♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: P.15 ซื้อรวมเล่มได้ที่งานตลาดฟิค 22มีนา บูธ H2-3  (อ่าน 139557 ครั้ง)

ListeL

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #300 เมื่อ29-08-2012 15:47:44 »

เยยยยยยยยย้ มาต่อแล้ววววว
ถึงจิตใจคนอ่านตอนนี้จะย่ำแย่ไปหน่อยแต่ว่าอ่านชาคะกะพี่สว่างแล้วรู้สึกดีขึ้นไปด้วย เฮ้อรักกันนานๆนะ :)

ออฟไลน์ Takarajung_TK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 931
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #301 เมื่อ29-08-2012 19:26:43 »

คชาตอนป่วยน่ารักอะ  :-[
รอตอนต่อไปน้า

MoD

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #302 เมื่อ29-08-2012 21:27:22 »

อ่านรวดเดียวจบเลยยยยยยยยยยยยยย -/-

ไม่เคยดูเอเอฟ ไม่เคยจิ้นเต๋าคชา
แต่เรื่องนี้นี่สุดๆจริงๆ -///////////- รอนะคะ

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #303 เมื่อ30-08-2012 16:57:32 »

หวานมาก ยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว น่าร๊าก

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #304 เมื่อ30-08-2012 19:04:08 »

ครอบครัวตัว ต. ใจดีและอบอุ่นมากมาย
กดบวกปล่อยเป็ด

lvlax23

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #305 เมื่อ30-08-2012 20:12:16 »

น่ารักอะ  :-[ :-[ชอบบบบบ :กอด1: :กอด1:

[newZy]CASS

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #306 เมื่อ30-08-2012 20:19:04 »

>,<

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #307 เมื่อ30-08-2012 23:50:18 »

อ่านจนทัน สนุกดีเรื่องนี้  ปลื้มๆ :)

ออฟไลน์ moomew

  • ติดตาม นิยาย ด้วยนะคร๊าบบบบ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-2
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34263.0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #308 เมื่อ31-08-2012 00:06:31 »

เราอ่านในเด็กดี ชอบมาก ใกล้จบแล้ว คิคิ

เพ้อกะเต๋าไปเลย เวลาหึง สุดๆๆชอบบบบบบบบบ

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #309 เมื่อ31-08-2012 00:59:39 »

ไม่ได้อ่านตั้งหลายตอน  คลาดกันไปเสียนานกับเรื่องนี้  อ่านแล้วชอบตอนที่เต๋ากับปอต่อยกันอ่ะ  โมเม้นท์นั้นมันเท่ห์มาก  น้องชานมใสซื่อเกินไปแล้ว  คิดกดเต๋าเหรอคะ  ฝันไปเถอะ  หื่นให้ได้ครึ่งหนึ่งของคุณพระเอกซะก่อนเถ๊อะ!!!!

หวาน ๆ ๆ ๆ อ่านตอนล่าสุดนี่เปรี้ยวปากอยากกินข้าวพองเคลือบคาราเมลขึ้นมาทันที(เกี่ยว?)  ก็แบบ  มันหวานอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
« ตอบ #309 เมื่อ: 31-08-2012 00:59:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #310 เมื่อ01-09-2012 23:17:56 »

ฮี้วววว

สวีท มากไปแหละ

อยากไปอยู่ใต้เตียง 5555+

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #311 เมื่อ06-09-2012 15:16:21 »

หูย ยยย  เค้าพากันไปฝากตัวเป็นลูกสะใภ้ซะละ 5555   คงไม่ได้เป็นหรอกช้าลูกเขยอ้ะ  :laugh: :laugh: :laugh:

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 25 หน้า 10 (up 28 Aug)
«ตอบ #312 เมื่อ23-09-2012 05:49:11 »

♀ TOM (or) BOY ♂
26
[/b]







ครึ่งเทอมหลังถึงมรสุมงานจะเยอะแค่ไหน... แต่คนอย่างคชามีหรือจะไหวหวั่น

   คงเพราะยังไม่ใกล้กำหนดส่งงานเลยไม่มีใครรีบร้อนกัน เย็นวันนี้จึงมีที่หมายใหม่เป็นบ้านของเจมส์  หกโมงเย็น รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นคันสีดำก็แล่นออกจากคณะนิเทศศาสตร์ไปยังบ้านของหนุ่มร่างหมีที่อยู่แถบชานเมือง คชาซึ่งนั่งเบาะหน้ากดโทรศัพท์เพื่อนเล่นเกมฆ่าเวลา  จริงๆ ตอนแรกเขา รวมทั้งเฟรมกับเต้ที่นั่งอยู่เบาะหลังยังไม่ค่อยสนิทกับเจมส์ด้วยเพราะรายนี้ชอบปลีกวิเวกแถมยังทำหน้ามึนตลอดยกเว้นเวลาแข่งกีฬา  แต่ไปๆ มาๆ พอได้คุยกันมากขึ้นจึงถูกคอจนแทบจะกลายเป็นกลุ่มแก๊งค์เดียวกัน

ดังนั้น... ตอนนี้คชาจึงขอตั้งชื่อกลุ่มชายโสด(?)สี่คนบนรถว่า


“เอฟโฟร์... ดีปะชื่อนี้?”  เขาเอ่ยกับเพื่อนอีกสามบนรถ โดยมีคนขับอย่างเจมส์ที่พยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ

“เอโฟร์ไม่ได้หรอวะ เสียว F มันจะลอยมาจริงๆ”  โปเต้ว่า

“ถ้าเอโฟร์ก็เป็นกระดาษดิ”  เฟรมพูดขึ้น  “กูพูดจริงนะ หล่อๆ อย่างพวกเราเหมาะกับชื่อเอฟโฟร์แล้วเว่ย”


แล้วตลอดระยะทางไปบ้านเจมส์นั้น ก็เต็มไปด้วยเสียงคู่หูเฟรมกับเจมส์ที่ดำเนื้อเพลงเอฟโฟร์ออกมาแบบมั่วๆ




หนึ่งชั่วโมงต่อมา... กลุ่มเอฟโฟร์ก็ฝ่าด่านรถติดในใจกลางเมืองหลวงจนมาถึงบ้านของเจมส์  บ้านสีขาวหลังใหญ่พร้อมสนามหญ้าเล็กๆ เรียกความแปลกตาให้คชาไม่น้อย โดยเฉพาะหน้าบ้านมีสระว่ายน้ำสีฟ้าใสแจ๋วอยู่ด้วยยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
ต้องเรียกได้ว่าบ้านเจมส์มีฐานะดีเลยล่ะ แต่พอมาอยู่ด้วยแล้วไม่พาให้คชารู้สึกอึดอัดหรือต่ำต้อยสักนิด คงเพราะความสนิทแบบเพื่อนกันที่ไม่มีเรื่องฐานะมาเชื่อมโยง

อาหารมื้อเย็นที่ตั้งสำรับไว้รอดูน่าทานไปเสียทุกอย่าง มื้อนี้เขาคงเจริญอาหารไม่ต่างจากตอนไปบ้านโปเต้หรือบ้านเต๋า  พวกเขาเอ่ยสวัสดีคุณแม่ของเจมส์ที่ส่งยิ้มกว้างมาให้ด้วยท่าทางแสนใจดี

“ไม่ต้องเกรงใจนะลูก ไม่พอเติมอีกได้”  คุณแม่ท่านว่าอย่างนั้น แล้วมันก็ไม่ผิดสักนิดเดียว
ก็แหม...ฝีมือคุณป้าแม่บ้านเขาเยี่ยมยอดจริงๆ



กว่าทุกคนจะได้เข้าสู่จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้จริงๆ ก็เป็นตอน 2 ทุ่ม สี่หนุ่มเอฟโฟร์นั่งตั้งวงจั่วกันอยู่ในห้องของเจมส์
แต่อย่าเข้าใจผิดไปเชียว นี่ไม่ใช่การพนันแต่เป็นเกมการ์ดยูกิต่างหาก

เพราะบัดนี้ คือช่วงเวลาแห่งการดูเอล!!!!!

“ขอส่งเทพมังกรฟ้าโอชีริส โจมตีแบล็กเมจิคเชียนเดี๋ยวนี้!”  คชาได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าเหวอได้ที่ ...ไอ้บ้าเอ๊ยยยยย มีการ์ดแบบนี้อยู่ในกองด้วย

“ไอ้เจมส์ โกงนี่หว่า เล่นมีมอนสเตอร์แบบนี้อยู่ในเด็คคนอื่นก็ตายเรียบดิ”  คชาเอ่ยพลางทำหน้าย่นอย่างเซ็งๆ  การ์ดกับดักเมื่อกี๊ก็ใช้ไปหมดแล้วเสียด้วย

“โปรดเรียกผมว่า ‘เคน’ ไม่ใช่เจมส์”  หนุ่มร่างหมีว่า เก๊กหน้าหล่อเสมือนเป็นเคนวงเอฟโฟร์เต็มที่  “ลาก่อนซันช่าย จบเทิร์น”  ยื่นมือมาหยิบการ์ดแบล็คเมจิกเชียนของคชาที่ตั้งรุกไว้ และพลันตานั้น เขาก็ออกจากการแข่งขันไปโดยปริยายเนื่องจาก hp หมดพอดี

“ใครซันช่ายวะ?”  แพ้ไม่พอยังโดนกวนใส่อีก... วัยรุ่นเซ็ง

“ก็มึงไง... ช่วงเวลานี้อนุญาตให้โทรหาเต้าหมิงซื่อได้ โอเค๊?”  เฟรมรีบสมทบ

“ไม่ใช่เต้าหมิงซื่อเว่ย เต๋าหมิงซื่อต่างหาก กร๊ากกกกกก”  ไอ้เต้มันก็เอากับเขาด้วย
 
