ตอนที่ 27 … ปลายทาง
พอขึ้นมอ 6 พวกผมก้อใกล้จะเอ็นทรานซ์กันทุกทีแล้วครับ
ส่วนไอ้เบียร์ มันอยากเข้าเตรียมทหารครับ
สติมันดีรึเปล่า???
มันดื้อหัวชนฝาครับ ยังไงมันก้อจะเรียน
แม่มันก้อเหนื่อยใจเหลือเกิน
ร่างกายแบบนั้นเนี่ยนะ
คนดีๆเขาเรียนกันเขายังจะตายกันเลยย
มันก้อดื้อ ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น จะเรียนๆๆๆๆให้ได้
พ่อกับแม่ รวมทั้งพี่มันก้ออ่อนใจ ส่งมันไปเรียนพิเศษที่รับติวเข้าเตรียมโดยเฉพาะน่ะครับ
ช่วงปิดเทอมนะครับ ผมลืมบอกไป
ผมยังแซวมันเลยด้วยครับ
เพราะมันบอกว่ามันชอบเครื่องแบบ
ผมก้อบอกว่า หาแฟนในเครื่องแบบแทนดิ่ ง่ายกว่าอีก
โดนด่าสิครับ ตามระเบียบ
ผมอ่ะ ไม่อยากให้มันไปหรอกครับ เตรียมน่ะ
เหตุผลเดียวกับแม่มันแหละครับ เปนห่วงมัน
แค่ไอ้ที่เก็บตัวนี่ ก้อกลัวแล้ว เพราะเขาก้อมีฝึกเหมือนๆของจริง
แต่สุดท้าย...
เมื่อถึงเวลา ทางเดินของเรามันก้อต้องแยกจากกันอยู่ดี
ต่างคนต่างมีเส้นทางชีวิต... มี ถนน ของตัวเองที่ต้องเดินต่อไป
บางที เส้นทางของผมกับมันที่ได้เดินร่วมกันมา มันอาจจะถึงทางแยก ที่จะต้องกลายเป็นเส้นขนาน
ที่ไม่มีวันกลับมาบรรจบกันได้อีกตลอดไป
ก้อคงเริ่มมาจากช่วงเวลานี้แหละครับ...
ช่วงที่มันไม่อยู่ มือถือมันก้อเอาไปไม่ได้
ก้อทำให้เราไม่ค่อยได้คุยกันเหมือนเมื่อก่อนแหละครับ
มันไปสักเดือนนึงได้มั๊ง
มันก้อโทมานะครับ หยอดตู้โทมา แต่ก้อครับ คุยได้ไม่นานหรอก
แถมช่วงนั้นมีเพลง
คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ...
โอ๊ยยยยย กุจะบ้าตายยยย
มึงจะโดนไปไหน มึงจะโดนไปไหนเนี่ยย ไอ้เพลงบ้าเนี่ยยย
เอ็มวีก้อนะ... พระเอกเอ็มวีน่าร๊ากกกกก
คิดถึงมันมากๆเลยครับ เปนห่วงมันด้วย
มันก้อโทมาบ่นเหมือนกันว่า หนัก บางทีก้อมีไม่สบายมั่ง
แต่ก้อเปนไม่มาก... ก้อดีแล้วครับ เปนหลักฐานว่ามันแข็งแรงขึ้นมากแล้ว
บางทีก้อมาแรด บอกเด็กในค่ายน่ารัก ยิ่งเด็กที่มาจากเชียงใหม่คนนึง เรียนอยู่มงฟอร์ด (สะกดไม่เปนหรอกนะครับ) มันบอกว่าน่ารักมากกกก
เอาเหอะมึง ตามสบาย
ผมรู้นิสัยมันครับ รู้ดีด้วย และครั้งนี้ก้อยิ่งรู้เข้าไปใหญ่
ว่ามันหวังกับตรงนี้มากแค่ไหน... นี่ เปนความฝันของมันแหละครับ
สิ่งที่มันอยากจะทำมากที่สุด และ ยิ่งมันอยากได้อะไรก้อได้มาตลอดชีวิต
ครั้งนี้เปนครั้งแรก ที่มันจะได้ทำอะไร เพื่อความฝัน เพื่อสิ่งที่อยากได้ด้วยตัวเองด้วยครับ
มันเคยบอกไว้ว่า...
“กูไม่รู้ว่าข้างหน้ากูจะเป็นยังไง กูไม่รู้ว่าร่างชัยกูหายดีแล้วรึยัง แต่กูคิดว่ากูหายแล้ว กูคิดว่ากูแข็งแรงพอแล้ว กูจึงจะทำในสิ่งที่กูอยากทำ ถ้าอนาคตกูจะต้องตายจริงๆ
ยังไงกูก้ออยากจะทำในสิ่งที่เปนความฝันของกู ทำไมใครๆต้องมาห้ามไม่ให้กูเลือกทางเดินชีวิตของกูด้วย”
กุเข้าใจมึงล่ะ
จนเข้าค่ายของมันจบ มันก้อกลับมาครับ
เปนช่วงก่อนเปิดเทอมนิดหน่อย เพื่อนผมนัดเจอกันที่บ้านไอ้ต่าย
ไปเล่นแบดเล่นบอลเล่นวอลเลย์ร้องเกะ...
รู้สึกแปลกๆนะครับที่ได้มาเจอหน้ามัน หลังจากไม่ได้เจอมาเดือนนึงเต็มๆ
ใจมันหวิวๆ แอบหวั่นไหว เหมือนรักครั้งแรกยังไงไม่รุ
ตลกตัวเองเหมือนกันพอมานั่งนึกๆดูแล้วเนี่ย
จะตื่นเต้นหาพระแสงอะไรวะ
แต่แหม ไม่ให้หวิวได้ไงล่ะครับ
ก็แม่งหล่อขึ้นเปนกองเลยอ้ะ!
ผิวคล้ำๆลงนิดหน่อย หัวเกรียนๆ แถมแม่ง... ล่ำขึ้นโคตรๆ!
ใจละลายไปเลย ติดที่เพื่อนอยู่เยอะ ไม่งั้นวันนั้นมึงเส็ดกุแล้ววว
ซร้วบ!
แต่ว่า... ความรู้สึกดีๆมันมีได้ไม่นานเลยครับ
มันสอบไม่ติด
ความฝัน อนาคตดูพังทลายลงมาต่อหน้าต่อตา
ทั้งๆที่ตอนสอบเทสต์มันได้ถึงที่ 4 ของรุ่นนั้นนะครับ
ให้ทั้งผมติว ให้ทั้งอาจารย์พิเศษติว แถมยังจะยัดเงินเรื่องสายตาอีกต่างหาก
แถมปัญหาเรื่องใบรับรองแพทย์ มันก้อไปขออนุญาติหมอมาแล้ว
คือ... ทำทุกอย่างจริงๆครับ
มันไม่คิดจะเข้าอย่างอื่นนอกจากเตรียมเลย
มันอยากเปนตำรวจโคตรๆแล้ว
แต่สุดท้าย... มันก้อทำไม่สำเร็จครับ
ผมสงสารมันมากจริงๆ
ผมไม่ได้รู้จากมันด้วยนะครับ ว่ามันไม่ติดน่ะ
รู้มาจากเพื่อนคนอื่นอีกที
แต่คงไม่ใช่เวลาที่จะมาน้อยใจที่มันไม่บอกผมจากปากมันเองหรอกนะครับ
มันก้อคล้ายๆเรื่องที่มันไม่ให้ผมไปเยี่ยมมันนั่นแหละ
มันไม่ได้บอกใครเลยด้วยซ้ำ ว่ามันไม่ติด แม่มันต่างหากครับ
แล้วมันก้อเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง...
มันไม่คุยกับผม ไม่คุยกับใครทั้งนั้น
มันไม่รับฟังอะไรจากผมเลย ยิ่งพอมันรู้ว่าผมรู้แล้วว่ามันไม่ติด
มันก้อยิ่งโมโหผมเข้าไปใหญ่
มันกำลังจะกลับไปเปนนิสัยเหมือนตอนมอ 4 อีกแล้ว
ผมก้อเครียดมากๆเลยครับ สงสารมันมากๆ
แต่ก้อทำอะไรไม่ได้
ก้อคงมีแต่ เวลา นี่แหละมั๊งครับ ที่จะช่วยได้
ครับ... ผมก้อเลยจำใจต้องห่างมันออกไปสักพัก
เพื่อตัวมันเอง…
สักพักมันก้อดีขึ้นครับ เพื่อนๆก้อโล่งใจไปตามๆกัน
ผมก้อสบายใจที่เหนมันดีขึ้น
แล้วก้อทำให้ผมมีเวลามีสมาธิตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์อีกด้วยครับ
มันเองก้อต้องกลับมาเบียร์รียมตัวใหม่เพื่อสอบเอ็นท์เหมือนกัน
แต่ผมไม่รู้เลย... ว่าในชว่งที่มันไม่อยู่ ในช่วงที่ผมกับมันห่างกันไปสักพัก
ใจของมันก้อเปลี่ยนไปด้วย
หลังจากสอบเอ็นท์ครั้งแรกเส็ด
มันกับผมก้อเลิกกันครับ
จริงๆแล้ว ผมกับมันก้อห่างๆกันไปเรื่อยๆมาสักพักแล้วล่ะครับ
แต่ไม่ใช่ห่างแบบ ต่างคนต่างอยู่นะครับ
เราก้อคุยกันเหมือนเคย แต่ผมเองที่เริ่มรู้สึกได้ เวลาถูกเนื้อต้องตัว เวลามองตากัน เวลาพูดคุยในห้อง
มันรู้สึกกันได้ครับ ของแบบนี้
วันหนึ่งผมก้อถามมัน ว่าความรู้สึกที่ผมรู้สึกอยู่นี่ ผมคิดไปเองรึเปล่า...
คำตอบคือ ไม่ ครับ มันเปนความจริง
ผมเสียใจนะครับ มากด้วย... แต่ว่า มันก้อยังคงอยู่ข้างๆผมตลอดมาเหมือนเคย
เราไม่ได้หักดิบกันเลยหรอกครับ ยังคงประคับประคองความสัมพันธ์ของเรากันไปเรื่อยๆ
มันเองก้อคงไม่ได้ดีไปกว่าผมเท่าไหร่ เพียงแต่มันเปนคนเก็บความรู้สึกเก่ง
เราแทบไม่คุยกันเรื่องนี้เลยครับ ว่าเราจะเลิกกันนะ
ผมเหมือน... ปล่อยให้เวลานั้นมาถึงเท่านั้นเอง
ผมยังมีภาระที่ต้องอ่านหนังสือ ซึ่งมันเองก้อเหมือนกัน
เราก้อเปนกันเหมือนเพื่อน... แต่ไม่ต้องถามนะครับว่า ผมเจ็บไหม
บอกได้เลยครับว่าเจ็บ เจ็บมาก... จนถึงตอนนี้ที่กำลังพิมอยู่ก้อร้องไห้อยู่ด้วยซ้ำ
แต่ผมต้องขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมดจริงๆ
อาจจะฟังดูเหมือน ทำไมเลิกกันง่ายจัง เล่ามาตั้งนาน
ใช่ครับ ผมกับมันเลิกกันง่ายครับ แต่นี่แหละครับ ที่ยิ่งทำให้มันยิ่งยากมากขึ้นไปอีก
ที่ผ่านมา ผมอาจไม่ค่อยได้เล่าให้ฟังเท่าไหร่ถึงเรื่องที่ผมกับมันทะเลาะกัน
เพราะมันเยอะครับ
และทะเลาะกันทีก้อแรงๆทั้งนั้น เราไม่ค่อยทะเลาะกันเรื่องหยุมหยิมๆหรอกครับ
เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้นแหละ
ผมเลยได้แต่บ่นๆให้ฟัง แทรกๆไปบ้าง ว่ามีทะเลาะกันมั่งนะ อะไรประมาณนั้นครับ
เพราะผมเลือกที่จะเอาความรู้สึกดีๆ ที่นานๆทีผมจะได้จากมันมาเล่าให้ฟังไงครับ
อย่างที่ผมเคยบอก ว่านานๆทีมันหวานที ใจผมก้อแทบจะละลายไปเลย
ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ สำหรับคนที่รักมัน
และเรื่องร่างชัยของมัน ติดตามกันมาถึงตอนนี้แล้ว คงรู้แล้วล่ะนะครับ ว่ามันแข็งแรงดีมากๆแล้ว
ไม่ต้องเปนห่วงมันนะครับ
.
.
.