ตอนที่ 40
ศตคุณตามพ่อเลี้ยงอาทิตย์มาที่โรงพักด้วย หลังจากที่ตัดสินใจว่าวันนี้ขอลาเรียน ซึ่งบอกเหตุผลอาจารย์ไปท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่สั่งงานให้ทำส่งในอาทิตย์หน้าแทน ส่วนทางด้านคณินกับพายัพก็อยู่เคลียร์ไร่และตรวจสอบความเสียหายอีกครั้งหนึ่ง
“มันสารภาพไหมวะ”
“สารภาพ...”
“ใครส่งพวกมันมา” อาทิตย์ถามเพื่อนต่อ
“พวกมันบอกว่าลูกพี่มันสั่งมาอีกทีว่ะ ถ้าอยากจะรู้ว่าใครจ้างพวกมันมาต้องจับลูกพี่มันให้ได้ก่อน แต่มึงคิดว่าเราจะหาเจอง่ายๆ ไหมล่ะวะ?” ปริวัฒน์ถามกลับมา
ตอนนี้มันคงจะหนีไปกบดานอยู่ที่ไหนสักที่ อาจจะเป็นในไทยหรือว่าตามชายแดน...
“กูสอบสวนแล้ว พวกมันบอกว่าไม่รู้คนที่จ้างจริงๆ ลูกพี่มันบอกให้ทำแค่นั้น ให้มาแฝงตัวสมัครเป็นคนงานมนไร่ของมึง แล้วก็สำรวจไร่ก่อนลงมือจริงในวันที่มึงไม่อยู่”
“แม่ง...มันฉลาดจริงๆ”
“ถ้าพ่อเลี้ยงมนัสเคี้ยวง่ายขนาดนั้น ป่านนี้คดีของพี่มึงไม่นานเป็นสิบปีแบบนี้หรอก”
“นั่นสิวะ...แล้วกูจะทำยังไงดีวะ”
“กูพยายามอย่างเต็มที่อยู่นะอาทิตย์ ยังไงกูก็ต้องลากคนผิดมาลงโทษให้ได้”
“ขอบใจนะเว้ย”
“แล้วสองคนนั้นมึงจะเอาไง?”
“ก็ทำตามกระบวนการทางกฎหมายนั่นแหละ”
“เออๆ ส่วนลูกพี่พวกมันกูได้ประกาศจับไปแล้ว ถ้ามีอะไรคืบหน้ากูจะโทรบอกมึงเรื่อยๆ นะ”
“อืม...ฝากด้วย”
“แล้วไร่มึงเป็นยังไงบ้างวะ” ปริวัฒน์ถาม
“เสียหายเล็กน้อยว่ะ พอดีแฟนกูเขาฉลาด...” อาทิตย์เหล่ตามายังคนข้างกายที่ส่งยิ้มบางๆ ให้กับปริวัฒน์ที่มองศตคุณยิ้มๆ
“ก็ได้ยินมาจากไอ้พายัพแล้วน่ะนะ ฉลาดจริงๆ เลยนะเรา”
“อืม...ขนาดกูยังไม่คิดเลยว่าจะเป็นการล่อเสืออกจากถ้ำ”
“นั่นน่ะสิ...มึงเลือกคนถูกนะอาทิตย์”
สมกับจะเป็นคนที่เป็นทั้งคู่ชีวิตและคู่คิดกับเพื่อนรักเขาจริงๆ เพราะผู้ชายอย่างอาทิตย์เป็นผู้ชายทำงาน มีแต่งานแล้วก็งาน การได้คู่ชีวิตที่ทำงานได้ และฉลาดแบบนี้นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เขาก็ขอแสดงความยินดีด้วย
ศตคุณไม่ได้มีดีแค่หน้าตาจริงๆ
“เมื่อเช้าพวกนักข่าวแห่ไปไร่ของมึงด้วยสินะ”
“เออ...วุ่นวายมาก แต่ให้พายัพมันเป็นคนจัดการแล้วล่ะ”
“คงจะเป็นข่าวดังเลยล่ะ แต่แบบนี้มันก็ดีนะเว้ย ทุกคนที่รู้เรื่องจะเพ่งเล็งไปที่ศัตรูของมึงทันทีเลย พ่อของพ่อเลี้ยงมนัสก็เคยมีเรื่องกับพ่อของมึงนี่นะ ยังไงสังคมก็ต้องสงสัยพ่อเลี้ยงมนัสอยู่วันยันค่ำ เพราะศัตรูคู่ปรับของศักดินนท์ก็มีเพียงสมรชัยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
ศตคุณลอบมองสีหน้าของคนรักเห็นแววตาโกรธแค้นก็กลืนน้ำลายอย่างหวาดหวั่น...แค่อารมณ์เมื่อวานของพ่อเลี้ยงเขาก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว โชคดีที่เขาไม่โดนเหวี่ยงใส่
จริงๆ แล้วก็แอบเชื่อคำพูดของอาโปที่บอกว่า...อาทิตย์ไม่มีทางทำอะไรหมูหรอกน่า...
แต่เชื่อไม่เต็มร้อยเท่าไหร่เพราะมันดูหลงตัวเองยังไงก็ไม่รู้
“อืม...อีกเรื่องหนึ่งที่กูอยากเตือนมึง ไม่เชื่อแค่เรื่องขัดผลประโยชน์กันอย่างเดียวแล้วนะตอนนี้...ลูกน้องกูรายงานมาว่ามีคนตามหมูมาได้สักพักแล้ว”
“ทำไมเพิ่งบอก?”
“อย่าเพิ่งโวยวาย หลังจากกูรู้กูก็ส่งคนดูแลตลอด”
ศตคุณได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกกลัวขึ้นมา...คนธรรมดาๆ ที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมาตลอดกำลังมาเจอเรื่องอะไรก็ไม่รู้ที่ทั้งวุ่นวายและอันตรายมากๆ อีก
“จริงเหรอครับ”
“ใจเย็นๆ นะหมู อาจะดูแลหมูอย่างดีเลย”
“แล้ว...คือ”
“อาอยากให้หมูอยู่ใกล้ชิดกับอาทิตย์ให้มากที่สุด เพราะจะได้มีคนคอยคุ้มกัน ไปเรียนและกลับพร้อมกับเจ้าเขต และก็อยู่ที่บ้านอาทิตย์มันสักพักจะได้ไหม เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง”
“แล้วผมจะบอกพ่อกับแม่ยังไงล่ะครับ” ศตคุณถามเครียดๆ เพราะไม่อยากให้พ่อกับแม่เป็นห่วงที่ลูกชายเข้ามาพัวพันกับเรื่องอันตราย
“ก็ต้องบอกตามจริง...”
“ผมไม่กล้าพูด...” บอกเสียงอ่อย
“เดี๋ยวฉันจะโทรบอกกับทางพ่อแม่นายเอง แล้วจะส่งคนไปดูแลพวกท่านด้วย” พ่อเลี้ยงเสนอตัวเอง ซึ่งร่างบางก็พยักหน้าให้อย่างจำยอม
คอยดูเถอะ...แม่กับพ่อได้โทรหาทุกวันแน่ๆ
“ครับ แบบนั้นก็ได้”
ศตคุณนั่งฟังอาทิตย์กับปริวัฒน์พูดคุยปรึกษาเรื่องต่างๆ ทั้งคดีใหม่และคดีเก่า หาช่องทางสืบว่าจะมีทางไหนสาวถึงตัวของคนบงการได้บ้าง มันเป็นเรื่องที่ฟังแล้วก็ทึ่ง ถ้าคิดในทางที่ดีก็ได้ประสบการณ์ในชีวิตดี เพราะเด็กวัยยี่สิบต้นๆ แบบเขาไม่มีทางจะมีปัญหาแบบนี้กันทุกคนแน่ๆ
เขตมันมีความสุขจริงๆ น่ะเหรอ...
นับถือหัวใจของเพื่อนเลย มิน่าล่ะ เขตมันถึงได้เป็นคนแข็งแกร่งได้ขนาดนี้
ภายในโรงอาหารในไร่ศักดินนท์ เหล่าคนงานก็พากันรุมคำปันใหญ่ สาเหตุมาจากเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมาเนี่ยแหละ
“มึงบอกกูมาเลยนะ ว่าทำไมไม่บอกเราดีๆ ว่าน้องหมูเป็นคนให้มึงทำ” สนชัยที่เป็นเพื่อนสนิทของคำปันรับหน้าที่ซักไซ้เอง
“ก็น้องหมูบอกกู ถ้าบอกว่าเป็นคำขอของน้องเขาพวกมึงจะไม่เชื่อและอาจจะละเลยได้ กูก็เลยบอกว่าเป็นคำสั่งของพ่อเลี้ยงไง พวกมึงก็เลยจริงจังกับการทำงานมาก ไม่งั้นจับคนวางเพลิงไม่ได้หรอก”
“อะไรทำให้มึงคิดแบบนั้นวะ”
“หรือไม่จริงล่ะ ตอนแรกกูก็คิดแบบพวกมึงนะ แต่พอฟังเหตุผลแล้วกูก็เข้าใจน้องหมูและทำตามที่น้องเขาต้องการอ่ะนะ” คำปันตอบพลางกินข้าวไปด้วยด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไร
“เหตุผลอะไรวะ”
“ก็น้องบอกว่าจะมีคนที่คิดแบบกูอยู่กี่คนกัน ยังไงน้องเขาก็ยังเด็ก ถึงปากบอกว่าเชื่อแต่ก็คงไม่ได้เชื่อจริงจังร้อยเปอร์เซ็นต์ ถูกป่ะล่ะ ฉะนั้นไปแดกข้าวกันได้แล้ว กูหิว กูเหนื่อย ไม่ตอบอะไรแล้ว”
คำปันออกปากไล่อย่างรำคาญ
ตอนนี้ศตคุณได้แสดงให้คนงานทั้งไร่ได้รับรู้แล้วว่าคนที่จะมายืนเคียงข้างพ่อเลี้ยง มาเป็นเจ้านายอีกคนของพวกเขามีความสามารถมากขนาดไหน
“น้องหมูแม่ง...สุดยอดว่ะ”
“เออ...ทั้งสวย แล้วก็ฉลาด กูนี่อิจฉาพ่อเลี้ยงมาบอกเลย”
“เหมือนกัน...กูน่าจะได้เจอน้องเขาก่อนเนาะ”
“ถุย!! ดูหนังหน้าตัวเองด้วย ถึงน้องเขาจะเจอมึงก่อนใช่ว่าน้องเขาจะชอบมึงนะเว้ย ไอ้ขี้เหร่!”
แล้วก็เกิดสงคราวย่อยๆ ระหว่างคนงานที่กำลังปลื้มคนรักของเจ้านาย ข่าวของศตคุณในฐานะคนรักของพ่อเลี้ยงอาทิตย์ที่วางแผนเฝ้าระวังกับดักจับคนร้ายแพร่สะบัดออกไปทั่วทั้งจังหวัด แน่นอนว่าทางไร่สมรชัยก็ต้องรู้ข่าวนี้ดี…
“คนรักของพ่อเลี้ยงอาทิตย์เป็นคนวางแผนรับมือเอาไว้ครับ”
“ข่าวนี้เชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์?”
“ครับพ่อเลี้ยง”
“ทำยังไงก็ได้ จับเด็กคนนั้นมาให้กู”
“แต่ผมว่ามันไม่ง่าย”
“ง่ายไม่ง่ายมึงก็ต้องทำ แล้วก็ทำยังไงก็ได้อย่าให้เดือดร้อนถึงกู”
“แต่...”
“ถ้ามึงไม่ทำ ก็ตายมันซะตรงนี้แหละ” พ่อเลี้ยงมนัสชักปืนออกมาขู่ลูกน้องของตนที่พยายามคัดค้านคำสั่งนี้ เพราะมันไม่ง่ายนักที่จะไปจับตัวของศตคุณมา
แต่ตามดูอยู่ห่างๆ ยังเข้าใกล้มากไม่ได้เลย เพราะมีคนตามเฝ้าอยู่ขนาดนั้น
“คำสั่งของกูถือเป็นคำขาด!!! มึงจะทำไหม!!!”
“ค่ะ...ครับ”
ลูกน้องของพ่อเลี้ยงมนัสละล่ำละลักรับคำสั่งเพราะหวาดกลัวว่าคนเป็นนายจะลั่นปืนปลิดชีพของตน...ก่อนจะออกไปจากภายในบ้านของเจ้านายไป
“ชิ!!!”
พ่อเลี้ยงมนัสกำหมัดแน่น...มันเป็นความโกรธที่คนที่เขาจ้างถูกจับไปโดยฝีมือของเด็กหนุ่มที่เขาสนใจอยู่ ยิ่งรู้แบบนั้นก็ยิ่งอยากได้มาไว้ข้างกาย
เพราะอย่างน้อยก็ทำให้อาทิตย์เจ็บปวด...และเขาจะได้มีคนเก่งๆ คอยช่วยงาน
พ่อเลี้ยงมนัสคิดอย่างง่ายดาย...
“พ่อจะทำอะไรน้องหมู” เมฆาที่แอบฟังคนเป็นพ่อสั่งลูกน้องอยู่แสดงตัวออกมา สีหน้าเครียดๆ ของลูกชายไม่ได้ทำให้คนเป็นพ่อสนใจเลย
“นี่แกกล้าแอบฟังฉันเหรอ!!!” คนเป็นพ่อถลึงตาใส่ลูกอย่าไม่พอใจ
“ถ้าไม่แอบฟังผมจะรู้เหรอว่าพ่อกำลังจะทำเรื่องน่ารังเกียจอีกแล้ว”
“ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน แกอย่ามายุ่ง!!”
“เรื่องอื่นผมไม่ยุ่ง แต่นี่พ่อกำลังเอาเด็กที่ไม่เกี่ยวอะไรด้วยมายุ่งกับเรื่องแค้นๆ ของพ่อ ผมไม่ยอม”
“แกกล้าขัดฉันเหรอฮะไอ้เมฆ!!”
“พ่อก็บอกสิว่าจะพาน้องหมูมาทำอะไร”
“อยากรู้ใช่ไหม? ได้!! ฉันก็จะเอามาเป็นแม่เลี้ยงแกไง!!! ได้ยินชัดหรือยัง”
“พ่อคิดว่าน้องหมูจะยอมพ่อหรือไง แค่พ่อจับมือเขา เขาก็รังเกียจพ่อจะแย่อยู่แล้ว”
“ไอ้ลูกเวร!! กล้าว่าฉันเหรอห๊ะ...เฮอะ! แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ใครๆ ก็ชอบเงินกันทั้งนั้น ลองฉันให้ได้ทุกอย่างเหมือนที่อาทิตย์มันให้ ยังไงเด็กนั่นก็ต้องอยู่”
“พ่อคิดว่าน้องหมูเหมือนคนอื่นหรือไง ถ้าเหมือนพ่อเลี้ยงไม่จริงจังด้วยหรอกนะครับ”
“แล้วไง...ใครมันก็เป็นทาสของเงินกันทั้งนั้นแหละ”
“แต่กับน้องหมู...ไม่ใช่”
“เออ!!! แกคอยดูก็แล้วกัน...ว่าใช่หรือไม่ใช่” เขาชี้หน้าบอกลูกชายไปอย่างมั่นอกมั่นใจจบ ก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไป ทิ้งให้ลูกชายยืนนิ่งอยู่กลางบ้านเหมือนเดิม...
เมฆาเม้มปากแน่น ไม่ได้โกรธพ่อที่พูดออกมาแบบนั้น แต่กำลังคิดหาทางช่วยศตคุณต่างหาก...
เขาจะไม่ยอมให้พ่อตัวเองทำร้ายเพื่อนของคนรักตัวเองแน่ๆ
ชั่วชีวิตนี้เมฆารู้ดีว่าพ่อของตนทำไม่ถูกมาหลายอย่าง เขาก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปยุ่งหรือก้าวก่าย...แต่เรื่องนี้ยอมไม่ได้จริงๆ
น้องหมูเป็นคนดีเกินกว่าจะมาแปดเปื้อนเพราะพ่อของเรา
...
...
...
หลังจากที่กลับมาจากโรงพักแล้ว พ่อเลี้ยงอาทิตย์กับศตคุณก็กลับมาที่ไร่ แล้วประชุมกันกับพายัพ คณิน อาโป...ทุกคนดูเหนื่อยและอิดโรยกันมากแต่ก็ไม่มีใครปริปากบ่นเลย
“ความเสียหายก็ตีเป็นเลขเท่านี้น่ะอาทิตย์” อาโปยื่นเอกสารที่ตัวเองเป็นคนจัดทำให้กับเพื่อนสนิทดู...
“อืม...ไม่ถึงแสน...ก็ดี แล้วในโกดังล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ให้คนงานตรวจดูแล้วก็ไม่มีว่ะ พวกมันเลือกเผาที่สวนส้มเพราะอยู่ท้ายๆ ไร่ ถ้ารู้ตัวก็คงจะมาถึงช้า...แต่ก็โดนคนของเรามาเห็นได้ก่อนน่ะ” พายัพตอบ
“อืม...กูรู้มาจากพวกมันแล้ว”
“ช่วยบอกบัญชีด้วยว่าให้จัดสรรเงินตอบแทนพิเศษให้คนงานคนละพันตอนสิ้นเดือนด้วย”
“ได้...กูจะจัดการให้”
ในขณะที่กำลังคุยงานกัน เสียงโทรศัพท์ของลูกชายพ่อเลี้ยงอาทิตย์ก็ดังขึ้นขัดการพูดคุยของทุกคน
Rrrrrr…
“ขอรับโทรศัพท์นะครับ” คณินเอ่ยขึ้นมา ซึ่งผู้ใหญ่ทั้งสามคนก็พยักหน้าเชิงอนุญาต
“ว่าไง...ฮะ!! จริงหรือเปล่า? แล้วไม่โดนพ่อทำอะไรใช่ไหม...อืม เดี๋ยวบอกพ่อให้ ขอบคุณมากนะที่โทรมาบอก วางสายไปเถอะ เดี๋ยวคนของพ่อนายมาได้ยินเข้าแล้วจะซวย อือ...ดูแลตัวเองด้วย แล้วอย่าไปไหนมาไหนกับไอ้ศรันย์ด้วย อืม...เดี๋ยวค่อยเจอกัน” คณินวางสายไปแล้วหันมองหน้าหวานของเพื่อนอย่างเครียดๆ ก่อนจะหันไปสบตากับพ่อตัวเอง
“มีอะไรเขต…”
“พ่อ...เมฆโทรมาบอกว่าพ่อเลี้ยงมนัสสั่งให้ลูกน้องจับตัวหมูไป”
“ชิ!! ไอ้แก่นั่น” ร่างสูงขบกรามอย่างไม่พอใจ
“มันจะเอาไปทำอะไร เมฆรู้หรือเปล่า” อาโปถามขึ้นมา
“เมีย...” คณินตอบสั้นๆ แต่สร้างความโมโหให้กับอาทิตย์ได้ดี เหมือนเป็นน้ำมันราดเข้าไปในเพลิงให้ยิ่งกระพือลุกไหม้ ขนาดที่คนเป็นเป้าหมายยังรู้สึกกลัวมากกว่าที่จะกลัวโดนจับเสียอีก
แต่เขารู้...ว่าคนรักจะไม่ปล่อยให้ตัวเขาต้องโดนจับตัวไปแน่
“อาทิตย์นี้หยุดเรียนทั้งอาทิตย์เลยนะหมู...แกด้วยเขต เพราะพ่อไม่ไว้ใจให้แกกับหมูคลาดสายตาแน่ๆ ทั้งอาทิตย์นี้ฉันคงวุ่นวาย นักข่าวก็ยังต้องการข่าว ไหนจะโรงบ่มไวน์ที่กำลังสร้างอยู่ ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บผลผลิต ต้องเช็คนมโคส่งเขาอีก...พ่อกะว่าจะให้แกขึ้นไปไร่สตรอเบอร์รี่ด้วย สลับกับดูเขตตะวันไป หาคนจัดเวรเฝ้าทุกวันก็ดี เพราะกลัวมันจะไปที่อื่นๆ ด้วย ส่วนร้านขายของฝากคงไม่น่าเป็นอะไรเพราะอยู่ในเมืองคนพลุกพล่าน แต่ก็ฝากมึงประสานงานกับผู้จัดการทุกสาขาเอาไว้ด้วยนะพายัพ”
“ทั้งสองร้อยแปดสิบเอ็ดสาขาเลยใช่ไหม โอเคเดี๋ยวกูจะให้ผู้ช่วยจัดการส่งอีเมล์ให้”
“เหนื่อยหน่อยนะมึง ขอโทษนะอาโปที่ต้องใช้งานพายัพมันหนักน่ะ”
“จะขอโทษทำไมล่ะอาทิตย์...ก็เป็นงานของพายัพอยู่แล้วนี่นา”
“เดี๋ยวอาโปก็ต้องอยู่คนเดียวอีก ฉันต้องให้พายัพกลับบ้านค่ำๆ ทุกวันนะ ห้าโมงเย็นแบบแต่ก่อนไม่ได้แล้ว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น คนที่บงการถูกจับได้แล้ว ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นวันไหน”
“อย่าคิดมากสิอาทิตย์ ถ้าพายัพกลับดึก ฉันก็แค่มาทำงานกับพายัพแค่นั้นเอง”
“อย่าคิดมากสิวะอาทิตย์ เมียกูยังไม่เห็นจะโกรธอะไรเลย ที่สำคัญ...กูก็ศักดินนท์คนหนึ่งนะเว้ย...ถึงไม่ใช่สายเลือดพ่อกับแม่ แต่กูก็คือศักดินนท์ เป็นพี่ชายของมึงนะ...” พายัพพูดติดตลอก เพื่อไม่ให้อาทิตย์เครียดไปมากกว่านี้
และมันก็ได้ผลเพราะเจ้าของไร่หัวเราะออกมาน้อยๆ
“เหอะ...พี่กูวันเดียวเนี่ยนะ?”
“ก็พี่ไหมล่ะ”
“เออ...อยากเป็นพี่ก็เป็นไปเลย กูไม่ซีเรียส” อาทิตย์ยักไหล่นิดๆ แล้วก็พูดเรื่องงานกันต่อ “ภูถึงดาวก็ฝากหมูเหมือนเดิมนะ...แต่ถ้ามีปัญหาอะไรที่ต้องไปที่นั่น ช่วยบอกฉันหน่อยนะหมู...อย่าไปไหนมาไหนคนเดียว นายก็รู้อยู่ว่าตัวเองกำลังเป็นเป้าหมาย คงไม่อยากเห็นฉันบ้าตายใช่ไหม?” ร่างสูงกำชับกับคนรักอย่างจริงจังและหนักแน่น
“ครับ...ผมจะบอก...พี่อาทิตย์ทุกเรื่องเลยครับ”
“ดีมาก...” อาทิตย์ยิ้มให้ศตคุณแต่แววตากลับไม่ยิ้มตามปาก ซึ่งศตคุณก็เห็นความกลัว ความกังวล และความเหนื่อยจากแววตานั่น
พ่อเลี้ยงคงเหนื่อยมากสินะ แล้วยังมีเขามาเป็นหนึ่งในปัญหาอีก...
“ขอโทษที่ทำให้เหนื่อยนะครับ ขอโทษที่เป็นตัวปัญหา” ร่างบางเอ่ยขอโทษออกมาอย่างรู้สึกผิด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดอะไรของตนเลย แต่เขาก็รู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนเหนื่อยเพิ่ม
“หมู!!!” สี่เสียงเรียกชื่อของศตคุณอย่างพร้อมเพรียงกันที่ร่างบางบอกว่าตัวเองเป็นตัวปัญหา ซึ่งมันทำให้ทั้งพ่อเลี้ยง คณิน พายัพ และอาโปต่างก็โกรธ
ศตคุณสะดุ้ง ก้มหน้ามองมือตัวเองไม่กล้าสบตากับทั้งสี่คนเลย
“ไม่มีใครคิดว่านายเป็นตัวปัญหา...อย่าพูดแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ!!” ร่างแกร่งของเจ้าของไร่สั่งด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะลุกออกจากห้องไปอย่าโกรธๆ
ร่างบางมองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างรู้สึกผิด...
=====================
ทำงานเสร็จก็รีบมาลงเลย แม้ว่าจะง่วงนอนและมีเรียนตอนเช้าก็ตาม
คงมีไม่เยอะหรอกเนาะที่จะมารออ่านถึงตอนนี้
ถ้าใครอ่านแล้ว อย่าลืมเม้นท์นะคะ เม้นท์น้อยวันอาทิตย์หน้าไม่ลงค่ะ (ยูกิจะนอยด์ ฮ่าๆ)
https://www.facebook.com/sawachiyuki/