เหนื่อยจะเถียง... คชานึกในใจเพียงเท่านั้นก่อนจะลุกเดินออกมา ไม่ได้โทรหาไอ้เต๋าหมิงซื่ออย่างที่คนอื่นมันล้อหรอกนะ แค่เดินมาสำรวจห้องเจมส์เล่นๆ เท่านั้น  ห้องนอนกว้างขวางกว่าห้องของเขาหลายเท่า ทั้งตู้เตียง โต๊ะเขียนหนังสือ กีต้าร์ แล้วยังมีวิดีโอเกมกับอุปกรณ์ออกกำลังกายอีก

คนตัวเล็กเดินไปดูใกล้ๆ  ดัมเบลสีน้ำเงินที่วางอยู่บนพื้นเห็นแล้วก็พาให้นึกถึงแขนหนาๆ ของเต๋า(หมิงซื่อ)... ใหญ่แบบนั้นคงต้องไปแอบเล่นที่ไหนมาแน่ๆ

ว่าแล้วก็หยิบมันขึ้นมายกทีสองที...
ก็ไหวอยู่หรอก...แต่หนักเหมือนกันนะเนี่ย

“ไอ้ชาทำอะไร๊ อย่าทำหล่นทับขานะเว้ย”  โปเต้ที่สายตาว่องไวหันมาบอกเพื่อน  ก่อนจะตามด้วยเสียงของเจมส์  “อันนั้น 5 โล”
“กูไม่ซุ่มซ่ามขนาดนั้นซะหน่อย... ว่าแต่ต้องเล่นวันละกี่ทีถึงจะมีกล้ามวะ?”  คชาถามขึ้นต่อ  แขนขวายังคงยกขึ้น-ลงอย่างต่อเนื่อง
“ของแบบนี้มันต้องใช้เวลานะซันช่า”  ชื่อใหม่ที่ถูกเอ่ยขึ้นมาทำเอาคนตัวเล็กเบะปากเซ็งๆ  “ว่าแต่ซันช่าจะอยากมีกล้ามไปทำไมล่ะ?”  เจมส์ถามกลับ

“กูไม่อยากเป็นซันช่า”  คชาตอบ แค่โดนเรียกน้องทอมๆ ก็ว่าแย่แล้ว ยังโดนเรียกซันช่าอีก... ที่เป็น F4 เพราะอยากเป็นวิคว้อย กูอยากเป็นรุ่นพี่จีฮู อยากเป็นคิมฮยอนจุง!!!!!

“ถามจริงเหอะ กูดู ไม่แมน ขนาดนั้นเลยหรอวะ?”  คนตัวเล็กเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มือวางดัมเบลลงกับพื้นพลางมองหน้าเพื่อนอีกสามคนเครียดๆ

“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่มึงเหมาะกับเป็นทอมมากกว่า”  โปเต้พูดเหมือนจะปลอบ  “เออ...นั่นดิจะอยากมีแขนใหญ่ๆ ไปทำไมวะ?”  เฟรมพูดขึ้นต่อ

“เอาน่ะ กูทำได้ก็แล้วกัน พวกมึงจั่วกันไป เดี๋ยวกูขอเล่นนี่หน่อย”  คชาเอ่ยรั้นๆ ไม่ตอบคำถามเพื่อนที่รอฟัง  เพราะคำตอบของเขารู้ดีแก่ใจตัวเอง
อยากมีแขนใหญ่ๆ ไว้แข่งกับไอ้เต๋าหมิงซื่อ!!!!

คชาย้อนนึกไปถึงเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ไปนอนบ้านอีกคน อ้อมแขนนั้นที่โอบเขาไว้ตอนนอน ที่จริงก็อุ่นดีแต่พอนึกภาพตอนนั้นมันพาให้ขนลุกแปลกๆ

ใครจะคิด ว่าชีวิตลูกผู้ชาย(ที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ)ของนายนนทนันท์จะต้องมากังวลกับเรื่องแบบนี้  รูปร่างเต๋าที่ตอนแรกแค่คิดว่าสูงกว่านิดเดียวกลับดูบึกบึนแข็งแรงกว่าที่คิดไว้เยอะ ทั้งแขนใหญ่ๆ ที่อวดโชว์เขาเมื่อใส่เสื้อกล้าม แล้วยังหุ่นสวยๆ ไร้พุงนั่นอีก
เอาตรงๆ... ว่ากันด้วยเรื่องสรีระ คชาก็คิดว่าตัวเองเสียเปรียบนิดหน่อยมาโดยตลอด จนตอนที่เต๋าบอกว่า ‘คชาจะเอาครั้งแรกของเต๋าไป’ นั่นแหละ เขาเลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกคนจะยอมเสียสละพรหมจรรย์ข้างหลังให้

แต่มาคิดอีกทีดูท่าเขาจะตีความผิดไป ...ภาพเต๋าเปลือยท่อนบนโชว์แขนล่ำๆ หุ่นหนาๆ กับสายตาวิบวับที่ลอยมายิ่งเป็นเครื่องยืนยันสมมติฐานนั้น

มาถึงตอนนี้... ถึงปากจะเคยถามอีกคนว่า ‘ไม่กลัวเจ็บหรอ’ แต่นั่นคือการเตะถ่วงเท่านั้นเอง เขาไม่ได้ใสซื่อขนาดที่ว่าเจอแบบนี้แล้วไม่เอะใจอะไรเลย  แต่จะให้ยอมรับแต่โดยดีก็ยังไม่อยากทำ...เพราะงั้นเลยขอหลอกตัวเองต่อไปอีกสักหน่อย อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่นา

ระหว่างนี้... มาลองฟิตกล้ามซะหน่อยดีกว่า เผื่อสถานการณ์มันจะพลิกกลับได้จริงๆ


คชายิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความหวังซะจนเพื่อนอีกสองคนมองหน้ากันงงๆ  คนตัวเล็กอยู่กับความคิดของตนเองจนไม่ได้ยินเสียงเพื่อนที่กำลังคุยกัน

“มึงว่ามันจะไหวหรอวะ”  แวนเนสว่า

“กูว่าท่าจะยาก”  เคนตอบ

   สองหนุ่มหันมองเพื่อนซี้ร่างเล็กที่ยกเวทด้วยสองแขนพลางขมวดคิ้วไปด้วยเพราะความหนัก... ก่อนที่อีกคนจะพูดขึ้นอย่างปลงๆ

   “ไม่รอดแน่ๆ...”  วิคสรุปความ


   เล่นเวทจะรอดไม่รอดไม่รู้...แต่ถ้าต้องสู้แรงไอ้เต๋า(หมิงซื่อ)เห็นทีจะยาก
   สู้เพื่อเอกราชต่อไปนะซันช่า…พวกเรา F3 จะเป็นกำลังใจให้!!!!!





- - -






   เพื่อนไม่เคยทิ้งกัน...
   คงเพราะช่วงนี้คชาติดเพื่อนเป็นพิเศษล่ะมั้งถึงอินกับประโยคนี้  อยู่มหาลัยก็ไปทำรายงานนู่นนี่โดยมีเพื่อนสั่งเพื่อนช่วยตลอด  พอกลับหอมาก็ได้เพื่อนว่าที่คุณหมอมาช่วยสอนการบ้านอย่างขะมักเขม้นให้… การบ้านวิชาภาษาอังกฤษที่เรียนเหมือนกันทั้งมหาวิทยาลัย โชคดีที่ตัดเกรดกันแค่ในคณะของตัวเอง

   ในห้องพักเบอร์ 603 ระหว่างที่คชากำลังดูปอแก้เรียงความของเขาอยู่เงียบๆ โทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าก็ส่งเสียงดังขึ้นรบกวน และเมื่อหยิบมันขึ้นมาดู ก็ทำเอารู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

“ดีครับพี่ตี๋”  พี่ตี๋ที่ว่า...เป็นพี่รหัสคชาที่แทบไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะเจ้าตัวค่อนข้างเป็นแรร์ไอเท็มที่นานๆ จะมาให้เห็นสักครั้ง แต่ถึงกระนั้นชื่อเสียงของพี่ท่านช่างขจรไปไกล

“เฮ้ย! ไอ้น้อง วันนี้พี่เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น มีของฝากมาว้อย”  พี่รหัสว่าด้วยน้ำเสียงจิ๊กโก๋เป็นสไตล์

“โห ขอบคุณครับพี่”  ซื้อมาให้อย่างนี้คชาก็ไม่ขัดศรัทธา สำหรับพี่รหัสที่ไม่ค่อยมาให้เห็นหน้า หนังสือก็ไม่มีให้จนคชาเคยคิดน้อยใจเบาๆ พอได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจว่ายังไม่ลืมกัน

   “เออ...งั้นคืนนี้เจอกันที่ร้าน xxx ดีไหม จะพาไปเลี้ยงด้วยสักหน่อย”

   “ได้พี่ แต่นั่นมันร้านเหล้าไม่ใช่หรอ?”  คชาถามกลับเมื่อนึกขึ้นได้ ตาโตลุกวาวอย่างตื่นเต้น สบตากับปอที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี

   “เออ เลี้ยงเหล้าสักหน่อย พี่รหัสมึงเป็นใครให้มันรู้ซะบ้าง”  เพราะฉายา ‘จิ๊กโก๋ขี้เมา’ ที่ได้จากการดวดเหล้าเป็นอาจิณสินะ...
“ตกลงว่างเปล่า? สองทุ่มเจอกัน โอเค?”

