วันนี้วันหยุด แต่ผมไม่ได้หยุดนะต้องทำงาน
++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่30
วันเสาร์นี้ผมก็เลยไปบ้านอย่างสบายใจครับ ทีแรกนึกว่าต้องหอบเอาหัวใจกลับไปเลียแผลที่บ้านซะแล้ว แต่ดีที่หัวใจยังแข็งแรงอยู่ เลยกลับบ้านแบบอารมณ์เบิกบานครับ พอไปถึงบ้านแม่ทักก่อนเลยครับ
“โอมมาแล้วเหรอ แล้วต่ายล่ะลูกไม่มาด้วยเหรอ” แม่....ไหง๋ทักกันแบบนี้
“พี่ต่ายมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะแม่!!! ทำไมเค้าต้องมาล่ะ” แม่อย่ามาทำให้ผมจิตตกนะ
ผมตกใจเลยครับ ไม่รู้แม่ไประแคะระคายอะไรมารึเปล่า ทำไมอยู่ดีๆจะมาถามถึงพี่ต่าย
หรือว่า.....แม่จะรักพี่ต่ายมากกว่าผมแล้ว อะไรกันนี่มาหนเดียวเองนะ จะเป็นไปได้ยังไง
“ก็เค้ามาช่วยดูบัญชีให้เราตอนโอมไม่อยู่นะซิ แม่นึกว่าโอมรู้แล้วซะอีก”
“แม่ว่าอะไรนะ!!!!!!!!!!!” แม่พูดอะไรผมงง ผมเลยเผลอตะโกนไปครับ
“จะบ้าเหรอโอมตะโกนทำไม ก็ยืนกันอยู่ตรงนี้เอง เดี๋ยวตีตายเลย หูจะแตก แม่ตกใจหมด”
“แม่ผมงงจริงๆนะ พี่ต่ายมาดูบัญชีให้บ้านเราเมื่อไหร่กัน ผมไม่รู้เรื่องจริงๆนะ”
“ก็อาทิตย์ก่อนไง” แม่ตอบ
“แล้วอยู่กี่วันครับ”ผมถาม
“5-6 วันนี่แหล่ะ”แม่ตอบอีก
แม่ก็ไม่เล่าซะทีเดียว ให้ผมถามทีละคำถามอยู่ได้ จะโวยวายก็กลัวโดนบ่น เอาไงดี
“แม่เล่ามาทีเดียวได้ไม๊ เหนื่อยละขี้เกียจถาม” พอผมพูดจบแม่ตีผัวะไปที่แขนผม
อาจจะดูว่าผมไม่ค่อยเคารพแม่ แต่ไม่ใช่นะครับเราสนิทกันมากกว่า คนอื่นเลยอาจจะดูว่าไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แม่ก็ว่าง่ายครับคงรำคาญผมถามทีละคำถามเหมือนกัน
“ก็อยู่ดีๆ ต่ายก็มาบอกว่าให้ช่วยหาที่พักให้.....ลาพักร้อนมา”
“แม่เห็นห้องโอมก็ว่างๆ เลยบอกให้มานอนบ้านเรา แล้วจะไปเที่ยวไหนก็ค่อยไป”
“ทีแรกเค้าก็ไม่ยอมมาอยู่นะ แต่แม่คะยั้นคะยอ”
“ทีหลังเลยบอกว่างั้นก็จะขออยู่ด้วยซักพักนึง แล้วก็บอกจะช่วยดูบัญชีที่โอมมาตั้งไว้ให้ แม่บอกไม่ต้องก็ไม่ยอม”
“ ต่ายเค้าบอกเป็นค่าที่พักที่กิน แม่ก็เลยให้พักกะเรานี่แหล่ะ”
“จบล่ะ” แม่จบเอาดื้อๆ
“แม่น่ะ ทำงี้ได้ไง แล้วไม่บอกโอม ให้นอนห้องโอมอีกต่างหาก”
“อ้าวก็เห็นเป็นเพื่อนเรา สนิทขนาดพามาบ้านก็นึกว่ารู้หมดแล้ว”
ผมไม่รู้ว่ามีอะไรที่ผมน่าจะต้องรู้แล้วดันไม่รู้ อันเนื่องมาจากพี่ต่ายรึเปล่า ไม่เข้าใจพี่ต่ายเลยจริงๆ ว่าคิดยังไงทำไมต้องหนีร้อนมาบ้านผมด้วย ที่อื่นตั้งเยอะแยะ
“โอมอย่ามัวแต่ถามไร้สาระ กลับมาทำงานก็ไปทำงานซิ แม่ไม่ว่างแล้ว ไปๆทำงาน”
แล้วแม่ก็บ่นๆๆ บลาบลาๆๆๆๆๆๆ บ่นไปเดินไป ทิ้งให้ผมยังยืนงงอยู่พักนึง ผมเลยส่งsmsไปหาพี่ต่ายก่อน
“กลับไป อธิบายด้วย” แค่นี้ละครับรู้ว่าตอนนี้พี่ต่ายทำงานอยู่ไม่อยากกวน กลับไปเจอกันแน่
ผมอยู่บ้านคราวนี้ สองหูผมมีแต่เรื่องพี่ต่าย ขนาดพนักงานบัญชีบ้านผมก็เอาแต่ชมพี่ต่าย บอกว่าสอนทำงานดี ไม่เหมือนคุณโอมเอาแต่ดุ ป๋าผมแม่ผม ก็พูดแต่ว่าพี่ต่ายนิสัยดี มีสัมมาคารวะแล้วมาช่วยขายของด้วยน่ะ(ขนาดผมยังไม่ทำเลย)
พี่อิงก็บอกว่าจริงใจดี แล้วแถมมารู้จักญาติๆผมที่อยู่ทางนี้หมด ผมละกลุ้มใจ พี่ต่ายทำอะไรแปลกๆ ขนาดลูกค้าผมที่เคยมาเจอพี่ต่ายยังบอกว่าพี่ต่ายหล่อเลย ผมจะบ้าตาย ไม่รู้จริงๆว่าพี่ต่ายคิดยังไง
กลับมาบ้านคราวนี้ผมเลยแทบไม่ต้องทำอะไรเลยครับ ก็พี่ต่ายเล่นมาทำไปหมดแล้ว ไอ้ช่วงที่ผมกระวนกระวายใจว่าพี่หายไปไหน พี่กลับมาอยู่ที่บ้านผมซะได้ แต่กลับไม่บอกผมซักคำ ต้องให้ผมมารู้เองอีกล่ะ
ตอนเย็นๆผมกลับบ้านไม่รู้จะทำอะไร เลยไปขี่จักรยานออกกำลังกายครับ กำลังขี่เพลินๆก็มีคนตะโกนเรียกชื่อผม
“โอม....ใช่โอมป่าว”
เสียงไม่ค่อยคุ้นครับ แต่พอหันไปดูอ้าวเพื่อนสมัยแฟนฉันน่ะครับ ตอนเด็กๆเรามีแก๊งค์ขี่จักรยานกัน ก็เป็นเพื่อนๆพี่ๆแถวๆบ้านแหล่ะครับ สนุกสนานมากมาย ไม่ต้องคิดอะไรจริงๆ
“เฮ้ย......ไงบุ้ง มรึงเป็นไงบ้างว่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำงานที่ไหน”
ดีใจเหมือนกันครับนานๆเจอกันที มันตัวสูงกว่าผมแล้ว แต่ก่อนเตี้ยเชียว ดำด้วย ตอนนี้ทำไมตอนนี้สูงจังแต่ผิวก็ยังคล้ำๆอยู่ดี
“กรูทำอยู่ที่บริษัท....ทำมาร์เก็ตติ้งน่ะ แล้วมรึงล่ะโอม” บุ้งตอบผมยิ้มๆ
“กรูทำตรวจสอบว่ะอยู่บริษัท........”
ตอนนี้เราเลยจูงจักรยานเดินคุยกันแล้วครับ อากาศก็ดี คนไม่พลุกพล่าน ลมพัดเย็นๆกำลังสบายๆ เราก็คุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่เจอกัน เพราะเราสองคนก็ไปเรียนกรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆเหมือนกัน แป๊ปเดียวครับก็จูนกันติดเหมือนสมัยก่อนเลย
“แล้วกลับวันไหนล่ะโอม” บุ้งถามผมครับหลังจากที่เราใกล้ถึงบ้านแล้ว
“พรุ่งนี้.......แล้วมรึงล่ะ แต่กรูกลับรถทัวร์นะ”
“เฮ้ยกรูก็กลับเหมือนมรึงแหล่ะ ยังไม่มีรถเลยว่าจะเก็บเงินดาวน์อยู่เนี่ย”
“งั้นกลับด้วยกันไม๊”
“งั้นกลับด้วยกันไม๊”
เราพูดขึ้นมาพร้อมๆกันเลยครับ พอรู้ตัวเราเลยหัวเราะกันใหญ่ อยู่ดีๆก็พูดพร้อมกันซะได้ขำจริงๆครับ พวกเราเลยนัดเวลากลับด้วยกัน แต่ก่อนจะแยกกันบุ้งก็บอกกับผมว่า
“มรึงรู้ไม๊ กรูดีใจมากเลยที่กลับมาบ้านคราวนี้เจอมรึง.....โอม คิดถึงมรึงจริงๆนะเว้ย”
แล้วบุ้งก็ยกมือเกาหัวทำหน้าเขินๆครับ ผมตลกกับท่าทางมันจริงๆ มันก็ยังขี้อายเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอายุมากขึ้นไปเท่าไหร่มันก็ไม่เปลี่ยน ผมเลยเอื้อมมือไปผลักไหล่มันเบาๆแล้วพูดกับมันเพราะๆว่า
“บ้าเหรอ เค้าเขินนะตัว 5555”
แล้วผมก็ขำตัวเองครับ ทีแรกมันทำหน้างงๆ แต่พอรู้ว่าผมล้อเล่น มันเลยหัวเราะดังลั่นเลย มิตรภาพตอนเด็กๆนี่มันดีจังเลยครับ
*******************************************************************
พอถึงเวลากลับแม่ผมดีใจมากที่ผมมีเพื่อนกลับ แต่ยังไม่วายพูดถึงคนที่ไม่มาด้วย
“โอมบอกต่ายนะลูก วันหลังให้มาอีก ไม่ต้องเกรงใจ”
“คร๊าบแม่........... ไม่รับเป็นลูกบุญธรรมซะเลยล่ะ ถ้ารักมากขนาดนั้น”
ชักหมั่นไส้ครับ ไม่รู้ไปทำยังไง ทำให้คนบ้านผมหลงเสน่ห์ได้ แต่อย่าไปว่าคนที่บ้านเลย ผมเองก็ถอนตัวถอนใจจากพี่ต่ายยากแล้ว คิดไปก็ยิ้มไปจนบุ้งที่นั่งข้างๆผมบนรถถาม
“มรึงเป็นอะไรว่ะโอม นั่งยิ้มคนเดียวก็ได้ เออ.....บ้ารึปล่าว”
“ไม่มีอะไรคิดอะไรเพลินๆ” แล้วบุ้งก็เอาเลย์ขึ้นมากินครับ แล้วชวนผมกินด้วย
“ไม่เอาหรอก มรึงกินไปเถอะ”
“เอาน่า อ่ะ”
แล้วบุ้งก็เอาเลย์มาป้อนผมที่ปากครับ ผมนึกในใจมรึงจะบ้าเหรอว่ะมาป้อนกรูทำไม๊ แต่จะไม่กินก็ไม่ได้ครับ ก็มันดันจนเข้ามาในปากผมแล้ว แล้วมานก็ยังไม่หยุดป้อนครับ ผมก็กินกับมันต่อไปพักนึง ดีเหมือนกัน no hand แล้วไม่ไหวแล้วครับ
“ไม่เอาแล้วบุ้ง กรูหิวน้ำแล้ว มรึงกินไปคนเดียวเหอะ”
“เอ้าน้ำ” ถึงปากผมอีกแล้วครับน้ำ เออมึงเอาใจกูดีจังว่ะ เตรียมมาพร้อมเชียวนะเมึง
“บุ้งมรึงเอาใจเก่งชิบหายเลยว่ะ ใครเป็นแฟนมรึงคงสบายน่าดู”
“เฮ้ย กรูยังไม่มีแฟนหรอก.......แล้วมรึงล่ะมียัง”
ผมก็นึกทบทวนอย่างพี่ต่ายนี่เรียกว่าอะไรล่ะ ใช่แฟนรึเปล่า แต่คิดไปคิดมาไม่ใช่มั๊ง
“แฟนมีก็ต้องมาดิ แฟนไม่มาก็เพราะว่าแฟนไม่มี”
ผมเลยตอบไปกวนๆแบบนี้ละครับ บุ้งก็ไม่ว่าอะไรแค่ยิ้มๆ
คุยต่อกันไปพักนึง ก็เป็นเรื่องที่ทำงานแล้วเลยแลกนามบัตรกับเบอร์โทรกันครับ จนหลังๆผมชักง่วง แล้วผมก็เผลอเคลิ้มหลับครับ หลับๆไปก็เอาหัวไปโขกกับหน้าต่าง สะดุ้งมาทีนึง เจ็บนิดๆครับ แล้วก็หลับต่อ แล้วก็โขกอีกที เอ๊ะแต่ทำไมมันไม่เจ็บล่ะ
ลืมตางัวเงียขึ้นมาดูมือใครล่ะเนี่ย มีมือคนครับ (น่ะ.....ถ้าเป็นตีนคนผมคงตกใจยิ่งกว่านี้) เอามาวางบนคั่นกระจกรับหัวผมที่โขกโป๊กๆอยู่เนี่ย
ก็มือของบุ้งแหล่ะครับมันเอาแขนอ้อมคอของผมแล้วเอาฝ่ามือมาบังหัวผมให้ ถ้าใครมาเห็นก็เหมือนกึ่งๆว่ามันโอบไหล่ผมอยู่นะครับ ผมหันไปดูบุ้งมันก็หลับ ผมก็เลยช่างมันว่ะหลับก็หลับ ถึงแม้จะแปลกๆอยู่บ้าง เพราะผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ
“เมึงไม่เมื่อยรึไงว่ะไอ้บุ้ง”
ผมก็ได้แต่พึมพำกับตัวเองแค่นี้ครับ แล้วก็หลับเอาหัวโขกมือมันต่อไปจนถึงกรุงเทพฯครับ ไม่ได้สังเกตเลยว่าบุ้งมันซ่อนยิ้มนิดๆไว้อยู่ด้วย
*******************************************************************************
เมื่อวาน....ใครมาดูคอนเสริท์พี่บอยที่เขาใหญ่บ้าง....ยกมือขึ้น