ตอนที่24
หลังจากทำความสะอาดบ้านเสร็จไปได้พักใหญ่ๆ อเล็กเซียก็ทำการต้อนรับเรเวนที่มาเยี่ยมพร้อมกับของฝากมากมาย เด็กชายพอมาถึงก็พูดคุยไม่หยุดจนเขาอดที่จะเหนื่อยแทนไม่ได้
“พูดช้าๆหน่อยก็ได้เรเวน”
“ขอโทษอเล็กเซียข้าตื่นเต้นไปหน่อย” เรเวนฉีกยิ้มกว้างก่อนจะลดระดับความเร็วในการพูดลงตามที่อเล็กเซียขอ แต่กระนั้นก็ยังคงพูดไม่หยุดเช่นเดิม
“เอียนเต้เองก็ไปช่วยพวกผู้ชายในหมู่บ้านสร้างเรือนหอเหมือนกันหรือเรเวน”
“ใช่แล้ว ข้าก็เลยฉวยโอกาสที่ว่างๆมาเยี่ยมเจ้าอย่างนี้ไง อเล็กเซียชอบแยมสตอร์เบอร์รี่ที่ข้าเอามาให้ไหม”
“ก็ชอบอยู่นะ แต่คนที่ชอบมากจริงๆน่าจะเป็นเอเดรียนนั่นล่ะ”
“อ้อ...จริงๆๆ เอเดรียนเขาชอบสตอร์เบอรี่มากจริงๆนั่นล่ะ”
“เอ๋...สรุปว่าชอบจริงๆสินะ หมู่นี้ข้าก็สังเกตเห็นได้อยู่” อเล็กเซียทำหน้าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในใจนึกอยากจะทำอะไรซักอย่างเพื่อเอเดรียนที่ชื่นชอบในสตอร์เบอร์รี่
“เรเวนเจ้าสอนข้าทำแยมสตอร์เบอร์รี่ได้หรือไม่”
“โอ้ได้แน่นอนอเล็กเซีย เอ อย่างนี้เริ่มกันเลยไหมข้าเอาสตอร์เบอร์รี่สดมาเผื่อด้วยพอดีเลย”
“ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีนะ”
อเล็กเซียดีใจจริงๆที่ได้ทำในสิ่งที่คาดไว้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ทว่าขณะที่จะเข้าครัวไปพร้อมกับเรเวนก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่หน้าบ้าน เด็กหนุ่มจึงขอให้เรเวนรออยู่ในบ้านชั่วครู่
เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบกับมีอาที่ยืนเชิดใบหน้ารออยู่ อเล็กเซียถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่รู้เลยว่าหญิงสาวมาที่บ้านทำไม มาหาเอเดรียนอย่างนั้นหรือ ช่วยไม่ได้หากอยากรู้ว่าเอเดรียนไปไหนเขาจะบอกให้ก็แล้วกัน
“เอเดรียนไปช่วยคนในหมู่บ้านสร้างเรือนหอ สามีของข้าเขาไม่อยู่ที่บ้านหรอกนะ”
“ข้ารู้แล้ว”
อเล็กเซียเลิกคิ้วขึ้นด้วยความฉงน ถ้ารู้แล้วเหตุใดมีอาถึงได้มาที่บ้านซึ่งไม่มีเอเดรียนอยู่ ชักไม่ชอบมาพากลเสียแล้วสิ หรือว่าต้องการอะไรจากเขาหรือเปล่านะ
“ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า”
“อ้อ.....ถ้าอย่างนั้นจะเข้าไปคุยในบ้านไหม”
“ไม่ต้องข้าจะพูดกับเจ้าตรงนี้ล่ะ”
“เข้าใจแล้ว” อเล็กเซียรอให้มีอาพูดในสิ่งที่ต้องการ มีอาไม่ปล่อยให้เขารอช้าเธอพูดในสิ่งที่คิดออกมาทันที
“เจ้าออกจากหมู่บ้านเราไปเสีย”
นี่หรือคือสิ่งที่มีอาต้องการจะพูด อเล็กเซียพอจะเดาได้อยู่บ้างแต่ไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าพูดออกมาตรงๆ
“เหตุใดข้าต้องไปด้วย”
“ก็เพราะเจ้าไม่ได้รักเอเดรียน จริงหรือไม่ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่ลอบนัดพบคนของเจ้าเพื่อขอยาพิษหรอกใช่ไหม”
อเล็กเซียตกใจจนพูดไม่ออก นึกไม่ถึงว่ามีอาจะทราบเหตุการณ์ระหว่างเขากับไอแซคด้วย เธอคนนี้คงแอบตามเขาไปตั้งแต่แรกซึ่งบังเอิญพบกันอย่างแน่นอน
“จริงใช่ไหม เจ้าไม่ได้รักเอเดรียน ดังนั้นก็อย่าทนอยู่ต่อไปเลย ไปเสียให้พ้นจากเอเดรียนและเผ่าของเรา ขอร้องล่ะอย่ามาทำให้เอเดรียนเสียใจ”
มีอาพูดจาร้อนแรงด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น อเล็กเซียสัมผัสได้ถึงความรักและความจริงใจที่เธอมีต่อเอเดรียน
“ข้าไม่ไปอย่างเด็ดขาด”
“ทำไมล่ะ เจ้าเองก็ไม่เต็มใจจะแต่งงานกับเอเดรียนไม่ใช่หรือหรือว่าข้าเข้าใจผิด”
มีอาเริ่มจะตะโกน อเล็กเซียพยายามใจเย็นพูดในสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเองออกไป
“จริงของเจ้ามีอาข้าเกลียดเอเดรียน” เมื่อพูดออกไปมีอาก็ยิ้มกว้างออกมา
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะไปจากเผ่าเราใช่ไหม”
“ไม่ใช่ ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น เพราะเวลานี้ข้ารักเอเดรียนหมดหัวใจ” ตอนนี้มีอาเม้มปากเข้าหากันด้วยท่าทางที่ราวกับจะหยุดหายใจ หญิงสาวทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้าจะคิดว่าข้าโกหกก็ได้ แต่ความดีของเอเดรียนทำลายกำแพงหัวใจของข้า มันทำให้ข้ารักเขาอย่างไม่อาจถอนตัว และจะไม่มีสิ่งใดที่จะพรากข้าจากเขาไปได้”
“เจ้าโกหก” มีอาพึมพำ สีหน้าของเธอบอกชัดว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“ไม่ได้โกหกมีอา หากเจ้ารักเขาเช่นกันคงจะรู้ดีว่าเอเดรียนมีข้อดีมากมายแค่ไหน ความรักที่เอเดรียนทุ่มเทให้ข้ามันมากพอที่จะทำให้รักตอบได้ไม่ยาก และข้าก็ได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าจะทุ่มเทความรักตอบแทนความดีงามของเขาด้วยการรักและอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต อยากให้เจ้าเข้าใจตรงนี้ด้วย”
มีอาทำสีหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ มือเรียวงามทั้งคู่กำชายกระโปรงของตนเอาไว้แน่น
“ข้าบอกให้เจ้าไปเสียอย่างไรเล่า” ในที่สุดเธอก็ระเบิดโทสะออกมา มีอาใช้มือยื้อยุดอเล็กเซีย เด็กหนุ่มเดาว่าเธอคงตั้งใจจะใช้กำลังไล่เขาออกจากหมู่บ้านด้วยคุมสติไม่อยู่
“ออกไป ออกไปเสีย”
มีอากล่าวทั้งน้ำตา ตอนนี้กลายเป็นว่าพวกเขาสองคนต่างก็ออกแรงต้านกันไม่ลดละ มีอาไม่ยอมแพ้ อเล็กเซียก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบเช่นกัน ชั่วจังหวะที่พัลวัลกันอยู่นั้น เพราะเด็กหนุ่มลดแรงต้านลงมีอาที่ออกแรงดึงเต็มแรงถึงเซถอยหลังแล้วหงายหลังล้มลงไป มีอากรีดร้องเสียงดัง
“เกิดอะไรขึ้นนะ” แคสเปียนและเรเวนพูดแทบจะพร้อมๆกัน เรเวนเนื่องจากได้ยินเสียงเอะอะจึงออกมาจากในบ้าน ส่วนแคสเปียนอเล็กเซียเดาว่าคงมาพร้อมกับมีอาแล้วหลบยืนคอยอยู่
“แกทำอะไรมีอาหา”
เด็กหนุ่มอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาพุ่งเข้ามาหาด้วยความเร็ว เรเวนร้องโวยวายในขณะที่อเล็กเซียตั้งรับด้วยการฉากหลบ แต่กระนั้นแคสเปียนยังวาดหมัดในอากาศหวังจะจัดการเขาด้วยกำปั้นอย่างต่อเนื่อง
“แคสเปียนเดี๋ยวก่อน” มีอาพยายามห้าม แต่แคสเปียนเหมือนจะไม่ฟัง อีกฝ่ายโถมหมัดเข้าหาเขาไม่ยั้ง เมื่อจวนตัวอเล็กเซียหลบไปทางซ้ายก่อนจะใช้ขาเกี่ยวขาของอีกฝ่ายเป็นผลให้ล้มลงหน้าคะมำไปกับพื้น
ใครจะไปคิดเล่าว่าแคสเปียนจะโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ด้วยเพราะโกรธจนไม่ลืมหูลืมตา แคสเปียนกลายร่างเป็นหมาป่าตัวใหญ่กระโจนเข้างับบริเวณหัวไหล่ของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
อเล็กเซียตาพร่าไปหมด เสียงหวีดร้องโวยวายดังไปทั่วบริเวณ เรเวนนั้นทรุดลงด้วยแข้งขาสั่นส่วนมีอาก็ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
หลังจากเขากับหนุ่มๆในหมู่บ้านช่วยผู้เฒ่าแกรนด์สร้างเรือนหอให้บุตรชายจนงานรุดหน้าไปมาก เวลานี้ก็เริ่มเย็นแล้วเอเดรียนจึงบอกให้ทุกคนพักงานแล้วค่อยกลับมาจัดการต่อไปอีกในวันพรุ่งนี้
“เอเดรียน” ไนเจลเรียกขณะที่เขากำลังจะเดินกลับบ้าน เอเดรียนหันไปยิ้มให้เพื่อนสนิท ทว่าอีกฝ่ายกลับมีสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด
“เป็นอะไรไปไนเจล หากเจ้ามีอะไรจะพูดเดินไปคุยไปดีหรือไม่” ไนเจลไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้แต่ก็เดินตามเขามาติดๆ เงียบอยู่ได้พักใหญ่ในที่สุดก็เปิดปากพูดจนได้
“ข้าขอโทษเรื่องเอาแต่ได้ที่ข้าพูดกับเจ้าเมื่อวานนะ ยกโทษให้ข้าเถอะเอเดรียน”
“ข้าไม่ถือโทษโกรธเจ้าซักนิด...เจ้าก็แค่ทำในสิ่งที่พี่ชายซึ่งรักน้องสาวเขาทำกัน”
“เจ้าไม่โกรธจริงๆรึ” ไนเจลยังคงทำหน้าเจ็บปวดใจ เอเดรียนตบฝ่ามือลงไปที่หลังของคนข้างตัวดังฉาด
“ข้าตีเจ้าเป็นการลงโทษแล้วถือว่าเรื่องที่เจ้าทำให้ข้าลำบากใจก็จบกันไปนะ”
“จะได้อย่างไรเล่าเอเดรียน” ไนเจลยังไม่ยอมแพ้ เอเดรียนส่งยิ้มกริ่มให้อีกฝ่าย
“ให้ข้าชกเจ้าซักครั้งดีไหมล่ะ เจ้าจะได้รู้สึกดีขึ้น”
“เอาสิ”
แทบจะในทันทีกำปั้นของเอเดรียนปะทะเข้ากับใบหน้าซีกซ้ายของไนเจลดังปึก นึกขำที่เพื่อนของเขาไม่มีท่าทางโกรธแต่อย่างใดแต่กลับยิ้มออกมาเสียได้
“อย่างนี้ค่อยสบายใจหน่อย”
“เจ้าสบายใจก็ดีแล้วไนเจล”
จากนั้นพวกเขาก็พากันหัวเราะเสียงดัง เอเดรียนสบายใจเหลือเกินที่มิตรภาพระหว่างเขากับไนเจลยังคงแน่นแฟ้น กับเพื่อนคนนี้ยังไงเอเดรียนก็ตัดไม่ขาดจริงๆ
“เสียงอะไรนะเอเดรียน”
เขาเองก็ได้ยินเช่นกัน ด้วยประสาทสัมผัสที่ดียิ่งกว่าสัตว์ป่าทำให้รู้ว่าเสียงนั้นดังมาจากบริเวณบ้านของตน
เอเดรียนออกวิ่งโดยมีไนเจลตามมาติดๆ เมื่อมาถึงบริเวณหน้าบ้านภาพตรงหน้าทำให้เขาตกตะลึง
“อเล็กเซีย” ร้องตะโกนเสียงแหบพร่า อเล็กเซียของเขาถูกหมาป่าที่คาดว่าคือแคสเปียนกัดบริเวณไหล่จนเลือดไหลโชก เอเดรียนกลายร่างเป็นหมาป่าพุ่งเข้าใส่แคสเปียนในทันที
เจ้าหมาป่าแคสเปียนดูตกใจมันปล่อยร่างอเล็กเซียให้ร่วงลงไปกองที่พื้น เอเดรียนโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาตรงเข้าขย้ำเจ้าหมาแคสเปียนด้วยเขี้ยวและร่างกายที่ใหญ่โตกว่ามากจนเจ้าหมาแคสเปียนร้องด้วยความเจ็บปวดทั้งยังหวาดกลัว
“เอเดรียนใจเย็นก่อน” เสียงไนเจลแว่วมาเข้าหู แต่เข้าไม่ฟังใดใดทั้งนั้น เขาเล่นงานเจ้าหมาแคสเปียนจนได้เลือดและร้องขอชีวิต เสียงกรี๊ดร้องของมีอากระตุ้นสัญชาติญาณดิบของเขาจนถึงขีดสุด
ในตอนนั้นไนเจลในร่างหมาป่าก็โถมเข้าใส่เขาจนต้องปล่อยแคสเปียนให้เป็นอิสระ เอเดรียนยืนประจันหน้ากับไนเจลที่อยู่ในร่างหมาป่าตัวยักษ์เช่นกัน
“หลีกไปไนเจล”
“ไม่หลีกขืนหลีกเจ้าก็กัดแคสเปียนจนตายซี้” ตอนนี้มีอาร้องไห้จนตัวโยน หญิงสาวรี่เข้าไปดูอาการของ
แคสเปียนที่เจ็บหนักจนลุกไม่ขึ้น
ยังไม่สาสมกับความผิดเลย อีกอย่างการที่มีอาอยู่ที่นี่ในเวลาซึ่งแคสเปียนเข้าจู่โจมด้วย คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกเสียจากว่ามีอาเป็นคนสั่ง เอเดรียนกราดเกรี้ยวหนักยิ่งกว่าเดิม เจ้าหมาป่าแยกเขี้ยวข่มขู่แม้กระทั่งไนเจลที่เป็นเพื่อนสนิท
“หลีกไปไนเจล อีกเดี๋ยวนอกจากแคสเปียนข้าจะสั่งสอนมีอาเสียด้วย”
“ให้ตายสิเจ้าใจเย็นๆก่อน” ไนเจลพยายามเตือนสติ แต่ทว่ากลับไม่ทำให้เอเดรียนหัวเย็นขึ้นเลยซักนิด จังหวะนั้นคนที่คิดว่าสลบไปแล้วกลับพยายามลุกขึ้นมาเอเดรียนลืมความโกรธแล้วปราดเข้าไปหาอเล็กเซียทันที
“ท่านเป็นอย่างไรบ้างที่รัก”
จะไม่เป็นไรได้อย่างไรเขานี่มันช่างโง่นัก อเล็กเซียบาดเจ็บสาหัสจนเลือดไหลออกมาเช่นนี้ ทว่าเจ้าสาวของเขากลับส่งรอยยิ้มอ่อนโยนมาให้
“เจ้าอย่าโกรธเกรี้ยวนักเลยเอเดรียน ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด ให้ข้าได้อธิบายก่อนนะ”
“เข้าใจผิดอย่างไรท่านเจ็บถึงเพียงนี้”
“คนโง่ในเมื่อเจ้าทุกข์อย่างข้าไม่เอาผิด ทำไมเจ้ายังไม่เชื่อฟัง หากไม่ฟังข้า ข้าจะโกรธเจ้าแล้วนะ”
อเล็กเซียทำเสียงระโหย
บ้าเอ๊ยแค่เจ้าสาวของเขาเค้นเสียงพูดก็น่าจะเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้เอเดรียนก็คิดได้แทนที่จะมัวจัดการกับคนลงมือด้วยความโกรธเกรี้ยว สู้เอาเวลาตามหมอมารักษาอเล็กเซียน่าจะดีกว่า
“ข้าจะพาอเล็กเซียไปหาหมอ หลังจากรักษาอเล็กเซียแล้วหวังว่าพวกเจ้าสองคนคงมีคำอธิบาย”
เอเดรียนสาดสายตาวาววับไปยังมีอาและแคสเปียนก่อนจะคาบอเล็กเซียไว้ในปากนำพาร่างที่บาดเจ็บไปหาหมอประจำหมู่บ้านในเวลาต่อมา
เขียนๆแก้ๆอยู่หลายตอนมากเลย ยอมรับว่าเขียนล่วงหน้าไปสองสามตอนแล้ว
แต่ยังจะขอดองเผื่อว่าเขียนไปแล้วอยากจะกลับมาแก้ตอนก่อนหน้านั้นอีกหน่อย
คือไม่มั่นใจว่าที่เขียนไปแล้วมันดีหรือเปล่าไหม
นอกจากนั้นแล้วยังเขียนจำนวนหน้าต่อตอนได้น้อยมาก จากห้าหน้าต่อตอนเหลือสี่หน้าต่อตอน
เป็นที่น่าอนาถใจเหลือเกิน หากไม่ดีติชมได้นะ แต่อย่ารุนแรง จิตใจคนเขียนบอบบางน้า
เม้นเป็นกำลังใจบ้างนะ