ยกที่26 ลักนะ
แต่ก่อนหน้านั้นผมต้องทำหน้าที่ ว่าที่เมียเจ้าของรีสอร์ทที่ดีก่อน
“โป้เตรียมหมูให้พี่ที” พี่ที่หน้าตารุ่นพ่อตะโกนสั่งข้ามฟาก ผมวิ่งขาขวิดเอาผักที่หั่นล้างไว้ให้ถึงมือ ก่อนจะหมุนตัวไปทำงานอย่างอื่นต่อ เรื่องของเรื่องคือ หลังมื้อเช้าผมกับซันมาเดินเล่นในรีสอร์ทกระชับมิตรกับซันไม่เท่าไร พี่มูนก็ให้คนมาตามพวกเราไปช่วยงาน เพราะลูกค้าไม่รู้แห่มาจากไหนกลุ่มใหญ่
ซันต้องวิ่งไปรับหน้าส่วนผมโดนพี่มูนเตะโด่งเข้าไปในครัว ให้เหตุผลว่า
“เมื่อวานโป้ก็ช่วยในครัวสินะ วันนี้ช่วยอีกแล้วกัน ถือซะว่าฝึกมือก่อนมาบริหารกับซันในอนาคต”
นั่นล่ะครับท่านผู้ชม ผมถึงได้หัวหมุนอยู่ในห้องครัวแบบนี้ ในใจสงสัยว่าหน้าที่คนครัวกับพนักงานโบกรถช่วยฝึกเรื่องการบริหารรีสอร์ทยังไง แต่เอาเถอะ ผมเต็มใจช่วยอยู่แล้ว งานไหนก็ไม่เกี่ยง
ช่วงสายไม่เท่าไหร่ ตอนเที่ยงในครัวไม่ต่างจากขุมนรก เสียงชู่ช่าของการทำอาหาร กลิ่นตลบอบอวนจนท้องร้องจ๊อกๆ ผมมองเนื้อดิบในมือน้ำลายไหล ก่อนสลัดหัวไล่ความคิดพิลึกเพราะพ่อครัวใหญ่กำลังจ้องเขม็งมาทางนี้ เอาวะ รีบทำงานให้เสร็จจะได้กินข้าว
ว่าไปนั่น พวกพี่ๆ เขาก็ไม่ได้โหดร้ายถึงกับให้ผมอดข้าวหรอก เพียงแต่ลูกค้ามากินข้าวเที่ยงเยอะมาก ทั้งแบบนั่งในห้องอาหาร และแบบเอาไปเสิร์ฟที่บ้านพัก ทุกคนยังไม่มีใครได้กินแล้วจะให้ผมไปนั่งกินคนเดียวได้ยังไง ร่วมด้วยช่วยกันจนกระทั่งงานเริ่มซา พ่อครัวใหญ่ก็ประกาศทั้งที่ยังยืนถือตะหลิวผัดข้าว
“ลูกค้าเริ่มน้อย สลับกันไปพักกินมื้อเที่ยงได้” เหล่าคนครัวขานรับ หาทำกับข้าวง่ายๆ ไปนั่งกินที่โต๊ะหลังครัว ซึ่งทางรีสอร์ทจัดไว้ให้โดยเฉพาะ เหลือเพียงสามสี่คนที่ช่วยงานพี่เต่า ผมคือหนึ่งในนั้น
“โป้ ไปพักก่อน วันนี้ช่วยได้มากเลย” ตะหลิวชี้หน้า ผมเอียงหัวหลบเสียวโดนแนบแก้ม
“ไม่เป็นไรพี่ ผมช่วยอีกนิดค่อยไปกินก็ได้” บอกอย่างใจกว้างทั้งที่พยาธิเริ่มประท้วง
“บอกให้ไปก็ไปสิ เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาคุณมูนเอาเรื่องพี่ตายพอดี เป็นถึงเพื่อนคุณซันแต่ยอมมาช่วยงานก็ขอบคุณมากแล้ว” พี่เต่ายิ้มให้ทั้งที่หน้ามันเยิ้ม คนที่รู้ว่าผมเป็นแฟนซันมีแค่พนักงานกับลูกค้าที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น พี่เต่าเขาเป็นพ่อครัวกะเช้าเลยเข้าใจว่าเป็นเพื่อนกันเฉยๆ
