ตอนที่ 21.04: ความเข้มแข็ง เมื่อเสียงปืนดังขึ้น
ผมกดโจเซฟลงไปใต้น้ำโดยอัตโนมัติ
.....
น้ำในสระค่อยๆถูกย้อมด้วยสีแดงเป็นสาย..
มันออกมาจากร่างของคนข้างๆผม..
คนธรรมดาๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่..
แค่บังเอิญมาปาร์ตี้ฟองสบู่..
และบังเอิญมายืนข้างๆผม..
ฝูงชนแตกตื่น เสียงกรีดร้อง น้ำกระเพื่อม ..และผู้คนทยอยวิ่งขึ้นจากสระ
หน่วยรักษาความปลอดภัยวิ่งเข้ามา..
ทีมกู้ชีพดึงร่างชายข้างๆผมขึ้นจากสระ
ผมผลักโจเซฟขึ้นไปบนขอบสระ ก่อนจะดันตัวเองขึ้นไป
ผมเดินนำเขาไป..
สงบเงียบ.. ใจเย็นอย่างน่าประหลาด
นี้ไม่ใช่ครั้งเเรกที่ผมถูกลอบยิง..
แน่นอนว่าการทำงานสายนี้ ผมต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้ทุกประเภท..
เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้..ผมรู้ตัวดี
ใครว่าชีวิตมีทางเลือกเสมอ..
ผมไม่เคยมี..................................
ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้กับโจเซฟ เขารับมันไปก่อนจะเช็ดผมตัวเองอย่างลวกๆ
ผมไม่พูดอะไร..
โชคดีของผมที่ครั้งนี้พวกมันทำงานพลาด..
หรือไม่มันก็ตั้งใจพลาดเพื่อ'ตักเตือน'
"ถามจริงๆเถอะ..วินด์..คุณทำงานอะไรกันแน่?"ผมชายตามองเขา ก่อนจะยิ้ม
"ทนายไง..ตอนนี้เป็นผู้ช่วยอาจารย์"
"ทนายธรรมดาๆที่ไหนตกเป็นเป้ายิงกัน..วินด์"
ร่างสูงพูดก่อนจะขมวดคิ้วมองผม..
"ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่..แต่สิ่งที่คุณกำลังทำมันอันตราย..คุณยังมีอนาคตอีกไกลนะ
อย่าเอามามันมาทิ้งเพราะอะไรก็ไม่รู้นี่เลย.."
ผมมองหน้าโจเซฟ..
มันเป็นแบบนี้อีกแล้ว
ไม่ว่าใคร .. ไม่ว่าใครที่เข้ามา
มาบอก มาตักเตือน บอกให้ผมทำอย่างนี้ ไม่ทำอย่างนี้
ทำเหมือนเข้าอกเข้าใจชีวิตผมดีเหลือเกิน..
ทำเหมือนคิดว่าผมมีทางเลือกมากมาย..
มันไม่มี..
มันไม่มีเลยรู้หรือเปล่า..ผมอยากกรีดร้อง อยากลงไปนอนเป็นเด็กเล็กๆ
อยากทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เขารับรู้..
ว่าผมนั้นอ่อนแอเพียงใด
สั่นเทิ้มเพียงใด..
ได้โปรด..
ได้โปรดมองเห็น..ความหวาดกลัวนี้..ความขลาดเขลานี้..แต่ที่ผมทำคือการยืนนิ่งๆ
"ไม่ต้องห่วง ผมดูแลตัวเองได้"
โจเซฟถอนหายใจ.. เขาเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดผมที่เปียกของผม..
"คุณไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งตลอดเวลาหรอกนะ.."
ผมส่ายหัว
"ผมจำเป็น"
ประสบการณ์ชั่วชีวิตของผม ทำให้ผมรู้ว่า ผมไม่อาจอ่อนแอได้
ไม่อาจทำได้ แม้เพียงสักวินาทีเดียว..
คืนนั้นก่อนจะนอนผมตัดสินใจโทรไปวางแผนการคุ้มกันนายท่านใหม่ทั้งหมด
เตรียมหลักฐานสู้คดีค้าประเวณี..
จัดแผนการสอนสำหรับนักศึกษา..
และคืนนั้นเมื่อหลับตา..
ใบหน้าขมุกขมัวเล็กๆก็ค่อยๆย่องเข้ามาในราตรีที่แสนยาวนาน
ผมกรีดร้อง.................................
"วินด์ วินด์ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ทุกอย่างจะโอเค"ผมตัวสั่นเทิ้มอยู่ในอ้อมแขนของโจเซฟ..
