.
.
.
“คืนนี้ขอนอนด้วย” สามยืนขวางอยู่หน้าประตูห้องของอาร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ก่อนจะถือวิสาสะเดินเข้าห้อง จับแมวอ้วนที่นอนเต็มเตียงลงมาไว้ข้างล่าง แล้วพาร่างกายที่ไม่ได้นอนหนึ่งคืนเต็มขึ้นไปบนเตียงแทน
“ไอ้สัส แมวกู! ” เจ้าของห้องโวยวาย
“เป็นอะไรวะ” อาร์ถามเมื่อร้อยวันพันปีสามเพื่อนรักไม่เคยจะโผล่มา
“แป้งขอเลิก...” คนตัวโตบอกพร้อมกับถอนหายใจ
โมจินะโมจิ...ถามกันสักคำหรือยังว่าใครอยากจะเลิก
อาร์เลิกคิ้วมองเพื่อน จะบอกว่า “เพิ่งคบเองนี่” แต่ก็นึกได้ว่าสามมันคบใครได้ไม่นาน แต่ก็แปลกใจที่ครั้งนี้เพื่อนดูเสียใจหนักกว่าคราวคบฟ่างอีก
“แล้ว? ”
สามซบหน้าลงกับหมอน รู้สึกเหมือนจะหมดแรงจริงๆ ก็คราวนี้
“ไม่อยากเลิก อยากเจอ อยากคุย อยากขอโทษ” เอาแต่คิดว่าป่านนี้ก้นโมจิจะหนีไปไหนนะ หวังว่าจะไม่ได้ไปเจออุบัติเหตุที่ไหน ขนาดบ้านที่แวะไปดูอีกรอบยังไม่กลับมาเลย
“เมี้ยว” แมวอ้วนตุบตับของอาร์กระโดดขึ้นมาเหยียบหลังแขกของห้อง เลยทำสามหัวร้อน
“แมวเหี้ย! ”
“มึงสิเด็กเหี้ย! ” อาร์โยนหมอนใส่เพื่อน มันเป็นใครถึงกล้ามาว่าแมวเขา!
“กูแม่งนิสัยไม่ดีเหมือนที่แป้งบอกเลยว่ะ” สามหัวเราะเบาๆ คิดถึงคำพูดที่อีกคนบอกเขา แล้วก็พาลนึกถึงพี่คู้ที่ด่าเขาเรื่องนิสัยอยู่เป็นประจำ
สามไม่เคยคิดอยากจะแก้มัน แต่ตอนนี้ให้เขาทำอะไรก็ได้...ขอแค่เจ้าโมจิกลับมา
“คราวนี้หนักว่ะ” เจ้าของห้องนั่งลงบนพรม แขนที่มีรอยสักรูปหัวกะโหลกเอื้อมไปอุ้มแมวมาเกาคาง
“ไหนมึงลองเล่าให้กูฟัง ไม่เล่ากูช่วยมึงไม่ได้นะ” อาร์บอก เพราะสามมันไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง
“โมจิเป็นครูของน้องสิบ เจอกันตั้งแต่ที่อยู่โรงเรียนแล้ว...” คนเล่าส่งเสียงอู้อี้เพราะซุกหน้าลงกับหมอน นึกถึงคุณครูในชุดผ้ากันเปื้อนแสนใจดี ถ้าไม่มีเขา...ป่านนี้แป้งคงยังได้ทำงานที่รักเช่นเคย
“มึงชอบเขา? ”
“ตอนแรกแค่ปลื้ม น่ารักดี” สามพลิกตัวนอนหงาย
“เจอกันอีกรอบตอนเขามาสัก ตอนนั้นเลยคิดว่าจะจีบ”
“แล้วก็ไปบังคับขื่นขมเขา” อาร์เสริม
“ถ้าไม่ฟังดีๆ กูจะกินแมวมึง”
“กูก็ไม่คิดว่าคนนี้จะจริงจัง” เจ้าของห้องถอนหายใจ
“ก็จริงจังกับทุกคน” สามบอกตามจริง แต่ด้วยนิสัยของตัวเอง นิสัยของอีกฝ่าย ทำให้มันไม่รอด และเขาก็ไม่เคยจะพยายามปรับตัวอะไร
“แป้งนิสัยดี ใจเย็น” โมจิทั้งยิ้มเก่งแล้วก็น่ารัก
“ต่างจากมึงโดนสิ้นเชิง” อาร์เตือนสติเพื่อนตัวเอง
“มึงโกหกเรื่องอายุไว้นี่ กูว่ามันไม่รอดตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” เขาว่าต่อให้สามจะอยากได้แฟนกลับมาแค่ไหน แต่ถ้านิสัยแบบนี้ จะอีกกี่รอบ...ก็คงไม่รอด
“กูไม่อยากเลิก กำลังพยายามเปลี่ยน” สามบอกตามจริง เขาไม่เคยเอาใจใส่ใครขนาดนั้น ไม่เคยไปเกาะติดและพยายามเรียนรู้เรื่องของใครขนาดที่ทำกับแป้ง
เพราะไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง พอถึงบ่ายอีกวันร่างกายก็เหมือนไม่มีแรง
“แต่ถ้าเขาจะเลิก จะทำอะไรได้” อาร์ถาม รอบนี้รู้สึกสงสารเพื่อนตัวเองกว่ารอบที่ผ่านๆ มา
“กูพาเขาไปกินข้าวที่ร้าน ฟ่างขอไปด้วย แล้วตอนกูไปคุยกับเด็กที่ร้านฟ่างไปบอกแป้งว่ากูคบแป้งประชดมัน”
คนฟังเลิกคิ้ว
“ก่อนหน้านั้นมันก็เป็นแบบนั้นนี่ โทษแต่ฟ่างไม่ได้หรอกนะ” อาร์บอก เพราะแต่เดิมสามจะเลิกกับใครก็ไม่พ้นยืมมือฟ่าง จะไปไหนก็ไปกับฟ่าง จนเพื่อนในกลุ่มคิดแล้วว่าสองคนนี้คงไปไหนกันไม่รอด
“แต่ก่อนหน้านั้นกูเคลียร์แล้ว ว่ากูคบแป้ง กับฟ่างจะเป็นแค่เพื่อน” เขาหลับตาลงนึกถึงวันที่โดนตบจนมุมปากแตก
“มึงไม่ถามแฟนมึงอ่ะ ว่าอยากให้แฟนตัวเองเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าไหม? ”
“ก็จริง…” คนตัวสูงแค่นยิ้ม
“แล้วมีอะไรทำไมไม่เล่าให้พี่แป้งเขาฟังบ้างวะ”
“มันนิสัยกูนี่หว่า”
“แล้วไอ้นิสัยตรงนี้ไม่อยากเปลี่ยนเพื่อเขาเลยเหรอวะ”
สามยิ้ม โมจินะโมจิ...คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้าบอกเลิกกัน
“แล้วนี่ไม่มีช่องทางอื่นติดต่อเขาเลยเหรอ เพื่อนเขา ครอบครัวเขาล่ะ? ” อาร์ถาม แต่สามกลับส่ายหน้า
พอเพื่อนซึมจัด เห็นท่าจะไม่รอดอาร์ถึงได้จัดการโทรหาพี่คู้ ซึ่งได้คำตอบมาว่า…
“ไม่เอา ไม่อยากยุ่ง เดี๋ยวดีกันแล้วเลิกวนไปเหมือนตอนรอบน้องฟ่าง”
.
.
.
“หายไปไหนมาหลายวัน” พี่ใหญ่ของบ้านถามน้องชายคนกลางที่หายไปสองคืนเต็ม ปกติต่อให้เมาหรือเถลไถลแค่ไหนเจ้าสามก็จะกลับมานอนบ้าน
สามไม่ตอบ แต่เดินหลบขึ้นไปอีกฝั่งแทน
“สาม ทำไมไม่มีความรับผิดชอบเลย งานก็มี” พี่หนึ่งมองตามน้องชาย พยายามใจเย็นทั้งๆ ที่ตอนนี้งานในมือรวนไปหมด
“พี่รู้เรื่องจากฟ่านหมดแล้วนะ” พี่หนึ่งบอก แต่อีกคนกลับดูไม่ใส่ใจ
“อืม ครับ”
“อกหักแต่ทำเสียการเสียงานแบบนี้ดีเหรอวะ? ”
“ไม่ดี” น้องชายตอบเสียงเนือย
“แล้วทำทำไม”
สามถอนหายใจ ก่อนจะหันมามองพี่ชายคนโต ดูก็รู้ว่าทางฟ่างคงจะฟ้องมาเต็มๆ
“ให้เมียพี่ลองหายไปบ้างสิ จะได้รู้”
“ไอ้สาม! ”
.
.
.
คนที่เหมือนกำลังจมอยู่กับอะไรบางอย่างตลอดเวลาเงยหน้าขึ้นเมื่อแม่เรียก
“แป้ง อันนี้ให้โต๊ะสาม”
คนฟังขมวดคิ้ว ไม่ชอบคำว่าสามสุดๆ ไปเลย ฟังแล้วรู้สึกหน่วงในใจ เพราะทั้งวันเอาแต่คิดถึง...แล้วก็คิดว่าทำไมเขาถึงหลอกกันได้นะ
“อันนี้หอมทอดกับมันหวานครับ”
“ขอบคุณครับ พนักงานใหม่เหรอครับ? ” ท้ายประโยคแขกหันไปหาเจ้าของรีสอร์ตที่ยืนคิดเงินอยู่อีกมุม
“ลูกชายค่ะ มาเที่ยวพอดี เลยใช้งาน” แม่ของโมจิบอกพร้อมกับยิ้มให้แขกประจำ
“อ๋อ ที่บอกว่าทำงานอยู่กรุงเทพใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ น่าจะอายุเท่าๆ กัน”
แป้งวางจานกับแกล้มลงบนโต๊ะสาม ยังไม่ทันจะได้เดินกลับลูกค้าก็ชวนคุยก่อน
“ทำไมไม่มาอยู่ที่นี่นะ ถ้าเป็นผมมาทำงานที่นี่ดีกว่าเยอะเลย เวลามันไหลช้า”
“ก็จริงครับ” แป้งตอบพร้อมกับยิ้ม
อีกหนึ่งอย่างที่พ่อกับแม่เขาทำให้ประหลาดใจก็คือพ่อกับแม่ทำบาร์เล็กๆ ไว้ข้างหน้ารีสอร์ตด้วย ขายเหล้าเบียร์และกับแกล้มเล็กๆ น้อย แม่บอกกำไรดีกว่าตัวรีสอร์ตอีก แต่คนเป็นลูกกลับไม่ค่อยเชื่อสายตา ตอนเด็กๆ ยังบ่นเรื่องเหล้าและบุหรี่จนหูชา แต่ตอนนี้กลับมาเปิดเสียเอง
“ผมชื่อเก้าครับ”
คนที่กำลังอยู่ในภวังค์หันกลับมาหาลูกค้า
“ผมโม..” โมจิเงียบ ก่อนจะบอกออกมาใหม่ “ผมแป้งครับ”
“โมแป้ง? ” คุณเก้าถามพร้อมกับหัวเราะ เมื่ออีกคนดูไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่
“แป้งเฉยๆ ” แป้งบอกพร้อมกับแอบถอนหายใจ เพราะบางคนเรียกโมจิจนเข้าติดไปด้วยเลย
คุณเก้าขำ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้ลูกชายเจ้าของรีสอร์ตนั่งด้วยกัน
“ปกติดื่มไหม? ”
“ก็ดื่ม แต่พ่อกับแม่อยู่ผมไม่ดื่ม” แป้งบอกพร้อมกับหัวเราะ หันไปเห็นพ่อแม่มองอยู่
เห็นว่าสามทุ่มก็จะไปนอนกันแล้วปล่อยให้พนักงานทำงานต่อ
“เด็กดีจังเลยนะคุณ”
“กลัวโดนไม้เรียวครับ สมัยก่อนสองคนนั้นเป็นครู”
ลูกค้าประจำของร้านที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้าของรีสอร์ตบรรยากาศดีหัวเราะ ก่อนจะเลื่อนแก้วให้
“อากาศเย็นๆ แบบนี้ ผมเลี้ยงเอง”
“เลี้ยงลูกเจ้าของร้านเนี่ยนะครับ? ” แป้งแปลกใจ แบบนี้กำไรเต็มๆ เลย
