(เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องฝันๆ) -----------ละเมอ-------------  (อ่าน 112002 ครั้ง)

bixzz

  • บุคคลทั่วไป
^
^
แวะมาจิ้มและ +1 เป็นกำลังใจให้คุณน่านนะครับ
ขอให้โชคดีทั้งเรื่องการสอบและเรื่องความรักเร็วๆ นะครับ
จะรออ่านคืนที่สิบเอ็ดต่อครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-02-2009 01:28:59 โดย bixzz »

SunintheNight

  • บุคคลทั่วไป
คืนพิเศษ

“ไงลูก” เสียงคุณแม่ใสแจ๋ว วันนี้ของทุกปี ผมจะตื่นมาโทรหาผู้หญิงคนนี้คนแรกเสมอ
“happy valentine คับแม่ มีความสุขมากๆนะ ทำไรอยู่เนี่ย”
“อ่อ กำลังจะกินก๋วยเตี๋ยว เราล่ะ เพิ่งตื่นอีกล่ะสิ เฮ้ออ ดูแลสุขภาพนะลูก” เสียงแกแอบบ่น แต่คงไม่อยากบ่นผมวันสดใสๆแบบนี้เท่าไหร่มั้ง
“คร้าบ ตื่นนานแล้ว ดื่มโอวัลตินไปกล่องนึงแล้วด้วย”
“จ๊ะๆ แล้วไปเที่ยวไหนรึเปล่าวันนี้” แม่ผมนี่รู้ทันจริงๆ
“ไม่หรอกคับ คนมันไม่มีแฟน โสดอยู่ห้องทำงานคับ” สร้างภาพ แต่ปีนี้ไม่ได้สร้างนะ โสดจริงๆ ฮ่าๆๆๆ
“หรอ ตายละลูกชั้น ขายไม่ออกแล้วหรอ”
“อ้าวแม่ ไหงงั้น”
“ล้อเล่นจ๊ะ ยังไงก็มีแม่นะ ไม่รู้ไปไหนกลับมาบ้านก็ได้ แค่นี้เอง”
“อ่าคร้าบบบบ”
“จ๊ะๆ งั้นชั้นไม่กวนแล้ว จะกินก๋วยเตี๋ยวแล้วด้วย แค่นี้นะ” ดูสิ แม่คร้าบบบ เห็นแก่กินนะเนี่ยอิอิอิอิ แอบกัดแม่ตัวเอง บาปป่าวหว่า
“คร้าบบบ บายๆแม่ กินเหอะ” ไอ้เต้ร่ำลา แอบงอนอิอิ

สักพักโทรศัพท์ก็ดังอีก
“ไอ้เต้ คืนนี้ไปไหนวะ”
“อืมมม คนไม่มีคู่ สงสัยอยู่ห้องว่ะเฮีย” ไอ้เต้ตอบเสียงไปตามสาย หนูโทรมาอ่ะ อิอิ หนูน่ารักนะเนี่ย โทรมาหาคนแรกวันวาเลนไทน์เลย จุ๊บๆๆ
“อ้าวหรอ เค้าว่าจะไปบริกกัน มึงไปป่าว”
“โห่ เบื่อๆๆ เต้อยากไปนัง่ชิล เหล้าปั่นเหอะ” ไอ้เต้พูด สมองคิดร้าน ไปร้านไหนดีน้าา วันพิเศษสำหรับคนโสดแบบกรูนี่
“ไปร้านไหนล่ะ ก็ดีนะ กูก็อยากไป แต่มึงชวนคนอื่นเอาเองนะ”
“โห่ หนูชวนให้หน่อยดิ เดี่ยวหาว่าเต้เรื่องมากอีก”
“เอ้า มึงต้นคิด มึงชวนสิ นี่พี่เต่าแกจองโต๊ะที่บริกไว้แล้วด้วย มึงจัดการเองถ้าอยากเปลี่ยนที่” โห่ไรวะ หนูนี่ไม่ช่วยเลย อยากไปเหมือนกันแทนที่จะช่วยกันทำมาหากิน

ว่าแล้วไอ้เต้ก็คิดแผน ทำไงดี ลากพวกเพื่อนๆพี่ๆ ย้ายไปร้านเหล้าปั่น หึหึหึ

“เออๆ เดี๋ยวเต้จะลองถามๆดู แมร่ง สุดท้ายเต้ว่าไปบริกกันแหงๆ ขาแดนซ์ทั้งหลาย”
“ก็ถ้าเป็นพวกนั้นก็คงใช่ ไอ้พลก็หายเลย ได้คุยกับมันป่ะ” หึหึ วันวาเลนไทน์นะคร้าบบพี่หนู รายนั้นมันคงว่างหรอก ยันเช้าแหละมั้ง ฮ่าๆๆๆๆๆ
“โทรไปไม่ติดตั้งแต่เมื่อวานละ สงสัยมันเคาท์ดาวน์กันข้ามวันข้ามคืน ฮ่าๆ” ไอ้เต้แอบนินทาเพื่อนฝูง นิดหน่อยๆ ขำๆเนอะ
“หรอ สงสัย ร้ายจริงๆ”
“ว่าแต่หนูเถอะ ไม่ไปกับหมาหรอคับคืนนี้” หนูเป็นแฟนกับหมา ร้ากกันมาหลายปีดีดัก
“ก็หมาอยากไปบริกบาร์นี่ไง หนูก็เลยโทรมาชวน” อ๋อ ไปกันกระหนุงกระหนิงกัน เป็นคู่ๆ ทั้งนั้น แล้วกูล่ะ
“เออๆๆ ถ้าแมวล้างสมองไปร้านเหล้าปั่นได้แล้วแมวจะโทรบอกละกันนะ”
“เออๆ งั้นทำงานก่อนนะ”
“อืมคับ หวัดดีๆ”

แล้วไอ้เต้ก็มานั่งคิด วาเลนไทน์ปีนี้ ไปไหนดีวะ

พี่นิวไปโสดสโม แค่ชื่อร้านก็ไม่มงคลละ ไปร้านนั้นมีหวังกูโสดข้ามปีแน่เลย ไม่ดีแน่ๆ หนูก็ชวนไปบริก เบื่อๆ คนน่าจะเยอะวันนี้

“เฮ้ยมึง ตกลงวันนี้เค้าไปสยามกัน มึงมาป่าว” ไอ้แบงค์โทรมาละ หึหึ ไอ้พวกนี้ก็ประเภทคบแฟนมานาน มันก็รวมๆกันไปเฮฮากัน
โสดมั่ง ไปกับแฟนมั่ง สนุกสนานกันตามประสา ผมว่าจะไปกับพวกมันนี่แหละ มาชวนตั้งแต่เลิกเรียนวันก่อน
“เอออ ไว้กูเสร็จงานกูโทรหา”
“เออ ให้ไวนะมึง”
“คร้าบท่าน งานการไม่ทำกันนะพวกมึง”
“กูส่งแล้วเว้ย ไม่เหมือนมึงหรอกสัด ฮ่าๆ แค่นี้นะ ไปเดทกับแฟนก่อนรอบบ่าย” เดทไรวะเแม่ง เชี่ยนี่พูดจาแปลกๆ
“เอออ จะออกไปละโทรบอกกูหน่อยละกัน เผื่อติดรถไปด้วยเลย”
“เอออ บายๆ”

เฮ้อ หันกลับมาจอนั่งถอนหายใจ วาเลนไทน์ทั้งที่ นอกจากไม่มีคู่ กระผมยังต้องมาทำรายงานหลังขดหลังแข็งอีกทั้งวัน ไม่เสร็จก็ไปไหนไม่ได้ ชีวิตหนอชีวิตไอ้เต้

ว่าแล้วก็ออกไปหาอะไรกิน ยืดเส้นยืดสายสักพัก
เริ่มเห็นเด็กๆวัยรุ่นถือดอกไม้กันเป็นช่อๆ ตุ๊กตา อะไรวะ ทำไมมันเยอะแยะกันจัง กูมีแต่กระเป๋าตังค์กับมือเปล่า
 กูรู้สึกไปเองหรือว่าคนมันเยอะผิดปกติจริงๆวะ ไอ้เต้พยายามไม่มองคนรอบข้าง มุ่งตรงไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ และอ่านหนังสือพิมพ์อย่างเอาเป็นเอาตาย

กินเสร็จขึ้นห้องทำงาน จนนอนกลางวัน ตื่นมาอีกทีก็พระอาทิตย์ตกดินละ ฮ้าวววว ง่วงๆ น่าจะตื่นมาวันที่สิบห้าเลยนะ ท่าจะดี

“เต้ มึงจะเข้ามาร้านป่ะวะ” เฮียตี๋โทรมาถาม พอดีผมบอกแกไว้ว่าจะแวะไปที่สวน ตอนแรกกะจะไปกินข้าวกับพวกพี่ๆเค้า
“เพิ่งตื่นเลยว่ะเฮีย คงไม่เข้าไปละ”
“เอออ แล้วก็บอกกูว่าจะมา งั้นเด๊ย่วพวกกูปิดร้านไปกินข้าวละ จะตามมาก็โทรถามละกัน ยังไม่รู้ร้านไหน”
“อืมมคับ งั้นเดี๋ยวไว้เต้คิดอีกที ว่าจะไปข้าวสารกับพวกพี่หนู พี่หมารึเปล่า”
“อ่อ พวกนั้นไปร้านไหนวะ”
“บริกอ่ะเฮีย” สรุปไอ้เต้ไมไ่ด้ไปชวนใครไปเหล้าปั่นเลย ตื่นมาเกือบทุ่ม สงสัยเค้าคงไปบริกกันแล้วป่านนี้
“เออ ไปเหอะ ขี้เกียจไปผับ”
“อืมคับๆ ไว้คุยกานๆ”

ลุกขึ้นมา ล้างหน้าล้างตา อ้าว ทั้งหนูทั้งไอ้แบงค์โทรมาแล้ว กูหลับเอาเป็นเอาตายมากๆ

“ไงเฮีย”
“เออ กูยังไม่เสร็จธุระเลย ถ้าจะไปมึงไปกับพวกพี่เต่าก่อนเลยนะไอ้เต้” หนูบอกผม อืมมมไหนบอกเสร็จธุระหกโมงไงฟะตอนคุยในเอ็ม
“หรอ อืมมม งั้นถ้าไปก็ไปเจอข้าวสารเลยละกาน”
“เออได้ๆ”
“คับๆงั้นอาบน้ำก่อนะ เพิ่งตื่น”
“เออ ไอ้แมวขี้เซา”
“แฮะๆ”

....
..
“ไงไอ้แบงค์ มึงอยู่ไหน”
“ไอ้เหี้ยเต้ โทรไปไม่รับนะมึง พวกกูอยู่สยามกันแล้วโว้ย”
“อ้าววว” เพื่อวเลวแม่ง โทรมามิสคอลเดียว กูหลับอยู่จะรู้มั้ยเล่า ชิ งอน ไม่ตามไปแมร่งเลย สัดๆๆๆ (ขอด่าคำหยาบหน่อยเถอะ ให้คุ้มกับค่ารถที่จะต้องเสียไปเอง)
“เออ รีบตามมานะมึง ห่ากว่าจะโทรกลับ”
“เอออออ มึงทำไรกันอยู่อ่ะ” กินข้าวกันยังหว่า ตื่นมาละรู้สึกหิวตะหงิดๆ ท้องร้องแล้ววว
“จะกินข้าว ว่าจะกินชาบู” อ๊ากกก อย่าเพิ่งจิ รอกระป๋มก่อน
“รอหน่อยนะ”
“ไม่รอ ห่า หิว มึงแดกอย่างอื่นไปเลย แล้วค่อยมาเจอกัน” ฮือๆ ไอ้เพื่อนชั่ว แม่งเอ้ย เดี๋ยวไม่ไปไหนแม่งเลยวันนี้
“เออ งั้นไว้คุยกันอีกที”

วางสายเสร็จไอ้เต้ก็หงุดหงิด ไม่ไปไหนดีกว่า วันนี้ ไปก็ไม่มีใครรัก มีแต่คนทอดทิ้ง ฮือๆๆๆๆ อยากจะร้องไห้ออกมาให้น้ำตาเป็นสายเลือดดดดด

“กระเพราหมูสับไข่ดาวจานนึงคับ” นี่หรือ อาหารมื้อเย็นสำหรับชายหนุ่มอายุยี่สิบเอ็ดในวันวาเลนไทน์เช่นตู อาไรกันเนี่ย
 ไม่ยอมมมมมม ว่าแล้วก็นั่งอยู่ร้านแถวๆห้องนั่นล่ะ คนเดียว ย้ำว่า คนเดียว ตั้งแต่มื้อแรกของวันแล้ว

จนกินเสร็จ มานอนดูหนัง จนสี่ทุ่มกว่า ไอ้แบงค์ก็โทรมาอีก
“เฮ้ย เต้ อยู่ไหนวะ ห่านี่ กูเสร็จกันแล้ว”
“นอนอยู่ห้อง ขี้เกียจออกละ”
“งอนหรอคร้าบบที่รัก” ไอ้เชี่ยแบงค์ไม่ต้องมาพูดดีเลย แม่ง ทิ้งกูหายหัวกันไปหมด
“สัด จะดูหนังต่อแค่นี้นะ”
“เฮ้ยๆอย้าเพิ่ง ไปเดินเล่นข้าวสารกัน มาๆนั่งรถมา เด๊ย่วกลับพร้อมพวกกูได้” หึ ไม่ไป ไอ้เต้ตั้งปณิธานไว้แล้ว
“ไม่ไป ขี้เกียจเว้ย”
“เอออ เล่นตัวนะมึง เอางี้ ให้เวลาอาบน้ำแต่งตัว อารมณ์ดีโทรมาใหม่นะ จะรอนะคร้าบบบบไอ้เพื่อนชั่ว” นั่น ด่ากูอีก

“แมว ตกลงเค้าไม่ไปละนะ เพิ่งเสร็จง่วงละ ถ้าจะไปโทรหาพี่เต่านะ เค้าอยู่ที่ร้านกัน” อ้าว หนูโทรมาบอกผม ไหงงั้น แม่งงง ชวนแล้วไม่ไป ชิชะ
“งืมๆ นอนอยู่ห้องเหมือนกัน”
“เป็นไปได้ไงวะมึง ไม่ไปไหนหรอ กูไม่อยากเชื่อ” เอ้า ก็เฮียนัดแล้วเบี้ยวนัดเนี่ย ยังจะมาแอบกัดไอ้เต้อีก
“ไม่ไป งอนทุกคนเลย เบื่อ เซ็ง ชิชิ”
“โอ๋ๆๆ เอาน่า ไรวะ ไม่มีใครชวนไปไหนเลยหรอ”
“ไม่มี” จริงๆก็มีนะ แต่เล่นตัวไม่ไป แล้วก็มานั่งเซ็งเองว่าไม่มี งงตัวเองว่ะกู
“อ่ะนะ งั้น happy valentine กลับบ้านละนะ”
“ค้าบ happy valentine เหมือนกันๆ ฝาก happy หมาด้วย” อิอิอิ รุ้ว่าคืนนี้ไปนอนด้วยกันตามประสา

อืมมม สี่ทุ่มครึ่งละ

you have a text message

เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นหลังจากวางสายจากหนูไป ใครว่า กดดูเห็นมี 1 message ส่งมา

“Happy valentine na, lucky in love eieiei :-X”   p Ken

อืมมมมม แฮะๆๆๆ เหอะๆๆๆๆๆ อิๆๆๆๆๆๆ ไม่รุ้จาทำไร เด้งลุกจากเตียงไปอาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวหล่อๆ
แล้วกดโทรศัพท์หาไอ้พวกคุณเพื่อน รอบแรกไอ้แบงค์ไม่รับ โทรหาไอ้ทอปแทนดีกว่า

“อยู่ไหนมึง”
“กำลังไปข้าวสาร มึงล่ะ มามั้ยเนี่ย” ไอ้ทอปและบรรดาเพื่อนๆ เสียงโหวกเหวกกันชิบหาย ไอ้พวกลิงทั้งหลาย
“เออ กำลังจะไป เจอกัน ร้านไหนวะ”
“ไม่รุ้ ไปก่อนละกัน ไม่ได้จองว่ะ”
“เอออได้”

อิอิอิ อารมณ์ดีแฮปปี้วาเลนไทน์ละ แค่ประโยคสั้นๆ กูเนาะกู ฮ่าๆๆๆๆๆ 

ก่อนจะออกไปข้าวสาร ก็มี message ดังขึ้นอีกรอบ อ้าวววว แม่ นอนดึกแฮะ ห้าทุ่มกว่า ส่งไรมาหว่า เปิดก่อนๆ

“Happy valentine, love and miss you na my son”

เฮ้ออออ กำลังจะไปเที่ยว เลยสะดุด เอาเป็นว่าวันนี้ดื่มแค่แก้วสองแก้วละกัน เดี๋ยวนี้ดื่มน้อยลงมากๆ ส่วนนึงก็เพระแม่ด้วย
 แกก็คงห่วงเหมือนกันกับพ่อแม่ทุกๆคน ไม่มีใครอยากเห็นลูกทำสิ่งเหล่านี้ ห้ามไม่ได้ เค้าก็ได้แต่ขอให้เพลาๆลง

สรุปไอ้ที่กะจะไปเดินเล่นแว๊บๆข้าวสาร ก็อยู่จนเกือบตีสาม กว่าจะได้นอนเฮ้อออ แต่ดื่มสองแก้วนิดนะ ไม่ผิดสัญญาใจตัวเอง อิอิอิ ไม่เมาด้วยยย

แม้จะนอนคนเดียว แต่ก็ไม่เปลี่ยวใจ คิดถึงใครคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าเขาคงอยู่กับแฟนล่ะมั้ง ค่ำคืนแห่งความรักแบบนี้ ก็ต้องอยู่ข้างๆคนรักสิวะ
ส่วนผมก็ หมอนข้างงที่ร้ากกกก กอดกันน้า โอ๋ๆๆ จุ๊บๆๆๆๆ บ้าไปแล้ว

..ขอให้ความรักเบ่งบานทุกวัน..

   _____________________________________________

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :กอด1: เต้
อ่านแล้วหัวใจเบ่งบานอย่างน้อยๆเค้าก็ยังนึกถึงเราบ้างนะ อิๆ
ถีงไม่รู้ว่าที่ทำอยู่ทำเพื่ออะไร
ถึงไม่รู้ที่หวังอยู่หวังเพื่ออะไร
ถึวไม่รู้ว่าที่เฝ้ารออยู่รอเพื่ออะไร
แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้ คือ ฉันอิ่มเอมใจทุกครั้งที่คิดถึงเธอและรู้ว่าเธอแคร์กันอยู่
หวังว่าโชคในความรักของปีนี้จะมีแด่ทุกคน ทุกคู่ และทุกวันที่มีกันและ กัน

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
รักใครรักได้ อย่าลืมรักพ่อรักแม่เน้อ

 :-[ :-[ :-[

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
แค่ข้อความเดียวเปลี่ยนความรู้สึกและอารมณ์ได้ขนาดนั้นเลย
พี่เคนช่างมีอิทธิพลต่อเต้มากจริงๆ
เต้ต้องรักตัวเองเพิ่มอีกเยอะๆแล้วนะนั่น
ไม่งั้นได้กอดหมอนข้างละเมอๆอีกนาน
 :กอด1: บวก 1 ให้นะจ๊ะ

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
ขอให้ความรักเบ่งบานทุกวัน..เช่นกันค่ะ
เมสเสจเดียว สดชื่นไปทั้งคืนเลยเน้อ
+1 ให้ค่ะ

Sith

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว 

C2U

  • บุคคลทั่วไป
+1  ให้คนมีความรัก    :กอด1:

Ekk_J

  • บุคคลทั่วไป
อาการหนักได้อีก........................ :man1:


ปล. ความรักนี่อะนะ   o13

bixzz

  • บุคคลทั่วไป
+1 ให้แล้วนะครับคุณน่าน...เหงาได้อีกนะเนี่ย  :L2:
ไม่เป็นไรนะครับ พวกเราในเล้าเป็นกำลังใจให้เสมอ

ปล. พี่เคนส่งแต่เมสเสจมาให้แต่ไม่ปรากฏตัว ใจร้ายจริงๆ  :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loveyous

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
    • Aphrodite Shop
คืนพิเศษตรงที่มันเป็นวันพิเศษ ความรู้สึกไม่เห็นจะพิเศษตรงไหนเลย

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ประโยคเดียวเป็นยาชูกำลังเลย :laugh:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
คืนพิเศษ เพราะว่าเมสเซสอันนั้นหรือเปล่าเต้
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ^^*





ออฟไลน์ FÂntastic 1st™

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ชอบ 'เต้'  จังเลยคับเฮียน่าน

>>>>> ร่าเริงสดใส

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เรื่องนี้ยังโรแมนติกเหมือนเดิมนะคร้าบบบบบบบบบบ    :o8:

+ 1 ..... ให้ด้วยนะคับ

sNow

  • บุคคลทั่วไป
มาอ่านตอนพิเศษพร้อม+ให้

เฮ้อ เขาก็ต้องอยู่กับแฟนเขาสินะ :เฮ้อ:

รู้สึกเหงาๆเลย แต่ก็ยังดีที่เต้ยิ้มได้กับเมสเสจ

naix

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าา คืนพิเศษที่ยังขาดคนพิเศษ.... :เฮ้อ: แต่ก็มีนิเนอะ smsเดียวก็มีค่ามากมายแร้วล่ะ ตามพี่นิวไปโสดสโมดีกว่า เหงาๆดี

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
เป็นคืนพิเศษที่ดูแล้วเศร้าจัง  :monkeysad:

ออฟไลน์ piengtavan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • UEDA_ARAMORD
ตามอ่านทันละนะตัววว  ได้ข่าวจะสอบอังคาร(วันนี้เด้ะ ... ใช่ป้ะ?)

เค้าก็จะสอบแล้วเหมือนกัน  :m15:....  แต่เค้ายังแวบมาเล่นเน็ตขณะหางานก่อนสอบอยู่เลย :laugh:  ...

เห็นไปเที่ยวบ่อย  รักษาสุขภาพ&มาลงไวๆน้า~ :bye2:

ปล. หม่ามี๊น่ารักเนอะ มีส่งเมสเสจด้วย ^^

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารอเจ้าของกระทู้คร้าบบบบบบบบบบบ

คิดถึง~!   อยากอ่านต่อแล้วนะคร้าบ ..^ ^..

SunintheNight

  • บุคคลทั่วไป
สอบเสจไปสามตัวแล้ว ค่อยว่างหน่อย เฮ้ออออ มาลงต่อให้และคร้าบ โทดทีหายไปหลายวัน

------------------------------------

คืนที่สิบเอ็ด

 
เมื่อสอบเสร็จ ก็คือปิดเทอมสิครับคราวนี้  ทำไรดีล่ะปิดเทอมนี้ สามอาทิตย์กว่าๆเอง จะว่าสั้นก็สั้น แต่เวลาเพียงแค่นี้มันมีค่านะ ไม่ใช่ไม่มี
อย่าดูถูกเวลาสั้นๆเชียว เพราะบางทีแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นแหละ ที่เราทำพลาดไป เพียงชั่วขณะนั้น ซึ่งจะไม่มีวันหวนกลับมา

“เออไอ้เต้ ปิดเทอมว่างป่ะวะ ออฟฟิศกูเค้ากำลังหาคนไปงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึง”
“งานไรวะ”
“พวกอีเวนต์อ่ะ” ไอ้พลสาธยาย ขณะเรากำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวๆ พารากอน
“เฮ้ยจริงดิ เออ สนใจว่ะๆ กูกำลังอยากลองทำงานพวกนี้พอดีเผื่อชอบ” ผมพูดและเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้แถวๆนั้น
“เออ งั้นเดี๋ยวกูจะลองไปถามพี่ที่ออฟฟิศให้ ว่าสนใจมั้ย”
“ดีดี แล้วกูไม่มีประสบการณ์ทำได้หรอวะ ไม่ใช่ไปทำงานเค้าเสียนะ”
ไอ้พลมันส่ายหน้าและขำๆ
“แม่งงานมันไม่มีอะไรที่ยากเกินความสามารถมึงหรอก ง่ายกว่ามึงไปแดกเหล้า เมาๆ เต้นๆ เยอะว่ะ” เชี่ยยย ลองด่ากูนี่หว่า เลวๆๆๆ
“กูถึงว่ามึงทำได้ดี” หึหึหึ แอบกัดมันคืน มันน่ะขาแดนซ์เลย แถมไปบริกทีนี่บนพื้นไม่ได้ ต้องเต้นบนเก้าอี้ ปีนโต๊ะเท่านั้น ถึงจะสะใจ ฮ่าๆๆๆๆ

คืนนั้นมันผ่านไปเนิ่นนาน ผมเล่าเรื่องต่างให้ไอ้พลฟัง มันก็ขำๆฮาๆไปตามประสา

“แล้วมึงจะตัดใจป่ะ” มันหันมาถาม ตอนที่เราเดินมานั่งอยู่หน้าเวิลเทรดแล้ว (เซ็นทรัลเวิลด์นั่นแหละ แต่ติดปากกับชื่อเก่า)
“ไม่รู้ว่ะ คงตัดมั้ง กูว่ายิ่งนานกูนี่แหละยิ่งเจ็บ”
“เออ”
“แต่กูก็ว่าตอนนี้กูมีความสุขดีนะ กูมีความสุขดีอ่ะ กูไม่รู้ว่าเพราะอะไร”
“เพราะมึงไม่ได้หวัง”

คำพูดที่ลอยมากับสายลมจากปากเพื่อนคนหนึ่งนั้น ทำให้ผมเงยหน้ามองยอดตึกใบหยก ตึกสูงที่สุด
ถ้ากูไม่ปีนขึ้นไปให้มันสูงนัก มันก็ไม่เจ็บไม่ตายนี่หว่า แล้วสักวันก็คงเดินไปจากที่แห่งนั้นเอง

“ขอให้กูโชคดีแล้วกัน” ผมยิ้มหัวเราะบ้าบอๆ เป็นคำอธิษฐานที่ห่วยแตกสิ้นดี

แผลที่เจาะหูเริ่มหายเจ็บแล้ว และหลังจากวันที่เขารีบวางโทรศัพท์ไป ผมก็ไม่ได้โทรหาเขา และเบอร์เขาก็ไม่ได้ปรากฏที่เครื่องผมอีก
ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ช่วงที่ผ่านมาก็มีพี่เบียร์โทรมาบ้างบางวัน แต่ผมก็ยังอิดออดไม่ยอมไปเจอเขาเสียที

