LengZab 21
"ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล"
50%
"ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันเหรอเล้งอุตส่าห์มาช่วยงานม้าทั้งวัน"พรรณีเอ่ยถามเมื่อเล้งลากลับ ย้งยี้ที่ทำกับข้าวอยู่ในครัวชะงักมือที่คนแกงเพื่อเงี่ยหูฟัง
"ไม่ดีกว่าครับ..."มันอดมองเข้าไปในครัวที่มึร่างสะโอดสะองของย้งยี้อยู่ไม่ได้
"ม้าทานกับย้งเถอะครับมีผมอยู่จะอึดอัดเปล่าๆ"
"คิดมากน่าไม่ได้อึดอัดอะไรหรอก...เสียดายจังวันนี้เห็นย้งบอกจะทำใบมะขามอ่อนต้มกะทิแบบที่เล้งเคยชอบกิน ถ้าไม่กินด้วยกันก็รอตักกลับบ้านมั้ยลูกจะได้เอาไปฝากป๊าด้วย"
"ไม่เป็นไรดีกว่าครับม้า พอดีเมื่อกลางวันไอ้เจงกับไอ้อินโทรมาชวนไปกินข้าวตอนเย็น"
"อ่อ...งั้นก็ไปเถอะ อย่ากินเยอะจนเมานะเล้งมันอันตราย"พรรณีตอบอย่างเข้าใจ เล้งยกมือไหว้ลาก่อนจะชะโงกหน้าตะโกนบอกย้ง
"เฮียกลับก่อนนะย้ง จะไปหาไอ้อินกับไอ้เจง"มันรอดูท่าทีของย้งยี้แต่เมื่อน้องไม่สนองตอบอะไรเลยมันก็หันหลังจากไปอย่างเงียบๆ
เล้งในตอนนี้เหมือนเสือสิ้นลาย
มันหมดหนทางจะง้อย้งยี้แล้วจริงๆ ปกติมันก็เป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ค่อยแสดงออกอยู่แล้วพอมาเจอแบบนี้มันก็พยายามที่จะสื่อสารกับย้งแต่รายนั้นไม่รับฟังมันเลย
ช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่เล้งไม่ได้ติดต่อกลับมามีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงย้งยี้ไปจนมันรับมือไม่ได้
มันคิดถึงย้งยี้ที่เคยสดใสคนก่อน อย้างน้อยแค่ได้ยินเสียงเรียกพี่เล้งจ๊ะพี่เล้งจ๋าก็ยังดี
ฝ่ายอีตัวดีพอเล้งไปใจก็อยู่ไม่สุขข้าวมื้อเย็นก็กินได้นิดเดียว
ทั้งๆที่ตั้งใจทำของโปรดให้กินแล้วแท้ๆก็ยังไม่อยู่กินแถมนี่ยังจะออกไปกินเหล้ากับพี่เจงพี่อินอีกถ้าเมาใครจะพากลับขับกันแต่มอเตอร์ไซค์
หงุดหงิดจนจะบ้า...
