ผมตกอยู่ในภวังก์อะไรสักอย่างไปสักพัก การใช้ความคิดทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีสติมากขึ้น
"ไม่มีเลขซ้ำ ไม่มี.."
ผมเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
ผมกำลังพยายามวิเคราะห์คำใบ้ที่ได้มาเพิ่มว่ามันจะสื่อถึงอะไร
มันอาจจะตรงตัวไปเลยก็ได้..
ไม่มีเลขซ้ำก็คือไม่มีเลขซ้ำ
ตัวแรกคำใบ้คือ K ที่น่าจะเดาได้ว่ามาจากคิงซึ่งพอมารวมกับคำว่าจำนวนก็ได้จำนวนคิงออกมาเป็น 2 ก็คือ ผมกับเพลิง
เดี๋ยว..
ผมขมวดคิ้วแน่นเหมือนเริ่มจับเค้าลางอะไรบางอย่างได้
คำใบ้ตัวที่สองกับสามมันให้มาตรงตัวไม่มีทางที่จะเปลี่ยนได้แน่ๆ
ปัญหาเลขซ้ำจึงมาตกอยู่ที่คิง
คิงมีสองคน..
ไม่!!
ผมเบิกตากว้าง
หรือคิงไม่ได้มีแค่ผมกับเพลิง!
"เพลิ--"
ผมที่พยายามที่จะเรียกเพลิงแต่ก็พบว่าเสียงของผมหายไปแล้ว
ลำคอของผมตอนนี้แห้งผาก ผมเหลือบมองขวดน้ำที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ และเกิดความคิดไร้สาระว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีถ้ามันลอยมาหาผม
อาการแสบในลำคอกำลังประท้วงให้ผมพยายามหาอะไรมาระงับมัน
ผมลองขยับข้อมือที่ถูกเพลิงมัดไว้แน่นแต่แค่ออกแรงนิดหน่อยมันกลับหลุดออกอย่างง่ายดาย ผมขมวดคิ้วงุนงง
หมายความว่าไง..
เพราะเพลิงไม่ได้แกะปมเชือกหรือขยับเชือกให้หลวมอะไรเลย
แล้วทำไมเชือกมันถึงหลุดออกได้ล่ะ?
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรถือว่าเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ
ผมแกะเชือกและโยนมันให้ออกห่างจากสายตา ไม่มีใครอยากโดนมัดไว้หรอก.. ผมลูบข้อมือที่รู้สึกแสบจากการเสียดสีของเชือกเบาๆ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบขวดน้ำมากินจนหมด
มันไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นสักเท่าไหร่..
ปริมาณน้ำที่เหลืออยู่ในขวดมีอยู่น้อยเกินไปแต่ผมก็ไม่คิดจะหยิบมากินเพิ่ม อาหารกับน้ำเหลืออยู่ไม่มากแล้วสิ่งที่ทำได้ช่วงนี้คือการประหยัด
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนหลังจากนั่งมานาน กระพริบตาเมื่อคล้ายกับมองเห็นแสงเลือนลาง
น่าแปลก
ที่อาการหวาดกลัวของผมหายไปจนหมด พอไม่มีเงาตะคุ่มนั่น เงาตะคุ่มที่มาพร้อมกับเสียงหลอกหลอนน่ากลัว
ผมไม่แน่ใจว่ามันเกิดจากอะไร แต่การที่ไม่มีมันก็ถือเป็นเรื่องดี
บางทีร่างกายของผมตอนนี้มันอาจจะกำลังเรียกร้องให้ผมมีชีวิตอยู่
แต่มันก็แค่บางที..
เพราะผมไม่มีทางรู้ว่าร่างกายผมมันจะคลุ้มคลั่งอีกตอนไหน
ลมหายใจของผมสะดุดเมื่อผมสาวเท้าเข้าไปใกล้แสงเลือนลางนั้นแล้วมีกลิ่นความเลือดรุนแรง ดวงตาที่เริ่มจะชินกับความมืดได้สักพักพยายามฉายภาพบางอย่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น
มือของผมสั่นเทา ผมเม้มปากแน่น เมื่อต้องก้มลงไปหยิบไฟฉายอันเล็กที่อยู่ในมือของเขา
แสงไฟริบหรี่ของไฟฉายบ่งบอกว่ามันถูกใช้งานมาอย่างหนักหน่วงและใกล้จะหมดเต็มทน
ผมดึงมันออกมาจากมือ มือสั่นๆ พยายามประคองส่องมันกับร่างบนพื้น
ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมกลัวจนแทบบ้า แต่ผมไม่อยากเลือกที่จะหนีความจริงอีกแล้ว
ใครจะไปรู้ถ้าเกิดผมตัดสินใจหนีอีกครั้ง
ผมอาจจะไม่มีโอกาสให้หนีอีกเลย..
บางสิ่งบางอย่างมันกำลังรอคอยเวลาที่จะฆ่าผมอยู่ คนโกหกอะไรสักอย่างนั่น
ถ้าผมยังคงอยู่นิ่งๆ ไม่ทำอะไร ใช้วันทั้งวันไปกับการตีโพยตีพาย ผมคงจะต้องตายจริงๆ
ถึงปากผมจะพร่ำบอกว่าอยากตายๆ
แต่เอาเข้าจริงลึกๆ ในใจผมก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ดี
แต่ถ้าถามว่าผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม
คงจะไม่...
มันไม่มีทางที่จะเหมือนเดิมได้แน่ๆ
ลมหายใจของผมถูกช่วงชิงไปทันทีพอเห็นหน้าร่างบนพื้นชัดๆ
ต้า.. ที่หน้าตาเหวอะหวะยิ่งกว่าเดิม นัยน์ตาเหลือกค้าง เลือดกลบปาก
ผมผวะถอยหลังหนีรู้ตัวอีกทีชนเข้ากับกำแพงอย่างแรงจนร้าวไปทั้งหลัง
ปากคอผมสั่นไปหมด เมื่อนึกถึงคนสุดท้ายที่อยู่กับต้า
เพลิง... เพลิงฆ่าต้า !
ผมร้องไห้สะอื้น แต่เพลิงฆ่าก็เพื่อปกป้องผมไว้
แต่มันถูกแน่เหรอ.. ? ถึงกับต้องฆ่าเลยเหรอ..
แล้วผมควรจะทำยังไง... ผมควรจะรู้สึกแบบไหน
ในเมื่อผมก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้าต้องตายเหมือนกัน!
ผมกรีดร้องกุมหัวตัวเอง
ถึงผมจะไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่สาเหตุมันก็มาจากผม
แล้วมันต่างอะไรกันล่ะ!
คำว่า ฆาตกร ปรากฎในหัว ก่อนที่จะยัดภาพต้าเมื่อกี้เข้ามาให้เห็นชัดๆ ราวกับตอกย้ำถึงความผิดร้ายแรงที่ผมได้ทำ ไม่ว่าผมจะเจตนาหรือไม่ก็ตาม
ผมควรจะดีใจใช่ไหมที่ตัวเองยังคงมีชีวิตด้วยการฆ่าคนอื่น
ผมควรจะดีใจจริงๆ ใช่ไหม
ผมทรุดตัวกองบนพื้น หอบหายใจสะอื้น
ทำไมผมกับเพลิงต้องมาเล่นเกมนี้ด้วยนะ..
"พี่อัน?"
เสียงเรียกคุ้นเคยเอ่ยเรียกผมซึ่งก็มาพร้อมกับไฟที่ส่องหน้าจนแสบตา
ผมเงยหน้ามองเพลิงที่เห็นเป็นเงาลางๆ
"เพลิง ..เพลิงฆ่าต้าใช่ไหม"
หลักฐานคาตาอยู่ตรงนั้น แต่ผมก็ยังอยากถาม
"ถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรานะ พี่อัน ผมจำเป็นต้องฆ่า"
เพลิงพยายามจะดึงตัวผมไปกอด แต่ผมผลักมือเพลิงออก
"พี่อัน.."
ผมยังคงสะอื้น
ความสูญเสียมันเกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมาทุกวัน
โดยที่ผมยังนั่งอยู่ตรงนี้ อยู่อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องทำอะไรสักนิด
บางทีเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันอาจจะเกิดมาจากผมก็ได้
ผมที่โชคดีหยิบได้ไพ่คิง..
พระราชาที่อยู่บนจุดสูงสุดคอยทอดมองประชาชนไพร่ทาสถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น
"คิง อาจจะไม่ได้มีแค่พี่กับเพลิงก็ได้..ฮึก อาจจะไม่ได้มีแค่สองคน"
แต่ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามีกี่คน
ใครจะไปรู้ว่าคนที่ตายๆ ไปแล้วอาจจะได้ไพ่คิงแล้วหลอกคนอื่นว่าได้ไพ่นู้นนี้นั่น อาจจะร่วมมือกับพวกมันแล้วก็ไล่ฆ่าคนอื่น แต่ผมควรจะสงสัยใครล่ะ? ในเมื่อส่วนใหญ่ก็ตายกันไปหมดแล้ว
คนที่เหลืออยู่จริงๆ ก็มีแค่เจ๊คิวปิด เพลิง กับบอสที่ไม่รู้ว่าตายหรือยัง
"ผมไปลองดูๆ ห้องเก่าๆ มันถูกเคลียร์ศพออกหมดแล้วเหลือแต่พวกของใช้ที่ให้มาตั้งแต่ครั้งแรก ผมกำลังสงสัยว่าพวกมันอาจจะเริ่มนี้ใหม่อีกครั้งถ้าเราเล่นกันจบแล้ว"
หมายความว่าจะต้องมีคนมาเล่นเกมนี้อีก?
"แต่พวกมันก็น่าจะเว้นระยะไปหลายปีนั่นแหละพี่อัน ข่าวคนหายพร้อมกันในเวลาเดียวกันคงทำให้พวกมันขยับตัวไม่ได้ไปสักพัก เหมือนกับของผมที่เพิ่งได้กลับมาเล่นรอบสองกับพี่"
"ทำไมเพลิงต้อง ฮือ พาพี่มาเล่นด้วย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้"
"คำตอบผมก็เหมือนเดิม พี่อัน"
เสียงของเพลิงไร้อารมณ์
"ผมรักพี่ ถ้าผมเล่นคนเดียวแล้วผมหายไป พี่ก็อาจจะแค่ตกใจนิดหน่อยแล้วก็ลืม สุดท้ายพี่ก็แต่งงานมีลูก ครอบครัวแฮปปี้มีความสุขโดยที่ผมกลายเป็นแค่ฝุ่นในความทรงจำของพี่"
แต่คำตอบครั้งนี้กลับเปลี่ยนไปไม่เหมือนที่เจ้าตัวพูด
มันคือความคิดจริงๆ ของเพลิงรึเปล่า..?
ผมพยายามขยับตัวหนีเพลิงแต่เพลิงก็ยึดแขนผมไว้แน่น
"พี่อัน ผมรู้ว่าพี่ก็รักผม พี่จะไม่ทิ้งผมไปไหนใช่ไหม"
คล้ายจะเป็นคำวิงวอนแต่น้ำเสียงของเพลิงกลับหยาบกระด้าง
"ผมเอาพี่มาก็จริง แต่ผมปกป้องพี่ทำทุกอย่างก็เพื่อพี่ พี่จะทิ้งผมไม่ได้นะ พี่จะทำตัวเลวๆ เหมือนแม่ผมไม่ได้!"
เพลิงที่ผมคิดมาตลอดว่าควบคุมสติได้ดีกว่าผม ตอนนี้เหมือนกับลูกโป่งที่ถูกเหยียบจนแตก อารมณ์ของเพลิงที่ถูกเก็บไว้ข้างในปะทุออกมา
คนที่ฆ่าคนอื่นได้โดยที่ยังเป็นปกติอยู่ ผมว่าไม่มีอยู่จริงหรอก..
แรงบีบที่แขนผมแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ผมไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวหรือพูดอะไรนอกจากสะอื้นในลำคอ
กลัว...
"พี่ต้องรักผมเพราะผมรักพี่! ถ้าเราชนะเราจะไปอยู่ด้วยกันนะพี่อัน ผมจะไปไถ่บ้านคืนจากพ่อแล้วเราก็จะอยู่ด้วยกัน.. พี่เป็นติวเตอร์ใช่ไหม ผมเคยเห็น เดี๋ยวผมจะไปสมัครงาน งานที่อยู่ใกล้ๆ กับพี่ พอกลับบ้านเราก็จะกลับด้วยกัน กินข้าวเราก็จะกินด้วยกัน เหมือนที่ผมอยากให้เป็นมาตลอด.."
เพลิงโถมกอดผมทั้งตัว
"ตกลงนะพี่อัน ตกลงกับผม"
เพลิงพึมพำข้างหูผม
ผมไม่กล้าตอบรับอะไร
"เพราะพี่ต้องเป็นของผมคนเดียว"
ในชั่วขณะหนึ่งที่ผมคิดว่าคนที่โกหกผมอยู่ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล
มันอาจจะเป็นเพลิงที่โกหกผมมาตลอด
แต่ผมไม่กล้าพูดหรืออะไรทั้งนั้น
เพลิงในตอนนี้สำหรับผมก็เหมือนคนแปลกหน้า
สติที่มีเหลืออยู่น้อยนิดในหัวผม พยายามกระตุ้นให้ผมเลิกปล่อยตัวเองให้ไร้สติและเอาแต่ยึดติดอยู่กับเพลิง
เพราะอาจจะเป็นเพลิงซะเองที่จะฆ่าผมในวันข้างหน้า!
เพลิงพาผมกลับห้องและให้นอนอยู่บนเตียงซึ่งผมก็ทำตามแต่โดยดี
ไม่สิ.. ผมไม่กล้าขัดขืนมากกว่า
ผมกำลังกลัวเพลิงทั้งๆ ที่อีกความรู้สึกก็อยากกอดเพลิงไว้แน่น
ทุกอย่างในตัวผมมันสับสนไปหมด เต็มไปด้วยความขัดแย้งทั้งเรื่องอารมณ์ความคิดร่างกาย
ผมใช้ไฟฉายในมือส่องทั่วห้องในระหว่างที่เพลิงกำลังเตรียมขนมปังให้ผมกิน
ตอนนี้ประตูที่เปิดออกมีแค่ห้องของต้ากับเจ๊คิวปิด.. ประตูที่เหลือแนบสนิทกับกำแพง แต่เพลิงบอกว่าห้องแต่ละห้องมันเชื่อม
กันได้ ซึ่งผมก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเชื่อมได้ถึงขนาดไหนแต่เห็นเพลิงบอกว่าถูกเคลียร์ห้องไปหมดแล้ว.. ก็อาจจะเชื่อมได้ทุกห้อง
จนตอนนี้ผมรู้สึกหงิดหงุดตัวเองที่ไม่ยอมเดินสำรวจต่อ เอาแต่ร้องไห้อยู่ในห้องของต้า
"เป็นอะไรรึเปล่า พี่อัน? ไม่คุยกับผมเลย"
เป็นอย่างที่เพลิงว่า ผมไม่ได้ตอบอะไรเพลิงอีก นอกจากคำสั้นๆ
"เปล่า"
เพลิงรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบไหนขึ้น แต่ก็จงใจพาผมเข้ามายุ่งด้วยโดยไม่สนใจว่าผมจะรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย ถึงจะบอกว่าจะปกป้องก็เถอะ
แต่แบบนี้มันก็เหมือนกับฆ่าผมทั้งเป็นนั้นแหละ!
ผมโกรธเพลิง ที่ดึงผมเอามาเป็นตัวหมากในกระดาน
จนตอนนี้ผมไม่อยากคุยอะไรกับเพลิงเลย
คำพูดแต่ละคำที่พูดออกมานั้น เป็นคำโกหกหรือเปล่า?
จะหลอกให้ผมตายใจแล้วฆ่าผมไหม
สิ่งที่หลอกหลอนผมมาตลอดอย่างภาพหลอนพวกนั้นตอนนี้หายไปจนหมดเมื่อความรู้สึกโกรธครอบงำผม
ผมอยากจะกลายเป็นบ้าให้รู้แล้วรู้รอด
ไม่อยากคิดอะไรอีก ทุกอย่างมันมากเกินไปสำหรับมนุษย์ติวเตอร์อย่างผม
จุดมุ่งหมายชีวิตผมมันก็แค่ส่งเด็กเข้ามหาลัยที่เขาฝันได้เป็นอาชีพที่เขาอยากเป็นแค่นั้นเอง
ผมทำอะไรผิดงั้นเหรอ?
ที่ต้องมานั่งดูคนตายทุกวัน นั่งเล่นเกมที่มีคนคอยจะฆ่าเราเมื่อสบโอกาส
บางทีผมอาจจะโชคร้ายไปเองก็ได้
แต่นั่นก็เป็นเพียงความคิดปกติของผม
เพราะความจริงก็คือมีคนจงใจพาผมเข้ามาในเกมเวรๆ นี่
ความรู้สึกของผมค่อยๆ เริ่มชาด้านขึ้นมาทีละนิด
ผมได้แต่หวังว่ามันจะด้านชาพอที่จะรับอะไรที่มันเลวร้ายกว่านี้....
---------------------------------------
คนที่อยากจะไว้ใจกลายเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ซะงั้น
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่าา
จากที่กะๆ ไว้อีกไม่นานก็น่าจะจบแล้ว ไม่เกิน 5 ตอน (เดา)