ห้องพักของเราเป็นห้องชุดเเบบพิเศษ..
คือ มีห้องนอนสองห้องและเชื่อมหากันได้..
โจเซฟเป็นคนช่างเลือก..
"..คุณจะโอเค.."
เขากระซิบก่อนจะกอดผมแน่นขึ้น
ความรู้สึกเปียกชื้นบนใบหน้ายังไม่หายไป..
แต่ความร้อนกลับขึ้นมาแทน...
ผมผลักเขาออก
"..ท..โทษที.."
ผมชินกับการตื่นมาพร้อมน้ำตาทุกครั้งที่ฝันร้าย..
แต่ผมไม่ชินกับการตื่นมา ..แล้วมีคนคอยอยู่ข้างๆ..
แม้จะเป็นเขาก็เถอะ..
น่าอายชะมัด..
ไม่อยากให้เห็นเลย..
"แค่..ฝันร้ายน่ะ"
ผมพูด พยายามปรับเสียงให้เป็นปกติ
โจเซฟลุกไปกดน้ำอุ่นมาให้ผม
"คงไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อตอนเย็นใช่ไหม.."
ผมไม่ตอบ
"คุณฝันร้ายบ่อยนะวินด์..ตอนนั้นก็เหมือนกัน"
ร่างสูงพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆผม
"คุณมีอะไรอยากจะเล่าไหม..ผมจะฟังนะ"
โจเซฟพูดก่อนจะจ้องมองเข้ามาในดวงตาของผม
เมื่อผมมองกลับดวงตาสีเขียวมรกตนั้น..หัวใจของผมสั่นไหวแปลกๆ..
แปลก..ความรู้สึกนี้ไม่คุ้นเคย..
ความรู้สึกของใครสักคนที่ยอมให้ผมพึ่งได้..
ใครสักคนที่จะเเบกรับมันได้..
ผมกลัวผมส่ายหัว
"ผมไม่เป็นอะไรเเล้ว จริงๆ.."
ผมพูดและรอบตัวเราสองคนก็ปกคลุมด้วยความเงียบ
"แล้วนี่คุณจะกลับเมื่อไหร่"
ผมถาม และเขาขมวดคิ้ว
"ทำไมอยู่ๆถามอย่างนั้น ..ผมอยู่ด้วยไม่ดีเหรอ?"
"เปล่า คิดว่าคุณคงต้องมีงาน ขลุกอยู่ที่นี้นานๆไม่มีประโยชน์อะไรหรอก"
เขายิ้มเเล้วส่ายหัวให้ผม
"...ผมดูแลงานของตัวเองได้น่า ผมเป็นห่วงคุณมากกว่า"
"ไม่ต้องห่วงผม ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร!"ผมเผลอขึ้นเสียงใส่เขา ก่อนจะคิดได้ จึงพูดต่อด้วยเสียงที่เบาลง
"คุณกลับไปนอนเถอะ"
โจเซฟถอนหายใจ มองผมอีกครั้ง ก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์และเดินกลับห้องไป..
น่าแปลกที่หลังจากนั้นในความฝันของผมมีเพียงความมืดมิด
ราตรีที่เงียบสงัด โดดเดี่ยว และยาวนาน
.................................
"หัวหน้าครับ...คุณอาทิตย์ติดต่อขอเข้าพบนายท่านอย่างที่หัวหน้าบอกไว้เลยครับ..
ให้ผมทำอย่างไรดีครับ?"
โยฮันเนสรายงานเสียงมาตามสาย ..ผมขมวดคิ้ว ไม่อยากจะเชื่อ..
"ปฏิเสธไป บอกว่าตอนนี้นายท่านป่วยหนักมาก ห้ามใครเข้าพบจนกว่าอาการจะดีขึ้น"
"..แล้วเมื่อไหร่อาการจะดีขึ้นล่ะครับ.."
"เมื่อฉันกลับไป"หลังจากนั้นทั้งอาทิตย์ผมต้องทำงานถึงสามอย่างพร้อมๆกัน
เป็นอาจารย์ผู้ช่วย... เป็นไกด์ .. เป็น'หัวหน้า'..