"อิ่มแล้วเหรอลูก?"พรรณีมองลูกสาวที่รวบช้อนยกน้ำขึ้นดื่มทั้งๆที่เพิ่งกินข้าวไปไม่กี่คำ
"อิ่มแล้วจ้าม้า"
"ย้งกินน้อยแบบนี้จะไปเอาแรงที่ไหน ผอมเกินไม่ดีนะลูก"
"มื้อเย็นย้งกินไม่เยอะน่ะม้า"ย้งยี้แก้ตัวเสียงอุบมันนั่งคุยกับหม่าม้าไปเรื่อยๆเป็นเพื่อนม้าจนพรรณีอิ่มจึงได้ยกกับข้าวเก็บส่วนถ้วยชามพรรณีเป็นฝ่ายเก็บล้างเองเพราะย้งยี้แพ้น้ำยาล้างจานเมื่อทุกอย่างแล้วเสร็จก็ขึ้นไปนั่งดูทีวีกันพักหนึ่งใช้เวลาแม่ลูกด้วยกัน ย้งยี้มาร์กหน้าให้แม่ตัดเล็บมือเล็บเท้าให้แม่เสร็จพอสามทุ่มคนเป็นแม่ก็เข้านอนเป็นกิจวัตรของพรรณีเพราะเธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสอง ย้งยี้อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเข้านอนก็พอดีกับที่โทรศัพท์มีสายเรียกเข้าเมื่อหยิบขึ้นมาดูหน้าจอก็โชว์ชื่อจิวยี่พี่ชายสุดที่รัก
"ว่าไงเฮีย"
"อีเด็กไม่มีสัมมาคาราวะรับสายไม่เพราะหักค่าขนมห้าพัน"
"โอ้ย...ขอโทษได้มั้ยอ่ะ แหมตั้งแต่จ่ายเงินเดือนให้น้องนี่ขู่เก่ง"ย้งยี้แกล้งแซวพี่ชายที่พอเรียนจบและทำงานก็ช่วยพรรณีจ่ายค่าเทอมและให้ค่าขนมน้องทุกเดือน สองพี่น้องคุยเล่นรวมทั้งถามตารางงานที่ย้งยี้ต้องทำอาทิตย์หน้าได้ซักพักจิวยี่ก็เอ่ยถามเรื่องเล้งขึ้นมา
"แล้วกับไอ้เล้งเป็นไงบ้าง"
"ก็ไม่เป็นไงนี่ต่างคนต่างอยู่"
"อะไรนี่มึงสองคนยังไม่ดีกันอีกเหรอ อยู่ด้วยกันมาจะเดือนหนึ่งแล้วนะ"จิวยี่ร้องถามอย่างแปลกใจ เขาคิดว่าสองคนคุยกันแล้วเพราะเล้งก็ไม่ได้บอกอะไรเวลาโทรหาส่วนย้งยี้ก็ไม่เล่าอะไรเขาก็คิดว่าน้องกับเพื่อนคุยกันรู้เรื่องแล้วเสียอีก
"ก็ไม่มีอะไรจะคุยนี่เพราะถ้ามีเขาคงหาทางคุยกับย้งตั้งแต่ปีที่แล้ว"
"มึงนี่ก็นะ เหลือนิสัยผู้ชายไว้บ้างก็ได้นะ ไอ้การเก็บนั่นเก็บนี่มาคิดหยุมหยิมมันจะพาลทำให้มึงกับไอ้เล้งต้องเลิกกันจริงๆ"
"ก็พี่เล้งทิ้งย้งไว้ตั้งปีหนึ่งไปมีใครที่นู่นจนลืมย้งหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"คิดเองเออเองเก่ง มันก็บอกความจำเป็นของมันแล้วคนรักกันอ่ะมึงอะไรข้ามได้ก็ข้ามเถอะ"
"เฮียยี่ก็พูดได้สิเฮียยี่ไม่ใช่คนรออย่างย้งนี่"
"แต่การหายไปของมันก็เพราะความจำเป็นนะอีย้ง จำตอนก่อนป๊าเราจะเสียได้มั้ย ตอนนั้นหม่าม้าไปเฝ้าป๊าบ้านช่องไม่ได้กลับ เพราะมึงยังเด็กเลยไม่เห็นว่าป๊าทรมานแค่ไหนก่อนตาย ม้าอยู้เฝ้าตลอดถ้าไม่มีอากงอาม่าคอยดูแลเราม้าจะห่วงหน้าพะวงหลังยังไงบ้าง เรารู้แค่ว่าเรารอเราเหนื่อยแต่เราก็ไม่ได้ไปเห็นว่าที่นู่นไอ้เล้งต้องเจออะไรบ้าง มันตัวคนเดียวไม่มีใครช่วย มึงอยู่ทางนี้เหนื่อยหรือตรอมใจยังมีม้ามีกูมีออนอยู่ข้างๆแต่มันอยู่ที่นั่นมันไม่มีใครช่วยเลยซักคนไม่สังเกตมันเหรอใต้ตาก็คล้ำ แถมผอมซูบอีกต่างหาก"
"เฮียยี่เข้าข้างเพื่อนไม่เข้าข้างน้อง"เมื่อเถียงไม่ได้ก็ตัดพ้อคนเป็นพี่
"กูถามจริงๆเถอะมึงยังรักมันอยู่หรือเปล่า"จิวยี่เอ่ยถามด้วยความเหนื่อยใจ
"....."
"ถ้าไม่ได้รักมันแล้วก็ถอดเกียร์คืนมันไปซะย้ง เดี๋ยวกูบอกให้มันย้ายออกไปหาที่อยู่เอง อย่าทนอยู่เลยถ้าอยู่ไปไม่มีความสุข มันพาลจะรั้งกันไปทั้งสองฝ่าย"
"......"ย้งยี้เม้มปากแน่นเมื่อฟังพี่ชายพูดนิ้วเรียวเลื่อนมาแตะเกียร์เงินบนคออย่างลืมตัว
ทางด้านเล้งเมื่อกลับมาที่อู่มันก็ช่วยป๊าปิดร้าน เล้งกับป๊าคุยกันเรื่องกลับมารับช่วงต่อที่อยู่ซึ่งพ่อลูกตกลงกันไว้ว่าจะให้เล้งทำงานของตัวเองไปก่อน้พื่อสั่งสมวิชาและประสบการณ์แปะหลิวเองก็กำลังก่อสร้างสถานที่เปิดอู่ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมแถมจะเปิดเต๊นท์รถมือสอง ตอนนี้แปะหลิวยังแข็งแรงคล่องแคล่วเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลงตัวเล้งก็มีประสบการณ์มากพอเขาก็จะยกกิจการให้ลูกชายคนเล็ก แปะหลิวก็จะเกษียณตัวเองไปท่องเที่ยวก่อนที่ความชราภาพจะมาทำให้ไปไหนมาไหนไม่ได้ พอสองทุ่มเล้งก็ขับมอเตอร์ไซค์ไปผับดังที่อยู่บริเวณท่าน้ำ จริงๆก็เป็นร้านเหล้าที่มีดนตรีสดเล่นและมีอาหารจำหน่าย เล้งมองไปยังโต๊ะประจำที่เคยมากับเจงและอินและก็ไม่ผิดหวังเมื่อเห็นไอ้เพื่อนสนิทนั่งยกกันอยู่
"เพิ่งจะสองทุ่มมึงรีบกันเหรอ?"เล้งตบหัวเจงที่กำลังกระดกเหล้าเข้าปากจนเจงสำลัก แต่พอหันมาเห็นเล้งมันก็ลุกขึ้นแหกปากโหวกเหวกรวบเล้งไปกอดด้วยความดีใจแบบโอเวอร์แอคติัง
"เพื่อนเล้งงงงง เพื่อนรักกกกกกก"เล้งรีบผลักเจงออกทำหน้าอี๋ใส่แล้วหันไปพยักหน้าให้อินที่ยกแก้วเหล้าทัก
"ไงมึงหายไป 2-3 ปี ดูโทรมขึ้นนะ"
"ไม่ค่อยได้พักว่ะ"เล้งรับแก้วเหล้าที่อินชงมายกดื่ม
"ป๊ามึงบอกอยู่ว่ามึงอยู่ทางนั้นลำบาก"
"เออทั้งลำบากทั้งเครียดเลย ยิ่งช่วงเขาใกล้เสียยิ่งแย่กูใกล้สอบด้วยเขาก็ทรุด"
"คนทางนี้ก็แย่ มึงรู้ป่าวย้งมันตรอมใจจนเข้าโรงพยาบาล"
"กูเพิ่งรู้ตอนกลับมานี่แหละไอ้ยี่บอกกูด่ากูจนหูชา"
"ก็สมควรมีอย่างที่ไหนอยู่ๆหายหัวไปเป็นปีๆกับพวกกูมึงก็ไม่ติดต่อมา"อินยกแก้วเหล้าขึ้นจิบมองหน้าเพื่อนที่ไม่ค่อยสดใส
"มีปัญหาหลายอย่าง กูผิดเองด้วยที่ลืมนึกถึงใจย้งมันตอนนั้นคิดแค่ว่าให้มันผ่านไปวันๆก็พอมีเวลากูก็หลับกลางอากาศแล้ว เคยอ่านหนังสือไปให้น้ำเกลือไปก็บ่อย"
"เหมือนเอามึงไปทรมานทรกรรมแท้"เจงพูดอย่างเห็นใจแต่เล้งก็ส่ายน้า
"ไม่หรอก เอาตรงๆอันที่จริงกูก็ไม่ได้อยากไป แต่ในบรรดาสามคนพี่น้องอี๊รักกูที่สุดเพราะเขาเลี้ยงกูตั้งแต่ม้ากูตาย พอไปอยู่ด้วยกันเขาก็น่าสงสาร กูไม่มีแม่กูเลยมองเขาเป็นแม่คนหนึ่ง ตอนแรกก็จำใจดูแล ต้องคอยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวต้องทำทุกอย่าง แต่หลังๆก็ก็เต็มใจที่จะดูแลเขามันผูกพันกันไปแล้ว"
"มึงเป็นคนดีไงไอ้เล้งถ้าเป็นกูๆสองคนไม่รู้จะทนได้เท่าที่มึงทนมั้ยแล้วนี่กับย้งเป็นไงมั่ง มันเองก็ไม่ค่อยได้กลับบ้านกูเคยเห็นมันแว้บๆในทีวีถ่ายโฆษณาอะไรซักอย่าง"เล้งยกแก้วเหล้าขึ้รดื่มจนน้ำสีอำพันจางพร่องลงไปมากกว่าครึ่ง มันถอนหายใจอย่างอึดอัดยื่นแก้วส่งให้อินเติม
"ตั้งแต่กลับมาพูดกับกูนับคำได้ไม่เลิกก็เหมือนเลิกโกรธกูจัดกลับมาแรกๆหน้ากูยังไม่มองเลย"
"อาร๊าย!!! นี่มึงกลับมาจะเดือนแล้งป่ะป่านนี้ยังง้อไม่สำเร็จอีกเหรอ?'เจงร้องถามออกมาอย่างตกใจ
"ง้อประสาอะไรของมึงวะไอ้เล้งครึ่งค่อนเดือนย้งมันยังไม่ยอมใจอ่อน"คราวนี้เป็นอินที่ถามออกมาบ้างมันยื่นแก้วคืนเล้ง
"เก่งมาตลอดเสือกมาตกม้าตายแบบนี้มันกากนะ"
"จะให้กูทำยังไงล่ะกูจะพูดอะไรย้งมันก็หนีเข้าห้องอย่างเดียว"
"เรื่องนี้มึงต้องโทษตัวเองก่อน เพราะมึงละเลยย้งมัน กูเข้าใจว่ามันเป็นความเคยชินของมึงแต่มึงอย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของมึงไม่ใช่เพื่อนพี่กับน้องเพื่อนแล้ว ข้อเสียของมึงคือมึงเก็บทุกอย่างไว้กับตัวไม่พูดไม่บอกใครมึงชอบคิดว่าคนอื่นจะต้องเข้าใจมึง ระหว่างมึงกับย้งจะไม่มีปัญหาเลยถ้ามึงโทรมาบอกมันซักครั้งก่อนจะหายไปว่ามึงมีความลำบากอะไร แต่นี่มึงไม่โทรมาไงมึงปล่อยใหัน้องมันรอโดยไม่มีจุดหมายอะไรเลย"
"เจง...ไม่ใช่ว่ากูไม่คิด กูคิดแล้ว ตอนนั้นมันเหนื่อยมากๆกูก็แค่ไม่อยากเอาความหงุดหงิดความเหนื่อยมาลงกับย้ง มึงก็รู้นิสัยกูดีเวลากูเหนื่อยกูชอบพูดจาไม่ดี แล้วมันเป็นรักระยะไกลโกรธกันงอนกันกูก็มาง้อไม่ได้"
"คิดเองเออเองเก่งนะมึงอ่ะ ในความคิดกูย้งเป็นเด็กมีเหตุผล"
"ใช่...กูถึงได้บอกไงว่ามึงควรเลิกคิดเอาเองว่าคนนู้นคนนี้จะโอเคกับสิ่งที่มึงทำ ยิ่งเป็นแฟนกันน่ะยิ่งต้องแชร์กันจะสุขจะทุกข์ก็ต้องบอกกัน กูมั่นใจว่าย้งมันยังรักมึงแต่น้องมันยังเด็กถึงแม้เดี๋ยวนี้จะทำตัวเปรี้ยวเยี่ยวราดยังไงมันก็ยังเด็กจะง้อน่ะไม่ยากหรอก"
"ยังไง?"เล้งถามอย่างอยากรู้ เจงกับอินมองหน้ากันแล้วยิ้มกริ่ม
"มึงทำตามที่พวกกูสองคนบอก ในเมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนตร์ก็ต้องเอาด้วยคาถากูสองคนจะไม่มีทางยอมให้เรือของมึงจม จำไว้"
"เล้งยี้เนเวอร์ดาย!!!"
ย้งยี้สะดุ้งตื่นกลางดึกเมื่อโทรศัพท์ที่วางไว้หัวเตียงสั่นไม่หยุดเหลือบมองนาฬิกาก็เป็นเวลาเกือบตีสองเด็กสาวมองเบอร์หน้าจอแล้วขมวดคิัวฉับ
"พี่เล้ง..."มันลังเลว่าจะรับดีมั้ยก็พอดีกับที่หน้าจอดับไป พอจะวางโทรศัพท์ลงที่เดิมหน้าจอก็สว่างขึ้นมาใหม่ด้วยเบอร์ใหม่ที่โชว์ชื่อของอิน
"ฮัลโหลพี่อินโทรมาดึกๆมีอะไร"
"ย้ง...ย้งช่วยมารับไอ้เล้งที เมาแอ๋ขับรถกลับไม่ได้"น้ำเสียงอินอ้อแอ้ฟังพอจับใจความได้ ย้งยี้ตีหน่าหงิกทันที
ก็ไหนตอนเย็นได้ยินรับปากหม่าม้าเสียดิบดีว่าจะไม่เมาไง
"อยู่ที่ไหนล่ะ"ที่สุดก็ถามสถานที่ออกไปด้วยใจกรุ่นๆ เมื่อแต่งตัวลงมาข้างล่างก็เจอพรรณีเปิดประตูแอกจากห้องมาพอดี
"อ้าวย้ง จะไปไหนลูก?"
"พี่อินโทรมาให้ช่วยไปเอาพี่เล้งกลับน่ะม้า เมาหนัก"
"งั้นก็ขับรถดีๆนะลูก"ย้งยี้ใช้เวลาขับรถมาหน้าผับไม่นานมันสอดส่ายสายตามองหากลุ่มของเล้งก็เห็นเจงกับอินหิ้วปีกอยู่ข้างถนน บรรดานักเที่ยวต่างทยอยกันกลับเพราะได้เวลาผับปิดมันลดกระจกเรียกเจงกับอินให้เอาเล้งมาใส่รถ
"แล้วรถของพี่เล้งล่ะ?"
"เดี๋ยวพี่เอากลับให้"เจงขันอาสา
"ทำไมปล่อยให้กินจนเมาขนาดนี้เนี่ย"ย้งยี้บ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะโน้มตัวไปใส่เข็มขัดนิรภัยให้
"เห็นมันบอกมีเรื่องกลุ้มใจถามว่าเรื่องอะไรก็ไม่ยอมบอกยังไงฝากย้งดูมันด้วยพี่สองคนกลับบ้านก่อน เมาเหมือนกัน"
"ขับกลับดีๆนะพี่ไม่ต้องซิ่งย้งขี้เกียจไปนั่งกินข้าวต้ม"
"โตเป็นสาวแล้วปากคอเราะร้ายจริงๆนะเรา"
"ไอ้เจงมึงก็เลิกชวนคุยซักที ย้งก็กลับดีๆนะเอามันขึ้นไปนอนไหวป่าวให้พวกพี่ไปช่วยแบกมั้ย"
"ไม่เป็นไรย้งไหวพวกพี่กลับเถอะ ขอบคุณมากที่โทรมาบอกนะ แต่เมาขนาดนี้คราวหลังพี่ก็ปล่อยนอนข้างทางนี่แหละ"ย้งยี้บ่นแล้วจึงออกรถเพียงแค่เลี้ยวไม่กี่ร้อยเมตรก็พาตัวเองและเล้งมาจนถึงอู่ ย้งยี้ประคองร่างหนาที่ไร้การทรงตัวมาจนถึงหน้าบ้าน
"กุญแจบ้านอยู่ไหนพี่เล้ง"มันพยายามคลำหากุญแจบ้านเพราะไม่อยากรบกวนเรียกแปะหลิวเล้งล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วส่งพวงกุญแจให้ย้ง อีตัวดีที่ไม่ได้เอะใจอะไรก็ไขเข้าบ้านพยุงร่างที่ทั้งหนาทั้งหนักขึ้นมาจนถึงห้องของเล้งมันทิ้งร่างของเล้งลงบนเตียงมองคนเมาหมดสภาพแล้วให้นึกโมโห
"พี่เล้ง..."ลองเอ่ยเรียกคนที่นอนแผ่บนนเตียงก็ไม่ได้รับการตอบกลับ ย้งยี้ถอนหายใจมองคนเมาหมดสภาพแล้วจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเล้งหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กออกมาแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ก็ยังคงจัดวางสิ่งของเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน กะลังมังใบเล็กยังคงคว่ำอยู่ในตู้ใต้อ่างล้างหน้า ย้งหยิบมันขึ้นมาล้างแล้วรองน้ำใส่ครึ่งหนึ่ง
"เช็ดตัวหน่อยนะพี่เล้งจะได้นอนสบายๆ"มันบอกกับคนเมาก่อนจะค่อยๆปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก ย้งยี้ค่อยๆใช้ผ้าซับลงบนหน้าของเล้งด้วยความเบามือยามเมื่อซับถึงต้นคอเล้งก็จับมือบางไว้ดวงตาคมที่มักจะฉายแววฉุนเฉียวให้กับใครต่อใครยกเว้นย้งยี้ค่อยๆลืมขึ้นสบตากัน
"ย้ง..."คนเมาร้องเรียกเสียงแผ่วดวงตาคมฉายแววอ้อนวอน
"ยกโทษให้เฮียได้มั้ย?"เล้งยกมือของย้งไปกดจูบ จุฑายศลมหายใจสะดุดกับการกระทำนั้น หัวใจที่เคยคิดว่ามันควบคุมได้กลับสั่นระรัวอย่างน่าโมโห
"ถ้าเมาก็นอนเถอะ ไม่ต้องพูดอะไรหรอก"ย้งดึงมือตัวเองออกอย่างแผ่วเบาเตรียมจะลุกหนีหากแต่เล้งกลับลุกขึ้นแล้วดึงย้งไปกอด
"ฟังเฮียหน่อยได้มั้ย ฟังเฮียอธิบายให้จบจากนี้ถ้าจะเลิกเฮียก็จะไม่รั้งไว้"มันซบหน้ากับไหล่ของน้องฉกฉวยช่วงเวลาอันน้อยนิดนี้เพื่อเคลียร์ตัวเอง ย้งยี้นั่งนิ่งไม่ได้กอดตอบดวงตากลมสั่นระริกเคลือบไปด้วยน้ำวาวใสที่พร้อมจะกลิ้งหล่นตลอดเวลา
"เฮียขอโทษ..."อีกครั้งที่คำขอโทษถูกเปล่งออกมา
ซ้ำแล้ว
ซ้ำอีก
"ขอโทษที่ละเลยความรู้สึกของย้ง"มันกระชับกอดเอวบางให้แน่นขึ้นช่วงอกแนบสนิทจนรับรู้การเต้นของหัวใจของกันและกัน
"ขอโทษที่คิดไปเองคิดว่าย้งรอได้"เล้งกดจมูกฝังลงบนต้นคอขาวอย่างเว้าวอน
"ขอโทษที่ไม่พยายามจะติดต่อมาทำให้ย้งคิดมาก เฮียเอาแต่คิดว่าเฮียไม่อยากเอาปัญหาของเฮียมาทำใก้ย้งต้องเป็นทุกข์ไปด้วย เฮียคิดแค่ว่าเฮียไม่อยากพาลใส่ย้ง"
"พี่เล้งก็รู้ว่าย้งพร้อมจะเข้าใจ"ย้งยี้เอ่ยท้วงเสียงสั่น
"รู้ว่าย้งจะเข้าใจ แต่ถ้าเฮียหงุดหงิดใส่บ่อยๆล่ะวันหนึ่งก็จะมีจุดที่ทนไม่ได้เหมือนครั้งนั้นที่ย้งเตือนเฮียเรื่ิองบุหรี่แล้วเฮียด่าย้งเรายังโกรธกันเป็นอาทิตย์ แล้วในกรณีนี้ถ้าย้งงอนเฮียๆจะทำยังไงจะกลับมาง้อก็ไม่ได้ถ้าปล่อยเวลาให้นานเราไม่ต้องเลิกกันเหรอ"
"แค่โทรมาบอก ซักครั้ง...แค่ครั้งเดียวพี่เล้งว่าช่วงนี้อาจจะขาดการติดต่อเพราะอาอี๊ทรุดย้งก็เข้าใจพี่เล้ง ในสายตาพี่ย้งงี่เง่างอแงขนาดนั้นเลยเหรอ พอพี่หายไปแบบนี้ย้งก็มาคิดว่าระดับความรักของเราไม่เท่ากันย้งรักพี่ตั้งแต่ต้นก็ให้เต็มร้อยจนตอนนี้มันก็ยังเต็มร้อยอยู่แต่สำหรับพี่มันเริ่มจากศูนย์จนตอนนี้มันก็ยังคงไม่เต็มร้อยซักที ย้งอยากได้ความชัดเจนพี่ก็ให้ไม่ได้ ย้งไม่มั่นใจอะไรเลยว่าระหว่างเรามันจะไปต่อได้มั้ย"ย้งยี้หยุดสะอื้นเมื่อมันกักน้ำตาไว้ไม่ไหวมันเลื่อนมือขึ้นมากอดเล้งตอบ
"เมื่อเย็นเฮียยี่โทรมา เฮียยี่บอกกับย้งว่าถ้าย้งไม่รักไม่ให้อภัยพี่เล้งก็ให้ย้งถอดเกียร์คืนพี่เล้งไปซะ..."
"ไม่เอา!!!...ไม่เอาคืน...ไม่คิดจะเอาคืนไม่เคยเลย...ฮึก..."ย้งยี้ชะงักเมื่อได้ยินเสึยงสะอื้นออกมาจากเล้งมันตกใจจนผละออกจากอ้อมกอดประคองใบหน้าของเล้งด้วยสองมือนุ่ม
คุณากรร้องไห้...
น้ำตาของชายหนุ่มไหลอย่างน่าสงสาร ดวงตาคมดุจ้องมองย้งยี้ไม่ได้ละ อีตัวดีเมื่อเห็นดังนั้นก็ใจอ่อนยวบมันใช้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาให้เล้งอย่างแผ่วเบา
"ได้มีใครที่นู่นหรือเปล่า..."มันเอ่ยถามคำถามค้างคาใจ คุณากรส่ายหน้า
"ไม่มี...ไม่เคยมีใครเลย มีเมียรออยู่ที่นี่จะไปมีใครได้"
"คิดถึงย้งบ้างหรือเปล่า คิดถึงทุกวันเหมือนที่ย้งคิดถึงพี่เล้งมั้ย"
"สุดหัวใจ..."ย้งยี้ปล่อยโฮก่อนจะพุ่งสู่อ้อมกอดของเล้งมันร้องไห้จนน้ำตาเปรอะสองแก้ม
พังแล้ว...
กำแพงที่มันแสร้งสร้างขึ้นมากั้นหัวใจไม่ให้โอนอ่อนไปหาเล้งพังครืนไม่มีชิ้นดี เล้งกอดอีตัวดีของมันแน่นรู้ได้ในทันทีว่าย้งยี้ให้อภัยมันแล้ว สองคนโอบกอดปลอบประโลมซึ่งกันและกันจนคลายสะอื้นเล้งถึงได้จับน้องให้นั่งมองหน้ากันอีกหน
"ยกโทษให้เฮียนะ ต่อไปนี้เรามาเริ่มกันใหม่ เฮียจะปรับปรุงตัว ต่อไปไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรไม่ว่าจะทุกข์หรือว่าจะสุขเฮียจะบอกย้งทุกเรื่อง จะไม่เก็บไว้คนเดียวเหมือนที่ผ่านๆมาอีกแล้ว"
"จริงนะ?"คล้ายว่าย้งยี้จะยังไม่มั่นใจ
"ด้วยสัญญา..."คำสัญญาแผ่วเบาแต่ทว่าหนักแน่นถูกเปล่งออกมาก่อนจะค่อยๆประทับตราด้วยรอยจูบลงบนกลีบปากนุ่ม
คุณากรประทับตราลงนามด้วยหัวใจว่าต่อไปนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร้ายหรือดีมันก็จะแชร์กับย้งยี้ทุกเรื่อง
จะไม่ปิดบังหรือเก็บไว้คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
ไม่เอาอีกแล้วกับความรู้สึกเหมือนจะสูญเสียของรักไป
ไม่อยากลิ้มรสความรู้สึกใจจะขาดแบบนี้อีกแล้ว
"พี่เล้ง..."คุณากรหยุดความคิดของตัวเองเมื่อย้งยี้ร้องเรียก
"หืม?"
"จูบอย่างเดียวก็พอมั้ง...ทำไมต้องขยำนมย้งด้วยอ่ะ?"ย้งยี้เอ่ยถามหน้าแดงก่ำคุณากรมองต่ำลงไปที่มือตัวเองที่บัดนี้กอบกุมเนินเนื้อเล็กแถมขยำเสียจนเนื้อนิ่มแทบจะเล็ดออกมาตามร่องนิ้ว
บ้าจริง...มือไปตอนไหววะเนี่ย....ไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยนะเนี่ย!!!
..............
โกรธอะไรกันนาน ครึ่งเดือนก็พอแล้ว