รักจัง Byคุณ Meae แจ้งข่าวค่ะ [15/02/2012]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักจัง Byคุณ Meae แจ้งข่าวค่ะ [15/02/2012]  (อ่าน 561342 ครั้ง)

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
หลอนก็หลอน ขําก็ขํา แถมยังมีแอบหวานด้วย

ออฟไลน์ kissme

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 457
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
 :L2: รักคนแต่ง

 :กอด1: คนแปะเรื่อง

 :pig4: ขอบคุณอีกครั้งนะจ๊ะที่เอาเรื่องของคุณหมีมาลงให้อ่าน

เราชอบงานคุณหมีมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ตอนอยู่บอร์ดหวานฉ่ำชื่นใจแล้ว อ่านแล้วให้ความรู้สึก อบอุ่น นุ่มนวล โป๊กฮา เริงร่าอยู่ในใจดีจัง :o8: :-[ :L2: :กอด1: :mc4: o13 :z2:



ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
มิคพระเอกสุภาพบุรุษ No.1 :man1:

กลับจากค่ายก็จัดให้หนักเลยนะมิคนนะ  :impress2:

lasom

  • บุคคลทั่วไป
นี่หลอนล่ะใช่ป่ะ แล้วทำไมตอนอ่านเค้ายิ้มหว่ะ มิคแมร่งทุกที่ทุกเวลาจริงๆ :-[

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
รักจัง  :กอด1:

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ไม่กล้าอาบน้ำ T[]T

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
หลอนปนหวาน :jul3: :jul3:
ชอบมากค่ะ :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
หวานไปกลัวไปอ่ะ
เป็นระยะำกำไรล้วนๆ สำหรับมิกเลยนะเนี่ย แต่ก็คงต้องสวดมนต์เหมือนกัน
ไม่ได้กลัวผี แต่กลัวใจตัวเองจับกิมกดกลางค่าย

มุกเล่าเรื่องผีกลางค่ายสุดยอดมาก  กลัวสุดๆ เลยค่ะ

ออฟไลน์ milky way

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
หมาหอน ก็ยังไม่น่ากลัว
ถ้ามีมิคอยู่ด้วยใช่ไหมกิม

มิคหวานไม่แคร์สื่อจริงๆ

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

หวานด้วยหลอนด้วย

รักจังมิค   :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักจัง....(by คุณ meae)...ตอนที12-Horror.....(6/09/10)
« ตอบ #249 เมื่อ: 07-09-2010 09:26:17 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ไม่ไหวจะเคลียร์กับสิ่งลี้ลับนะคะ ไปค่ายทีไร จะเจอของดีทุกที
แต่คนอื่นนะ ไม่ใช่เค้า เค้าไม่อยากเจออออ o22
มิคกับกิมหวานมากจนหมาอิจฉาหรือเปล่า หมามันก็เลยหอน 555

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
บรรยากาศสมกะชื่อตอนจริงๆๆ ทั้งหลอนแล้วก้อฮา
แต่กำลังสงสัยว่าตอนสุดท้ายที่หมาหอนนี่
อาจจะเป็นไปได้ว่าหอนน้องกิมของเราซะมากกว่า
หวานจนหมาอิจฉาอะป่าว
 :pig4:

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3


เอิ่มมมมมม มมมมม ม ม ม...กะเรื่องผี ๆ เนี่ย...กะเค้าเนี่ยไม่ค่อยเท่าไหร่นะ

แต่ไอ่อาการหวานไม่แคร์สื่อของมิคเนี่ย...แหมะ...อยากจะดอดไปอยู่เต็นท์ข้าง ๆ ซะจริง...คริคริ

สงสารก็แต่กิมเหอะ...ต้องผวาทั้งผี ทั้งคน...เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มิคจะกระทำการอุกอาจ

เฮ้อออออออ อ อ อ อออ...ไม่สงสารคน ก็สงสารผีสางเทวดาบ้างนะมิคนะ...เด่วเค้าจะเป็นเบาหวานกันไปเสียหมด...กร๊ากกกกกกกก  กก ก ก กกกส์ >/////<

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
หวานปนหลอน สนุกมาก .....
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3



รักจัง.........ตอนที่13



จากหยาดเหงื่อและแรงงานบวกกับความตั้งใจจริงที่อยากลดลงซักคืนก็ยังดี ทำให้ในที่สุดโรงเรียนเพื่อน้อง ณ หมู่บ้านดอนดอกประดู่ก็สำเร็จเสร็จได้อย่างสวยงามในเวลาห้าวันสี่คืน เป็นการออกค่ายอาสาที่ทำให้รู้กำลังแฝงของนักศึกษาอย่างที่ไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

ถึงจะเร่งมืออยากให้เสร็จกันเร็วไวขนาดว่าตอนสร้างไม่ค่อยจะได้หยุดชื่นชมผลงาน แต่ตอนนี้ที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นทุกคนก็อดไม่ได้ ต้องยืนมองผลงานที่สร้างกันมากับมือพลางเอ่ยปากชมกันเองไม่มีหยุด หลังอาหารเช้าของวันที่ห้า

โรงเรียนเพื่อน้องตามแปลนที่วาดกันมา สร้างขึ้นบนที่นาบริจาคครึ่งไร่ ประกอบด้วยสามห้องเรียนที่มีหลังคา โต๊ะเรียน ตู้ใส่หนังสือและกระดานดำใหม่เอี่ยม ด้านหน้ามีแท่นเสาธงพร้อมธงชาติไทยใหม่แกะกล่องปลิวไสว ด้านหลังห่างไปหลายสิบเมตรมีห้องส้วมแบบถูกสุขลักษณะซึ่งมีส้วมใหม่เอี่ยม แยกฝั่งเด็กชายเด็กหญิงฝั่งละหกห้อง แถมภายในห้องเรียนยังหนังสือเรียนหนังสืออ่านเล่นหลายร้อยเล่มใหม่บ้างเก่าบ้างแถมไว้ให้เสร็จสรรพ

ตามที่ลุงผู้ใหญ่บอก หมู่บ้านดอนดอกประดู่มีเด็กๆคละอายุอยู่เกือบร้อย ที่จริงโรงเรียนเก่ามีอยู่แต่สภาพสุดโทรมและห่างไกลหมู่บ้านหลายกิโล พอมีคนบริจาคที่ดินให้ใกล้วัดก็เลยได้โอกาสให้คนมาทำความดีลงแรงสร้างโรงเรียนใหม่เอี่ยมกันขึ้นมา

“ฮะแฮ่ม กระผมผู้ใหญ่บ้านดอนดอกประดู่ ขอเป็นตัวแทนชาวบ้านทุกคนขอบใจพวกคุณมากที่มีน้ำใจมาสร้างโรงเรียนให้หมู่บ้านเล็กๆของเรา”

ลุงผู้ใหญ่กล่าวเสียงดังฟังชัดจากหน้าเสาธง ด้านหลังมีชาวบ้านช่วยกันตบมือเปาะแปะ แต่ละคนหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส โดยเฉพาะเด็กๆที่เริ่มวิ่งสำรวจโรงเรียนใหม่กันอย่างตื่นเต้น

“พวกเราขอสัญญาว่าจะใช้โรงเรียนนี้เป็นที่กระจายความรู้ ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กๆและหมู่บ้าน ขอให้ความดีนี้ส่งให้พวกคุณทุกคนเจริญก้าวหน้ากันถ้วนทั่ว ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
เป็นคนดีผีคุ้ม ไม่หนีเสือปะจระเข้ ซื้อหวยงดไหนให้เป็นถูก…” ลุงผู้ใหญ่ยิ่งพูดยิ่งมันส์ จนถ้าไม่โดนลูกบ้านแอบสะกิดวันนี้อาจต้องยืนกันถึงเย็น

“ฮะแฮ่ม และเพื่อเป็นการตอบแทนน้ำใจ ทางเราได้ปรึกษากันว่าจะจัดทัวร์ป่าแท้ๆแจกเป็นรางวัล!” โดนสะกิดเข้าไปอีกหลายทีคนพูดถึงนึกได้หันมากระแอมไอบอกพร้อมยิ้มแฉ่ง

“ขอบคุณมากครับลุงผู้ใหญ่ ขอบคุณทุกคนเลยครับ แต่ว่าค่ายอาสาครั้งนี้พวกเรามาด้วยใจไม่ต้องการของตอบแทนหรอกครับ” พี่บี้ประธานค่ายยกมือไหว้กราดเหมือนสสหาเสียง โดยมีลูกค่ายงึมงำสนับสนุน

“ใช่ค่ะ พวกเราแค่เอาแรงมาลง วัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างได้รับบริจาคมา แค่น้องๆได้ใช้ประโยชน์จากโรงเรียนนี้พวกเราก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ” รองประธานฝ่ายสวัสดิการจัดการเสริมลูกคู่เต็มที่

“โอ้ย ไม่ได้หรอกคู๊ณ” ลุงผู้ใหญ่ส่ายหน้าจนหนวดปลิว “พวกเรารู้ว่าพวกคุณไม่หวังผล แต่ว่าอยากตอบแทนนี่ เล็กๆน้อยๆก็ยังดี ถือว่าเป็นน้ำใจจากชาวบ้าน”

“ทัวร์เดินป่าแท้ๆอย่างนี้ไม่ได้หาง่ายๆ ยิ่งคนกรุงแล้วไม่ต้องพูดถึง หมู่บ้านผมถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ยังดีมีป่าเขาอุดมสมบูรณ์ พวกเราส่วนมากเลี้ยงชีพก็ด้วยการเข้าป่าไปหาผลหมากรากไม้ ไปยิงหมูยิงเก้งมากินมาขาย รับรองเรื่องอย่างนี้คนกรุงอย่างพวกคุณไม่เคยใช่ไหมล่ะ”

ลุงผู้ใหญ่ว่าอย่างออกรส มีการยกปืนอากาศยิงหมูยิงเก้งประหนึ่งระพีไพรวัน เล่นเอาหลายคนเริ่มเอนเอียง คล้อยตามจนพยักหน้าหงึกหงัก

“มีเก้งมีหมูป่าแสดงว่าที่ทางยังสมบูรณ์มาก แล้วอย่างนี้จะไม่อันตรายเหรอครับ เกิดไปเจอเสือเจอหมีจะทำยังไง” ไอ้จั๋วที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากผมส่งเสียงถามอย่างกระตือรือร้น เห็นชัดๆเลยว่าหัวเอียงเข้าข้างลุงผู้ใหญ่นำหน้าไปแล้ว

“ไม่ต้องห่วงๆ พรานที่จะนำพวกคุณไปน่ะมือแข็งตีนแข็ง แกะรอยเก่งเป็นที่หนึ่ง รับรองไม่พาไปวิ่งแข่งกับเสือแน่ๆ ส่วนหมีนี่ผมอยู่มาหลายสิบปีก็ยังไม่เคยเจอนา อีกอย่างเราจะไม่ค้างคืน แค่ออกเดินตอนเช้าเย็นๆก็กลับ รับรองรอดปลอดภัย”

ได้ยินผู้ใหญ่บ้านรับประกันมาแข็งขันอย่างนี้หลายคนก็เริ่มส่งเสียงงึมงำว่าอยากมีส่วนร่วม สุดท้ายเลยให้ลงชื่อใครจะอยู่ๆ ใครจะกลับก่อนกลับ จะได้ไม่ต้องดึงกันไปมาทั้งสองฝ่าย สรุปสุดท้ายว่าคนขอเข้าร่วมทัวร์ป่าแบบแท้ๆชนิดมีผู้ใหญ่บ้านรับประกันว่ารอดปลอดภัยมีสิบเก้าชีวิต ส่วนที่เหลือเตรียมเก็บเต็นท์ขนของกลับบ้านไปตามอัธยาศัย


หลังจากช่วยกันเก็บเต็นท์เก็บขยะเป็นที่เรียบร้อย ตะโกนส่งเพื่อนส่งน้องบนรถทัวร์กลับบ้านไปก่อนก็ได้เวลาสะพายเป้ที่มีห่อข้าวห่อหมูห่อขนมขึ้นหลังแล้วมายืนเรียงกันเป็นแผง เตรียมตะลุยป่าสามัคคี เบ็ดเสร็จได้ฤกษ์ตอนอีกเก้านาทีสิบโมง

“เอ้า ดีๆ มา มารู้จักพรานนำทางกันก่อน” ผู้ใหญ่บ้านที่ยังคงอารมณ์ดีหันไปหาคนที่ยืนอยู่ข้างๆ “นี่พรานเกลี้ยง จะนำทางพวกคุณไปเจอประสบการณ์แปลกใหม่ในครั้งนี้”

ถึงคำพูดจะฟังทะแม่งๆแต่ทุกคนก็ยกมือไหว้พรานเกลี้ยงกันถ้วนหน้า พรานเกลี้ยงที่ดูแล้วสามารถเรียกได้ว่าลุงยิ้มกว้างขวางพลางยกมือรับไหว้แบบท่วมหัว ก่อนหันไปสูบยาเส้นตามเดิม ปล่อยหน้าที่แนะนำบอกกล่าวเป็นของคนข้างๆ

“อย่างที่ผมบอก พรานเกลี้ยงนี่มือแข็งตีนแข็ง ถือเป็นพรานมือหนึ่งของหมู่บ้าน แต่ยังไงในป่าในเขามันก็มีสิ่งที่เราไม่รู้ ถึงจะมีพรานมือฉมังทิ้งรอยตีนให้เดินตาม แต่ยังไงก็ต้องระมัดระวังตัวเองเอาไว้ด้วย นี่ไม่ได้พูดให้ไม่สบายใจนะ แต่บอกกล่าวกันไว้ว่าความประมาทเป็นหนทางแห่งความซวย ถ้าไม่อยากซวยก็ตามตีนพรานเกลี้ยงให้ดีๆ… เอ้า พูดมากไปใช่จะรู้ ยังไงเชิญทุกคนออกเดินทางเลยดีกว่า ขอให้สนุกกันทั่วหน้า!”

คำบอกกล่าวของลุงผู้ใหญ่เล่นเอาหลายคนหน้านิ่วคิ้วขมวด ฟังยังไงก็ทะแม่งแท่งเกินจะยิ้มรับ รู้สึกเหมือนโดนหลอกให้มาตกกระไดพลอยโจรยังไงชอบกล แต่จะกลับลำเพราะคำเตือนตอนนี้ก็ท่าจะไม่ทันเลยได้แต่ก้มหน้า เดินตามรอยตีนลุงเกลี้ยงมุ่งหน้าเข้าป่าไปหาประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยหัวใจตุ้มต่อม

ขบวนทัวร์ป่าสามัคคีนำด้วยพรานมือฉมังที่ยังยกยาเส้นขึ้นสูบอยู่ไม่รู้เลิก ถัดจากผู้นำตามด้วยหนุ่มสาวหลายคู่ที่ถือโอกาสชี้ชวนกันชมนกชมไม้กระชับความสัมพันธ์ ถัดมาอีกหน่อยเป็นสาวที่เดินกันเองเป็นคู่ๆแล้วรั้งท้ายด้วยกลุ่มชายโสดหลายระดับอายุ ส่วนกลุ่มผมที่เกาะกันมาทั้งขบวน
เดินอยู่กลางๆออกมาทางท้ายๆ ตบเท้าเรียงสองแกะรอยตีนลุงเกลี้ยงตามไปด้วยความไม่ประมาท

“ไอ้บีมึงมียากันทากมาเปล่าวะ แม่ง รู้งี้เปลี่ยนขายาวมาก็ดี” เสียงไอ้โยมแว่วมาจากข้างหน้า ท่าทางเหมือนเจอทากดักเกาะ

“ไม่มีว่ะ มีแต่แป้งเย็น” ไอ้บีตอบมาให้ได้ยิน แล้วช่วยส่งเสียงถามไปข้างหน้า

“ทำไม โดนทากเข้าหรือไงมึง” ไอ้เดย์หันมาถามเหมือนจะห่วง “เอาน่า ถือว่าทำบุญ”

“บ้าแล้วไอ้เดย์ อย่างไอ้โยมมันต้องเรียกว่าทำบาป ทากแม่งดูดเลือดชั่วๆเข้าไปป่านนี้พากันตายยกรังไปแล้วแน่ๆ” ประโยคนี้แว่วมาจากไอ้จั๋ว

“เอาก.ย.สิบห้าแทนได้เปล่าพี่ พอดีพกมาแต่ก.ย.กันยุง” เสียงนี้แว่วมาจากรุ่นน้องคนใดคนหนึ่ง

ทัวร์ป่าสามัคคีเดินกันมาน่าจะหลายกิโล วัดเอาจากปริมาณเหงื่อของแต่ละคนที่เริ่มซึมจนเสื้อแฉะแต่หน้าตายังเบิกบานแจ่มใส เพราะลุงเกลี้ยงแสดงฝีมือได้สมคำคุย หลังจากอัดยาเส้นเข้าปอดติดต่อกันหลายมวนก็ยอมเปิดปากตอบคำถามของเหล่าสมาชิก เดินไปเจออะไรที่คิดว่าเด็กที่เดินตามอยู่ไม่เคยพบเคยเห็นแกก็เอ่ยปากสอนอย่างออกรส แล้วยังแกะรอยพาไปเจอเก้งแม่ลูกให้ได้ตื่นเต้นกันไปยกใหญ่

ผมที่จิตยังระแวงคำพูดทะแม่งแท่งของลุงผู้ใหญ่บวกกันโดนหลอนจากเสียงหอนมาหลายคืน แรกๆเลยแทบไม่ได้เงยหน้าชมนกชมไม้ชมเถาวัลย์ เอาแต่แกะรอยตีนลุงเกลี้ยงตามคำเตือนไปอย่างขมักเขม้น มาได้เงยคอเห็นฟ้าหันหน้าเห็นดอกไม้ใบหญ้าก็ตอนได้ยินเสียงเหน่อๆของคนนำขบวนสอนนู่นนี่อย่างไม่หวงวิชา ส่วนไอ้มิคที่เดินตามกันมานี่ตะโกนถามคำถามไปแล้วหลายที สีหน้าท่าทางดูแล้วสบายใจเหมือนมาทัวร์ซาฟารี

อาการหวาดระแวงของผมนอกจากจะทำให้สองตาเห็นแต่พรานเกลี้ยงสองหูยังปิดรับสรรพเสียงซะมิด กว่าจะรู้ตัวว่ามีคนย้ายจากหน้ามาท้ายขบวนก็ตอนที่ได้ยินเสียงใสๆหลายเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พอเหล่ไปเจอที่มาของเสียงปุ๊บตาขวาผมก็เริ่มกระตุกถี่ๆปั๊บ กระตุกแบบตะปบไม่ค่อยจะอยู่ไม่ผิดกับที่เป็นมาสามวันทำงาน เนื่องจากสาวเสิร์ฟนักศึกษาที่วนเวียนมาเสิร์ฟน้ำแปดรอบต่อวันตอนนี้อยู่แถวนี้กันอย่างพร้อมหน้า

เหล่ใกล้ตัวมาอีกหน่อยว่าเป้าหมายสาวมีอาการอย่างไรตอนตอบคำถามคำชวนคุย ก็เห็นว่านิ่งดีไม่มีหลุด สาวชวนคุยกันเจื้อยแจ้วไอ้มิคก็ฟังบ้างตอบบ้างไปตามเรื่อง หัวข้อสนทนาที่ได้ยินโดยไม่ต้องเงี่ยหูฟังเนื่องจากคนที่สาวเดินมาตามก็เดินอยู่เยื้องหลังผมไม่กี่ก้าว บอกให้รู้ว่าคนตอบไม่ได้ใส่ใจจะโปรยเสน่ห์ปล่อยฟีโรโมนส์ แต่ทำไมได้ยินแล้วหัวใจมันกระตุกถี่ๆ รู้สึกแปลกๆเหมือนวันหนึ่งวันนั้นในร้านไอติมโบราณกลางตลาด

ฟังไปฟังมาเสียงลุงเกลี้ยงก็พาลหดหายกลายเป็นเสียงสาว แต่เสียงเข้มๆอีกหนึ่งเสียงกลับยังดังชัดไม่ลดระดับ ฟังไปๆก็ให้รู้สึกอยากปล่อยมือจากตาขวาไปตะปบปิดปาก หยุดเสียงเข้มๆไว้แค่นี้ แต่เนื่องจากสติยังมียังอยู่กับความเป็นจริงเลยทำได้แค่เดินห่างออกมาหน่อย ทิ้งระยะเพิ่มให้เสียงมันเจือจางไปเอง

“เป็นอะไรไอ้กิม เหนื่อยหรือไง หน้าหดเป็นตูดลิงเชียว” เสียงไอ้โอ้แว่วมาให้ได้ยินพร้อมมือหนักๆตบมาบนไหล่ “กินขนมเปล่า ท่าทางจะอีกพักกว่าจะได้หยุดกินข้าว”

ผมมองไอ้โอ้ไอ้โยมแล้วถึงได้รู้ว่าเดินหนีเสียงเข้มๆผ่านใครมาหลายคน แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องไปมองของที่ไอ้โอ้ยื่นมา

“กินเหลือแล้วเอามาให้กู ขอบใจว่ะ” ผมว่าพลางคว้าขนมปังไส้เผือกที่เหลืออยู่ก้นถุงมาใส่ปาก เคี้ยวแรงๆระบายความอึดอัดขัดข้อง

“ของเหลือที่ไหน พูดอย่างนี้เดี๋ยวปั๊ดล้วงออกมาจากปาก” ไอ้โอ้ยัดถุงเปล่าใส่เป้แล้วยกขวดน้ำขึ้นดื่มอั่กๆก่อนส่งต่อมาให้แบบแสนจะมีน้ำใจ แต่พอเห็นท่าเรอลงลูกคอแบบไม่เกรงใจเพื่อนฝูงแล้วผมกับไอ้โยมเลยเกี่ยงกันรับน้ำใจเพื่อนไปตามๆกัน

“แล้วนี่ทำไมมึงมาอยู่ตรงนี้” ไอ้โยมหันหัวซ้ายขวาเหมือนจะหาเป้าหมาย “แฟนฉันไปไหนซะล่ะ”

“แฟนมึงกูว่าคงยังไม่เกิด ดีไม่ดีจะไม่มีวาสนาได้มาจุติ” ผมตอบไปแบบมึนๆ ไอ้โยมยกมือโบกทันใด เสียงป๊าบสะท้อนอยู่ในหัวจนความมึนค่อยจืดจาง

“สาด ถามดีๆเสือกปากเสีย นี่ไอ้มิคปล่อยให้มึงมาเดินน้ำลายย้อย กัดคนไปทั่วได้ยังไงวะ อ๋ออ…”

คำอุทานแสดงความเข้าใจยืดยาวเกินจำเป็นจากปากไอ้โยมเล่นเอาผมชักคันไม้คันมือคันเขี้ยว เกือบกระโดดงับคอคนพูดให้สมกับคำด่า ถ้าไม่เหล่ไปเห็นทิศทางการทิ้งสายตาประกอบการอุทาน

“เจอสาวรุมนี่เอง” ไอ้โยมลากเสียงยาวแล้วต่อด้วยความจริงจังเกินจำเป็น

“ใช้ไม่ได้เลยมึงนี่ แทนที่จะเป่าปากส่งซิกเรียกพวกกูไปช่วยจีบ ดันเดินหนีมาซะได้ เสียของจริงๆ”

“พูดจาดูหน้าตัวเองหน่อย นั่นเขาระดับดาว ให้เป่าจนปากกูจู๋เป็นนกขุนทองก็ยังไม่แน่ว่าจะได้เข้าใกล้”

ผมตอบทำลายความฝันเพื่อนพ้องเบี่ยงประเด็น ตบอกแรงๆพลางดึงสมาธิกลับสู่ลุงเกลี้ยง ก็พอดีกลับที่ลุงยกมือเป็นสัญญาณหยุดขบวน เสียงเหน่อๆส่งมาว่าได้เวลาพักกินข้าวปลาอาหาร

ได้ยินว่าหยุดพักกินข้าวแต่ละคนละคู่ก็กระจายกันหาที่นั่งตามดินตามหญ้าแล้วควักข้าวเหนียวนึ่งกับหมูทอดที่ได้รับแจกมาจากป้าแย้มและคณะเมื่อเช้าขึ้นมาปั้นใส่ปาก ผมเหล่ซ้ายแลขวาแล้วต้องถอนหายใจหลายเฮือกเนื่องจากเสบียงกรังที่นำมาอยู่ในเป้บนหลังไอ้มิค ตกลงกันไว้ว่าเอาเป้เข้าป่ามาใบเดียวเดี๋ยวผลัดกันถือ

ถึงจะถอนหายใจทิ้งไปหลายเฮือกแต่หัวยังหันไม่ไป เป็นไปได้อยากทิ้งก้นนั่งลงข้างไอ้โอ้ไอ้โยมแล้วดึงเศษไม้ใบหญ้ามากินแทนข้าวประชดหัวใจสะออน แต่เนื่องจากชีวิตจริงไม่ใช่นิยายสุดท้ายก็ต้องย่ำทางเก่าเดินไปหาคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขอแบ่งข้าวปลาอาหาร

ผมกลับหลังหันแล้วต้องผงะถอยเพราะร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่แทบชิดติดหลัง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามหรือเหล่ซ้ายขวามือแข็งๆก็ยื่นมาดึงให้เดินตามไปทิ้งก้นนั่ง ไอ้มิคปลดเป้ล้วงข้าวล้วงหมูแล้วส่งขวดน้ำมาให้เป็นอย่างแรกพร้อมสายตาเหมือนจะติดใจสงสัย แต่ผมชิงยิ้มตัดหน้าตอบไปก่อนอีกฝ่ายจะได้เปิดปากถามแล้วเปิดน้ำล้างมือล้างหน้าก่อนบิข้าวเหนียวเข้าปากเหมือนหิวโซ

ผมเคี้ยวข้าวเหนียวเคี้ยวหมูพลางมองหน้าอีกคนที่ยกน้ำขึ้นดื่มด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ไอ้มิคที่หันมาเจอส่งยิ้มมาจางๆก่อนลงมือดึงข้าวเหนียวใส่ปากแล้วชวนคุยเรื่อยเปื่อย ผมยกน้ำขึ้นดื่มไล่อาการฝืดคอที่ไม่แน่ว่าเกิดจากข้าวเหนียวและหมูหรืออย่างอื่นแล้วตอบอือออไปตามเรื่อง ปล่อยอาการใจกระตุกดำเนินต่อไปโดยใช้การเคี้ยวข้าวปิดปากที่ยิ้มไม่ออก

แล้ววงข้าวที่เริ่มต้นกินกันแค่สองก็ขยายขนาดขึ้นจนต้องกระถดก้นดึงห่อข้าวเหนียวหลบ ไอ้โยมไอ้โอ้ไอ้เดย์ที่ตอนแรกยังนั่งห่างไปหลายช่วงตัวตอนนี้ย้ายสังขารตามกลิ่นสาวจนมาอยู่วงเดียวกัน คาดว่าได้กินข้าวแกล้มการหม้อจะทำให้อาหารมีรสชาติขึ้นอีกโข ผู้ชายอีกหลายคนถึงได้เดินมาหย่อนก้นนั่งอยู่แถวนี้ตามสาวเสิร์ฟนักศึกษาที่ยกกันมากินข้าวร่วมกับคนที่นั่งอยู่ข้างผม

ไอ้มิคที่โดนตีวงล้อมยังคงกินข้าวไปตามเรื่องและหันมาดูแลเทคแคร์คนที่นั่งอยู่ติดกันอย่างผมเหมือนเคยๆ เดี๋ยวส่งกระดาษเช็ดมือ เดี๋ยวถามว่ากับพอไหมเอาข้าวอีกรึเปล่า ถึงขนาดบิดขวดน้ำเปิดให้ก่อนยื่นมาจนสี่สาวเกอร์รี่เบอร์รี่ถึงกับข้าวติดคอ ไอ้โยมไอ้โอ้เลยได้โอกาสทำคะเน ชิงเทคแคร์สาวจนแทบจะป้อนข้าวให้ถึงปาก เสียแต่ว่าเกอร์รี่เบอร์รี่ไม่มีตาไว้แลใครนอกจากพากันหรี่ตาเหล่มาทางผมอย่างให้รู้ว่าเคือง แล้วหันไปพูดคุยจ๊ะจ๋ากับเป้าหมายต่ออย่างไม่ท้อถอย

ผมยกน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่ปิดท้ายก่อนผ่อนลมหายใจ ถึงจะเห็นอยู่ว่าไอ้มิคยังเป็นไอ้มิคคนเดิมคนดี เป็นแฟนประเสริฐน่าได้โล่ เป็นผู้ชายแห่งปีทูบีนัมเบอร์วัน ตาไม่เหล่ไม่เข ความประพฤติไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ผมที่นั่งร่วมอยู่ในวงสนทนา ได้เห็นสายตาใครต่อใครที่มองคนข้างๆ ได้รับรู้ความสิเน่หาแบบท่วมท้นล้นหัวอกของใครหลายคน ยังไงมันก็ให้ทำใจไม่ค่อยจะได้ ไม่ว่ายังไงผมก็ยังรู้สึกหวิวโหวงในอกไม่ผิดกับหลายครั้งที่ผ่านมา

กินกันจนจุกก็ได้เวลาลุกขึ้นเดิน ลุงเกลี้ยงเก็บของเข้าย่ามแล้วตะโกนบอกลูกคณะว่าได้เวลาทัวร์ป่าสามัคคีกันต่อ อีกชั่วโมงกว่าๆตามนาฬิกาแก ถ้าไม่เจอสัตว์ให้หยุดส่องเราก็จะเจอน้ำตกขนาดย่อมให้ได้ลงไปจับปลามาย่างเป็นข้าวเย็น พาเอาหลายคนตาใสไปตามๆกัน

ผมเก็บขยะลงถุง สำรวจบริเวณรอบตัวว่าไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ให้รกป่าแล้วก็ออกเดินตามไอ้มิคไอ้เดย์ไปด้วยการคิดใหม่ทำใหม่ ถึงจะยังมีเกอร์รี่เบอร์รี่ร่วมขบวนอยู่ไม่ห่าง ถึงในอกจะยังปั่นป่วนไม่รู้เลิก แต่เนื่องจากจำเลยไม่มีความผิดแม้ซักกะพี้ ผมก็ต้องทำตัวให้ปกติสามัญ ไม่งั้นจะเป็นการไม่แฟร์กับคนที่หยุดรอให้เดินไปทันกัน

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
เดินมาไม่เท่าไหร่หัวขบวนก็เอะอะโวยวาย แล้วหลบวูบเข้าพุ่มไม้กันไม่บอกไม่กล่าว ท้ายขบวนอย่างพวกผมเลยต้องรีบกระโจนเข้าข้างทางหาซอกหาหลืบเอาตัวรอดกันตัวใครตัวมัน นึกว่าเจอเสือสมิงสิงโต ที่ไหนได้ ลุงเกลี้ยงแกะตามรอยหมู่ป่ามาจนเจอ ซุ่มกันอยู่ครึ่งชั่วโมงถึงได้เห็นหมูสีดำตัวอ้วนพีที่สำคัญมีเคี้ยวโง้งเป็นแง่งถึงสามตัว เสียงสูดอากาศฟืดฟาดจากจมูกหมูพาเอากลุ่มทัวร์สามัคคีเกือบแงะไม่ออกจากที่ซุ่มซ่อน แต่ละคนคงรู้สึกไม่ผิดกันว่าตัวเองจะตกเป็นเหยื่อมากกว่านายพราน

รอจนหมูตัวเท่าวัวนวยนาดผ่านไปถึงได้ผลุบโผล่ออกมาตั้งขบวนกันอีกครั้ง ผมโผล่หัวตามไอ้มิคออกจากพุ่มไม้โดยมีไอ้อ่อนตามออกมาแบบกระเซอะกระเซิง เงยหน้ามาถึงเห็นว่าเป้สะพายยังอยู่บนหลังคนข้างหน้า ที่จริงเห็นอยู่ตลอดแต่เหมือนไม่ได้สังเกต

“เอาเป้มา” ผมบอกพร้อมเอื้อมคว้าเป้บนหลังอีกฝ่ายที่ตกลงไว้ว่าผลัดกันถือ แต่คนสะพายเป้มือแรกกลับเบี่ยงตัวหลบแล้วยื่นขวดน้ำมาแทนที่

“ดื่มหน่อย อากาศร้อน”

ว่าไม่ว่าเปล่ายังยื่นมือมาปาดหน้าผากลูบเหงื่อกันไปจนสะดุ้ง ไม่มีแคร์ว่าที่เดินตามหลังกันมาเป็นพรวน ที่อุตส่าห์ย้ายมวลจากหน้ามาหลังจะเห็นไม่เห็นยังไง

ผมรับขวดน้ำมาดื่มอั่กๆดับความกระหายและอาการสะดุ้ง แล้วยื่นมือไปดึงเป้อีกครั้งแต่ไอ้มิคกลับทำเฉยแล้วเดินเข้ามาชิดไหล่ ก่อนดึงขวดน้ำไปจิบแบบแสนจะเป็นธรรมชาติ

“เอาเป้มาให้กูแบกมั่ง ถอดมาให้ว่องเลย” ผมทำเสียงดุเกินความจำเป็นจนคนฟังยิ้มขำ หน้าขาวๆค่อนข้างแดงจากความร้อน ดูแล้วเซ็กซี่เหลือใจ

“กิมเพื่อนรักไม่อยากกินแรงเพื่อน งั้นกูสละเป้กูให้มึงเอง เอาไปเลย” ไอ้อ่อนที่ไม่รู้ว่าเดินมาชิดติดก้นเมื่อไหร่ แสดงความฉลาดพร้อมเสือกเป้บวมเป่งมากลางวง

“โห ขนอะไรมานักวะ นี่กะมากางเต็นท์ค้างกี่คืนวะไอ้อ่อน”

ผมออกปากวิจารณ์ขนาดเป้ แต่ไม่ยื่นมือไปรับ ถ้าหดขนาดเหลือซักครึ่งไอ้กิมอาจทำตัวเป็นเพื่อนที่ดีอย่างเพื่อนว่า

“กูก็ว่าอยู่ว่าท่าจะขนมาผิดงาน ไม่รู้ไอ้จั๋วไอ้เดย์มันกลัวอดตายกลางป่าหรือยังไง แม่ง ยัดข้าวมาคนละสองสามถุง ขนมนมเนยไม่นับ” ไอ้อ่อนที่ท่าจะเป็นมือแรกแบกเป้บ่นพึมก่อนเหล่มาทางผมแบบจริงจังจริงใจ

“อะ เอาไปดิ ไม่ต้องเกรงใจ เพื่อเพื่อนกูเสียสละให้ โอ้ย!” คำสุดท้ายหลุดมาเพราะมือผมที่ยื่นไปตบหัว

“สาดอ่อน หาเรื่องจริงๆเลยมึง” ผมชิงด่าก่อนไอ้อ่อนจะได้เงยหน้ามาตอบโต้ แล้วด่าเหน็บแถมไปถึงคนข้างๆยาวยืด

“ไม่เห็นหรือไงว่ากูเนี่ยมืออ่อนตีนอ่อนแทบจะเป็นง่อย แค่ขวดน้ำยังถือไม่ได้นับประสาอะไรกับเป้ทั้งใบ ดีแค่ไหนแล้วที่ยังเดินได้ด้วยสองตีน ไม่ต้องนั่งแคร่ให้คนหามรอบทิศ”

ไอ้อ่อนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มองผมเหมือนเจอคนบ้าแล้วตวัดเป้กลับขึ้นบ่าอย่างหมดความพยายาม ส่วนอีกคนที่ท่าจะรู้ตัวว่าทำดีไม่ได้ดี อุตส่าห์เป็นเจนเทิ่นแมนถือของให้แฟนแต่กลับโดนด่าเลยเกี่ยวเป้ออกจากหลังส่งให้ง่ายๆไม่ปริปาก สายตาที่มองมาตอนยื่นเป้ติดจะหม่นจนผมเกือบตวัดขาเตะตูดตัวเอง แล้วก็นึกอยากให้อีกฝ่ายยื่นมือมาตบหัวกันซักทีแทนการมองมาด้วยสายตาอย่างนี้ งี่เง่าจนทู่เรศเลยผม ทั้งที่ตั้งใจไว้ว่าจะทำตัวปกติแต่สุดท้ายความหงุดหงิดก็รั่วออกมาจนได้

หลังสะพายเป้ขึ้นบ่าความเงียบก็ก่อเกิด ความเงียบระหว่างผมกับคนที่เดินอยู่ข้างๆ ไอ้มิคไม่ชวนคุยเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ชี้ชวนดูนู่นนี่ เสี้ยวหน้าหล่อเหลาไม่ได้บึ้งตึงแต่ก็ไม่มีรอยยิ้ม เรียกว่านอกจากตัวต้นเหตุอย่างผมจะโดนกดดันไปเต็มเต็ง สี่สาวเกอร์รี่เบอร์รี่ที่เดินเข้ามาชวนคุยก็โดนหางเลขไปถ้วนหน้า จากที่เมื่อเช้ายังถามมาตอบไป ตอนนี้แม้แต่พยักหน้าตามมารยาทก็ไม่เหลือ ไอ้มิคปิดปากสนิท แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยู่ในอารมณ์คุยกับใคร

ผมผ่อนฝีเท้าพลางขบคิดว่าจะเริ่มขอโทษยังไงไม่ให้ดูงี่เง่าหงุดหงิดไปกว่านี้ ยังไม่ทันได้คิดประโยคเริ่มต้นไอ้จั๋วก็เดินย้อนขบวนมาจากข้างหน้า ดึงให้ถลาตามไปดูเห็ดป่าเห็ดดอยหน้าตาประหลาดตามประสาชนกลุ่มน้อยผู้เอ็นดูเห็ดคือมันกับผม

ผมก้าวตามแรงดึงผ่านไอ้มิค เห็นจากหางตาว่าร่างสูงใหญ่เหมือนจะหยุดชะงักก่อนเดินต่อเหมือนไม่ได้ใส่ใจอะไร ไอ้จั๋วดึงผมวิ่งมาเกือบถึงหัวขบวน ปากก็พร่ำถ่ายทอดความรู้ที่พึ่งล้วงมาจากลุงเกลี้ยงเกี่ยวกับเห็ดที่ลากมาดูไม่ได้หยุด แล้วอยู่ๆไอ้จั๋วก็เบรคดังเอี๊ยดจนผมที่ถูกลากตามหลังชนเข้ากับมันจนหน้าคะมำไปทั้งคู่

ยังไม่ทันจะได้เงยหน้ามาด่ามาดู เสียงหวีดร้องแหลมสูงชนิดทำลายขวัญกำลังใจก็กรี๊ดแทรกกันเข้ามาเต็มหู ไอ้จั๋วที่ล้มไปก้นจ้ำเบ้าตั้งตัวติดได้ก่อนผม ท่ามกลางเรื่องราวที่เกิดในเสี้ยววินาที ไอ้จั๋วกระโดดผลุงขึ้นยืนในจังหวะเดียวกับเสียงคำรามกึกก้องดังกลบเสียงหวีดร้องของสมาชิกทัวร์ป่าสามัคคี

เรื่องมันเกิดในชั่วพริบตาจนไม่น่าเชื่อ หูผมได้ยินเสียงเสือคำรามสะท้อนเข้ามาถึงขั้วหัวใจ แว็บเดียวที่ไอ้จั๋วหมุนตัวกลับแล้วกระชากผมขึ้นจากพื้น สีเหลืองเกือบส้มกับลายดำขาวของเสือโคร่งตัวเท่าวัวก็ปรากฏแก่สายตาห่างไปไม่กี่เมตร ไม่ต้องรอให้ไอ้จั๋วกระตุกแขนซ้ำผมก็ทะลึ่งพรวดแล้วโกยอ้าวชนิดสุดใจขาดดิ้น ในหูยังได้ยินเสียงคำรามก้องป่า เสียงคนแหกปากกรี๊ดกันสุดปอดอยู่อื้ออึง หางตาเห็นอยู่ไกลๆว่าแถวท้ายขบวนก็มีเสืออีกตัว!

นาทีนี้ขบวนทัวร์แตกกระเจิง แต่ละคนวิ่งกันป่าราบแบบไม่คิดชีวิตเพราะเสียงคำรามไล่หลังที่ดังจากหูเข้ามาถึงใจ เสียงกู่ร้องก้องป่าดังกลบหูจนอยากตีปีกบินให้รู้แล้วรู้รอด ติดที่มีอยู่แค่สองขากับสองตีนเลยได้แต่เกร็งน่องสับขาด้วยอดีนารีนไล่กวดไอ้จั๋วไปติดๆ ได้ยินเสียงตั๊บๆๆของรองเท้าผ้าใบหลายคู่วิ่งตามมาแต่ไม่มีเวลาหันไปดูว่าเป็นใครหน้าไหน เพราะในหัวไม่สั่งการอื่นนอกจากการตีปีกสับขาหนีสัตว์สี่เท้า ประสบการณ์แรกของชีวิต

ห้อกวดกันมาเหมือนจะชิงแชมป์โอลิมปิก ป่าเขาลำนำไพรคดโค้งมีขอนไม้แต่ไม่อาจขวางทางตีนใครได้ ไอ้จั๋ววิ่งตัวปลิวกระโดดข้ามรกข้ามพงด้วยเทคนิคล้ำลึกยิ่งกว่าจาพนมวิ่งตามช้าง ส่วนผมที่วิ่งตามตูดมันอยู่ดึงสติสตังค์กลับมาได้ก่อนเพื่อน พอหูไม่ได้ยินเสียงคำราม สอดส่ายสายตาไม่เห็นเงาเสือเลยค่อยผ่อนฝีเท้าเพื่อเปลี่ยนสมาธิมาดึงอากาศเข้าปอดที่กำลังจะฉีก แล้วแหกปากเฮือกสุดท้ายเรียกไอ้จั๋วที่ยังสับขาหลอกอยู่เบื้องหน้า สุดท้ายแม้แต่ไอ้จั๋วภาคจาพนมก็หมดลิมิต ทิ้งตัวนั่งหอบหายใจเป็นหมาหอบแดดมาตามๆกัน

ถึงแม้จะใช้ทั้งปากทั้งจมูกแต่อากาศเหมือนสูดไม่เข้าปอดจนหัวใจแทบกระฉอกออกมาทางปาก ผมอ้าปากฮุบอากาศอย่างเร่งด่วนพลางกวาดตามองไปรอบตัวเท่าที่จะมีกำลังเหลือ มองให้แน่ใจว่าไอ้ที่เผ่นหนีกันมาไม่ได้เกาะกลุ่มตามมาด้วยก็ค่อยคลายความเกร็งกล้ามเนื้อน่องแล้วแทบจะนอนแผ่ไปกับพื้น แล้วก็ต้องเด้งขึ้นมาเมื่อนึกได้ว่าวิ่งเตลิดเปิดเปิงจนลืมไอ้มิคลืมรอยตีนลุงเกลี้ยงไปเสียสนิทใจ

คนที่วิ่งตามๆกันมามีแค่ห้าจากสิบเก้า ไอ้จั๋ว ไอ้เดย์ ผมและน้องผู้หญิงอีกสอง ทันทีที่นับเลขเสร็จก็ต้องทะลึ่งขึ้นยืนด้วยอดีนารีนก็อกสอง แล้วเริ่มหันรอบตัวมองทะลุป่าหาเพื่อนร่วมทริป หัวใจที่ยังไม่กลับเข้าที่ดีดจังหวะขึ้นมาอีกครั้งด้วยความกลัวที่ต่างจากตอนเริ่มต้นโกย ไอ้มิค ไอ้อ่อน ไอ้โยม ไอ้บี คนอื่นๆอีกเป็นสิบจะหนีเสือได้อย่างพวกผมรึเปล่า

ความร้อนใจทำให้ผมเริ่มป้องปากตะโกนเรียกชื่อ ไอ้เดย์ที่ยังก้มหน้าหอบหายใจกับสองสาวที่เริ่มน้ำตานองต่างช่วยกันตะโกนเรียกเพื่อนไปรอบทิศ ส่วนไอ้จั๋วที่วิ่งป่าราบนำหน้าทุกคนมาตอนนี้แผ่ราบอยู่กับพื้น ยังหาแรงมายืนไม่เจอ

“คงวิ่งกันไปทางอื่น”

ผมบอกอีกสี่คนที่เริ่มหันมามองหน้ากัน หลังจากตะโกนเรียกมาพักใหญ่จนเสียงแห้งก็ยังไม่ได้ยินอะไรอื่นนอกจากเสียงสะท้อนของตัวเอง

“ไม่เป็นไรหรอก… พวกนั้นไม่เป็นไรแน่ ลุงเกลี้ยงก็อยู่” ประโยคย้ำความมั่นใจที่บอกตัวเองมากกว่าจะบอกคนอื่น นาทีนี้ผมอยากเห็นหน้าไอ้มิคจับใจ

“แล้วเราจะทำยังไงกันดี ย้อนกลับไปที่เดิมไหม เผื่อ เผื่อ…” เสียงเจือสะอื้นเอ่ยถามไม่จบประโยค แต่พูดมาแค่นี้ทุกคนก็รู้ รู้แต่ไม่มีใครกล้าคิด

“เดินหากันดีกว่า” ไอ้จั๋วออกความเห็นหลังจากเงียบกันไปเป็นครู่ “เดินหาไปก่อน ดีกว่าไม่ได้ทำอะไร”

“แล้วถ้าหลงขึ้นมาล่ะพี่” เสียงเล็กๆจากน้องผมยาวถามมาเหมือนมีเหตุผล

“โธ่น้อง ตอนนี้ก็เรียกว่าหลงอยู่แล้วล่ะครับ” ไอ้เดย์ตอบได้ฟังชิวๆมากมาย แล้วอยู่ๆก็โพล่งออกมา

“มือถือ! ใครเอามือถือมาบ้าง”

เสียงเรียกหามือถือของไอ้เดย์ทำเอาแต่ละคนเหมือนเห็นแสงแห่งความหวัง รีบตบกระเป๋าค้นเป้กันยกใหญ่ สุดท้ายได้มือถือมาหนึ่งเครื่อง

“นี่ไงๆ! มือถือมะลิ” เจ้าของมือถือชูของในมือให้เห็นกันถ้วนทั่วท่ามกลางเสียงโห่ร้องของอีกสี่คนที่เหลือ ไอ้เดย์ถึงขนาดกำหมัดชกลมวืดวาด

“แล้ว แล้วจะให้โทรหาใครคะ?” มะลิถามสีหน้ามีความหวัง

“191 เลยน้อง” ไอ้จั๋วยกมือตอบเป็นเสียงแรก “เราไม่มีเบอร์ลุงผู้ใหญ่ โทรหาตำรวจแจ้งไปก่อนว่าหลงป่าขอกำลังเสริม”

“เฮ่ย ให้น้องเขาโทรหาเพื่อนที่มาด้วยกันก่อนดีกว่า เช็คดูก่อนว่าเป็นยังไง ไม่แน่อาจอยู่ไม่ไกลจากพวกเรานักหรอก น้องมีเบอร์ใครที่เข้าป่ามาด้วยกันบ้างไหม”

ไอ้เดย์เสนออีกความคิดแล้วหันไปถามมะลิ ซึ่งเจ้าของมือถือก็พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

“ไอ้เดย์ มึงมองดิ มองให้ทั่วๆ นี่มันป่านะโว้ยไม่ใช่สยาม โทรเจอเพื่อนแล้วจะนัดให้มาเจอกันตรงไหน” ไอ้จั๋วแย้งอย่างมีเหตุผล

“แจ้งตำรวจให้มืออาชีพมาช่วยกันหาจะเวิอร์คกว่า”

“กูเห็นด้วย งานนี้นอกจากหลงป่าแล้วยังมีเสือ แจ้งตำรวจให้เขาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ พวกลุงผู้ใหญ่จะได้รู้เรื่องด้วย อย่างนี้จะปลอดภัยกว่า” ผมเสนอเข้าไปอีกเสียง

“งั้น 191 เลยนะ” เจ้าของมือถือยกเครื่องขึ้นกด แล้วจากหน้าที่เริ่มสว่างด้วยความหวังก็ดำคล้ำในเสี้ยววินาที

“ไม่ ไม่มี… ไม่มีสัญญาน!” น้องมะลิว้ากออกมาสุดเสียงแล้วเริ่มวิ่งพล่านหาคลื่น “โฮ! มือถือเฮงซวย ทำไมถึงไม่มีคลื่นเล่า โฮ โฮ”

เจ้าของมือถือแห่งความหวังแหกปากร้องไห้ไม่อายใคร พวกผมที่เจอสถานการณ์นี้เข้าไปก็อยากเปิดปากร่วมประสานเสียงตามไปติดๆ สุดท้ายหลังจากเช็คแล้วเช็คอีกว่ามือถือไม่มีคลื่นไม่ว่าจะเหนือใต้ออกตก เลยตัดใจผับแผนขอกำลังเสริมเก็บเข้ากระเป๋า ได้แต่ใช้กำลังตัวเองออกเดินพลางป้องปากเรียกไปให้ก้องป่า

วู้ววววววว ไอ้มิคมึงอยู่ไหน…



โปรดติดตามตอนต่อไป
=========================================================================

 เมื่อวาน Horror มาวันนี้ Adventure ได้อีก

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรรม มิค มิคเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย
มิคคนดีอยู่ไหน กิมเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

กร้ากกกกกกกกกกกกกส์

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เธออยู่ไหนนนนน  ชั้นอยู่นี่  ที่รักมิคจ๋าาาาาา
ฮ่วย  ตัดจบแค่นี้  คนอ่านลุ้นนะเฟ้ยย

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
มานั่งรอคนโพสเลย
ลุ้นอย่างแรงว่าคืนนี้จะได้อ่านหรือเปล่า
สนุกอย่างที่รอเลย
แต่ก้อค้างด้วยอ่ะ

ออฟไลน์ Jimmeiiii*

  • แสงสุดท้าย*
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3161/-192
 :laugh: หลงป่าซะแล้ว มิคไปไหนนนนนนนนนนน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รักจัง....(by คุณ meae)...ตอนที13-Adventure.....(7/09/10)
« ตอบ #259 เมื่อ: 07-09-2010 23:30:39 »





Killua

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อวานหนีผี วันนี้หนีเสือ :laugh:

ออฟไลน์ Nabee

  • 너만 사랑해~♥
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-3


รู้สึกว่าช่วงนี้...ชีวิตของกิมจะมีสีสันค่อด ๆ =^= b


หลังจากที่ต้องฟาดฟันกะผีมาถึงสี่คืน...วันนี้กลับต้องมาปะทะกะเสือ

ให้ต้องเสียแรงวิ่งหนีกันป่าแทบราบ...ไอ่สงสารก็สงสารอยู่หรอกนะ

แต่ฮามากไม่ไหวจะทน...โดยเฉพาะเหล่าผองเพื่อนของกิม...ฮาจนท้องเกร็ง น้ำตาเล็ดไปหมดแล้ว

เหมือนตัวเองแย่มาก ๆ...มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น...แต่ใครอ่านแล้วไม่ฮา...เค้าเรียกว่า "ตายด้าน" นะเออ...กร๊ากกกกกกกก ก ก กกส์ XD

lasom

  • บุคคลทั่วไป
ไหนบอกอยู่มาเป็นสิบไม่เคยเจอแล้วนี้มันอะไรกันอ่ะลุง :z6:
 :call:มิคหาหนูกิมเจอเร็วนะ

thisispom

  • บุคคลทั่วไป
ค่ายอาสาแบบผจญภัยสุดๆ เจอทั้งผีทั้งเสือ
ลุงผู้ใหญ่เนี่ยชักยังไงแล้ว หลอกแกล้งเด็กๆหรือเปล่า

ออฟไลน์ iiดาวพระสุขლii

  • คิดการใหญ่ ใจต้องเหี้ย(ม),,
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +746/-3
กรรม....หลงป่า กันจนได้...
ถ้าเรื่องจริงนี่ขอบอกว่าน่ากลัวมากๆ  T_____T

มิค...มาช่วยกิมหน่อยเร๊ววว

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อยู่เฉยๆอย่าเดินเค้าจะตามหาง่ายกว่านะ :laugh:

แต่มิคคงคลั่งไปแล้วล่ะ ดวงใจหายไปเพราะหนีเสือ  :-[

ออฟไลน์ rule

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
มันส์คะ

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
สนุกสุดสุด :jul3: :jul3: :jul3:
ขอบคุณค่ะ :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :3123:

ออฟไลน์ heefever

  • 영원히 그대만 사랑해
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ค่ายอาสานี้ โคตะระตื่นเต้น

มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ

ทั้งผี ทั้งเสือ สนุกกันจนลืมไม่ลงเลยทีเดียว  :sad4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด