามที่กัดกลืนผลไม้รูปทรง
ประหลาดเขาไปคำแรก

   มณีเองก็เช่นกันการที่ถูกพลัดพรากจากคนรักอย่างธารามานานนับหลายปีทำให้ยิ่งรู้สึกโหยหา ความรู้สึกมันเหมือนกับว่า
ทำของที่ในเวลานั้นคิดว่าไม่มีค่าหายไป แต่แล้วก็พึ่งจะรู้ว่ามันสุดแสนจะมีค่าหลังจากที่สูญเสีย พอได้กลับมาจึงทำให้อยาก
ทะนุถนอมมันมากขึ้นเป็นพิเศษ อยากจะกอดธาราเอาไว้ชดเชยกับก่อนหน้าที่ไม่เคยได้ใส่ใจ จะดูแลเอาใจใส่ชดใช้ให้กับก่อน
หน้าที่คอยผลักไสไล่ส่ง

   มือผอมยื่นไปเบื้องหน้า คว้าลำคอยาวระหงโน้มลงมาพลางส่งสายตายั่วเย้าอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันอาจจะเป็นผลมา
จากความรักที่เพิ่มมากขึ้น หรือไม่ก็อะไรสักอย่างที่ทำให้เวลานี้เขารู้สึกว่าอยากจะกอดธารามากเป็นพิเศษ อยากจะเอาใจธารา
จอมหื่นที่ชอบทำให้ท้องลูกคนที่สามทันทีที่ได้เจอกัน

   ดวงตาปรือปรอยหรี่มองพลางแตะริมฝีปากลงไปเคล้าคลึงริมฝีปากเบื้องหน้าอย่างยั่วยวน คิดว่าธาราคงจะชอบให้เขาทำ
เรื่องแบบนี้ ไม่อย่างนั้นมือของอีกฝ่ายคงจะไม่สอดเข้ามาใต้เสื้อยืดตัวบาง

   “ชอบไหม”

   “อืม”

   ตอบพลางเอนหลังแนบลงกับโซฟาเนื้อนุ่ม แม้ว่าเสียงของธารานั้นจะต่างออกไปทุกที ไม่ใช่แค่น้ำเสียงที่แตกต่าง ทั้งน้ำ
หนักที่กดทับลงมา หรือว่ารูปร่าง รสสัมผัสก็ต่างออกไปจากทุกที

   “แล้วอย่างนี้ล่ะ เป็นไง”

   “อือ แปลกๆ”เพราะพี่ธาราในแบบปรกติจะทำแบบไม่ถามไถ่ นึกจะทำก็ทำ กอบโกยเอาอย่างเดียว แต่ทำไมคราวนี้ถึงมา
แปลก มณีแอ่นอกรับริมฝีปากที่ครอบจูบลงมาบนเม็ดสีส้มอ่อนอย่างแผ่วเบา เรียวฟันสะอาดขบลงบนริมฝีปากพยายามกลั้นน้ำ
เสียง

   จะว่าไป ทำไมพี่ธาราถึงได้ผมสั้นลง ตัวเล็กและหน้าเล็ก แต่เขาคงจะคิดไปเอง มณีคิดเช่นนั้น เสื้อยืดสีขาวถูกถอดออก
ด้วยความเร็วไว มือทั้งสองข้างวางลงบนลาดไล่ขนาดพอเหมาะที่ไม่ว่ายังไงก็ดูเล็กลงไปถนัดตา แต่ก็กอดก่ายเอาไว้ ส่งเสียง
ครางเครือในลำคอ ตอบรับยามที่ลิ้นร้อนตวัดลงบนอกไล่ไปยังแผ่นท้องและไล้วนที่แอ่งสะดือไปมา

   “อือ พะ พี่ธารา เร็วๆ จะทนไม่ไหวแล้ว”

