Special Part.............“Children’s Day ตัวก้อน VS คนนิสัยไม่ดี”
“อึก...ฮึ...ฮะ...ฮืออออออออออ ปอนจ๋า ยุไนนนนนนน พิเหนือยแก้ง พิเหนือยแก้งน้อง น้องโกด ฮืออออออ น้องเจ็บตงนี้ เจ็บตงนี้” มือป้อมขยี้ตาโตๆของตัวเองที่มีหยดน้ำเกราะพราวตามแพขนตางอนพร้อมไหลหยดลงมาเป็นสายก่อนจะช้อนใบหน้าส่งสายตาแสนเง้างอนมองตรงมาที่ผม มือเล็กระดมทุบตรงอกด้านซ้ายของตัวเองปากก็พล่ามไปเพราะโดนขัดใจอะไรบางอย่าง ขาสั้นเป็นมัดราวก้อนสำลีก้าวเดินเตาะแตะเข้ามาหา ส่งมือข้างขวามากระตุกชายกางเกงบอลตูดขาดที่ผมใส่อยู่ จมูกเล็กๆแดงระเรื่อเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงตลอดแทบทั้งวัน แก้มใสกลมราวกับซาลาเปาหากแต่ดูหวานละมุนคล้ายสายไหมสีชมพูอ่อนที่ใครมองเห็นก็อยากลิ้มลอง สำหรับผมคงเรียกว่า “น่าฟัด” มากกว่า
“ไม่ร้องครับก้อน ไหน? ใครมันแกล้งก้อนหื้ม? ใครมันกล้าขัดใจก้อน โอ๋ๆ ไม้ร้องน้า ปอนด์จ๋าจะไปตีมันให้ตายเลยดีไหมครับ” ย่อตัวลงกอดประคองก้อนกลมๆตรงหน้าก่อนจะฟัดแก้มไปอีกสองสามที จนถูกมือป้อมผลักจนหน้าหงายเพราะรำคาญ
“งื้อออออออออออ น้องไม่อยากให้พิเหนือยตาย น้องแค่โกด ฮึก” สะอื้นจนพูดจาไม่รู้เรื่อง จากที่ตัวก้อนนี่พูดไม่ชัดอยู่แล้วด้วยตอนนี้ยิ่งพูดไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่
“ไอ้พิเหนือยมันทำไม? มันทำไรให้ก้อนโกรธ ไหนบอกปอนด์จ๋ามา ปอนด์จ๋าจะไปจัดการ” แกล้งทำเป็นโกรธตามน้อง ไอ้เหนือยนะไอ้เหนือยหางานให้กูได้ตลอด ตั้งแต่เพื่อนยันผะ ฟะ แฟน ก้อนกลมๆแก้มแทบแตกที่ผมกอดโยกไปมาปลอบอยู่เราเพิ่งเจอกันเมื่อสองชั่วโมงก่อนนี่เองครับ เปิดประตูก็เจอเจ้าก้อนยืนทำหน้าเป็นหมาหงอยโดนทิ้งอยู่หน้าห้องแล้ว พอเห็นหน้าผมก็เตรียมเบะปากจะร้องไห้ออกมาซะให้ได้จนผมต้องกอดและอุ้มเข้ามาในห้อง ลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้ รู้อีกทีก็ขนขนมนมเนยที่ไอ้พี่เหนือมันซื้อมาไว้ให้ผมมาประเคนให้เจ้าก้อนได้นั่งกินอย่างสบายอกสบายใจที่โซฟาหน้าทีวีไปซะแล้ว ก่อนจะสอบถามได้ความก็ปาไปเกือบชั่วโมง สรุปคือเจ้าก้อนนี่ชื่อ “น้องตุลย์ อายุสองขวบครึ่ง อยู่เตรียมอนุบาลห้องทานตะวัน หัวหน้าแก๊งลูกหมู คุณครูประจำชั้นชื่อหนูเล็ก ตัดผมหัวเห็ดมีพ่อชื่อตาล แม่ชื่อน้ำหวาน