“นึกไงอยากมาทำงานนี้ล่ะ” เอ่อ นี่คือคำถามแรกของพี่เจ้าของบริษัทที่สัมภาษณ์ผม
“เอ่อ ก็ อยากลองทำงานด้านพวกนี้ดูคับ อยากลองงานไว้หลายๆอย่าง เวลาจบจะได้พอรู้แนวทางว่าอยากทำสายไหน ไม่ต้องไปทดลองอีก”
“แล้วปิดเทอมไม่กลับบ้านหรอ” แต่ละคำถามเหอะๆ ตอบไงดีวะ
“ก็ เอ่อ ไม่อ่ะคับ ที่บ้านผมเจอกันบ่อยๆ อยู่แล้ว อีกอย่างผมอยากใช้เวลาช่วงนี้ค้นหาตัวเองมากกว่าคับ” เฮ้อออ คำตอบโง่ๆ ของไอ้เต้
พร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ไหลพรั่งพรูเยอะจนรู้สึกได้ นี่ขนาดแอร์เย็นฉ่ำโคตรนะเนี่ย
“อืม แล้วรู้หรือเปล่า ว่าต้องไปทำอะไรบ้าง” พี่แกทำหน้านิ่งสยบมารถามผม เฮ้อ ผมสาบานได้ว่านี่คือช่วงเวลากดดันมากมาย
เรียกว่าครั้งแรกของการมาสัมภาษณ์งานเลยมั้งเนี่ย
“ก็ไปช่วยไอ้พลมันคับ เวลามันต้องไปจัดอีเวนท์ตามดาวองซ์สาขาต่างๆ แล้วก็แนะนำหนังสือให้เด็กๆ และผู้ปกครอง”
ผมก็ยายามตอบเท่าที่ถามๆไอ้พลมา ไหนไอ้พลบอกแค่ว่าพี่เค้าอยากรู้จักเฉยๆว่าเป็นใครมาจากไหนจะมาช่วยงาน ไหงสัมภาษณ์ยังกับกรูจะมาสมัครเป็นพนักงานประจำ
“ไงก็ลองดูละกัน” พูดจบพี่แกก็ลุกไปโทรศัพท์เข้าห้องทำงานไปเฉย ไอ้ผมจะทำไรต่อล่ะทีนี้ หันรีหันขวางสักพัก
พี่แกคงไม่ออกมาละ ก็เลย เดินไปช่วยงานไอ้พลต่ออีกที่หนึ่ง เฮ้ออออ ชีวิตผู้ใหญ่ ความสนุกมันหล่นหายจริงๆเว้ย

ขึ้นไปเห็นไอ้พลกำลังคุยกับพวกพี่ๆจากบริษัทที่มาร่วมจัดอีเวนท์ด้วย ดูมันเป็นการเป็นงานดีแฮะ ต่างจากเวลาอยู่กับเพื่อนๆ อืมมม
ผมยืนมองสักพัก ก่อนจะเริ่มวางมาดผู้ใหญ่เข้าไปคุยๆถามๆงานมัน  ยังกับการแสดง พอเลิกงานไปเดินสยามก็กลับกลายเป็นคนละคน ฮ่าๆๆๆ  
ก็เพิ่งเข้าใจนี่แหละนะ ชีวิตมันไม่ได้มีด้านเดียวอีกต่อไปแล้ว

“เมื่อยว่ะ” เสียงไอ้พลบ่น หลังจากนั่งรถกันมาเนิ่นนาน และตอนนี้คำว่าเชียงใหม่ ก็เริ่มมีให้เห็นสองข้างทาง
ไม่ว่าจะเป็นพวกบรรดาร้านรวงต่างๆที่มักมีชื่อเมืองติดมาด้วย เช่น โชวรูมโตโยต้าเชียงใหม่ โรงแรมวัง เวียง นครพิงค์ต่างๆ ป้ายชี้บอกไปทางโน้นทางนี้

“เออกูก็เมื่อย ไปหาโรงแรมกันก่อนแล้วกัน” ผมหันไปบอกมัน
“พักแถวไหนกันดีคับ” พี่คนขับหันมาถาม
ผมหันไปถามไอ้พล มันก็ส่ายหน้า เชี่ยยยย

“ลองวนๆดูก่อนละกันพี่”
“พักแถวมช.ดีป่ะ” ผมเสนอความคิด หุหุหุ
“เออ น่าสนๆ”

ก็นั่งรถวนตัวเมืองเชียงใหม่กันสักพัก เคยมาไม่กี่ครั้งเอง ผมว่ามันเป็นเมืองที่น่าอยู่ดีนะ
ยิ่งปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ อากาศกำลังเย็นสบายเชียว

“ตกลงจะพักไหนวะ” เริ่มเมื่อยมากบวกหิวด้วย หึหึหึ
“ที่เมื่อกี้ที่ถามก็ได้มั้ง”
“ผมก็ว่าดีนะ” พี่คนขับหันมาบอก ผมก็เห็นด้วย เลยพยักหน้าไป สุดท้ายก็ได้พักที่นั่น ขอนอนก่อนละกานนนนน

เช้ามาก็ออกไปทำงานกัน เสร็จตั้งแต่บ่าย เย็นก็ว่างสิครับ ไปไหนดีล่ะ ได้มาเชียงใหม่ทั้งที ต้องเที่ยวกันหน่อย

“หวัดดีคับ”
“ไง อยู่ไหนเนี่ย ไม่โทรหาพี่บ้างเลย” เสียงที่แม้ไมไ่ด้ยินบ่อยๆ แต่คุ้นเคยดี
“ก็ยุ่งๆอ่าคับ นี่เต้อยู่เชียงใหม่”
“อ้าวหรอ ไปกี่วัน”
“อยู่นี่สองคืนคับ แล้วไปพิษณุโลก ขอนแก่นต่อ”
“โห ยาวเลย นี่ปิดเทอมได้โอกาสทัวร์ทั่วไทยเลยรึไงเนี่ยเรา” เสียงไอ้พี่เคน เฮ้อ ยังอบอุ่นเหมือนเดิมนะคับ ผมเผลอยิ้มจนไอ้พลมันหันมามองทำหน้าตาสงสัยว่าใคร

“ป่าวๆมาทำงานด้วย”
“อ้าวงานอะไร”
“ก็ฝึกงานอีเวนท์ไรพวกนี้อ่ะคับ มาลองทำดู บริษัทที่เพื่อนมันทำอยู่”
ผมเดินไปที่เตียงล้มตัวลงนอนผึ่งแอร์ ยิ้มให้เพดานสีขาว
“ดีแล้วๆ เสียดายว่าจะให้มาช่วยงานที่ร้านอาทิตย์นี้ ว้าๆ”
“อ่านะ ไว้กลับไปช่วยละกัน”
“อาทิตย์หน้าพี่ไปเที่ยวฮ่องกง คลาดกันดิ” อ้าวซะงั้น ชิ เรามาทำงาน ตัวเองได้เที่ยว สบายจริงเว้ย
“อ่านะ ไปฮันนีมูนหรอคับ”
“ป่าวๆ ไปคนเดียว เที่ยวคนเดียวสนุกดี”
“อ่ะนะ ไม่เหงาหรอ”
“ไม่นะพี่ชอบเที่ยวคนเดียว”

อืมมมลืมไป อารมณ์ศิลปิน แต่การไปเที่ยวคนเดียว หาเวลาพัก ให้กับตัวเองจริงๆ มันก็ดีนะ นึกแล้วกลับไป หาเวลาว่าง ไปคนเดียวมั่งดีกว่า

“อ่านะ งั้นเที่ยวให้สนุกละกัน เอาตี๋ฮ่องกงมาฝากด้วย ฮ่าๆ” เหะๆ นึกถึงอาตี๋หล่อๆล่ำๆทั้งหลาย อยากไปมั่งวุ้ยยย (แต่เอาเข้าจริงๆ ก็เจออากง อาม่า อาแปะ เยอะแยะตาแป๊ะขายหมู)
“โห่ ไม่เห็นชอบเลย”
“เอ้าไม่ชอบแล้วไปทำไม”
“เอ้าไอ้นี่ ไปเที่ยวไม่ได้ไปทำอย่างอื่น”
“อ่ออออ” หน้าตาแบบเฮียจะเชื่อได้สักกี่น้ำเนี่ย

“แล้วเอ็งล่ะ เป็นไงเชียงใหม่ เด็กน่ารักๆเยอะมั้ย”
“เยอะแยะ แต่ไม่แบ่งหรอกนะ”
“งกอีก หาเองก็ได้วะไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่หรอก ไอ้เด็กดอย” โห ปากๆ คุยกันแทนที่จะชมจะพูดกับเค้าดีๆ ไอ้บ้าเอ้ยยย
“อ่ะนะ เฮียบ้า”
“อ้าวด่ากันอีก เด็กบ้า แล้วเป็นไงบ้าง ตัวโตขึ้นบ้างมั้ย กินข้าวยังเนี่ย”
“ยังเลยคับ เดี๋ยวจะออกไปข้างนอกเย็นๆ ว่าจะไปแถวๆถนนนิมมาน”
“อ่อ กินข้าวนะ ไม่ใช่กินคน ฮ่าๆๆ” ไอ้เฮียบ้า แซวอยู่ได้
“กินหมดแหละ จะได้อิ่มๆ” ไอ้เต้ก็เถียง ไม่ยอมลดละ
“เออออ กินไปเลย แล้วไม่ต้องหิวโซกลับมากรุงเทพนะ” ไอ้เฮียทำเสียงงอนๆ เป็นเด็ก(น่ารัก)อีกและ
“แน่นอน ไปตั้งหลายจังหวัด น่ารักๆทั้งน้านนน”

“ไอ้เต้ มึงจะคุยก็ไปคุยต่อในรถ กูหิวแล้ว” เสียงไอ้พลขัดจังหวะหลังจากมันนั่งรอผมคุยโทรสักพักหลังแต่งหล่อเสร็จ
“เออๆ”

“อ้าว งั้นไปกินข้าวเถอะ เพื่อนว่าแล้ว” ไอ้พี่เคนพูด แอบฟังคนอื่นเค้าคุยกันอีก มารยาทไม่ดีนะเนี่ย อิอิอิ
“คร้าบๆ แสนรู้อีก”
“ทะลึ่งละ เดี๋ยวโดน” หึหึหึ ทำเป็นขู่ ตาลุงเอ้ย ไปดีกว่า หม่ำๆ
“ไปหม่ำและ เดี๋ยวแอ่วเผื่อนะคับ”
“เอออ ไปเถอะๆ อย่าซนล่ะตัวเล็ก”
“ค้าบผม”


แล้วผมก็ได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ยามราตรี กันที่ถนนวัวลาย
“เฮ้ยมึง เวลาถามซื้อของเป็นคำเมืองว่าไงวะ” ผมหันไปถามไอ้พล เพราะมันเป้นคนเชียงใหม่ แม้จะไปเติบโตกรุงเทพแต่เด็กๆ

“เอาขลำมาผ่อเลาะ” มันพูดว่าไรวะ ผมงง และฟังไม่รู้เรื่อง
“ว่าไงนะมึง แปลว่าไรวะ”
“เอาขลำมาผ่อเลาะ พูดไปเหอะน่า เค้าลดให้มึงแน่ๆ”
“จริงดิ มึงบอกก่อนแปลว่าไรกูไม่เคยได้ยิน” ผมว่าหน้ามันต้องมีเลศนัยแน่ๆ กับความหมายประโยคนี้
“เออ มึงลองพูดดู กูรับรองได้แน่”
“จริงดิ”

ผมลังเลก่อนจะเดินตรงไปยังร้านค้าข้างทาง และกำลังจะอ้าปากพูด แต่ไอ้พลมันก็มารั้งแขนผมกลับมา
“เฮ้ย มึงจะพูดจริงอ่ะ”
“อ้าว ก็มึงบอกว่าให้ลองพูดดู” เชี่ยนี่ยังไงกันแน่

แล้วมันก็ขำอยู่นั่น กูชักหงุดหงิดละ
“มันแปลว่าไร บอกกูมาเลย”
“ฮ่าๆๆ มันแปลว่า เอาไอ้นั่นมาดูหน่อย” ฮ่าๆๆๆๆๆ พอได้ยินดังนั้น ผมก็ขำท้องขดท้องแข็งไปกับมัน ดีนะ ถ้าเมื่อกี้ปากไวอีกสักหน่อย
ไอ้เต้อาจจะโดนต่อยหรือยำตีนไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ แล้วก็มีเด็กเหนือน่ารักเดินสวนกับพวกเราไป ผมเลยหันไปพูดเบาๆ ไม่ดังพอให้เขาได้ยิน
“ไอ้ละอ่อนน่าฮักนั่นอ่ะ เอาขลำมาผ่อเลาะ” ฮ่าๆ พูดผสมๆมั่วไปเท่าที่รู้คำเมือง แล้วก็ยืนขำกับไอ้พลมัน

เฮ้ย จะวันเกิดไอ้พี่เคนนี่หว่า เฮ้ออ ตั้งใจว่าจะไม่สนไม่ยุ่ง แต่แล้วก็ไปสะดุดตากับร้านพวกของอโรมาร้านนึง เป็นร้านห้องแถว ดูโอเคดีทีเดียว เข้าไปดูหน่อยละกัน เผื่อมีไรน่าสน

“โคมไฟนี่เป็นเตาอโรมาด้วยใช่ป่ะคับ” ผมถามคนขาย เป็นสาวสวยตามแนวสาวเหนือ สำเนียงพูดจาน่าฟัง พยักหน้ายิ้มให้และเอ่ยพูดกับผม
“ใช่เจ้า อันนี้เป็นโคมไฟ ใช้หลอดไฟไม่ต้องใช้ไฟจุดนะเจ้า พอเปิดไฟแล้วเทน้ำมันลงไปก็จะมีกลิ่นหอมเหมือนพวกเตาอโรมานั่นแหละเจ้า”

“อ่อคับ” ผมมองดูพวกเตาทั้งหลาย เคยเห็นตามห้าง ที่นี่จะเท่าไหร่หว่า
“เท่าไหร่อ่ะคับ”
“ก็ถ้าแบบนี้หกร้อยเจ้า แต่ถ้าเป็นพอซเลนแบบนี้แปดร้อยห้าสิบเจ้า” อืมม แบบพอซเลนสวยดีนะ โปร่งแสงด้วย อืมมม
ไอ้พี่เคนมันจะชอบมั้ยหว่า เห็นชอบดูพวกของตกแต่งบ้านบ่อยๆน่าจะชอบอยู่นะ

“แล้วแบบอันเล็กนั่นล่ะคับ” ผมชี้ไปที่โคมไฟทรงกระบอกสูงเล็กๆ น่ารักดีเหมือนกัน
“แบบนั้นหกร้อยเจ้า แล้วแบบใหญ่สุดนั่นพันสอง แล้วแต่ว่าจะเอาไปใช้งานอย่างใดน่ะเจ้า ต้องเลือกให้เหมาะกับสถานที่ แล้วนี่จะเอาไปใช้เองหรือเปล่าเจ้า”
(จริงๆเธอพูดภาษาเหนือมากกว่านี้ แต่ผมจำไมไ่ด้ เลยได้แต่เจ้าๆนะคับ ฮ่าๆๆ)

“อืมมม มีกี่ลายหรอคับ”
“แล้วแต่ขนาดนะเจ้า ปกติโรงงานพี่ทำอยู่ที่ลำพูน ทำส่งออกน่ะ นี่พี่เพิ่งมาเปิดหน้าร้านได้ไม่กี่เดือนที่เชียงใหม่เอง เลยไม่ได้เอาของมาตั้งไว้ทุกแบบ
เอาเป็นว่าดูลายก่อนมั้ยเจ้า ถ้าชอบลายที่ไม่มีเดี๋ยวไว้จัดส่งไปให้ได้นะ ว่าแต่อยู่เชียงใหม่หรือเปล่าล่ะเจ้า”

“อ่อ เปล่าคับ อยู่กรุงเทพคับ พรุ่งนี้ก็ออกจากเชียงใหม่แล้วล่ะคับ ยังไงขอดูตัวอย่างลายก่อนละกันคับ”
เธอยิ้มให้แล้วส่งแบบตัวอย่างมาให้ดู อืมมม ผมว่าลายใบไผ่ที่มีโชว์อยู่นี่สวยสุดละล่ะ

“อืมมม ผมต้องเดินทางไปอีกหลายที่น่ะคับ กล่องใส่มันจะรับแรงกระแทกไหวมั้ยคับ กลัวแตกจัง แฮะๆ”
“อ่อได้เจ้า” เธอเดินเข้าไปหยิบตัวอย่างกล่องให้ผมดู อืม แพคเกจดูดีทีเดียว แสดงว่าพิถีพิถันเรื่องการออกแบบอยู่
“นี่พี่ส่งออกเลยนะกล่องนี้ รับรองไม่แตกแน่ๆ ส่งเรือไปที โยนกันแรงๆ ยังไม่เป็นไรเลย”
“คับ” ผมดูกล่องแล้วก็เชื่อคับ ออกแบบมาลอคพอเหมาะกับตัวโคมไฟเลย ดีแฮะ เอาแบบไหนดีกว่า ผมไม่รู้ว่าเค้าจะเอาไปวางตรงไหน งั้นเอาแบบที่ตัวเองชอบละกัน
“ลายไหนดีวะ” ผมหันไปถามไอ้พล มันก็เดินดูของต่างๆในร้านอยู่
“ใบไผ่ก็สวยดีนะมึง”
“เออกูก็ว่างั้น”
“งั้นผมเอาลายใบไผ่ อันกลางนั่นละกันคับ”

“เจ้า ลองเลือกน้ำมันหอมไปนะเจ้า พี่แถมให้ขวดนึง”
“หรอคับ มีกลิ่นไรบ้างล่ะคับ”

“ลองเลือกในตะกร้านี่ได้เลยค่ะ” เด็กสาววัยเดียวกันกับผมอีกคน เงยหน้าหันมายิ้มให้ เธอก็กำลังเลือกดูในตะกร้านั้นอยู่
“มาเที่ยวเหมือนกันหรอคับ”
“ป่าวค่ะ พอดีมาทำวิจัยเรื่องแป้งร่ำ โครงการทีเรียนอยู่น่ะค่ะ พอดีเลยได้มารู้จักพี่เค้า เค้ากำลังลองทำอยู่น่ะคับ”
“หรอคับ นั่นเปล่าคับ” ผมทำสายตาชี้มองไปยังตลับกระป๋องที่ผมเห็นเธอเอามาเทๆ อยู่เมื่อกี้
“ใช่ค่ะ หอมดีนะคะ ลองทาดูมั้ยคะ” อืมมม ไอ้ผมก็ชอบอะไรพวกนี้อยู่ เลยไม่ขัดศรัทธา เอามาแตะๆกับหลังมือ กลิ่นนี่ถูกใจเลย แต่ว่าเนื้อหยาบไปหน่อย