ผมไม่ปฏิเสธ เรื่องส่วนตัวไม่จำเป็นต้องป่าวประกาศ ไม่ใช่ทุกคนจะรับได้ พวกลูกค้าเมื่อวานก็เหมือนกัน พี่มูนเป็นคนออกหน้าแจ้งลูกค้าโดยอ้างว่าจะมีคู่รักชายชายมาสารภาพกันในห้องอาหาร สำหรับคนที่ไม่สะดวก ทางรีสอร์ทจะส่งอาหารให้ฟรีถึงบ้านพัก บางส่วนจึงกลับไป ทุกอย่างเลยสวยงามไม่มีปัญหาอะไร
ผมลอบถามพี่มูนลับหลังเหมือนกัน ว่าทำแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ คุณพี่คนเก่งหัวเราะ บอกผมว่าถือเป็นการโปรโมทให้คู่รักมาที่รีสอร์ทเราไปในตัว แถมยังเป็นรีสอร์ทเปิดกว้างรับได้ทุกเพศ อาศัยพวกลูกค้าเมื่อคืนช่วยกันกระจายข่าวต่อ เท่านี้เงินก็จะไหลมาเทมา ไม่เสียลูกค้าเก่า ลงทุนนิดหน่อยได้กำไรเท่าทวี ผมละนับถือพี่มูนจริงๆ
“ถ้างั้นผมขอแบ่งข้าวผัดนี่ไปสักสองจานนะครับ ผมจะเอาไปให้ซันด้วย” กลับสู่เหตุการณ์ปัจจุบัน ข้าวผัดที่พี่เต่าทำก็ให้พนักงานนี่แหละ ทุกคนสามารถมารับข้าวที่ครัวไปกินฟรีวันละสามมื้อ แต่ถ้านอกเวลาต้องหากินกันเอง ถือเป็นการช่วยเสริมให้ทุกคนตั้งใจทำงาน
“เอาไปเยอะๆ เด็กผู้ชายวัยกำลังโตกินจุเป็นธรรมดา ฮ่าๆ!” หัวเราะเหมือนซานตาคลอสพร้อมตักข้าวผัดใส่จนพูนจาน ผมยิ้มแห้งเอ่ยขอบคุณแล้วเอาต้นหอมกับมะนาวฝ่าซีกวางขอบจาน คว้าน้ำมาสองขวดค่อยยกไปด้านนอก ไม่รู้ซันมันอยู่ส่วนไหนของรีสอร์ท ผมเลือกโต๊ะหลบมุมเหมาะๆ แล้วโทรหา รอไม่นานก็รับสาย
/มีไร/ ห้วนตามนิสัย
“กินข้าวมึง อยู่ไหนวะ” ผมมั่นใจว่ามันยังไม่กินแน่นอน อย่างซันถ้ามันจะกินต้องมาชวนผมก่อน มันยอมอดได้แต่ไม่ยอมให้ผมอดเด็ดขาด
/มึงยังไม่กินข้าวอีกเหรอ/ เสียงเหวี่ยงมาเลย ผมกลอกตาเอือม
“รอกินพร้อมมึงเนี่ย อยู่ไหนก็ช่าง รีบมาไวๆ กูรอที่ห้องอาหารใกล้ครัว หิวจะตายอยู่แล้ว” ตอแหลเน้นๆ ผมเพิ่งทำงานเสร็จต่างหาก
/เออๆ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ กินไปก่อนเลย/ สิ้นคำก็วางสาย ไม่ต้องห่วงนะ ผมนั่งตักกินระหว่างคุยกับมันเนี่ย ช่างเป็นแฟนที่ดีจริงๆ พิสูจน์รสชาติให้ก่อนเสียสละสุดๆ
ไม่ถึงสิบนาทีไอ้ซันก็วิ่งเหงื่อท่วมมานั่งตรงข้าม ผมดันขวดน้ำไปให้ มันกระดกซะครึ่งขวด เอ็งจะกินข้าวยังไง ดวงตาคมๆ มองจานข้าวผัด เห็นผมกินก่อนก็ไม่ว่าอะไร ถ้าผมรอมันสิจะโดนด่า