“เลี้ยงเจ้าของร้านผมก็ทำมาแล้ว” ลูกค้าบอกกลั้วหัวเราะ
“พ่อคุณดื่มกับผมประจำ”
คำบอกเล่าทำเอาคนฟังประหลาดใจอีกแล้ว คุณครูฝ่ายปกครองแบบครูนิรันดร์เนี่ยนะ…
“คุณดูเหงานะ” แป้งบอก แต่ก็ยกแก้วมาดื่ม
คนฟังขำ ก่อนจะชี้เข้าที่ตาตัวเอง
“คุณก็ดูเศร้านะ ดูจากตาก็รู้”
แป้งเบิกตากว้าง ก่อนจะยิ้มให้คนที่เดาถูก
“เผลอไปเจอคนแย่ๆ มาครับ”
“แล้วแน่ใจใช่ไหมว่าไม่ได้เป็นคนแย่ๆ สำหรับคนอื่นเหมือนกัน” เก้าบอกพร้อมกับเอนตัวลงบนพนักเก้าอี้
“นั่นสิเนอะ” สำหรับแฟนคุณสามแล้ว เขาเองก็คงเป็นแผลในใจเธอเหมือนกัน พอนึกได้แบบนั้นแป้งก็ถอนหายใจยาว
“คนอกหักมักขึ้นดอย” คุณเก้าบอกพร้อมกับยกแก้วอีกรอบ
“คุณเก้าเหมือนกัน? ”
“เปล่า ผมมีเกสเฮาส์ตรงแถวท่ารถ”
“อ้าว! ” โมจิที่จินตนาการไปว่าคุณเก้าเป็นคนที่อื่นและมาพักร้อนขำร่วน ที่แท้ก็คนที่นี่
“คุณหัวเราะแล้วมีลักยิ้ม” คุณเก้าชี้เข้าที่แก้ม คนฟังเลยยิ้มกว้างกว่าเคย รู้สึกเหมือนลืมสิ่งวุ่นวายใจได้ชั่วขณะ
.
.
.
“คุณไตรวิชญ์ครับ ผมกำลังจะส่งอีเมล และจดหมายเวียนให้ผู้ปกครองทุกคน” สามรับโทรศัพท์ในเช้าที่โมจิไม่กลับบ้านเป็นวันที่สาม วันนี้เขาจัดการพาตัวเองเข้ามานอนเฝ้าในบ้านโมจิเลย อยากรู้ว่าจะไม่กลับบ้านได้กี่วัน
“สรุปแล้วเรื่องคือครูแป้งลาออกเอง จะได้ไม่มีผลกระทบกับประวัติการทำงานนะครับ”
สามเกือบลืมไปแล้วว่าเคยต่อรองกับผอ.โรงเรียนเก่าโมจิไว้ แต่ว่าเรื่องดีชอบมาในเวลาที่ไม่ค่อยดีนัก
แต่พอนึกถึงเรื่องประวัติของโมจิ...ก็พอนึกอะไรออก
“ผมมีคำถาม ถามผอ.อีกสักอย่างครับ” สามถามคำถามบางอย่าง ก่อนจะนั่งรอเอกสารทั้งหมดส่งเข้ามาในอีเมลเวลาไม่ถึงห้านาที
เอกสารประวัติสมัครงานของโมจิมีชื่อที่อยู่พ่อแม่และคนที่ติดต่อได้ เขาเปิดอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์ ค้นหาอะไรบางอย่างด้วยใจที่เต้นถี่ ก่อนจะกดเบอร์เพื่อโทรเข้า ‘นิรันดร์รีสอร์ต’
ช่างสักเดาะลิ้นอยู่สองสามทีพลางมองข้อมูลในมือ
“รออยู่ที่นั่นแหละโมจิ ผมจะไปรับกลับมาเอง”
.
.
.
TBC.
______________________________________________
ขอบคุณทุกคนที่มาอ่านด้วยกันนะคะ มาลุ้นช่วยเด็กนิสัยไม่ดีกัน