ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง ตอนที่ 84(ตอนจบ) (21/1/2559)  (อ่าน 162309 ครั้ง)

ออฟไลน์ ทิวลิปสีส้ม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 867
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-0
ไม่เป็นไรไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ถ่ายเลือดตัวเองเตรียมพร้อมสำรองไว้แล้ว
กร๊ากกกกกกก  :hao7: :hao6:
เนแต่งหญิงล่ะ เนแต่งหญิงงงงงง ฮาาาา คนแต่งมีภาพปลากรอบไหมคะ?
อยากเห็นเชียว จี้มากๆ  :jul3: แค่อ่านตามคำบรรยายเราก็ขำกร๊ากแล้ว
กระโปรงสีขาวฟูฟ่องซะด้วย  :jul3:
วัฒน์บทนี้พระเอกๆ แม้จะยืน (ยิงปืน) นิ่งๆ เฮียแกก็เท่ได้
อร๊ายยย ซบอกอาวัฒน์แพร้บบบ //เขี่ยเนออก  :hao7:
รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :m20: แกล้งเด็กลุงเดะเจอลุงเป่าสมองนะจ๊ะ  :hao3:

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
วัฒน์มีแอบน้อยใจเล็กน้อยด้วยนะ คึๆๆ -..- เนซวยอ่ะ โดนไรต์แกล้ง 555+

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อ่านตอนนี้นึกถึงคำๆนึงที่เคยที่คนโพสไว้ในเว็ปมังงะดุ้นเลย "ใช่ว่าสาวดุ้นจะต้องเป็นฝ่ายรับทุกคน" ในที่นี้คือใช่ว่าหนุ่มหน้าหวานจะต้องเป็นฝ่ายรับซะทุกคนเหมือนกัน มีแรงต่อยตีขนาดนี้นี่เองถึงจับกดลุงแกได้หลายยกเหลือเกิณ(เกี่ยวไรด้วย)

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
อ๊ายยยย เค้าขอโต๊ดดดด ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งหลายตอนอ่ะตัวเอง ไม่งอนเค้าน้าาาา :ling1: เด็กลุงแต่งเป็นสาวดุ้นไปแล้ว ลุงเอามั่งสิ โชว์ sexy body ให้เนเขาหื่นหน่อย แอร้ยยย  :hao6: เป็นกำลังใจให้เสมอน้าคนแต่ง จุ๊บๆ  :katai3: ขอบคุณคนเอามาลงจ้า มากอดหนึ่งที  :man1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ถูกใจมากขึ้นทุกทีล่ะสิอาวัฒน์
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
นั้นงะ มีแอบแกล้งพระเอก

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 21


          “ไอ้เหม่งนั่น มันกล้าถึงขนาดนั้นเลยหรือ”

          หลังจากฟังรายงานจากวัฒน์ยังไม่ทันจบ สิทธิ์ก็ลุกขึ้นตบโต๊ะผาง เสียงของชายหนุ่มลั่นห้องทำงานจนได้ยินถึงในครัว สีหน้าเหี้ยมเหมือนพร้อมจะฆ่าคนได้ทุกเมื่อ

          “ครับ” วัฒน์ตอบเสียงนิ่ง แล้วพูดขึ้นต่ออย่างเคร่งเครียด “ผมว่าเราอย่ามัวแต่รออยู่เลยครับ จัดการให้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ไม่อย่างนั้นพวกมันคงเล่นงานเราหนักกว่านี้แน่”

          ได้ยินอย่างนั้นแล้ว แทนที่สิทธิ์จะตกลงทันที เขากลับแสดงอาการลังเลแล้วมองมาทางวัฒน์ แต่ยังไม่ทันอ้าปาก คนสูงวัยก็สวนกลับเหมือนรู้ดี

          “ถ้าเพิ่มเนมาช่วยด้วยอีกคน รับรองว่าพวกเราจัดการมันได้แน่ครับ อีกอย่าง ตอนนี้คนของเราก็พร้อมหลายคนแล้วด้วย รับรองว่าไม่ต้องให้คุณสิทธิ์เป็นห่วงใครซักคนเดียวแน่”

          พูดรัวและเร็วเสียจนเนที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้างถึงกับเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าคนที่มีดีแค่เรื่องยิงปืนแม่นและคิดทรยศสิทธิ์อย่างวัฒน์จะอยากแก้แค้นให้พวกพ้องและเจ้านายมากถึงขนาดเอ่ยขอเอาเป็นเอาตาย ดูแล้วเหมือนแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยใช้เหตุชัดๆ

          แปลก...เวลาคนจะหักหลังใคร เขาลงทุนยอมเสี่ยงกันขนาดนี้เลยหรือ

          “...ถ้าอาวัฒน์พูดถึงขนาดนี้...ก็ได้ครับ” สิทธิ์ยิ้มหน้าเจื่อน ตอบอย่างอ่อนใจ “อ๊ะ แต่ผมไปด้วยนะ”

          “ไม่ได้ครับ!”

          ร้องพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย และยังหันไปมองหน้าพร้อมกันด้วย

          “ไม่ต้องห่วงผมหรอกน่า อาวัฒน์น่าห่วงกว่าเยอะ” เจ้านายเอ่ยเสียงอู้อี้ รู้สึกเอือมกับความเป็นห่วงเกินพอดีของลูกน้องทั้งสอง เขายิ้มพรายออกมาพร้อมด้วยสายตาเย็นชา ชวนให้รู้สึกถึงความชั่วร้ายที่แฝงลึกอยู่ในใจ “มันเล่นงานจนแสบขนาดนี้ ถ้าผมไม่ออกโรงเอง คงไม่หายหงุดหงิดหรอก”
         
          “แต่มันเสี่ยงเกินไปนะครับ เรื่องแบบนี้อย่าให้ต้องถึงมือคุณสิทธิ์เลยครับ ” เนบอก ออกอาการกังวลจนวัฒน์รู้สึกแปลกใจ ด้วยเหตุผลเดียวกับที่เนแปลกใจวัฒน์ในทีแรก

          “ผมเห็นด้วยกับเน” ถึงจะไม่ชอบใจ แต่เนก็พูดในสิ่งที่เขาคิดอยู่ เลยไม่รู้จะค้านทำไม “ฝั่งโน้นเองยังไม่คิดจะโผล่หัวออกมา คุณก็ไม่ควรจะลดตัวไปปะทะกับพวกมันเหมือนกัน ไม่อย่างนั้น มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอานะครับ....ไว้ถ้ามันออกโรงเอง ถึงตอนนั้นผมจะไม่ห้าม ตกลงไหมล่ะครับ”

          วัฒน์รู้ดีว่าถ้าเขาไม่ต่อประโยคท้าย สิทธิ์ต้องไม่ยอมทันทีแน่ ก็เล่นทำท่าตะพัดตะพือจะลุยให้ได้ซะโจ่งแจ้งขนาดนี้ เผลอๆ ต่อให้เขาชักแม่น้ำทุกสายในโลก สิทธิ์ก็คงดึงดันจะทำให้ได้แน่ๆ

          “ไม่เอาหรอก”

          ...เอาเถอะ อย่างน้อยก็ใช้เวลาคิดตั้งห้าวินาที...

          “ถ้าอาวัฒน์ห่วงขนาดนั้น ผมจะให้อากับเนอยู่คุ้มกันผมสองคนก็ได้ เอาตามนี้ละกัน” สิทธิ์สรุปเอาเองหน้าตาเฉย

          จริงๆวัฒน์ก็เห็นว่าเป็นทางเลือกที่ดีอยู่ ฝีมือเนก็พอเข้าขั้น ติดตรงเขาไม่ไว้ใจให้คนที่(คิดว่า)เป็นศัตรูมาระวังหลังเจ้านายเท่าไหร่นัก ถึงแม้ว่าเอาเข้าจริง สิทธิ์เป็นคนเก่งถึงขนาดไม่ต้องพึ่งเขาทั้งสองก็ยังได้ แต่นโยบายของวัฒน์คือ แม้แต่ไรสักตัวก็ห้ามแตะต้องสิทธิ์เป็นอันขาด อย่างน้อย กันไว้ดีกว่าแก้อยู่แล้ว

          “ก็ได้ครับ” ส่งรังสีไม่ยอมขนาดนั้น กล่อมอะไรก็คงไม่ฟังแล้วล่ะ

          แต่เนยังไม่ยอมแพ้ แถมยังหันมาทำหน้าเป็นเชิงตำหนิวัฒน์ที่ยอมให้ด้วย

          “ผมว่าคิดดูให้ดีๆ เถอะ ถ้าคุณลงมือเอง เท่ากับเข้าทางมันสิครับ” เด็กหนุ่มเริ่มชักแม่น้ำแทนคนสูงวัย “ถึงผมจะไม่รู้จักศัตรูก็เถอะ แต่ผมก็มั่นใจว่าจุดประสงค์ของพวกมันคือคุณแน่”

          สิทธิ์มองหน้าเนนิ่ง ท่าทางเหมือนใช้ความคิด ก่อนจะยิ้มอย่างเอ็นดู เอ่ยคำที่เนได้แต่อึ้ง

          “ฉันรู้ว่านายอยากลุยเต็มแก่ เพราะงั้นฉันจะพยายามไม่เป็นภาระก็แล้วกัน”

          ไม่ช่ายยย

          “ที่สำคัญคือ” ผู้เป็นนายขัดก่อนจะโดนเถียง รอยยิ้มบางเผยขึ้นมาชวนให้รู้สึกขนลุก “ฉันเตรียมแผนให้มันชนิดที่ว่า มันไม่กล้าโผล่มารังควานพวกเราเป็นครั้งที่สองแล้วไง”

          ไม่รู้เพราะหาคำค้านไม่ได้ หรือเพราะเสียงหัวเราะของสิทธิ์ฟังดูน่ากลัว ลูกน้องทั้งสองถึงไม่กล้าขัดต่ออีก

 

          “คุณปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้ไง คุณเป็นผู้ติดตามคุณสิทธิ์ไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ห้ามไว้ให้ได้ล่ะ”

          พอเข้าห้องนอนถึงเนก็โพล่งออกมาด้วยท่าทีไม่พอใจ และแน่นอนว่าวัฒน์เองก็มีสีหน้าไม่ต่างกันนักเมื่อได้ยินเด็กหนุ่มต่อว่า

          “แล้วรุ่นน้องอย่างนาย ทำไมถึงห้ามไว้ไม่ได้ล่ะ” เจอลุงย้อนมุกนี้เข้า เนถึงกับผงะ “ลองว่าถ้าคุณสิทธิ์ตัดสินใจแล้ว ห้ามยังไงก็ไม่ฟังหรอก ปลงได้เลย” เขาชะงักเหมือนกำลังคิดบางอย่าง ก่อนจะสาธยายต่อ “ตอนอยู่มัธยมก็ไปมีเรื่องตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ห้ามยังไงก็ไม่ฟัง บอกว่ามีรุ่นน้องแสนดีช่วยด้วย ไม่เป็นไรแน่นอน”

          ไม่ต้องบอกก็รู้ ประโยคหลังนี่จงใจหาเรื่องชัดเจน ก็เขานี่ไง รุ่นน้องแสนดีที่ว่านั่น

          “แล้วพรุ่งนี้จะเอาไง” เมื่อหมดทางโต้ เลยเปลี่ยนเรื่องอย่างเสียมิได้แทน เมื่อครู่พอฉุดสิทธิ์ไม่อยู่ก็เลยไม่มีอารมณ์ฟังรายละเอียดเท่าไหร่

          สีหน้าหนุ่มใหญ่ดูประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะมุ่นคิ้วใส่ “งานนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ บางทีอาจบาดเจ็บปางตายได้”

          เนรู้สึกเหมือนโดนตบ ถึงรอบนี้วัฒน์จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่เขาก็รู้ดีว่าตนเองเผลอเลินเล่อหน้าที่สำคัญอย่างไม่สมควร

          “ผมรู้น่า” เด็กหนุ่มขึ้นเสียงกลบความผิด ทำสีหน้าจริงจัง “แล้วตกลงพรุ่งนี้เอาไง”

          “...ไปรวมพลเช็คคนที่จะมาตอนเก้าโมง” หลังจากเงียบมองอยู่พักใหญ่วัฒน์ก็พูดขึ้น “ที่บ้านฉัตร”

          ทันทีที่ได้ยินชื่อ เนเผลอกัดฟันกรอด

          “บ้านหมอนั่นกว้างดี แล้วก็มีอุปกรณ์ครบมือ แถมทุกคนก็รู้จักบ้านนั่น” หนุ่มใหญ่อธิบายต่อด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายถึงออกอาการหงุดหงิด “เป็นอะไร”
         
          “เปล่า”

          จะให้บอกหรือ ว่ารู้สึกไม่พอใจที่ต้องเป็นฉัตร...ภาพที่วัฒน์เลือกไปกับฉัตรแทนเขายังติดตาไม่หายเลย...

          แล้วทำไมเราถึงต้องไม่พอใจมากๆกับไอ้แค่ตาลุงนั่นไปโรงพยาบาลด้วยกันด้วยเนี่ย!

          เนรีบชิ่งเข้าห้องน้ำหวังจบบทสนทนา ปล่อยให้วัฒน์ได้แต่งงอยู่เช่นนั้น

 

          เป็นครั้งแรกที่เนรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บ้านนอกคอกนาแล้วเพิ่งเข้ามาในกรุงก็มิปาน สาเหตุก็เป็นเพราะเหล่าชายฉกรรจ์มากหน้าหลายตาที่อยู่กันเต็มบ้านของฉัตรล้วนแล้วแต่เป็นคนที่เขาไม่เคยเห็นหน้าเลยสักคน ทั้งที่เขาเองก็ทำงานกับสิทธิ์มาตั้งห้าปี แต่กลับมีแค่ปาล์มเท่านั้นที่เขารู้จัก แถมเพิ่งรู้จักเมื่อวานนี้เองด้วย

          “งายเน” เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวเอ่ยทักเสียงใส ปาล์มลุกจากโซฟาหนังสีดำเข้ามาต้อนรับอย่างดิบดีจนเนรู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะไม่คุ้นชิน “แล้วอาวัฒน์ล่ะ ไม่ได้มาด้วยหรือ”

          “ไปจอดรถอยู่ เดี๋ยวตามมาน่ะ” เด็กหนุ่มตอบพลางกวาดสายตามองไปรอบห้อง ห้องรับแขกนี่กว้างก็จริง แต่พอเจอคนอยู่อัดกันเกือบยี่สิบเลยดูแคบถนัดตา “...คนที่นี่ใครกันน่ะ”

          คนแปลกใจกลับเป็นปาล์มแทน “นายไม่รู้จักสักคนเลยหรือ เจ้าพวกนี้เป็นพวกที่ทำงานอยู่ตามร้านของคุณสิทธิ์ทั้งนั้นล่ะ”

          ยิ่งมองเขาก็ยิ่งไม่คุ้นสักคน...ส่วนใหญ่ดูจะมีแต่พวกยังหนุ่มทั้งนั้น ที่ดูมีอายุหน่อยก็แค่สองคนที่นั่งคุยกันอยู่ที่โซฟาเท่านั้น

          “อ๊ะ” ทันทีที่เห็นคนรู้จักก็เอ่ยร้องขึ้น “ต่อ?”

          “อ้าว...เน”

          ชายที่นั่งอยู่มุมห้องทักเสียงเบาหวิว ทีแรกเนเกือบมองไม่เห็นแล้ว แต่สะดุดตาเพราะรู้สึกว่าพื้นที่แถวนั้นดูซีดจางผิดปกติ ไม่รู้เป็นเพราะชอบทำตัวล่องลอยและเป็นคนไม่ค่อยพูดหรือเปล่า การมีตัวตนของชายคนนี้ถึงได้เบาบางจนถ้าไม่สังเกตให้ดีก็คงมองไม่เห็น

          “นาย...มาร่วมด้วยหรือ” เนถามทั้งๆที่รู้คำตอบ แต่เพราะเขาไม่รู้มาก่อนว่าต่อทำงานให้สิทธิ์ด้วยต่างหาก ต่อมักจะมาที่ร้านในฐานะลูกค้าตลอด เนถึงได้ออกอาการตกใจจนเกือบพูดไม่ออก

          “อ้อ...จริงสิ...ฉันยังไม่เคยบอกนายว่าฉันทำงานร้านเดียวกับปาล์มนี่นะ...เป็นบาร์เทนเดอร์เหมือนกัน...” เสียงทุ้มนิ่มนวลและเนิบนาบเอ่ยขึ้นอย่างคนรู้สึกผิด “งั้นเพื่อเป็นการชดเชยต่อสิ่งที่ฉันทำลงไป ฉันจะ...”
         
          “หยุดนะ!”

          ไม่ใช่แค่เนกับปาล์ม แต่ทุกคนในห้องต่างพากันร้องเสียงหลงห้ามปานจะขาดใจทันที ทั้งที่ปกติต่อมักจะทำตัวเลือนรางแถมยังพูดเสียงค่อยแท้ๆ

          “ผี ไม่มีจริง ไม่ใช่ของที่จะให้กับใครต่อใครได้ และก็ไม่มีใครอยากได้ไว้ในครอบครองด้วย” ชายคนที่นั่งอยู่ใกล้ประตูบ้านมากที่สุดเอ่ยเสียงเข้ม “เลิกพูดเรื่องไร้สาระซักที”

          ปากบอกแบบนั้น แต่สีหน้าซีดเซียวกับขาที่สั่นกึกๆไม่ช่วยให้คำพูดดูมีน้ำหนักสักนิด

          ต่อเพียงแต่หงอยลงก่อนจะหันมาหาเน “ขอโทษนะ...ฉันนี่แย่จริงๆ...ที่ทำให้นายลำบากใจ...”

          “เอ้อ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ฉันไม่ถือ” เนรีบบอกละล่ำละลัก พยายามเปลี่ยนเรื่อง “จะว่าไป คนของเรามีเท่านี้งั้นหรือ”

          “ยังขาดอยู่สองคนมั้ง” ปาล์มตอบพลางมองไปรอบๆ แอบดีใจที่ไม่ต้องคุยเรื่องผีสางแล้ว “เสียดายชะมัด ถ้าคุณที่หนึ่งกับที่สองอยู่ พวกเราก็คงสบายกว่านี้ ไม่น่าบาดเจ็บหนักขนาดนั้นเลย”

          อะไรฟะ ที่หนึ่งที่สองน่ะ

          “จริงสิ...ที่เนทำงานมันอยู่นอกพื้นที่ เลยไม่รู้สินะ....” ชายเสียงเบาเอ่ย “แต่ถึงนายจะไม่รู้...แต่นายก็ได้ที่เจ็ดเชียวนะ...”

          แล้วมันอะไรเล่า ไอ้ลำดับนั่นน่ะ ช่วยอธิบายทีจะได้มั้ย

          ก่อนที่จะได้สืบถามหาความ ผู้เป็นเจ้าของบ้านก็เดินเข้ามาเสียก่อน พร้อมกับตาลุงที่ชอบทำหน้าบูดเหมือนพร้อมจะด่าคนได้ตลอดเวลา เห็นทีไรอดสงสัยไม่ได้สักทีว่าไปกินรังแตนมาแต่ใด

          แต่เนเองก็อารมณ์เสียพอๆกับหน้าตาวัฒน์ เหตุผลก็มีแค่หนึ่งเดียว

          ทำไมต้องมาพร้อมกับฉัตร

          ทีแรกเห็นบอกว่าที่จอดรถไกลเลยทิ้งให้มาก่อน เขาเลยไม่ทันฉุกคิด ว่าจะต้องมาเห็นภาพตรงหน้า...ซึ่งอันที่จริงดูแล้วก็ไม่มีอะไรนักหรอก ตัวเนเองยังรู้ดีว่าสิ่งที่น่าคิดคือเรื่องที่ฉัตรอาจเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยมากกว่า

          แต่ความคิดที่ว่าสองคนนี่เดินมาอย่างสนิทสนมจนน่าหมั่นไส้กลับแวบขึ้นมาก่อนเสียได้

          ซึ่งดูเป็นเช่นนั้นจริงๆนั่นล่ะ ถึงวัฒน์จะไม่ใส่ใจ มือหนาที่เกาะบนไหล่บางนั่นชวนให้เด็กหนุ่มรู้สึกหงุดหงิดเป็นยิ่งนัก ถ้าทำได้เขาอยากจะเข้าไปปัดออกเหมือนปัดยุงร้ายเหลือเกิน

          ตาลุงนั่น ปล่อยให้คนอื่นเที่ยวจับตามใจชอบแบบนั้นได้ไง

          กว่าจะรู้สึกตัวว่าเผลอคิดเรื่องไม่น่าคิดก็ปาเข้าไปสี่วินาที

          ทันทีที่ทั้งสองเข้ามา ห้องที่ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวจนถึงเมื่อครู่เงียบกริบลงราวป่าช้าก็มิปาน แถมยังมานั่งเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบอย่างกับโดนครูเรียกเข้าแถวก็มิปาน เนเองก็โดนปาล์มกับต่อลากเข้าแถวไปกับเขาด้วยอย่างงงๆ

          ในขณะที่ฉัตรยิ้มหน้าเจื่อนกับภาพตรงหน้า วัฒน์กลับเห็นเป็นเรื่องปกติ เหตุผลที่เขามุ่นคิ้วเพราะเนดันไปเข้าแถวอย่างง่ายดายต่างหาก แต่คนอื่นต่างพากันคิดไปไกลเสียแล้วว่าวัฒน์ไม่พอใจที่พวกเขาจัดแถวที่นั่งชักช้า

          เผลอไม่ทันไร ก็สนิทกับคนอื่นแล้วหรือ

          วัฒน์พยายามปัดเรื่องกวนใจไร้สาระต่องานออก เขามองจำนวนคนเหมือนกำลังนับ ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่ตนคิดว่าเป็นปกติ แต่คนฟังกลับหวั่นเกรงกันถ้วนหน้า “อ๊อดกับโรจน์โทรมาบอกว่าจะมาสายนิดหน่อย เพราะงั้นคงเริ่มอธิบายแผนช้ากว่าเวลาที่กำหนด ที่บอกได้ตอนนี้คือ งานนี้เป็นระดับเอ ระวังไว้ด้วย ตอนนี้ทำตัวตามสบายไปก่อน ส่วนก้อง ดิเรก พวกนายมากับฉัน”

          แม้จะเอ่ยให้พักได้ แต่ก็ไม่มียอมขยับจนกระทั่งวัฒน์เดินหายเข้าไปอีกห้องกับฉัตร และคนที่โดนเรียกชื่อ ถึงกับผ่อนคลายออกนอกหน้าเหมือนก่อนหน้านั้นโดนบังคับให้ทำเสียอย่างนั้น

          “หมายถึง ถล่มให้ราบ แต่พยายามอย่าให้ถึงตายกันก็พอน่ะ” เมื่อเห็นเนทำหน้าสงสัยมากเข้า ปาล์มก็กระซิบบอก “นายไม่เคยยกพลถล่มล่ะสิ”

          อย่างมากก็แค่ระวังภัยแถวซ่องเท่านั้นล่ะ ไม่เคยหรอก ไอ้ยกพวกถล่มกลุ่มอื่นน่ะ

          “พยายามงั้นหรือ” เนทวนอย่างไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก “หมายความว่า ถ้าถึงตายก็ไม่เป็นไรหรือไงน่ะ”

          ปาล์มเพียงแต่ยิ้ม

          “เมื่อกี้นายสงสัยเรื่องอันดับสินะ” จากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องเฉยเหมือนไม่ได้ยินคำถามเสียอย่างนั้น “มันเป็นอันดับคนที่สู้เก่งไง แต่อันที่บอกนับอายุสามสิบลงมานะ เพราะถ้าเอาพวกคุณลุงด้วยมีหวังลำดับต้นๆคงโดนแย่งหมดน่ะ”

          เนนิ่งอยู่พักหนึ่งก่อนจะฉุนขึ้นมา

          ตัดพวกตาลุงไป ตูยังได้แค่ที่เจ็ดเองเรอะ ใครมันเป็นคนจัดกันวะ ตาต่ำมาก

          “พวกนายท่าทางกลัวคุณวัฒน์นะ” เนื่องจากไม่อยากพูดถึงเรื่องเมื่อครู่ เลยเริ่มทำการสืบสวนเพื่อนร่วมงานต่อ “ขนาดเมื่อกี้เขาไม่ได้สั่ง พากันนั่งเรียงเรียบร้อยอย่างกับกลัวโดนลงโทษ”

          “เขาเรียกว่าน่าเกรงขามต่างหาก” ปาล์มหัวเราะ “อาวัฒน์เขาก็แค่จริงจังไปหน่อย ใครต่อใครก็เลยกลัวก็เท่านั้น”

          “ไม่จริงหรอก....” ต่อค้านเสียงนิ่ม ทำสีหน้าหม่นหมองเหมือนวิญญาณจนทั้งคู่สะดุ้ง “คนๆนั้นน่ากลัวจะตาย...ขนาดวิญญาณยังไม่กล้ากล้ำกรายเลย”

          เนอยากจะค้าน เพียงแต่กรามค้างแข็งจนพูดไม่ออก

          “อะไรกัน ถ้ารู้จักจริงๆ อาวัฒน์ไม่ใช่คนน่ากลัวสักหน่อย เขาแค่เป็นคนจริงจังแล้วก็เคร่งขรึมต่างหาก” ปาล์มแย้งเสียงงอน เป็นเดือดเป็นร้อนแทนจนน่าสงสัย

          เนเริ่มทวนสิ่งที่สั่งสมมา คนที่บ้านสิทธิ์เองก็พูดในทำนองเดียวกับปาล์ม แต่พนักงานที่บริษัทกลับให้ความเห็นเหมือนต่อแทน

          และแน่นอนว่าตัวเขาเองก็เห็นคนละอย่างกับที่ทั้งสองเห็น

          ตกลง ตาลุงนั่นเป็นคนยังไงกันแน่นะ

          นึกแล้วอดสงสัยไม่ได้ ในเมื่อถามแล้วเจอไปเสียสามความเห็น ถ้าแค่สองยังพออธิบายว่าอาจทำตัวให้คนอื่นเชื่อใจ แต่จากนิสัยที่ฟังมา มันไม่ใช่นิสัยที่คนคิดร้ายอยากแสดงออกให้คนอื่นเห็นเลยสักนิด

          ความมั่นใจที่สั่นคลอนเริ่มโคลงเคลงหนัก แต่กระนั้นก็ยังฝืนใจจับมันเอาไว้ไม่ให้พังทลายลงง่ายๆ

          ไม่มีทางหรอก...หมอนั่นต้องเป็นคนคิดร้ายต่อคุณสิทธิ์แน่

          เขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ว่าทำไมถึงดื้อดึงเชื่อแบบนั้น

          แม้ว่าใจจริงจะอยากให้สิ่งที่ตนคิดเป็นเรื่องที่ผิดก็ตาม


______________________________________
ขอบคุณทุกเมนท์ก๊าบ ><

รูปเนแต่งหญิง ขอคนเขียนหาเวลาว่างก่อนนะงับ XD อาจจะร่างแบบสเก็ตมา

คนเขียนไม่ได้แกล้งเนนะ เจ๊มีนโน่น (โบ้ย)

@คุณagava1313 ตอนบอกว่าเว็บมังง่ะดุ้น ไม่รู้ทำไมนึกถึงเว็บแมวดุ้น ฮา// เรามีความฝันอยากเขียนเมะโมเอะมานานแล้วว ๕๕๕ เสียดายเนยังสูงว่าลุงแก XD

@คุณเข็มวินาที ฮา ไม่เป็นไรงับ นึกว่าแอบไปพักร้อนมา XD



ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มจึกๆ

ต่างคนต่างหึงกันเล็กๆ พวกนี้นี่มันซึนกันจริงๆ พับผ่าสิ! -_-
อยากรู้ว่าทีหนึ่งกะที่สองคือใครอ่า
ต่อนี่จืดจางแล้วทำให้นึกถึงคุโรโกะ แต่ต่อดูมึนๆ อึนๆ หม่นๆ อ่ะ แล้วต่อกับปาล์มอยู่อันดับที่เท่าไรอ่ะ อยากรู้วว ><
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 08:46:05 โดย boboman »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แต่ละคนมั่นใจความคิด(ไปเองของ)ตัวเองเหลือเกิน ฮา
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
แต่ละคนก็นะ ยังคิดว่าเป็นศัตรูกันอยู่อีก

ยอมเปิดใจคุยก็จบแล้วป่ะ ทั้งที่เริ่มติดใจนิดหน่อยแล้วแท้ๆ  :mew2:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
อยากบอกว่าคุณเขียนเดาถูกส่วนนึงด้วยล่ะ แว็ปมังงะที่มีดุ้น(แปลไทย)เราก็นึกถึงเว็ปแมวดุ้นเหมือนกัน :hao3:

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
จะไปบู๊เลือดสาดกันอีกละ  :m29:

ต่างคนก็ต่างหวงอีกฝ่าย แต่ก็ซึนได้โล่ห์กันทั้งคู่  :เฮ้อ:

เลิกซึนแล้วมามุ้งมิ้งกันเถอะ

ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ลุงมันพวกปากแข็งแต่ยอมโอนอ่อน(?)นะเน รุกหนักๆเดี๋ยวก็ระทวยยวบยาบแล้ว ฉากต่อไปบู้สะบั้นหั่นแหลก ตอนนี้พัฒนาความรู้สึกกันแล้วนะ มีแอบหวงกันเล็กน้อย แต่ก็ซึนกันแม่งทั้งคู่อ่ะ ยอบรับบ้างก็ได้ม้างงงง ชีวิตจะได้สงบสุข คนอ่านจะได้ฟินกันไป :hao6:

ระดับนี้เรียกพักร้อนไม่ได้ค่ะ ต้องพักร๊อนนนนนร้อน เพราะอากาศเมืองไทยช่างเย็นเสียนี่กระไร(?) เป็นกำลังใจให้ทั้งลุง ทั้งคนแต่ง :katai3:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เผลอแปปเดียว ก้อต้องเม้น 2 ตอนรวดซะแร้ววว ><
แระแม้จะผ่านมา 2 ตอน ลุงวัฒน์และเนก้อยังคงความ 'ซึนเดเระ' อย่างต่อเนื่องงงงง 55555
ถ้าต่างคนต่างจะห่วงกัน หวงกัน หึงกัน ขนาดเน้
ก้ออยากมัวแต่หลอกตัวเองเรยคร้า ว่าเป็นศัตรูกันอะไรนั่น มันไม่ใช่เห็นๆๆ อิอิ ^0^

แต่ตอนหน้า เริ่มน่าเปนห่วง ไม่รุจะเจ็บตัวกันแค่ไหน

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 22


          ณ แถบชานเมือง ทั้งที่เป็นเวลาสองทุ่ม และส่วนอื่นยังคงแต่งแต้มด้วยสีสันแสงเสียง แต่แถวทุ่งกว้างซึ่งเต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์เก่าหลายร้อยที่วางเรียงรายจนเต็มนั้นกลับดูเงียบเหงาและอ้างว้าง ยังดีที่แถวนี้ตามไฟไว้ให้พอสว่างบ้าง ไม่อย่างนั้นคงดูน่ากลัวเหมือนป่าช้าเป็นแน่

          เนกับวัฒน์ยืนอยู่ด้านหลังหัวหน้าใหญ่ซึ่งกำลังนั่งหาวรออยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่เกือบปากทางเข้า ดวงตาเรียวเหล่มองอย่างเบื่อหน่ายเหมือนกับจะหลับเสียให้ได้ และทั้งที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่สู้ดี สิทธิ์กลับหยิบมือถือขึ้นมากดเล่นฆ่าเวลา ทำเอาเนรู้สึกว่าตัวเองเครียดเสียเปล่าเหลือเกิน

          ทันทีที่เห็นเงากลุ่มคน สิทธิ์ก็โดดลงไปโดยไม่รั้งรอ ปล่อยให้ลูกน้องทั้งสองพากันตกใจรีบตามลงแทบไม่ทัน

          “เฮ้ย”

          เสียงทุ้มดังขึ้นจากกลุ่มผู้มาเยือน แสงไฟเผยให้เห็นร่างของชายฉกรรจ์นับสิบ หน้าตาล้วนโฉดเถื่อนบอกยี่ห้อกันมาแต่ไกล ยกเว้นคนที่อยู่หน้าสุด ซึ่งแต่งชุดสูทสีสันแสบตาสะท้อนกับแสงไฟจนตาพร่า แถมยังมีขนเฟอร์สีทองประดับไว้รอบคอทั้งที่ดูร้อนเสียเปล่าๆ
         
          และที่ชวนให้แสบตาที่สุดก็ศีรษะอันล้านเลี่ยนเตียนโล่งไร้รากผมใดๆนี่ล่ะ มันวาวส่องแสงแรงแข่งกับพระอาทิตย์ได้เลยทีเดียว เล่นเอาแถวนี้ที่ดูมืดทึมสว่างจ้าจนร้อนตงิดๆ
         
          “...เพราะแบบนี้สินะ ถึงได้เรียกว่าแก๊งไฟฉายทานตะวัน”

          เนเปรยโดยไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายได้ยิน แต่ดูเหมือนเส้นเลือดตรงขมับของหัวหน้าฝั่งโน้นปูดขึ้นมาจนแทบปริแล้ว

          “ฮ่าๆๆ ถูกใจมาก” สิทธิ์ตบบ่าลูกน้อง ก่อนจะเหล่มองศัตรู “ฉันมาคิดบัญชีเรื่องที่แกทำไว้ เตรียมตัวล้มกิจการตัวเองได้เลย”

          น้ำเสียงเหี้ยมเกรียมจนแม้แต่ลูกน้องยังแอบหวั่น

          ฝั่งที่โดนขู่เองก็มีท่าทางไม่ต่างกันนัก แต่ผู้เป็นหัวหน้าทำใจสู้ และชี้นิ้วใส่ “เฮอะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างแกจะมาทำอะไรฉันได้ มากันแค่นี้นึกว่าชนะงั้นหรือ ฝันเฟื่องไปรึเปล่า”

          ซึ่งดูแล้วก็จริง อีกฝั่งมากันเกือบสามสิบ ขณะที่ตอนนี้พวกเขามีแค่สาม หาเรื่องตายชัดๆ

          ในขณะที่หัวหน้ากำลังต่อปากต่อคำกันอย่างเมามัน เนก็สังเกตเห็นวัฒน์เอามือไพล่หลังไว้ ทีแรกนึกว่าเป็นท่ายืนปกติ จนกระทั่งมองไปยังเบื้องล่าง

          มือทั้งสองของวัฒน์กำลังจับปืนเตรียมพร้อม กะว่าอีกฝ่ายขยับเมื่อไหร่ลุงแกยิงแน่นอน

          เนมองแล้วอดลุกลี้ลุกลนไม่ได้ เขาอยากจะขยับมือไปหาปืนบ้าง แต่พอเห็นลูกน้องอีกฝั่งกำลังจ้องมาทางเขาอยู่ เลยเกรงว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัว จึงทำนิ่งไว้ รอดูท่าทีก่อน แอบนึกเจ็บใจที่ตัวเองไม่รู้จักเตรียมพร้อมได้อย่างนั้นบ้าง

          “เอ ฉันจะฝันเฟื่องหรือไม่ยังไง ได้ลองไปเยี่ยมซ่องแกดูหรือยังล่ะ”

          คนฟังถึงกับหน้าขึ้นสี เส้นเลือดบนหัวปูดโปนราวกับจะแตกเสียให้ได้

          “ฝีมือแกงั้นเรอะ” ชายหัวล้านเอ่ยพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ไอ้กลุ่มที่มาโจมตีฉันเมื่อกี้ก็…”

          “เซอร์ไพรส์ไหมล่ะคร้าบ เห็นไปขายยากันหน้าเครียด เลยอยากทำให้ตื่นเต้นไง” ทั้งที่กำลังเครียดๆ แต่สิทธิ์กลับตอบออกไปด้วยน้ำเสียงยียวนเหมือนไม่กลัวเลือดออกหัว “อ้อ แล้วเมื่อกี้ นั่งรอๆเบื่อๆ ฉันเลยชวนผู้บริหารนายคนสองคนที่ถือหุ้นเยอะๆมาคุยเล่นอยู่ เห็นพวกเขาว่าก่อนปิดตลาดเมื่อตอนเย็นก็ขายหุ้นบริษัทนายออกไปเกลี้ยงเลยแน่ะ แบบนี้ท่าทางจะลำบากแล้วเนอะ”

          เนมองหัวหน้าอีกฝ่ายอย่างผวา นี่ถ้าตัวพองจนระเบิดได้ อีกฝ่ายคงทำไปแล้ว

          ชายผู้เป็นหัวหน้าหันไปคุยกับคนข้างตัวที่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และหลังจากคุยโทรศัพท์จบ คนเป็นลูกน้องก็โดนตบเสียหัวเกือบทิ่มพื้น ก่อนจะหันศรีษะเรียบลื่นมาหาสิทธิ์

          “แกไม่ตายดีแน่”

          “ฉันต่างหากที่ต้องพูด ทำฉันไว้ซะแสบ ยังจะมีหน้ามาว่าฉันอีก” สิทธิ์ย้อนเสียงสูงแล้วมองไปรอบๆ ยิ้มเหมือนไม่เป็นเดือดเป็นร้อนต่อสถานการณ์ชวนตึงเครียด “จะว่าไประหว่างรอแกมันน่าเบื่อมากเลยนะ…เออ ที่นี่มันที่พักยาแกนี่ ฉันลองเดินเล่นดูได้เป็นสิบถุงเลย”

          สีหน้าของชายวันสามสิบกว่าตรงหน้าบิดเบี้ยวจนน่ากลัว อาการเหมือนพร้อมจะสังหารคนได้ทุกเมื่อ “แก! ถ้าของพวกนั้นเสียหายล่ะก็ แกไม่ตายดีแน่”
         
          “ฉันเผาทิ้งหมดแล้วน่ะ”

          จบความเนก็รีบลากสิทธิ์ไปหลบที่ตู้คอนเทนเนอร์ทันที ส่วนวัฒน์ก็วิ่งไปหลบอีกฝั่งพลางสาดกระสุนใส่ไปด้วย เสียงปืนดังรัวลั่นจนหูแทบหนวก ตามมาด้วยเสียงร้องลั่นหลายต่อหลายเสียง

          “คุณสิทธิ์อย่าทำเรื่องน่าใจหายนักได้ไหมครับ!” เนต่อว่าแข่งกับเสียงปืน เหมือนอายุสั้นลงยังไงชอบกล “เป็นอะไรขึ้นมาจะว่าไง”

          “ไม่เป็นหรอกน่า ก็ทำตามแผนแล้วนี่”

          แผน...ที่ไม่มีลูกน้องคนไหนโอเคเนี่ยนะ

          “ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดเหอะ ออกไปจัดการพวกมันเร็วๆดีกว่า” สิทธิ์หัวเราะร่าและออกไปโดยที่ไม่แม้แต่จะชักปืนขึ้นมาเลยสักนิด

          เนมองอย่างเอือมระอาก่อนจะควักปืนตามไปคุ้มกันเจ้านาย เสียงปืนที่ดังรัวจนถึงเมื่อครู่เริ่มเปลี่ยนเป็นเรื่องร้องโอดโอยแทน ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาเนเผลออ้าปากค้าง ยิ่งหันไปมองเพื่อนร่วมงานแล้วยิ่งค้างหนัก

          คนราวยี่สิบนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นดิน ทุกคนมีบาดแผลที่มือทั้งสองข้างเหมือนกันหมด นอกนั้นก็โดนกันจนพอให้ยืนไม่อยู่ แต่ดูท่าทางจะไม่มีใครตายเลยสักคน ราวกับคนทำจงใจก็ไม่ปาน ที่ด้านหน้าทางเข้ามีกลุ่มพวกตนราวสี่ห้าคนยืนเฝ้าอยู่ อีกสองคนกำลังเดินนับคนที่นอนตามแผนที่วางไว้

          ส่วนวัฒน์ไม่เป็นอะไรเลยสักนิดเดียว

          “ก็นะ อาวัฒน์ไม่ถนัดลุยตัวเปล่าแบบจัดการให้พอสลบ แต่ถนัดจัดการยิงให้ปางตายมากกว่า” ได้ยินสิทธิ์เอ่ยอย่างสบายๆก็ยิ่งสร้างความตึงเครียดหนัก

          พอคิดว่าอีกฝ่ายกำลังวางแผนอะไรไว้เด็กหนุ่มก็อดกลัวไม่ได้ ตอนนี้ยังเป็นพวกเดียวกันก็ถือว่าดีอยู่ แต่เมื่อไหร่ที่วัฒน์เผยธาตุแท้(ซึ่งก็เผยให้เห็นอยู่)เมื่อไหร่ สิทธิ์ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน

          “ฉัตรพาคนล้อมไว้ทุกด้านแล้ว ยังไงก็หนีไม่รอดแน่” วัฒน์รายงานสถานการณ์ หลังจากคุยวอกับพรรพวกคนอื่นๆ พลางเปลี่ยนแม็กกาซีนปืน “พวกเราส่วนหนึ่งเองก็คอยตามเก็บพวกที่เหลือแล้ว ถ้ายังไง...”

          “เราก็ตามไปช่วยด้วยไง”

          ว่าจบก็วิ่งฉิวด้วยความไวแสงเหมือนจงใจ จนเหล่าผู้ติดตามที่ไม่ทันระวังตัวต้องพากันติดสปีดไล่ตามไปติดๆ

          ในซอยเล็กซอยน้อยที่เกิดจากตู้คอนเทนเนอร์วางซ้อนเรียงกัน มืดกว่าทางเข้ามากโขจนแทบมองไม่เห็นเงาคน มีเพียงเสียงวิ่งดังตึกตักพอให้รู้ตัวบ้าง เนหันมองไปมาอย่างระวังตัว ถ้าเกิดศัตรูโผล่มาก็คงรู้ตอนประชิดตัวโน่น

          “แถวนี้ไม่ต้องใช้ปืนแล้ว” วัฒน์เอ่ยเสียงเรียบอยู่ทางด้านซ้าย “เจอใครซัดให้หมอบไว้ก่อนได้เลย”

          ความคิดแล่นเข้าหัวทันที เนหันมองเงาข้างกาย ดวงตาเต็มไปด้วยความลังเล

          ถ้าแสร้งว่าเป็นอุบัติเหตุล่ะก็...

          เด็กหนุ่มรีบผลักความคิดนั้นออกจากหัว แม้ว่าเขาหวังแค่ให้อีกฝ่ายบาดเจ็บจนสู้ไม่ได้ แต่ส่วนหนึ่งในใจกลับรู้สึกหวาดหวั่นหากเกิดสิ่งนั้นจริงๆ

          บ้าเอ๊ย หมอนั่นเป็นศัตรูนะ ขืนปล่อยทิ้งไว้คุณสิทธิ์ต้องแย่แน่

          ประโยคที่คอยวนเวียนนั้นชวนให้ปวดหัวหนึบ อันที่จริง มันไม่น่าเป็นเรื่องหนักใจเลยสักนิด เขาเองก็รู้ตัวดีว่าต้องเลือกทางไหน แต่ความลังเลในใจกลับคอยฉุดไม่ยอมปล่อยเสียนี่

          “อยู่ทางนั้น!”

          เสียงสิทธิ์ดึงเนให้หลุดจากภวังค์ เด็กหนุ่มมองเห็นเงาคนเลือนรางกำลังวิ่งหนีอยู่ข้างหน้าราวสามสี่คน และยังไม่ทันตั้งตัว ผู้เป็นนายเร่งฝีเท้าพุ่งเข้าใส่คนด้านหน้าอย่างไม่กลัวเกรง เสียงตุบตับดังอยู่พักหนึ่งก่อนจะหยุดลง โดยเหลือเพียงร่างใหญ่ยักษ์ยืนอยู่ผู้เดียว

          “...ไม่ใช่ไอ้เหม่งแฮะ” เงาดำตรงหน้าเอ่ยอย่างเสียดาย เนไม่สงสัยเลยว่าสิทธิ์รู้ได้อย่างไรทั้งที่มืดขนาดนี้ “อาวัฒน์ เน กลับไปที่ทางออกเถอะ”

          รับคำสั่งก็ทำตามกันโดยทันที

          “เอ๋?”

          วัฒน์กับเนมองหน้ากันด้วยความสงสัย เมื่อวิ่งมาถึงด้านหน้า คนสั่งหายไปไหนแล้ว

          “บ้าเอ๊ย คุณสิทธิ์!” หนุ่มใหญ่ร้องอย่างเหลืออดต่อการกระทำแสนน่ารักของเจ้านาย “กลับเร็ว คงแอบหนีไม่ไกลหรอก”

          เนตามหลังอีกฝ่าย ดวงตาจ้องมองแผ่นหลังบางไม่วางตา หัวใจด้านในเต้นเสียงดังรัวราวกับกลอง แต่ไม่ใช่เพราะเหตุเดียวกับเพื่อนร่วมงาน

          ตอนนี้เป็นโอกาสแล้ว

          เด็กหนุ่มสับสนหนัก นี่ไม่ใช่เวลามาลังเลด้วยซ้ำ พลาดแล้วคงไม่รู้จะหาโอกาสดีแบบนี้ได้เมื่อไหร่อีก

          แต่ถ้าทำลงไป...

          “ข้างบน!”

          เสียงทุ้มของเพื่อนร่วมงานดังขึ้น เงาคนบนตู้คอนเทนเนอร์วิ่งหลบเข้าไป เนกระโดดปีนตามโดยไม่รอวัฒน์ แสงสะท้อนที่เด่นเป็นสง่าบอกให้รู้ว่านั่นคือหัวหน้าของอีกฝั่งแน่นอน แถมยังอยู่แค่คนเดียวด้วย
         
          “หยุดนะ ไอ้ล้าน” เนร้องไล่หลัง อีกฝ่ายวิ่งเร็วมากจนเขาตามแทบไม่ทัน

          “แกว่าใครวะ” นายหัวเหน่งตะโกนกลับอย่างลืมตัว เขาหยุดวิ่งแล้วหันไปเผชิญหน้ากับเด็กหนุ่ม มือทั้งสองควักไม้เหล็กท่อนหนาจากในสูทขึ้นมาแล้วฟาดใส่ทันที

          “เหวอ” เนหลบออกอย่างฉิวเฉียด และยังไม่ทันตั้งตัว อีกฝ่ายก็รุกเข้าใส่ไม่ยั้ง จนเนได้แต่ถอยหนีโดยไม่อาจตอบโต้ได้เลยสักนิด

          “เฮอะ ลูกน้องไอ้สิทธิ์ก็มีดีแค่หน้าตา ไม่เห็นเก่งเท่าไหร่นี่หว่า” ถึงจะอยากค้านแทบขาดใจ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ก็เกินกำลังที่เนจะกล้าค้านได้เต็มปาก อีกฝ่ายเก่งสมกับที่เป็นถึงหัวหน้าจนเด็กหนุ่มทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากหลบ

          “โอ๊ย!”

          อยู่ๆอีกฝ่ายก็ร้องทั้งที่เนไม่ได้สวนสักครั้ง และล่าถอยทันทีเหมือนรู้ว่าต้องโดนสวน

          “เน!”

          เสียงดังฟุ่บวิ่งเข้าผ่านหู เม็ดพลาสติกกลมสีเหลืองพุ่งเข้าหัวใสไร้เส้นอย่างจงใจ และเนก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายตั้งใจด้วย

          “หนอย ไอ้เวรเอ๊ย!”

          อย่าว่าแต่เนเลย วัฒน์ก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสวนด้วยการปาท่อนเหล็กใส่ อันที่จริงการหลบจากวัตถุอัตรายที่พุ่งเข้ามานั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับหนุ่มใหญ่อยู่แล้ว

          แต่ปัญหาคือไม้ที่สองนี่ล่ะ

          “เหวอ!”

          วัฒน์ร้องลั่น ทั้งที่เป็นแค่ท่อนไม้ขนาดราวสองฟุตแท้ๆ แต่กลับหนักขนาดหลังคาตู้คอนเทนเนอร์ยุบได้

          “ฮึ่ย”

          ทันทีที่เห็นเนสนใจทางอื่น ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มรีบกระชากคอเสื้อโยนเนกระแทกลงพื้นแรงเสียจนเสียงดังลั่นไปทั่ว แล้วรีบพุ่งเข้าไปหมายจัดการวัฒน์ ซึ่งตอนนี้กำลังเสียหลักเพราะพื้นที่ยืนยุบลง

          นี่แหละโอกาส

          เนนอนนิ่งจ้องมองชายหัวล้านที่กำลังจะเข้าไปจัดการอีกฝ่าย หากปล่อยทิ้งไว้ อีกฝ่ายก็คงจะจัดการวัฒน์ให้แทนเขา และเรื่องวุ่นวายทั้งหมดก็จะจบลงเสียที…

          จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่มีความสุขแบบเดิม…ไม่ต้องอดอยากอีก…ไม่ต้องอดทนเจอตาลุงบ้าอำนาจชอบแกล้งเราอีก

          ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว…

          “หยุดนะไอ้โล้น!”

          แม้จะเจ็บหลังเจียนตาย แต่ร่างกายดันตอบสนองต่ออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเสียอย่างนั้น มือหนาคว้าข้อเท้าอีกฝ่ายเอาไว้ทันจนล้มหน้าจูบพื้นโลหะเต็มรัก

          “ไอ้เด็กผีนี่!” นายหัวเหม่งหันหน้ามาด้วยความโกรธแค้นหมายจะเอาคืน แต่เนรอฟาดเท้าใส่อยู่แล้ว บอสใหญ่เลยรับเข้าชายโครงเสียเต็มรัก จนลงไปนอนตัวงอด้วยความเจ็บปวด

          ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้แผลงฤทธิ์ เหล่าพลพรรคขาลุยพากันมาสมทบอย่างคับคั่ง รวมถึงพ่อเจ้านายแสนดีที่แอบชิ่งหนีลูกน้องกลางทางด้วย เนกับวัฒน์เลยไม่ต้องออกโรงต่อ ปล่อยให้คนอื่นเฮโลเข้าไปจัดการแทน

          หลังจากจับอีกฝ่ายจนอยู่หมัดก็พาลงมาจาตู้คอนเทนเนอร์มายังพื้นที่กว้างโดยมีเหล่าลูกน้องแสนดียืนล้อมรอบ โดยมีสิทธิ์ กับลูกน้องสองคนที่ช่วยกันจับหัวหน้ากลุ่มของอีกฝ่ายเอาไว้ตรงกลาง

          “จะฆ่าก็ฆ่ากันเลยสิวะ” เมื่อหมดหนทางก็ตะคอกใส่อย่างเหลืออด ไม่คิดก้มหัวขอร้องสมกับที่เป็นหัวหน้า

          “โทษที ฉันไม่มีนโยบายให้มือเปื้อนมลทินง่ายๆน่ะ” สิทธิ์ยิ้ม ทั้งที่พูดออกมาแบบนั้นแต่กลับดูเหมือนยิ้มประหาร ชายหนุ่มหันมาทางปาล์มที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนเป็นการส่งสัญญาณ “ที่จริงฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอกนะ แต่ที่แกทำมันเกินกว่าที่ฉันจะปล่อยผ่านไปได้...”

          ในขณะที่อารัมภบทยืดยาว ปาล์มกับชายหนุ่มอีกราวสามสี่คนที่เดินออกมาราวกับรู้หน้าที่ ในมือของแต่ละคนมีอุปกรณ์ลงสีและกระเป๋าเสื้อผ้าเต็มมือ ส่วนปาล์มเปิดกล้องวิดีโอขึ้นมาเตรียมถ่าย

          “แก...จะทำอะไรน่ะ” ท่าทางจะสัมผัสถึงรังสีอันตรายได้ถึงพยายามดิ้นหนีใหญ่ แต่แม้จะแรงเยอะแค่ไหนก็ไม่มีทางดิ้นหนีได้ อย่างน้อยคนที่จับตัวไว้ก็แรงควายพอๆกัน

          รอยยิ้มฉีกกว้างขึ้นตามมาด้วยเสียงหึๆอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลหากแต่เนื้อหาไม่น่าฟังสักนิด “ก็จะทำให้แกมีชีวิตอยู่โดยไม่กล้ามาหาเรื่องฉันอีกตลอดกาลไง”

          ลองว่ามีปาล์มเป็นแกนนำ อีกทั้งเห็นอุปกรณ์แต่งหน้าครบชุด ไม่ต้องอยู่ดูก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

          “จำไว้เลยนะ ถ้าแกกล้าโผล่มารังควานฉันอีกเพียงครั้งเดียว วิดีโอนี่หลุดว่อนเนตแน่” สิทธิ์ประกาศกร้าวหลังจากบรรเลงงานศิลปะจนสาแก่ใจ รอยยิ้มเมื่อครู่หายไปแล้ว จะมีก็เพียงแค่ความดุดันและความแค้นที่ถาโถมเข้าใส่ “โอ๊ะ แต่ว่าหมดตัวขนาดนี้แล้ว คงจะยากเนอะ แค่กลับไปตามบรรดาเมียๆแกที่หอบสมบัติหนีไป ไหนจะยังพวกผู้บริหารที่หักหลังแกอีก ใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงตามเก็บไม่หมดหรอก”

          ว่าจบก็เดินนำออกไปพลางตะโกนขึ้น “เอ้า เลิกงาน ได้เวลาฉลองแล้ว ฉันเลี้ยงเอง”

          นี่ล่ะ ที่เหล่าลูกน้องรอคอย...พากันส่งเสียงเฮโลตามเจ้านายรอรับของฟรีกันใหญ่

          ทีแรกเนจะตามสิทธิ์ไปแล้ว แต่เห็นวัฒน์ยืนเฉยเลยเลือกที่จะอยู่ด้วยแทน ดูเหมือนวัฒน์จะไม่ทันสังเกตว่ากำลังโดนมอง เขากำลังจ้องมองสภาพแสนอดสูชวนระคายลูกตาตรงหน้า ก่อนจะก้มลงไปพูดกับชายหัวโล้น

          “ถ้ามีรอบหน้า ไม่ต้องห่วงเรื่องวิดีโอนั่นหรอก”

          คำพูดชวนเข้าใจผิดนั่นสร้างความกังขาและขุ่นเคืองให้แก่เด็กหนุ่ม เขาเกือบจะพลั้งปากต่อว่าแล้ว ถ้าวัฒน์ไม่รีบพูดประโยคต่อมาเสียก่อน

          “เพราะถึงตอนนั้นแกคงไม่มีชีวิตอยู่รับสภาพอับอายแบบนี้แน่”

          แม้ว่าจะเป็นน้ำเสียงปกติที่หนุ่มใหญ่ใช้ประจำ แต่คนฟังกลับรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ สายตาที่จ้องมองแหลมคมประดุจมีดบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวไม่ได้แค่ขู่

          แม้แต่เนเองยังรู้สึกกลัว แต่ที่มากกว่าคือแปลกใจ คนที่คิดทรยศเขาทำกันแบบนี้ด้วยหรือ

          ไม่...หมอนั่นอาจจะแค่ไม่อยากให้มีปัญหามากวนก็ได้

          ไม่มีทางที่จะเข้าใจผิดหรอก!

          วัฒน์ผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นเนยังยืนอยู่ด้วย ท่าทีสุขุมชวนให้หวั่นเกรงเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นความหงุดหงิดน่าโมโหแทน “ยืนบื้ออะไรของนาย คนอื่นเขาไปกันหมดแล้วนะ”

          เด็กหนุ่มมุ่นคิ้ว ท่าทางนั่นกระชากความรู้สึกสับสนได้ชะงักนัก “ผมก็แค่สงสัยว่าคุณทำอะไรอยู่ก็แค่นั้น”

          ยิ่งฟัง วัฒน์ก็ยิ่งแสดงอาการหงุดหงิดหนักข้อ แน่นอนว่าเขาคิดไปไกลแล้ว ในขณะที่อีกฝ่ายพูดเป็นข้ออ้างที่จะรอก็เท่านั้น

          “งั้นก็รีบกลับได้แล้ว” หนุ่มใหญ่กระชากเสียง ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นบาดแผลตามตัวของเน อันที่จริงมันไม่ร้ายแรงนัก เพียงแต่ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ “เน”

          เจ้าของชื่อหันมอง ความหงุดหงิดที่สร้างสมไว้มลายหายทันควันเมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่าย

          ถึงจะไม่ได้ยิ้ม แต่ก็ไม่แสดงอารมณ์ขุ่นมัวเลยสักนิด เรียกว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักที่เนได้เห็น

          “เมื่อกี้…ที่ช่วยจัดการหมอนั่น ทำได้ดีมาก”

          ถึงจะไม่ชอบใจ แต่ที่ยอมเอ่ยชมอีกฝ่ายเพราะนึกทางเลือกใหม่ขึ้นมาได้ เขาแอบหวังให้อีกฝ่ายเลิกคิดร้ายต่อสิทธิ์สักที ด้วยการพยายามทำดีไว้ให้มากๆ หวังจะทำให้อีกฝ่ายยอมแปรพักตร์ง่ายๆ

          แน่นอน ที่ทำนั่นไม่ได้หวังถึงตัวเองซักนิด! เพราะถ้าทำไม่ได้จริงๆก็คงต้องเขี่ยทิ้งเท่านั้น

          เขาพยายามย้ำเตือนตัวเองตลอด ย้ำจนจะเป็นพันรอบแล้ว

          ได้ยินแล้วเนถึงนึกขึ้นได้ ว่าเมื่อครู่นอกจากจะพลาดโอกาสให้วัฒน์บาดเจ็บแล้ว เขายังช่วยอีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตายด้วย

          ช่วย...ทั้งๆที่อีกฝ่ายอันตรายต่อเจ้านายมาก...ทั้งที่คอยบอกตัวเองว่านั่นคือศัตรู แถมยังเกลียดตนอย่างกับอะไรดี

          คำพูดไม่น่าอภิรมย์ของเพื่อนร่วมงานที่บริษัทแล่นเข้ามาเหมือนจงใจ

          ‘นายชอบคนๆนั้นน่ะ’

          ไม่ว้อย!
         
          “พ...พูดอะไรของคุณน่ะ” น้ำเสียงร้อนรนดังลั่น พยายามโมโหกลบเกลื่อนความดีใจที่ล้นปรี่ “ผมก็ทำตามหน้าที่เท่านั้นล่ะ”

          ว่าจบก็รีบแผล็วตามคนอื่นไป ทิ้งหนุ่มใหญ่เอาไว้ข้างหลังผิดจากที่ตั้งใจไว้ และถึงอยากจะหันกลับไป แต่ก็เขินเกินกว่าจะกล้าทำ

          วัฒน์มองอีกฝ่ายที่เดินออกไป ก่อนจะถอนใจออกมา ลมพัดเบาเข้ากระทบร่างมีแต่ความร้อนแท้ๆ แต่หนุ่มใหญ่กับรู้สึกหนาวเสียเหลือเกิน

          นั่นสินะ...แค่ทำดีนิดหน่อยจะให้เปลี่ยนใจทันทีได้ยังไง แถมหมอนั่นก็เกลียดเราอยู่แล้วด้วย

          ก็เป็นศัตรูกันนี่นา

          แต่ก็ไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าทำไมต้องเจ็บหน้าอกตอนที่เห็นความจริงตรงหน้าด้วย

          “บ้าน่า...ไม่มีทางหรอก”

          ที่เรารู้สึกแบบนี้ก็แค่เพราะอยากนอนกับมัน…ไม่ได้นึกชอบมันแน่นอน       

          เพราะต่อให้เป็นอย่างนั้นจริง…เราเองก็ไม่มีทางสมหวังอยู่แล้ว…

          ร่างสูงโปร่งยืนนิ่ง ดวงตาเรียวดูเหม่อ หากแต่กลับฉายไปด้วยความเศร้าจนไม่อาจหยั่งลึกลงไปได้

          คนที่ไม่มีคุณสมบัติจะรักใครอย่างเราน่ะ…


_______________________________

วันนี้ลงช้าเพราะไปทำสิ่งด้านล่าง บวกกับเครียดๆจิตตกนิดหน่อย และร้อน ร้อน ร้อน (ร้อน) คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย อยากหนีไปพักร้อนมั่ง ฮา =3=

เรื่องลำดับ อันนี้ต้องตามกันในเรื่องงับฮา

แต่ที่หนึ่งกับที่สองนี่ก็โผล่มาแล้วนะ ถึงจะโผล่มาแต่ชื่อก็เถอะ XP

@agava1313 เดาถูกส่วนหนึ่ง...แล้วส่วนที่ผิดล่ะ =[]=!

ภาพปลากรอบที่อยากแกล้ง...เอ๊ย ตามสัญญาเฉยๆ XP



ออฟไลน์ เข็มวินาที

  • Those who make the worst use of their time are the first to complain of its shortness
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
เนนนนน อ๊ายยยย นางน่าฮักขนาดหนักเจ้าาาา ถึงสาวดุ้นจะมาแรงแค่ไหน แต่ลุงเคะคือที่หนึ่งในใจเรา  :laugh:

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
น่ารักจังการ์ตูนข้างล่าง ว่าแต่เมื่อไหร่ลุงกับเน่จะเข้าใจตรงกันซะทีเนี่ย  รอฉากหวานๆอยู่นะ:ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
น้องเนจ๋า  น่ารักขนาด  :-[

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ไอ้พวกปากหนักกกก ซึนนนนน คิดไรกันมากมายฮะะะ

เนสาวมากอ่ะในภาพ กร๊ากกกก โดนไรต์แกล้งงงง  :hao7:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
ตอบนักเขียน : อีกส่วนเป็นเว็ปสาวดุ้นและดุ้นชนดุ้นของต่างประเทศน่ะ เรท+18ชนิดเว็ปแมวดุ้นเอามาลงไม่ได้ เหอเหอ :-[

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
รอต่อนะคับบ

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5

ออฟไลน์ musddmp

  • อิอิ คริคริ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-0
ภารกิจร้าย พ่ายประตูหลัง
         
ตอนที่ 23


          เสียงโหวกเหวกเฮฮาลั่นออกมาถึงด้านนอกของผับ จนคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวหน้าร้านถึงกับต้องมองอย่างสงสัย แน่นอนว่าด้านในนั้นสนุกสนานกันยิ่งกว่า สิทธิ์เหมาร้านของตัวเองมาเพื่อเลี้ยงฉลองเหล่าลูกน้องโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็เจอกับพนักงานในสังกัดทั้งนั้น

          ท่ามกลางความรื่นเริงชนิดสุดเหวี่ยง มีเพียงสองคนที่ออกอาการไม่เข้ากับบรรยากาศ แถมทั้งคู่ยังยืนอยู่ข้างกันคอยแผ่ออร่าทะมึนใส่รอบข้างจนคนที่สนุกจนเพลินถึงกับได้สติและหน้าเจื่อนทันทีที่เผลอมอง
                   
          “...ไม่ไปสนุกกับคนอื่นล่ะ” เสียงทุ้มเอ่ยถามแต่กลับไม่ยอมมองคู่สนทนาที่ยืนข้างกาย “จะหาเวลาว่างแบบนี้คงยากอยู่นะ”

          แน่นอนว่าวัฒน์หมายถึงการไปแอ้มเหล่าสาวที่กำลังเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่ เขาเห็นเนเที่ยวจ้องสาวนางโน้นที นางนี้ทีจนอดพูดไม่ได้...แน่นอนว่าที่พูดเพราะอยากให้มันหาที่ระบายให้จบๆ โดยไม่ต้องมาเสียเวลากับตาลุงอย่างเขา ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นมันทำตาเยิ้มใส่ผู้หญิงเลยสักหน่อย!

          เนถึงกับสำลักเมื่อได้ยิน เด็กหนุ่มตีหน้าแข็งเหมือนคนโดนจับได้ว่าทำเรื่องผิดแล้วไม่อยากยอมรับ จริงอยู่ว่าเขามอง แต่มองด้วยอารมณ์สุนทรีย์ ไม่ทันได้นึกเรื่องเซ็กซ์เลยสักนิด และยิ่งคิดว่าตัวเองลืมเรื่องสำคัญที่สุดในชีวิตขนาดนั้นได้ เขาก็ยิ่งกระอัก

          ปกติ ถ้ามองสาวเรามักจะนึกอยากเอาตลอด...แต่นี่มันอะไรกันวะ!

          คิดจบก็แอบเหลือบมองคนข้างตัว แล้วไอ้ที่ลืมคิดอยู่นานก็ออกอาการเหมือนกดสวิทซ์ถูกปุ่มสักที เล่นเอาเนหลุดอาการร้อนรนออกมา เขารู้ตัวว่าถึงจะไปฟาดสาวเป็นร้อยคนก็มิอาจพอใจเท่ากับได้นอนกับตาลุงข้างตัวเพียงทีเดียวอยู่แล้ว

          และไม่รู้ทำไม ทั้งที่โดนคะยั้นคะยอ เขากลับไม่รู้สึกอยากทั้งที่นั่นเป็นสิ่งที่ชอบเข้าเส้นเลือดแท้ๆ กลับกัน เขารู้สึกแย่ด้วยซ้ำ

          แต่จะให้ยอมรับว่าเพราะชอบลุงนี่ เขาก็ไม่ยอมเด็ดขาด และไม่เชื่อว่ามันจะเป็นแบบนั้นด้วย!!!!!

          “ก็เพราะคุณนั่นล่ะ”

          วัฒน์ถึงกับหันขวับด้วยความเร็วสูงเสียจนเนสะดุ้ง แสดงสีหน้าไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้งเหมือนกำลังถามหาเหตุผล

          “คุณหาว่าผมเป็นตัวเชื้อโรค” เนื่องจากนึกหาเหตุผลอะไรดีๆ ไม่ได้แล้ว เด็กหนุ่มเลยยกเรื่องที่ยังฝังใจอยู่ “เห็นแบบนี้ผมก็ไม่ใช่คนที่ยอมนอนกับใครต่อใครง่ายๆ สักหน่อย”

          คนฟังถึงกับหน้าเบี้ยวด้วยความกังขา…แล้วมันต่างกับที่เป็นอยู่ตรงไหนวะ

          “ที่สำคัญ ผมสัญญากับคุณไว้แล้ว...เพราะฉะนั้น ผมคงไปนอนกับคนอื่นไม่ได้...”

          หนุ่มใหญ่ยืนจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งไปนานมาก ในสมองกำลังประมวลผลในสิ่งที่ได้ยินอย่างหนัก ก่อนจะกระอักอยู่ในใจ

          ทำไมแกพูดเหมือนกับว่าฉันกับแกเป็นแฟนกันเลยวะ!! สัญญามันไม่ได้ระบุไว้ว่าฉันจะห้ามแกไปนอนกับคนอื่นเลยนี่หว่า!...ถึงฉันจะเอือมกับพฤติกรรมสำส่อนของแกก็เหอะ!...แน่นอนว่าฉันเอือมจริงๆ ไม่ได้นึกหึงเด็กบ้าเซ็กซ์อย่างแกสักนิดเดียว!!!

          ความคิดมากคิดลึกกระชากให้วัฒณ์กลับมาได้สติ คิ้วหนาวิ่งเข้าชนกันพร้อมกับขบคิดคำพูดที่(ไม่)น่าจะแฝงนัยนั่น

          นี่มันกะจะตามติดเราไม่ปล่อยถึงกับยอมทนเป็นคู่นอนกับเราเชียวเรอะ

          ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดหวั่น แต่จะให้บอกเลิกก็นึกเสียดายและกระดากใจเกินกว่าจะยอมทำ

          บ้าเอ๊ย เรามันบ้าที่สุด!

          “งั้นก็ตามใจนาย” วัฒน์บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกสบายใจด้วย

          เนใจหายนิดหน่อยเมื่อเห็นวัฒน์ดูไม่ใส่ใจนัก แต่ยังไม่ทันได้คิดให้มากความก็โดนดึงความสนใจเสียก่อน

          “เฮ้ มาทำอะไรตรงนี้น่ะ...” เสียงทุ้มนุ่มนวลเอ่ยอย่างร่าเริงก่อนจะค้างไปเมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสอง ปาล์มยังคงยิ้ม แต่เหมือนจะยิ้มเพราะทำอะไรไม่ถูกเสียมากกว่า “มีอะไรกันหรือ...”

          “ไม่มี!” ตอบพร้อมเพรียงกันดั่งนัดไว้ แถมยังจะหันหน้ามาเขม่นกันอีกต่างหาก

          “ฉันว่าจะพานายไปรู้จักกับพวกเราหน่อย เห็นนายรู้จักแค่ต่ออยู่คนเดียว” หนุ่มน้อยหน้าหวานเอ่ยเหตุผลพร้อมกับดึงแขนเนมาหา “ไปเถอะ เพราะคราวหลังเวลาร่วมงานกันจะได้เป็นกันเองไง”
         
          ทีแรกเนเกือบจะขืนตัวออก แต่พอมานึกขึ้นว่าตนไม่มีเหตุผลที่ต้องยืนคู่กับวัฒน์ เลยยอมตามอีกฝ่ายไปโดยไม่พูดอะไร

          วัฒน์เองก็ปล่อยให้เนไปอย่างง่ายดาย เขาไม่คิดอยากจะให้เนมาอยู่ด้วยเท่าไหร่นัก แต่พอเห็นเด็กทั้งสองเดินควงคู่กันออกไปต่อหน้าต่อตาแล้ว เขากลับรู้สึกหายใจติดขัด แน่นหน้าอกพิกล แต่เพียงไม่นานนัก ทันทีที่มือหนาตบเข้าที่ไหล่จนวัฒน์เกือบทรุด เขาก็รีบหันไปหาเจ้าของด้วยความหงุดหงิด สีหน้าหนุ่มใหญ่ออกอาการเหม็นเบื่อปนสงสัยทันทีที่เห็นฉัตรออกอาการรื่นเริงยิ้มแป้นจนน่าหมั่นไส้

          “มีไร” คนร่างบางกว่าถามเสียงห้วน และพยายามผลักเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะกอด กลิ่นเหล้าที่ลอยมาตามอากาศบ่งบอกให้วัฒน์รู้ว่าควรจะใช้แรงเต็มที่ มิฉะนั้นได้เข้าไปซุกอยู่ในกล้ามอกหนาๆ นั่นแน่

          “อารายว้า นายเนี่ย ทำหวงไม่เลิกไปได้นะ” ฉัตรออกอาการน้อยอกน้อยใจเมื่อเห็นวัฒน์รังเกียจจนออกนอกหน้า “ฉันแค่คิดว่าพักนี้เราไม่ค่อยจะได้เจอหน้ากันเท่าไหร่เลย พอเจอหน้าทีก็อยากจะสานสัมพันธ์ให้กลับมาแนบแน่นเหมือนเดิมไง”

          “มีอะไร” วัฒน์ยังคงถามคำเดิม ด้วยสีหน้านิ่งเหมือนเดิม ที่จริงเขาไม่ได้โมโหที่อีกฝ่ายทำตัวก้อร่อก้อติกใส่เลยสักนิด แต่ที่ไม่รับมุกฉัตรหรือโวยวายเพราะคิดว่าเป็นการทักทายปกติของอีกฝ่ายอยู่แล้ว เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจนัก

          แต่ร้อยทั้งร้อยคงมองว่าวัฒน์กำลังจะโกรธแน่นอน ยิ่งสีหน้าที่ไม่แม้แต่จะกระตุกนั่น ยิ่งชวนให้รู้สึกกดดันหนัก จนฉัตรที่เอาแต่เล่นลิ้นถึงกับหายเมา

          “เอ่อ...ฉันเผลอไปหน่อย โทษทีนะ” หนุ่มใหญ่ร่างบึกบึนเอ่ยอ้อนก่อนจะรีบเข้าเรื่องเหมือนกลัวโดนเขม่นไปมากกว่านี้ “ฉันแค่สงสัย คนที่นายคิดว่าเป็นสายให้ไอ้เดชน่ะ ใช่เนหรือเปล่า”

          ใบหน้าที่มักดูไม่เป็นมิตรกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยิน ก่อนจะผงกหัวให้เป็นคำตอบ

          ฉัตรขมวดคิ้วพลางทำท่านึก มือหนายกขึ้นมาลูบเคราที่คางซึ่งเป็นนิสัยเวลาสงสัย

          “ยังไม่แน่หรอก” ถึงปากจะบอกอย่างนั้น แต่ใจมันไปเรียบร้อยแล้ว...หมายถึงเรื่องที่มั่นใจว่าเนเป็นไส้ศึกน่ะนะ... “ฉันยังไม่มีหลักฐาน แต่พฤติกรรมส่วนใหญ่ของหมอนั่นก็น่าสงสัยอยู่”

          “งั้นหรือ...” ใจจริงฉัตรไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก แต่เพราะตัวเองก็ไม่มีหลักฐานมาแย้ง เลยไม่อยากสอดปากให้โดนด่าเท่าไหร่นัก “ถ้าอย่างนั้น ให้ฉันช่วยสืบทางไอ้เดชด้วยดีไหม เผื่อจะได้ข้อมูลว่าเด็กนั่นเป็นลูกน้องไอ้เดชจริงหรือเปล่า”

          วัฒน์เงยหน้ามอง อันที่จริงนั่นเป็นสิ่งที่ช่วยได้เยอะแท้ๆ

          ใช่...ทั้งที่เป็นอย่างนั้น...แต่เขากลับหวาดกลัวที่จะรับรู้ความจริงเสียได้

          “...หรือว่าไม่ต้อง” เมื่อเห็นคู่สนทนาจ้องหน้านิ่ง ฉัตรก็เอ่ยถามอย่างหวาดหวั่น

          “เปล่าๆ ...ดีสิ ถ้านายช่วยก็ดีเลย” วัฒน์รีบตอบรับเสียงตื่น “เอาแบบละเอียดยิบแล้วก็หลักฐานที่มัดไม่หลุดด้วยล่ะ ฝากด้วยละกัน”

          ฉัตรเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจต่อท่าทีร้อนของคนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามทั้งที่กลัวโดนว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า”

          จากที่กำลังลุกลี้ลุกลนก็นิ่งเสียจนฉัตรถึงกับผงะ วัฒน์ก้มลงด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนที่ท่าทีจะกลับเป็นดังเดิม

          “เปล่า” ตอบเพียงแค่นั้น แล้วก็ไม่พูดสิ่งใดขึ้นมาอีกเลยจนฉัตรกลายเป็นคนที่ออกอาการลุกลี้ลุกลนแทน เพราะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

          แต่ถ้าเขารู้ละก็ ภาพลักษณ์ที่ฉัตรมองวัฒน์อยู่ตลอดเวลาอาจจะเปลี่ยนไปชนิดหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยก็ได้ เพราะที่วัฒน์นิ่งไปนั่นไม่ใช่ว่าฉัตรดันพูดเรื่องไม่เข้าหูจนเขาโกรธ แต่เพราะหนุ่มใหญ่กำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยต่างหาก และกำลังคิดว้าวุ่นเสียมากมายว่าที่ออกอาการประหลาดนั้นก็เพราะตัวเองดันไปนึกถึงหน้าไอ้เด็กผีนั่น เลยได้แต่ยืนห่อเหี่ยวอย่างที่เป็นอยู่...ถึงแม้ว่าจากสายตาคนนอกจะเห็นว่าวัฒน์เพียงแค่กลับมามาดนิ่งหน้าไม่รับแขกก็ตาม

 

          แม้ว่าเมื่อคืนจะกลับมาราวตีสองกว่า อีกทั้งยังดื่มเหล้ากันไปด้วย แต่ทั้งเนและวัฒน์ก็สามารถตื่นและแต่งตัวอย่างเรียบร้อยก่อนหกโมงครึ่งได้ เนมีอาการเมาค้างนิดหน่อย ในขณะที่วัฒน์ดูปกติจนน่ากลัว เด็กหนุ่มเดินตามหลังอีกฝ่ายเพื่อไปยังห้องครัว นึกหงุดหงิดที่ต้องโดนปลุกอย่างรุนแรงอย่างที่มักเป็น แต่ก็ไม่อาจเถียงอะไรมากได้เพราะต้นเหตุก็มาจากตัวเขาที่ดันไปกอดอีกฝ่ายต่างหมอนข้าง

          และเหตุผลที่ยอมทำตัวเรียบร้อยจริงๆไม่ใช่เหตุผลนั้นหรอก...

          “อ้าว ว่าไงจ๊ะสองหนุ่ม”

          หญิงร่างท้วมผู้อาวุโสสุดในบ้านเอ่ยทักเสียงใส วันนี้เกือบทุกคนในบ้านอยู่ในห้องครัวกันพร้อมหน้าพร้อมตา โต๊ะไม้กลมที่ไว้สำหรับรับประทานอาหารดูเล็กไปถนัดตาเมื่อโดนรายล้อมด้วยคนถึงสี่คน และยิ่งดูแออัดเข้าไปใหญ่เมื่อวัฒน์กับเนลงไปนั่งด้วย

          รุตเพียงแต่พยักหน้าให้และกลับไปสนใจกับการแกะปลาทูอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจเก็บเกี่ยวทุกอณูเนื้อไม่ให้เหลือแม้แต่เศษ ส่วนเอมก็ทักทั้งสองพอเป็นพิธีก่อนที่จะกลับไปทานข้าวอย่างเรียบร้อย จะมีก็แต่แมวที่บริการลดแลกแจกแถมให้กับเนเป็นพิเศษ แน่นอนว่าเด็กหนุ่มเองก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย

          “นี่ เราน่ะ เป็นสาวเป็นนางทำตัวแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน” นางติงลูกสาวที่กำลังวางจานข้าวตรงหน้าเน แถมพอมานั่งที่โต๊ะแล้วยังตักหมูผัดขิงให้ด้วย

          “แหม ก็หนูเป็นคนรับใช้ใช่ไหมละคะ นี่ก็เป็นหน้าที่นี่คะ” ปากก็บอกแบบนั้น แต่ทีกับวัฒน์ซึ่งเป็นผู้อาวุโสกว่ากลับต้องทำเองตั้งแต่หยิบจาน “แต่ถ้าพี่เนไม่ชอบ หนูไม่ทำก็ได้นะคะ”

          ทีแรกจะบอกว่า ‘ไม่รังเกียจสักนิดเดียว’ แต่พอเห็นสายตาคมของหนุ่มใหญ่ที่มองมาเหมือนกับกำลังเอือมระอา เขากลับรู้สึกเจ็บจี๊ดเหมือนโดนเข็มแทงก็มิปาน

          “เอ้อ...ไม่ใช่ว่าไม่ชอบนะครับ แต่พี่ว่าพี่ทำเองดีกว่า พอดีพี่เป็นคนชอบให้บริการมากกว่าเป็นคนได้รับน่ะครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยเลี่ยงอย่างสุภาพ แต่ก็ยังรับน้ำใจที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างไม่รังเกียจรังงอน

          “ใช่ ปล่อยให้มันทำเองก็ได้ เดี๋ยวเป็นง่อยกันพอดี” เนื่องจากยังหงุดหงิดจากเรื่องเมื่อเช้า บวกกับภาพที่เนทำตัวสนิทสนมกับปาล์มเกินเหตุยังติดตาไม่หาย อีกทั้งยังจะมากระหนุงกระหนิงกับสาวใช้คนงามของบ้านอีก เลยหลุดพูดออกมาโดยที่ตัวเองไม่ทันคิด

          ทั้งห้องพากันสะอึกเมื่อได้ยินวัฒน์ใช้สรรพนามเรียกเนว่า ‘มัน’ แถมวัฒน์ดูจะไม่สนใจสายตาของเพื่อนร่วมโต๊ะนัก...หรือถ้าพูดให้ถูกคือไม่รู้ตัวมากกว่า เพราะแต่ละคนไม่ได้มองเจ้าตัวตรงๆ สีหน้าของพวกเขาดูจะแปลกใจ หวาดหวั่นและอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นวัฒน์เฉยเหมือนไม่รู้สึกว่าการกระทำเมื่อครู่นั้นเป็นเรื่องเสียมารยาท แต่ละคนก็ยิ่งตีหน้าแหยงเข้าไปใหญ่ราวกับโดนไฟลนก้นแต่ไม่สามารถลุกหนีได้เสียอย่างนั้น พวกเขาไม่เคยเห็นวัฒน์ใช้น้ำเสียงและคำพูดจิกกัดใครแบบออกนอกหน้าเช่นนี้มาก่อน

          แต่ละคนพากันอึกอัก ทำตัวไม่ถูก เที่ยวใช้สายตาเหล่มองกันไปมาเหมือนกับต้องการให้ใครสักคนช่วยทำลายบรรยากาศกดดันนี่

          มีเพียงคนโดนแขวะที่มีอาการต่างออกไปและเป็นอีกคนที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคนอื่นกำลังรู้สึกลำบากใจต่อสถานการณ์ในตอนนี้ เนกระตุกเพียงเล็กน้อยเมื่อได้ยิน แม้ริมฝีปากจะเหยียดยิ้มหากแต่คิ้วกลับมุ่นเข้า และเอ่ยทำลายความเงียบขึ้น “แหม นั่นสินะครับ ขืนเอาแต่ไม่ทำอะไรด้วยตัวเอง มีหวังได้ไร้เรี่ยวแรงจนถือไหวแค่ปืนเท่านั้นแน่เลยนะครับ”

          ถึงจะไม่พูดตรงๆ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่าเนกำลังด่าวัฒน์ชัดๆ

          หนุ่มใหญ่กัดฟันกรอด สวนกลับอย่างไม่ลดละ “นั่นสิ ก็มีดีแค่แรงเยอะนี่นา ต้องรักษาไว้ให้ดีหน่อย ไม่งั้นก็ไม่เหลืออะไรดีแล้ว”

          “โฮ่ พูดอะไรผิดหรือเปล่า ผมน่ะไม่ได้มีดีแค่แรงสักหน่อย งานที่คุณสอนๆ ผมก็จำได้หมด ให้ทำแทนคุณเลยยังได้” เนเกทับอย่างไม่ยอมน้อยหน้า “ผมว่าคนชราไร้เรี่ยวแรงน่าจะเกษียณตัวเอง แล้วอยู่บ้านนั่งอ่านหนังสือธรรมะหรือทำสวนอยู่กับบ้านน่าจะดีกว่านะครับ”

          “นั่นเพราะมันมีแต่งานง่ายๆ ไม่ค่อยได้ใช้สมองมากกว่า นายถึงได้ทำได้น่ะ แถมเอาเข้าจริง แค่สมาธิที่จะฟังคุณสิทธิ์พูดจนจบยังไม่มี ชีวิตนี้จะเป็นคนติดตามคุณสิทธิ์ได้หรือ ฉันว่าเป็นแค่โล่กันกระสุนยังไม่รู้ว่าจะเป็นได้หรือเปล่า” วัฒน์ยังคงจิกกัดได้อย่างแสบทรวง จนเนถึงกับหลุดสีหน้าหงุดหงิดออกมาให้เห็น “แล้วที่สำคัญ ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นโว้ย! ใช่มั้ยรุต”
         
          อยู่ๆ ก็ดันมาถามหาความเห็นในขณะที่กำลังตะลึงพรึงเพริดกับฉากสงครามน้ำลายตรงหน้า รุตถึงกับผงะพูดอะไรไม่ออก เขายังคงจ้องวัฒน์ที่กำลังรอคำตอบจากเขา จนในที่สุดก็พยักหน้าออกมาให้

          “โด่ ของแบบนี้ คนรุ่นคุณก็คิดเหมือนกันทั้งนั้นล่ะ ใช่ไหมน้องแมว น้องเอม” คราวนี้เด็กหนุ่มเป็นฝ่ายหาพวกบ้าง

          เด็กสาวทั้งสองเองก็มีอาการไม่ต่างจากรุตนัก พวกเธอมองหน้ากันราวกับกำลังปรึกษากันทางโทรจิต ก่อนที่แมวจะตอบพลางลูบคางตัวเอง “เอ่อ...มันก็มีเป็นห่วงบ้างอยู่....”

          “เห็นมั้ย” เสียงหวานยังตอบไม่จบประโยค เนก็ร้องขึ้นมาราวกับเป็นผู้ชนะแล้ว “อย่างวันก่อน ถ้าผมไม่เป็นคนลุยก่อนละก็ ไอ้เหม่งมหาประลัยนั่นคงเอาหัวล้านโขกคุณทีเดียวตายไปแล้วก็ได้ ไหนจะก่อนหน้านั้นอีก ที่คุณเอาแต่ยืนอยู่ห่างๆ ก็เพราะไม่มีกำลังพอจะลุยเองใช่ไหมละ”

          วัฒน์ถึงกับกัดฟันกรอดเมื่อโดนย้ำซ้ำจุดอ่อนตัวเองไม่เลิก นึกเสียใจอย่างแรงที่ก่อนหน้านั้นดันเผลอไปชมมันได้ “เฮอะ ฉันไม่ใช่พวกดีแต่ใช้กำลังเข้าไปดาหน้าให้บาดเจ็บโดยใช่เหตุนี่ แล้ววันก่อนที่ฉันโดนไม้หน้าสามตีหัวน่ะ ก็เป็นเพราะหมาบางตัวมันมัวแต่เถียงจนไม่ดูว่าศัตรูกำลังเข้ามาทำร้ายใช่มั้ยล่ะ และถึงไม่มีแก ฉันก็จัดการคนเดียวได้โว้ย ขอถามหน่อยเถอะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืนไร้รอยหยักในสมองอย่างแกคนเดียวมีปัญญารับมือกับคนแค่สามสิบกว่าคนได้หรือไง เฮอะ ฉันว่าเตรียมเมรุไว้ให้แกขึ้นดีกว่า ท่าทางคงใช้ก่อนฉันแน่ๆ ”

          “เอ้อ...ฉันว่าถ้าห้าคนขึ้นไปก็เยอะแล้วนะ”

          รุตผงะที่ตัวเองเผลอหลุดปากออกไป เขามองหน้าคนอื่นหวังขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันไรเนก็พูดทับขึ้นมาเสียก่อน

          “โหยอารุต สิบห้าผมก็ยังไหว” พอพูดขึ้นเนก็หน้าเสียเพราะรู้ตัวว่าดันเผยความจริงที่ว่าตนไม่สามารถทำได้อย่างที่วัฒน์พูด

          รอบนี้เจ้าตัวไม่ได้เกทับอะไรออกมาทันที นอกจากยิ้มที่มุมปากแล้วส่งเสียง ‘ฮึ’ ออกมาทีหนึ่ง แต่แค่นั้นก็ทำเอาควันออกหูเด็กหนุ่มได้แล้ว

          “แหม พี่เนนี่เก่งจังเลยนะคะ” แมวรีบพูดเสริมเมื่อเห็นเนตั้งท่าจะว่าวัฒน์ต่อ แน่นอนว่าทำเอาอารมณ์ที่กำลังร้อนดับลงทันควัน จากนั้นเธอก็หันไปหาวัฒน์ ทีแรกรู้สึกหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย แต่ยอมใจกล้าเอ่ยแซวขึ้น “หนูว่าเกณฑ์ของอาวัฒน์มันออกจะดูหินไปมั้งคะ กะจะให้พี่เนเขาไปเป็นกลาดิเอเตอร์สู้กับเอเลี่ยนได้เลยหรือไงคะ”

          “อะไรกัน ไม่หินซักหน่อย...” หนุ่มใหญ่ร้องตอบอย่างไม่แน่ใจนักพร้อมกับมองคนอื่นราวกับต้องการขอความเห็น แน่นอนว่ามีแต่สายตาคัดค้านส่งกลับมาทั้งนั้น จนวัฒน์ถึงกับตีหน้าเบ้ “ก็หมอนี่เป็นคนติดตามคุณสิทธิ์นะ ก็น่าจะทำได้อย่างที่ฉันว่าสิ”

          ถ้าไม่ใช่อมนุษย์ก็คงต้องเป็นยอดคนกระมัง ถึงจะทำได้อย่างที่คุณลุงหวัง

          “เอาน่าๆ เลิกเถียงกันแล้วรีบกินข้าวดีกว่านะ” นางพยายามดึงให้ทุกคนกลับมาสนใจอาหารตรงหน้า และดูท่าทางจะได้ผลดีมาก โดยเฉพาะสองหน่อที่เพิ่งเถียงกันเสียเมามันและดุเดือดยิ่งกว่าได้ไปดูมวยคู่เอกถึงสนามม้านางเลิ้งก็มิปาน

          พอเห็นเวลาใกล้เจ็ดโมงครึ่ง วัฒน์กับเนก็รีบตั้งหน้าตั้งตาพุ้ยข้าวเข้าปากกันสุดชีวิตทั้งที่วันนี้ไม่ได้ไปทำงาน คนกินน้อยเสร็จก่อนตามประสาและเดินออกจากห้องครัวทันที แถมไม่วายยังหันหน้ามายิ้มที่มุมปากดั่งผู้ชนะใส่เนอีก และนั่นทำให้คนอื่นที่พากันมองตามหลังวัฒน์เป็นตาเดียวจนเนถึงกับมองไปด้วย

          “เป็นอะไรกันหรือครับ” เด็กหนุ่มหันมองแต่ละคนที่ต่างมีสีหน้านิ่งเรียบ และเริ่มรู้สึกอึดอัดเมื่อโดนจ้องบ้าง

          “เน” อยู่ๆ รุตก็ตบบ่าทั้งสองพร้อมกับบีบเสียแน่น สีหน้าดูขึงขังจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “วัฒน์เป็นแบบนั้นกับเธอบ่อยหรือเปล่า”

          เจ้าตัวเลิกคิ้วทำหน้าเหรอหราอยู่พักใหญ่ ยังคงไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงสิ่งใด จนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าคนอื่นคงไม่เคยเห็นวัฒน์แสดงอาการเช่นนั้นมาก่อนเป็นแน่ แต่ละคนทำหน้าเหมือนกับเพิ่งได้เห็นยูเอฟโอบินผ่านหน้าบ้านก็ไม่ปาน

          “เป็นประจำครับ” เนื่องจากไม่รู้จะปิดบังไปทำไม เนจึงเผยความจริงแบบไม่คิดหมกเม็ดแต่อย่างใด และอาจเพราะเมื่อครู่เถียงแพ้ เลยถือโอกาสเผาไปด้วยเสียเลย “แค่เนี้ย ยังน้อยไปด้วยซ้ำ ทั้งหาเรื่องแกล้งผมสารพัด จิกกัดสับแขวะอย่างกับเกลียดผมมาเป็นชาติยังไงยังงั้นล่ะ”

          จริงๆ ก็รู้อยู่หรอกว่าเพราะอะไรบ้าง...แต่ใครมันจะบอกกัน โดยเฉพาะไอ้เรื่องที่(เข้าใจผิดไปว่า)วัฒน์เป็นหนอนบ่อนไส้น่ะ ดูท่าทางแต่ละคนในนี้จะคิดเพียงแค่ว่าวัฒน์เป็นคนเก่าคนแก่ที่จริงจังและภักดีต่อเจ้านายเท่านั้นเอง

          จบความคนใช้ทั้งสี่ต่างพากันมองหน้ากันราวกับกำลังปรึกษา ก่อนที่รุตจะเป็นคนเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

          “แล้วเธอเกลียดวัฒน์เขาหรือเปล่า”

          ร่างของเด็กหนุ่มกระตุกเสียจนคนถามผงะ ดวงตาเรียวเบิกกว้างเสียจนน่ากลัว ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงหัวเราะในลำคอที่ฟังแล้วชวนให้ผวานักกว่าเดิม

          “หึๆ ๆ  อารุตพูดอะไรของอาน่ะ...ผมน่ะเข้าใจว่าคนพออายุมากเข้าก็เป็นงี้กันทุกคนล่ะ” เขาตอบโดยลืมไปเสียสนิทว่าคู่สนทนาเองก็อายุไล่เลี่ยกับคนที่ถูกพูดถึง “ผมอาจจะไม่ชอบที่โดนว่า แต่ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะฉะนั้นผมก็ไม่ได้เกลียดอะไรหรอก”

          ไม่อยากจะเอ่ยเลยว่าก่อนหน้านั้นในหัวมันคิดว้าวุ่นไปหมดตอนที่โดนถาม ทีแรกเขาตั้งใจจะเอ่ยปากว่า ‘เกลียด’ อย่างชัดถ้อยชัดคำแท้ๆ  แต่พอคิดว่าตอนนี้ตัวเอง(เข้าใจว่า)โดนเกลียดอยู่แล้ว ไอ้ที่อยากพูดก็ดันพูดไม่ออกขึ้นมาเสียอย่างนั้น

          “ถ้าอย่างนั้น ฉันฝากให้เธอช่วยอยู่ข้างๆ วัฒน์แบบนี้ให้นานที่สุดได้ไหม”

          “หา!!” ไม่ร้องเปล่าแต่เด็กหนุ่มยังหน้าแดงเรื่อขึ้นมาด้วย เพราะดันเข้าใจเลยเถิดไปไกลกว่าที่อีกฝ่ายตั้งใจ ยังดีที่คนอื่นไม่ได้สังเกตอาการที่ไม่ควรจะมี อีกทั้งเนพาตัวเองกลับขึ้นฝั่งมาได้เร็ว เลยไม่ต้องโดนสงสัยว่าทำไมต้องเขินขนาดนี้

          “มันอาจจะไม่ดีต่อเธอ แต่พวกฉันคิดว่าวัฒน์เป็นแบบนั้นดีกว่าที่เป็นอยู่เยอะเลยล่ะ” หนุ่มใหญ่บอกเหตุผล โดยมีทัพสามสาว(?)คอยพยักหน้าสนับสนุน

          “ดียังไงครับ” เขาเห็นวัฒน์เอาแต่ จิก ด่า เหน็บขนาดนั้น นั่นไม่ใช่พฤติกรรมน่าชื่นชอบสักนิด ถ้าเป็นตอนที่อยู่กับคนอื่น ยังจะดูน่ารักเสียกว่า...

          ....................................ไม่นะ!!!! ตูไม่ได้ตั้งใจจะใช้คำนั้นสักหน่อย!!! หมายถึงดูเรียบร้อย น่าเกรงขามต่างหาก!!! แค่เผลอใช้คำผิด....ใช่! ใช้คำผิดโว้ย!!!! ไม่ได้คิดว่าตาลุงนั่นน่ารักซักนิดเดียว

          “ก็แหม ปกติอาวัฒน์เขาคุยด้วยยากจะตาย บางทีคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้” เด็กสาวบอกเสียงใสพร้อมกับยิ้มหวานให้ “แต่พออยู่กับพี่เน อาวัฒน์เขาดูเปิดเผยดีออก...คิดอะไรก็พูดตามตรง แถมยังแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนด้วย ถ้าถามหนูนะ หนูชอบท่าทางของอาวัฒน์ตอนอยู่กับพี่เนมากๆ เลยล่ะค่ะ”

          “เพราะฉะนั้น เธอเป็นความหวังของพวกฉันนะ...อย่างน้อยช่วยอยู่จนกว่าวัฒน์จะเป็นคนแบบนั้นโดยปกติก็ยังดี”

          เล่นขอร้องกันยกกลุ่มแบบนี้...แถมยังมีคนขอเป็นสาวน้อยหน้าแฉล้มอีก คนใจไม่แข็งเท่าไหร่อย่างเขาจะกล้าปฏิเสธลงหรือ


_______________________________

ใกล้ละๆ ><

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :z13: มาจิ้มด้วยความดีใจ  :z2:

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3
อ๊าาา

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ๊ยซึนจนน่าหมั่นไส้ทั้งคู่เรยอ่ะ
แต่อ่านๆไปมันก้อหวานแบบแปลกๆดีนน๊าาาาา
ลุ้นให้เลิกปากแข็งกันซะที อิอิ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ซึนอีกละพวกนี้ 5555+
รอวันที่พวกนี้จะเลิกปากแข็งสักที แล้วให้อย่างอื่นแข็งแทน แค่ก! เปล่าพูดอะไรนะเมื่อกี้ -.-; //โปรดข้ามเม้นนี้ไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด