5
NURSERY BLUE
เคยได้ยินมาบ่อยๆว่าถ้าอากาศแปรปวนจะทำให้คนอารมณ์แปรปวนไปด้วยสงสัยคำพูดนั้นจะเป็นจริง เพราะขนาดคนที่ชอบทำหน้านิ่งๆวันนี้ดั้นยิ้มให้ อ่าสับสนในตัวเองใจหนึ่งก็อยากมองรอยยิ้มนั้นอีกใจหนึ่งก็อายจนไม่กล้ามองผมควรทำไงดี
“ ตกลงว่าสวยนะ”
“คะ ครับ”
“ อืม จะเอาอะไรเพิ่มไหม”
ทั้งๆเมื่อกี้ทิ้งระเบิดลงที่เราแท้ๆแต่ทำไมยังพูดต่อเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้เป็นเราสินะที่คิดไปเอง
“ คิดว่าน่าจะพอแล้วละครับ คุณธามพาน้องไปนั่งรอตรงมุมนู้นนะครับเดี๋ยวผมเอาไปจ่ายเอง”
ผมชี้ไปที่มุมหนึ่งของร้านที่จัดเป็นที่นั่งเอาไว้ใน สำหรับคนที่มาซื้อของในร้าน แต่พอจะเดินออกมาก็โดนคนที่บอกให้ไปนั่งรั้งเอาไว้
“ ฉันไปเอง เธอพาทีไปรอ”
ไม่ว่าเปล่ายังส่งน้องทีมาให้ผมอุ้มด้วย เอาเถอะขอแค่ไม่ได้มองหน้ากันสักนาทีก็ยังดี ตอนนี้ผมรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยขอหลบมาพักก่อนละกัน ผมรับน้องมาอุ้มแล้วเดินออกมานั่งรอที่โซฟา ปากบอกไม่อยากมองหน้าแต่พอนั่งลงตาก็ยังส่องหาคนที่เพิ่งเดินแยกจากกันอยู่ดี เป็นเอามากแล้วเรา
การชอบใครสักคนผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ใครสักคนที่เราสามารถแชร์ความรู้สึกกันได้ให้ความรู้สึกว่าอยู่ใกล้แล้วอุ่นใจพออยู่ไกลก็รู้สึกคิดถึงมันคงจะดี แต่ถ้าคนที่เราชอบเขาไม่ได้ชอบแบบเราละ ความแตกต่างงั้นหรอแย่จังนะ
“ มามา ปา ปา”
“ หืม อะไรนะครับน้องทีพูดอะไรนะ”
“ คิก คิก มามา”
“ มามาอะไรเลย หืม อ๋อมาดูพุงนี้ใช่ไหม ไหนๆขอดูพุงกลมๆนี้หน่อยยยยย”
“ อ๊า คิกคิก คิกคิก”
เขาว่ากันว่าเสียงหัวเราะของเด็กนั้นบริสุทธิจนทำให้ความกังวลหายไปถ้าจะจริง น้องทีเป็นเด็กน่ารักเลี้ยงง่าย ไม่บ่อยนั้นที่น้องจะร้องไห้งอแง ถึงตอนนี้น้องจะยังพูดได้ไม่ค่อยเก่งออกเสียงไม่ชัดแต่ก็ยังพอฟังออกบ้างหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้ผมรู้ว่าน้องชอบสัมผัส ชอบให้อุ้ม ชอบให้จับก่อนนอนผมต้องค่อยเอามือตบที่ก้นเบาๆเพื่อกล่อมน้องนอน ส่วนตอนกินนมก็มีบ้าง อีกไม่กี่เดือนน้องจะครบขวบแล้วอีกหน่อยคงพูดชัดไม่รู้ว่าพอพูดชัดแล้วจะขยันพูดเหมือนตอนนี้หรือเปล่า ทีพูดยังไม่ชัดแต่ถ้ามีใครคุยเล่นด้วยหรือเห็นเราคุยน้องทีจะพูดตอบตลอดผมว่ามันก็น่ารักดีนะติดแค่ฟังไม่รู้เรื่อง
ผมนั่งเล่นกับน้องได้สักพักคุณธามก็เดินกลับมาพร้อมถุงเสื้อผ้าคุณธามเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมที่อุ้มทีนั่งตักอยู่ก่อนจะย่อตัวลงแล้วหยิบเอาของที่อยู่ในถุงยื่นมาให้ที มันเป็นตุ๊กตาปลามาสีฟ้าเหมือนกันตัวที่น้องถืออยู่แต่ตัวนี้ตัวเล็กกว่าแล้วมีโซ่เล็กๆห้อยออกมาเหมือนพวงกุญแจ
คุณธามเอาส่วนที่เป็นห่วงโซกลมๆใส่นิ้วให้ทีแล้วจับมือทีแกว่งไปมาทำให้ปลาโลมาที่ห้อยอยู่ขยับไปด้วยดูถ้าจะถูกใจเขาละครับ ทีหัวเราะไปพร้อมยังโบกมือไปมาให้ปลาขยับเราปล่อยให้น้องเล่นกับของเล่นใหม่สักพักก่อนจะชวนกันเดินไปซื้อของต่อ แต่ก่อนอื่นเราต้องไปหารถเข็นก่อนดูจากเสื้อผ้าแล้วของอื่นๆที่จะซื้อต่อจากนี้คงจะถือกันไม่ไหว
ผมตั้งใจว่าวันนี้จะมาซื้อเครื่องปั่นใหม่ กระทะซักใบ แล้วก็พวกของใช้ในบ้านจากนั้นค่อยไปแผนกของสดไหนๆก็ไหนละมาแล้วก็ขอซื้อของไปเลยก็แล้วกันเพราะถ้าจะหาเวลามาซื้อของเองผมว่าอีกนานอะ
“ จะไปแผนกไหนก่อน”
“ไปดูของใช้ในครัวก่อนไหมครับแล้วเราค่อยได้ดูพวกสบู่ยาสระผม โอ๊ะใช่ๆยาสระผมของทีหมดแล้วด้วยจากนั้นก็ปิดท้ายกันที่
แผนกของสดดีไหมครับหรือว่าคุณธามจะอยากไปไหนก่อน”
“ ไม่ละไปตามที่เธอว่ามานั้นแหละ”
หลังจากตกลงกันได้ว่าจะไปไหนก่อน คุณธามก็เอาถุงเสื้อผ้าที่ซื้อมาไปใส่รถเข็มและตอนนั้นเองที่สายตาผมก็หันไปเจอกับบ้างอย่าง
มันใช่เลย
อาจจะเป็นเพราะผมยืนจ้องนานเจอไป
“ เป็นอะไร ไหวไหม”
“ อ๋อๆไหวครับ”
สงสัยคุณธามคงคิดว่าผมอุ้มน้องไม่ไหว จริงๆก็อุ้มไหวแหละแต่ถ้ามีตัวช่วยก็ดีจริงไหม
“ คุณธามครับ เราไปดูร้านนั้นกันก่อนไหมครับ”
ผมชี้ไปที่ร้านขายพวก รถเด็ก เปล มุ้งครอบ พวกของใช่สำหรับเด็กแต่ที่สะดุดตาผมคงจะเป็นเป้อุ้มที่คนทั่วไปเรียกกันว่าเป้อุ้มเด็ก คุณธามมองตามมือที่ผมชี้แล้วหันกลับมามองหน้าผม อารมณ์แบบจะถามว่า ‘จะซื้อหรอ’ ผมก็ได้แต่พยักหน้าไป สุดท้ายคุณธามก็เข็นรถเข้าไปที่ร้านนั้น
“ สวัสดีค่ะให้ช่วยอะไรไหมคะ”
“ คือผมอยากได้เป้ใบนั้นนะครับ”
ผมบอกสิ่งที่ต้องการกับพนักงานแล้วยื่นอุ้มทีรออยู่กับคุณธาม รอไม่นานเป้อุ้มเด็กสีดำก็ถูกยื่นมาให้คุณธามรับมาถือไว้
“ จะอุ้มเอง?”
ผมพยักหน้ารับไปคุณธามจึงอุ้มทีไปเพื่อที่จะให้ผมได้ใส่เป้ พนักงานแนะนำวิธีใช้ให้ว่าไอ้เป้อุ้มใบนี้สะพายได้หลายแบบจะสะพายแบบหันหน้าออกหันหน้าเข้าหรือจะสะพายข้างก็ได้ ผมคิดว่าจะสะพายแบบหันหน้าออกนะน้องจะดูนู้นดูนี้ได้ด้วยเวลาที่เราเดินซื้อของกัน เมื่อผมเตรียมพร้อมเสร็จแล้วคุณธามก็อุ้มทีเข้ามาใกล้ๆก่อนจะส่งให้แล้วช่วยหยิบแขนเป้ใส่ให้ดึกล็อคทุกอย่างเรียบร้องก็ขยับออกมายืนมองสักพักก็พยักหน้าให้ แสดงว่าโอเคสินะ
“ เท่าไรครับ”
“ ผมจ่ายเอง… ผมเป็นคนอยากได้นะ….คุณธาม”
เมื่อโอเคกับของที่ได้คุณธามก็หันไปถามเพื่อจะจ่ายแต่นี้มันเป็นผมที่อยากได้นะผมต้องจ่ายเองสิ แต่พอรั้นไปคุณธามกลับตอบมาว่า
“ อย่าดื้อนะ ”
“…….”
ที่ไม่ตอบไม่ใช่ว่าไม่อยากทำตัวดื้ออย่างที่โดนว่ามาแต่เพราะทำตัวไม่ถูกต่างหาก โดนว่ามาแบบนี้ผมควรตอบกลับไปแบบไหนดีละ ระหว่างที่นึกคำพูดอยู่ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากพนักงาน
“ อะ ขอโทษทีคะเป็นคุณพ่อที่น่ารักจังเลยนะคะถ้าคุณพ่อด้านทางนี้ไม่ดื้อแสดงว่าคุณพ่อทางนี้เป็นคนจ่ายสินะคะ เชิญทางนี้
เลยคะ”
พนักงานพูดจบก็ผายมือเชิญให้เดินไปที่เคาร์เตอร์ที่อยู่ไม่ไกลมากคุณพ่อหรอผมดูเป็นคุณพ่ออย่างนั้นสินะ อย่างนี้คนอื่นก็คงมองว่าผมกับคุณธามเป็นคุณพ่อด้วยกันอย่างนั้นสินะ
“ หน้าแดงอีกแล้วร้อนหรอ”
“ อะ เปล่าครับ” หน้าผมจะแดงไม่แดงก็ชั้งมันเถอะอย่าสนใจนั้นเลยขอละ
หลังจากนั้นเราก็เดินมาถึงแผนกของใช้ในครัว ผมเดินนำหน้าส่วนคุณธามเข็นรถตามหลังมาเราเดินดูของกันไปเรื่องหยุดดูแล้วก็เดินต่อแล้วก็หยุดดูแล้วก็เดินต่ออย่างนี้หลายครั้งจนได้ของที่ต้องการครบแล้วก็ต่อด้วยแผนกของใช้เดินๆหยุดๆอีกเหมือนกันพอได้ของครบ เราก็ตรงไปแผนกของสดเลย ระหว่างที่เดินอยู่ผมก็เอามือมาโอบตัวน้องเอาไว้ ถึงเป้จะดูแข็งแรงไม่น่าขาดแต่เพื่อความสบายใจ
ระหว่างเดินทีไม่งอแงมองนู้นมองนู้นโบกตุ๊กตาในมือเล่นไปแต่พอมาถึงแผนกสดทีก็เริ่มอยู่ไม่สุขน้องเริ่มดิ้นงอแงจนผมต้องหยุดเดิน
“ ทีเป็นอะไรไปครับ งอแงอะไรคนเก่ง”
ผมหยุดยืนคุยกับทีตาก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาข้อมือตัวเอง ตายละนี้มันเลยเวลากินนมทีแล้วนิมิน่าละทีพี่ปามขอโทษนะเดินเพลินไปหน่อย
“ เป็นอะไรไป”
“ สงสัยน้องจะหินนะครับเลยเวลาแล้วด้วย ไหนๆแล้วเราไปหาอะไรทานด้วยเลยไหมครับนิจะบ่ายแล้ว”
ร้านอาหารในช่วงเวลาแบบนี้แน่นอนคนเยอะทุกร้าน ที่จริงถ้ามาคนเดี๋ยวผมคงไม่อะไรมากเข้าฟาสต์ฟูดก็ได้ง่ายดีแต่วันนี้มีน้องมาด้วยผมอยากหาที่นั่งดีๆหน่อย ในระหว่างนั้นอยู่ๆก็มีมือมาดึงผมไว้
“ ปาม”
ใคร?
“คุณธามนั้นเอง”
“ ทำไม”
“ ก็คุณธามไม่เคยเรียกชื่อผมนิครับ เรียกเธอๆตลอดได้ยินคนเรียกเมื่อกี้ผมก็นึกว่าคนอื่น”
“ อืมไม่ชอบหรอ”
“ เปล่าครับเปล่า ผมว่าเรียกชื่อแบบนี้ดีกว่า แล้วเมื่อกี้เรียกทำไมครับเจอร้านแล้วหรอ”
“ อืม ตรงนั้นมีร้านอาหารญี่ปุ่น มีห้องแบบส่วนตัวจะได้นั่งพักกันด้วยเดินกันนานแล้ว”
“ ครับ”
ผมเดินตามหลังคุณธามมาที่ร้าน แต่สิ่งที่ทำให้ผมมึนๆงงๆก็คงจะเป็นมือข้างซ้ายที่ถูกจูงอยู่จริงๆบ่อยก็ได้ทำไมต้องจูงมือแบบนี้ด้วยนะ คุณธามครับคุณจะรู้หรือเปล่าว่าคุณทำให้ใครคนหนึ่งชอบคุณ
ร้านที่คุณธามพามามีห้องอาหารแบบส่วนตัวอย่างที่คุณธามบอกเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นตรงกลางห้องมีโต๊ะญี่ปุ่นตั้งอยู่แล้วมีเบาะรองนั่งว่างไว้ให้พร้อม ก่อนเข้ามาเราฝากรถเข็นไว้ด้านนอกพอเข้ามาด้านในผมก็พาน้องไปนั่งถอดเป้ออกแล้วรับกระเป๋าใส่นมน้องมาจากคุณธามผมเอาเบาะรองนั่งมาวางแทนเบาะนอนแล้วเอาผ้าขนหนูที่เตรียมมาปูทับก่อนจะเอาน้องนอนส่วนตัวเองก็หันไปชงน้ำนมให้น้องพอดีกับพนักงานเข้ามารับออเดอร์ผมให้คุณธามสั่งไป ผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว
“ ให้ช่วยไหม”
ผมหันไปยิ้มให้คุณธามแล้วบอกให้ไปเล่นกับน้องรอเพราะจะเสร็จแล้วคงไม่มีอะไรให้ช่วย พอเสร็จผมก็ยื่นขวดนมให้คุณธาม คนถูกส่งขวดนมให้มองผมแล้วพยักหน้าให้แล้วรับขวดนมไปป้อนน้อง ตอนนี้อยากจะเอนตัวลงนอนจริงๆให้ตายเถอะตอนเดินๆไม่เท่าไรนะแต่ตอนหยุดเนียสิเหนื่อยเลย
“ นอนลงสิ”
“ ห๊ะ”
“ ถ้าเหนื่อยก็นอนพักก่อนอาหารยังไม่มาหรอก”
อ๋อ อยู่ๆมาบอกให้นอนลงก็ตกใจสิ ถ้าผมคิดไปไกลทำไงเนียคุณธาม
“ ผมกลัวหลับ”
“ หึ จะหลับเลยก็ได้”
โอ้เมื่อกี้เสียงหัวเราะใช่ไหม คุณธามหัวเราะหรอถึงจะนิดนึงก็เถอะ
“ ถ้ากลัวหลับก็มามองกับทีสิจะได้ไม่หลับ”
คนพูดไม่พูดเปล่า ตบมือเบาๆลงฝั่งตรงข้ามกับตัวเองเหมือนบอกเป็นนัยๆว่า ‘ มานอนตรงนี้สิ’ ไม่ไหวมีหวังได้เขินตัวแตกกันพอดี
“ ไม่ละครับถ้าพนักงานเข้ามาเห็นคงไม่ดีเท่าไรผมนั่งดีกว่า”
ถึงจะบอกว่านั่งก็เถอะแต่ก็แอบฟุบไปกับโต๊ะเหมือนกัน รอไม่นานอาหารที่สั่งก็มาคุณธามให้ผมกินก่อนได้เลยเพราะยังป้อนนมน้องอยู่ก็อยากรอทานพร้อมกันนะแต่รองมาเจอหน้านิ่งที่มองมาแล้วบอกว่า
“ กินก่อนสิ”
กินก็กินตามใจคุณเขาผมกินไปได้ไม่นานทีก็กินนมเสร็จแล้วก็หลับไปผมเลยหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กอีกผืนส่งให้คุณธามห่มให้น้องแล้วตัวเองมากินข้าว
หลังจากกินข้าวเสร็จผมคิดว่าจะไปซื้อของคนเดียวเพราะทีนอนจะได้ไม่ต้องอุ้มกันไปแต่คุณธามก็บอกว่าไปด้วยกันเนียแหละช่วยกันเลือกจะได้เสร็จเร็วๆ สุดท้ายก็มาด้วยกันแต่รอบนี้คุณธามเป็นคนอุ้มน้องเราใช้เป้เหมือนเดิมแต่เปลี่ยนเป็นสะพายหันหน้าเข้าส่วนผมรับหน้าที่มาเข็นรถ ผมตรงไปที่แผนกของสดแล้วเลือกสิ่งที่ต้องการมาที่แน่ๆก็มีพวกผัก เนื้อสัตว์ พวกซอตปรุงรส แล้วก็ปิดท้ายไปดูปลากัน
“ เอาตัวนี้”
“คุณธามจะกินปลาหรอครับ”
“ให้ที”
“ นี้มันปลานิลนะครับกางเยอะผมว่าไม่เหมาะกับน้องหรอกแต่ถ้าคุณธามจะกินก็ได้นะครับ”
“ เอาไปสักตัวเพื่อๆไว แล้วของทีต้องแบบไหน”
ผมเลือกปลานิลใส่ตะกร้ามาตัวหนึ่งก่อนจะตอบไป
“ ปลาที่มีกางน้อยๆครับ นี้ไงปลาอินทรีตัวนี้กางไม่เยอะ”
หลังจากเดินเลือกกันเราก็ได้ปลามา3ชนิด มีปลานิล ปลาอินทรีแล้วก็ปลาแซลมอนพอของครบผมก็เดินไปจ่ายตังแน่นอนรอบนี้ผมจ่ายเดินซื้อของมาทั้งวันมีรอบนี้แหละที่ผมได้จ่ายเอง ทำไมนะหรอก็คุณธามอุ้มทีอยู่ไงถึงจะยื่นกระเป๋าตังมาให้ก็เถอะแต่วันนี้คุณธามจ่ายทั้งวันแล้วให้ผมจ่ายบ้างเถอะ
เราเดินกลับมาที่รถที่จอดเอาไว้ที่ลานจอดรถพอเดินออกมาแล้วถึงรู้ว่าฝนตกถึงจะตกไม่แรงมากก็เถอะ
“ เอาไงดีครับรอให้ฝนหยุดไหม”
“แค่ปอยๆเองไปเถอะ”
ผมช่วยคุณธามถอดเป้แล้วอุ้มทีเข้าไปนอนในคาร์ชีทเบาะหลังส่วนคุณธามเอาของไปไว้หลังรถแต่พวกเสื้อผ้ากับของใช้บางส่วนผมเอามาไว้หน้ารถ ของเยอะใช่เล่นนะเนียแบ่งๆมาไว้ข้างหน้าบ้างเดียวทับพวกของสดเละ เก็บของเสร็จเราก็เข้านั่งประจำที่เดินทางกลับบ้านได้
......................................................
ปล. ยังอยู่ในวันเสาร์หรือเปล่าเวลานี้