“มึงทำเองปะ”
“ไม่ว่ะ พี่เต่านะ อร่อยนะมึงกินดู” ดูมันเสียดายนิดหน่อย แต่ก็บีบมะนาวตักข้าวใส่ปากพยักหน้าหงึกหงัก ต่อจากนี้ไม่จำเป็นต้องพูด ต่างคนต่างจ้วงข้าวกินดับความหิวโหย ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ข้าวที่พี่เต่าให้มาพวกเราฟาดซะเรียบ ไอ้ซันยังลุกไปขอเติมด้วยซ้ำ หลังจากนั้นผมเลยนั่งดูมันกินแทน
“จะกลับหอตอนไหน” ผมถาม วันจันทร์เรามีเรียนเลยต้องกลับวันนี้
“กินข้าวเสร็จพักสักหน่อยแล้วกลับเลยก็ได้ เสื้อผ้าเก็บไว้แล้วนี่ อันที่จริงมึงทิ้งชุดบางตัวไว้ที่ห้องกูได้นะ เผื่อมานอนค้างอีก” พูดราวกับเป็นเรื่องลมฟ้าอากาศ แต่ตาหลุกหลิก หูตั้งรอฟัง เพราะมันหมายความว่าหากผมทิ้งชุดไว้คือ จะกลับมาบ้านมันอีกครั้งแน่ๆ เอาใจไอ้เถื่อนหน่อยละกัน น่ารักขนาดนี้
“เออ ทิ้งไว้หมดนั่นแหละ เอาไปเฉพาะพวกของจำเป็นพอ”
ซันเงยหน้ามองอย่างไม่อยากเชื่อแล้วก้มหน้าก้มตากินซ่อนรอยยิ้มมุมปาก ผมหันหน้าไปทางอื่นพยายามท่องนะโมในใจ แฟนใครวะ น่ารักน่าใคร่ซะจริง อ๊ะๆ อย่าได้หวังฉากเช็ดปากเช็ดหน้านะ ฮาร์ดคออย่างเราไม่มีหรอก
“ซัน ข้าวติดปาก”
“ไหนวะ”
จุ๊บ ยกแขนบังจัดการใช้ลิ้นตวัดเม็ดข้าวแล้วผละออก ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงนาที ซันตาโตอ้าปากค้าง ผมเลียริมฝีปาก เท้าคางเลิกคิ้วมองให้มันกินต่อ
หึหึ ลวนลามสามีวันละนิดจิตแจ่มใส ในเมื่อผมเปิดใจรักมัน ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องฝืน อยากทำอะไรก็ทำขอแค่ผมพอใจเป็นพอ ซันชี้หน้าผมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“กลับห้องไปมึงเจอกูแน่” เสียงรอดไรฟันมาเชียว พี่โป้ไม่กลัวหรอกจ้ะ
“มาเลย ถ้าช้ากูลุยเองนะ” ทิ้งทวนอีกประโยค ผมระเบิดเสียงหัวเราะขำท่าทางเหมือนอยากกระโจนมาขย้ำให้ตายของซัน หยอกเล่นไปงั้น ผมเลยลุกไปขอผ้าเช็ดมาให้มันซับหน้าดับอารมณ์อยากเตะเมีย
กินข้าวเสร็จผมเก็บจาน ซันไปดูงานต่ออีกหน่อยค่อยพากันกลับบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบอกลาทุกคนก่อนออกเดินทาง เรายืนกันอยู่หน้าบ้าน รถติดเครื่องรอไว้เรียบร้อย
“ซันกลับกรุงเทพก่อนนะ” ลูกชายคนเล็กยกมือไหว้ลา
“ว่างๆ ก็กลับมาบ้านบ้าง โป้ด้วยนะลูก” บอกลูกชายเสร็จก็หันมาบอกแฟนลูกต่อ ผมดีใจแทบน้ำตาปริ่ม
“ครับ ไว้ผมจะขอมารบกวนอีก พ่อแม่รักษาสุขภาพด้วยนะครับ พี่มูนพี่จินขอบคุณมากสำหรับทุกอย่าง” ยกมือไหว้ทุกคนบ้าง เวลาแค่สามวันสองคืน แต่ผมได้อะไรจากครอบครัวนี้ไปมากจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องซัน
“ขอบคุณอะไรกัน พี่ไม่คิดจะช่วยฟรีๆ อยู่แล้ว ตอบแทนด้วยการดูแลซันดีๆ ล่ะ” พี่มูนเดินเข้ามากอดผม พี่จินแค่ยิ้มให้นิดๆ อย่างไว้มาดตามเคย
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวมืดค่ำจะขับรถลำบาก” พ่อเห็นลากันไม่เสร็จสักทีเลยพูดดัก เราถึงได้ฤกษ์เดินทางสักที ซันลารอบสุดท้ายแล้วพวกเราก็ขับรถออกจากรีสอร์ท
งานนี้ผมไม่ยอมให้ซันเหมาขับคนเดียวตลอดทางแน่ ตอนเติมน้ำมันกลางทางแอบเนียนมานั่งตำแหน่งคนขับล็อคประตูบังคับให้ซันไปนั่งด้านข้าง มันมองผมอย่างหัวเสียแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมเลยยึดพวงมาลัยจนถึงคอนโด
เหนื่อยมาทั้งวันมื้อเย็นผมเลยไม่ทำอาหาร ลงมาหาอะไรกินง่ายๆ ข้างล่างแทน จังหวะที่อาบน้ำเตรียมเข้านอน ไอ้ซันยืนกอดอกเป็นยักษ์อยู่หน้าประตู
“มึงคงไม่ลืมนะว่าทำอะไรไว้”
ผมตีหน้าซื่อแกล้งมัน “ที่กูแย่งขับรถเหรอ อย่าคิดมาก กูแค่ไม่อยากให้มึงเหนื่อยคนเดียว” เฉไฉไปนู่น ส่วนสูงพอกันอย่าคิดจะข่มซะให้ยาก
“เฮ้ย!” ไอ้เถื่อนเลิกเถียง เพราะยังไงก็คงเถียงเมียไม่ชนะเลยรวบเอวเหวี่ยงลงเตียงแม่ง! ผมตกใจที่จู่ๆ ตัวก็ลอยวืด ไอ้แรงช้างสารเอ้ย พอมันตามมาทับผมพลิกตัวกลับทันที สองมือยึดบ่าอีกฝ่ายติดเตียง ก้มลงไปกระซิบสั้นๆ
“อยู่เฉยๆ เดี๋ยวกูทำเอง…”
เท่านั้นแหละ ผมก็ได้ทำตลอดทั้งคืนสมใจ ทำบนตัวมันนะเมื่อยขาฉิบหาย ดีที่มีเรียนบ่ายไม่งั้นกูตายยยย
ถามว่าวันรุ่งขึ้นตื่นมามีฉากโรแมนติก?
ณ ห้องโป้ เหนือเตียงหลังกว้างมีร่างชายสองคนในสภาพ...ปิดไว้ด้วยผ้าห่มผืนเดียว คนตัวขาวขยับหนีแสงอาทิตย์ ซันลืมตาตื่นผงกหัวดูนาฬิกาบอกเวลาเจ็ดโมงเช้า ยังมีเวลาอีกเหลือเฟือ ถึงอย่างนั้นก็ยังใจดี พลิกกายคร่อมทับเพื่อบังแสงอาทิตย์ให้(?) ริมฝีปากก้มจูบขมับเลื่อนลงไปดูดเม้มริมฝีปากบวมจากเมื่อคืน มือลูบโคนขาล็อคติดเอวเพื่อกล่อมนอน(??)
“อืมม” ไม่ใช่เสียงคนหลับแต่อย่างใด มันคือเสียงคนตัวใหญ่ครางในลำคอ
“อะ...เหี้ยซัน อย่ากวนกู อ่า...” ใบหน้าหันซุกกับหมอนทั้งที่ในใจอยากจะแหกอกคนกวนเวลานอน
“ฮืมมม” ขบฟันผ่อนลมหายใจหนักขณะขยับกายเบียดลึกจนอีกคนตัวโยก ผ้าห่มเลื่อนหลุดไปอยู่ตรงปลายเตียงยามคนด้านบนจัดท่าทางอำนวยความสะดวกตัวเอง คุกเข่าบนเตียง แขนช้อนคอพับพาดบ่าพลางโน้มกายลงไม่นำพาคนที่กำลังจะขาดใจ ทั้งเบลอผสมอยาก
“โทษทีว่ะ เมื่อคืนลืมเอาออกให้ แต่ไม่เป็นไรจะได้ไม่เปลืองเจล” คนลักหลับกลั้วหัวเราะในคออารมณ์ดี คนโดนลักจำต้องตื่นถลึงตาใส่
“เปลืองเจล อะ...อะไร หมดไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วเว้ย!” กระแทกเสียงท้ายประโยคด้วยความฉุนเฉียว หงุดหงิดที่โดนปลุกในหลายๆ ความหมาย
“เหรอวะ เสียดาย ที่ริวซื้อมาฝากใช้ดีซะด้วย คิดว่ามันจะมีให้สั่งซื้อในเน็ตไหม” ยังคงลอยหน้าลอยตาทั้งที่ยังไม่หยุดการกระทำ
“พ่อง!!” คำเดียวพร้อมชูนิ้วกลางจบบทสนทนาทุกอย่าง แขนข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก แม้จะล้าไปทั้งตัว มาถึงขั้นนี้ก็หยุดไม่ได้แล้ว มีแต่ต้องทำให้เสร็จ อีกฝ่ายก็ดูจะเข้าใจยอมเร่งจังหวะให้คนรองรับสบถปนครางไม่ได้ศัพท์จนเสร็จกิจยามเช้า ทิชชู่ม้วนใหม่ถูกหยิบมาใช้เช็ดทำความสะอาด ร่างหนาค่อยๆ ขยับกายออกรวบตัวคนรักมาหอมแก้มดังฟอด
“ออกกำลังกายตอนเช้า สดชื่นดีเนอะ”
“ไปตายให้หนอนแดกซะ”
“กูขอโทษษษ” ลากเสียงยาวๆ อย่างน่าหมั่นไส้ “ขอโทษที่สุขภาพดีไปหน่อยเลยคึกคักตอนเช้า เดี๋ยวกูอาบน้ำเปลี่ยนผ้าปูเตียงให้ ระหว่างนั้นมึงนอนห้องกูไปก่อนนะเมีย”
ไร้เสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ไม่รู้ว่าหลับไปแล้วหรือขี้เกียจต่อปากต่อคำ ซันอุ้มอีกฝ่ายพาไปอาบน้ำตามที่บอก ก่อนจะกลับมาจัดเตียงเก็บห้อง เตรียมอาหารสวมบทบาทเป็นพ่อบ้านชั่วคราว พอสิบเอ็ดโมงก็ปลุกโป้ให้ตื่นมากินข้าวก่อนไปเรียน
ผมอิดออดนิดหน่อย นั่งทำใจอยู่พักหนึ่งถึงลุกไปแต่งตัว แม้สังขารจะไม่ให้ แต่ขาดเรียนก็ไม่ดี ยังนับว่าซันรู้จักหน้าที่ ยอมขับรถรับส่งทั้งที่ปกติไม่ชอบขับในกรุงเทพ ถ้ามันอุ้มผมเดินไปส่งที่ห้องเรียนได้มันก็จะทำ
การจราจรในช่วงเที่ยงยังไม่น่ากลัวเท่ากับตอนเช้าและเลิกงาน รถยังพอไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่จอดแหง่กอยู่กับที่
“ใกล้เลิกแล้วมึงโทรมาเลย เดี๋ยวกูมารอ” ซันบอกก่อนจะเลี้ยวเข้ามหา’ลัย
“มึงเลิกไวเหรอ?” ปกติน่าจะเลิกพร้อมกัน มันดันบอกว่าจะมารอ
“คาบท้ายๆ ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่อาจารย์สรุปบทเรียนเฉยๆ มึงคงไม่ลืมนะว่าใกล้สอบแล้ว”
ผมเบิกตากว้าง ลืมไปซะสนิท! ถูกเรื่องวุ่นวายที่เกิดติดต่อกันพักหลังดึงความสนใจไปหมด สมองคิดเร็วจี๋ว่ามีงานค้างอะไรที่ต้องทำรึเปล่า งานบางส่วนผมทำส่งไปแล้ว เหลืองานคู่ที่ต้องสร้างโมเดลร้านที่ตัวเองออกแบบไว้ตั้งแต่ต้นเทอม
ซันเห็นผมอ้าปากพะงาบๆ ก็พอเดาได้ว่าภรรเมียลืมชัวร์ “อย่าเพิ่งช็อก รู้ตอนนี้ก็ยังไม่สาย มีงานค้างอะไรก็รีบทำซะ อยากให้กูช่วยก็บอก ไปเรียนได้แล้ว ตั้งใจนะมึง เกรดปีหนึ่งมันสำคัญ” หนุ่มผิวเข้มพูดเอาการเอางานระหว่างจอดเทียบหน้าคณะสถาปัตยกรรม มีนักศึกษานั่งกินข้าวเต็มโรงอาหาร หลายคนหันมองด้วยความสงสัย บางคนก็ชินแล้ว เห็นรถคันนี้มาบ่อยจนเข้าใจผิดว่าเป็นรถเด็กคณะตัวเอง
“ขอบใจที่เตือน งั้นกูบอกเลยแล้วกัน กูอาจจะต้องไปค้างห้องเพื่อนสักสองสามวัน”
“หา!?” อือหือ เสียงโหด ตะกี้ใครมันพูดซะดิบดีวะ
“ก็เพิ่งนึกออกว่ามีงานกลุ่มต้องทำส่งภายในอาทิตย์นี้ ต้องเตรียมสไลด์พรีเซนด้วย”
“ค้างกับใคร กูรู้จักมั้ย” ซันขยับตัวหันมามองคู่สนทนาชัดๆ
“แม็คไง ไม่ต้องห่วง มันมีเมียแล้ว เมียมันสวยด้วยแถมอึ๋มมาก” ผมทำมือให้เห็นว่าอึ๋มขนาดไหน ไอ้ซันหรี่ตามอง
“กับไอ้แม็คไม่มีปัญหา แต่กูจะมีปัญหาเพราะเรื่องอึ๋มมึงนี่แหละ มึงพากูเป็นเกย์แล้วอย่าได้คิดกลับลำเชียว ไม่งั้นกูจะกดให้มึงลืมผู้หญิงเลย” มีชี้หน้าขู่ โหดตลอดอะผู้ชายคนนี้
“ครับๆ เข้าใจแล้ว กูไปละ โชคดีมึง” รีบเผ่นลงจากรถแล้วเดินเข้าคณะโดยไว อยู่ต่อมีสิทธิ์คลานไปเรียนได้ อาศัยหางตามองเห็นซันออกรถไปแล้วค่อยผ่อนลมหายใจ...
ป้าบ!
“เชี่ย!” แรงตบที่หลังสะเทือนถึงเบื้องล่าง ผมต้องกัดฟันเกร็งขาที่เกือบทรุด คนประทุษร้ายเหมือนเพิ่งรู้ตัว ใช้มือยึดบ่าผมไว้แทนการพยุงแบบเนียนๆ
“เฮ้ย โทษทีๆ เมื่อคืนหนักไปเหรอ” ความหมายเหมือนหายไปกินเหล้า แต่รู้กันดีว่าความจริงคืออะไร ผมตวัดตามองไอ้แม็ค ไม่ติดว่ากำลังเข่าอ่อนจะกระโดดขาคู่ให้
“เออ! วันหลังดูก่อนค่อยทัก”
“เมื่อคืนมึงแดกเหล้า?” อาร์ทมาสมทบ จับแขนเสื้อผมไปดม “ไหนกลิ่นละมุด กูได้แต่กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม” อาร์ทผู้ไม่รู้เรื่อง ก็ปล่อยให้มันง่าวต่อไป ผมหันไปทางแม็คพยักหน้าให้เป็นเชิงบอกว่าไหวแล้ว มันถึงยกมือออกไป
“พวกมึงกินข้าวแล้วใช่ป่ะ งั้นขึ้นเรียนเลย กูจะคุยเรื่องงานที่อาจารย์สั่ง”
“แล้ว กูก็จะคุยกับมึงเรื่องนี้เหมือนกัน เดินไปคุยไปจะได้ไม่สาย”
“จะเดินไม่ว่า แต่กูไม่ขึ้นบันไดเด็ดขาด” ผมกดเสียงต่ำ แม็คหัวเราะฮา อาร์ทยังคงควายต่อไป เราสามสหายที่มาจับกลุ่มรวมกันตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ เคลื่อนพลไปยืนเต๊ะจุ๊ยรอลิฟท์ ระหว่างนั้นเราก็คุยเรื่องงาน
“เรื่องโมเดลกูว่าจะขอไปทำห้องมึงว่ะ ใกล้มหา’ลัย ไม่ต้องเสี่ยงโมพังก่อนถึงมืออาจารย์” ผมเสนอสิ่งที่คิด แม็คพยักหน้าไม่มีปัญหา
“เอางั้นก็ได้ ส่วนเรื่องที่กูจะบอกคือ อาร์ทอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราด้วย พอดีมันโดนแบนออกจากกลุ่มเก่า”
“กูไม่มีปัญหาอะไร มีคนช่วยสิดี แต่พวกมึงไปขออาจารย์แกแล้วยัง” ขืนย้ายกลุ่มกันมั่วซั่วแบบเด็กประถมได้โดนด่าตายพอดี คราวนี้อาร์ทเป็นคนพูดบ้าง
“กูขอมาเรียบร้อย บอกว่าพวกมันไม่ยอมทำงาน ให้กูทำอยู่คนเดียวเลยมาขออยู่กลุ่มพวกมึงที่มีแค่สองคน จารย์เลยอนุญาต”
ผมชกหมัดใส่ไหล่อาร์ท “ร้ายนี่หว่ามึง กล้าโกหกอาจารย์เลยเรอะ”
“มันไม่ได้โกหก พวกแม่งอู้งานจริงๆ ไม่งั้นจารย์ไม่ยอมง่ายๆ หรอก”
แม็คกอดคออาร์ทเดินนำเข้าไปในลิฟท์ที่มีประชากรหนาแน่น พยายามทำตัวลีบๆ ติดประตูเข้าไว้ เพราะด้านหลังมีพวกผู้หญิงต้องเว้นระยะห่างนิดหน่อย เดี๋ยวอะไรๆ มันจะโดนกัน ทรัพยากรมีน้อยต้องดูแลอย่างดี แม้ว่าจะเป็นสาว(เหลือ) น้อยก็ตาม
ไอ้พวกผมก็ยังมานะคุยกันต่อนะ “อ่าฮะ ยินดีต้อนรับนะสหาย เตรียมตัวหัวฟูได้เลย งานนี้เราต้องปั่นกันไฟลุก” ผมพูดติดตลก ไหงพวกมันไม่ขำด้วยหว่า
“หวังว่างานนั้นจะไม่ใช่ของผมนะ คุณระ-ตะ-นะ” เสียงคุ้นหูทำเอาผมสะดุ้งโหยง ลิฟท์ถึงชั้นสามพอดี พวกเราที่อยู่หน้าประตูรีบเดินออก เหล่านักศึกษาเปิดทางให้อาจารย์หนุ่มหน้านิ่ง ผมยิ้มแห้งยกมือไหว้
“สวัสดีครับอาจารย์ยศ” หรือชื่อเต็ม ‘ยศวร’ คนเดียวกับที่เคยบอกให้ผมเพลาๆ เรื่องเหล้านั่นแหละ ที่อาจารย์เรียกชื่อผมแบบนั้นมันมีประเด็นอยู่ ชื่อผมเขียนว่า ‘รตน’ อาจารย์อ่านผิดเป็น รด-ตะ-นะ อยู่เรื่อย ผมเลยต้องยกมือบอก หลังจากนั้นอาจารย์ยศก็เน้นเสียงทุกครั้ง ไม่รู้ว่ายังไงเหมือนกัน
“ครั้งนี้ไม่มีกลิ่นละมุด แต่ท่าทางไม่ดี ออกกำลังกายบ้างนะ เด็กสมัยนี้ชอบนั่งๆ นอนๆ” แล้วอาจารย์แกก็เดินนำเข้าห้องเรียน พวกเราเหมือนลูกสมุนสามตัว สงบเสงี่ยมตามหลังต้อยๆ ในใจนึกเถียง อาจารย์อายุมากกว่าพวกเราไม่กี่ปีเองนะคร้าบ อย่าเพิ่งทำตัวแก่สิ แน่นอนว่าไม่พูดออกไปเด็ดขาด เดี๋ยวเกรดปลายเทอมจะป่นปี้กว่านี้