   ออกปากรีบเร่งให้ธาราถอดกางเกงปราการด่านสุดท้ายออกให้เร็วไว สติผิดชอบชั่วดีเลือนหาย แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าที่แห่งนี้คือ
ห้องรับแขก และเขากับอีกฝ่ายกำลังอยู่บนโซฟา

   “ใจเย็นๆสิ คนเก่ง”เสียงนั้นเลื่อนขึ้นมากระซิบข้างหู ปลายนิ้วไล่ไปมาทั่วลำตัวพาลให้ได้รู้สึกดี

   ทนไม่ไหวคว้าคอของอีกฝ่ายมาจูบเป็นการออดอ้อน ริมฝีปากได้รูปเคล้าคลึงอีกฝ่าย สอดลิ้นร้อนเข้าไปเพื่อยั่วยวน แต่ก็
ถูกดันกลับคืนมา ซ้ำยังถูกลุกล้ำเอาเสียเอง

   

   อเลนยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างพึงพอใจ ร่างกายของทศกัณฐ์นั้นหอมหวานกว่าที่คิด ดูเหมือนว่าเวลานี้กายของทศกัณฐ์จะดูหดเล็กมากกว่าเดิม แต่นั่นเขาคงจะคิดไปเอง

   กายของทศกัณฐ์บิดเร่ายามที่ริมฝีปากของเขากอบกุมยอดอกสีหวานนั้น ไม่ทันสังเกตมาก่อนว่ายอดอกของทศกัณฐ์นั้นจะ
สีสวยน่าหยอกเย้าขนาดนี้

   และก็ไม่คิดมาก่อนว่าทศกัณฐ์นั้นจะยินยอมอยู่เบื้องล่างของตนโดยง่ายแบบนี้ มันยิ่งทำให้ได้ใจเมื่อมองเห็นร่างนั่นบิดเร่า
อเลนเหิมเกริมกระซิบคำปลอบใจข้างหูอีกฝ่าย

   “ชอบไหม เด็กดี”

   “อือ ชอบ”

   เสียงตอบรับหวานหูส่งผลให้อเลนพอใจ และยิ่งกว่าพอใจเมื่อถูกยั่วยวน ขาทั้งสองข้างของอีกฝ่ายอ้าออกและตั้งชันให้ได้
แทรกกายเข้าไปใกล้ โน้มกายเข้าหาได้อย่างถนัดถนี่ เวลานี้ท่อนบนของเขาและทศกัณฐ์นั้นเปลือยเปล่า



   มันคงจะดีไม่น้อยถ้าหากทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคือความจริงไม่ใช่เป็นเพราะผลไม้ต้องห้ามเจ้าปัญหานั่น

   กายโปรงบางรูปร่างไม่ต่างกันสักเท่าไรกอดก่ายกันบนโซฟาตัวยาว อเลนโถมกายทาบทับมณีอย่างแผ่วเบา จูบย้ำบนกลีบ
ปากได้รูปไปมาราวกับกำลังลิ้มชิมรสของหวานรสชาติล้ำเลิศ

   ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง เชื่องช้า ละเลียดปลายจมูกโด่งรั้นบนลำคอขาวสะอาด กดน้ำหนักลงเล็กน้อยลาก
ผ่านลงมาตามแนวไหปลาร้าจนมาถึงปลายยอดตั้งชันสีอ่อนอีกครั้ง

   และเช่นเคย อเลนไม่พลาดที่จะหยุดแวะลิ้มรสของมัน มืออีกข้างเคล้นคลึงลงที่บั้นเอวได้รูปของมณีเริ่มลงน้ำหนักอย่าง
หนักหน่วงเมื่อร่างข้างได้ครางอื้ออึงกัดริมฝีปากแน่น

   “เร็วๆสิ”

   มณีออกปากอ้อนวอนร้องเร่งร่างข้างบน กึ่งกลางกายอึดอัดจนรู้สึกว่ามันแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ


   “ใจเย็นๆสิ”อีกฝ่ายเอ็ดกลับมาให้ได้หงุดหงิด

   มือเรียวเอื้อมไปแตะกึ่งกลางกายของอเลนทันที ความต้องการทำให้ทนไม่ไหวแล้วที่จะรอช้า ฝ่ามืออีกข้างลูปไล่แผ่นอก
อีกฝ่ายไปมา ของที่ทั้งร้อนทั้งแข็งกำลังคับแน่นเต็มอุ้งมือ

   

   “อยากทำแล้ว”

   “อย่างเร่งสิ มันไม่ดีรู้ไหม”

   “อื้อ ผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากให้พี่ทำ”

   ครั้งแรกเลยที่ออกปากชวนและร้องขอ มณีเบือนหน้าหนีเล็กน้อยเขินอายเมื่ออเลนเงยหน้าขึ้นมาจูบซับบนขมับของ

   ซิบกางเกงค่อยๆถูกรูดลงอย่างเชื่องช้า ต่างฝ่ายต่างก็ช่วยกันปลดของกันและกัน

   



   และนั่นก็ทำให้ยักษ์ทั้งสองตนที่พึ่งจะเบื่อหน่ายกับการตกลงกันที่ไม่ลงตัวสติแทบจะขาดผึ่งทันทีที่ได้เห็น

   ร่างกึ่งเปลือยของหนุ่มลูกครึ่งหน้าสวยลอยหวือราวกับถูกหิ้วก่อนที่จะถูกมือของยักษ์อีกตนคว้าเหวี่ยงทิ้งให้ได้เจ็บตัวซ้ำ
รอยเหมือนเมื่อครั้งก่อนในอดีต

   “คิดจะทำบ้าอะไรวะเนี่ย”คุณหมอสบถเสียงดังจ้องมองใบหน้าแดงก่ำพลางอุ้มร่างสูงโปร่งเอาไว้ด้วนสองมือในท่าที่ไม่ต่าง
อะไรกับการอุ้มทารกในท่ายืน

   “อือ อย่าดื้อสิ”

   แทนที่จะได้ความมือเรียวเอื้อมมาแตะด้านข้างที่ใบหน้าอย่างเบามือให้ยิ่งได้โมโห

   มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ดูจากหน้าตาแล้วจะว่าเมามันก็น่าจะใช่ แต่ที่แน่ๆทำไมถึงไม่ได้กลิ่นเหล้า ทศกัณฐ์หายใจเข้าออก
แรงๆกำลังจะเดือดดาลเต็มทนกับการกระทำที่พาลให้ลมเพรชหึงกำลังพัดโหมกระหน่ำภายในบ้านหลังนี้ จะว่าไปไอ้สภาพกึ่ง
กางเกงร่นลงมาครึ่งก้นนี่มันอะไร ยิ่งเจ้าอเลนน้อยที่ไม่น้อยสมชื่อตื่นขึ้นมาดันชั้นในสีขาวจนตุงนั้นอีก ไม่คิดว่าเจ้าสิ่งนั้นมันจะ
ต้องมาถูกปลุกให้ตื่นโดยมือคนอื่นแบบนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น

   รู้หรอกว่าคู่กรณีนั้นเป็นรักแรกและรักฝังใจ แต่ไม่คิดว่าจะลืมไม่ได้จนต้องทำกันแบบนี้ เห็นทีคงต้องสั่งสอนและป้อนข้อมูล
ทับข้อมูลเก่ากันยกใหญ่ เอาให้ข้ออมูลเก่ามันลบไปเลยยิ่งดี ทศกัณฐ์ตวัดตาไปมองร่างอ่อนระโหยโรงแรงบนโซฟาอย่างไม่
พอใจทันที

   



   “เจ้านี่ช่างสรรหาก่อเรื่องยิ่งนัก”ธารารีบเร่งฉุดร่างของคนรักขึ้นมา ดึงกางเกงที่ร่นลงไปครึ่งก้น จัดการรูดซิบติดกระดุมให้ใหม่

   ดวงตาดุดันได้เหลือบมองเห็นผลไม้เจ้าปัญหาที่หลงเหลืออยู่เพียงเศษเสี้ยวตกอยู่บนพื้นแล้วก็ถึงบางอ้อ

   “เร็วๆสิ ทำสิ”เสียงออดอ้อนกระซิบมือสองข้างโอบรอบลำคอ

   ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวว่ากำลังสร้างปัญหาใหญ่ หาเข้ามาไม่ทันไม่รู้เลยว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น

   รู้อยู่หรอกว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์มึนเมาของเจ้าผลไม้นั่น แต่ไม่ว่ายังไงพอมองคู่กรณีที่เคยมีคดีด้วยกันมาก่อนแล้วมันรู้สึกว่า
ไม่อยากจะปล่อยวางแล้วอยากจะหันไปโทษคู่กรณีแทน แทนที่จะโทษคนขโมยผลไม้และผลไม้เสียเอง


    เห็นดีนิสัยไม่เชื่อฟังคงต้องถูกขจัดกันไปให้เข็ดหลาบ

   “พี่ธารา ผมอยากแล้ว”

   พอฟังเสียงร้องขอแล้วใจมันก็อ่อนยวบ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่คำพูดหวานหูแบบนี้จะออกมาจากปากของคนรัก

   “ในเมื่อเจ้าร้องขอข้าเช่นนั้น อย่าได้กล่าวโทษข้าทีหลังเสียล่ะ”



   ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   นานนับหลายชั่วโมงแล้วที่ดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาอีกครั้งจนมันเคลื่อนเลยหัวไปอีกฝั่ง

   เหลือกตาประดับแพขนตาดำเงาขยับไหวไปมาอยู่พักใหญ่กว่าจะค่อยๆลืมขึ้นอย่างเชื่องช้าราวกับว่าเปลือกตานั้นหนักอึ้ง
เสียเหลือเกิน

   มณียกมือขึ้นขยี้ตาอย่างเชื่องช้า ความเมื่อล้าและความรู้สึกปวดร้าวเหมือนร่างกายนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆทำให้ต้องฝืนลืมตา
ขึ้นมาเต็มตา มันก็เป็นปกติที่จะตื่นขึ้นมามีแขนของใครคนหนึ่งพาดอยู่บนตัว

   แต่มันไม่ปกติที่ร่างกายนั้นเปลือยเปล่า ช่องทางด้านหลังรู้สึกเจ็บปวดเหมือนมันบวมช้ำจนหุบขาไม่ลง

   ได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอของคนที่นอนสมกอดข้างกายแล้วก็เอี้ยวตัวหันไปมอง ความปวดร้าวทางร่างกายมันยิ่งเด่นชัด
เจ็บจนหลุดปากร้องออกมา


   “ตื่นแล้วรึ?”เสียงทุ้มหูกระซิบถาม

   “กะ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”

   “เจ้าคงจำไม่ได้สินะ”

   มณีจ้องมองธาราด้วยความมึนงง ปกติแล้วต่อให้เผลอหลับไป ยักษ์ที่อ่อนโยนและออกจะดูแลเอาใจใส่เขาอย่างพี่ธาราจะ
ไม่ปล่อยให้เขานอนเปลือยในอ้อมกอดแบบนี้ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น

   ไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่มันก็ต้องเห็นอยู่ดี ข้างของภายในห้องร่วงหล่นระเนระนาด แม้แต่ผ้าม่านปิดระเบียงก็หลุดลุ่ยลงมา
จากราว ข้าวของจากที่เคยอยู่บนโต๊ะก็ร่วงหล่นลงมากระจายเต็มพื้นไปหมด

   สังเกตดูอีกทีหมอที่เคยหนุนก็ไม่ใช่หมอนแต่เป็นแขนของคนรักต่างหาก ส่วนหมอนแต่ละใบก็พากันกระจายกันไปอยู่
คนละมุมห้องแล้วแต่ทิศแต่ทาง พูดง่ายๆคือสภาพห้องนั้นดูไม่ได้เลยสักนิด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆไปมา
แทนคำตอบ

   “ทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนเอง”

   “ผมเป็นคนทำ? มะ ไม่จริงน่า พี่มั่วแล้ว”

   “ตรงนั้นของเจ้าน่าจะยืนยันคำพูดของข้าได้เป็นอย่างดี”

   “ตรงนั้น? ตะตรงไหน”

   ได้แต่หน้าแดงก่ำ ก็แล้วตรงนั่นมันคือตรงไหน มณีบิดก้นไปมาหลบมือใหญ่ไม่ให้แตะโดนกลัวจะไปกระตุ้นความเจ็บแสบ
ให้ได้ทวีเพิ่มขึ้น

   “จำได้รึยัง?”

   “มะ ไม่ ผมจำไม่ได้”ไม่ว่าจะนึกเท่าไรมันก็นึกไม่ออกอยู่ดี ว่าจะต้องทำอีท่าไหนรุนแรงแค่ไหนกันแน่ห้องมันถึงได้พัง
ระเนระนาดได้ขนาดนี้

   “ช่างเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะทำให้เจ้าจำมันได้เอง คราวนี้เจ้าจะจดจำมันได้อย่างเด่นชัดเลยทีเดียวล่ะ ยอดรักของข้า”

   แล้วรอยยิ้มกรุ่มกริ่มนั่นคืออะไร มณีกรีดร้องโหยหวนอยู่ในใจ ยกมือยกปฏิเสธ แน่นอนว่ามันไม่ได้ผล

   “เดี๋ยวก่อนพี่ ใจเย็นๆ ผมทะ ท้องอยู่นะพี่”

   “อย่าห่วงไปใย ลูกของเราแข็งแรงพอ”

   แล้วก็เป็นบทเรียนราคาแพงที่สามารถทำให้คนที่มีนิสัยไม่เชื่อฟังคำเตือนของคนอื่นละทิ้งนิสัยนั้นไปหลังจากที่พบเจอกับ
เรื่องราวสุดแสนประหลาดที่ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น จำไม่ได้แม้กระทั่งผลไม้เจ้าปัญหาที่เก็บเอา
มาจากเกาะ



   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



   เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดไหมว่ากรวดยังไงก็คือกรวด ไม่สามารถเป็นเพชรนิลจินดาได้หรอก

   เหมือนกับคนที่อยู่เหนือกว่า ไม่ว่ายังไงก็ต้องอยู่เหนือกว่าอยู่ดี ตอนนี้เจ้าของใบหน้าที่ไม่ต่างอะไรจากนางในวรรณคดีรู้ซึ้ง
มันดีที่สุด

   ใบหน้าชื้นเหงื่อเงยเชิดขึ้น ริมฝีปากบางเฉียบเผยอรั้นหอบหายใจเข้าปอดราวกับว่ากำลังจะขาดอากาศหายใจ เสียงลม
หายใจหอบกระเส่าบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาเหนื่อยหอบแค่ไหน

   “อยากอยู่ข้างบนไม่ใช่รึไง ขยับสิ อย่าหยุด”

   เสียงออกคำสั่งนั้นดังก้องหู ถูกบังคับให้อยู่ในท่วงท่าที่น่าอาย และมันยิ่งอัปยศไปกว่านั้นคือการที่ไม่สามารถมองเห็นสิ่ง
ใดที่เกิดขึ้นในเวลานี้ได้เลย

   ไม่รู้ว่าวันเวลามันล่วงเลยไปนานแค่ไหน ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้หยุด กายโปร่งบางขยับรับท่อนเนื้อร้อน
เข้าไปข้างใน กลืนกินเข้าไปลึกจนรู้สึกได้ถึงความร้อนอันผะผ่าว

   “พะ พอสักที”

   เสียงร้อนสั่นระริก ขบเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น แขนทั้งสองข้างถูกตรึงให้ไพล่ไปที่ด้านหลัง ถูกมัดเอาไว้ด้วยแรงที่มอง
ไม่เห็น

   “ขยับต่อ ห้ามหยุด”

   “อะ อึ๊ก หยุด ไม่ไหวแล้ว”

   ส่ายหน้าไปมา น้ำตามันพาลจะไหลลงมาเต็มทนทั้งที่ตาทั้งสองข้างถูกปิดเอาไว้ให้มองไม่เห็น และมันแย่ไปกว่านั้นเมื่อ
ท่อนกายใหญ่โตกระทั้นสวนเข้ามารุนแรงหนักหน่วงกระตุ้นให้ปลดปล่อยออกไปอีกครั้ง ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไร รู้แค่ว่าเหนื่อยจน
เอนกายลงไปซบกับแผ่นอกแข็งแรงอย่างหมดแรง

   ทว่ากายข้างในตัวยังคงสอดแทรกเข้ามาไม่หยุดหย่อน ราวกับเป็นบทเรียนอะไรสักอย่างที่ไม่รู้เลยว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้
ถูกทำแบบนี้

   “บอกฉันสิว่าตอนนี้นายกำลังนึกถึงใคร”

   “ไม่”

   “บอกมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่จะหมดความอดทน”

   “อะ อือ คุ คุณ คะ แค่ คุณ”

   ตอบเสียงกระท่อนกับคำคู่ที่ได้ผลถนัดตา ผ้าผูกตาถูกปลดออก แรงที่ตึงแขนเอาไว้คลายลงในพริบตาแขนทั้งสองข้างลู่
ลงกลายเป็นโอบกอดร่างกายกำยำเอาไว้ แนบใบหน้าลงกับแผงอก กัดฟันกลั้นเสียงครางเครือ

   “ดี แล้วก็จำเอาไว้ด้วยล่ะ”

   ถึงจะพูดอย่างนั้น เมื่อตื่นขึ้นมาอเลนก็จำอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะพยายามนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก แต่หลักฐานที่เด่นชัดมันก็
คงเป็นร่องรอยบนร่างกายและความเจ็บที่ทิ้งเอาไว้ให้รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับทศกัณฐ์

   

   และเรื่องทั้งหมดนี้ก็มีเพียงทศกัณฐ์กับธาราเท่านั้นที่รู้เรื่อง และการประชุมลับๆระหว่างสามีและสามีได้เริ่มขึ้นเพื่อทำการ
แยกคู่แข่งของกันและกันออกจากกัน

   

   แต่อย่างไรก็ตาม ยักษ์หนุ่มพ่อพันธุ์ชั้นดีได้แอบถามไถ่ถึงวันเวลาของผลไม้ที่จะออกในฤดูกาลหน้า ดูเหมือนเขาจะติดใจ
ในอิทธิฤทธิ์ของมันซะแล้ว

   ในขณะที่คุณหมอยักษ์เองก็แอบไปย่องถามเช่นกันว่าผลไม้เจ้ากรรมนั่นพิกัดอยู่แห่งหนไหน จะได้ถอนรากถอนโคนทิ้งซะ
ไม่ให้เหลือ



   เรื่องราวทั้งหมดมันก็เป็นเช่นนี้ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ภาคแรก

   ขอโทษในภาษาที่เป็นกันเองมากเกินไปของโซอึนล่วงหน้า เพราะคิดว่ามันเป็นตอนพิเศษที่ค่อนข้างอยากให้ตลก เลยใช้
ภาษาบ้านๆ ยังไงก็รอภาคสามกันต่อไปนาจา

   

   





ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
โถถังกะละมัง จินตนาการแค่พอเหมาะพอควรนะมณี อเลน โพสิชั่นนี้เค้ากำหนดมาตายตัว ห้ามเปลี่ยนจ้ะ!!!!  :laugh: !

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด