Level 12: ระยะห่างตกลงพริ้มเป็นใครกันวะ?
ผมได้แต่นึกสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถามพี่ลิงก์ครับ ดูเหมือนเขาไม่อยากให้ใครเซ้าซี้ในเวลานี้เท่าไหร่ ผมเลยได้แต่เก็บความค้างคาใจเอาไว้ข้างใน
พี่ลิงก์กลับมานอนพักหนุนตักของโจแอนที่คอนโดครับ เขาหลับไปเฉย แล้วทิ้งผมให้ยืนเอ๋ออยู่ในห้อง ผมนั่งลงบนพื้นพรมโดยพิงหลังกับโซฟาที่เจ้าของห้องนอนอยู่ จนกระทั่งเวลาเกือบหนึ่งทุ่มคนนอนหลับก็ตื่น
"บู้ไปอาบน้ำสิ"
"อ่า...เดี๋ยวผมกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองครับ"
อะไรของเขา? อยู่ดีๆ พี่ลิงก์ก็สั่งให้ไปอาบน้ำ? หรือว่าผมตัวเหม็นมาก?!
ผมลอบสำรวจกลิ่นของตัวเองอบ้างไม่มั่นใจ แต่คำพูดของพี่ลิงก์ก็ทำให้ผมต้องหันไปสนใจเขาต่อ
"เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว"
"ไปเที่ยว? "
"อืม นัดกับพวกนั้นไว้ว่าจะไปที่ผับ A"
ผับ A!?
ผมไม่รู้จักผับที่ว่าหรอกครับ เพราะไม่เคยไปเที่ยวสถานที่แบบนั้นมาก่อน แต่ที่งงยิ่งกว่านั้นก็คือ...พี่ลิงก์ชวนผมไปเที่ยวผับเนี่ยนะ?!
หน้าอย่างผม...ชวนไปเที่ยวสวนสัตว์คงเหมาะกว่ามั้งครับ!
"เอ่อ...พาผมไปด้วยจะดีเหรอ"
"มึงมีปัญหาอะไรบู้ ถึงอายุสมองมึงจะไม่ถึง แต่อายุตามบัตรประจำตัวประชาชน กูว่าเข้าได้นะ"
อันนี้ก็รุนแรงต่อหัวใจของผมเกินไปนะครับ เหอะๆ
"คือ...ผมไม่เคยไปอ่ะ แบบว่า..."
"ไม่เคยไป ก็ลองไป เลิกงอแง แล้วไปอาบน้ำ"
งอแง...?
ตอนนี้ผมอยากจะไปเปิดพจนานุกรมหาความหมายของคำนี้จริงๆ ผมว่า...คนที่เหมาะกับคำนี้ที่สุดก็คือพี่ลิงก์นั่นแหละ
งอแง ปากร้าย เอาแต่ใจ!
ถึงจะไม่ค่อยอยากไป เพราะไม่ใช่สายดื่มเที่ยว แต่เพราะเป็นพี่ลิงก์ ผมก็โอเคหมดนั่นแหละครับ ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน ในเมื่อชีวิตประจำวันของผมก็คงไม่มีโอกาสได้ไปอยู่แล้ว
จะว่าไป...ก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ
"หลับในเหรอ ตื่นๆ ยังไม่ใช่เวลานอน"
คนที่ชอบนอนกลางวันอย่าว่าคนอื่นแบบนี้ครับ!
ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อพี่ลิงก์กำลังจ้องหน้าเหมือนหาเรื่อง เขาลุกจากโซฟา แล้วเดินไปทางห้องครัวต่อ
"ไปอาบน้ำ เดี๋ยวทำอะไรให้กิน แล้วเราค่อยไปผับกัน"
ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะบอกเจ้าของห้องที่กำลังเดินเอื่อยถึงปัญหาที่ยังทำให้ผมไม่ขยับไปทำตามที่เขาบอกเสียที
"พี่ลิงก์ ผมไม่มีชุดเปลี่ยน"
พี่ลิงก์ชะงัก ดูเหมือนว่าเขาก็คงลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน ปลายเท้าที่เดินไปทางห้องครัวเลยเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้องที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนแทน
"เดี๋ยวหาให้"
พี่ลิงก์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึงกางเกงในที่ยังไม่ได้ใช้ด้วยครับ ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความเขินอาย
"ลองดู น่าจะใส่ได้"
"ขอบคุณครับ"
ผมไม่ได้มองสีหน้าของพี่ลิงก์ แล้วรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที
@@@@@@@@@@
ผมใช้ห้องน้ำด้านนอกครับ ทั้งที่ตอนแรกแอบหวังเอาไว้ว่าจะได้ลองเข้าห้องนอนของพี่ลิงก์สักครั้งก็ตาม เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยด้วยชุดที่อีกฝ่ายเตรียมให้ ถึงแม้เสื้อและกางเกงจะมีขนาดใหญ่กว่าตัว แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไรครับ
พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ บนโต๊ะอาหารที่เฮเลนนั่งประจำที่ก็มีผัดมาม่าจานใหญ่วางอยู่ พี่ลิงก์ที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาเดินเลยผ่านผมไปยังห้องส่วนตัวของเขา
"กินให้หมด แล้วก็ล้างจานให้ด้วย เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน"
"แล้วพี่ไม่กินหรือครับ"
"กินแล้ว ตอนรอมึงอาบน้ำ"
ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเฮเลนที่นั่งมองผมตาแป๋ว ผมนั่งกินมาม่าผัดพร้อมกับพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพี่ลิงก์ถึงได้วางตุ๊กตาหมีไปทั่วห้องแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกแปลกที่ต้องมานั่งกินข้าวให้ตุ๊กตาหมีดูน่ะครับ
ผมใช้เวลาไม่นานก็กินอาหารเย็นของตัวเองหมด หลังจากที่เก็บล้างให้เจ้าของห้องเรียบร้อย ผมก็เดินออกจากห้องครัว แล้วก็เจอพี่ลิงก์กำลังยืนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น
"พวกนั้นมารอแล้ว"
"ครับ"
ผมเดินตามพี่ลิงก์ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และยิ่งรู้สึกประหลาดใจเป็นเท่าตัว เมื่ออีกฝ่ายเดินนำผมออกจากดอนโดมิเนียมหรูไปทางสถานีรถไฟฟ้า
"พี่ไม่ขับรถไปเหรอ"
"ขี้เกียจ รถติด หาที่จอดลำบาก"
"อ่า...ครับ"
พี่ลิงก์เดินไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้ามาให้ ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปยืนรอรถไฟฟ้าที่ชานชาลา ผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัวไม่ได้ทำให้ความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนหายไป
ผมสังเกตว่ามีหลายคนลอบมองพี่ลิงก์อยู่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนเพราะความหน้าตาดีจะไม่ได้สนใจ
เมื่อรถไฟฟ้ามาจอดเทียบที่ชานชาลา ผมก็พบกับจำนวนคนมากมายที่ยืนแออัดอยู่ภายใน ในขณะที่ผมกำลังมองซ้ายมองขวาว่าจะไปยืนแทรกตรงไหนดี พี่ลิงก์ก็คว้าแขนของผมไปเบียดแทรกอยู่ตรงทางเชื่อมของโบกี้ที่พอจะมีที่ว่างอยู่เล็กน้อยครับ
ผมยืนพิงหลังกับผนังของรถไฟฟ้า ทุกคนในบริเวณนั้นต่างก็เล่นโทรศัพท์มือถือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ก็มีบางสายตาที่เหลือบมองไปยังพี่ลิงก์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของผม
พี่ลิงก์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะทำอะไร สุดท้ายเลยได้แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาบ้าง แล้วพบว่าแบตเตอรี่ของมันใกล้จะหมดแล้ว ผมเลยจำใจต้องเก็บพลังงานของเครื่องมือสื่อสารที่มีจำกัดเอาไว้ตามเดิม
อาจเพราะเส้นทางและการขับเคลื่อนที่ไม่ปกติ ทำให้ขบวนรถไฟฟ้ากระชากตัวจนผู้โดยสารทรงตัวลำบาก ถ้าหากไม่ได้จับห่วงหรือเสาเพื่อยึดเป็นหลักเอาไว้
พี่ลิงก์ที่ทรงตัวด้วยสมดุลของตัวเองมาตลอดเลยเซเข้ามาหาผมกะทันหัน ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เพราะตอนนี้ใบหน้าของเราใกล้กันมากเลยครับ!
นัยน์ตาสีดำที่เอาแต่จ้องโทรศัพท์มือถือก่อนหน้านี้สบกับนัยน์ตาของผม พี่ลิงก์ยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เสียงทุ้มจะดังแผ่ว
"โทษที กูเซ"
ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วเบือนสายตาไปทางอื่นแทน หัวใจของผมเต้นแรงจนน่ากลัว ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนจากร่างกายที่เข้ามาชิดใกล้ ลมหายใจก็คล้ายจะติดขัดไปหมด
เนื่องจากพี่ลิงก์ต้องการป้องกันการยืนเซเพราะไม่มีที่ยึดอีก เขาเลยใช้มือยันกับผนังของรถไฟฟ้าที่ผมยืนพิงอยู่ ระยะห่างที่น้อยลงกว่าเดิมมากขึ้น ทำให้ตอนนี้ผมเหมือนตกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายโดยปริยาย
เขินอ่ะ....
ผมยืนเกร็งทำตัวเป็นรูปปั้นด้วยใบหน้าร้อนผ่าวต่างจากพี่ลิงก์ที่มือหนึ่งค้ำยันผนังรถไฟฟ้าเหนือหัวของผมไว้ อีกมือหนึ่งก็กดโทรศัพท์มือถือไม่หยุด ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังก้มมองหน้าจอทัชสกรีนด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
ด้วยความเร็วของรถไฟฟ้าที่ไม่ติดขัดเหมือนการจราจรบนถนน ผมกลั้นใจตกอยู่ในอาการไม่เป็นตัวของตัวเองได้ไม่นาน พี่ลิงก์ก็ดึงแขนของผมเดินฝ่าคนที่ยังเบียดแน่นออกจากรถไฟฟ้าครับ
ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อได้รับอิสระ ก่อนจะเดินตามพี่ลิงก์ไปยังผับ A ต่อ
@@@@@@@@@@
ถึงจะดึกแล้ว เมื่อเทียบกับบางพื้นที่ แต่บริเวณที่พวกเราเดินอยู่กลับคึกคัก ผมมองรอบตัวด้วยความสนใจ แล้วหันไปทางพี่ลิงก์ หลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา
"อย่าทำตัวเหมือนบ้านนอกได้ไหม"
"ผมก็เป็นเด็กบ้านนอกจริงๆ ครับ"
พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น ผมก็เลยถือโอกาสเล่าเรื่องของตัวเองสร้างบรรยากาศระหว่างที่เราสองคนเดินไปที่ผับด้วยกัน
"ผมเป็นพี่คนโต มีน้องชายคนนึง ชื่อกรีน ปีหน้าก็จะเข้ามหา'ลัยแล้ว"
"พี่น้องตระกูลสีเหรอ"
"ครับ เป็นสีที่พ่อกับแม่ชอบครับ"
"อืม ดีนะ"
พี่ลิงก์ตอบรับ แต่สายตาของเขากลับมองไปทางอื่นเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง บรรยากาศโดยรอบที่ก่อตัวขึ้นของอีกฝ่าย ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก
"พี่ลิงก์ อีกไกลไหมครับ"
พี่ลิงก์หันมามองผม แล้วเลื่อนสายตามองไปรอบตัว ก่อนที่เสียงทุ้มเรียบจะดังขึ้น
"เหมือนมาผิดซอยว่ะ"
"ฮะ?! "
ท่าทางเด๋อด๋าของผม ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอามือบีบแก้มของผมทีหนึ่ง แล้วชี้นิ้วไปยังร้านข้างหน้า
"กูล้อเล่น อยู่นั่นไง"
ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับลูบแก้มที่โดนบีบอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่อย่างน้อยความเจ็บครั้งนี้ก็สามารถทำลายบรรยากาศสีเทาที่อยู่รอบล้อมเราสองคนเอาไว้และเรียกท่าทางสดใสของอีกฝ่ายกลับคืนมาได้
นี่คือตัวอย่างของความรักที่ทำให้เจ็บปวดสินะครับ
@@@@@@@@@@
ภายในผับ A เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเสพความสุขของเครื่องดื่มและเสียงดนตรี พี่ลิงก์เดินลากแขนของผมฝ่ากลุ่มคนที่สังสรรค์และโยกย้ายตามจังหวะเพลงที่สนุกสนานไปยังโต๊ะหนึ่งที่มีผู้ชายนั่งอยู่สี่คน
มีสองคนที่ผมรู้จัก คือพี่พลกับพี่ที แต่อีกสองคนที่กำลังมองผมอย่างไม่ปิดบังไม่คุ้นหน้าเลยสักนิดครับ
"พามาเปิดตัวหรือจ๊ะน้องลิงก์ กิ๊วๆ "
เสียงของพี่ที่ผมไม่รู้จักคนหนึ่งดังขึ้น เขายิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกาย ก่อนที่เสียงของผู้ชายแปลกหน้าอีกคนจะดังขึ้นต่อ
"เอาจริงดิ ไอ้เหี้ยลิงก์หลุดแนวกระจุยกระจายเลยว่ะ"
"ที่เขาว่า จิตใจคนยากแท้หยั่งถึงไงมึง"
พี่พลพูดเสริม ผมได้แต่มองพวกเขาสามคนอย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะลอบมองพี่ทีที่นั่งเงียบมองไปทางอื่นราวกับไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
"ร้องขอส่วนบุญกันหรือพวกมึง"
พี่ลิงก์ว่ากลับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกดไหล่ของผมให้นั่งลงที่โซฟาข้างเขา โดยที่มือข้างหนึ่งก็พาดไปกับพนักโซฟา ผมรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุข เพราะเหมือนตกอยู่ในกลุ่มคนที่ดูไม่น่าไว้วางใจ
"อ่าฮะ ขอส่วนบุญสักแสนดิเฮีย ผมจะเอาไปเปย์สาว"
"ป๊ากูคงมาจ่ายให้ ตอนกูอัดมึงเข้าโรงพยาบาลอ่ะเหี้ยดิม"
"เอาดิ กูจะตามไปเผาตุ๊กตาหมีสุดที่รักของมึงให้วอดเลย"
"ไอ้สัตว์"
เสียงหัวเราะดังขึ้นตามประสาเพื่อนที่พูดคุยเล่นหัวกัน ผมที่ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรก็ได้แต่นั่งฟังครับ
"กูขำทุกที จุดอ่อนไอ้เหี้ยลิงก์คือตุ๊กตาหมี ฮ่าๆ "
"แล้วไง ก็กูชอบ"
ผมมองเสี้ยวหน้าของพี่ลิงก์ที่กำลังพูดคุยกับเพื่อน ต่อมาพี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็หันมาสนใจผม
"ไอ้ลิงก์ แล้วมึงจะไม่แนะนำน้องเขาหน่อยหรือครับ"
"นั่นสิ"
"บลู เรียนอยู่ปีสอง"
ผมกะพริบตาหนึ่ง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเล่นของผมได้ถูกต้อง
"หวัดดีครับน้องบลู พี่ชื่อดิมนะครับ"
พี่ผู้ชายที่ท่าทางคุยเก่งแนะนำตัวเอง ก่อนพี่ผู้ชายอีกคนจะแนะนำตัวตาม
"พี่ชื่อเรย์นะครับ"
"ครับ บลูครับ"
อาจเพราะผมเป็นคนเพื่อนน้อย เลยทำให้ทักษะการสร้างมนุษยสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ยังดีที่เพื่อนของพี่ลิงก์ทั้งสองคนอัธยาศัยดี แถมยังพยายามพาผมเข้าสู่บทสนทนาอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย
ทั้งพี่ดิมและพี่เรย์เป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมครับ พวกเขาเรียนกันคนละมหาวิทยาลัย แต่ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็จะนัดเจอกันเสมอ
"แล้วบลูเจอกับเพื่อนพี่ได้ยังไงเนี่ย"
"เอ่อ...ก็เจอที่มหา'ลัยอ่ะครับ"
"กูต้องต่อยังไงดีวะ"
พี่ดิมหันไปทางพี่พลที่นั่งยิ้มอยูข้างกัน
"คือน้องเขาเก็บตุ๊กตาหมีที่เป็นพวงกุญแจของไอ้ลิงก์ได้ สื่อรักที่ห้อยหมีอ่ะมึง"
"โรแมนติกสัตว์โลกมาก"
พี่เรย์พูดขึ้นพร้อมกับพี่ดิมที่พยักหน้ารับ ก่อนที่พี่ลิงก์จะพูดขึ้นบ้าง แล้วส่งสายตาดุใส่พี่พล
"อย่าเรียกโคลแบบนั้น"
"ประเด็นที่ควรท้วงไม่ใช่ตรงนั้นหรือเปล่าวะ"
พี่เรย์ย้อนถาม พี่ลิงก์ก็หันไปมองอีกฝ่าย แล้วยักคิ้วขึ้นเป็นการตอบรับ จากนั้นเสียงโห่ของเพื่อนร่วม โต๊ะอีกสามคนก็ดังขึ้น ส่วนพี่ทีก็แค่มองเล็กน้อย แล้วสนใจเครื่องดื่มของตัวเองต่อ
ผมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจบทสนทนาของพวกรุ่นพี่เท่าไหร่ก็ได้แต่นั่งเงียบ แล้วทบทวนคำพูดของพี่พลไปด้วย
ก็อาจจะจริงที่โคลเป็นสื่อรัก แต่คงเป็นของผมฝ่ายเดียวครับ ที่ห้อยตุ๊กตาหมีตัวนั้น ทำให้ผมได้คุยกับพี่ลิงก์เป็นครั้งแรก แล้วก็ทำให้ผมได้มานั่งอยู่ข้างเขาในตอนนี้
ผมอมยิ้มกับตัวเองในใจ ก่อนจะหันไปทางคนที่นั่งอยู่ข้างกัน เมื่อได้ยินคำถามของเขา
"กินอะไรเพิ่มป่ะ"
"ไม่ครับ"
ตอนนี้ผมกินกับแกล้มของพวกเขาอยู่ครับ ส่วนเครื่องดื่มก็เป็นน้ำอัดลมที่พี่พลสั่งเอาไว้ให้ก่อนหน้านี้
"บลูกินเหล้าได้ป่ะ"
พี่เรย์หันมาถามผม ผมก็พยักหน้ารับ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อของคนถามฉายชัดขึ้นพร้อมกับเลื่อนแก้วบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรงหน้าของผม
"พี่จัดให้ ถือว่าฉลองที่ได้เป็นเด็กของเพื่อนพี่"
"มึงอย่าเยอะไอ้เรย์"
พี่ลิงก์หันไปว่าเพื่อนที่หัวเราะรับ ก่อนที่เขาจะหันมาทางผมต่อ
"ถ้าไม่อยากกิน ก็ไม่ต้องกิน"
"ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้"
ผมมองแก้วเหล้าสีเข้มอย่างพิจารณา ผมไม่ใช่คนชอบดื่มเที่ยวก็จริง แต่ก็ไม่ใช่คนที่เอาแต่ดื่มนมก่อนนอนหรอกนะครับ
"แกล้งน้อง"
น...น้อง!
ผมรู้สึกขัดเขินเล็กๆ กับสรรพนามที่เขาเรียกแทนตัวของผม แล้วลอบมองพี่ลิงก์ที่หันไปว่าเพื่อนอีกครั้ง แต่พี่เรย์ก็ยักคิ้วให้แบบไม่สนใจ ก่อนที่เสียงของพี่พลจะดังขึ้น
"เอาน่า...ถือว่าเป็นการรับน้องไง"
"ใช่ๆ รับน้องที่ได้มาเป็นคนพิเศษของมึงไง"
"เงียบปากไปเลยไอ้เหี้ยดิม"
ผมได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องที่ต้องดื่มเหล้ารสเข้มในแก้ว แต่กำลังหวั่นไหวกับบทสนทนาที่ชวนให้คิดไปเองแบบสุดๆ มากกว่าครับ
"ฮ่าๆ น้องลิงก์เขินแล้วว่ะ"
"โอ๋ๆ เดี๋ยวพี่เรย์ซื้อตุ๊กตาหมีมาปลอบใจนะครับ"
"กูว่าเวลานี้ มันคงไม่อยากได้ตุ๊กตาหมีแล้วมั้ง เพราะมีอย่างอื่นที่มันอยากได้มากกว่า"
ทั้งพี่พล พี่ดิม และพี่เรย์ต่างก็หันมามองพี่ลิงก์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ส่วนพี่ทีที่ไม่ได้พูดอะไรก็ยังมองมาด้วยนัยน์ตาที่มีแววขำชัดเจน คนโดนรุมก็ยังดีหน้าปกติ ทั้งที่ผิวแก้มของเขาแดงระเรื่อ
"บู้ปวดฉี่ใช่ป่ะ เดี๋ยวกูพาไปเข้าห้องน้ำ"
ผมกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อพี่ลิงก์หันมาพูดกับผมเฉย แถมยังดึงผมให้ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะทันที โดยที่มีเสียงหัวเราะลอยตามหลังมาครับ
T
BC ++++++++++
Marionetta สำหรับตอนนี้เพิ่มตัวละคนมาอีกแล้วคือพี่เรย์กับพี่ดิมจ้า ส่วนพริ้มที่เปิดตัวไปเมื่อคอนที่แล้วจะเฉลยในตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ปล. บู้ก็ดื่มเป็นนะ แต่ไม่ได้ชอบเท่านั้นเอง