   “โอเคครับพี่”  คชาตอบนิ่งๆ แต่ในใจยิ้มกริ่มเหมือนกำลังได้แหกกฎบางอย่าง  เพราะครั้งก่อนที่เพื่อนๆ ไปกินกันเขาไม่ได้ไป บอกตรงๆ เลยว่าไอ้เรื่องแบบนี้คชาก็อยากรู้อยากลองตามประสาวัยรุ่นทั่วไปล่ะนะ

   “พาเพื่อนมาด้วยก็ได้นะไอ้น้อง จะได้สนุกกัน ป๋าจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว”  ได้ยินดังนั้นคชาที่ประสานตากับปอก็ยิ้มกว้าง ยังไงก็ตามเขาคงไม่อยากกลับหอมาคนเดียว แถมกับพี่รหัสก็ไม่ได้สนิทสนมกันมากขนาดไปนั่งกันสองคนแล้วไม่มีเดดแอร์

“ได้เลยพี่ เดี๋ยวผมถามเพื่อนก่อน”
   




เหมือนนกกำลังหัดบินเป็นครั้งแรก…

   มันตื่นเต้น อยากรู้ว่าท้องฟ้าเป็นยังไง อยากโฉบกางปีกไปสัมผัสก้อนเมฆและพระจันทร์ดูสักครั้ง อยากรู้จักโลกกว้างให้มากขึ้นกว่าเดิม

   และตอนนี้ คชากับปอก็เป็นเช่นนั้น


   “โหยปอ ตอนแรกคิดว่าจะไม่มาด้วยซะแล้ว เห็นเรียนหมอ”  คชาว่าพลางเดินนำเพื่อนไปที่ร้านในตรอกไม่ไกลจากมหาลัยนัก  ใครที่บอกว่าร้านเหล้าห้ามอยู่ใกล้สถานศึกษาดูท่าจะไม่จริง

   “เพราะเรียนหมอสิยิ่งต้องมา”  ปอว่า ปรายตามองดูร้านเหล้าสองสามร้านที่เรียงรายติดกัน  “เห็นพี่โตๆ บอกว่าปีหนึ่งต้องรีบกินเหล้าเข้าไว้ พอปีสองดูอาจารย์ใหญ่ที่เป็นตับแข็งตายแล้วตอนนั้นจะเลิกกินไปเอง”

   “โห พูดซะน่ากลัว”  คชาพูดพลางหัวเราะเบาๆ แต่ในใจไม่ได้นึกกลัวอะไรอย่างนั้นเลย
   



   ร้านเหล้าใกล้มหาลัยที่เปิดเพลงเบาๆ เคล้าเสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาในคราบลูกค้า  คชาเปิดประตูเข้าไปก็เจอพี่รหัสเจ้าของฉายา ‘จิ๊กโก๋ขี้เมา’ นั่งรออยู่แล้วที่มุมด้านใน

   “ทางนี้ไอ้น้อง”  พี่ท่านอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ บนโต๊ะมีเหล้ากับมิกเซอร์วางอยู่เตรียมลงมือเต็มที่  “นั่งเลยๆ”

   สำหรับพี่รหัสอย่างพี่ตี๋นั้น เป็นผู้ชายแมนๆ ลุยๆ ไปไหนไปกัน ได้ยินว่าบ้านทำธุรกิจทัวร์เลยได้ติดสอยห้อยตามไปเที่ยวนู่นนี่อยู่เรื่อย และถึงเห็นมาดจิ๊กโก๋ไว้หนวดแบบนี้แต่มีดีกรีพูดได้หลายภาษาทั้งจีนทั้งญี่ปุ่นเลยทีเดียว

   ส่วนเรื่องความประทับใจเกี่ยวกับพี่รหัสคนนี้นั้น มันไม่มีอะไรนอกจากตอนวันแรกที่เปิดเทอมเพื่อนพี่ตี๋ก็มาบอกว่าพี่รหัสอยู่เนปาล ยังไม่กลับ  ได้เจอหน้าอีกทีก็อีกหลายวันต่อมา

   คชาเอ่ยแนะนำเพื่อนที่มาด้วยอย่างปอ

   “พี่ตี๋ นี่เพื่อนผมเอง...ปอ”  คชาแนะนำ

   “ปอ?”  คนอาวุโสกว่ามองหน้าอย่างครุ่นคิด  “เด็กคณะเราป่าววะ?”

   “ป่าวพี่ ปอมันเรียนหมอ”

   “แล้วนี่ใช่ไอ้คนที่เขาว่าเป็นแฟนเอ็งป่าววะไอ้น้อง?”  พี่ตี๋ถามต่อ  “กูได้ยินเขาลือกัน”

   คำพูดตรงเผงของพี่รหัสทำเอาคนตัวเล็กเหวอไปเล็กน้อยก่อนจะตั้งตัวทัน  “เปล่าพี่ ผมยังโสดเหอะ”  พูดจบดังนั้น... โทรศัพท์มือถือเจ้ากรรมก็ดังขึ้นพอดีราวกับจะรู้งาน


   ‘@love’


“เดี๋ยวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะพี่”  ว่าแล้วเจ้าตัวก็วิ่งออกไปรับโทรศัพท์ที่หน้าร้าน กลัวปลายสายได้ยินเพลงที่เปิดแล้วจะพาลสงสัย

   “ฮัลโหล...เต๋า”  เขาพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งที่ใจกังวลกลัวโดนจับได้

   “อยู่ไหนน่ะ ไม่ได้อยู่หอหรอ?”

   “อือ ใช่...”  เขานิ่งคิดชั่ววินาที  “มา..ทำรายงานบ้านเพื่อน นี่ออกมาซื้อขนมที่เซเว่น”  ว่าพลางมองตรงไปไม่ไกล สัญลักษณ์ร้านสะดวกซื้อสีส้มเขียวสว่างจ้าอยู่ตรงหัวมุม  “ว่าแต่โทรมามีอะไรรึเปล่า?”

“ก็ไม่มีอะไร”  เขาได้ยินเสียงลมหายใจลอดออกมาเบาๆ  “แค่คิดถึง” 

เพียงคำสั้นๆ คำเดียวทำเอาคนฟังจุกอกไม่น้อย หมู่นี้เขากับเต๋าไม่ค่อยเจอหน้ากันด้วยเพราะต่างคนก็เริ่มมีโลกของตัวเอง เขาต้องทำรายงานการบ้านจุกจิก ไหนจะไปเฮฮากับเพื่อนอีก ส่วนเต๋าก็มีซ้อมบาสเกตบอลและทำกิจกรรมที่คณะ  และแม้ฝ่ายนั้นจะชวนให้ไปหาหลังเลิกเรียนแต่เขากลับไม่กล้าพอ

   “แล้วนี่จะกลับมานอนที่หอรึเปล่า?”

   “ก็..คงไม่”  คชาตอบเพื่อตัดปัญหา  “ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”

   “อืม...ตั้งใจทำรายงานนะคชา”

   “อือ จะตั้งใจเต็มที่เลย”

   เป็นนาทีเดียวที่แสนยาวนานในความรู้สึก กว่าจะถึงจังหวะที่ได้กดปุ่มวางสาย หัวใจก็เต้นรัวจนแทบระเบิดออกมา คชารู้สึกผิด คชาไม่ได้อยากโกหก...แต่ก็ไม่อยากให้เต๋ารู้ว่าออกมาทำอะไร

   ว่ากันตามตรง... เขากลัวอีกฝ่ายรู้แล้วจะตามมาคุม กลัวตัวเองไม่อิสระเหมือนเคย

   ก็รู้ดีว่าเต๋าเป็นห่วงมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่บอกออกไป เต๋าก็ไม่ต้องมามัวพะวง มันไม่ดีกว่าหรอ???
   




   บรรยากาศในร้านเหล้าค่อนข้างเป็นไปอย่างสบายๆ  คนไม่เยอะถึงกับแน่นขนัดแต่ก็ไม่ได้โหรงเหรง  คชานั่งลงตรงที่เดิมข้างๆ พี่รหัส โดยมีฝั่งตรงข้ามเป็นปอ  ไม่ทันที่ก้นติดเก้าอี้ดีนัก แก้วน้ำสีอำพันก็ถูกส่งยื่นมาให้

   “เอาไปไอ้น้อง” 

   “ขอบคุณคร้าบพี่ตี๋”

แวบแรก... เขารู้สึกได้ถึงรสชาติขมปร่าและความร้อนวูบขึ้นมานิดๆ ที่ลำคอ  จนเมื่อแก้วที่สองที่สามตามมา แอลกอฮอล์ที่เข้าสู่เส้นเลือดก็เริ่มทำงานให้จนใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีจางๆ

“ไหวเปล่าวะคชา?”  เพื่อนผิวสีถามขึ้นในขณะที่เจ้าตัวยังนั่งจิบเหล้าไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวี่แววสะทกสะท้าน

“ไหวๆ เพิ่งกินไปแก้วเดียวเอง”  คชาว่า คีบถั่วเข้าปากเคี้ยวหงับๆ

“แก้วเดียวที่ไหน นับมั่วแล้ว เห็นเติมไปตั้งหลายรอบ”

“อ้าว ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนแก้วใหม่ซะหน่อย ฮะๆๆ”  คนตัวเล็กว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนจะขำกับคำพูดของตนเอง





หนึ่งชั่วโมงผ่านไป แก้วเหล้าที่ถูกเติมไม่ขาดทำเอาคนตัวเล็กอยู่ในอาการกึ่มได้ที่  คชาในตอนนี้พูดเยอะกว่าปกติคงเพราะฤทธิ์จากแอลกอฮอล์

“ไอ้น้อง...ไหนๆ มาเจอกันทั้งที เรามาเปิดใจกันหน่อยดีไหมวะ?”  พี่ตี๋ว่าพลางยิ้มมุมปากตามสไตล์  “เอ็งด้วยไอ้ปอ”
คชาพยักหน้าหงึกหงักตามด้วยปอที่เออออตามไป...
หารู้ไม่ว่าการเปิดใจของพี่ตี๋...

“ไอ้ชา... ชีวิตช่วงนี้เป็นไงบ้างวะ?”
“ก็เรื่อยๆ อะพี่”
“แล้วเรื่องความรักล่ะ เป็นไง?”

คือการหลอกถามความลับดีๆ นั่นเอง...


   คนตัวเล็กทำหน้าลังเลนิดหน่อยเมื่อได้ยินคำถาม จนเมื่อถูกกดดันด้วยเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่ที่พี่ตี๋เพิ่งสั่งมาให้เลยเกรงใจจนหันหน้าไปกระซิบบอกเรื่องตัวเองกับพี่รหัสให้ได้ยินกันแค่สองคน

   “ก็ดีอะพี่ เขาก็ดูแลผมดีทุกอย่าง”  คชาว่าแล้วก็หลุดยิ้มเขินๆ ออกมา ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างพาให้พูดตามที่ใจคิดออกไป  “แต่มันตัวใหญ่จังพี่ ผมล่ะกลั๊วกลัว กอดทีผมเหลือตัวนิดเดียว”

   ตี๋หลุดขำออกมาทันทีเมื่อได้ยินที่น้องรหัสตัวเองเล่า 

“อย่าบอกใครนะพี่  จุ๊ๆ ไว้”  เสียงคนใกล้เมาที่เอ่ยออกมาฟังดูทั้งตลกทั้งน่าเอ็นดูซะจนตี๋เริ่มหมั่นเขี้ยว ยื่นมือไปขยี้หัวน้องรหัสจนยุ่งเหยิง  “โธ่เอ๊ย น้องกู”

   “พี่ตี๋อะ...ผมเล่าเรื่องผมแล้วนะ พี่เล่าเรื่องพี่มั่งสิ”  คนเป็นน้องว่าเสียงอ้อน ปากดูดเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่อย่างชอบอกชอบใจ  “อร่อยจัง”

   “เฮ้ยชา เดี๋ยวเมาหรอก”  ปอพยายามปรามเพื่อน

   “ยังไม่เมาน่า...ถ้าเมาแกก็ลากเรากลับหน่อยละกัน”
   



บทสนทนาว่าด้วยเรื่อง ‘ความรัก’ ดูจะเป็นหัวข้อหลักในค่ำคืนนี้ ตี๋กำลังเล่าเรื่องตัวเองที่ไม่เคยเป็นความลับให้น้องๆ ฟัง

   “วันนั้นกูก็มากินเหล้าแบบวันนี้นี่แหละ...แต่มากับหญิงอื่น แล้วแฟนกูมากับเพื่อนพอดีไง”  ตี๋ว่า หน้าสลดเพียงชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยต่อ  “โป๊ะแตกเลย โดนตบไปทีนึงแล้วก็เลิกกัน”

   “โหย...เจ็บน่าดูว่ะพี่”

   “เออ เจ็บฉิบหายมือโคตรหนัก”  หนุ่มจิ๊กโก๋หลุดหัวเราะเบาๆ  “พวกเอ็งก็ระวังแล้วกัน ถ้าริจะมีกิ๊กต้องสับรางให้เก่งเข้าไว้”  ว่าพลางเอื้อมแขนไปคล้องคอน้องรหัสพลางตบบ่าปุๆ  “เข้าใจไหมไอ้น้อง?”

   คชาที่สติเหลือน้อยแค่ครึ่งพยักหน้าลงเออออตามไป  มือจะหันไปฉวยแก้วเหล้าก็ต้องชะงักไปเพราะเพื่อนข้างห้องอย่างปอพยักเพยิดหน้าไปด้านหลัง  ใบหน้าหวานซับสีแดงระเรื่อหันหน้าไปตามที่เพื่อนบอก มองจากระดับสายตาตัวเองขึ้นไป จนพบกับใบหน้าขาวและแววตาคู่คมที่มองตรงมา


   “แกโทรชวนเต๋ามาด้วยหรอวะ?”  ปอถามซื่อๆ หากแต่คชาแทบจะร่ำไห้  ยิ่งเห็นสายตาเย็นชาดุดันคู่นั่นก็เริ่มกลัว

   “เปล่า...บอกมาทำรายงาน”  คชาว่า ตามองตามใครคนนั้นที่เดินไปนั่งอีกมุมของร้าน เต๋ามากับเพื่อนประมาณเจ็ดแปดคน นั่งเบียดกันจนเต็มโต๊ะ

   ความรู้สึกผิดแล่นเข้าปราด ระหว่างที่ใจกำลังตรึกตรองจะเดินไปขอโทษ ความคิดก็พลันสลายไปในพริบตา


   ผู้หญิงที่นั่งเบียดไหล่กับเต๋านั่นมัน ‘แฟง’ ไม่ใช่หรือไง?


   ไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วหันไปหัวเราะด้วยแบบนั้น สนิทกันหรอ?


   บรรยากาศสนุกสนานของโต๊ะนั้นไม่ชวนให้อยากเดินไปก้าวก่าย แม้จะเห็นใครคนนั้นเพียงด้านข้างแต่เสียงหัวเราะครึกครื้นที่ดังมาคงมากพอจะสรุปความ... 

เหมือนมีเส้นบางๆ มากั้นอาณาเขตแบ่งฟากร้านเอาไว้ ราวกับกระจกใสที่มองทะลุแต่ไม่สามารถข้ามผ่าน


   มันเป็นเส้นบางๆ ที่ก้ำกึ่งระหว่าง ‘หึง’ กับ ‘ความรู้สึกผิด’ ในใจ

   ระยะทางแค่ไม่กี่ก้าว ช่างห่างไกลกันเหลือเกิน...
   







TBC

ลืมเรื่องกันไปรึยังหนิ -_-"
คนแต่งกลับมาแล้วจ้า แหะๆ (จริงๆก็วนเวียนแถวนี้ทุกวันแหละ แต่ไม่ได้เอามาลงสักที)
คือจริงๆ แต่งถึงตอน 27 แล้วไง
เดี๋ยวตอน 27 จะตามมานะจ๊ะ

 :pig4:

ออฟไลน์ Noipatt

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
Tom(or)boy
«ตอบ #313 เมื่อ23-09-2012 10:31:41 »

มีเค้ามาม่า==; อย่ามาม่าเยอะนะ ที่บ้านมีเยอะแล้ว

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #314 เมื่อ23-09-2012 12:21:50 »


ขอบคุณที่มาต่อแต่ค้างครับ  :m31:

รอตอนต่อไปครับ  :mc4: :mc4: :bye2:

ปล. ต้องตั้งน้ำร้อนรอไหมเนี่ย :sad11: 

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #315 เมื่อ23-09-2012 13:02:46 »

เรื่องเริ่มมาแล้ว คชาไม่น่าเลย เฮ้อ

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #316 เมื่อ23-09-2012 13:09:20 »



    โย่วกลับมาอัพแล้ว ^ ^
    แต่กลับมาทั้งทีก็ใจดีแจกมาม่าเลยนะ





ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #317 เมื่อ23-09-2012 16:54:43 »

คชาก็ไม่น่าโกหกเลย บอกไปเต่าจะได้ไม่เข้าใจผิด

ออฟไลน์ JingJing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-2
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #318 เมื่อ23-09-2012 17:27:34 »

จะมาม่าอีกแล้วหรอก  :เฮ้อ:
แอบคิดถึงบรรยากาศฮาตอนต้นๆเรื่อง

ออฟไลน์ LEksUp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #319 เมื่อ23-09-2012 17:29:46 »

 นานๆ มาที

แล้วทำไมถึงค้างอย่างนี้

 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
« ตอบ #319 เมื่อ: 23-09-2012 17:29:46 »





bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #320 เมื่อ23-09-2012 18:04:16 »

แอบมาตอบ -- ไม่ค่อยมาม่าหรอกค่า เรามาม่าไม่เก่ง (จริงๆนะ)

ListeL

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #321 เมื่อ23-09-2012 19:14:36 »

55
งอนเลยเต๋าจ๋า 
ครั้งหน้าคชาจะได้ไม่โกหกอีก
แต่ก็เข้าใจคชานะ

สู้ๆจ้าคนเขียน

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #322 เมื่อ23-09-2012 20:53:36 »

พี่ค่ะรีบมาน่ะค่ะ
กำลังค้างเลย o13

Moonmaid

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #323 เมื่อ23-09-2012 22:28:45 »

ได้กินมาม่าอีกแย้วววว

ออฟไลน์ OraeiAiYamapi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #324 เมื่อ24-09-2012 09:44:41 »

 :impress3:เพิ่งได้มาอ่านค่ะ

ที่จริงไม่เคยดูเอเอฟลย

พออ่านคู่นี้แล้วน่ารกดีมากเลยค่ะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :really2:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #325 เมื่อ25-09-2012 00:38:20 »

^^

ออฟไลน์ G-NaF

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #326 เมื่อ25-09-2012 00:47:31 »

พี่เต๋ามาอธิบายด่วนครับ  :m16:

