บทที่ 3: นมจืดกับแรบบิทครีม [100%]
“น้องไม่สบายตรงไหน?” นมจืดยืนชะเง้อชะแง้อยู่หน้าร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ กลิ่นน้ำมันรถ กลิ่นเครื่องยนต์คลุ้งไปหมด เห็นพระเอกเดินเข้าไปคุยกับเจ้าของร้านวัยกลางคนแต่ยังดูดีอยู่พักหนึ่งแล้วเดินออกมา
“เขาต้องเช็คก่อน” หลังจากตกลงอะไรเสร็จ สรุปคือต้องทิ้งรถเอาไว้ที่ร้านประมาณ3วันเพื่อรอเช็คเครื่องยนต์
“น้อง...เฮียว่าน้องขายเลยดีกว่าไหม? เฮียซื้อซากต่อเลย” เจ้าของร้านซ่อมเดินออกมา
เจ้าของรถคิ้วกระตุก รถเขานี่ถึงจะเก่าเหลือแต่ซากแต่มันก็ยังวิ่งได้เว้ย!
“ไม่อะเฮีย เฮียเช็คให้ผมก็พอ”
เจ้าของร้านพยักหน้าเออออ แต่ก็แปลกใจเพราะรถรุ่นเก่าขนาดนี้ส่วนใหญ่ขายเป็นอะไหล่หมดแล้ว
“ไอ้เก่งๆ มึงออกมาเช็ครถลูกค้าหน่อย” เสียงตะโกนของเฮียเจ้าของร้านเรียก
สักพักนมจืดเห็นคนถูกเรียกเดินออกมาในชุดช่างเลอะน้ำมันเป็นคราบไปหมด แต่ในมือที่เจ้าตัวอุ้มมาด้วยทำไมนมจืดตาโต
“น้องไก่!” ไก่ขนสีสวยสะดุดตา นมจืดทำปากอ้า อยสกลองจับน้องไก่จัง
“ไอ้เก่ง! มึงเอาไก่เด๋อของมึงไปเก็บก่อนกูจะเอามันไปเชือดทำข้าวมันไก่!”
“เฮีย! นี่อเล็กซานเดอร์ ไม่ใช่ไอ้เด๋อ!” คนอุ้มไห่เถียงทันควัน
คนตัวเล็กมองช่างซ่อมที่อุ้มไก่แล้วหันไปมองพระเอก อื้อหือ...สองคนนี้ตัวสูงกันจัง
“จับน้องไก่ได้ไหมครับ” ส่วนใหญ่เคยเห็นแต่คนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว คนที่เลี้ยงไก่อย่างประคบประหงมขนาดนี้ไม่ค่อยมี อีกอย่างเด็กกรุงเทพฯอย่างนมจืดไม่ค่อยได้จับไก่ตัวเป็นๆเท่าไร
ช่างฟิตที่อุ้มไก่มองคนพูด “เออ! แต่ระวังมันจิกล่ะ”
มือขาวจืดเอื้อมไปลูบขนตรงปีกเบาๆ สัมผัสแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้นมจืดยิ้มตาหยี
น้องไก่เชื่องมากๆ
หลังจากนั้นช่างฟิตประจำอู่ซ่อมก็โดนเฮียเจ้าของร้านไล่ให้ไปเก็บไก่แล้วมาทำงาน
“มึงจะไปไหนก็ไปสิ กูจะกลับแล้ว” ยังเห็นไอ้มินเนี่ยนยืนหน้าจืดอยู่หน้าร้านเหมือนเดิมไม่ไปไหนเลยเอ่ยปากไล่ เอ๊ย! บอก
“อื้อ เราจะไปร้านอาหารแล้ว” เดินไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงร้านแล้ว
“เออๆ เอาขากล้องมาได้ละ” กระดิกมือยืกๆทวงของคืน “ขอบใจ…” ถึงไอ้มินเนี่ยนจะทำเอาความดันขึ้นไปบ้างแต่มันก็อุตส่าห์ช่วยถือของมา
“อื้อๆ ไม่เป็นอะไร” นมจืดยิ้มกว้างตาหยี
“มึงไปๆ” โบกมือไล่
ร่างเล็กกว่าโบกมือบายบายพระเอกแล้วเดินไปทางร้านอาหาร ร่างสูงใหญ่ทำท่าจะเดินหันหลังกลับแต่สุดท้ายขาสองข้างก็ดันหันกลับมาทางเดิมแล้วเดินตามแผ่นหลังเล็กไปเรื่อยๆ
เหอะ! กูไม่ได้ไปส่งนะเว้ย!
รู้สึกหิว...จะไปหาอะไรกระแทกปากเหมือนกัน!
ร่างกายสูงใหญ่กับร่างเล็กถูกแสงอาทิตย์ที่กำลังตกดินสาดกระทบจนเกิดเป็นเงาทอดยาวออกไป
“หูยย เราสูงกว่าพระเอกด้วย” นมจืดตาโตร้องบอกตอนมองเงาตัวเองที่ยาวกว่าของอีกฝ่าย
“ไอ้ห่า! มึงเดินนำหน้ากูไหม?!!” คนฟังรู้สึกปวดหัวจี๊ดๆตลอดเวลา
“ฮื้อ…” นมจืดทำเสียงขัดใจ ให้เขาได้สูงบ้างอะไรบ้างสิ อิจฉาพระเอกนะ อยากได้ความสูงมาบ้าง
“ทำเสียงเป็นเด็กปัญญาอ่อนอีกล่ะ” เสียงทุ้มเข้มบ่น “เออ...มึง...ชื่อไรนะ? หน้อมแหน้ม? นมๆเน่าๆ?” วันนั้นมันเคยบอกชื่อแต่จำไม่ได้ เรียกแต่มินเนี่ยนแดกแฟ๊บ ลืมชื่อแม่งไปเลย
นมจืดขมวดคิ้วขัดใจ “ชื่อนมจืดๆ ไม่ใช่นมเน่า!” ใครจะตั้งชื่อนมเน่ากัน
ใบหน้าครึ้มเพราะเคราครึ่งใบหน้าเบ้ปากทำสีหน้ารังเกียจ
“ยี้! กูเกลียดนมจืด!”
“ฮื้อออ ออกจะอร่อย”
พระเอกรู้สึกแหวะทุกครั้งที่นึกถึงนมรสจืด ถ้าเป็นรสอื่นเขายังกินได้บ้าง
“มึงปีหนึ่งคณะวิทย์ใช่ไหม?” พอเดาได้เพราะว่าแถวๆคณะเขาที่ติดกันก็มีแค่คณะวิทยาศาสตร์เท่านั้น
คนฟังส่ายหน้าหวือ
“ปีสามแล้วต่างหาก” คนฟังทำหน้าอึ้งตาค้าง
ไอ้มินเนี่ยนแดกแฟ๊บนี่นะอยู่ปีสาม บอกว่ายังไม่จบปอสามกูยังจะอยากจะเชื่อหน่อย
“อย่างมึงเนี่ยนะปีสาม!!!”
“อื้อ เราปีสามแล้ว พระเอกล่ะ?” ยังไม่รู้เลยว่าพระเอกอยู่ปีไหน แต่มองจากหน้าแล้ว…
“มึงว่าไงล่ะ?” ยื่นหน้าเข้าไปให้มันเดาใกล้ๆ ไอ้เตี้ยมันมองตาปริบๆ ทำคิ้วขมวดจนดูน่าตลก เหมือนมินเนี่ยนกำลังใช้สมองอย่างหนัก
“อืม...เรารู้แล้ว...พระเอกอะ...” มึงจะเงียบให้ลุ้นทำไมวะ จะบอกก็รีบบอก ลีลาสัสๆ “พระเอกอะ...ปีสี่แน่เลย เป็นพี่เราใช่ไหม?”
ปืด…
คนฟังคิ้วกระตุก เกือบสำลักน้ำลาย
“มึงว่ากูอยู่ปีสี่หรอวะ?” ถามเสียงดัง เส้นเลือดปูดเหมือนความดันเลือดพุ่ง นี่กูหน้าเหมือนปีสี่ขนาาดนั้นเลยหรอวะ
“อื้อ...” พยักหน้ามั่นใจเต็มที่ ยิ้มตาหยี “เราทายถูกใช่ไหม?”
“ถูกกับผีบ้านมึงสิไอ้นมเน่า”
“ฮื้อ...บ้านเราไม่มีผี แล้วก็ไม่ได้ชื่อนมเน่า ชื่อนมจืดๆๆๆๆๆๆ” ทำปากยู่ ย่นจมูกใส่
“กูเพิ่งปีสองเว้ย”
อู้วววว...ปีสองหรอ?
“จริงหรอ?”
“เออ...”
“ไม่เหมือนปีสองเลยอะ” ไอ้มินเนี่ยนแดกแฟ๊บมึงกำลังด่ากูทางอ้อมใช่ไหม???