ผมยอมรับว่าอย่างที่สองทำให้ผมค่อนข้างปวดประสาทอยู่บ้าง
แต่เมื่อเทียบกับงานอื่นๆแล้ว มันเหมือนเป็นการพักผ่อนเสียมากกว่า
อย่างเช่นตอนนี้
"หืมม รูปปั้นเยอะดีนะ.. ผมแปลกใจที่มหาลัยนี้สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่เป็นเเบบตะวันตกเก่า..อาคารเรียนเอย รูปปั้นเอย"
"ที่นี้เมื่อก่อนก่อตั้งในยุคที่ชาวตะวันตกเริ่มเเพร่หลายเข้ามาน่ะ.. เป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แรกๆ สาขาเรียนที่โดดเด่นก็คือนิติศาสตร์นี่แหละ.."
ผมพูดอย่างภูมิใจนิดๆ
"แล้วคุณก็ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองจากที่นี้ ..โอ้มายก็อด โคตรจะเทพ"
เขามองหน้าผมอึ้งๆ ก่อนจะทำท่าบูชาจนผมหัวเราะ
"เว่อตลอด"
"จริงง..เออเเล้วผมก็ชอบพวกต้นซากุระต้นแปะก๊วยพวกนี้ด้วย ดูญี่ปุ๊นญี่ปุ่น พอรวมๆกับสถาปัตยกรรมโบราณตะวันตกหน่อยๆก็เข้ากันดีนะ.."
ผมปล่อยให้ร่างสูงตรงหน้าเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรั้วมหาวิทยาลัย
ในขณะที่ตนเองก็ลอบสังเกตเขาไปด้วย..
สบายใจ..
ก็ทั้งชีวิตคงไม่เคยเจออะไรลำบาก
ก็คนที่อยากได้อะไรก็ได้มาง่ายๆ..
"ดีใจจังนะ ได้มาเที่ยวกับคุณเนี่ย.."
"พูดเหมือนไม่เคยมาญี่ปุ่น"
ผมพูดก่อนจะชายตามองเขา..
"เคยมามันก็ส่วนหนึ่ง..แต่ ไม่รู้สิ.. ตอนเด็กๆผมอยากไปที่ไหนก็ได้ไปเลยน่ะ.. แต่ก็แค่นั้น.. ไม่มีใครพาเที่ยวแบบนี้"
ร่างสูงพูดก่อนจะยิ้มๆให้ผม..ทำไมอยู่ๆก็หมั่นไส้ไม่ค่อยลงไม่รู้..
"คุณอาจจะคิดว่าผมเนี้ย คนรวย เกิดมาอยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง"
ดวงตาสีเขียวมรกตมองตรงมาที่ผมก่อนจะพูดว่า
"คุณคิดถูกแล้วแหละ"
ผมเผลอใช้ฝ่ามือตีหน้าอกเขาไปดังเพี๊ยะ! เขาหัวเราะลั่น ก่อนที่ผมจะหัวเราะตามไปด้วย..
"อยู่กับผม ผมไม่ให้นะ.. อยากได้อะไรก็จะไม่ให้สักอย่าง"
ผมพูดกวนเขาไป และเขายิ้มกว้าง
"ดี ผมชอบ"
ผมนิ่งไปสักครู่ก่อนจะพูดเบาๆว่า..ให้มันจริงเถอะ
"เอ้อแต่ที่ผมอยากจะพูดตอนแรกคือ ผมก็มีปัญหาของผมเหมือนกัน คือเกิดมาแล้วไม่มีใครรักน่ะ.. ครอบครัวผมภายนอกก็ดูสมบรูณ์แบบกันดี.. พ่อแม่ลูก ตระกูลร่ำรวย ประสบความสำเร็จ.. แต่เอาเข้าจริงๆผมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียวมาตลอด"
โจเซฟพูดด้วยท่าทีสบายๆมากกว่าคนที่มีปัญหา..นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม..
"แต่ผมจะเป็นเด็กมีปัญหาไปตลอดชีวิตไม่ได้..ตอนเด็กๆอาจใช่อยู่ อาจเอามาอ้างได้ว่าพ่อแม่รังแกฉัน.. แต่นี่ผมโตแล้ว ผมเลยต้องใช้ชีวิตต่อ จะเอาแต่ร้องงอแงเหมือนเด็กๆก็ไม่ได้"
"อย่างหนึ่งเป็นเพราะต่อให้ทำอย่างนั้นไปก็ไม่มีใครอยากปลอบใจแล้วด้วยนั่นล่ะ"
โจเซฟพูดก่อนจะทำหน้าเซ็งจนผมต้องกลั้นขำอีกครั้ง..
ความสามารถพิเศษของหมอนี่หรือไงกันนะ..
ทำให้ทุกอย่างดูสบายอกสบายใจไปได้หมดอย่างนี้..
บางทีผมน่าจะลอง..
ลองให้พื้นที่เขาอีกสักนิด..เผื่อว่า
เผื่อว่าเขาจะนำความ'สบายใจ'แบบนั้น..
แบ่งปันให้ผมได้บ้าง..
"จริงๆผมมาจากบ้านเด็กกำพร้า"
ผมพูดขึ้น และเขาหยุดฟัง
"คุณพ่อรับผมมาเลี้ยง..ท่านไม่ใจดีกับผมมากนัก แต่ผมก็ขอบคุณท่าน.."
อย่างน้อยนายท่านก็ใจดีกับผม..มากกว่า..หญิงอ้วนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า..
สถานที่ที่เหมือนนรกนั่น..
ผมเงียบไป..สักพักเขาจึงพูดว่า
"จบแล้ว?"
ผมพยักหน้า
"เอาจริงดิ?!"
ผมพยักหน้าอีก..
..ก็ผมอยากเล่าแค่นี้นี่..
"...อืมม..แล้ว..สถานเด็กกำพร้านั่นเป็นยังไง"
"แย่มาก"
ผมพูดและเขาเอียงคอ
"เหมือนในหนังโรคจิตป่าว"
"หนังโรคจิต?"
"แบบใช้เเรงงานเด็กๆ.. ให้กินอาหารน้อยๆ ทำงานหนักๆ ทุบตี ข่มขืน.."
ผมกลืนน้ำลาย..แล้วพยักหน้า..
"เฮ้ย..จริงดิ?!!"
"จริง"
ผมพูดก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น..ไม่อยากพูดถึงอีกแล้ว..
และดูเหมือนโจเซฟจะเข้าใจ..
"ตอนนี้คุณก็มีทุกอย่างเเล้ว..ไม่คิดกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรที่นั่นหน่อยเหรอ"ผมหันไปสบตาร่างสูง.. เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆ..
แต่เจตนาของประโยคนั้นส่งผลต่อตัวผมมาก..
"ผมไม่..ไม่อยากกลับไป"
"เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน..เราทำงานการกุศลสร้างภาพลักษณ์กันหน่อยเป็นไง"
โจเซฟพูดก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมแล้วลากให้ผมเดินเร็วขึ้น..
ไม่รู้ทำไม..ผมสบายใจขึ้นนิดหน่อยตอนได้จับมือเขา..
"ไม่เอา""เอา เชื่อผมสิ..มันจะดี.. ผมว่าเวลาผ่านไปหลายปี หลายๆอย่างคงเปลี่ยนไป.. มันไม่ใช่ที่เดิมที่คุณเคยรู้จักแล้วนะ..
แถมยังมีเด็กๆอีกเยอะรอเงินสนับสนุนจากพวกเราอยู่...เฮ้อ..คนหล่อ รวย ใจบุญ รักเด็ก.. ใครจะเกิดมาได้เทพบุตรอย่างนี้ไม่มีอีกแล้วว"
"โจเซฟ"
ผมลากเสียงขอร้องเขา ดึงมือออกมาอย่างแรง..แต่ไม่สำเร็จ
สุดท้ายคนเอาแต่ใจก็ลากผมกลับโรงแรม..ก่อนจะบังคับแกมขู่เข็ญให้ผมบอกชื่อสถานสงเคราะห์นั้น..
"เดี๋ยวคุณกลับไทยเมื่อไหร่ผมจะลากคุณไปที่นั้นให้ได้"
ร่างสูงพูดอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ..ผมส่ายหัวอย่างอ่อนเพลีย..
..................................
คืนนี้โจเซฟชวนผมมาจิบไวน์ที่ชั้นล่างของโรงเเรม..
เรื่องของเรื่องคือผมเป็นพวกไม่นิยมเครื่องดื่มมึนเมา..ถ้าไม่จำเป็น..
แต่ดูเหมือนคนข้างๆจะชื่นชอบมันเป็นพิเศษ..
แถมยังหวังดีให้พนักงานรินใส่แก้วให้ผมอยู่เรื่อยๆอีกด้วย..
"ผมพอแล้วนะ..ผมไม่ค่อยได้ดื่ม"
"เอาหน่อยน่า"
ร่างสูงพูดก่อนจะชนแก้วกับผมอีกครั้ง..และเมื่อสบสายตาคู่นั้น..
เฮ้อ...ปฏิเสธไม่ได้สักที..
เวลาล่วงเลยไปเท่าไหร่ผมไม่อาจรู้ได้..
รู้เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมรู้สึกตัวเบา..มีความสุข..
ปนง่วงนิดๆ..
"ผมง่วงแล้ว"
ผมพูดก่อนจะเอียงตัวซบไหล่คนข้างๆ..แล้วสักพักก็มีมือหนาๆดึงผมเข้าไปซบ..
"ผิดคนแล้ว..ฮ่าๆๆ"
ผมเหลือบตาขึ้นมองโจเซฟ..นี้ผมอยู่ในอ้อมแขนเขาอีกแล้วเหรอนี่..
..อบอุ่น..สบายใจจัง..
"เฮ้ยๆ อย่าอ้อนดิคุณณ"
ร่างสูงพูดก่อนจะใช้มือลูบหัวผมเบาๆ.. ผมซุกตัวเข้าหาเขามากยิ่งขึ้น..
"ไม่ได้อ้อน"
"เมาแล้วนะเนี่ย.."
"Nope"
"Yes, you are"
โจเซฟพูดก่อนจะประคองผมขึ้นแล้วพาผมเดิน..เพื่อที่จะกลับไปยังห้องพัก..
.................................
"ผมก็เมานะ"
ร่างสูงพูดก่อนจะวางผมลงบนเตียง ผมขมวดคิ้วมองเขา
"กอด.."
"ให้ผมกอด?"
ผมพยักหน้า และเขาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
"กอดผม"
"ไม่เอาน่า.. คุณโตแล้วนะวินด์..อ้อนแบบนี้ถ้าผมล่วงเกินจะทำไงห้ะ.."
เขาใช้ดวงตาสีเขียวที่ดูมีเสน่ห์นั้นมองผมก่อนจะเม้มปาก..อยู่ๆผมก็น้ำตาไหลออกมา..
"ฮึก..ไม่เอาอีกแล้ว..ไม่เอา.."
ผมมองเห็นหญิงร่างอ้วนเดินเข้ามา..เธอถอดเสื้อผ้าแล้วเรียกผมกับน้องๆไปหา..
'เอาแค่เด็กผู้ชาย..'
เธอบอกก่อนจะบังคับให้น้องของผมคนหนึ่งก้มลงอยู่ข้างล่าง..
เด็กๆผู้มีใบหน้าขมุกขมัว..ใบหน้านั้นเลือนลางทว่าหยาดน้ำตากลับชัดเจนยิ่ง..
"ฮึก..ไม่เอา...ไม่.."
ผมนอนตัวสั่น..และอ้อมแขนที่กอดผมไว้..น้ำหนักเตียงที่ยวบลงไป..
กับจูบที่หนักแน่น..มึนเมา.. สัมผัสและรสชาติเป็นของไวน์..มันทำให้ผมเวียนหัว..
"เรากำลังทำอะไร.."
ร่างสูงกระซิบกับผมเบาๆ..
ผมรู้สึกโหวงในท้องน้อยเมื่อน้ำหนักตัวของเขากดทับลงมาแรงยิ่งขึ้น..
ผมร้องไห้เบาๆก่อนจะใช้สองมือโอบแผ่นหลังกว้างเอาไว้..
ราวกับจะยึดมัน..
"ถือว่านี้เป็นคำปลอบโยนจากผมละกัน"
ปลายลิ้นร้อนชื้น..กลิ่นไวน์ที่ชวนเวียนหัว.. แทรกซึมเข้ามา.. ตอนแรกเริ่มที่ต้นคอ..
ลงมาที่หน้าอก..
เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกดึงออกอย่างลวกๆ..
ผมสับสน.. น้ำตาเริ่มแห้งเหือด..
ความรู้สึกร้อนวูบวาบเข้ามาแทนที่..
..ผมอาจต้องการคำปลอบโยน..ในตอนนั้นผมไม่มีทางรู้เลยว่าค่ำคืนนี้จะเปลี่ยนแปลงพวกเราสองคน
เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
"โจเซฟมีแฟนแล้วค่ะ...คู่หมั้น..คบกันมานานแล้วด้วย"
ติดตามต่อไปว่า One night stand แบบผิดศีลธรรมจรรยานี้จะไปจบลงที่ใด..
และวินด์..ผู้ที่ทั้งฉลาดเฉลียวแต่บิดเบี้ยวและเปราะบางจะได้พบเจอความรักจริงๆหรือไม่..
หรือต้องหอบหัวใจบอบช้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า..
ครั้งนี้ชีวิตของเขาจะมีทางเลือกไหมนะ..หรือมันจะไม่เคยมีอย่างที่เขาบอกจริงๆ..
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ(โค้ง)
--Anynomous--