ตอนที่ 16 ♥ ครึ่งหลัง : STALKER ติดกับ“ไม่คิดว่าเหนือจะชอบผู้ชาย”
“ไม่เคยเห็นไม่ได้แปลว่าผมไม่ชอบ” ผมตอบพี่ทัช เมื่อเงยหน้าขึ้นจากการล้างหน้า และเห็นอีกฝ่ายยืนกอดอกมองอยู่
“ตอบแบบนี้แสดงว่าจริงจัง พี่นึกว่าเหนืออยากลองของ”
“ดูเหมือนพี่ทัชจะสนใจผมเรื่องนี้เป็นพิเศษ “
“แค่อยากแน่ใจว่าที่คิดมันถูกต้อง”
“ถูกต้องแล้วยังไงครับ อย่าบอกว่าพี่ทัชกำลังคิดจะยุ่งกับคนของผม”
“คนของนายเลยเหรอเหนือ ฮ่าๆ เอาน่า พี่ไม่คิดจะลงสนามกับนายหรอก”
“อย่าบอกว่าแค่อยากรู้เลยมาถามผมนะครับ” ผมหรี่ตามองรุ่นพี่คณะ พี่ทัชกับผมไม่ได้สนิทกันมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องปกติ
ที่จู่ๆ จะเข้ามาถามผมเรื่องนี้
“นายสนใจโต๊ะใช่ไหม”
ผมพยักหน้าให้พี่ทัชแทนคำตอบ
“แค่นั้นแหล่ะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก” พี่ทัชยังคงส่งยิ้มให้ผม ไม่ยอมบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงออกมา
“ถ้าพี่ไม่เข้ามาช่วยจะดีมากครับ” ผมตอบไปตามสิ่งที่ต้องการ ไอ้ตัวดีมันชอบพี่ทัช มันจะดีกว่าถ้าพี่ทัชไม่เข้ามาใกล้
“เฮ้อ ไม่เชื่อใจสินะ เอาเป็นว่าที่มาถามเพราะอยากให้แน่ใจว่าเป้าหมายเราไม่ใช่คนเดียวกัน ในเมื่อไม่ใช่ก็โชคดีของพี่ไป
ไม่อยากแข่งกับหนุ่มฮอตของคณะว่ะ”
“อย่าบอกว่าพี่..”
“ตกใจทำไม ไม่ได้มีแค่นายที่เห็นความน่ารักของน้องๆ แล้วก็ไม่แน่กว่าจะจบทริปค่ายอาจมีมากกว่าพี่ก็ได้”
“นี่เตือนหรือขู่ครับ” ผมถามพี่ทัชยิ้มๆ แค่แซวกลับไม่ได้คิดจะหาเรื่อง
“คนมันหวังดีโว้ย ไปล่ะ เวลายิ่งมีน้อยๆ อยู่อีกไม่กี่วันก็กลับกรุงเทพฯ แล้ว”
“ไม่ใช่เจ้าใช่ไหมพี่ทัช”
พี่ทัชยักไหล่แต่ไม่ยอมตอบคำถามผม พอดีกับที่สกายเดินเข้ามา พี่ทัชแค่ตบบ่าทักทายและเดินสวนสกายออกไป
“ไม่ใช่เจ้าคืออะไรวะ” คนมาทันได้ยินประโยคสุดท้ายรีบถาม เมื่อมีชื่อคนที่ตนเองชอบอยู่ในนั้น
“คือมึงกำลังมีคู่แข่งไงสกาย กูไม่แน่ใจแต่ก็ระวังไว้หน่อย”
“แม่งเอ๊ย จีบก็ยากอยู่แล้ว ดันมีพี่ทัชเข้ามาอีก” สกายบ่นอุบเมื่อฟังผมเล่าจนจบ
“คิดในแง่ดีอาจไม่ใช่เจ้าก็ได้”
“ปลอบกูแต่ทำหน้าระรื่น มึงรอดแล้วนี่ คอยดูกูจะยุให้คนอื่นมาจีบน้องมัน มึงจะได้มีคู่แข่งบ้าง”
“อ้าว ไอ้เพื่อนเลวพาลนะมึง”
“เออ แม่งไม่พ้งไม่พักมันแล้ว ไปเฝ้าเด็กกูดีกว่า”
“ตามสบาย”
งานนี้ไม่ใช่แค่สกายที่กังวลผมเองก็ไม่ต่าง ไม่อยากเชื่อว่าต้องมานั่งคิดหาวิธีมัดไอ้ตัวดีมันไม่ให้ดิ้นหลุด
มันจะรักผมหรือยังไม่รักเป็นอีกเรื่อง แค่ต้องให้มั่นใจก่อนว่าจะไม่มีใครเอามันไปจากผมได้
ไอ้เด็กเนิร์ดเอ๊ย หน้าก็แม่งไม่ได้สวยอะไรเลย ทำไมป่วนผมได้ขนาดนี้วะ
ผมอาบน้ำขึ้นมาเป็นกลุ่มสุดท้าย เพราะมัวแต่ประชุมวางแผนงานของวันพรุ่งนี้ คนอื่นๆ อาบน้ำทานข้าวกันเสร็จหมดแล้ว
ของผมกับกลุ่มที่เหลือเพิ่งตักราดๆ นั่งทานกันระหว่างประชุม ไม่ได้ไปรวมกลุ่มพร้อมกับคนอื่น
“มาช้าว่ะ” ต่อขยับที่ให้ผมนั่ง วงใหญ่กว่าที่ผมคิดเพราะมีแขกคนอื่นเข้ามาเพิ่มด้วย พี่ทัช พี่เต้ พีท วีวี่ และพราว
หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น พราวไม่เข้าใกล้โต๊ะไปพักใหญ่ ถึงแม้ไอ้ตัวดีจะเดินไปขอโทษแล้ว เพิ่งมีวันนี้ที่กลับมาร่วมวง
ผมหันไปมองหน้าของขวัญ ที่แอบส่ายหัวเบาๆ ทำหน้าเบื่อๆ คล้ายกับจะบอกว่าไม่รู้จะห้ามยังไง
ผมส่งยิ้มให้เพื่อนเพื่อบอกว่าไม่เป็นไร มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผม ผมถือว่าผมแสดงออกชัดเจนแล้ว
“โต๊ะขยับหน่อย พี่นั่งด้วย” ผมเลือกที่จะสะกิดบอกคนที่นั่งติดอยู่กับพี่เต้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือแต่โดยดี
“บลูเลยเหรอมึง ใจป้ำนะ” ผมรับแก้วจากพี่เต้ที่ส่งมาให้ ก่อนหันไปแซวเจ้าภาพ
“จริงปลอมไม่รู้ว่ะ กูขโมยพ่อมาอีกที”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ต่อ แค่นี้ก็เอาไปคุยได้แล้ว ชอบจริงๆ ของแพงไม่เสียตังค์” แต่ละคนคงซัดกันไปคนละหลายแก้วแล้วก่อนผมขึ้นมา
“พี่เหนือชนกับผมหน่อย” โต๊ะยื่นแก้วมาตรงหน้า ผมยกแก้วขึ้นกระทบเบาๆ ก่อนส่งน้ำสีชาเข้าปาก
“อย่าชนกับโต๊ะมันบ่อยนะเหนือ ไม่อย่างนั้นนั่งอยู่ดีๆ มึงอาจโดนจูบไม่รู้ตัว” ฝนแซวโต๊ะเรื่องคืนนั้น
“โห พี่ฝนพูดอย่างนี้ผมเสียหมาหมด พี่พราวก็นั่งอยู่”
“ไม่เป็นไรหรอก พราวมันเข้าใจใช่ไหม?” ฝนหันไปจ้องหน้าพราว ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมพยักหน้า
“เหนือไม่โกรธพราวใช่ไหมคะ”
พราวหันมาถามผม ซึ่งถือว่าเป็นคำถามที่ล่อแหลมชวนให้คนอื่นเข้าใจสถานภาพระหว่างผมกับพราวผิด
“จะโกรธทำไมครับ ไม่เกี่ยวกับผม” ผมไม่ได้อยากหักหน้าผู้หญิง แต่จำเป็นต้องป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้ใครบางคนเข้าใจผิด
“ถ้าจะโกรธก็โกรธไอ้เด็กเอ๋อนี่มากกว่า ปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนั้นได้ยังไง พูดอะไรไม่เคยฟัง”
ผมยกมือขึ้นลูบหัวคนที่กำลังพูดถึงอยู่ รู้สึกได้ว่าสายตาเกือบทุกคู่มองมา ซึ่งก็ดีแล้ว
“นี่ถ้าพีทเมาแล้วจูบพี่สกายบ้าง จะโกรธไหมคะ” คนพูดขยับขาเหยียดออก ราวกับต้องการโชว์ให้คนอื่นเห็น
“ต้องถามข้าวเจ้าดูนะ เจ้าไม่โกรธพี่ก็ไม่โกรธ” สกายพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จีบเจ้ามันหน้าตาเฉย
ผมหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ อยากรู้ว่าจะมีปฏิกิริยายังไง แต่พอเห็นสายตาไอ้ตัวดี ความหงุดหงิดก็ก่อตัวขึ้นมาทันที
“จะมองอะไรนักหนา” ผมเอนตัวลงไปกระซิบชิดหู
“หา? ครับ? ก็มันขาว เอ้ย ก็ขาน้องสวย” โต๊ะตอบเสียงอ้อมแอ้ม
เห็นสายตาไอ้ตัวดี แล้วผมอยากยุบวงไล่กลับห้องใครห้องมันเสียให้จบๆ นอกจากมันซื่อดูผมไม่ออกแล้ว มันยังเจ้าชู้ด้วยใช่ไหม
“เฮ้ย แบบนี้เมื่อไหร่จะหมด มาๆ เล่นเกมแล้วดื่มกัน” เจ้าของเหล้าคงไม่อยากแบกขวดกลับด้วย จึงเริ่มหาเกมมาลงโทษคนแพ้
จากเหล้าที่ค่อยๆ พร่องเปลี่ยนเป็นลดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ถึงเที่ยงคืนก็เริ่มมีคนร่วงลงไปทีละคนสองคน
“เหนือ พราวไม่เข้าใจ ทำไมถึงเป็นพราวไม่ได้”
“เพราะเหนือมันชอบคนอื่นไง มันไม่ได้ชอบพราว” ของขวัญที่เมาพอๆ กับคนถามประกาศกลางวง
“น้องพราวพี่เต้ยังว่างนะครับ”
“เสือก”
ผมว่ามันชักไปกันใหญ่ เลยหันไปพยักหน้าให้สกายที่ตอนนี้มีน้องพีทพยายามนัวเนียอยู่ข้างๆ
“แยกย้ายกันไปพักผ่อน วันนี้พอแค่นี้” ผมปิดขวดเหล้าเพื่อป้องกันการเติม สกายรีบลุก ลากต่อไปนอน
“พราวจะนอนนี่” พราวล้มตัวลงนอน หัวเฉียดขาผมไปนิดเดียว
“พีทพาพราวกลับห้องที” ผมหันไปเรียกน้องสาวพราวที่ดูจะเมาน้อยกว่าพี่
“พีทก็ไม่ไหวคะ”
“แต่กูไหว กูพาไปเอง” ฝนลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้าหาพราวที่ไม่ยอมขยับตัวลุก
“พี่ทัช พี่เต้ช่วยฝนหน่อย พยุงพีทกับวีวี่ที” ฝนหันไปสั่งอีกสองคนที่เหลือ
ผมช่วยพยุงพราวขึ้นจนฝนยืนได้มั่นคงแล้วจึงปล่อยมือ
“มึงนอนกันไปก่อนเลย เดี๋ยวกูมา”
“ขอบใจ”
“เออ”
ผมรอจนฝน พี่ทัช พี่เต้พาคนที่เหลือออกจากห้อง ก่อนมาช่วยเจ้ากับสกายจัดการหอบเดซี่ ส้ม ของขวัญและโต๊ะขึ้นที่นอน
“กูลงไปล้างหน้าล้างตาดีกว่า ไม่ไหวเหนียวตัวว่ะ เจ้าไปด้วยกัน” สกายหันไปชวนคนที่นั่งหอบอยู่
“ไม่ไป”
“จะไปดีๆ หรือให้อุ้มไป”
“ไปเป็นเพื่อนสกายมันหน่อย มันขี้กลัว” ผมช่วยเพื่อนอีกแรง จะเรียกกว่าหาโอกาสให้ตัวเองด้วยก็ได้
“แต่..”
“ไปเถอะไม่ต้องต่งต้องแต่อะไรแล้ว” สกายพูดจบก็ฉุดร่างป้อมๆ ลุกขึ้นยืน ลากถูลู่ถูกังไปด้วยกัน
ผมเก็บแก้ว ขวดโซดาไปไว้ข้างฝา ดูให้เรียบร้อยก่อนเดินไปล้มตัวลงนอนข้างๆ โต๊ะ
ไอ้ตัวดีเหมือนรู้ว่ามีคนจ้อง มันค่อยๆ กระพริบตาก่อนจะปรือตาขึ้นมองหน้าผม
“มาแล้ว” รอยยิ้มดีใจของคนตื่นไม่เต็มตาส่งมาให้ผม
“มาแล้ว” ผมตอบไปด้วยคำเดียวกัน อดยื่นมือไปเขี่ยแก้มใสๆ ของมันไม่ได้
“อื้อ” โต๊ะครางเบาๆ เมื่อผมดึงแว่นออกจากหน้า ไปวางไว้ให้เหนือหัว พอไม่มีแว่นตาหน้าโต๊ะดูเปลี่ยนไป
ไม่เหมือนเด็กเอ๋อคนเก่า
“จูบไหม?”
“หือ?” ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินผิดไปหรือเปล่า
“จูบไง จูบตอนเมา ตอนไม่เมาจูบไปแล้ว” โต๊ะเอามือชี้ที่ปาก
“อยากจูบไหม” รุกคนเมาผิดไหมครับ ในเมื่อคนเมา เมาแล้วชอบจูบ ผมว่าผมไม่ผิดนะ
“อื้อ จูบกัน”
ให้ตายเถอะ ใครสอนให้มันพูดแบบนี้ เป็นนักเรียนที่สมควรโดนทำโทษมากๆ
ผมดึงโต๊ะเข้ามากอด จับให้นอนซุกอยู่กับหัวไหล่ เชยคางไอ้ตัวดีขึ้น ก่อนกดริมฝีปากลงไปเบาๆ
“อือ..” เสียงครางลอดออกมา ยิ่งกระตุ้นให้ผมเพิ่มน้ำหนักของปากลงไป ผมค่อยๆ ส่งปลายลิ้นร้อนเข้าไปชิมรสชาติภายใน
ลิ้มรสความหอมหวาน ทั้งเมามายทั้งชวนลุ่มหลง
ผมกำลังติดกับโต๊ะเข้าเสียเอง
“ชอบไหม” ผมกระซิบชิดปากนุ่ม
“อื้อ” โต๊ะพยักหน้ามองผมด้วยดวงตาวาวเยิ้ม ฤทธิ์เหล้าทำให้มันดูเซ็กซี่ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
“อีกทีนะ” ผมขอแต่ไม่ได้รอคำตอบ ก้มหน้าลงตักตวงความหอมหวานที่ติดใจ เนิ่นนานจนได้ยินเสียงเปิดประตู
ผมกอดโต๊ะเข้ากับอก ไอ้ตัวดีซุกหน้าลงมาครางอืออา ขยับหาตำแหน่งที่สบายตัวก่อนเงียบไป
ฝนเดินเข้ามาหยุดยืนที่ปลายเท้า ผมยกมือขึ้นแตะปากเป็นเชิงบอกไม่ให้ส่งเสียง
“ร้ายนะมึง”
ผมได้ยินเสียงเพื่อนบ่นพึมพำ ก่อนเดินไปล้มตัวลงนอน สกายกับเจ้ายังไม่กลับมา ซึ่งผมไม่กังวลอะไร
รู้ว่ามันก็คงหาโอกาสอยู่กันตามลำพังเหมือนผม
ผมกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น กดจูบลงไปบนหน้าผากกว้าง
“ฝันดีนะครับ”
“อื้อ” เสียงตอบรับเหมือนละเมอ ทำเอาผมเผลอยิ้มออกมา คืนนี้ผมคงฝันดีมากเหมือนกัน
“เหนื่อยไหมครับ” น้ำเย็นๆ ถูกส่งให้ผมทันทีที่ลงมาถึงพื้น ผมลากโต๊ะกับเจ้ามาช่วยผมกับสกายซ่อมหลังคา
มีหน้าที่คอยส่งกระเบื้องและอุปกรณ์ขึ้นไปให้
“ร้อน อยากอาบน้ำ”
“แต่อาบตอนนี้ ค่ำๆ จะเหนียวตัวนะครับ เพิ่งห้าโมงเอง”
“ถ้าไม่ไหวค่อยอาบอีกที ไปไหม”
“ไปครับ” โชคดีที่โต๊ะตอบรับทันที โดยไม่ต้องหว่านล้อม มันน่ารักก็ตรงนี้แหล่ะ แววตาใสๆ ดูตื่นเต้นไปกับทุกอย่าง
“งั้นไปกัน” ผมหันไปบอกสกาย อีกฝ่ายกำลังเก็บเครื่องมือโดยมีสมุนตัวป้อมๆ คอยช่วยอยู่
“ทำไมถึงผอมแบบนี้” ผมขยับเข้าไปใกล้ แกล้งจับตัวมันหมุนไปมา โต๊ะใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวเพื่อลงอาบน้ำ
ผิวมันขาวไปทั้งตัวเหมือนคนไม่เคยเจอแดด
“ออกกำลังกายบ้างหรือเปล่า ซิกแพค กล้ามไม่มีสักอย่าง”
โต๊ะสั่นหน้า ก้มลงมองหน้าท้องตัวเอง
“บ้านผมผอมเป็นกรรมพันธุ์มั้งครับพี่เหนือ หุ่นนี้กันหมด”
“มันต้องแบบนี้สิถึงจะแข็งแรง” ผมจับมือโต๊ะมาวางไว้บนหน้าท้องตัวเอง บังคับให้มือลูบขึ้นลงไปตามลอนคลื่น
“ขะ..แข็งจริงๆ ด้วย”
โต๊ะลูบไปก็หน้าแดงไป หน้ามันตอนนี้น่าเอ็นดูที่สุดครับ ตาโตๆ ภายใต้แว่น ปากห่อๆ บ่งบอกถึงความตื่นเต้น
ผมเคลื่อนมือที่วางทาบทับมือโต๊ะอยู่ให้เลื่อนต่ำลงไปจนชิดขอบบ๊อกเซอร์ ที่เกาะอยู่ตรงสะโพก
ตาของโต๊ะเบิกขึ้นกว้างกว่าเดิม
“รู้ไหมว่าออกกำลังกายมันทำให้อย่างอื่นแข็งแรงด้วย”
“ยะ..อย่างอื่น”
“ใช่ อย่างอื่น”
สายตาโต๊ะมองต่ำลงไปทันที ผมรู้ว่าน้องจ้องอยู่ตรงไหน แปลกที่แค่รู้ว่าถูกมองผมก็เริ่มตื่นตัวแล้ว
“อาบน้ำกันเถอะ” ผมรีบตัดบท คว้าขันที่วางอยู่บนก้อนหินตักน้ำราดหัวไปสี่ห้าขันเผื่อจะดับความร้อนได้บ้าง
“ผมถูหลังให้ไหมครับ”
“เอาสิ” ผมหันหลังให้โต๊ะ วิธีนี้จะช่วยอำพรางบางอย่างได้ด้วย
“หลังพี่เหนือกว้าง” มือเรียวลูบไปทั่วแผ่นหลัง ผมแอบหายใจเป็นจังหวะสั้นๆ ไม่รู้คิดถูกคิดผิดให้น้องมันถูหลังให้ตอนนี้
“อยากได้ก็ต้องออกกำลังกาย”
“อยากได้..” โต๊ะพึมพำบางอย่างเบาๆ แต่ผมจับความได้แค่นี้
“กลับไปพี่เป็นเทรนเนอร์ให้เอาไหม” ผมหาโอกาสให้ตัวเองเป็นแผนต่อเนื่อง
“จริงนะครับ” เสียงไอ้ตัวดีตื่นเต้นใหญ่ ไม่ได้รู้เลยว่ากำลังเดินเข้าสู่กับดักของผม
“จริงสิ กลับไปพี่นัดเราอีกที”
“ขอบคุณครับพี่เหนือ” โต๊ะส่งยิ้มกว้างให้ผม
“มา พี่ถูหลังให้เราบ้าง” ผมหันหน้ากลับมา จับบ่าทั้งสองข้างของโต๊ะให้หมุนตัว หันหลังให้ผม
“โต๊ะชอบพี่ทัชเหรอ” ผมไล้สบู่ไปบนแผ่นหลังบาง
“ไม่ตอบได้ไหมครับ” ไอ้ตัวดีทำเสียงอ้อน ไม่รู้ไปหัดมาจากที่ไหน
ผมก็เพิ่งรู้ว่าเวลาผู้ชายอ้อนมันน่ารักแบบนี้ มันไม่ได้ดูเป็นแมวเหมียวเหมือนผู้หญิง แต่เหมือนเด็กเล็กๆ กำลังอ้อนพี่ชาย
แบบนี้กลับทำให้ผมไม่รู้สึกรำคาญ ออกแนวอยากตามใจเสียมากกว่า ยกเว้นเรื่องนี้
“ไม่ได้ ตอบพี่มา” โต๊ะเงียบไปอึดใจใหญ่ จนผมต้องกระตุ้นด้วยการจั๊กจี้เอว
“ไม่เอาพี่เหนือ ผมบ้าจี้” โต๊ะดิ้นขลุกขลัก ยิ่งโต๊ะดิ้นผมยิ่งแกล้ง
“ฮ่าๆๆ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว” โต๊ะงอตัวลง ผมอาศัยจังหวะนี้ ดึงเอวไอ้ตัวดีเข้ามาชิด จนหลังของโต๊ะปะทะเข้ากับหน้าท้องผม
“ยอมแล้วก็บอกมา” ผมยังกอดเอวโต๊ะเอาไว้ทำเป็นกั้นไม่ให้ดิ้นหนีได้ วางคางลงบนบ่าเล็กๆ แนบหน้าเข้าไปชิดแก้ม
“ไม่ได้ชอบครับ”
“งั้นชอบใคร” ผมได้โอกาสรีบรุกไล่ อย่างน้อยต้องรู้ให้ได้ว่าคู่แข่งของผมเป็นใคร
“จะล้วงความลับผม พี่เหนือต้องบอกก่อนสิครับ ว่าแวนโก๊ะเป็นใคร”
“เฮ้อ ไอ้เด็กบ๊อง” ผมแกล้งถอนใจรดต้นคอ
“แวนโก๊ะก็เรานั่นแหล่ะจะใครที่ไหน” ผมเฉลยแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย อยากเห็นปฏิกิริยาตอบรับของโต๊ะ
“ผม?!!” โต๊ะหันขวับมาจ้องหน้า
“ผมเหรอครับ!!”
“ได้ยินว่ายังไงล่ะ” ผมไม่ยอมตอบซ้ำ คนตรงหน้าเหมือนงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก หน้าที่เนิร์ดๆ อยู่แล้วเริ่มออกอาการเอ๋อๆ
“ไม่ใช่หรอกพี่เหนือโกหก” ไม่รู้หัวสมองมันคิดอะไร อยู่ๆ ก็เชิดปากใส่ผมทำท่างอนตามแบบของมัน
“จะโกหกให้ได้อะไร ใช่ก็บอกใช่” โต๊ะคงกำลังงง จนไม่สังเกตว่าพอมันหันหน้ามาแบบนี้ ทำให้หน้าท้องเราแนบชิดกัน
“แต่พี่ต่อบอกว่าพี่เหนือชอบแวนโก๊ะ”
“ใช่”
“งั้น..งั้นพี่เหนือชอบผมเหรอครับ”
“เฮ้อ ทำไมเป็นคนเข้าใจอะไรยากแบบนี้”
ผมแกล้งถอนหายใจออกมาดังๆ กำลังคิดจะฉวยโอกาสจูบเพื่อให้โต๊ะแน่ใจเสียหน่อย ดันมีเสียงคนคุยกันดังมาแต่ไกล
ผมจึงต้องเลื่อนมือออกจากตัวโต๊ะอย่างเสียดาย
“เอาไว้พี่จะทำให้เราเชื่อ” ผมก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหูโต๊ะ ก่อนถอยห่างออกมา
“พีเหนือผม..ผม” โต๊ะพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่คนลงมาถึงกันเสียก่อน เลยได้แต่ปิดปากเงียบ
“มาอาบน้ำไม่เรียกพวกกูเลยนะคะ”
เดซี่เดินเข้ามาหาเพื่อน กลุ่มที่ลงมาเป็นกลุ่มใหญ่มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย คงลงมาเล่นน้ำคลายร้อนกันมากกว่า
โต๊ะเหลือบตามองผม ผมเลยทำท่าถูสบู่เพื่อบอกว่าให้อาบน้ำต่อให้เสร็จ โต๊ะพยักหน้าก่อนหันไปรวมกลุ่มกับเพื่อน
ผมล้างตัว แช่น้ำ จนคิดว่าสมควรจะขึ้นได้แล้ว กะว่าจะชวนโต๊ะขึ้นมาด้วยจะได้คุยกันต่อให้จบ
แต่เห็นมันเล่นอยู่กับเพื่อนๆ เลยไม่อยากกวน
“พี่ขึ้นก่อนนะ” ผมตะโกนบอกโต๊ะให้รู้
“พี่..พี่เหนือ” โต๊ะเรียกผมไว้
“เล่นกันไปเถอะ พี่ขึ้นก่อนจะไปช่วยสวัสดิการเตรียมมื้อเย็นด้วย” ผมโบกมือไล่ให้มันลงไปเล่นน้ำเหมือนเดิม
หยิบขันน้ำกับอุปกรณ์ขึ้นจากก้อนหินที่วางไว้
“พี่เหนือ”
ผมเดินพ้นน้ำแล้ว ตอนที่โต๊ะตะโกนเรียกอีกครั้ง
“ว่าไง” ผมหน้าหันกลับไปมอง
“ผมชอบพี่ครับ”
“เหี้ย”
เสียงสุดท้ายเป็นเสียงของเดซี่ กว่าสิบกว่าชีวิตหยุดนิ่งตะลึงกันหมด รวมทั้งผมด้วย
“ผมชอบพี่ พี่เหนือ”>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
edit**คนอ่านตกใจ บทจะเร็วก็เร็ว^^
พี่เหนือเร็วเพราะกลัวโดนแย่งชิงนะคะ สบโอกาสน้องถามเลยบอกเสียเลย อยากดูอาการน้องด้วย
ส่วนโต๊ะอย่างที่รู้โต๊ะไม่เหมือนใคร เป้าหมายมีไว้พุ่งชน เมื่อรู้ว่าพี่ชอบ แค่รอบอกทีหลังยังไม่ยอมเลย กลัวจะช้าไป
กลัวพี่มันจะเปลี่ยนใจ ความโต๊ะของแท้^^
**
ลงอีกทีวันพฤหัสนะคะ พรุ่งนี้ติดธุระค่า^^
Darin ♥ FANPAGE