ออฟไลน์ mutyamania

  • สามารถติดตามงานติดเรทที่ลงเล้าไม่ได้ที่ ReadAWrite ในชื่อมัสยากลับมาจากป่าช้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1898
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +794/-139
    • https://mutyawhocamebackfromthedead.readawrite.com
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #327 เมื่อ25-09-2012 00:57:02 »

แฟง........กรี๊ดดดดดดดดด 

ตอนแรกนึกว่าเต๋าจะมาม่า  ตอนนี้กลายเป็นชาน้อยมาม่าซะเอง  รอลุ้นตอนต่อไปด้วยใจระทึก

papark

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #328 เมื่อ25-09-2012 01:38:06 »

มาอัพแล้ว.. ดีใจครับ T_T (กอดคนเขียน) ..มีเค้าดราม่าแล้วคชาเอ๋ย
เอาล่ะจะเป็นยังไงต่อ รอลุ้นครับ รอลุ้น -_,-

bozang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ♀ TOM (or) BOY ♂ :::::: Part 26 หน้า 11 (up 23/09)
«ตอบ #329 เมื่อ27-09-2012 02:58:27 »

♀ TOM (or) BOY ♂
27







ปิดตาไม่ให้เห็นได้ แต่ปิดใจไม่ให้รู้สึกไม่ได้...
บรรยากาศเฮฮาในวงเหล้าไม่ช่วยลดความรู้สึกในใจให้เบาบางลง

ภาพคนที่เขาไม่รู้จักกำลังกอดคออย่างสนิทสนมกับใครอีกคนที่เขาคิดถึงตลอดเวลาในสถานที่อโคจรยามค่ำคืนแบบนี้ยังทำเอาจุกอยู่ข้างใน  โดยเฉพาะเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ถึงชั่วโมง...เสียงนั้นยังบอกเขาว่าทำรายงานอยู่บ้านเพื่อน

โกรธไหม? แน่ล่ะ...โกรธที่ถูกหลอกซึ่งๆ หน้า ถ้าไม่ตามเพื่อนออกมานั่งดื่มก็คงไม่รู้อะไรเลย

หึงไหม? ไม่หึงก็ไม่ใช่เต๋า...กับไอ้ปอที่นั่งอยู่ด้วยคดีเก่าก็ยังไม่เคลียร์นัก ตอนนี้ยังมีไอ้หน้าหนวดที่ไม่รู้จักมากอดคอคชากลางร้านแบบนี้ด้วย แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่เคยทำ

ทั้งโกรธทั้งหึง แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความเสียใจ... ทำไมถึงต้องหลอก? ไม่อยากบอกหรือบอกไม่ได้? เราไม่สนิทใจแม้แต่จะบอกเรื่องต่างๆ ต่อกันแล้วหรอ???  ...ยิ่งคิดซ้ำยิ่งพาลไปถึงวันก่อนหน้า... ที่คชาบอกไปทำรายงานมันใช่แบบวันนี้รึเปล่า?  เขาไม่เคยไม่อยากเชื่อใจแต่พอเห็นแบบนี้หัวใจก็พลอยสั่นคลอน

‘สามวันจากนารี เป็นอื่น...’  ถ้าว่าตามกลอน ตอนนี้ก็ครบสามพอดี

ท่ามกลางเสียงพูดคุยสนุกสนาน บรรยากาศที่ผ่อนคลาย เสียงหัวเราะที่ออกมาจากปากเขาในตอนนี้เหมือนกำลังถูกเค้นมาจากสมองที่สั่งการ...เคยได้ยินว่าหากเรายิ้มใจเราจะยิ้มตาม แต่ทำไมตอนนี้ไม่ยักจะจริง

   “นั่นมันคชานี่”  แฟง..เพื่อนของแอนที่มาด้วยกันเอ่ยขึ้น หมู่นี้เธอมาหาแอนที่คณะบ่อยๆ เลยได้คุยกัน  ดูเหมือนเธอจะเพิ่งเห็นคชา ส่วนเขาน่ะสักพักแล้ว  “มากับพี่ตี๋ซะด้วย...พี่ตี๋เป็นพี่ที่คณะน่ะเต๋า”

   “งั้นหรอ”  เขาตอบรับเบาๆ  หันสายตาไปมองตาม ตอนนี้คนตัวเล็กกำลังดูดเหล้าปั่นในแก้วใส ท่าทางใกล้เมาเต็มที

   เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  “พี่ตี๋จริงๆ เขาฮอตมากเลยนะ พวกรุ่นแฟงกรี๊ดกันเยอะ แต่ไม่ค่อยมาคณะเลยไม่ค่อยเจอ ไม่ยักรู้ว่าสนิทกับคชาขนาดนี้” แฟงพูดมาเท่านั้นก่อนจะหันกลับมาที่โต๊ะ ซ่อนรอยยิ้มบางอย่างที่คนข้างๆ ไม่มีวันเห็นมันไว้ข้างใน แอบเขยิบกายที่เบียดไหล่ออกห่างอีกคนมาสักนิดเพราะกลัวอีกฝ่ายจะมองตัวเองไม่งาม เธอไม่อยากจงใจเกินไป ถึงคนจะแน่นโต๊ะและเต๋าก็นั่งในสุดก็ตามที

สายตาคู่คมที่จดจ้องไปที่สองคนบนโต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลค่อยๆ ละออกมา  ภาพคชาที่กระซิบอีกคนเสียใกล้จนแทบจะจูบใบหูช่างบาดตาบาดใจเกินทน...




ขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่งของร้าน การเปิดใจยังคงไม่สิ้นสุด

เมื่อครั้งนี้... ตี๋ถามน้องรหัสว่า ‘กับไอ้คนนั้นน่ะ... เคย จุดจุดจุด กันรึยัง!!!’

“บ้าหรอพี่ จะไปเคยได้ไง...”  คชากระซิบบอกพี่รหัสเสียงแผ่ว  “อย่างมากก็แค่จูบ อา...แต่จริงๆ ก็เกือบไปครั้งนึง  ปอเข้ามาพอดี”

แน่นอนว่าในเวลาปกติ คชาไม่มีทางพูดอะไรแบบนั้น ทว่าในตอนนี้ คำพูดทุกอย่างถูกพ่นออกมาอย่างไม่กลั่นกรอง  “พี่ตี๋... เขาจะโกรธไหม ผมบอกเขาว่าไปทำรายงาน”  คชาที่ผละออกจากข้างหูพี่รหัสเอ่ยถามในเชิงปรึกษา  ใบหน้าหวานสีแดงจัดด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  “ผมโกหกเขาอีกแล้ว เขาต้องโกรธแน่ๆ เลย... แต่ผมไม่ชอบยัยนั่นเลย มาด้วยกันได้ยังไง...แล้วผมจะบอกเต๋าว่าไงดีเรื่องที่โกหก”  คนเมาพูดทุกอย่างที่คิด ซ้ำยังวกไปวนมา  “ทำไงดีพี่ ทำไงดีปอ ทำงายดี โดนโกรธแน่...”

“เอ็งก็บอกไปสิวะ รายงานเรื่องเอทิลแอลกอฮอล์”  พี่รหัสเอ่ยติดตลก  “เนอะไอ้ปอ... หรือว่าจะเป็นรายงานวิชาเขียนข่าวเรื่องร้านเหล้าใกล้สถานศึกษาไหม... เฮ้ย หรือจะบอกว่ามาแจกแบบสอบถามพฤติกรรมการใช้ถุงยางก็ไม่เลว” 

“เอ่อ.. พี่...”  ไม่ใช่คชาแต่เป็นปอที่เรียกชื่อออกมาอย่างปลงๆ

ส่วนคนถามกลับไม่ฟังคำตอบสุดไร้สาระ มัวแต่นั่งดูเหล้าปั่นรสสตรอเบอร์รี่นั่นอย่างชอบใจ จนกระทั่งเงยหน้าขึ้นจากแก้วน้ำเมื่อหมดไปอีกแก้ว  “พี่ตี๋... ห้องน้ำ ปวดฉี่”

“จะถามว่าห้องน้ำอยู่ไหน? ไอ้ชาเอ๊ย มึงเมาแล้ว”  พี่รหัสว่าพลางพยุงตัวน้องลุกขึ้นมา ก่อนจะเอาแขนพาดบ่าพาคนเมาเดินไปด้านหลัง

โดยมีใครบางคนที่มองตามไม่คลาดสายตา...

   



   “พี่ตี๋...ผมไม่ไหวแล้วอ้ะ”

   “ใจเย็นดิวะ ห้องน้ำเต็มอยู่...เฮ่ย จะทำอะไรวะนั่นไอ้ชา!”  พี่รหัสว่าพลางจับมือเล็กๆ ที่กำลังจะปลดซิบกางเกงลงไว้ได้ทันท่วงที  นี่ถ้าเขาไม่มาด้วยมันไม่ฉี่ตรงนี้ไปแล้วหรอวะเนี่ย  “นี่มันอ่างล้างหน้าเว้ย”

   “อ้าวหรอพี่...ฮะๆ”  คชาว่า  “แต่จริงๆ ตรงนี้ก็ได้นะ ผมไม่ถือหรอก คนกันเอง”

   พี่รหัสหน้าหนวดไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านั้นนอกจากนับมือน้องรหัสลำยองเอาไว้กลัวมันจะรูดซิบฉี่ตรงนี้ขึ้นมาอีก  “มึงไม่ถือแต่กูถือว้อย”

   “แต่พี่ตี๋ค้าบ... ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ นะ”

   “ใครให้ซัดไปเยอะขนาดนั้นล่ะวะ ใจเย็นๆ ใกล้ได้สุขสมแล้วมึง”

   ตี๋ว่าพลางตบบ่าน้องปุๆ  ก่อนจะจับตัวมาล้างหน้าล้างตาให้ บ่นกับตัวเองเบาๆ “นี่กูเป็นครูอนุบาลรึป่าววะ”  ทั้งพามาเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าให้...นี่มันน้องรหัสหรือลูกกันแน่วะเนี่ย!



