เอาตอนใหม่มาส่งแล้วนะครับ ^ ^
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันตลอดนะฮะ
ตอนที่ 12 กลับ
วันใหม่มาถึง ช่วงนี้ผมเริ่มวันด้วยขนมของเจ้ฟิวที่ซื้อมากักตุนเอาไว้มากมายมหาศาล ผมเคยแซวว่ามีหนุ่มร้านขนมมาจีบเหรอไง ถึงมีขนมเยอะแบบนี้ ก็โดนอิเจ๊มันตบกบาลเอาเสียเจ็บ
ที่ผมตื่นเร็ววันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องสอบ แต่ที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากกว่านั้น เพราะเป้ชวนผมไปเที่ยวทะเล ผมเก็บข้าวของนิดหน่อย ดูตลกที่ต้องแบกเป้ใบใหญ่ไปสอบ แต่เป้ยืนยันว่าเรียนเสร็จแล้ว พวกเราจะออกเดินทางกันเลย การสอบวันนี้ของผมเลยทุลักทุเลกว่าที่คิดเพราะมีเป้ใบโตสะพายอยู่บนหลังขณะเบียดเสียดบนรถเมล์ในตอนเช้าเพื่อฝ่าฟันไปสอบ ..นี่ถ้าไอ้ปิงยังอยู่ก็ไม่ต้องลำบากลำบนขนาดนี้แล้วโฟนเอ้ย
กริ่งเข้าห้องสอบดังขึ้น ผมหยิบมือถือกดดูข้อความที่เป้ส่งมาให้กำลังใจ เป้เองก็มีสอบเหมือนกันแต่เป้บอกว่าวิชาของคณะเขาไม่ต้องอ่านหนังสือเยอะมาก ข้อสอบไม่ยากอย่างที่คิด ต้องขอบใจเหล่า lab mate กิตติมศักดิ์ทั้งสามรายที่ทำให้ผมผ่านพ้นช่วงเวลาโหดร้ายมาได้ ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมป๋องถึงเก่งนัก ป๋องมันเก็งข้อสอบตรงมาก ตรงมากๆๆๆ มันเลยอ่านหนังสือน้อย รู้ว่าตรงไหนเป็นพ๊อยต์ต้องจำ แล้วก็เลือกอ่านเฉพาะสำคัญ หลังจากสอบเสร็จผมนั่งรอเป้อยู่ที่คณะ สามตัวนั้นงอนผมปอดแปดเพราะว่ามันจะนัดไปฉลองกันหลังสอบเสร็จ โดยเฉพาะไอ้อาร์ทที่ออกอาการเหวี่ยงตั้งแต่สอบเสร็จ
ผมเดินไปเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงยีนส์กับเสื้อยืดสบายๆ พอกลับมาก็เห็นเป้นั่งกุมเป้ยักษ์ของผมอยู่ สิ่งที่แปลกไปก็คือวันนี้เป้ไม่ยิ้ม ผมถามเป้ว่าเกิดอะไรขึ้น เป้เลยเล่าให้ฟังว่าวันนี้ปิงไม่มาสอบวิชาคณะ ถอนวิชาก็ยังไม่ได้ถอนสักวิชาแล้วไม่มาสอบแบบนี้จะติด F เอา อาจารย์พยายามโทรเข้ามือถือปิงแต่ไม่มีใครรับสายเลย
เอาหล่ะ... คุณว่าผมควรจะทำยังไง
ผมควรจะไปหาปิงใช่ไหม ไปด่ามัน ไปทะเลาะกับมันว่าทำไมมันไม่มาสอบ แต่ผมเป็นเพื่อนกับปิงมานาน ปิงไม่มาสอบเพราะมันตั้งใจว่ามันจะไม่มา... ต่อให้ใครไปพูดยังไง มันก็ไม่มา ไม่ใช่ด้วยอารมณ์ แต่การที่ปิงจะทำอะไรแบบนี้ ปิงจะคิดแล้วคิดอีก
ปิงมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่ยอมโผล่มา.. และผมหรือเป้ก็อาจจะเป็นเหตุผลนั้น
การที่ผมไปปรากฎตัวคงจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก
“ไปกันเถอะ” ผมพูด คว้ากระเป๋าขึ้นมา
“ไม่เป็นไรแน่นะ” เป้ถามย้ำ
“อือ ไม่เป็นไร” ผมยืนยัน
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ถึงปากจะบอกไปอย่างนั้น แต่เรื่องของปิงก็ยังอยู่ในใจของผมตลอด เป้ขับรถคันงามมุ่งตรงไปหัวหิน ผมมองผู้ชายคนนี้อีกครั้ง เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนตัดสั้นและถูกจัดอยู่ในทรงเป็นอย่างดีเปิดเผยให้เห็นใบหน้าขาวผ่องของเขา คนคนนี้อยู่ข้างผมมาตลอด และก็อย่างที่สังเกตผมไม่ได้เล่าเรื่องของเป้มากนัก และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตรงกับความรู้สึกของตัวผมเอง แม้ว่าจะอยู่ข้างกันแต่ใจของผมก็หลุดลอยไปไกลแสนไกลเสียแล้ว ตั้งแต่วันที่เป้บอกชอบผมจนถึงวันนี้ก็ สี่เดือนเข้าไปแล้ว ผมเองไม่เคยตอบคำถาม ไม่เคยให้ความหวัง แต่เป้ก็ยังคงให้ผมตลอดมา ผมมานึกถึงตัวเอง นึกถึงว่าตอนนี้ผมก็เหมือนปิง ส่วนเป้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นเดียวกันกับผมในตอนนี้ แค่ผมคิดว่าปิงรู้สึกกับผมเหมือนที่ผมรู้สึกกับเป้ ผมก็แทบจะกลืนความเจ็บปวดลงคอไม่ไหว แล้วไหนจะความรู้สึกผิดต่อเป้ที่ท่วมท้นขึ้นมาอีก
“เป้ .. นายไม่เหนื่อยเหรอ” คำถามถูกตั้งขึ้นตรงเส้นแบ่งกั้นระหว่างแผ่นดินกับผืนน้ำ ภายใต้ท้องฟ้าสีดำเหมือนเป็นผ้าคลุมผืนใหญ่โอบรอบผมไว้ เป้นั่งพิงผมอยู่แผ่นหลังแปะกับโขนหินและปลายเท้าซุกอยู่ในทรายอุ่นๆ ที่กำลังปลดปล่อยความร้อนระอุซึ่งสะสมไว้จากช่วงกลางวัน
“เหนื่อยอะไรเหรอ” เป้ หันมายิ้ม ยิ้มแบบที่ทำให้ผมอ่อนไหวทุกที
“ก็เนี่ย กับเรื่องของเรา นายทำแบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอ”
เป้ กอดเข่า ลมทะเลพัดแรงปะทะเข้ากับใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมขึ้น “เหนื่อยสิ”
“แล้วทำไมนายยังทำต่อหล่ะ”
“ก็เพราะทำแล้วรู้สึกดี”
ให้ตายเถอะ.. ผู้ชายคนนี้....
เป้เปลี่ยนมานั่งกอดเข่า “กลับไปเถอะนะ กลับไปหาปิง”
“นายจะบ้าเหรอไงเป้ ปิงไม่ได้ชอบเราแบบนั้น เรากับปิงก็เป็นได้แค่เพื่อนกันนั่นแหละ มันเป็นแบบนั้นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
“และถ้าปิงเปลี่ยนใจล่ะ นายจะว่ายังไง”
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“แล้ว.. พูดแบบนี้เป้ไม่ชอบเราแล้วเหรอ”
เป้ นอนตุบลงบนตักของผม มองตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า “เราบ้าไหม เราชอบโฟนที่มีปิง”
“... เป้”
“เวลานายอยู่กับปิงนายดูมีความสุขมากรู้ไหม แล้วมันก็เหมือนนายแบ่งปันเสียงหัวเราะ รอยยิ้มที่มีเยอะแยะนั่นให้กับคนรอบตัว ...เราชอบนายแบบนั้นมากเลย เราตกหลุมรักเสียงหัวเราะของนาย และเราก็ชอบดูนายกับปิงอยู่ด้วยกันนะ”
ผมคิดว่าถึงตอนนี้ใบหน้าของเป้จะเปื้อนไปด้วยรอยน้ำตา แต่สิ่งที่ผมกลับเป็นยิ้มกว้าง
“มันก็เสียใจนะ แต่เราว่าโฟนแบบที่ไม่มีปิงนี่.. ดูไม่จืดเลยอ่ะ”
“หมายความว่าไงห๊ะ คุณเป้ ดูไม่จืดเนี่ย”
“ก็ไม่น่ารักน่ะสิ”
บีเอ็มดับบลิวสปอร์ตสีดำพุ่งผ่าลมทะเลในทิศทางตรงกันข้ามกับที่มันเดินทางมา
หัวใจของผมสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทั่วร่าง... ‘ปิง กูจะกลับไปหา.. กูจะไม่ขออะไรมากกว่านั้น ให้โอกาสกูได้ไหม’