“หอมดีแต่เนื้อมันหยาบจังเลยคับ”
“ใช่ค่ะ ยังไม่ได้ล่อนแป้ง ถ้าอยากให้ละเอียดต้องเอาไปล่อนเองน่ะค่ะ”
“โห่ ผมคงไม่ไหวมั้งคับ แฮะๆ” เสียดายจัง ไม่งั้นจะซื้อไปฝากแม่ฝากคนรู้จักที่ชอบของแนวๆนี้ซะหน่อย

“ต่อไปพี่อาจจะล่อนแล้วทำเป็นกระป๋องเล็กๆขายนะเจ้า แต่นี่เพิ่งลองทำเอง ต่อไปลองมาดูสิถ้าสนใจ” พี่เจ้าของร้านเดินมาบอก ผมยิ้มให้ แล้วหันไปเลือกดูพวกน้ำมันหอมต่อ

“กลิ่นยูคาลิปตัส ช่วยเรื่องภูมิแพ้นะเจ้า” พี่เค้าพูดขึ้น เมื่อเห็นผมหยิบมันขึ้นมา อืมมม จริงๆมันเป็นกลิ่นที่ผมไม่ชอบหรอกนะ
แต่ผมเคยเห็นซองยาแก้ภูมิแพ้ไอ้พี่เคนวางอยู่ในรถ อืมม หรือจะเลือกกลิ่นนี้ดี เพื่อสุขภาพคนได้รับ ฮ่าๆๆ คิดได้เนอะกรู

“หรอคับ อืมม” ผมหยิบขวดอื่นๆขึ้นมาดูอีกสักหน่อย แต่สุดท้ายก็ยื่นเจ้าขวดกลิ่นยูคาลิปตัสให้พี่เขาใส่กล่องโคมไฟติดไป

“พี่คับ อันนี้ขายเท่าไหร่คับ”
ผมถามเมื่อเหลือบไปเห็นเตาน้ำหอมโลหะ สวยถูกใจมากทีเดียว
“อันนั้นไม่ขายเจ้า”
“อ้าว เสียดายจัง”
“พี่ได้มา เป็นของลอคสิเทน ลองไปหาดูสิเจ้า อาจจะมีนะ”
“อ่าคับ” ผมยิ้มให้อย่างเสียดาย แล้วก็เลือกน้ำหอมไทยกลิ่นมะลิมาฝากท่านแม่จอมบ่นด้วยอีกขวดหนึ่ง ก่อนจะร่ำลาพี่เขาไป
มานั่งซดก๋วยเตี๋ยวข้างทางกับไอ้พลก่อนกลับที่พัก และนอนพักเพื่อให้พร้อมจะเดินทางต่อ ก้าวต่อไป


_______________________________________________

หลายๆคนอาจจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สนุก ไม่ขำ ไม่ฮา  อืมมม ผมอาจจะเข้าถึงยากไปมั้งฮ่าๆๆ
ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มากกว่าความรักธรรมดา มันสะท้อนมุมมองของผม สะท้อนความเป็นไปในสังคมที่ได้ประสบด้วย ผมหวังว่าเรื่องนี้จะได้ประโยชน์และคงไม่น่าเบื่อจนเกินไปสำหรับเพื่อนๆนะคร้าบบบบบ เหลือสอบอีกสามตัวอาทิดหน้า แล้วก้จะปิดเทอมแล้วววว ดีจายยยยย เตรียมเทีย่วหลายที่มาก ฮ่าๆๆ

ปล.สองวันมานี้ ร้อนโคตร เซ็งจริงๆ ช่วยกันคนละไม้ละมือ รักษาสิ่งแวดล้อมเน้อคับ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






PEAK

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแว้ววววววววว   ...  บวก 1

อ่านแล้วก็ เฮ้อ~!! ...  จดจำรายละเอียด อะไรดี ๆ ก็อยากให้  ..  ก็มันรักนิ  .. พี่เคนก็ยังคงโทรมาให้รู้สึกดีได้อีก
ตอบคำถามเข้าฝึกงาน ไม่โง่นะนั้น  ^ ^ ทำงานแล้ว ยุ่ง ๆ สนุก ๆ ก็เพลินดีสำหรับคนไม่มีแควนนนน

โชคดีในการสอบนะครับ  ..  ขอบคุณคร้าบบ

Sith

  • บุคคลทั่วไป
ของขวัญวันเกิดถ้าเกิดซื้อไปแล้วลืมจะทำหน้ายังไงหว่า  :m20:

สู้กับการสอบน้าคับ

ช่วงนี้ร้อนจิงๆแหละ - -"

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
มาชื่นชนกับความพยายามในการ อู้กำเมือง 555

เกือบโดนพ่อค้ารุมละมั้ยล่ะ

แต่นี่ยังดีนะของเพื่อนเราโดนให้ไปถามพ่อค้าน้ำมะพร้าว


"ขอน้ำ๊ว้องแก้วลอ"

คริๆ

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
เต้จะละเมอ...เล่าอะไรก็ได้ เล่ามาเหอะ
ไม่เห็นจำเป็นนี่นา...ว่าจะต้องเป็นเรื่องของความรัก หวาน เศร้า เสมอไป
ความรักมีหลากหลายรูปแบบ รักอะไรก็รักเหอะ
ตัวเองไม่ทุกข์ร้อน คนอื่นไม่เดือดร้อน ก็คงจะพอแหละเนอะ
 :L2: :L1: :L2:

 :pig4: ขอบคุณคับ ตัวเล็ก :pig4:

ออฟไลน์ ||WiTHOuT_YoU||

  • ที่รักของใครสักคน
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-6
    • MoSHI
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ใครบอกไม่สนุก มันมีเสน่ห์ให้ติดตามในตัวมันเหมือนกันหละ

ไม่งั้นคงไม่มีคนอ่านแล้ว จริงป่าวหละ สู้ๆเน้อ

 :L2: :L2: :L2:

sNow

  • บุคคลทั่วไป
สนุกไปอีกแบบดีค่ะเต้

อย่างนี้ก็ดีแล้วแหล่ะ

อู้คำเมืองไม่เป็นเหมือนกัน แต่ในบอร์ดนี้เด็กเหนือเยอะ(ไม่ก็ไปเรียนเหนือ)

อยากให้ใส่ซับไตเติ้ลให้บ้าง บางทีแล้วก็ไม่เข้าใจ ขนาดถาษาไทยยังไม่แข็งแรงเลย

เต้นี่ยังดีนะที่เพื่อนไม่ปล่อยให้ไปพูดกับคนขายจริงๆ ไม่งั้นคงได้ของแถม

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องเล่านี้มีเสน่ห์ในตัวของมันเองนะจ๊ะ
แม้ว่าอ่านแล้วจะไม่ฮา(มาก) ไม่ขำ(นัก) แต่ก้อชวนติดตามและค้นหาต่อไปว่ามันจะลงเอยยังไง
สะท้อนความคิด และก้อมุมมองที่มีต่อความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
เรื่องมันดำเนินไปเรื่อยๆ ผ่านการเล่าเรื่องที่คล้ายบันทึกประจำวัน แต่ให้รายละเอียดค่อนข้างมาก
ยิ่งอ่านยิ่งเหมือนเข้าไปเป็นคนที่ "เต้" ระบายความในใจให้ฟัง
เพียงแต่ไม่ได้บอกทั้งหมด เหมือนเล่าให้ฟัง แต่ยังมีบางสิ่งในใจของ "เต้" ที่ยังครึ่งๆกลางๆ เก็บซ่อนเอาไว้
โดยรวมชวนติดตาม อ่านสบาย แฝงความเศร้าและอารมณ์หดหู่เป็นช่วงๆ
สรุปว่าชอบนะจ๊ะ
จะติดตามอ่านต่อ และเป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปจ้า :กอด1:

กดบวก ให้แล้วจ้า

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z2: :z2: :z2: :z2:
ถึงใครจะว่าไงนะเต้
อยากจะบอกว่าเรื่องนี้ให้อะไรมากกว่า แค่ขำๆ ฮาๆ
ถ้ามีแค่นั้นไม่อ่านหรอกภูมิใจไว้เรื่องของเรานะดีให้แง่คิด
และมุมมองที่แปลกใหม่น่าสนใจ ดูมีอะไรให้ติดตามนะ
เพราะชอบด้วยแหละมั้งเลยบอกกันตรงๆอย่างงี้
ไว้เขียนไปเรื่อยๆจนถึงตอนที่คิดว่าอารมณ์มันถึงขีดละ
จะเม้นยาวๆชนิดที่เห็นแล้วขี้เกียจอ่านให้เลย อิๆ
 :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
สนุกค่ะชอบๆ เรื่องเล่าแอบชอบพี่เคนด้วย :-[

SunintheNight

  • บุคคลทั่วไป
คืนที่สิบสอง


คืนสิบสองไม่ใช่เดือนสิบสองนะเออ เง้อออออ


และแล้วเช้ามาเราก็จำใจลาเวียงเจียงใหม่ ปล่อยให้ยอดดอยตระหง่านอยู่เบื้องหลัง อยู่ตรงนั้นนะ สัญญาว่าสักวันจะกลับมาอีก

รถโตโยต้าวิชสีแดงพาเรากลับมาตามเส้นทางเดิม ที่เรามาเมื่อวันก่อน ผ่านลำพูน พาลให้นึกถึงพี่เจ้าของร้านเมื่อคืนนี้ เขาจะรู้ไหมว่ารถคันนี้
มีชื่อรุ่นของมันว่าวิช และมันยังได้ทำหน้าที่พาเจ้าโคมไฟที่ผมหวังจะมอบให้ใครคนหนึ่งมาด้วย

วิช คือความหวัง หากคาดหวังคงเจ็บปวด หากไร้หวังคงเหมือนตายไปแล้ว

ผมมองท้องฟ้าสีสดของนครเขลางค์ด้วยความหวัง แต่ไม่ไปคาดหวังกับวันข้างหน้า

พี่คนขับแนะนำพาเราแวะเที่ยวพระธาตุลำปางหลวง เพราะเห็นว่าเวลาเหลืออีกเยอะ เพราะเราออกจากเชียงใหม่มากันตั้งแต่ก่อนแปดโมงเสียอีก

“ใครบอกลำปางหนาวมากวะ” ไอ้พลพูดคำแรกหลังจากเปิดประตูก้าวลงจากรถ ที่จอดรถกว้างโล่งที่มีไอร้อนจากแสงแดดทอรับเราอยู่ ร้อนโคตรรรรรร

“ลำปางร้อนเหี้ยๆ” ผมหันไปบอกนิยามใหม่แก่มัน
“พี่ไม่ไปไหว้พระธาตุเหมือนกันหรอคับ” ผมชะโงกเข้าไปถามพี่คนขับที่ยังไม่ลงจากรถ และหยิบกล้องคู่ใจมาสะพายไว้
“ไม่หรอกคับ ร้อน พี่เคยมาแล้ว” อ้าวเพ่ งี้เดี๋ยวสวย ร้อนแล้วพามาทำมาย หึหึ ไอ้เต้แอบเคืองในใจเล็กน้อยที่ไม่บอกกันก่อน
แต่ก็กระตือรือร้นเตรียมไปถ่ายรูปด้วยความตื่นเต้น เอาน่ะ เค้าอุตส่าห์พามาแวะ อย่าเรื่องมาก

“ไอ้เต้ๆ ไปมุมนั้น” ไอ้พล ซึ่งมันเลวมาก ไม่ยอมเอากล้องมากเป็นนายแบบเต็มที่ ให้ผมตามถ่ายมัน
“เออ มึงเอานี่ไป” หึหึ แต่มีหรือว่าไอ้เต้จะยอม ผมยัดกล้องดิจิตอลคอมแพคตัวเล็กที่ติดมาด้วยใส่มือมัน กูถ่ายมึง มึงก็ต้องถ่ายให้กู ไม่งั้นเดี๋ยวรูปลง hi5 กูไม่มี ฮ่าๆๆๆ

ผมกับไอ้พลก็เดินลัดเลาะตัววัดเข้าไปเรื่อยๆ จนถึวตัวพระธาตุ สวยมากทีเดียว เป็นวัดโบราณน่าจะหลายร้อยปี ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นพันแล้วล่ะ

ผ่านมากี่ชั่วอายุกี่ชั่วรุ่น
ตระหง่านรับอรุณและสนธยา
ลมร้อนลมหนาวพัดผ่านไปมา
พระธาตุงามตายังอยู่ยั่งยืนยง

“ศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตสั้น” - อ.ศิลป์ พีระศรี

ผมนึกถึงคำกล่าวนั้น และพลางโยงใยมาถึงเรื่องรักๆใคร่ๆ ในวัยตัวเอง ศิลปะยืนยาว แต่ชีวิตสั้น แล้วความรักล่ะ สั้นกว่าชีวิตอีกใช่หรือเปล่า

“มุมนี้ เชื่อกู แสงอย่างสวย” ผมบอกให้ไอ้พลยืนพิงบานประตูที่แดดส่องกระทบสว่างจ้า
“แสงนะสวย แต่กูน่ะจะเหี้ย มึงดูแดดสิห่า”
“มึงก็ใส่แว่นสิ”
“เออๆ เร็วๆ กูดำหมดแล้ว” ฮ่าๆๆ แดดร้อนมา แต่ผมยืนหลบแดดถ่ายในร่ม เป็นนายแบบต้องอดทนไว้มึง อยากได้รูปเจ๋งๆ

“มึงถ่ายป่ะ” มันถามพอผมลั่นชัตเตอร์เรียบร้อย
“ไม่อ่ะ ร้อน”
“สัด แล้วให้กูดำอยู่คนเดียว”
“กูอยากให้มึงได้รูปสวยๆไง”

ผมหัวเราะและเดินจากลาพระธาตุมา

“ไงคับเฮีย”
“ไงมึงอยู่ไหนวะ” เฮียตี๋โทรมา พี่แกกลับมาไทยแล้วหรอวะ
“ลำปางคับ มากับไอ้พล”
“อ้าวมึงไปกันแล้วหรอ นึกว่ายังไม่ไป จะโทรชวนกินข้าวซะหน่อย” โห่ มาได้สองวันแล้วเฮีย ไม่เห็นหรอ ออนเอ็มแล้วผิดปกติ ไม่เจอไอ้เต้ออนอยู่ ฮ่าๆๆ
“กลับอีกห้าวันอ่าเฮีย”
“เออป่านนั้นกูก็ไปทำงานแล้ว”
“อ่านะ งั้นไว้เฮียกลับมาอีกรอบแล้วกัน”
“เออๆได้ แล้วเป็นไงวะสนุกมั้ย อยากไปด้วยว่ะ” เอ่อ มาทำงานนะคร้าบ ถึงจะแวะเที่ยวด้วยก็เถอะ
“สนุกดีเฮีย เมื่อวานเด็กเชียงใหม่น่ารักมาก ฮ่าๆ”
“เออ เอามาฝากกูมั่ง” ฮ่าๆๆๆ ไอ้เต้ยังไม่ได้กลับมาสักคน จะฝากไรเล่าคับ แหม ชอบกันจังนะละอ่อนเมืองเหนือเนี่ย
“แฮะๆ เดี๋ยวไปพิษณุโลกต่อ ไปเก็บแถวนั้นมาฝากนะ”
“ฮ่าๆเออ งั้นกูชวนไอ้จีนออกมากินข้าวดีกว่า ไม่รู้มันจะว่างมั้ย”
“เห็นว่าสอนที่รังสิตนะเฮียวันนี้”
“อ้าวหรอ เออๆลองโทรก่อน”
“คับๆ”
“เออฝากความคิดถึง ถึงไอ้พลด้วย”
“ได้คร้าบบบ”

มาถึงพิษณุโลกแล้วทำไรกันดีล่ะ เดินทอปแลนด์หรอ อืมมม อ่อรู้แล้ว เดินไปวัดใหญ่ดีกว่า ผมกับไอ้พลเดินไปวัดใหญ่
(ผมเรียกแต่วัดใหญ่ๆ จนไม่แน่ใจว่าชื่อจริงคือ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือวัดพระพุทธชินราชวรมหาวิหาร อะไรสักอย่าง เอาเป็นว่า มาไหว้สมเด็จพระพุทธชินราชละกัน เอิ๊กๆ)

“ตกลงนี่เป็นทริปพบเด็กๆ กับไหว้พระใช่ป่ะ กูเป็นนางสาวไทยเปล่าวะเนี่ย” ไอ้พลบ่นๆ
“มิสยูนิเวอสเลยมึงอ่ะ” ฮ่าๆๆๆผมแซวมัน
“แล้วอย่างกูกับมึงนี่มาจากจักรวาลไหนล่ะ” ฮ่าๆๆๆ แม่งคิดได้ นั่นดิ โลกนี้มีที่ให้ผู้หญิงเป็นมิสยูนิเวอส แต่ถ้าเกย์ล่ะ มิสเตอร์ก็ให้ผู้ชาย มิส ก็ผู้หญิง
แล้วพวกผมมาจากจักรวาลไหนกัน ใช่ที่นี่หรือเปล่า

“อืม แม่น้ำไรวะ” ไอ้พลหันมาถาม หลังจากเราเดินออกกันมาทางอีกด้านของวัด พบแม่น้ำกลางเมืองสองแคว

“แม่น้ำน่าน”
“มึงรู้ได้ไง”
“เมื่อกี้กูอ่านป้าย”
“อ่อ”

ว่าแล้วก็ลงไปเดินลัดเลาะบันไดหินริมตลิ่งกัน ลมเย็นสบายมากๆ ถ้ามันเย็นได้แบบนี้ตลอดไปก็ดีสิวะ

“ทำไมที่นี่เด็กน้อยจังวะ” ผมถามไอ้พล ซุ้มอีเวนท์ที่มาจัดกิจกรรมสาขาพิษณุโลก เงียบโคตรรร เด็กนี่ไม่มีเลย ไรวะ
“เออ พี่ที่นี่เค้าบอกว่า เด็กไปเรียนพิเศษกรุงเทพฯกันหมด”
“เฮ้อ ไปโน่นก็เสียตังค์เยอะ แถมก็เรียนวิดีโอเหมือนกัน จะไปไมวะ ที่นี่น่าอยู่กว่าอีก”
“อ้าวมึง เด็กมันก็อยากไปเจอแสงสีกันบ้างสิ มึงก็เห็นเมืองเงียบจะตาย”
“ก็เงียบเพราะไปกันหมด” ผมเดินไปหยิบน้ำส้มที่เอามาแจกเด็กๆมาดื่มเอง ไม่มีเด็กกินเองก็ได้วะ อร่อยด้วย (แม้จะหวานไปสักหน่อย อิอิ)

“เย็นนี้ไปไหนดีวะ”
“เออว่ะ ที่นี่มีไรเที่ยวมั่ง”
“กูรู้แค่วัดใหญ่ที่พามึงไปเมื่อวานอ่ะแหละ อ่อๆมีพิิพิธภัณฑ์พวกไทยๆด้วย กูเคยมาตอนเด็กๆ” แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าชื่อจ่าหรือดาบทวีอะไรสักอย่าง เป็นพวกพื้นบ้านๆ
“ไม่เอาดิ เอาพวกเทคๆผับๆ” อืมมม ไม่รู้ว่ะ อ่อมีใต้ทอปแลนด์ เพื่อนที่มหาลัยมันเป็นคนที่นี่ มันเคยบอกนี่หว่า
“มีเว้ย ใต้ทอปแลนด์แ่ไม่รู้ดีป่าว”
“เฮ้อ เบื่อว่ะ อยากไปขอนแก่นพรุ่งนี้เร็วๆ”
“กูอยากไปด้วยยยย”
.
.
.
“กูเคยอ่านนิยายเกี่ยวกับที่ขอนแก่น แม่งยังไม่เคยไปเลยอยากไป” ผมคุยกับไอ้พล นึกถึงนิยายเรื่องคิมคิม กับโมโม
“นิยายไรวะ” มันทำหน้างงๆหันมาถาม
“นิยายในเนทอ่ะ แต่ดีนะมึงเรื่องนี้ เป็นเรื่องเล่าชีวิตเค้า แม่งน่ารัก กูอ่านละอยากมาเรียนมข.เลย
“อ่อ เพ้อเจ้อนะมึงเนี่ย”
“อ้าวเชี่ยนี่”
“เออๆ กูขอให้มึงพบรักที่นั่นแล้วกัน” หึหึ กูไปสองวัน จะพบใครมั้ยล่ะนั่น
“เหอะๆ งั้นวันนี้กูนอนละ จะได้ตื่นไปขอนแก่นเร็วๆ”
“อ้าวเหี้ย อย่าเพิ่งทิ้งกันดิ ตื่นดูหนังเป็นเพื่อนกูก่อน”
ลืมบอกไอ้พลมันลงทุนขนเครื่องดีวีดีที่อฟฟิศมาด้วย แถมยังแบกหนังมาหลายเรื่อง สงสัยมันจะรู้ว่ามาพิษณุโลกแล้วไม่มีอะไรทำ

“ตกลงหนังสนุกป่ะ” ผมถามเมื่อตื่นมาตอนเช้า
“เหี้ยหลับก่อน ปล่อยให้กูนอนดูคนเดียว เงียบชิบหาย”
“อ้าว มึงกลัวผีหรอ”
“เออดิ”
ฮ่าๆๆๆๆ รู้จักมันมาเพิ่งรู้ว่าจริงๆมันเป็นคนแข็งนอกอ่อนในนะเนี่ย ใครจะคิดว่าท่ามกลางความมั่นใจแลดูเข็มแข็งภายนอก
มันจะกลัวผีได้ขนาดผมนออนเตียงใกล้ๆมัน ห้องก็ออกจะดูดี ไม่น่ากลัวเลย เหอะๆ ไอ้พลเอ๋ย ดีละ วันหลังกูจะแกล้งมึง ฮ่
าๆๆๆ ผมคิดในใจแล้วลุกไปห้องน้ำ จัดการตัวเองให้พร้อมมุ่งหน้าสู่แดนอีสาน


“อ้าวเฮีย ยังไม่ไปหาอาตี๋ีอีกหรอ” ผมถามไอ้พี่เคน นึกว่าไปฮ่องกงแล้วซะอีก
“ยังๆ พรุ่งนี้ไปนครก่อน ทำงานเสร็จแล้วอีกวันถึงจะไปฮ่องกง”
“พรุ่งนี้อยู่กันคนละภาค วันมะรืนอยู่กันคนละประเทศเลยเนอะ” ผมแซวเฮียแกขำๆ
“คิดถึงกันดิ จะได้ห่างแค่ตัว” โห เน่ามั้ยคร้าบบบบ เน่าไปมั้ยไอ้เฮียบ้า
“หึหึ คิดถึงอยู่ฝ่ายเดียว มันก็ไม่ใกล้กันขึ้นมาหรอกเนอะ” อิอิ แอบประชดเล็กน้อย
“หรอ อืม ถึงว่าสิ ช่างกัดนะไอ้เด็กน้อย” แฮะๆอยู่แล้ว
“แล้ววันนี้ไม่ทำงานหรอค้าบ”
“ทำๆ แต่ว่าเสร็จเร็ว เลยออกมาข้างนอกแล้ว”
“อ่ะคับ วันนี้เต้มาขอนแก่นละ ตื่นเต้นๆ”
“เจอเด็กเชียงใหม่ เด็กขอนแก่น ลืมลุงแก่ๆที่กรุงเทพแล้วล่ะมั้ง”
“ฮ่าๆๆๆ” ผมระเบิดเสียงฮาออกมาทันทีเมื่อได้ยิน โห่ คนเราใครจะลืมได้ลงคอล่ะคับ มาตั้งไกลเดี๋ยวสุดท้ายก็ตายรังนั่นแหละ
“ใช่ป่ะ กลับมาคงลืมกันแล้วมั้ง”
“หึหึ  นั่นเดะ เด็กๆสดๆเฮ้อออ อร่อยน่าหม่ำไปหมด”
“เอาเชียวๆ เดี๋ยวกลับมาจะเขกหัวโนเลย” อ๊ะๆ ทำร้ายผู้เยาว์มีโทษนะเออ (กูไม่เยาว์แล้วนี่หว่า ชอบลืมๆ)
“อ่านะ คร้าบๆ จะรอให้เขกนะ”
“เออๆ แล้วนี่อยู่ไหนแล้ว”
“อ่ออยู่แถวๆ ไรหว่า ป่าๆ อ่อ ทุ่งแสลงหลวงคับ”
“ไหนบอกอยู่ขอนแก่นไงวะ”
“อ่อกำลังไปไงคับ จากพิโลกไปขอนแก่น มันผ่านทางนี้ สวยมาเลยนะเฮีย แต่ฝนพรำๆ เลยถ่ายรูปไม่ได้”
ผมพูดพลางมองวิวข้างทาง สวยมากคับ เมื่อกี้พยายามจะลงไปถ่ายรูป ฝนเจ้ากรรมดันเทลงมา แม้ไม่หนัก แต่ก็กล้องเจ๊งได้ล่ะ
“ไม่เคยไปเลย” เฮียเคนแอบบ่น ใช่เดะ ไปแต่เมืองนอกเมืองนา บ้านนอกแบบนี้คงไม่เคยมาหรอก
“เฮียมาเดี่ยวผื่นขึ้น มันร้อนนะ” ผมแอบกัด ฮ่าๆๆ
“หรอออ ไอ้คุณหนู อย่ามากปากดี เดี๋ยวเถอะ” เฮียเคนแกทำเสียงแค้นๆ น่ารักเจรงๆ

“เออเต้ จะเอาไรป่าวไปฮ่องกงอ่ะ” ฮะอะไรนะคับ ไอ้เต้ได้ยินไรไม่ถนัด
“หมายถึงคนหรือของคับ ฮ่าๆ”
“ของดิ อยากได้ไรมั้ย ของฝากน่ะ” เฮียจะซื้อมาฝากผมด้วยหรอ เฮ้อออ แค่ถามผมก็ดีใจตายแล้วรู้มั้ยคับเพ่
“ไม่เป็นไรหรอกคับ”
“อ่านะ เราไม่ใช้น้ำหอมใช่ป่ะ”
“คับ ไม่ค่อยนะ”
“อืม งั้นเดี๋ยวหาอะไรน่ารักๆมาฝากนะ” เฮ้อ เฮีย อย่างี้ดิ ผมยิ้มไม่หุบจนไอ้พลมันเขม่นแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ วู้ ทุ่งแสลงหลวงทำไมมันสวยงี้วะ

________________________________________________


ขอบคุณทุกกำลังใจเลยคับ นั่นดิ งั้นผมไปโลดละน้าาา  :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด