ตอนนี้อย่าว่าผมน๊า...
.....................................................
ตอนที่ 42 มุมเล็กๆ ในเมืองเชียงใหม่บ่ายวันจันทร์ ตามตั๋วเครื่องบิน ผมจะต้องบินกลับในวันอังคารเพื่อทำงานในวันพุธ
เพื่อนผมไปติดต่องานอีกที่นึง ส่วนผมเอง ก็ไม่มีอะไรทำเพราะของฝากก็เพิ่งไปเดินซื้อที่ถนนคนเดิน ไปเมื่อวาน วันนี้ ว่างๆ ผมก็เลยขับรถออกจากบ้านเพื่อน โต๋เต๋ไปมาสักพัก ก็กลายเป็นว่าผมกำลังขับรถขึ้นพระธาตุดอยสุเทพฯ แล้ว...
หลังจากนมัสการองค์พระธาตุฯ เสร็จ ผมก็นั่งเล่นอยู่แถวๆ รอบพระธาตุฯ นึกถึงเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่เคยพาไอ้ชลขึ้นมาเที่ยวที่นี่ มันดูตื่นเต้นกับทุกๆ สิ่งที่เป็นเชียงใหม่เสียจริง
..........................................................
“กูชอบที่นี่ว่ะ ดิน... อากาศดี ผู้คนเป็นมิตร... วัดวาอารามเยอะแยะ... กูว่า กูอยากอยู่ที่เชียงใหม่นะ” ไอ้ชลบอกผมหลังจากมองผ่านกล้องที่เค้าให้เช่าดูหลังองค์พระธาตุ ลงไปที่เมืองเชียงใหม่
“ก็มาอยู่ดิ...” จำได้ว่าผมบอกมันไปอย่างนั้น
“แล้วมึงล่ะดิน... มึงอยากมาอยู่ที่นี่ป่ะ...”
“กูไม่รู้เหมือนกัน...”
“ถ้าเรามาอยู่ที่นี่ด้วยกันคงดีนะ ดิน” มันหันมาบอกผม ตาเป็นประกายก่อนจะรีบบอก... “กูหมายถึง เราอยู่เป็นเพื่อนกัน บ้านอยู่ข้างๆ กันน่ะ...”
ผมยิ้มให้มันอย่างฝืนๆ เพราะตอนนั้นผมยังตามหาน้องษาไม่เจอเลย...
..........................................................
ผมนั่งเล่นอยู่บนดอย นานพอดู จนเริ่มเย็น ถึงขับลงมาจนกระทั่งถึงหน้าสวนรุกขชาติตรงข้ามสถานีตำรวจห้วยแก้ว ก่อนถึงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีคนมาวิ่งออกกำลังกายหลายๆ คน ผมจึงจอดรถลงไปเดินเล่นอยู่พักใหญ่ อากาศกำลังดี แต่เข้าหน้าหนาวแล้วพอหกโมงกว่า ก็มืดสนิท...
ผมเดินออกมายืนตรงฟุตบาทริมถนนหน้าสวน สังเกตดูมีรถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่สองสามคันแต่ไม่เห็นคนขับ... กำลังลังเลว่าจะไปไหนต่อดี ก็มีมอเตอร์ไซค์อีกคัน เข้ามาจอดไม่ไกลจากผมนัก
คนขับ (ไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อค) เป็นเด็กหนุ่มอายุน่าจะไม่เกินสิบแปดสิบเก้าปี หน้าตาใสไว้ผมแบบเกาหลียอดนิยม... นุ่งกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอกลมทับด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตสีทึบ...
ตอนแรกน้องคนนั้นตั้งท่าจะเดินเข้าไปในสวน แต่แล้วก็ทำท่าชะงักนิดนึง ก่อนจะเดินเข้ามาหาผม
“พี่ครับ... กี่โมงแล้วครับ”
ผมยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา... “หกโมงสี่สิบห้าครับ...”
น้องเค้ามองหน้าผมยิ้มๆ “ขอบคุณครับ... พี่มาคนเดียวเหรอครับ มาจากกรุงเทพใช่ป่ะ”
ผมมองหน้าน้องเค้าอย่างรู้ทัน (มุขอย่างนี้ ถึงจะอ่านง่าย แต่มันก็ได้ผล) “ครับ... พี่มาจากกรุงเทพฯ มาคนเดียว พอดีไม่มีอะไรทำ ก็เลยแวะมาเดินเที่ยวครับ”
น้องเค้ามองซ้ายมองขวา...ก่อนจะเอ่ยปากชวน “เข้าไปเดินเล่นกันในสวนไม๊ครับ พี่...”
ช่วงนั้น ถึงผมจะไม่อดอยาก แต่ก็ว่างเว้นมาร่วมอาทิตย์แล้วเหมือนกัน และดูๆ แล้วน้องเค้าไม่น่าจะเป็นอันตรายกับตัวผม (กับไอ้ดินน้อยไม่แน่... หุ หุ) ก็เลยพยักหน้า “ไปสิ”
เราเดินไปตามทางที่ทำเป็น จ๊อกกิ้งแทรค ลึกเข้าไปในสวน ค่อนข้างมืด แต่ก็ยังมีแสงไฟจากถนนและบ้านพักที่อยู่ด้านหลังสวน ส่องเข้ามาให้เห็นรางๆ
“พี่... ผมชอบอม... พี่ชอบยังไงครับ” จู่ๆ น้องเค้าก็ถามผมไม่อ้อมค้อม... อือมมมม เด็กสมัยนี้มันตรงกันดีจริงๆ ไม่ต้องอารัมภบทกันมาก...
“พี่ชอบให้อมครับ...” ผมบอกตรงๆ เหมือนกัน เพราะไม่รู้จะอ้อมค้อมไปทำไม...ไอ้ดินน้อยมันก็เริ่มจะกระดุกกระดิก กระสากลิ่นเหยื่ออยู่ในกางเกงแล้ว
น้องเค้าเอื้อมมือมาจับที่เป้ากางเกงยีนส์ของผม บีบขยำเบาๆ ก่อนจะทำตาโตบอก... “บะเริ่มเลยนี่ครับ”
“ก็... ไม่เบา ว่าแต่ว่า ปลุกมันตื่นแล้วก็รับผิดชอบด้วยละกัน”
“อยู่แล้ว...” เด็กหนุ่ม หันมายิ้มทะเล้น ดึงผมเข้าไปใต้ต้นไม้ใหญ่ ที่ค่อนข้างมืดพอสมควร... นั่งลงคุกเข่าตรงหน้าผม เอื้อมมือมาปลดหัวเข็มขัดพร้อมกับกระดุมเม็ดบน พอหลุดออก น้องเค้าก็ดึงเป้ากางเกงยีนส์แบบติดกระดุมของผมทีเดียวอย่างรีบร้อน มือไม้สั่นจนผมหัวเราะหึๆ
“ใจเย็นๆ ครับ พี่ไม่หนีไปไหนหรอก...”
น้องเค้าไม่พูดต่อ พอกางเกงยีนส์ของผมออกมาได้ ก็ล้วงมือเข้าไปควักไอ้ดินน้อยออกมาจากกางเกงในที่ห่อหุ้มทันที ใช้มือรูดเข้ารูดออกสองสามที ไอ้ดินน้อยก็ชูคอผงาดเต็มขนาดสู้มือ เล่นเอาคนที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าถึงกับคราง...
“อาวววว์ ใหญ่เบิ้มเลย... อูยวซซ พี่ฝังมุกด้วยเหรอ กี่เม็ดเนี่ยะ...”
“นับดูสิ... หึ หึ”
แต่น้องเค้าไม่เสียเวลานับหรอกครับ เพราะจับรูดไม่กี่ที ก็อ้าปากอมหัวบานๆ ของไอ้ดินน้อยเข้าไปเต็มปากเต็มคำ... ไม่แม้แต่จะถลกกางเกงในของผมลงให้สุด จนผมต้องเอานิ้วหัวแม่มือเกี่ยวรูดถลกลงไป ก่อนจะควักเอาไข่สองลูกออกมาสัมผัสอากาศเย็นๆ ภายนอก
ดูเหมือนน้องเค้าจะรัญจวนกับเม็ดมุกที่ฝังอยู่บนท่อนKของผมไม่น้อย จากที่อ้าปากอมรูดอยู่พักใหญ่ ก็ค่อยๆ เอาลิ้นตวัดเลียไปตามลำท่อน พอเจอเม็ดมุกก็เม้มด้วยริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะละไปที่ยังเม็ดอื่นพอถึงโคน เหมือนรู้ใจ น้องเค้าก็อ้าปากอมเอาไข่สองลูกของผมเข้าไปในปาก ก่อนจะใช้ลิ้นดุนเล่นไปมา เล่นเอาผมต้องครางออกมาอย่างสุดเสียว
“อูยซซซ น้องครับ... อาซซซี๊ดซซซ ดีครับ อูยซซซ”
พอรู้ว่านั่นคือจุดกระสันที่เสียวที่สุดของผม เด็กหนุ่มนิรนามก็ไม่รอช้า เร่งโจมตีจุดอ่อนของผมอย่างเป็นงาน ไข่สองใบของผมแทบจะไม่ได้ออกมาอยู่ข้างนอก... โดนน้องเค้าอมไว้ไนปากก่อนจะใช้ริมฝีปากเม้มดึงออกไปเบาๆ
ผมยืดตัวหงายหน้า หลับตาปี๋สูดปากเบาๆ อย่างเสียวสุด...
“อาซซซู๊ดดดซซซซ น้องครับ... อูยซซซี๊ดดดซซซซซ”
เสียงเหยียบใบไม้แห้งดังกร๊อบแกร๊บ ทำให้ผมสะดุ้งนึกขึ้นมาได้ว่าไม่ได้อยู่ในที่ลับตาคนสักเท่าไร หันไปมองก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ของคนๆ นึง ยืนมองอยู่ไม่ไกล... กำลังจะดึงกางเกงขึ้นมา แต่เด็กหนุ่มที่อมไข่ของผมเข้าไปตุ่ยเต็มปากทั้งสองลูก ทำอาการว่าไม่เป็นไร ก่อนจะหันไปทางคนนั้น กวักมือให้เข้ามาร่วมกิจกรรมกลางสวนรุกข์ของเราสองคน
พอได้รับสัญญานไฟเขียว แขกที่เพิ่งได้รับเชิญก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงข้างๆ เด็กหนุ่มคนที่อมไข่ของผมอยู่เต็มปาก... ไม่ทันไร ท่อนKของผมก็อยู่ในมือของคนมาใหม่แล้ว
“อูยซซซ ใหญ่เต็มมือเลย... ฝังมุกด้วย... สุดยอดดดด...” เสียงคนมาใหม่ ครางเบาๆ อย่างสะใจ ก่อนจะอ้าอมเอาหัวบานๆ ของท่อนฝังมุกของผมเข้าไปในปาก เหมือนกับกระหายอยากมานาน...
คนมาใหม่ดูเหมือนจะมีประสบการณ์ในการอมKมากกว่าคนแรก ทั้งปากทั้งลิ้นร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพ ริมฝีปากขบเม้มที่ท่อนK ส่วนลิ้นทำหน้าที่เลียกระหวัดไปตามเงี่ยงหัวบาน กระพุ้งปากดูดดุนไม่มีตกเล่นเอาผมครางด้วยความเสียวกระสัน
“อ๊าซซซ ซี๊ดดดซซซ อูยซซซ สุดยอด”
คนแรกที่ทำหน้าที่อมไข่ผมอยู่ พอได้ยินเสียงผมครางกระสัน ก็หันไปจัดการกับพวงไข่ของผมอย่างหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น ริมฝีปากหยุ่นๆ นุ่มๆ อุ่นๆ ทำหน้าที่ดูดดุนไข่สองลูกของผมอย่างเมามัน
“อูซซซซี๊ดดดซซซ อาซซซ”
จากหนึ่งคนในตอนแรก ตอนนี้กลายเป็นสองคนที่รุมย่ำยีพวงไข่กับKฝังมุกของผม ซึ่งผมก็ได้แต่ยืนกางขาแอ่นเอวให้น้องเค้าจัดการกับพวงไข่และท่อนKของผมอย่างสะดวก
ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะสามารถแท็คทีม ร่วมมือกันได้เป็นอย่างดี ทั้งปากทั้งลิ้นของทั้งสองคน ประสานทำงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ เล่นเอาผมยืนขาแข็ง เกร็ง กัดฟันกรอดด้วยความเสียวที่ไม่ขาดตอน
“อาซซซ อูยซซซ สุดยอด โคตรเสียวเลย...อาซซอัซซซ”
บรรยากาศในสวนที่ไม่ไกลจากถนนใหญ่นัก ยังเห็นรถวิ่งไปวิ่งมาอย่างชัดเจน แถมฝั่งตรงข้ามเป็นสถานีตำรวจสร้างความตื่นเต้นอย่างมากมาย อีกทั้งสองคนที่รุมสกรัมลำKของผมอยู่ก็จัดได้ว่า “มืออาชีพ”...
จนกระทั่ง ความเสียวพุ่งขึ้นถึงขีด... “อาซซซ อูยซซซี๊ดดดซซซ อาซซซ์ จะแตกแล้ว...อ๊าซซซ”
ผมเกร็งตัวด้วยความเสียว ขณะที่น้ำแรกจากท่อนลำ พวยพุ่งกระฉูดฉอกเข้าคอของคนที่อ้าปากรอเข้าไปเต็มๆ... พร้อมๆกับระลอกสองที่ตามมาติดๆ...
คนที่อยู่ด้านล่างรีบคายไข่สองลูกของผมออกจากปาก ก่อนจะอ้าปากอมหัวบานที่กำลังกระฉูดอีกระลอกตามออกมา... จากนั้นสองคนก็ร่วมกันแบ่งกันทั้งดูดทั้งเลียน้ำที่ทะลักออกมาจากท่อนKของผมจนหมด มิหนำซ้ำยังใช้มือรีดส่วนที่ค้างอยู่ในท่อใต้ลำออกมา กะไม่ให้เหลือตกค้างเลยแม้แต่หยดเดียว...
“อาซซซซ... หมดแล้วคร๊าบ อูยซซซ...”
ผมหัวเราะหึๆ เมื่อเห็นทั้งสองคนยังรีดเร้น ลำKของผมพอมีน้ำปริ่มออกมาจากรอยแยกตรงปลายก็แย่งกันใช้ลิ้นปาดเลียไปจนเกลี้ยง... กว่าจะยอมให้ผมดึงกางเกงขึ้นมานุ่งไว้ตามเดิม...
พอผมแต่งตัวเรียบร้อย... น้องคนแรกที่ชวนผมเข้ามาในสวนก็เข้ามากอดหลวมๆ ก่อนจะบอกว่า
“ขอบคุณครับพี่...”
ตอนผมขับรถกลับมาที่เกสต์เฮาส์ ยังนึกๆ ว่าผมเคยอ่านผ่านๆ เรื่องการมีเซ็กซ์เอ้าดอร์ที่เชียงใหม่ ดูเหมือนว่าสวนรุกขชาติ จะเป็นที่นึงที่รวมอยู่ในสถานที่เหล่านั้นด้วย ไม่นึกเหมือนกันครับว่า... จะโดนกับตัวเอง...
อีกมุมเล็กๆ ในเมืองเชียงใหม่จริงๆ...
..........................................................
เล่าไปเล่ามากลายเป็นเหตุการณ์ ปัจจุบันได้ไงไม่รู้ครับ... แหะ แหะ เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