สวัสดีคร้าบ นักศึกษารายงานตัว อิอิ ไม่น่ามายุผมเลย ดูเด็กลงทันที เลยเห็นปะ จะว่าไปเรียกว่านักศึกษาไม่ถูกเต็มร้อยครับ ต้องเรียกอีกแบบ ไปคิดเอาเอง หุหุ ผมเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ครับ ปูทางยึดอำนาจบริษัท
พอดีกำลังจะอาบน้ำ แต่งตัว เดินทางไปเรียนครับ ผมเรียนเสาร์ - อาทิตย์ มีวันธรรมดาบ้าง ไว้จะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ
มาต่อตอนใหม่กันเลย ร่ายมานานละ ... รับรองไม่ค้าง ชัว
------------------------------------
ตอนที่ 5
ผมแบกพี่บอลลงจากรถ และพยายามให้พี่เขากอดคอ ไม่รู้ว่าผมคิดมากไปเองหรือปล่าวนะ พี่บอลเขาเหมือนไซร้ซอกคอผมตลอดเลย มี อ่ะ มีอื้อ วนอยู่ตรงคอผมเนี่ย
“ อ้าว ... พี่ ทำไมพี่บอลเมาขนาดนี้ล่ะพี่ ” น้องของพี่บอล ชื่อบาส ทำหน้างงๆ ... ถอดแว่นแล้วตาสวยมากเลยน้อง คิคิ
“ โดนพวกเพื่อนๆยุน่ะ ช่วยพี่แบกหน่อยสิ ” เริ่มไม่ไหวแล้วอะ เล่นทิ้งลงมาทั้งตัว ผมกับพี่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากหรอกนะหุ่นเนี่ย
“ โห แบกกันมายังไงเนี่ย คอแดงหมดเลย … มะครับ โอ้ย ” บาสเดินเข้ามาช่วย แต่โดนพี่บอลปัดจนหน้าหงายเลยครับ แล้วทำไมผมไม่โดนวะ อิอิ โชคดีๆ
“ อย่ามา โย้งเด้ ไปนอนไป๊ ” อ้าว ตื่นละนี่ สุดท้ายก็ต้องช่วยผมนั้นแหละครับ เพราะผมไม่ไหวจริงๆ
พอถึงห้อง ผมก็จัดให้พี่เขานอนบนเตียง ถอดรองเท้ากับถุงเท้า ปลดกระดุมให้ ... นอนแผ่เลยพี่กู
“ พี่กลับเลยแล้วกันนะ ” ที่จริงกะจะขอนอนห้องพี่เขา แต่ดูแล้วมันเป็นเตียวเดี่ยว (แบบนอนคนเดียว)
“ นุ ... อื้ออ ” ครางเรียกผมซะงั้น
“ พี่นอนห้องผมก็ได้ครับ จะได้ดูแลพี่บอลด้วย ” บาสเสนอครับ ... เอาไงดี
“ นุ ... ร้อน อื้อ ” อีกละ น้องบาสมองๆดู แล้วทำท่านึก
“ ผมว่าพี่นอนห้องนี้แหละ เดี๋ยวผมไปเอาผ้าปูมาให้ ” แล้วก็เป็นตามนั้น ต้องค้างที่นี่เพราะดึกมากแล้ว
ผมโทรศัพท์บอกแม่ และหาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ทั้งผมและพี่บอลด้วย ตอนนี้บาสกลับไปแล้ว เหลือผมสองคนในห้อง ผมอดมองหน้าพี่บอลไม่ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่คิดอะไรหรอก แต่ตอนนี้ ... พี่เขาบอกว่าชอบผม ถ้าเป็นทุกคนจะคิดยังไง
“ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก่อนดีกว่า … เหวออ ” จังหวะที่ผมก้มลงไปปลดกระดุมเตรียมจะถอดเสื้อนอก พี่บอลก็ลุกขึ้นมากอด และดึงผมลงไปกอง พร้อมกับจูบปากผมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว
“ อึ้ก ... อึ้ย พี่บอล ... พี่! ” พี่บอลไม่สนใจฟังผมสักนัด แถมยังลุกผมหนักขึ้นเรื่อย มือไม้ของพี่เขาเริ่มล้วงเข้าไปเสื้อ ท่าทางพี่เขาเก้ๆกังๆ เรายื้อแยกกันนานจนหมทนไม่ไหว
“ เฮ้ยพี่ ... ไม่ปล่อยกูจะต่อยนะเว้ย ... ” ขู่ก็แล้ว ยังไม่ฟัง งั้นอย่าหาว่าผมโหดร้ายแล้วกัน
“ พลั่ก ... ” ผมไม่ได้ต่อยเขาหรอกครับ แค่ผลักออก แต่พี่เขาเอนล้มลงไปเอง จังหวะที่ผมกำลังจะด่า ผมหันเป็นเห็นแววตาที่เศร้าสร้อยของพี่เขา เล่นเอาใจผมหายวาบเลย
“ ... ” ขอบตาพี่เขาหรี่ลงช้าๆ ที่หนักไปกว่านั้นคือ คล้ายๆพี่เขาร้องไห้ พี่บอลหันหน้าหนี ชักเข่าขึ้นมาเกาะ ผมรีบคุกเข่าเข้าไปหาพี่เขา เพราะความรู้สึกของผม เข้าใจว่าพี่เขาอาจจะขาดความอบอุ่น (ไม่เห็นพ่อแม่อยู่ด้วยอะครับ มีแต่น้องบาสกับแม่บ้านพ่อบ้าน)
“ พี่บอล ... ผมขอโทษนะพี่ ” พี่บอลเงยหน้าขึ้นมามองผมช้าๆ
“ นุ ... นุไม่เคยรู้อะไรเลยเหรอ ” นี่ถ้าตอนนั้นมีหนังเพื่อนสนิทแล้วนะ คงจะซึ้งกว่านี้ อิอิ
“ อะไรเหรอครับ ” ผมก็ยังแกล้งโง่นั้นแหละ
“ รู้ไหมว่า พี่ไม่ได้เมาเลยสักนิด ตั้งแต่อยู่ที่งานแล้ว พี่พูดจากใจนะ ” อึ้งแดรก
“ พี่แค่แกล้งให้คนอื่นเข้าใจว่าพี่เมา แต่กับนุ พี่อยากอยู่กับนุแค่สองคน ” หนักกว่าเก่าอีก ตอนนี้ผมจะเมาแทนแล้วล่ะ
“ งั้นเมื่อกี้ ... พี่ก็ตั้งใจสิ ” พี่บอลตกใจนิดๆ คงนึกว่าผมจะโกรธ ซึ่งจริงๆแล้ว ... โคตรโกรธเลย ผมลุกขึ้นเตรียมจะกลับ ตอนนั้นอารมณ์โกรธพุ่ง ขอไปจากที่นี่ก่อน
“ นุ ... อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่อดใจไม่ไหว ถึงพี่ไม่เมาแต่พี่ก็ดื่มไปเยอะนะ มันก็ต้องมีบ้างที่พี่ห้ามมันไม่ได้ ... อยู่กับพี่ก่อนเถอะ อีกอย่าง นุจะกลับยังไง ” ถูกเลย ตรงประเด็น ถ้าจะกลับ กูจะกลับยังไง -*-
“ ผมไปนอนห้องบาสนะ ”
“ บาสมันรู้ตั้งนานแล้ว ว่าพี่ชอบนุ มันไม่ให้นุนอนด้วยหรอก ” แป่ววว สรุปแล้วผม ต้องทนอยู่ที่นี่ใช่ไหมเนี่ย ผมเลือกที่จะเงียบ ไม่คุยกับพี่เขา จนพี่บอลลุกไปอาบน้ำ ผมถึงโทรศัพท์หาไอกี ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว ... ปิดเครื่องทำไม หรือว่าไอต้าจะเผด็จศึก จะโทรหาต้นสนข้าวปุ้น ก็น่าจะไม่สะดวก เอาวะ นอนเล่นแล้วกัน
“ อื้ม ... อะ เฮ้ย ... พี่บอล ทำไมอะไร ” พอลืมตาก็เห็นหน้าพี่บอลเต้มสองตา พี่เขาใช้จมูกชนกับจมูกของผม ปัดๆ ไปมา ผมงี้เขินสุดๆเลย ทำได้ไงเนี่ย
“ อารมณ์ดีขึ้นแล้ว คุยกับพี่ได้หรือยัง ”
“ ก็คุยไปสิ ”
“ นุรับพี่เป็นแฟนได้ไหมครับ ” -*- ง่ายมาก
“ ถามจริงๆนะพี่ ผมผู้ชายนะ ทำไมต้องเป็นผม ” ผมยังเชื่อมั้นว่า ผมเป็นผู้ชายเต็มร้อย ... ถึงไม่เต็มก็เกือบแหละน่า
“ นุแน่ใจเหรอ พี่ดูแมนกว่านุ พี่ยังไม่เคยมั่นใจเลย ” โหหห แบบนี้น่ามีเรื่องด้วยจริงๆ หาว่าผมติ๋ม
“ ถึงไม่แมน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมาคิดเอาเองว่าผมชอบพี่ ”
“ พี่ไม่ได้บอกว่านุชอบพี่นี่ครับ พี่ไม่เคยพูดเลยสักครั้งนะ พี่แค่บอกว่าพี่ชอบนุ ”
“ พี่เคยบอกว่าชอบกี สุดท้ายมาบอกชอบผม พี่จะเอาใครกันแน่ ”
“ น้อยใจเหรอครับ ” ดูเขาๆ ยังมีอารมณ์กวนอีก
“ อ่ะ ๆ อย่าเพิ่งโกรธ พี่จะบอกทุกอย่างให้ฟัง ... หาอะไรมานั่งกินดีกว่าไหม ” ทำอย่างกับดูหนังอะเนอะ มีหาอะไรกินก่อน พูดไปงั้นแหละครับ สุดท้ายก็ขอเป๊ปซี่มากระป๋องนึง
“ พี่ชอบนุมานานแล้ว ตั้งแต่นุยังอยู่ ม.ต้น ” เกือบสำลึกเป๊ปซี่
“ เป็นเกย์มานานขนาดนั้นเลยเหรอ ” พักหลังไม่ค่อยมีหางเสียง เป็นเพราะงอน ไม่ใช่ๆ เพราะยังโกรธนิดๆ เรื่องที่โดนจูบปากครับ
“ ไม่รู้สิ พี่ไม่เคยมีแฟนสักคนไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย มองใครก็สวยก็หล่อตามปกติ มีแต่นุนี่แหละคนแรกที่พี่อยากเห็นทุกวัน ” คำพูดเหมือนมืออาชีพเลย อุอุ
“ แล้วไงครับ ”
“ ตอนนั้น พี่อยู่ ม.4 พี่รู้ว่าเราอยู่สีเดียวกับพี่ตั้งแต่เราอยู่ ม.2 พี่เลยขอเป็นลีดเดอร์ เพื่อจะได้เจอกับนุที่เป็นนักกีฬาฟุตซอลตอน ม.3 ไอกีเลิกเป็นักแบดตอน ม.2 ใช่ปะ ” รู้จริงนี่ ระหว่างที่เล่าผมก็สังเกตนะครับ พี่เขาดูมีความสุขอะ เหมือนได้ปลดปล่อย ก็เอาเถอะนะ ถือว่าช่วยๆกันไป รุ่นพี่รุ่นน้องกัน
“ ตอนนั้น พี่ขอแค่ได้เห็นก็พอใจแล้ว ... จนกีฬาสีจบ พี่น่าจะลืมเพื่อหาคนอื่น แต่มันไม่ใช่ พี่เหมือนจะรักนุเข้าแล้ว หลายครั้งนะที่พี่ตีสนิทเรา แต่ก็อย่างว่า ผู้หญิงชอบเราเยอะ รู้ไหมว่าพี่น้อยใจตัวเองมากที่ไม่มีอะไรพอให้นุเหลียวแล ” ยิ่งฟังผมยิ่งรู้สึกเห็นใจ ถึงผมไม่เคยมีความรักแบบพี่เขา แต่ก็มีบ้างที่ผมเป็นฝ่ายเฝ้าคอย และส่วนใหญ่เพราะความไร้เดียงสาก็มักจะอกหัก
“ แล้วทำไมพี่ยังหวังอยู่อีกล่ะครับ ”
“ มันเป็นสิ่งยืนยันไงนุ ว่าถ้าไม่รักพี่คงรออย่างมีความหวังไม่ได้ ... ถ้าพี่จะถามว่าตอนนี้ นุพอจะให้โอกาสพี่ได้ไหม นุครับ นุจะตอบพี่ยังไง ” บ๊ะแล่ว ๆ ...
-----------------------------------------------
ไม่ค้างฟันธง