เป็นน้าหลานกับคิมหันต์สุดหล่อ” น้องไม่ได้พูดหรอกครับ แค่ลำพังก้อนจะพูดให้ชัดยังลำบากเลย ที่ผมรู้เพราะจดหมายที่ไอ้คิมยัดใส่มาในมือก้อนนั่นต่างหากทำให้ผมกระจ่างว่ามันเอาหลานมาทิ้งให้ผมเลี้ยงเพราะมันรับปากกับพี่สาวตัวเองว่าจะรับน้องตุลย์มาอยู่ด้วยในวันที่พี่สาวกับพี่เขยมันไปทำธุระที่ต่างจังหวัด ส่วนมันก็ดันลืมตัวไปตกปากรับคำสายรหัสตัวเองซะดิบดีว่าปิดเทอมปีนี้จะขึ้นดอยไปบริจาคผ้าห่มเสื้อกันหนาวให้ชาวเขากับเขาด้วย โธ่ พ่อคนดี พ่อมีเมตตา พ่อโอบอ้อมอารี พ่อจิตอาสา แต่เสือกทิ้งหลานให้เพื่อนเลี้ยงไอ้งามไส้! และเหตุผลที่ผมเป็นผู้ถูกเลือกก็เพราะมันเห็นว่าผมรักเด็กและคอนโดไอ้พี่เหนือก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่หลานมันครบครัน แน่นอนมันลืมคิดไปว่ายังมีสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าไอ้พี่เหนืออยู่ ซึ่งมันเกลียดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ยกเว้นผม
“ไอ้พิเหนือย ไหนตกลงกันเข้าใจแล้วไงว่าจะให้น้องอยู่ด้วย พรุ่งนี้เย็นแม่น้องก็จะมารับกลับแล้ว แค่วันเดียวเองพี่ทนหน่อยไม่ได้เหรอวะ” ผมอุ้มก้อนขึ้นพาเดินไปหาตัวก่อเหตุที่นั่งตีหน้าขรึมนอนดูทีวีช่องกีฬาอย่างสบายใจที่ทำเด็กสองขวบร้องไห้
“ไอ้อ้วนมันดื้อ” อ้วนคือสรรพนามที่ไอ้พี่เหนือมันเรียกน้องตุลย์ครับ น้องไม่อ้วนซักหน่อย แค่กลมๆเหมือนก้อนสำลีน่าฟัดสุดๆเท่านั้นเอง
“น้องมัยอ้วนนะ พิเหนือยใจย้ายย ฮึก ว่าน้องอ้วน แถมมัย ฮึก...ฮือ แย่งน้องดูทีวี ฮืออออ” พูดจบก็ก้มหน้าร้องไห้กับไหล่ผมต่อ ผมที่อุ้มน้องอยู่ต้องลูบหลังโยกตัวปลอบน้องใหญ่เพราะกลัวน้องจะร้องไห้หนักจนป่วย
“โตแล้วยังไปแย่งเด็กดูทีวี แล้วไปเรียกลูกคนอื่นเขาแบบนั้นได้ไง นิสัยว่ะ” มันจิ๊ปากรำคาญ แต่ก็ไม่สนใจผมกับเจ้าก้อนที่ร้องไห้จ้าอยู่ดี คนอะไรใจร้ายใจดำ
“หนวกหู”
“ถ้าอย่างนั้นผมเก็บกระเป๋าพาน้องไปบ้านไอ้ไนท์”
“มันอยู่บ้านไอ้แทน” ฮึ่ย มีเพื่อนก็พึ่งพาไม่ได้ มีแฟนก็งี่เง่า
“บ้านไอ้นนท์ยังว่าง” พูดจบผมก็ทำท่าเก็บของเล่นพร้อมเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าริลัคคุมะของเจ้าก้อน
“ปอนด์ อย่าดื้อ”
“พี่นั่นแหละดื้อ”
“แค่ไม่เรียกมันอ้วนใช่ไหม” ทำหน้าเบื่อหน่ายเต็มทนแต่ก็ยอมแต่โดยดี ต้องให้ขู่นะมึง
“ห้ามแกล้งน้องด้วย แล้วก็อยู่กันดีๆไม่ตีกันเข้าใจไหมไอ้พิเหนือย”
“คิก คิก พิเหนือยเมือนคุนพ่อน้อง พ่อน้องก็ทำแบบนี้ตอนคุนแม่งอน น้าคิมบอกว่าคุนพ่อกัวเมีย” ร้องไห้เมื่อครู่ตอนนี้ยิ้มแป้นชอบอกชอบใจใหญ่เลย เป็นเด็กนี่ดีจัง เล่นกับเสือยังไม่น่ากลัวเท่าไปแหย่ไอ้พี่เหนือตอนมันหงุดหงิดแต่ชีวิตปอนด์จ๋านี่สิจะไม่เหลือ
“อ้วนแล้วก็เงียบปากไป”
“น้องไม่อ้วน พิเหนือยนิฉัยมั่ยดี!” โดนเด็กว่าแทนที่จะสำนึกยังมาทำยิ้ม ยักคิ้วกวนบาทา
“พอๆพิเหนือย ไม่แกล้งน้องแล้วให้น้องดูการ์ตูนเร็ว” ผมวางเจ้าก้อนลงบนโซฟาข้างคนนิสัยไม่ดีก่อนเจ้าก้อนจะทำท่าฟึดฟัดสะบัดหน้างอนคนใจโฉดข้างๆจนผมสยาย
“มึงก็เลิกเรียกชื่อกูตามไอ้เตี้ยนี่ได้แล้ว” ก็น้องพูดไม่ชัด แถมเรียกชื่อมึงกรอกหูกูทุกๆห้านาทีเพราะมึงเอาแต่แกล้งเขาจะให้กูไม่ติดเรียกมึงว่าพิเหนือยตามน้องยังไงไหววะ ตอนแรกก็ขำครับ มันโมโหมากที่ชื่อมันเพี้ยนได้แบบน่าเกลียดสุดๆไปเลยในขณะที่น้องกลับเรียกผมถูกแถมเติมจ๋าให้ท้ายชื่ออีก แหม่มันชื่นใจนักแลเห็นๆกันอยู่ครับว่างานนี้ใครชนะ เจ้าก้อนยิ้มหวานหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจที่ทำให้ไอ้พิเหนือยมันหัวหมุนได้ โดนแกล้งแต่ก็ชอบพาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้พี่มัน ไอ้พี่ก็โง่ น้องชอบ อยากเล่นด้วยก็ไม่รู้ตัว เป็นคนนิสัยไม่ดีอย่างที่น้องว่าจริงๆ...แต่ทำไมพอผมมองภาพไอ้คนนิสัยไม่ดีที่ทำตัวไม่ถูกตอนเด็กก้อนปีนขึ้นไปจะนั่งเล่นหุ่นยนต์บนตักแล้วถึงยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวก็ไม่รู้
“พี่เล่นกับน้องตุลย์ดีๆ ผมจะไปเตรียมข้าวเที่ยงแล้วนะ นี่น้องทานแค่ขนมไปเอง”
“กูให้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมง ถ้านานกว่านั้นกูจะจับไอ้เตี้ยนี่โยนออกไปข้างนอก” กูต้องดีใจไหมที่มึงไม่เรียกน้องว่าอ้วนแล้วแต่เปลี่ยนเป็นเตี้ยแทน เห็นมันรื้อของเล่นมาให้น้องแล้วก็ได้เวลาไปทำกับข้าวจริงๆซักที ไม่รู้จะยื้อเวลาได้มากแค่ไหน กลัวแค่ไม่ถึงสิบนาทีน้องจะวิ่งร้องไห้มาหาผมแบบเดิมมากกว่า
ผมเข้าครัวมาเตรียมอาหาร แน่นอนว่าอาหารแช่แข็งคงไม่เหมาะสำหรับเด็กเท่าไหร่ ผมจึงทำแกงจืดหมูเต้าหู้ไข่กับผัดผักรวมง่ายๆ ใช้เวลาซักพัก มองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังห้องครัวก็แอบตกใจที่ผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วแต่บริเวณห้องนั่งเล่นยังคงเงียบสงบปราศจากเสียงร้องไห้งอแงของเด็กเหมือนเคย ผมยกกับข้าวไปวางบนโต๊ะอาหารก่อนจะนำผลไม้ที่ล้างเตรียมไว้แล้วก่อนจะเดินไปตามเด็กก้อนกับคนนิสัยไม่ดีให้มาทานข้าว
“นี่อ้วน ทำไมอ้วนขนาดนี้แก้มจะแตกแล้ว” พูดจบก็ดึงแก้มย้วยๆที่นั่งอยู่บนตักยืดออกเป็นมาชเมลโล่ ตากลมตวัดขึ้นมองหน้าอีกคนทำท่าทางไม่พอใจ แต่กลับดูน่าเอ็นดูจนคนที่ถูกโกรธต้องดึงแก้มย้วยๆนั่นอีกหลายที
“งื้ออออ พิเหนือยแก้งน้องอีกแย้ว จ้าฟ้องปอนจ๋า ให้ปอนจ๋าตีให้ตายเยย” ผมที่แอบมองอยู่แทบจะยกมือปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะแทบไม่ทัน
“เก่งนักหรอหะ เก่งนักหรอไอ้อ้วน หื้ม” พูดจบพี่มันก็จี้เอวน้องจนน้องดิ้นขลุกขลัก แขนสองข้างของพี่มันเป็นตัวกั้นไว้ไม่ให้น้องดิ้นแรงจนไถลลงจากตักให้ได้หล่นลงพื้นไป
“คริ คิก ฮ่า ฮ่า คริ มั่ยอาว มั่ยแก้ง น้องจั๊กจี๋ มันขำ คิก คิก ปวดท้องแย้ว น้องปวด คิก ฮ่า”เด็กก้อนหัวเราะหนัก คงจะจั๊กจี้จริงๆ ยิ่งตอนไอ้พี่เหนือก้มลงไปเอาหน้าฟัดพุงของเด็กก้อนตัวกลมๆนั้นผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พี่เหนือก็มีมุมนี้เหมือนกัน แล้วตอนแรกทำเป็นตีหน้าเข้มไม่ชอบเด็ก แบบนี้ต้องอัดคลิปไว้
“ไหนลองเรียกพี่เหนือซิ” มันอุ้มน้องออกจากตักไปวางไว้ข้างๆพร้อมจับตัวน้องให้หันมามองมันตรงๆ จ้องตากันเหมือนสะกดจิต
“พิเหนือย” ฮาครับคำเดียวเห็นหน้าตอนมันเส้นเลือดปุดๆหุบยิ้มฉับไวแล้วขำหนักจนต้องปิดปากกลั้นขำกลัวมันจะรู้ตัวว่าถูกแอบถ่าย
“พี่เหนือ อ่านปากชัดๆนะ พี่-เหนือ”
“พะ พิ พี พีเหนือย”
“ไอ้อ้วน กวนตีนใช่ไหม” ขำที่น้องเรียกชื่อมันเพี้ยนแล้วยังไม่เท่าขำตอนมันหาเรื่องเด็กครับคนอะไรขี้พาล
“งื้อออ ชื่อพิเหนือยออกเสียงยาก ตุนพุดไม่ฉัด” โหย ถ้าไม่ติดว่าเป็นเด็กคำหลังนี่กูว่าหลอกด่าชัดๆเลยนะ ผมขำจนน้ำตาไหลแล้วครับตอนนี้
“เรียกชื่อไม่ถูกก็ไม่ให้เล่นกับปอนด์จ๋า”
“ปอนจ๋าจัยดี น้องชอบปอนจ๋า จาเย่น”
“ปอนด์ของกูไอ้อ้วน ใครให้เล่นด้วย” มันกอดอกทำหน้าขรึมขู่เด็กก้อนที่เริ่มทำสีหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ
“พิจัยย้าย เรียกน้องอ้วน ยังมั่ยหั้ยเย่นกับปอนจ๋า คนนิ...”
“คนนิฉัยมั่ยดี” มันพูดแทรกน้องขึ้นมาอย่างรู้ทันพร้อมดึงแก้มน้องเล่นจนน้องระดมทุบไปที่แขนแต่อีกคนนอกจากจะไม่สะดุ้งสะเทือนแล้วยังชอบอกชอบใจที่เห็นเด็กโมโห
“พิเหนือยขี้หวง ปอนจ๋าของตุน”
“อย่ามั่วไอ้อ้วน ปอนด์ของกู”
“หือ เหนือยพูกมั่ยยู้เรื่อง” น้องเริ่มกอดอกตีหน้าเครียดตามไอ้คนพี่ขี้แกล้งไปอีกคน เว้ยพอกันทั้งเด็กทั้งแก่ ผมเก็บโทรศัพท์ก่อนจะเดินเข้าไปกลัวถ้าปล่อยไว้นานจะได้ปลอบตัวก้อนที่ร้องไห้เพราะโดนคนนิสัยไม่ดีแกล้งเข้าให้อีก
“ไปทานข้าวกันครับ พี่เหนือปิดทีวี เดี๋ยวผมพาน้องไปล้างมือก่อน” เห็นมันพยักหน้าผมก็อุ้มก้อนไปล้างมือในห้องน้ำ กลับมาก็เห็นพี่เหนือนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“พิเหนือยตักแกจืดหั้ยน้อง น้องชอบ”
“มีมือก็ตักเองอ้วน” พูดจบก็จ้วงเข้าปากตัวเองต่อหน้าเด็ก
“พี่นี่ยังไงวะ ไม่แกล้งเด็กซักนาทีได้ไหม”
“หน้าอ้วนตอนโมโหตลกดี”
“พิเหนือยเปนโคนนิฉัยมั่ยดีก้อแบบนี้ น้องตุนไม่ถือฉา”
“ฮ่าๆๆๆ โดนเด็กหลอกด่าแล้วไหมละพี่” เห็นมันเริ่มหงุดหงิดแล้วก็สะใจ แกล้งน้องดีนัก
“กินเข้าไป” มันตักผักใส่จานอ้วนไปสองช้อนพูน
“คุนผักน้องชอบ” อ้วนพูดพร้อมตักผัดผักรวมกับข้าวเข้าปากคำโตๆ ผมรู้ว่ามันกะจะแกล้งน้องเพราะคิดว่าเด็กคงไม่กินผักแบบที่มันไม่ชอบกินแครรอทแน่ๆ แต่งานนี้น้องกลับชอบกินผักซะเอง มึงพลาดแล้วพี่เหนือ
“ไม่แปลกใจเลยที่มันอ้วน” พี่มันหันมาพูดกับผมก่อนที่เราจะกินข้าวกันไปโดยมีผมนั่งขำเวลาน้องกับมันคอยแกล้งกัน ปกติจะมีแค่เราที่กินข้าวด้วยกันเพราะตอนนี้ปิดเทอมพวกตัวแสบก็กลับบ้านบ้างแยกย้ายกันไปเที่ยวมากกว่าที่จะมาขลุกตัวอยู่ที่คอนโดพี่เหนือเหมือนวันปกติ มีบ้างที่ผมรู้สึกเหงา แต่พอมีน้องเข้ามามันทำให้บรรยากาศระหว่างเราอบอุ่นขึ้น ผมได้เห็นอีกมุมของพี่เหนือ เหมือนกับว่าผมตกหลุมรักคนคนเดิมซ้ำๆยังไงยังงั้นเลยตราบใดที่เรารับรู้ตัวตนของเขาในแบบที่มีแค่เราที่เขายอมให้เห็นเพียงคนเดียว ผมคงบ้ามากจริงๆที่คิดว่าอยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอด...คล้ายเหลือเกินกับคำว่าครอบครัว
“ปอนด์ เดี๋ยวพาอ้วนไปซื้อของนะ” ผมที่ล้างจานอยู่ถึงกับชะงัก ก็เห็นนั่งเล่นด้วยกันอยู่ทำไมถึงอยากออกไปข้างนอกกัน
“ดูแลได้แน่นะพี่เหนือ ลูกคนอื่นนะพี่ หามาคืนเขาไม่ได้แล้วนะ” ผมมองเด็กก้อนที่ใช้มือเล็กๆกำรอบนิ้วชี้ของไอ้พี่เหนือไว้แน่นเหมือนกลัวอีกคนจะทิ้ง
“ไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
“ครับ ขับรถดีๆนะ ห้ามตีกัน” เห็นมันพยักหน้าส่งๆก่อนจะจับมือน้องพากันเดินออกไป
ผมเก็บกวาดบ้าน ปกติก็ไม่ได้ทำเองหรอกครับ พี่เหนือมันจ้างแม่บ้าน หลังจากเอาผ้าไปตาก ก็เดินกลับเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น ข้าวของกระจัดกระจายเต็มไปหมด
“เล่นกันยังไงวะ” บ่นกับตัวเองเบาๆก่อนจะค่อยๆเก็บของเล่นใส่กระเป๋าให้น้องทีละชิ้น เหลืออีกส่วนทำให้ผมหุบยิ้มไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฟิกเกอร์ครบเซ็ตจากการ์ตูนเรื่องวันพีช ตัวต่อเลโก้ หรือแม้แต่โมเดลรถรุ่นลิมิเต็ทที่พี่เหนือหวงนักหวงหนาแม้แต่ผมมันก็ยังห้ามจับถ้าไม่ได้รับอนุญาต แต่นี่กลับขนมาให้น้องเล่นอย่างไม่ห่วงว่าของจะพัง...นิสัยไม่ดีจริงๆเลยนะ...ทำให้คนอื่นตกหลุมรักได้ซ้ำๆ...คนใจร้ายคนนั้น...สำหรับผมก็ยังใจร้ายอยู่ดี...ร้ายแบบที่ทำให้คนอื่นหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น
ผมทำงานทุกอย่างเรียบร้อยก็หยิบการ์ตูนเล่มที่อ่านค้างไว้มานอนอ่านตรงโซฟา มองนาฬิกาอีกทีนี่ก็เกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว หายกันไปสามชั่วโมง ไม่ใช่ไอ้พี่เหนือทำลูกเขาหายไปแล้วเหรอ คิดแล้วก็ไม่สบายใจเลย
“ปอนจ๋า ตุนมาล้าวววววววววววว” เสียงเรียกดังมาจากหน้าประตูก่อน ตัวก้อนจะวิ่งเตาะแตะเข้ามาทุ่มตัวใส่ผม
“พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ” จัดการฟัดแก้มฟัดพุงก้อนจนหนำใจจึงได้เอ่ยถามอีกคนที่เดินเข้ามาพร้อมหอบหิ้วถุงพะรุงพะรังเต็มสองมือ
“แค่สงสาร เห็นยืนเกาะกระจกเลยซื้อให้”
“เกาะทุกที่เลยหรือไงถึงแทบจะเหมามาทุกร้านขนาดนี้ ลูกเขาจะเสียคนก็เพราะพี่เลย” เท่าที่เห็นก็มีทั้งเสื้อผ้า ของเล่น ขนม ว่าน้องอ้วนแต่ก็ซื้อขนมตามใจเด็กมาทั้งนั้น...นิสัยไม่ดีจริงๆ
“ตุนฉื้อขนมมาฝากปอนจ๋าด้วยน้า” ปากเล็กเจื้อยแจ้วไม่หยุด คุยเม้าเรื่องพี่เหนือพาไปเที่ยวโน่นนี่ ส่วนอีกคนก็ลืมตัวมองน้องแล้วเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รูตัว สายตามีแต่ความเอ็นดู พี่เหนือโหมดอ่อนโยนทำเอาผมไปไม่เป็นเลย...สงสัยคราวนี้ผมจะเป็นคนแพ้ราบคาบเลยล่ะ
“ผมเห็นเหมือนมีกับข้าวด้วย เดี๋ยวผมไปจัดโต๊ะ พี่พาน้องไปล้างมือก่อน”
“ล้างมือออออ” ก้อนวิ่งนำหน้าพี่เหนือเข้าห้องน้ำไป ได้ยินเสียงเถียงกันดังมาแว่วๆ ก่อนจะเห็นทั้งเด็กและผู้ใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปียกไปเกือบครึ่งตัว
“ให้ไปล้างมือไม่ได้ให้ไปอาบน้ำกันนะพี่เหนือ ฮ่าๆ”
“ไอ้อ้วนมันไม่ยอมอยู่นิ่ง”
“บู้ยยยยยยยยยเหนือยขี้ฟ้อง ขี้ฟ้อง”
“ทานข้าวกันดีกว่าครับ”
เป็นอีกมื้อที่ผมทานไปยิ้มไป พูดได้เต็มปากว่ามีความสุขมาก แค่มองเห็นพี่เหนือกับน้องตุลย์เถียงกันไปมาก็ทำให้กับข้าวมื้อนี้กลายเป็นกับข้าวมื้อที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมาเลยก็ว่าได้ เราพูดคุยกับแบบเด็กๆ เหมือนได้ย้อนวัยไปตอนที่เราต่างก็มีความสุขมากที่สุด ไม่คิดถึงเรื่องวันวาน ไม่ห่วงเรื่องของอนาคต ผมชอบความรู้สึกแบบเด็กๆ กลิ่นอายของความเรียบง่ายแบบที่เราไม่สามารถกลับไปมีได้อีกเมื่อเราเติบโตขึ้น แต่นอกเหนือสิ่งอื่นใด...ผมชอบพี่เหนือที่เป็นแบบนี้ที่สุด
“กว่าจะได้อยู่ด้วยกัน” มันพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สายตาเจ้าเล่ห์แบบที่ชอบทำเวลาหาเรื่องรังแกผม
“พี่จะทำแบบทุกทีไม่ได้นะ ก้อนอยู่ด้วย” ผมใช้มือยันอกมันไว้ก่อนที่ปากเราจะชนกัน
“วันนี้กูยังไม่ได้ฟัดมึงเลย” มันรวบตัวผมไปกอดไว้แน่น
“ไปฟัดพุงก้อนโน่น”
“พุงอ้วนนุ่ม แต่ไม่หอมเท่าพุงมึง”
“หอมไรวะน้ำยังไม่อาบเนี่ย”
“ปอนจ๋า อาบน้าม ตุนยักอาบน้าม” เหมือนมีเสียงสวรรค์มาช่วยชีวิต
“ปะก้อน วันนี้เราอาบน้ำด้วยกันดีกว่าเนอะๆ” ผมอุ้มก้อนขึ้นมาหอมแก้มน้อง ก่อนจะหันไปส่งยิ้มพร้อมยักคิ้วกวนๆให้อีกคนที่ทำสีหน้าไม่พอใจ
“พรุ่งนี้จะทบต้นทบดอกถึงเช้า” มันพูดเบาๆให้ผมรับรู้แค่คนเดียวก่อนที่ผมจะรีบอุ้มก้อนพาไปอาบน้ำในทันที และเรื่องที่ทำให้ผมแปลกใจอีกเรื่องก็เกิดขึ้นเมื่อไอ้พี่เหนือยอมซื้อชุดนอนลายริลัคคุมะที่น้องชอบเหมือนกันสามชุดพร้อมยอมใส่แบบสีหน้าไม่เต็มใจนักมานอนบนเตียงโดยมีก้อนนอนตรงกลาง ให้ตายอายปากจะพูดแต่ก็...เหมือนพ่อแม่ลูกชะมัด...มันก็น่ารักดีนะครับ...ผมยิ้มรอบที่เท่าไหร่แล้วของวัน
“มึงอยากมีลูกไหม” มันถามผมขึ้นหลังจากที่ก้อนหลับไปแล้วเพราะผมนอนอ่านหนังสือนิทานที่เสี่ยเหนือเปเด็กซื้อมาประเคนให้อีกเหมือนเดิม
“ถามไรวะพี่ วันนี้ป่วยรึเปล่า” ตอนนี้ผมคงหน้าแดงมาก บอกเลยว่าเขิน แก้เขินด้วยการเอามือไปแตะหน้าผากมันจนโดนอีกคนรวมมือไปจับ แม้ตอนนี้จะมีเพียงแสงไฟสลัวๆที่หัวเตียงแต่ผมกลับมองเห็นสายตามันชัดเจน มันกดจูบลงบนมือผม ไม่บ่อยที่มันจะทำอะไรแบบนี้...แต่พอทำทีแน่นอนว่าได้ผล...หัวใจผมเต้นจนแทบจะทะลุออกจากอก...ให้ตาย...นิสัยไม่ดีจริงๆเลย
“มึงคิดว่ายังไง”
“พี่เสียใจรึเปล่า ที่ผมมีลูกให้พี่ไม่ได้” มันจูบที่มือผมอีกครั้ง
“ไม่เคยเสียใจ ที่ถามเพราะคิดว่ามึงอาจจะอยากมี”
“ผมมีแค่พี่ก็พอแล้ว”
“ถ้าไม่มีไอ้อ้วนอยู่ กูจะฟัดมึงให้จมเตียง”
“ผมเคยขัดใจพี่ได้ที่ไหน”
“รักมึง”
“หื่นอยู่ดีๆก็มาบอกรักกันซะงั้น ผมก็รักพี่”
“พรุ่งนี้จะเอาไอ้อ้วนไปซ่อน”
“ไม่อยากให้น้องกลับล่ะสิ คนหลงเด็ก”
“มั้ง...ทั้งเด็กอ้วนที่นอนน้ำลายยืด...แล้วก็เมียเด็กที่อยู่ตรงหน้า”
“ใครเมียวะ พี่แม่ง ผมบอกแล้วว่าไม่ชอบ นี่แมนๆเว้ย ช่วยเคารพหน้ากับหัวเกรียนๆของผมด้วย”
“คุยกับมึงแล้วปวดหัวกว่าเถียงกับเด็ก”
“นอนไปเลยไอ้เสี่ยเปเด็ก”
“หึ” เห็นมันยิ้มก่อนจะวาดแขนมาโอบผมกับก้อนไว้...อนาคตไม่รู้...หากเราจะรับเด็กซักคนเข้ามา...หรือเราจะมีกันแค่สองคน...ก็ไม่ทำให้เรามีความสุขน้อยลงเลย...ทั้งครอบครัวพี่เหนือและผม...เพื่อนผม เพื่อนพี่เหนือ...สิ่งสำคัญที่เรามีอยู่ตอนนี้...มันดีมากมายแล้วจริงๆ
นิสัยไม่ดีเลยว่าไหม?...ร้ายในแบบที่หัวใจผมต้องยอมจริงๆ
นานแสนนาน นานข้ามปี ง่วงมากเลยค่ะ อเลนลงเวรมาก็มาช่วยI-AMอัพนิยายต่อ หากมีคำผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ
สำนวนการแต่งไม่รู้ยังเหมือนเดิมไหม I-AMมันกังวลเรื่องนี้มากค่ะ ช่วงนี้มันทำงานหนักแถมสติสตังไม่ค่อยมี
หากสนุกไม่สนุกยังไงเม้นติชมบอกกันด้วยนะคะ ถือเป็นกำลังใจให้ทั้งอเลนแล้วก็I-AM บทสรุปของคู่รองนองเลือดจะมาในไม่ช้าค่ะ อเลนจะทำหน้าที่เขี้ยวเข็ญให้I-AMแต่งให้เสร็จโดยเร็ว ภาวนาให้อารมณ์การแต่งนิยายจงสถิตแด่มันค่ะ คิดถึงนักอ่านทุกคน อยู่ด้วยกันมาอีกปีแล้ว ช้าไปหลายวันแต่สวัสดีปี2016นะคะ ฝากนิยายเรื่องนี้ และเรื่องต่อๆไปของI-AMที่จะมีในภายถาคหน้าด้วย ขอให้อ่านไปยิ้มไปมีความสุขไปแบบอเลน ขอบคุณทุกคนจากใจแทนI-AMค่ะ อยากคุยหรือบอกอะไรเม้นบอกได้เลยไม่ก็เข้าไปในเพจทางเฟสบุ๊คได้นะคะ
ปล.รักเหมือนเดิม ให้ดอกไม้เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือรอยยิ้มค่ะ