   ในขณะที่น้องรหัสหน้ามนกำลังดึงชายเสื้อพี่รหัสมาเช็ดหน้า พี่รหัสหน้าหนวดก็ปล่อยให้อีกคนทำอย่างนั้นแต่โดยดี หากแต่มือบางก็ถูกคว้าดึงไปโดยบุคคลที่สามเสียก่อน

   ใบหน้าคนมาใหม่ดุดันแสดงความหึงหวงอย่างปกปิดไม่มิด มือขาวซีดดึงร่างคนตัวเล็กที่โงนเงนเข้ามาแนบกาย มืออีกข้างกำหมัดแน่นอยากจะตั๊นท์หน้ามันไปสักที

   บทสนทนาล่อแหลมเมื่อตะกี๊ ดูเหมือนจะมีบุคคลที่สามได้ยินเข้าหมดแล้ว

   ทั้ง ‘ผมไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว’ ของคชา กับ ‘ใจเย็น ใกล้ได้สุขสมแล้ว’ ของตี๋

   “ไอ้น้องเวรเอ๊ย...หาเรื่องให้กู”  ตี๋เอ่ยกับน้องรหัสที่ยืนหน้ามึนไม่รู้เรื่องรู้ราว  มองสีหน้านักเลงของไอ้เต๋าว่าที่น้องเขยแล้วชักจะกลัว

คนนึงเมาเหมือนหมา อีกคนดุกว่าหมา...เออ ให้มันได้อย่างนี้!

   “มึงอย่ามาหาเรื่องพาลใส่กู ไอ้ชามันให้กูพามาเอง”  ตี๋พยายามพูดไกล่เกลี่ย ทว่าไม่ทันขาดคำ หมัดหลุนๆ ของอีกฝ่ายก็วิ่งเข้าหา ยังดีที่มือของเขาไวพอคว้ามันได้เสียก่อน ชินซะแล้วกับเรื่องชกต่ออย่างนี้

“อย่าเล่นแบบนี้ ถึงกูขี้เมาแต่กูไม่ชอบใช้กำลัง มึงพามันกลับไปก็แล้วกัน อยากรู้ไรก็ถามมันเอง ขี้เกียจจะเสือกด้วยแล้ว”  ตี๋เอ่ยกับคนขี้ใจร้อนแล้วชักจะหงุดหงิด  จนกระทั่งเห็นมือหนาที่ค่อยๆ คลายหมัดลงก็เบาใจ นี่ถ้าตะกี๊ห้ามมือมันไม่ทันมีหวังหน้าช้ำแน่ๆ 
ทั้งสองคนยืนมองกันแน่นิ่ง เหมือนดูเชิงว่าจะเอายังไงต่อไป ท่ามกลางแรงปะทะทางสายตาราวกับกระแสไฟฟ้าช็อตเปรี๊ยะๆ  คนเมาที่ยืนมึนอยู่นานก็เอ่ยขึ้น 

“พี่ตี๋ ปวดอ้ะ จะแตกแล้ว” 

เชี่ยยยยยยยยย ไอ้คช๊า!!!!!

ยิ่งได้ยินยิ่งอยากซัดกระบาลเวรๆ ของไอ้น้องรหัสสักสองสามที พูดแต่ละคำนี่หาเรื่องให้กูชัดๆ  ดูไอ้เต๋านั่น ทำหน้าเหมือนโดนเผาบ้านก็ไม่ปาน

ตี๋สบถเบาๆ ก่อนจะบอกไอ้หมาหวงก้างที่ยืนจังก้าเตรียมเข้าชาร์ต  “มันเมามากแล้ว ฝากพามันกลับเลยก็แล้วกัน แต่ให้มันฉี่ก่อน มันปวดฉี่อยู่ เดี๋ยวได้ราดกลางทางพอดี”  ตี๋พูดขึ้น จังหวะเดียวกับที่คนในห้องน้ำเปิดประตูออกมา

“ห้องน้ำๆ”  คชาร้องโวยวายเป็นเด็ก ชี้ห้องน้ำห้องว่าง พลางกระตุกแขนคนข้างๆ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร  “พาไปฉี่หน่อย”

“อย่าเอาแต่ใช้กำลัง มันจะทำให้มึงเลือดขึ้นหน้า หัดมีสติกว่านี้”  ตี๋พูดเท่านั้น ทิ้งให้อีกสองคนมันไปจัดการกันเอง

เรื่องนี้กูไม่เกี่ยวว้อย!!! แค่เพิ่งกลับมาไทย อยากกินเหล้าเลยชวนมันมาเลี้ยง หาเรื่องสนุกๆ คุย ไอ้เรามันก็ป๋าเห็นน้องมันไม่เคยเลยสั่งมาให้ลองหมดก็เท่านั้นเอง


เรียนผูกต้องเรียนแก้นะไอ้ชา... ถ้ามึงรักกันจริง เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ต้องผ่านไปได้สิวะ!




- - -




   เหมือนสติกำลังหลุดลอยไป... คนตัวเล็กไม่รับรู้อะไรนอกจากการถูกพยุงตัวโดยใครสักคน แขนที่พาดบ่าเอาไว้ให้ความรู้สึกอุ่นใจ  ขณะนี้ภาพและเสียงต่างๆ ถูกเบลอไปหมดเหลือเพียงเสียงคุ้นเคยของคนใกล้ตัว

   ตั้งแต่  ‘มาทางนี้...’  ‘ก้าวขาลงก่อน’  ‘ถอดรองเท้า’ จนกระทั่งเสียงสุดท้าย...

   “ถึงบ้านแล้ว...”  เสียงเดิมบอกกับเขาเช่นนั้น และตอนนั้นเองเขาก็นอนแผ่ลงกับที่นอนนุ่มและกลิ่นที่คุ้นเคยโดยสัญชาติญาณ
   เขาสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่สัมผัสตามผิวเนื้อตัว คชาปล่อยตัวเองไว้ในตำแหน่งแสนสบายอย่างนั้น ปล่อยให้อีกคนได้ทำอย่างที่ต้องการเสียเต็มที่

   สัมผัสนุ่มหยุ่นที่ปาก... รสชาติขมปร่าจากลิ้นของอีกคน... คชาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น คนตัวเล็กเหมือนใจหลุดลอยออกไปที่ร้านแห่งเดิม

   “ขอบคุณนะพี่ที่เลี้ยงเหล้า...”  เสียงคนเมาที่ละเมอออกมาเรียกให้เต๋าชะงักริมฝีปากที่กำลังจะปล้นจูบรอบที่สองลง

   “เรื่องนั้นอย่าบอกใครนะ เก็บไว้เป็นความลับระหว่างเรา จุ๊ๆ” 

ความลับอะไรอีก???

สายตาโกรธขึงทว่าแฝงความตัดพ้อใช้ทอดมองร่างคนเมาบนเตียง เต๋ากำหมัดแน่น...ปีศาจในกายกำลังพุ่งพล่าน ประกอบกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ยิ่งทำให้เขาเลือดร้อน  มือขาวกระชากคนบนเตียงให้ลุกขึ้นนั่งขึ้นมา

“ความลับอะไร!?”  น้ำเสียงร้อนรน...มือกระชับบ่าเล็กเอาไว้แน่น  “ตอบมาสิคชา!!!”  เขาถามเสียงดัง 

“พี่...”  คนเมาหลุดเสียงละเมอ...สรรพนามที่ใช้บอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายถึงเขาแต่เป็นไอ้นั่น  ยิ่งคิดถึงหน้ามันก็ยิ่งเกิดอาการอยากต่อยคน  มือกำหมัดแน่น ในขณะที่เต๋ากำลังจะเค้นเอาความจริงจากปากคนเมา เสียงที่วูบขึ้นมาก็ทำให้เลือดร้อนในกายสงบลง

‘อย่าเอาแต่ใช้กำลัง มันจะทำให้มึงเลือดขึ้นหน้า หัดมีสติกว่านี้’

น่าตลกที่คำพูดนี้ถูกเอ่ยโดยคนที่เขาเกลียดขี้หน้า หากแต่มันกลับย้อนคืนมาหาเขาโดยไม่รู้ตัว  เต๋าปล่อยมือจากตัวอีกคน ลุกพรวดเดินไปเข้าห้องน้ำก่อนจะปิดประตูดัง ‘ปัง!’

   ไม่ทันได้ยินเสียงที่ละเมอเพ้อต่อมา

“พี่ตี๋...เต๋าต้องโกรธชาแน่เลย ทำไงดี?”




- - -
   



แสงแดดที่ส่องแยงตาทำให้เขาต้องขยับตัวหนี อาการปวดหัวแทรกขึ้นทันทีที่รู้สึกตัว เขาค่อยๆ กะพริบตาถี่ก่อนจะลืมขึ้นมองฝ้าเพดาน หันซ้ายมองขวาจึงพบว่าตนไม่ได้อยู่ในห้องตนเองแต่เป็นห้องของเต๋า

สมองพยายามย้อนนึกเรื่องเมื่อคืนมากแค่ไหน ก็ระลึกได้เพียงตอนนั่งกินเหล้าที่ร้าน เจอเต๋ามากับเพื่อนกลุ่มใหญ่รวมถึงแฟง... นึกออกอีกที ก็จำได้ว่านอนลงบนที่นอนสบายตัว

เหมือนห้วงความทรงจำขาดหายไป จะนึกยังไงก็นึกไม่ออกแถมอาการปวดหัวก็ยังทวีคูณ... คชานั่งขยี้ศีรษะบนเตียง ตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดเข้ามา

สีหน้าเย็นชาของเต๋าช่วงน่ากลัวในความรู้สึก คชารู้ตัวว่าเขาผิดหากแต่ตอนนี้เขากลับไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงใดๆ  เต๋าในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาพร้อมกับวางเครื่องดื่มขวดเล็กไว้ข้างเตียง

“ตกลงเมื่อคืนมันเรื่องอะไร?”  อีกฝ่ายถามสีหน้าเรียบนิ่ง

“เรา...”  ยังไม่ทันได้เรียบเรียงอะไร เพราะเพิ่งตื่นแถมยังมึนสุดๆ  “เมื่อคืนพี่ตี๋บอกจะเลี้ยงเหล้า เราเลยชวนปอไปด้วย แต่บอกเต๋าว่าไปบ้านเพื่อน...”

คำตอบที่ได้รับทำเอาคนฟังขมวดคิ้วจนยุ่ง...ความจริงจากปากอีกคนน่าเศร้ากว่าที่คิด คชาชวนปอแต่กลับเลือกจะโกหกเขา  “แล้วไงต่อ”  เต๋าซัก

“ก็เจอเต๋าเข้ามาในร้าน... จำไม่ได้แล้ว”

“แล้วไปสนิทกับไอ้นั่นตั้งแต่เมื่อไหร่?”  เสียงทุ้มเอ่ยถาม หากแต่คำตอบที่ได้ยินพาลให้คิดว่าอีกคนกำลังกวน

“พี่ตี๋หรอ? ก็ไม่ได้สนิทขนาดนั้นนี่”

ไม่ได้สนิทขนาดนั้น?  “แล้วเมื่อคืนนั่นมันอะไร?”

“อะไร?”  คชาทวนคำ ก่อนจะถามอีกคนกลับไป...  “แล้วอะไรเล่า?”

จนปัญญาจะหาคำตอบ อะไรที่ว่ามันคืออะไรเขาไม่เข้าใจ คนตัวเล็กจึงได้แต่นั่งนิ่งๆ  คำถามที่อีกคนถามเขาเองก็ไม่รู้จะตอบไปว่ายังไงดี

เขาได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจหน่วงๆ  แววตาคู่นั้นดูตัดพ้อ สับสนและไม่เข้าใจ

“บนโต๊ะมีกับข้าว อุ่นไว้แล้ว...แล้วนั่นก็กินแก้แฮงค์”  เต๋าพยักเพยิดไปที่เครื่องดื่มขวดเล็กข้างเตียง  หันไปหยิบหนังสือเล่มหนาใส่กระเป๋าเป้ ก่อนจะคว้ามันสะพาย

“ถ้าจะกลับก็ล็อคประตูบ้านให้ด้วย”

และนั่นคือประโยคสุดท้าย ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไป


คำว่า ‘บ้าน’ ไร้ซึ่งความหมายเมื่อต้องอยู่เพียงลำพัง...





- - -




   กว่าจะกินข้าว ล้างจาน กลับหอมาอาบน้ำ ไปถึงห้องเรียนก็เป็นเวลาเกือบเที่ยง  ว่าจะขึ้นลิฟท์ไปยังห้องเรียนหากแต่ก็เจอกับกลุ่มเพื่อนของตนเสียก่อน  ตอนนั้นเองที่เขาถูกเฟรมดันหลังให้เดินไปยังโรงอาหารแทน

   “ไอ้ชา... อย่าบอกนะว่า ที่มึงมาเอาป่านนี้มึงเสร็จไอ้เต๋าหมิงซื่อไปแล้ว”  เฟรมถามอย่างตื่นๆ  ท่าทีดูอยากรู้อยากเห็นยิ่งกว่าอะไร

   “ห๊ะ ซันช่า...จริงดิ?”  เจมส์ถามย้ำ

   “จริงอะไรเล่า หน้ากูเขายังไม่อยากจะมอง”  คชาว่าอย่างหน่ายๆ กับความคิดของเพื่อน  “ไปเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนวะ?”

   “อ้าว ทะเลาะกันหรอ?”  เฟรมลดท่าทีนั้นลง  “แต่ทำไมคอมึงมีรอยดูดวะ เนี่ย ข้างหลังเนี่ย!”

   คชาขมวดคิ้ว... รอยเรยอะไรอีก? แต่จะว่าไป ตอนอาบน้ำก็เห็นอะไรแดงๆ ที่หน้าอกเหมือนกันแต่ไม่ได้สนใจ

   “ยุงกัดมั้ง คิดอะไรอกุศล”

   “ยุงตัวเบ้อเริ่มเลยสิถ้างั้น”  เฟรมว่ายิ้มๆ ตอนนั้นเองที่เพื่อนคนอื่นเดินตามมาสบทบพอดี  หากแต่ในจำนวนนั้น พี่รหัสคนดีก็เดินฝ่ากลุ่มเพื่อนของเขาเข้ามา

   “เฮ้ย..ไอ้ชา ครบ 32 ไหมมึง?”

   “ครบสิพี่”  เขาตอบพี่รหัส... ถ้าจะมีอย่างเดียวที่ขาดๆ หายๆ ก็คือใจของเขานี่แหละ มันกำลังล่องลอยสับสนอย่างบอกไม่ถูก  “แต่พี่ตี๋...เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมลืมไปหมดแล้ว”

   แม้จะเป็นเวลาเที่ยงตรง หากแต่ตอนนี้ยังไม่มีใครเดินไปซื้อข้าว เมื่อทุกคนกำลังหูผึ่งฟังเรื่องราวจากพี่ตี๋อย่างตั้งอกตั้งใจ
   ถึงไม่อยากให้คนอื่นร่วมฟังด้วยแค่ไหน แต่งานนี้ท่าจะยากซะแล้ว
   ยังไง...ฟังแล้วช่วยกันหาทางแก้หน่อยนะทุกคน





- - -





   บรรยากาศของคณะบัญชีในตอนนี้เต็มไปด้วยการจัดงานวุ่นวาย

   เวลาบ่ายสี่โมงหลังเลิกเรียน คชากำกระชับสายกระเป๋า รู้สึกเกร็งเล็กๆ ที่เดินมายังถิ่นที่ไม่ใช่ของตนเพียงลำพัง  สนามหญ้าหน้าตึกที่เขาเคยเดินผ่านกำลังถูกตกแต่งจัดที่จัดทางให้กลางเป็นซุ้มขนาดใหญ่  มาสคอตของงานรูปโลมาสีน้ำเงินตั้งตระหง่านอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  เขาจำได้ว่าเต๋าเคยพูดว่าที่คณะจะมีงาน Open House  แต่ไม่รู้เลยว่าจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้

รู้ตัวดีว่าช่วงหลังๆ เขาให้ความสนใจในตัวอีกคนน้อยลง อาจเพราะเวลาถูกแบ่งไปให้อย่างอื่น ทั้งการบ้าน รายงาน เล่นเกมสนุกสนาน ออกกำลังกาย... ไม่รู้ว่าหลงลืมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ มองดูอีกทีโลกของเราก็โคจรมาไกลกัน

คชาเดินไปทั่วบริเวณงาน พยายามตามหาใครบางคน... จนพบว่าเต๋ากำลังนั่งอยู่กับเพื่อนตรงมุมเล็กๆ นั้น ที่นั่งใต้อาคารซึ่งอยู่ระหว่างลานคณะกับสนามหญ้านี่เอง

เสียงหัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้น... ได้เห็นคนที่อยากเจอก็จริงแต่ขากลับก้าวไม่ออก จนกระทั่งเพื่อนเต๋าคนหนึ่งที่หันมาเจอเขาเข้าพอดี... สาวผมสั้นเปรี้ยวสีแดงเพลิง เดียร์ยิ้มพลางกวักมือเรียกเขาไหวๆ ตรงกลุ่มนั้น

เมื่อวานเดียร์ไม่ได้ไปดื่มที่ร้านกับเต๋า... ไม่รู้ว่าเธอจะรู้รึเปล่าว่าตอนนี้เขากับเต๋ายังมีเรื่องค้างคากัน
ระหว่างที่คิดในใจว่าจะเอายังไงต่อดี... ตาคู่คมก็หันควับมาทางนี้เสียแล้ว
   



   เต๋าหมิงซื่อ... ท่าทางชื่อที่เจมส์เป็นคนริเริ่มท่าจะไม่ผิด เมื่อตอนนี้คชารู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางกลุ่ม F4 ของจริง  แต่ละคนฐานะดีมีอันจะกินอย่างไม่ต้องสงสัย

   หลังจากเดินไปหาเต๋า เขาก็ถูกเดียร์ลากเข้ามาด้วย... ร้านกาแฟสตาร์บัคส์สาขาใกล้มหาวิทยาลัยถูกใช้เป็นที่ประชุมงานครั้งสุดท้ายสำหรับในวันพรุ่งนี้  มันเป็นครั้งแรกที่คชาก้าวเข้ามาที่นี่  เครื่องดื่มราคาแก้วละร้อยกว่าทำเอาไม่คิดจะกระดิกตัวไปสั่งเลย 
ซ้ำแล้วยิ่งถูกจัดแจงให้นั่งข้างๆ เต๋า...เขาจะกล้าลุกไปไหนได้