“เออ...มึงก็ไม่เหมือนปีสามสักนิด”
“เด็กกว่า...ทำไมไม่เรียกเราว่าพี่อะ” มองหน้าคนเกรี้ยวกราดหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“โอ๊ย...หน้าอย่างมึง...กูเรียกไม่ลง” แค่คิดว่าต้องเรียกมันว่าพี่ไมเกรนก็แดกตาย
คนฟังยิ้มหน้าบาน “อื้อๆๆ มีคนบอกเราหน้าเด็กไม่เหมือนปีสาม” อือ...มีคนเคยบอกนะ อย่างปราบกับพ่ายก็เคยบอกนะว่าเขาเหมือนเด็ก
พระเอกแสยะยิ้ม หน้าตาหยามเหยียดโดยแท้
“ที่เด็กอะ เขาหมายถึง ‘สมอง’ มึงหรือเปล่า ห๊ะ...”
นมจืดกระพริบตาปริบๆ “เราโตแล้ว...สมองเราก็ต้องโตตามสิ”
แต่กูว่าชีวิตมึงจะโตกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วละ พระเอกเข่นเขี้ยว กัดฟันกรอด
“เหอะ กูนึกว่าสมองมึงยังเด็ก...” เด็กปัญญานิ่มอีกด้วย
“ไม่สิๆ เราเคยวัดไอคิวนะ ของเราได้ตั้ง112นะ”
“เหอะ...” พ่นลมออกจมูก ลิงชิมแปนซียังดูฉลาดกว่ามึงอีกเว้ยยยยยย
“เออ...” ปล่อยๆมันไปดีกว่า
เดินไม่นานก็มาถึงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่นมจืดนัดเพื่อนเอาไว้ นมจืดมองคนที่เดินถอดน่องตามหลังมา
“พระเอกเข้าไปกินด้วยกันไหม?” ถามเพื่อนร่วมทางที่เดินมาด้วยกัน
“มึงเข้าไปกินกับเพื่อนเถอะไป” พระเอกทำหน้าเฉไฉ
“อ้าว นึกว่ามากินข้าว...นี่คือเดินมาส่งเราหรอ?”
ร่างสูงใหญ่รู้สึกตัวร้อนๆ รีบโวยวาย “เปล่าเว้ย....กูจะมาแดกส้มตำ”
“พระเอกชอบส้มตำหรอ?” นมจืดไม่ค่อยได้กินส้มตำเท่าไร “เรากินไม่ค่อยเป็นอะ”
“อย่างมึงกลับบ้านไปดูดนมไป” ส้มตำดูไม่เข้ากับหน้าจืดๆของมันสักนิด “ไปๆ เข้าร้านไปๆ”
นมจืดยิ้มตาหยี พระเอกปากร้ายมาก แต่ความจริงดูเป็นใจดี
“งั้นเราไปก่อนนะ...” โบกมือให้ร่างสูง
ใบหน้าเข้มดูน่ากลัวทำหน้าโหดใส่ “ไปๆเหอะ” ร่างเล็กโบกมือรัวๆแล้ววิ่งเข้าร้านไป
ร่างสูงใหญ่เหมือนยักษ์ยืนรอจนเห็นว่าไอ้เตี้ยมันเจอเพื่อนเรียบร้อยค่อยเดินออกมา
เฮ้ย!!!
กูไม่ได้มาส่งนะเว้ยยยย...กูแค่จะมาแดกส้มตำเฉยๆ
แต่ควายเอ๊ยยยย...ร้านส้มตำมันเปิดที่ไหนล่ะวันนี้!!!
----------------- 100% ------------------
สวัสดีค่ะ
วันนี้เอาอีกครึ่งตอนมาเสิร์ฟแล้วนะคะ มารุมเร็วๆค่า มารุมอีคนจรจัดมันเกรี้ยวกราดกันค่ะ ฮ่าๆ
ตอนนี้เราจะได้รู้กันแล้วนะคะว่าสรุปพระเอกของเราเรียนปีอะไรกันแน่ ฮ่าๆ
ตอนนี้อาจจะไม่ขยับไปไหนไกลเท่าไร ต้องขออภัยด้วยนะคะ
ได้กินแรบบิทครีมกันยังค่า ฮ่าๆ ปล. น้องไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใดค่ะ ฮ่าๆ
ตอนนี้เรามีลงเรื่องสั้นเขียนกับพี่แกะด้ายแดงนะคะ ท่านใดยังไม่ได้อ่านลองไปอ่านกันได้นะคะ เป็นเรื่องสั้นตอนเดียวจบ #คุณยักษ์กับเต้าส่วน ตามแท็คนี้ในทวิตได้เลยคะ
สำหรับน้องนม ขอบคุณมากๆนะคะสำหรับการติดตามที่ล้นหลามมากๆค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ ชอบน้องรักน้องคอมเม้นกันเข้ามาเยอะๆนะคะ หรือจะติดแท็คในทวิต #รักรสนมจืด
ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