“พี่สไลย์ขี้โกง!”
“พวกเราไม่ยอม พวกเราจะย้ายมาอยู่ด้วย!”
เช้าวันใหม่ของคายาเริ่มต้มด้วยเสียงโหวกเหวกโวยวายของสองแฝดที่พ่นใส่สไลย์ เพราะเพิ่งค้นพบว่า คนตัวโตย้ายตัวเองเข้ามาอยู่ในกับคายาโดยไม่บอกไม่กล่าว ไม่พูดเปล่า เคย์และไคย์เก็บของแพ็คกระเป๋ามาพร้อมเรียบร้อย ทำเอาคายาต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะสไลย์เองก็ทำตัวเป็นเด็กหวงของเล่น พยายามจะจับสองแฝดโยนออกจากบ้านเพื่อไม่ให้มีก้างขวางคอ ส่วนซายะกลับหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี
“พี่เคย์ พี่ไคย์ พาพี่คิน พี่เซย์ริวกับลุงนาร์มาด้วยซิคะ ซายะอยากอยู่กับทุกคน”
สิ้นเสียงนางฟ้าตัวจิ๋ว สองแฝดเฮลั่น ส่วนสไลย์ นั้นได้แต่อ้างปากค้างตาถล่นอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
ซายะ! ทำไมถึงหักหลังกันได้! !
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เด็กๆทั้งสี่รวมทั้งสไลย์ก็เข้ามาอาศัยอยู่บ้านเดียวกับคายา ยกเว้นลุงนาร์ที่ต้องคอยรักษาคนไข้อยู่ที่บ้านตัวเอง จึงเลือกวิธีไปๆมาๆแทน ทุกๆวันภายในบ้านมีแต่ความคึกคักและอลม่าน แต่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ถึงแม้จะเหนื่อยคายาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับทุกๆคน และยิ่งกว่าไปนั้น ซายะดูมีความสุขมากที่ได้มีพี่ชายเพิ่มขึ้นมาอีกสี่คน
“คุณพ่อขา...หนูปวดหัวจังเลย...”
เช้าวันหนึ่งที่อากาศไม่ค่อยเป็นใจ ฝนเทลงมาอย่างหนัก ซายะเดินเข้ามาหาคายาถึงในห้องพร้อมกับบอกถึงอาการไม่สบายของตนจนคายาต้องรีบฝ่าฝนออกไปตามหมอนาร์ถึงบ้าน ระหว่างที่รอคุณหมอตรวจอยู่ คายาได้แต่ยืนกระสับกระส่ายกลัวว่าลูกสาวตนจะป่วยหนัก หลังจากตรวจเสร็จหมอนาร์ได้เรียกคายาไปคุยนอกห้องเพราะไม่ต้องการรบกวนคนป่วยตัวน้อยที่หลับด้วยฤทธิ์ยา
“ซายะเป็นยังไงบ้างครับลุงนาร์”
“ตอนนี้มีไข้ต่ำๆกับอาการอ่อนเพลีย ถึงจะดูไม่ร้ายแรงแต่ลุงอยากให้หลานคอยสังเกตอาการดีๆ เพราะผู้หญิงมีภูมิต้านทานที่ต่ำกว่าพวกเรามากและซายะยังเป็นเด็ก ลุงให้ยาไปแล้ว แต่คายาอย่าประมาทต้องคอยเช็ดตัวไม่ให้ไข้ขึ้นสูงนะ” หมอนาร์กำชับยาวเหยียดพร้อมกับจัดยาชุดใหญ่ให้ ก่อนที่จะกลับออกไปทิ้งคายาไว้กับความรู้สึกหนึกอึ้งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
คายาที่ยืนเหม่ออยู่พักใหญ่แอบสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคนเรียก
“พี่คายา ซายะเป็นยังไงบ้าง” เมื่อเห็นว่าคุณหมอกลับไปแล้ว สไลย์และเด็กๆที่รออยู่ ก็เข้ามาถามอาการน้องน้อยด้วยความเป็นห่วง คายาฝืนยิ้มน้อยๆก่อนจะบอกว่าไม่มีอะไรไม่ต้องเป็นห่วง ซายะเป็นไข้นิดเดียว เด็กๆได้ยินดังนั้นก็รู้สึกโล่งใจ จึงแยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ยกเว้นสไลย์ที่มีสีหน้าเหมือนกำลังกังวลอยู่กับอะไรสักอย่าง
“พี่คายา...พี่จำเรื่องพี่เซเรียได้ไหม?” อยู่ดีๆสไลย์ก็เอ่ยถึงเซเรียอดีตภรรยาผู้ล่วงลับของคายาขึ้นมา คายาที่ยังต้นชนปลายไม่ถูกได้แต่ปล่อยให้ตัวเองถูกสไลย์พามานั่งที่ม้านั่งตัวยาว
“เซเรีย?...พี่จำไม่ได้..” คายาได้แต่ตอบไปงงๆ เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าในโลกนี้มีเซเรียอยู่ด้วย
“พี่เซเรียเป็นภรรยาพี่ แม่ของซายะ จำได้ไหมว่าเขาเสียไปตั้งแต่ซายะเล็กๆ.....”สไลย์ค่อยๆเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อก่อน และหยุดเล่านิดหนึ่งเหมือนกำลังคิดว่าจะพูดต่อดีไหม
“ก่อนที่พี่เซเรียจะเสีย...เขาก็มีอาการเหมือนที่ซายะเป็นอยู่ตอนนี้.....”
จบประโยคนั้นก็เหมือนมีฟ้าฝ่าเข้ามากลางใจคายา ความกลัวเข้าถาโถมเข้ามาทันที คายากลัว กลัวที่จะต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป....
“ฮึก.... ไม่...ซายะจะไม่เป็นอะไร...ฮึก..” สไลย์ต้องรีบโผเข้ากอดปลอบคายาที่เนื้อตัวสั่นสะท้านเพราะพยายามอย่างหนักที่จะไม่ร้องไห้ออกมา
“พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะช่วยดูแลซายะอีกแรง” .... ภายใต้เสียงฟ้าร้องและเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักสิ่งเดียวที่ยังพอทำให้คายารู้สึกมีกำลังใจที่จะต่อสู้ไปก็คืออ้อมกอดอันอุ่นนี้เท่านั้น.....
สามวันผ่านไป ฝนก็ยังตกหนักไม่ลืมหูลืมตา ยิ่งทำให้อาการของซายะแย่ลงไปอีก คายาที่หน้าตาซีดเซียว คอยเช็ดตัวและป้อนยาให้ลูกรักมีสไลย์คอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง ส่วนเด็กๆอีกสี่คนก็ไม่กะจิตกะใจที่จะไปไหนเมื่อรู้ว่าน้องน้อยของบ้านกำลังป่วยหนัก
“ฮึก ฮึก...” สองแฝดนั่งสะอึกอื้นกันที่มุมห้องนั่งเล่น เพราะเสียใจที่เห็นซายะป่วยแต่ตัวเองไม่สามารถช่วยอะไรได้ และยิ่งข่าวผู้หญิงในหมูบ้านที่เพิ่งป่วยตายด้วยลักษณะอาการคล้ายกัน ทำให้พวกเขาใจเสียจนต้องร้องไห้ออกมา เดือนร้อนพี่คนโตอย่างคินต้องเข้ามาปลอบใจและคอยบอกว่า ซายะจะไม่เป็นอะไร ส่วนเซย์ริวเองทำหน้าที่จัดหาข้าวปลาให้ทุกคนเพราะตอนนี้บรรยากาศในบ้านนั้นแสนอึมครึมจนทุกคนได้แต่นั่งเศร้า
“คะ..คุณพ่อ...หนู...หนาว....” คายาเพิ่มแรงกอดรอบตัวลูกสาวเมื่อได้ยินเสียงละเมอจากพิษไข้ ไม่ว่าพวกเขาพยายามเช็ดตัวหรือป้อนยาเท่าไร อาการของซายะก็ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย จนแม้แต่หมอนาร์เองก็แสดงอาการเครียดจนเห็นได้ชัด
“คุณพ่อ...กะ กอดหนูหน่อย...”
“พ่ออยู่นี่แล้วนะซายะ...” คายากระชับอ้อมก่อนให้แน่นขึ้นอีกพร้อมๆน้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกเป็นครั้งที่เท่าไรก็ไม่รู้ของวัน
“อุ่นจังเลย...” เมื่อได้รับรู้ถึงอ้อมกอดอันอบอุ่น ซายะที่ยังละเมอด้วยพิษไข้ก็สงบลง ก่อนจะซุกตัวเข้าหาอกของคายาและผล่อยหลับไป สไลย์ที่เห็นดังนั้นจึงดึงผ้าห่มคลุมให้สองพ่อลูกก่อนจะออกมาอย่างเงียบๆเพื่อไม่ให้มีเสียงรบกวนคนป่วย และได้แต่ภาวนาให้เรื่องนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว
มีต่อด้านล่างค่า