   เพื่อนเต๋าแต่ละคนท่าทางดูดีเหมือนที่เคยเจอ คนไหนคุ้นหน่อยอย่างเบน เดียร์ หรือน้ำแข็งเขาก็ไม่เกร็งด้วย หากแต่ที่เหลือยังดูน่ากลัวในความคิดเขา

   โดยเฉพาะคนมาใหม่...จำได้ลางๆ ว่าชื่อ ‘แอน’ เธอเดินมาพร้อมกับแฟงและนั่งลงด้วยกัน

   “พอดีเลย...แอนมาแล้ว เริ่มคุยงานกันนะ”  น้ำแข็งว่าพลางพูดคุยสิ่งที่จะถูกจัดขึ้นพรุ่งนี้ เรื่องที่เขาไม่เคยรู้อะไรด้วยเลยถูกกล่าวขึ้น มันเป็นบทสนทนาที่เขาเอ่ยแทรกไม่ได้และไม่คิดจะทำอยู่แล้ว  หลายครั้งที่บทสนทนานั้นถูกเปลี่ยนไปใช้ภาษาที่สองอย่างอังกฤษเพื่อให้เพื่อนในวงคนหนึ่งเข้าใจได้ถนัด

   นี่สินะโลกในแบบของเต๋า โลกที่เขาไม่กล้าเขามาเหยียบ ต่างจากเต๋าที่วิ่งเข้าหาโลกของเขาอยู่ตลอดเวลา... กับบรรดาเพื่อนของเขา เต๋าคุ้นเคยดีและบางคนก็ค่อนข้างสนิท ซ้ำยังขอเบอร์เอาไว้อยู่หลายคน

   “เบื่อหรอ?”  เดียร์ที่นั่งใกล้ๆ หันมาสะกิดเขาจากการอยู่ในความคิดเพียงลำพัง  ที่จริงเขาอยากจะพยักหน้าแรงๆ สักที แต่ทำได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ ตามมารยาทไป

   “ไม่ต้องปฏิเสธหรอก ดูก็รู้”  เธอเอ่ยต่อ  “เรายังเบื่อเลย คุยอะไรกันวนไปวนมา ขี้โม้ชะมัดไอ้น้ำแข็ง”

   คำพูดนั้นทำเอาเขาหลุดยิ้มในทันที อย่างน้อยกับเพื่อนเต๋าคนนี้เขาก็คุยได้อย่างสะดวกใจ  “ต้องอยู่นี่ถึงกี่โมงหรอ?”  คชาถามเบาๆ

   “ก็จนกว่าจะคุยเสร็จนั่นแหละ”  เธอว่า

   “ตั้งใจฟังด้วยเดียร์ อย่ามัวแต่คุย”  ตอนนั้นเองที่เสียงทุ้มอันคุ้นเคยเอ่ยขึ้นมา...เสียงจากคนข้างๆ ตัวเขานี่เอง

   “รับทราบค่ะท่านรองประธานเต๋า”  คชาแอบยิ้มเบาๆ ไปกับคำพูดของเดียร์ แต่ในใจยังนึกไม่ออกเลยว่าจบการประชุมงานอันน่าเบื่อหน่ายนี่แล้วเขาจะทำยังไงต่อดี

   ก็ตั้งแต่เจอกัน... เรายังไม่ได้พูดอะไรนอกจากคำว่า ‘สวัสดี’

   ‘ใกล้ตัว แต่ไกลหัวใจ’ มันเป็นแบบนี้นี่เอง






   “โอเค.. เจอกันพรุ่งนี้เจ็ดโมงครึ่ง วันนี้ไว้เท่านี้ ประชุมอีกทีเย็นพรุ่งนี้หลังเสร็จงาน”  ผ่านไปจนเวลาหนึ่งทุ่มตรงเขาจึงได้ยินคำนี้จากปากน้ำแข็ง  เวลาสองชั่วโมงครึ่งในการพูดคุยสรุปรายละเอียดทำเอาคชาแอบนั่งหาวไปหลายครั้ง

   ทุกคนเก็บข้าวของ เขาเองก็กระชับกระเป๋าใบเล็กขึ้นมา  “เย็นแล้ว ไปหาอะไรกินกันไหม?”  แฟงเอ่ยขึ้นในตอนนั้น  “เต๋า...ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านไหนนะที่บอกว่าอร่อย?”

   แววตาของเธอหันมามองหน้าคชาเหมือนจะส่งสาสน์ท้าทาย คำพูดเมื่อครู่ไม่บอกก็รู้ว่าเธอชวนเต๋าไปทานข้าวกลายๆ นี่เอง

   เขาเหลือบหันไปมองใบหน้าขาวคมของคนข้างๆ  เต๋ายกยิ้มออกมาเบาๆ  “อ้อ...ร้าน a ตรงย่านใกล้ๆ มหาลัย จริงๆ ไม่รับรองรสชาติเท่าไหร่หรอก เคยไปกินอยู่สองสามหนเอง”

   สองสามหนนั่นก็ไปกับเขาทุกครั้งไม่ใช่หรือไง?  คชานึกหากไม่ได้พูดอะไรออกมา

   จนกระทั่งเห็นเต๋าลุกขึ้นหยิบกระเป๋า คชาจึงลุกตาม.. ท่าทีเหมือนจะเดินไปกับแฟงทำเอาเขาไม่ชอบใจ  แม้ดูจากท่าทางเต๋าคงไม่ได้คิดอะไร แต่ในใจมันไม่ชอบเลย


ขอ ‘หึง’ สักครั้งได้ไหม?


   มือเล็กจับสายกระเป๋าเป้อีกคนเอาไว้  เอ่ยด้วยเสียงไม่ดัง  “เต๋า...กลับบ้านกัน”  คงเพราะเป็นอย่างเดียวที่อาจจะเชื่อมเราเอาไว้ได้  บ้านที่เต๋าเคยชวนเขาไปอยู่... วันศุกร์อย่างเช่นวันนี้เป็นวันที่เขาไปนอนค้างบ้านเต๋าไม่ใช่หรือไง?

   “วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่”  เต๋าเอ่ยสั้นๆ ไม่ตอบคำถามออกมาตรงๆ น้ำเสียงนิ่งเรียบยากจะคาดเดา

   “แล้วอยู่กับเราไม่ได้หรือไง?”  คชาพูดต่อ สมองถูกพักเอาไว้ ใช้หัวใจเท่านั้นที่พูดแทน  “ถ้าไม่อยากให้เราค้าง เราไม่ค้างก็ได้... แค่มีเรื่องจะพูดด้วยเท่านั้นเอง”

   ใบหน้าของเต๋ายังคงไม่แสดงอาการไหวติง หากแต่มือข้างหนึ่งยื่นมาแกะมือเขาออกจากกระเป๋าเป้ของตน


   “ถ้าอยากจับ...ก็จับมือ”  คำพูดนั้นทำเอาคนตัวเล็กขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิด ลอบเห็นเพื่อนของเต๋าสองคนที่จับมือกันเดินอยู่ด้านหน้า แต่ว่ากับเขามันต่างกัน

   สองคนนั้นเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย แล้วก็เป็นแฟนกัน

   แต่กับเราสองคน...


   เวลาตัดสินใจไม่ได้มีนานนัก... เสียงถอนหายใจดังขึ้น ตามด้วยขายาวที่เดินนำหน้าไป ทิ้งเขาไว้เบื้องหลัง  คชาได้แต่เดินจ้ำตามแผ่นหลังคนข้างหน้าไม่เกินไขว่คว้าแต่ยังลังเลที่จะเอื้อมมือ

เต๋าโบกมือลาเพื่อนคนอื่นๆ แล้ว  ตอนนี้เหลือเพียงเราสองคนในบรรยากาศเงียบงันท่ามกลางความวุ่นวายของใจกลางเมือง  ทั้งสองเดินมาจนถึงสี่แยกไฟแดงที่พอข้ามไปก็จะเป็นบริเวณตรอกบ้านของเต๋า ในตอนนั้นที่เขากลับมายืนข้างๆ อีกคนได้แล้ว

ในระหว่างที่รถยังคงวิ่งสวนกันรวดเร็ว เขารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาจากฝ่ามือคนข้างๆ ที่เกาะกุม  และเมื่อไฟจราจรเปลี่ยนสี คชาก็ถูกอีกคนจูงมือให้ข้ามถนนมาด้วยกัน

ระยะเวลาไม่นานเพียงเสี้ยวนาที...ทว่าตอนนี้โลกทั้งใบสว่างขึ้นทันตา

เป็นเวลาไม่กี่วินาทีที่เดินข้ามถนน ช่วงเวลาที่หัวใจเบ่งบาน...ความอบอุ่นนั้นกำลังจะหายไป



หากแต่ไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อมือบางกางประสานมือข้างนั้นไว้ แม้จะลังเลในทีแรกแต่ตอนนี้เขากลับบีบมันอย่างมั่นคง ราวกับจะให้สัญญาณบางอย่างกับอีกคน

   ถึงคชาคนนี้จะเป็นผู้ชาย แต่จะไม่อายกับเรื่องแบบนี้อีกแล้ว

ต่อไปนี้ เขาจะจับมือนั้นไว้ ไม่ปล่อยให้ใครต้องเดินนำ



แล้ว ‘เรา’ จะเดินไปพร้อมๆ กัน...เต๋าหมิงซื่อ
   










TBC   


บอกแล้วว่าเราดราม่าไม่เก่งงิ 5555
 :L1: ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะจ๊ะ <3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด