{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25  (อ่าน 143726 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
น้องเจยอมเรียกว่าพี่ฌานแล้ว  พี่ฌานมีโอกาสแล้ว  รีบทำคะแนนเลยนะ

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
พ่อปลาไหลมีมุมเขินด้วยแหะ น่ารักอ่าา   :o8:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ยอมใจให้พี่เขาเลย เรื่องความเนียนเนี้ย  :katai3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
จอมมารผู้ยิ่งใหญ่ในใต้หล้า กับน้องเจผู้ฉลาดล้ำโลก  ทันกันอ่ะต่อปากต่อคำกันสนุกเชียว.  :laugh:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นิฌาน  น่ารักมากกกกกกกกกก   :mew1: :mew1: :mew1:
เจ จะใจอ่อนบ้างมั้ยนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดร้องงงงงงงง อิพี่ฌานนางเนียนค่ะทุกคน
นางสร้างภาพคนดีค่ะทุกคน ไม่ไหวละใจบางงงงง >\\\\\<

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
ว้ายๆๆๆๆๆ ตอนนี้น่ารักยกกำลังสอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
มีจุ๊บกันเบาๆ >\\\<

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'



ตอนที่ 20 : เร่งทำคะแนน


“สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง” นิฌานถามผมด้วยสีหน้านิ่งสงบแต่ดวงตาแฝงคำถามให้ฉุกคิด ท่าทางนั้นช่างน่าวางใจและเชื่อถือ แต่สำหรับผมนั้น...

อยากต่อย! อยากต่อยจะแย่แล้ว!!

“น้องเจอย่านิ่งสิครับ” นิฌานเห็นผมเงียบก็เลิกคิ้ว หลุดจากบทบาทที่กำลังแสดงชั่วคราว “ท่องไว้ว่าต่อยไม่ได้ ถ้าต่อยหน้าพี่ กองเช็กเมทในฝันของน้องเจล่มแน่ๆ”

“ผมยังไม่ทันส่งโทรจิตเลย พี่ฌานรู้ได้ไงว่าผมอยากต่อย”

“ก็น้องเจกำกระดาษจนยับย่นซะขนาดนั้น...ดีนะพี่จำได้หมดแล้ว อยากจะฉีกระบายอารมณ์ก็ตามใจเลยครับน้องเจ แค่อย่าต่อยหน้าพี่ก็พอ” พูดจบนิฌานก็ยิ้มแป้นแล้นกวนประสาทอย่างเต็มที่ ทั้งที่ควรจะเหนื่อยหนักแต่ทุกครั้งเวลาเตรียมเข้ากองเช็กเมทดาราชื่อดังช่างอารมณ์ดีเกินหน้าเกินตาเหลือเกิน! นี่หรือคือการจี๋จ๋า เขาพยายามแกล้งผมต่างหาก!

“เอ้า ต่อบทสิครับน้องเจ หรือให้พี่เริ่มเล่นใหม่ดี” นิฌานถามความเห็นผมก่อนจะกระแอมไอ จากนั้นคนยิ้มหน้าเป็นก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่นิฌาน ชาญชัย “สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง”

แต่เป็นตัววายร้าย!!

ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องของนิฌานครับ หลังผ่านสัปดาห์นรกมาได้ วันพรุ่งนี้เขาก็ต้องเข้ากองถ่ายเช็กเมทอีกครั้ง โดยต้องถ่ายทำติดต่อกันเพื่อตุนตอนจนทางผู้กำกับวางใจ จากนั้นจึงค่อยเข้ากองสลับกับทำงานนอกแบบสบายอุรา

ส่วนสาเหตุที่ผมนั่งจ๋องอยู่ตรงโซฟา ถือบทหน้าคร่ำเคร่ง ก็เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้ากองตั้งแต่ตีห้า!

รีบร้อนก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคืออยากได้ฉากช่วงเช้ามืดต่างหาก ผมเลยต้องเก็บของมานอนค้างคอนโดอีกคืน และอาจอีกหลายคืนจนกว่าจะพ้นช่วงวิกฤต

โชคดีที่ผมจัดตารางงานกะให้เจ้าของห้องนอนเต็มอิ่มอยู่แล้ว วันนี้เลยเลิกงานเร็ว มีเวลาให้นิฌาน ชาญชัย ถือบทซึ่งเพิ่งได้รับเมื่อสองวันก่อนเดินท่องวนไปมา....วนรอบโซฟาผมเนี่ย! ถ้าเป็นคุณจะทนไหวมั้ยครับ หลังจากนิฌานเดินลูบคางผ่านหน้ารอบที่สิบเก้า ผมก็ยอมทำตามความต้องการของเขา โดยการออกปากถามว่า... ‘พี่ฌานอยากให้ผมช่วยต่อบทมั้ย’

ก็นั่นแหละครับท่านผู้ชม ที่มาของภาพผมนั่งขมวดคิ้วถือปึกกระดาษในตอนนี้ เพราะนิฌานซึ่งท่องจำได้แม่นยำแทบจะยัดบทใส่มือผมโดยไม่ให้กลับคำ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง...บนพื้น

เจ้าของห้องนั่งพื้น ส่วนแขกนั่งโซฟา

มันแหม่งๆ นะว่ามั้ย

ผมแย้งแล้วเพราะเป็นเด็กดีมีมารยาท แต่คนชอบตามใจนั้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะเดินไปหาเชือกให้ผมช่วยมัดมือไขว้หลัง สวมบทหัวหน้าองค์กรซึ่งปลอมตัวเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอสที่ถูกขังในห้องปิดตาย ถูกมัดติดกับเสาป้องกันการหลบหนี

เพราะห้องนี้ไม่มีเสา อุปกรณ์สมมติจึงเป็น...เอ่อ...ขาเก้าอี้

มองนิฌานที่นั่งบนพื้น มือมัดอยู่กับขาเก้าอี้แล้วผมยอมใจกับความแน่วแน่ หันมาตั้งอกตั้งใจกับการต่อบท แต่ใครเลยจะเชื่อ...ว่าทันทีที่เขาออกปาก ผมก็อารมณ์ขึ้นแล้ว!

เพราะหัวหน้าองค์กรนั้นปลิ้นปล้อนสิ้นดี!

เหมือนกับนิฌาน ชาญชัยไม่มีผิด! สมแล้วที่ถูกเลขาคมสันวางตัวไว้...ผมนึกคนอื่นมาแสดงบทนี้ได้ดีเท่านี้ไม่ออกจริงๆ!

คล้ายจะเห็นเขาส่งโทรจิตทักท้วงราวเมื่อยมือเต็มทน ผมเลยรีบก้มอ่านข้อความในกระดาษทันควัน

“คุณพี่รู้อะไรก็รีบพูดมาเถอะ โดนสงสัยจะแย่แล้วนะ” ประโยคที่ผมพูดความจริงแล้วเป็นของธนัท หนึ่งในแก๊งพระเอกซึ่งค่อนข้างเอนเอียงมาทางพี่ชายมิสเตอร์เอส เพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมเลยเอ่ยด้วยสีหน้าหงุดหงิด ผิดกับความเป็นจริงที่...

ย้อนความกันสักนิด การปรากฏตัวของพี่ชายมิสเตอร์เอสทำให้พระเอกสงสัย จนธนัทต้องจับคุณพี่ชายมัดมือกับเสาเพื่อจับตามอง ต้องยกข้าวยกน้ำมาให้จนสนิทสนมในระดับหนึ่ง นิฌานมักเอ่ยถามถึงเรื่องน้องชายเสมอ จึงไม่แปลกหากธนัทวางใจ และกลายเป็นคนกลางเมื่อพระเอกจงใจหาเรื่อง

ทำไมถึงหาเรื่อง?

ยังจำได้ใช่มั้ยครับว่าระหว่างนิฌานโดนขัง พระเอกก็ออกไล่ล่าองค์กรเหมือนเดิมตามปกติ ก็สมาชิกที่ตามรอยจนไปปะทะกับตำรวจไงครับ พระเอกไม่มีทางปล่อยให้คนคนนี้หลุดมือจึงลุยเดี่ยวโดยทิ้งธนัทกับพายเฝ้าพี่ชายมิสเตอร์เอสและรายงานสถานการณ์เป็นระยะ แต่...การบุกที่ควรจะราบรื่นก็โดนขัดขวางอีกครั้ง!

ด้วยพวกตำรวจเจ้าเก่าเจ้าเดิม!!

พระเอกโมโหมาก ตำรวจมาได้ตรงจังหวะประหนึ่งดักรอกันขนาดนี้จึงเชื่อว่าต้องมีสายในแก๊งตัวเอง แล้วจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่คนแปลกหน้าซึ่งอ้างว่าเป็นญาติของเพื่อนสนิท...

ข้อสันนิษฐานนี้เป็นไปได้ เพราะนิฌานปรากฏตัวครั้งแรกก็ตอนตำรวจมาเจอจนต้องหลบหนี เรื่องบังเอิญไม่มีโลก นั่นอาจเป็นการจัดฉาก!

และ...ใช่ นั่นไม่ใช่ความบังเอิญ

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่การจัดฉาก มันคือการฉวยโอกาสต่างหาก!

เพราะหัวหน้าองค์กรกับตำรวจเป็นปรปักษ์ต่อกันโดยสิ้นเชิง!!

กลับมาที่ปัจจุบัน พระเอกที่จำใจล่อถอยกลับมาเล่าสิ่งที่เผชิญให้ธนัทฟัง ทำให้เพื่อนซี้เริ่มสงสัย แต่กระนั้นก็เชื่อใจคุณพี่ชาย จึงแทรกกลางหวังไกล่เกลี่ยประนีประนอม

แต่คุณพี่ชายกลับถามตรงประเด็นจนชวนสะอึก!

“สงสัยรึเปล่าว่าทำไมทางตำรวจถึงตามรอยได้ทุกครั้ง”

นิฌานเล่นได้หน้านิ่งเหลือเกิน นิ่งจนสามารถตีความได้ทั้งด้านดีและร้าย เมื่อพระเอกได้ยิน ก็มั่นใจในทางลบแล้ว แต่ธนัทยังคงยืนขวาง สบโอกาสให้คนถูกจับมัดเอ่ยเสริมอีกประโยค

“เพราะฝ่ายตำรวจมีคนขององค์กรแฝงอยู่ไงล่ะ”

ราวโยนระเบิดลงมากลางดง

คำตอบของนิฌานสร้างความเงียบงันแก่สามหนุ่มแก๊งพระเอก แต่ละคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป ก่อนธนัทจะเป็นฝ่ายสนับสนุนความเห็น

“ที่คุณพี่พูดก็มีเค้านะ” ซึ่งแน่นอนว่าคนพูดคือผม ต้องมาเรียกนิฌานว่าคุณพี่ โคตรอยากตบปากตัวเองเลย ทำไมนะทำไม ธนัทถึงต้องเข้าข้างคนคนนี้ด้วย ทั้งที่...ทั้งที่...

พอเห็นประโยคถัดมา ผมก็กุมขมับ

“ไม่เอาแล้วพี่ฌาน ผมพูดต่อไม่ได้! พี่ซ้อมหน้ากระจกเถอะ อย่าซ้อมกับผมเลย!”

เหมือนเด็กน้อยงอแงเมื่อไม่ได้ดั่งใจ แต่อย่าโทษผมเลย ก็ผมน่ะรักมิสเตอร์เอส ต้องมาพูดเป็นเชิงเห็นดีเห็นงามกับตัวร้าย ผมทำใจไม่ได้จริงๆ!

แต่นิฌานกลับนิ่งสงบ สายตาจ้องตรงอย่างเตรียมใจโดนกล่าวหาแต่กระนั้นก็พร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน

นั่นเป็นสายตาของ....พี่ชายมิสเตอร์เอส

ครั้งแรกก็ว่าได้ที่ผมเผชิญหน้ากับนิฌานยามแสดงด้วยสมาธิอันแน่วแน่จนลบคราบของคนเจ้าเล่ห์กวนประสาทเสียราบคาบ ความตั้งใจนั้นทำให้ผมเลิกโวยวาย ก่อนจะก้มหน้าอ่านบทของธนัทต่อ

“พวกเราเคยสงสัยข้อนี้แล้วตั้งแต่เมื่อก่อน”

ธนัทเห็นด้วยกับความเห็นของนิฌาน ทว่า...

“แต่มิสเตอร์เอสหาไม่เจอ!” พระเอกเชื่อมั่นในสหายที่ล่วงลับ เมื่อก่อนใช่ว่าไม่เคยสงสัยพวกตำรวจ เพราะหลายคดีที่เกี่ยวพันกับองค์กรมักเงียบหายไปเฉยๆ แต่เมื่อมิสเตอร์เอสสืบไม่พบ จึงปัดข้อสงสัยนั้นทิ้ง!

ต้องเล่นสองบทในเวลาเดียวกัน เถียงกันไม่พอยังคนละอารมณ์อีก ผมคลับคล้ายว่าตัวเองเป็นโรคสองบุคลิก

“น้องชายฉันหาไม่เจอก็ไม่แปลก” แต่นิฌานไม่คิดแซวกับท่าทางตะกุกตะกัก เดี๋ยวพูดช้าพูดเร็วของผม เขาเอ่ยต่อทันควันไม่ยอมเว้นช่วง แสดงความจริงใจในทุกคำเอื้อนเอ่ย ทั้งยังสบตาไม่ยอมหลบเลี่ยง จนคนถูกจ้องอดสั่นสะท้านไม่ได้ “เพราะประวัติของคนคนนั้นสะอาดมาก เป็นคนขององค์กรที่แฝงตัวเข้ามาในกรมตำรวจนานหลายสิบปีไต่เต่าจนได้ยศสูง แถมยังมีครอบครัวเป็นฉากหน้า เป็นหัวหน้าที่ลูกน้องเคารพรัก”

ใจผมสั่นไหว ไม่ใช่ว่าหลงรักเขา แต่ผมกำลังถูกการแสดงของเขาดึงดูดเข้าเต็มเปาจนเชื่อหมดใจ

คนคนนี้...คือพี่ชายของมิสเตอร์เอสจริงๆ!

“แล้วคุณรู้ได้ยังไง” คราวนี้ผมพูดบทของพาย แฮกเกอร์ซึ่งนั่งฟังมานานไม่คิดมีส่วนร่วม แต่เมื่อเกี่ยวพันถึงสิ่งที่ตัวเองยังหาทางเชื่อมโยงไม่เจอ ก็อดแทรกขึ้นมาไม่ได้

“เพราะเห็นน่ะสิ ในวันที่โดนใช้ล่อน้องชายมาติดกับ ฉันเห็นคนคนนั้นด้วยตาตัวเอง” พลันใบหน้าของนิฌานเผยความเจ็บปวดที่เก็บกลั้น เทียบกับแก๊งพระเอกซึ่งค่อนข้างได้รับผลกระทบจากการสูญเสียแล้ว นิฌานจะค่อนข้างเก็บอารมณ์มากกว่า อาจเพราะมีอายุมากกว่าคนอื่นๆ และด้วยลักษณะนิสัยที่มีอะไรก็มักเก็บไว้ในใจเหมือนมิสเตอร์เอสผู้เป็นน้องชาย

“แล้วทำไมไม่พูดให้เร็วกว่านี้ล่ะ!” ผมถามแทนพระเอกของเรื่องด้วยความอินจัด ใช่ ทำไมไม่พูดให้ไวกว่านี้ ปล่อยพระเอกไปตามรอยจนโดนตำรวจดักตั้งหลายรอบ แถมยังเกือบบาดเจ็บกลับมาอีก แฟนคลับใจหายวาบนะรู้มั้ย!

“เพราะพวกเธอระแวงฉัน ถ้าพูดไปกลัวจะเป็นการป้ายความผิดน่ะสิ” นิฌานอธิบายอย่างใจเย็น ชวนให้อารมณ์คุกรุ่นของคนฟังสงบลงเพื่อใคร่ครวญ “คนคนนั้นคือคนที่ติดต่องานกับพวกเธอมาตลอด และเป็นคนที่สร้างความดีความชอบในการบุกองค์กรใต้ดิน ถ้าพูดไปแต่แรก จะเชื่อฉันหรือ”

แน่นอนว่า...ไม่เชื่อ

พลันความเงียบเข้าครอบงำ ไม่ใช่ว่าผมลืมบท แต่เพราะตรงนี้แก๊งพระเอกกำลังใช้สมองทบทวนกันอยู่

“เห็นมั้ย ไม่เชื่อกันจริงด้วย” นิฌานขยับยิ้มขื่น ราวรู้แต่แรกว่าต้องเป็นแบบนี้ ถึงได้ไม่พูดออกมา ถึงได้ไม่กล้าเอ่ยเตือน จนกระทั่งพระเอกประสบปัญหาแล้ววิ่งมาเค้นคอให้จำต้องพูด “ลองคิดดูให้ดีแล้วกัน ว่าหลังจากแยกตัวทำไมถึงถูกตำรวจไล่ตามหนักขนาดนี้ แค่เพราะห่วงความปลอดภัยของเธอ ห่วงว่าจะฆ่าคนร้ายอย่างเดียวหรือ ไม่ใช่หรอก ถ้าเป็นมิตรกันจริงทำไมไม่ปล่อยให้พวกเธอจัดการเรื่องนี้เองล่ะ แต่เพราะอยากให้คนร้ายหนีรอดไปต่างหาก ถึงได้พยายามถ่วงแข้งถ่วงขาโดยอ้างความยุติธรรม!”

น้ำเสียงตอนท้ายนั้นแฝงความเจ็บแค้นชิงชัง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากพระเอกขึ้นหลายเท่า

เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป

และเข้าเค้าอย่างอัศจรรย์

“ขังฉันต่อก็ได้ แต่แนะนำให้ลองจับตาคนคนนั้นให้ดี” นิฌานเอ่ยอย่างหวังดี แม้จะแทบเป็นเหน็บชา กินข้าวไม่สะดวก โดนจับตาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งพระเอก ได้ตามล้างแค้นให้น้องชาย...เขาย่อมทนได้ “ถึงประวัติจะขาวสะอาด ไม่มีการติดต่อใดๆ ให้ผิดสังเกต แต่การกระทำจะต้องส่อพิรุธออกมาแน่นอน”

ตั้งแต่ต้นจนจบ คนคนนี้ไม่แม้แต่จะหลบสายตา

“เชื่อฉันเถอะ”

จึงไม่แปลกหากพวกพระเอกจะลองเชื่อสักครั้ง...ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน พี่ชายมิสเตอร์เอสก็ถูกปล่อยตัวในที่สุด

กลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักสำคัญตามล่าองค์กร!!!

ผมกำบทแน่นจนกระดาษยับย่น พร้อมกัดปากขณะมองหน้านิฌานที่ค่อยๆ คลายตัวเองจากตัวละคร

คนตีหน้าจริงจังมาตลอดพลันคลี่ยิ้มหวานหยดเตรียมกระเซ้าแซว

“เป็นไงครับน้องเจ พี่เล่นดีมั้ย”

“เล่นดีมาก!” ผมพูดเสียงดังอย่างเจ็บใจ ไอ้ชมก็อยากจะชม แต่ความคับแค้นใจมันมีมากกว่า “ดีมากจนผมสงสารพวกพระเอก พี่ฌานคนใจร้าย! พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่หลอกพระเอกจนเชื่อสนิทใจได้ยังไง!”

นิฌานหัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ผมไม่เคยเห็นเขาทำงานแล้วยิ้มแย้มอย่างสบายอกสบายใจขนาดนี้มาก่อนเลย 

“ถ้าจะด่าก็ด่าคนเขียนบทสิครับ มาด่าพี่ได้ยังไง น้องเจไม่ยุติธรรม”

“กีพี่ฌานเป็นคนเสนอไอเดียพี่ชายมิสเตอร์เอสก่อนนี่” ผมพูดพลางมองเขาที่นั่งขยุกขยิกจนอดถามไม่ได้ “พี่ฌานเป็นอะไร”

“พี่แก้เชือกไม่ออก” คนตัวโตกว่าแต่นั่งพื้นเงยมองพลางยิ้มแห้ง

“โกหก” ผมแย้งอย่างรู้ทัน และก็เป็นตามจริง นิฌานชูมือสองข้างซึ่งเป็นอิสระขึ้น ก็ผมเป็นคนมัดเอง ปมเชือกไม่ได้ผูกด้วยซ้ำแค่ทบไปทบมาหลวมๆ จะแก้ไม่ออกได้ยังไงล่ะ เรียกร้องความสนใจชัดๆ

“แต่นแต้น”

แม้จะโดนจับไต๋ได้แล้ว แต่คนหน้าไม่อายก็ยังแถเนียนสร้างความรื่นเริงต่อไปราวเล่นกลแก้เชือก

“ดึกแล้ว เตรียมนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องเข้ากองเช้าซะด้วย น้องเจไหวนะครับ”

“ผมน่ะไหวอยู่แล้ว พี่ฌานนั่นแหละ อย่าซ้อมบทจนดึกเกินไปนะ” ผมเอ่ยอย่างเป็นห่วง รู้ว่าลับหลังคนตัวโตต้องท่องบทต่ออย่างขะมักเขม้น เพื่อการทำงานที่ราบรื่นและรวดเร็วในวันพรุ่งนี้

“พี่กลัวทำได้ไม่ดี”

“พี่ฌานทำได้ดีมาก ดีจนผมเชื่อสนิทใจ และผมเชื่อว่าคนดูก็จะเชื่อ” ผมจับปลายเสื้อเขาขณะพูด หวังสร้างความมั่นใจ เพราะคิดว่าเขาคงกังวลทุกครั้งเวลาเข้ากอง กลัวแสนกลัวจะโดนตำหนิทำให้ความกล้ากลายเป็นความฝังใจ

“เมื่อกี้พี่ไม่ได้เล่นใหญ่เกินไปใช่มั้ย”

“สายตาพี่ทรงพลังมาก สุดยอดแล้วครับ” ผมยกนิ้วโป้งชมเชย เรียกเสียงถอนหายใจจากนิฌาน แต่นั่นเป็นแค่การเล่นละคร! บ้าเอ๊ย ผมไม่น่าหลงกลเลย เพราะเพิ่งจะคลายมือไม่ทันไร ผมก็ผงะติดโซฟาเพราะจู่ๆ เขาก็พุ่งตัวเข้าหา ใบหน้าใกล้กันระยะประชิดจนน่าหวาดเสียว ผมมองริมฝีปากเขาเป็นอันดับแรก เตรียมใช้วิชาป้องกันตัวทันทีหากถูกฉวยโอกาสเป็นครั้งที่สอง!

ครั้งก่อนยังเนียนได้แต่ครั้งนี้อย่าหวังเลย!

แต่นิฌานไม่ได้ทำอะไรผม หมายถึง ไม่ได้จู่โจมในแง่อกุศลอย่างที่เข้าใจ เพราะสิ่งที่เขาทำ...คือการประคองแก้มผมด้วยสองมือ เหอๆ ดูจะมันมือดีเหลือเกินนะ แก้มผมนุ่มก็บอกมา

“พี่ฌานทำอะไร...” ผมพยายามคาดเดาว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน เลยยอมให้แก้มสองข้างโดนประทุษร้ายต่อไป

“พี่แทบจะรอเข้ากองวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว น้องเจรู้มั้ย พี่ไม่เคยนั่งนับวันที่จะไปทำงานอย่างดีใจแบบนี้มานานมากแค่ไหน ทุกๆ วันที่ทำไปเหมือนเป็นหน้าที่ พี่ยิ้มแย้มหาทุกคนก็เหมือนสวมหน้ากาก แต่ตอนนี้พี่สนุกมาก มีความสุขมากเลย!”

ผลคือนิฌานเล่นใหญ่มากจนปรับอารมณ์ไม่ทัน

แต่เห็นเขายิ้มร่า ลูบแก้มผมไถไปมาอย่างร่าเริงสดใส ผมก็นั่งกอดเข่าพลางตอบออกไปอย่างไม่คิดอะไรมาก

“เพราะเช็กเมทคาดเดาไม่ได้ไงครับ”

ถามติ่งซีรีส์อย่างผม คำตอบก็ต้องอวยกันอยู่แล้ว!

“ใช่ครับ เพราะเช็กเมทคาดเดาไม่ได้ ท้าทายให้พี่กลับมามีไฟในการทำงานอีกครั้ง น้องเจรู้มั้ย ยี่สิบปีในวงการบันเทิงมันไม่สนุกเลย หลายครั้งพี่เบื่อแสนเบื่อ ท้อแสนท้อ อยากจะออกจากตรงนี้ใจจะขาด แต่เพราะรักชอบการแสดงถึงไม่ไปไหน”

“พี่ทำถูกแล้ว” ผมพยักหน้าหงึกหงัก หวังสลัดมือปลาหมึกติดหนึบทิ้ง แต่ทำไม่สำเร็จ

“เรื่องของแม่ทำให้ยิ่งเครียด ทำงานแต่ละครั้งต้องคอยห่วงว่าจะถูกขัดขวาง ถูกทำให้เป็นข่าว ถูกสร้างเรื่องป้ายสีใส่ร้าย แต่ตอนนี้ได้ทำในสิ่งที่รักโดยไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง กับบทบาทตัวร้ายที่แปลกใหม่ มันดีมาก!”

เห็นเขากระตือรือร้นขนาดนี้ ผมก็เผลอยิ้มตาม

“เพราะน้องเจ พี่เลยได้ทำสิ่งที่รัก กับคนที่รัก” ยิ่งพูดแววตาของนิฌานก็ยิ่งเปล่งประกายวาวระยับ ตอนแรกคิดว่าเขาตื่นเต้นตื่นตา แต่ที่ไหนได้...เป็นเพราะผมตกหลุมกับดักแล้วต่างหาก! เขาจงใจล็อกไม่ให้หลบเลี่ยง เพราะจะพูดจาหน้าอายให้เขินกันอีกแล้วน่ะสิ!

“ฉะนั้นพรุ่งนี้ต้องมองพี่คนเดียว ห้ามมองใครนะครับ”

บอกทีว่าไอ้ทั้งหมดที่พล่ามมา มันเกี่ยวกับคำขอร้องครั้งนี้ตรงไหน

จับแพะมาชนแกะ เรียกร้องความเห็นใจเพื่อให้ผมคล้อยตามชัดๆ!

“มองอัครเดชก็ไม่ได้เหรอครับ ผมเชียร์ฝั่งพระเอกนะ”

“ไม่ได้”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะพี่แสดงเพื่อน้องเจ ถ้าไม่มองไม่สนใจกัน พี่คงหมดเรี่ยวหมดแรง ไฟคึกมอดดับ พี่คงแสดงได้ดีเท่าเมื่อกี้ไม่ได้แน่หากไม่มีกำลังใจจากคนสำคัญ”

ตอแหล!!!

ผมมองคนที่จากไฟลุกโชกช่วงกลายเป็นแห้งเหี่ยวทันตาแล้วอยากจะตะโกนด่าซึ่งหน้าเหลือเกิน แสดงดีอย่างนี้คงไม่ต้องห่วงหรอกมั้ง!

“พี่ฌานเล่นใหญ่ไปรึเปล่า”

“น้องเจยังชมอยู่เลยว่าสายตาพี่ทรงพลัง เป็นไงครับ ทรงพลังพอมั้ย”

คนละเรื่องเดียวกันแล้วมั้ย!

ผมขยับตัวอึกอัก มือไม้อยู่ไม่สุขเดี๋ยวแตะเดี๋ยวชักกลับไม่กล้าประทุษร้ายนักแสดงที่ต้องเข้ากองแต่เช้าตรู่ ทำได้เพียงจ้องตากลับ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์

สายตาของนิฌานนั้นจับจ้องมาด้วยความรักเปี่ยมล้น ทั้งรักทั้งหลง มองแต่ผมคนเดียวไม่เผื่อให้ใครอื่น ยกเป็นคนสำคัญเหนือหิ้งบูชา เทินเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมอย่างภักดี

“อย่าหลบตาสิน้องเจ!”

“ปล่อยผมนะ!”

“ตอบรับก่อนสิ ทำไมครับ ทนสายตาพี่ไม่ได้แล้วเหรอ จะกลับคำชมกันแล้วเหรอ”

แผนจู่โจมอะไรกันเนี่ย! ผมรู้ตัวช้าจริงๆ ที่ตกหลุมทำคะแนนของนิฌานอีกจนได้ แถมยังเป็นวิธีแสนหน้าอาย ไม่ได้สารภาพรักโต้งๆ ออกมาสักคำแต่ทำให้ผมหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

“โอเค!”

“โอเคอะไรครับ”

“ผมจะมองแค่พี่ฌาน ปล่อยผมได้แล้ว”

เมื่อเป็นอิสระ ผมก็จับหน้าอกพร้อมหอบหายใจตัวโยน ทำไมถึงได้เหนื่อยยิ่งกว่าตอนโดนพี่จิลากไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าอีกวะเนี่ย

“หยุดหัวเราะเลยนะ ชิ้ว ไปนอนได้แล้วพี่ฌาน!”

“รับทราบครับผม!” นิฌานรับคำหนักแน่น ไม่ยักต่อว่ากันสักคำที่โดนผมโบกมือไล่ รีบวิ่งเข้าห้องก่อนจะโดนผมกระโดดต่อยเข้าจริงๆ ข้อหากวนประสาท

แถมยังกวนใจกันด้วย ฮึ่ม!





“ซวยแล้วไง!”

ธนัทสบถลั่นเมื่อพายสะกิดเรียกให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดว่าจุดซ่อนตัวของพวกเขาถูกบุกรุกด้วยกลุ่มคนในเครื่องแบบ!!

อย่าเพิ่งงงกันว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้พวกเรามาออกกองนอกสถานที่กันครับ เพราะเป็นฉากบู๊สนั่นของแก๊งพระเอก ทำให้ผมพลอยตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นเอฟเฟคอลังการต่อหน้าต่อตา

ภาพของคนในเครื่องแบบที่ประกาศให้มอบตัว แต่ยิงสวนทันทีเมื่อได้ยินเสียงต้องสงสัย ยิ่งยืนยันคำของพี่ชายมิสเตอร์เอสว่าหัวหน้าตำรวจซึ่งเคยติดต่อกันมาตลอดเป็นคนร้าย มาถึงตอนนี้ แม้จะอยากขังนิฌานให้นานกว่านี้อีกนิดก็ทำไม่ได้ ธนัทรีบปล่อยตัวคุณพี่ชาย ขณะที่พระเอกโบกมือให้พายนำทาง ส่วนตัวอัครเดชถือปืนปิดท้าย

แม้จะได้รับการเชื่อใจระดับหนึ่ง แต่นิฌานก็ห้ามถืออาวุธใดๆ อยู่ดีทั้งที่ตกในสถานการณ์น่าหวาดหวั่น เสียงยิงปืนตอบโต้ดังเป็นระยะ จากที่คอยระวังไม่กล้าทำร้ายผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่กล้าลงมือกับผู้พิทักษ์กฎหมาย เอาแต่หลบหนีอย่างเดียวของแก๊งพระเอก เมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนี้มีส่วนข้องเกี่ยวการตายของมิสเตอร์เอส อัครเดชก็ไม่มีความลังเลใดๆ ในการยิงสวน ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดหมายเอาชีวิต

พระเอกช่างเท่บาดใจ ทุกการต่อสู้เป็นไปอย่างแม่นยำและดุดันแข็งแรง เพราะหากไม่เอาจริง ตำรวจกลุ่มนี้อาจจะเผลอพลั้งมือฆ่าพรรคพวกโดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุก็เป็นได้!

“ทางนี้คุณพี่ชาย!”

ขึ้นชื่อว่าจุดซ่อนตัว จะไม่มีทางหนีลับได้ยังไง พายลอดรั้วข้ามไปถนนอีกฝั่ง พอดีกับรถคันหนึ่งที่จอดตรงหน้า รถคันนี้ถูกควบคุมด้วยระบบไฟฟ้าซึ่งเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ในมือพายนั่นเอง

ธนัทผลักตัวนิฌานขึ้นรถไปทันที ก่อนจะหันมากวักมือเรียกพระเอกที่ยังยิงโต้ตอบกันอยู่ รถคันนี้จอดเลียบแม่น้ำ เผยภาพพระอาทิตย์กำลังขึ้น สวยงามจับใจ

เมื่อสมาชิกขึ้นรถอย่างปลอดภัยทุกคน พายก็กดปุ่มระเบิด

เพียงพริบตาบ้านไม้ร้างแสนผุผังจนน่ากลัวว่าไม่มีใครกล้าอยู่ก็ถล่มลงมา หากเป็นสายตาคนภายนอก อาจคิดว่าบ้านหลังนี้โทรมพร้อมจะพังอยู่แล้ว แต่สำหรับกลุ่มคนที่ติดอยู่ด้านใน ย่อมรู้ว่าสาเหตุมาจากระเบิดลูกเล็กๆ ที่ติดกับเสาต้นหลักต่างหาก

“คุณพี่ไม่เป็นอะไรนะ” เมื่อรถเริ่มขับไปไกล ธนัทซึ่งนั่งเบาะหลังกับนิฌานก็หันมาสำรวจคนข้างตัว ส่วนพระเอกกับพายนั่งด้านหน้า คอยดูเส้นทางหลบหนี

“ไม่เป็นไร” นิฌานตอบ ก่อนจะเหลียวมองหลัง มองอดีตบ้านหลบภัย

เมื่อธนัทมองตามสายตานั้นก็อดโมโหขึ้นมาไม่ได้

“พวกเรากะใช้แผนหลบหนีนี้ตอนพวกองค์กรตามเจอ คิดไม่ถึงว่าต้องใช้กับพวกตำรวจ!”

“แต่หลายคนไม่คุ้นหน้าเลยนะ” พายเอ่ยแทรก เพราะไม่ได้เข้าข้างฝั่งพระเอกสุดกู่ และไม่ได้ผูกพันกับมิสเตอร์เอสจนเชื่อมั่นในตัวคุณพี่ชาย จึงมองสถานการณ์ได้อย่างเป็นกลางที่สุด “หัวหน้าคนนั้นก็ไม่โผล่มา”

“ตั้งใจฆ่ากันขนาดนี้ จะกล้าโผล่หัวมาได้ยังไงล่ะ เจ้าคนพวกนี้ก็เหมือนส่งมาเป็นหน่วยกล้าตาย ลงมือโหดเหี้ยม ขืนส่งคนคุ้นเคยกับพวกเรามาก็ทำไม่ได้ขนาดนี้หรอก” ธนัทฉุนเฉียวจัด ก่อนจะตบบ่าพี่ชายมิสเตอร์เอส “ถ้าไม่ได้คุณพี่ช่วยเตือนคงแตกตื่นลนลานแย่ ขอบคุณนะ”

นิฌานไม่ตอบ แต่เมื่อหันไปมองท้องฟ้าที่พระอาทิตย์เริ่มขึ้น แสงที่สาดส่องนั้นก็ตกกระทบเงาใบหน้าเผยภาพมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น

เพราะตำรวจที่บุกมานั้นไม่ใช่ตำรวจจริง

แต่เป็นคนขององค์กรสวมเครื่องแบบตบตาหลอก เพื่อให้คำป้ายสีของเขาน่าเชื่อถือขึ้นต่างหาก!

“คัต!”

ทันทีที่ผู้กำกับสังคัต ผมก็ยืนประสานมือตรงหน้าอกด้วยความซาบซึ้งน้ำตาจะไหลอยู่หลังจอมอนิเตอร์ ภาพที่ปรากฏออกมานั้น...สวยมาก! ดูลึกลับ น่าค้นหา มีความร้ายกาจแฝงอยู่ แต่กระนั้นก็น่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดาว่าคนคนนี้คือใคร ช่างเต็มไปด้วยปริศนาที่จุดประกายให้นักคิดอย่างผมคลุ้มคลั่งแทบบ้า นี่มันจะสนุกเกินไปแล้ว! ทุกสิ่งอย่างเหนือการคาดเดาเกินไปแล้ว!!

“โห น้องเจอึ้งเลยเหรอ” รู้ตัวอีกที นิฌานซึ่งโดนแดดส่องหน้าเทคเดียวผ่านด้วยอินเนอร์ที่ส่งมาอย่างแรงกล้าจนผู้ชมสะท้านสะเทือนก็กลายเป็นคนเจ้าชู้นักหยอกซะงั้น “มองแต่พี่รึเปล่า ไม่ใช่ว่าเผลอมองอัคนะ”

“ผมก็มองพี่ฌานนั่นแหละ”

“ดีใจจัง”

“ผมมองเพื่อจับผิดต่างหาก” ผมกอดอก หรี่ตามองคนยิ้มระรื่นตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ นับเป็นคนที่มีดีให้อวด เพราะถ้าไม่นับครั้งแรกที่โดนติ นิฌานก็ไม่เคยทำพลาดเกินสามเทคอีกเลย

แต่ผมรู้หรอกน่าว่ามาจากความมุ่งมั่นทำการบ้านของเขา

นิฌานอยากให้ผลงานเรื่องนี้ออกมาดีที่สุด

เพื่อให้ตัวเขาได้ก้าวผ่านความกลัว และเพื่อ...ตัวผมด้วย

“น้องเจคิดอะไรครับ ทำไมจู่ๆ ก็หน้าแดง”

“ผมร้อนต่างหาก” พูดจบก็หยิบพัดพับซึ่งพกติดกระเป๋าเสมอออกมาบริการนิฌานไม่ให้เหงื่อออกเยอะเกิน เพราะเขายังต้องถ่ายต่ออีก ระหว่างนั้นคนในกองก็เดินสวนกันไปมา พวกเราอยู่ในเต็นท์รวม นักแสดงนำทั้งหมดก็พักกันอยู่ในนี้

"นานๆ ทีจะได้ดูพระอาทิตย์ขึ้น สวยดีนะครับพี่ฌาน”

เพราะกะหลบหน้ายียวนของนิฌานพอดี สายตาผมเลยไปหยุดกับภาพแสนสวยงามด้านข้าง ภาพของพระอาทิตย์ที่ขึ้นระหว่างตึกสองตึก นับเป็นโลเคชั่นที่ตรึงตาไร้ที่ติ เหมาะกับการแง้มตัวตนแท้จริงของหัวหน้าองค์กรเอามากๆ

“เพราะน้องเจชอบนอนอุตุน่ะสิ”

ถะ...เถียงไม่ออก!

เด็กดีที่ต้องเรียนตอนเช้า ทำงานตอนกลางคืนอย่างผม ถ้าเลือกได้ก็ขอนอนจนเต็มอิ่ม จะมีอารมณ์สุนทรีย์แหกขี้ตามาชมพระอาทิตย์ขึ้นทำไมล่ะเอ้อ

“พี่ฌานก็ไม่เคยสนใจเหมือนกันแหละน่า”

“ใครว่า พี่มองพระอาทิตย์ขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนแล้วต่างหาก ตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก...ตารางชีวิตก็ผิดเพี้ยน นอนในกองกินในกอง นั่งมองภาพนี้หลายต่อหลายครั้ง ตอนแรกก็สวยอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นก็บาดตา...”

คำพูดอุปมาอุปไมยสมเป็นเจ้าคารม เขาต้องการจะสื่อว่าเข้าวงการบันเทิงแรกๆ ก็สวยหรูดูดี แต่เมื่อผ่านไปหลายปีก็เจ็บปวดเหลือแสน

“แล้วตอนนี้ล่ะครับ”

“ไม่รู้สินะ” นิฌานยักไหล่ “ก็ตอนนี้พี่มีพระอาทิตย์ดวงใหม่ที่น่ามองกว่าหลายเท่า แถมไม่ร้อนไม่แสบตา คอยส่องสว่างนำทางในทุกๆ วันอยู่นี่นา”

ผมถืงกับมือกระตุกแทบเอาพัดพับฟาดกบาลเขาเลยทีเดียว

เบื่อคนเจ้าเล่ห์! รุกจีบซึ่งหน้ากลางกองยังไงไม่ให้มีคนสงสัย!!

และเบื่อตัวเองชะมัดที่ดันรู้ทุกความหมายแอบแฝงของเขาทุกประโยคเลยเนี่ย จะโง่บ้างก็ได้เจตริน!!

--------------------

อย่าแปลกใจทำไมน้องเจเขินบ่อยจัง คือน้องเจเนี่ย ไม่เคยคิดเรื่องความรัก ปิดกั้น ปฏิเสธมาตลอด พอลองเปิดใจ รับอิพี่ฌานมาพิจารณา โดนรุกบ่อยมากๆ เข้า ก็จะเขินตามประสบการณ์อันต่ำต้อยของน้องแหละค่ะ น้องไม่ชินกับความรู้สึกแบบนี้!

ความให้ดอกไม้โดยไม่มีคนสะดุดตา ความบอกรักโดยไม่ให้คนในกองฉุกใจ  #น้องเจที่น่าลัก

เพจนักเขียนกัดผ้าเช็ดหน้าอิจฉาคนมีความรัก


Twitter : @MajaYnaja

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
หยอดได้ใจสั่นมาก

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องเจ อย่ตกหลุมพรางง่ายๆน้าาา

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ถ้าเปลี่ยนน้องเจ เป็นจิตริน นิฌานจีบให้ตายก็อาจไม่ติดนะ 5555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น้องเจทั้งน่ารักทั้งฉลาด พี่ฌานจะหลงก็ไม่แปลก

ออฟไลน์ Al2iskiren

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1775
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-3
ว่างเป็นหยอดเลยนะพ่อคู๊นนน
คนอ่านเขินจนตัวจะแตกแล้ว :-[

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ชอบตอนน้องเจเขิน อิอิ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
นิฌาน คนเดิม.......เพิ่มเติม แอบเปิดร้านขายขนมครก  :m20:
หยอดเอาๆจนชำนาญนะน้องเจ  :laugh:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
รู้ทันแต่ก็ยังเขิน น้องเจเขินบ่อยแล้วนะเดี๋ยวนี้ o18

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ขุ่นคะ! ฉันเขิลลลลลลลลลล
อ่านแล้วเขินเอง เหมือนตังเองเปนน้องเจที่โดนพี่ฌานรุกใส่ 55555555

ออฟไลน์ tawanna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
ขยันหยอดจนน้องจะไปไม่เป็นแล้ว :hao6:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
คิดไปคิดมาน้องเจกับอิตานิฌาณก็เหมาะกันดีจริงๆแหละ มีความรู้ทันความคิดแค่ส่งโทรจิตสบสายตาก็รู้ความหมายกันแล้ว

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 21 : ถ่านไฟเก่า...แล้วไง?



 

ไหนๆ ก็ออกกองนอกสถานที่แล้ว วันนั้นทั้งวันจึงเน้นตระเวนเก็บฉากล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เสียเวลาเปล่า ส่วนวันต่อมาค่อยกลับมาถ่ายทำต่อในสตูดิโอ...พร้อมกับนักแสดงรับเชิญคนสวย หนึ่งในตัวเต็งนางเอกเพราะปรากฏตัวตั้งแต่ซีซันหนึ่ง คอยช่วยเหลือพระเอกโดยตลอดและครั้งนี้ก็เสนอที่พักพิงชั่วคราวให้หนุ่มๆ ทั้งสี่อย่างใจกว้าง

คนคนนั้นก็คือ...โมจัง...

แฟนเก่าของนิฌาน!!

“ไม่เจอกันนานเลยนะสุดหล่อ”

ผมเพิ่งเคยเห็นโมจังครั้งแรก ยอมรับว่าเธอสวยโฉบเฉี่ยวน่าดึงดูดกว่ามี่จัง และค่อนข้างตรงสเปคนิฌานซึ่งชอบความท้าทายเผ็ดร้อนแบบนี้มาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมสองคนนี้ถึงเคยควงกันมาก่อน เพราะโมจังมักคลี่ยิ้มพริ้มพราย โปรยเสน่ห์เชิญชวนตลอดเวลา

“โมจังก็ยังสวยเซ็กซี่เหมือนเดิมเลยนะ” นิฌานเอ่ยชมเป็นมารยาท เพราะโมจังในชุดรัดรูปสีดำนั้นขับรูปร่างของเธอให้มีส่วนโค้งเว้าได้องศาราวศิลปะชั้นเลิศ “ไม่เหมือนเดิมสิ เพราะเราหุ่นดีขึ้นตั้งเยอะ"

“แน่อยู่แล้วสิคะ” โมจังยิ้มหวาน “รับเล่นเช็กเมทก็ต้องคุมอาหารแล้วเข้าฟิตเนสทุกวันถึงจะได้ขนาดนี้ ฉะนั้นถ้าจะชวนกินข้าวกันล่ะก็คงต้องปฏิเสธนะจ๊ะ”

“น่าเสียดาย” นิฌานหัวเราะในลำคอเป็นเชิงไม่จริงจังนัก ออกจะโล่งใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องหาคำบอกปัด

“เฮ้ๆ อย่าบอกนะว่าจะรีเทิร์น” ธนัทแทรกเข้ากลางวงอย่างฉงนสงสัยแกมอยากหาเรื่องวุ่นวายบรรเทาความเครียดจากการเข้ากองแทบทุกวันจนเกือบเป็นโรคประสาทตามรอยผู้กำกับ “จุ๊ๆ ลายออกแล้วเหรอพี่”

“ทักทายตามประสาแฟนเก่าหรอกน่า” นิฌานย้ำคำชัดเจน ก่อนจะตบหัวธนัทเบาๆ หนึ่งทีจนเจ้าตัวรีบชิ่งหนี หากในแก๊งพระเอกเขาคือคนที่มักสร้างรอยยิ้มหวังผ่อนคลาย ธนัทตัวจริงก็คือจอมโวยวายชอบหาเรื่อง “อย่าถือสาเลยนะโมจัง”

โมจัง หรือชื่อจริงๆ คือโมนา สาวสวยลูกครึ่งที่มีตาสีเขียวโดดเด่นยิ้มรับ

“แล้วถ้าฉันคิดจะรีเทิร์นจริงๆ ล่ะ” คำถามทีเล่นทีจริง เล่นเอาผมซึ่งเป็นผู้จัดการอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็กลายเป็นต้นไม้ใบหญ้าให้พระเอก-นางเอกพลอดรักกันซะงั้น

มองไปมองมาภาพของหนุ่มหล่อสาวสวยตรงหน้าสุดแสนจะเหมาะสมลงตัว

“ก็ขอให้เป็นเพียงความคิดแล้วกัน” นิฌานคลี่ยิ้มไม่ถือสา แต่พอปลีกตัวได้ปุ๊บก็ลากคอผมปั๊บ ก้มกระซิบอย่างร้อนตัวเกินเหตุ “พี่เปล่านอกใจนะน้องเจ!”

“เอ่อ...ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย” ผมกะพริบตาปริบๆ ไอ้ชมก็ส่วนชม ไม่ได้คิดมากคิดเยอะสักหน่อย โมจังเป็นอดีต ผมแยกแยะได้น่า

“ไม่ได้ๆ พี่เป็นฝ่ายจีบอยู่ จะให้น้องเข้าใจอะไรผิดๆ ไม่ได้ ต้องรีบแถลงไข ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ!”

“ผมดูเป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมเลิกคิ้วถาม เห็นๆ อยู่ว่าหลายวันมานี้นิฌานพยายามทำคะแนนแค่ไหน หากจู่ๆ เขาเกิดเปลี่ยนใจเพียงเพราะเจอโมจังในกอง ก็เท่ากับว่าผมเปิดโอกาสให้ผิดคน! มองคนผิดแล้ว!!

“ไม่ๆ พี่ไม่มีทางทำให้น้องเจผิดหวังเด็ดขาด”

ราวอ่านใจได้ นิฌานเลยรีบยืนยันเสียงแข็ง

“งั้นพี่ฌานจะห่วงอะไร” ผมถามกลับ งงเป็นบ้าว่าคนฉลาดอย่างเขาจะลนลานจนหน้าเปลี่ยนสีทำไมกับอีแค่เรื่องที่รู้ดีกับใจอยู่แล้ว

“ก็พี่...” นิฌานพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ถอนหายใจดังเฮ้อ ทั้งดีใจและเสียดายในเวลาเดียวกัน “น้องเจเข้าใจพี่ก็ปลื้มปริ่ม แต่ถ้าเป็นไปได้...ก็อยากโดนหึงจังเลยน้า”

ผมเหลือบมองอีกฝ่ายด้วยหางตาทันที

“ฝันไปเถอะ!”

 

การถ่ายทำเป็นไปได้ด้วยดี นักแสดงทุกคนเป็นมืออาชีพ ไม่มีการลืมบทหรือติดขัดอะไร รับส่งอารมณ์กันอย่างไหลลื่น โดยเฉพาะฉากชวนวาบหวามระหว่างอัครเดชและโมจัง ทำออกมาได้ดีจนแฟนคลับเช็กเมทอย่างผมชุ่มชื่นหัวใจ

ก็ซีซันนี้น่ะเครียดเกินไปแล้ว! เมื่อมีฉากหวานๆ ปลอบโยนหัวใจจากการสูญเสียเพื่อนรักของพระเอก แม้จะเพียงโอบกอดไร้คำพูด แต่กลับดูโรแมนติกน่าซาบซึ้ง

ถ้าไม่ติดว่า...พวกตำรวจ(ปลอม)บุกมาอีกครั้ง!

ตอนมิสเตอร์เอสถูกล้างสมองเข้าองค์กรถูกฝังเครื่องติดตามตัวฉันใด ในตัวของหัวหน้าองค์กรก็มีเครื่องติดตามตัวฉันนั้น แต่ไม่มีกลไกแอบแฝงถึงชีวิต เพียงบอกตำแหน่งเพื่อให้ลูกน้องจู่โจมถูกที่ต่างหาก!

นิฌานถูกธนัทและพายจับตามองตลอด ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือติดต่อคนในองค์กรใดๆ ให้เผยพิรุธ เพียงแต่ทุกอย่างอยู่ในแผนซึ่งบอกกล่าวล่วงหน้าไว้แต่แรก

ก่อนปลอมเป็นพี่ชายมิสเตอร์เอส หัวหน้าองค์กรสั่งลูกน้องจับตาดูฝั่งตำรวจและพระเอกให้ดี หากทางพระเอกเริ่มมีทีท่าระแวงตำรวจจากคำยั่วยุของตนเมื่อไร ก็ให้สวมเครื่องแบบบุกโจมตีอย่าได้รอช้า อย่าลืมเว้นจังหวะให้พวกเขาหนีไปได้ จากนั้นก็บุกเข้ามาอีก และบุกเข้ามาอีกจนกระทั่งพวกพระเอกอ่อนล้าทั้งกายทั้งใจ

ชักใยอยู่เบื้องหลังแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว

นัดแรก คือสร้างความน่าเชื่อถือรอจังหวะตลบหลังพวกพระเอกภายหลัง

นัดที่สอง คือกวาดล้างที่ซ่อนตัวและพันธมิตรของพวกพระเอกทีละแห่งที่ลำบากลำบนหาตั้งแต่ซีซันแรกได้อย่างแนบเนียน

และนัดที่สามคือ...ป้ายสีคนทรยศ!

สมแล้วที่เป็นหัวหน้าองค์กรซึ่งเชี่ยวชาญด้านการวางแผนฆาตกรรม เพราะองค์กรนี้มีจุดประสงค์ในการให้คำแนะนำรวมถึงช่วยเหลือผู้ที่ต้องการฆ่าคนให้ลงมือสำเร็จโดยไม่ถูกจับกุม โดยมีสมาชิกในองค์กรให้ความช่วยเหลือหรือแฝงตัวสนับสนุน ทำให้เหมือนเป็นอุบัติเหตุไปจนถึงการป้ายสีหรือทำทีเป็นห้องปิดตาย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เหตุฆาตกรรมเล็กๆ ไปจนถึงการลอบสังหารระดับประเทศ ด้วยเหตุนี้พระเอกที่คอยลากฆาตกรตัวจริงออกมาแถมยังสืบสาวมาถึงคนในองค์กรว่าเป็นเบื้องลึกเบื้องหลังคดีพิสดารทั้งหลายจึงถูกหมายหัว

ในเนื้อเรื่องตอนนี้ยังไม่เฉลย แต่ผมขอสปอยทุกคนแล้วกันว่าหัวหน้าตำรวจคนนั้นคือหนึ่งในสมาชิกองค์กรจริงๆ คำพูดของนิฌานถึงได้น่าเชื่อถือจนพวกพระเอกคล้อยตาม แต่ที่เล่าไม่หมด คือสมาชิกคนนี้แฝงตัวในหน่วยราชการจนคิดทรยศองค์กร!

ส่วนสาเหตุที่คอยขวางพระเอกไม่ใช่ว่าอยากปล่อยคนร้ายหลบหนี แต่เพราะกลัวพระเอกตามเจอแล้วความแตกว่าตัวเองเคยเป็นสมาชิกองค์กรต่างหาก! หากความจริงนี้เปิดเผย ตำแหน่ง การงาน สังคม ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมแหลกสลายในพริบตา จึงดักพระเอกทุกทิศทาง ขณะเดียวกันก็พยายามกำจัดสมาชิกที่หลบหนีซะ!

น่าเสียดาย...เพราะหัวหน้าองค์กรซ้อนแผนแต่แรก สมาชิกที่ข้อมูลหลุดจนถูกไล่ล่าและหนีรอดในตอนนี้นั้น...คือเหยื่อล่อ!

ในเมื่อถูกตามล่าจนแทบไม่มีโอกาสตั้งตัว ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่สนองไปซะเลยล่ะ? หัวหน้าองค์กรจงใจเผยข้อมูลให้พระเอกและคนทรยศกระโดดเข้ามาในหมากกระดานครั้งนี้แต่แรก!

ทำไมถึงต้องวางแผนหลายตลบน่ะเหรอ ก็ดูสถานการณ์ของหัวหน้าองค์กรหลังจบซีซันสองก่อนสิ มันแย่มาก! โดนถล่มจนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง คนที่เชื่อใจก็มีไม่ถึงสิบ ตำรวจหวังสร้างผลงาน พระเอกหวังแก้แค้น โดนรุมสองอย่างนี้ย่ำแย่มากจริงๆ นะเห็นมั้ย

ให้จัดการตำรวจยศสูงที่ระวังตัวแจ? ย่อมเป็นไปไม่ได้ จะให้ตามล่าพระเอกเหมือนสมัยก่อนด้วยกำลังเพียงหยิบมือ? ก็เป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำได้...คือแฝงตัวแล้วชักนำทั้งสองฝั่งกำจัดกันเอง!!

ตำรวจในเครื่องแบบปลอมคือสมาชิกที่เหลือไม่ถึงสิบคนซึ่งเชื่อฟังคำสั่ง

แม้จะน้อยจนน่าใจหาย แต่ความภักดีมีเต็มร้อย หัวหน้าองค์กรเดิมพันกับลูกน้องจำนวนหยิบมือนี้เพื่อจัดการเสี้ยมหนามทั้งหมด เพราะเมื่อกำจัดคนทรยศและพระเอกได้แล้ว จะก่อตั้งองค์กรใหม่ หาสมาชิกใหม่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ

“ระวัง!”

และการบุกครั้งล่าสุดอย่างกะทันหันโดยไม่ทันได้นอนหลับสักตื่น ก็ทำให้โมจังสละชีพเพื่อถ่วงเวลาให้พระเอกหลบหนี...เดี๋ยวนะคุณคนเขียนบท ความโรแมนติกเพิ่งจะเกิดก็ฆ่าตัวละครทิ้งแล้วเหรอ ฉากหวานเมื่อครู่คือเดธแฟลกใช่มั้ย!!

เรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อมีการสูญเสียอีกครา พระเอกที่เพิ่งสีหน้าดีขึ้นกลายเป็นยิ่งคับแค้นเจ็บปวดใจ แฟนพันธุ์แท้อย่างผมก็พลอยใจร้าวไปด้วย

ทั้งหมดเพราะ...

เพราะพี่ฌานแท้ๆ เลย!!


“คัต!”

ฉากแสนหน่วงจบลงแล้ว โมจังในชุดเปื้อนเลือดค่อยๆ ยันตัวนั่ง ก่อนจะยื่นมือไปหานิฌานที่กำลังเดินผ่านนักแสดงนำทั้งหมดมุ่งตรงหาผมพอดิบพอดี

“ช่วยประคองหน่อยสิคะสุดหล่อ”

นิฌานชะงัก เมื่อมีคำขอร้องจากสาวสวย ท่ามกลางสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนในกอง สุภาพบุรุษแสนดีก็ไม่กล้าหักหน้าฝ่ายหญิง ส่งมือช่วยประคองให้ลุกขึ้นก่อนจะหลุดอุทานเมื่อร่างของโมจังซบเข้าหา ทำให้เสื้อผ้าของนิฌานเปื้อนเลือดปลอม

“เปลี่ยนเสื้อด้วยกันนะคะฌาน” โมจังยิ้มซุกซน ไม่บอกก็รู้ว่าเธอจงใจ

‘ให้พี่ไปมั้ยครับน้องเจ’

แต่สิ่งแรกที่นิฌานทำคือการส่งโทรจิตขออนุญาตผม

เอายังไงดีนะ ผมมองโมจังที่จับแขนคนของผมไม่ปล่อย ราวหมายมั่นว่าต้องลากไปให้ได้ ก็ตัดสินใจยิ้มหวาน โบกมือไล่นิฌาน

‘น้องเจ’

แม้ไม่พูดอะไรออกมา แต่นิฌานมองผมอย่างตัดพ้อและเสียใจอย่างสุดซึ้ง เห็นแล้วก็อดไม่ได้ เดินไปตบอกเขาเบาๆ พร้อมส่งโทรจิต

‘พี่จะปล่อยให้คาราคาซังแบบนี้ไม่ได้ เคลียร์ให้จบ อย่าให้มีอีก!’

นิฌานสะท้านเฮือกราวถูกข่มขู่จนรีบพยักหน้าถี่ๆ โมจังมองพวกเราสองคนอย่างสงสัย แต่น่าเสียดายเพราะเธอมัวระริกระรี้ในการลากแขนผู้ชายเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อ จึงไม่ทันสังเกตว่าเมื่อครู่ผมทำอะไรลงไป

ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมก็แค่...

 (( ทำไมถึงเย็นชาจังล่ะคะฌาน ))

แอบยัดโทรศัพท์ตัวเองซึ่งกดโทรออกใส่อกเสื้อของนิฌานก็เท่านั้น!

และในมือผมตอนนี้...ก็คือโทรศัพท์ของนิฌานนั่นเอง ผมยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องเป็นผู้พิทักษ์ประตูไม่ให้ใครเข้าไปขัดจังหวะด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง มือถือโทรศัพท์เหมือนคุยเรื่องงาน แต่ความจริงแล้ว...กำลังแอบฟัง

 (( ปล่อยแขนพี่ได้แล้ว เราน่าจะรู้นะว่าที่พี่เงียบหายหมายความว่าอะไร ))

ทำให้ได้ยินทุกการสนทนาในห้องแต่งตัวที่แม้อยู่กันสองต่อสอง แต่มีหูที่สามร่วมด้วยอย่างแนบเนียน!

(( หมายความว่าอะไรล่ะคะ พี่มีคนที่จริงจังแล้วน่ะเหรอ แล้วไงคะฌาน เราก็ยังคุยกันได้ ไปกินข้าวด้วยกันได้นี่คะ เหมือนเมื่อก่อนไง ตอนที่ฌานจีบคนอื่นยังโทรหากันบ่อยๆ เลย...มานั่งเล่นกัน...มานอนด้วยกัน ))

(( มันไม่เหมือนเดิมแล้วโมจัง ))

(( ไม่เหมือนกันตรงไหนคะฌาน ))

(( ตรงที่ตอนนั้นพี่คบเล่นๆ แก้เหงา คบเพื่อฆ่าเวลา เหมือนที่คุยกับโมจังไง ))

(( ฌาน! ))

(( โมจังก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ วงการบันเทิงมันเครียด มีขึ้นมีลง มีความไม่แน่นอนตลอดเวลา จะหาคนนอกก็โดนแฉ เลยได้แต่คบกันเองเกาะกระแสกันจนโด่งดังไปทั้งคู่ ))

(( คนอื่นน่ะน่าเบื่อ ไม่มีใครคุยแล้วเข้าใจฉันได้ดีแล้วคุณแล้วฌาน ))

(( เป็นเกียรติมากครับ แต่อย่ามาตั้งความหวังกันเลย โมจังเอง...ก็ลองมองรอบตัว หาคนที่หยุดชีวิตหลักลอยแล้วปักหลักที่ใครสักคนเถอะ ))

(( เฮอะ เรื่องแบบนั้นก็มีแต่ในละคร ))

(( ละครก็อิงจากชีวิตจริงทั้งนั้น ถึงจะไม่น่าเชื่อ แต่พี่เจอคนคนนั้นแล้ว เจ๋งมั้ยล่ะ ))

(( ฌาน... ))

(( มองอะไรคนสวย อวยพรพี่สิ เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ))

(( เพื่อนที่นอนด้วยกัน? ไร้สาระจริงฌาน อยากสลัดฉันทิ้งก็พูดมาตรงๆ เบื่อกันแล้วใช่มั้ย ฉันไม่มีค่ากับคุณแล้วใช่มั้ย บอกกันมาดีๆ อย่าแต่งเรื่อง! ))

(( ว้า พูดความจริงก็ไม่เชื่อแฮะคนเรา ))

(( ฌาน!! ))

(( โมจังคิดยังไงก็ตามสบายเลยแล้วกันนะ จะหาว่าพี่โกหก หรือคิดว่าโดนเขี่ยทิ้งก็ได้ พี่ไม่ถือ ))

(( คุณมัน...แย่ที่สุด! ))

(( ครับๆ ขอโทษนะครับ ))

ช่างเป็นบทสนทนาที่...หญิงก็ร้ายชายก็เลวจริงๆ! ผมล่ะพูดไม่ถูกพูดไม่ออก เมื่อเห็นว่าน่าจะคุยจบแล้ว เลยเปิดประตูห้องแต่งตัวไม่ให้คนในกองซุบซิบนินทานานไปกว่านี้

โอ๊ะ ไม่ล็อกกลอนซะด้วย คุยเรื่องส่วนตัวแท้ๆ แต่ไม่ระวังเอาซะเลยนะ

ผมคิดตามประสาผู้จัดการที่ต้องปกป้องผลประโยชน์ของดาราในสังกัด ก่อนจะชะงัก เพราะภาพที่เห็นคือโมจังโผกอดนิฌานด้วยความไวเสียง

ถ้าผมเป็นนักข่าวต้องรีบถ่ายภาพนั้นลงหน้าหนึ่งแน่นอน!

แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ ทันทีที่เห็นภาพ...เอ่อ...บาดตาดีมั้ย? ผมก็ประมวลผลทันที ติ๊กต็อกๆ อ้อ โมจังมีละครเรื่องเดียวนี่นะ และเรื่องนั้นคือเช็กเมท ซีรีส์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของช่อง แต่จู่ๆ ตัวละครเธอถูกฆ่ากะทันหัน กระแสย่อมตก แถมยังไม่มีงานต่ออีก ดาราสาวมากเสน่ห์จึงคิดเกาะแฟนเก่าที่กำลังขาขึ้นพุ่งกระฉูดในวงการ น่าเสียดายเพราะนิฌานไม่เล่นด้วย

นอกจากไม่เล่นด้วยแล้วยกมือขึ้นเหมือนคนร้ายยอมมอบตัวไม่กล้าแตะต้องโมจังที่ยิ่งซุกยิ่งไซ้ เป็นภาพที่ตลกมาก ผมโคลงศีรษะ ตัดสินใจยอมช่วยหน่อยแล้วกัน

“แมลงสาบ! พี่ฌาน แมลงสาบเกาะแขนพี่!”

“กรี๊ดดด!!”

ได้ผลเกินคาด นอกจากโมจังจะปล่อยมือจากคนของผมแล้ว เธอยังผลักนิฌานจนเล้มก้นกระแทกพื้น! แรงขยะแขยงแมลงสาบของผู้หญิงช่างน่ากลัวจริงๆ ถึงกับผลักผู้ชายตัวโตๆ ให้นั่งหน้าเหวอได้!

ผมเดินเลี่ยงโมจังที่ปัดแขนตามตัวพลางกระทืบเท้าย่ำอยู่กับที่มาช่วยพยุงคนล้มก้นจ้ำเบ้าให้ลุกขึ้น

“พี่คิดไปเองรึเปล่าว่าน้องเจกำลังสะใจ” นิฌานกระซิบข้างหูขณะสังเกตสีหน้าผมไปด้วย เขาคงกลัวว่าจะโดนเคือง โดนถลึงตาใส่สักนิด แต่ผลคือผมกำลังยิ้มเย็น ชื่นชมตัวเองอยู่ต่างหาก

ประโยคเดียว ไม่ต้องลงแรง ไม่ต้องโวยวาย ไม่ต้องเหนื่อยใจ

แถมยังเห็นคนหน้าด้านหน้าไม่อายล้มตลกมาก โคตรสะใจเลย

“พี่ฌานคิดถูกแล้ว” ผมกระซิบตอบ ก่อนจะรีบสะบัดมือเขาทิ้ง แล้วหันไปมองโมจังที่ยังประสาทเสียไม่เลิก “แมลงสาบบินหนีไปแล้วครับ”

“อะ...เอ่อ ขอบใจจ้ะ”

ตอนดาราสาวลากนิฌานเข้าห้องสองต่อสอง แม้จะก้มหน้าทำงานแต่คนในกองส่วนใหญ่ก็พร้อมกันเพ่งสมาธิมาที่ห้องนี้อย่างอยากรู้อยากเห็น พอผมเปิดประตูก็ลุ้นแทนแต่ยังไม่กล้าเสนอหน้า เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดเลยถือโอกาสมุงกันเต็มหน้าห้องประหนึ่งวิ่งสี่คูณร้อย

แต่ภาพที่ปรากฏดันไม่ใช่ฉากชวนเข้าใจผิด แต่เป็นฉากที่โคตรจะไม่เข้าใจเลย!

นิฌานยืนลูบก้นยิ้มเจื่อน ห่างจากโมจังที่ยังไม่วายกระทืบเท้าเบาๆ ผวากลัวแมลงสาบเข้าใกล้ในรัศมีหนึ่งเมตร มองยังไงก็ไม่เหมือนถ่านไฟเก่าพลอดรักกันสักนิด

โมจังได้สติเอาตอนนี้ เธอหันไปหานิฌาน หมายจะทำตามแผน แต่พอเห็นผมยืนขวางก็ไม่รู้จะทำยังไง แถมสายตาจากทีมงานก็ช่างกระอักกระอ่วน เก้อกระดากชวนหนีออกจากห้อง แต่...เธอยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า จะเดินออกไปทั้งตัวเปื้อนเลือดปลอมก็ไม่ได้มั้ย!

ผมถอนหายใจเฮือก สุดท้ายคนที่ต้องออกโรงช่วยก็นายเจตรินเจ้าเก่าเจ้าเดิม

“พี่ฌาน ไปข้างนอกกันเถอะครับ”

ผมคว้าเสื้อตัวใหม่ของนิฌานแล้วเดินนำดาราในสังกัดออกมาก่อน ทีมงานในกองเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรให้น่าลุ้นก็สลายโต๋ ผมปิดประตูให้โมจัง ไม่ลืมล็อกประตูอย่างหวังดี

“เปลี่ยนสิครับ”

ก่อนจะหันไปโยนเสื้อใส่หน้านิฌาน เพราะเขาเองก็ตัวเปื้อนสีแดง แต่ผู้ชายมีอะไรให้อาย จะถอดเปลี่ยนเอาตรงนี้ก็ไม่มีใครกล้าต่อว่า ทิชชูเปียกหรือผมก็มี พกติดกระเป๋าอยู่ทุกวันคอยซับหน้าเช็ดเครื่องสำอางให้เขาเนี่ย

“เดี๋ยวก่อนพี่ฌาน โทรศัพท์ผมล่ะ คืนมาก่อน” เมื่อเห็นเขาทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ผมก็รีบท้วงถามทันควัน สงสัยอีกฝ่ายจะลืมไปแล้วว่าตรงอกเสื้อมีอะไร

นิฌานรีบล้วงโทรศัพท์คืนให้ ผมรับมากดตัดสาย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงตัวเอง

“มองอะไรครับ เปลี่ยนเสื้อสิ”

“ขอโทรศัพท์พี่คืนมาก่อนสิครับ”

ผมส่งโทรศัพท์ของเขาคืน ก่อนจะแปลกใจเมื่อสิ่งแรกที่นิฌานทำ คือการพิมพ์ข้อความส่งแชทมาให้ผมทางไลน์

ปากมีไม่ยอมพูด แต่ดันพิมพ์ให้อ่านเนี่ยนะ!?

แต่พอเห็นข้อความนั้น ผมก็เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเงียบกริบนับตั้งแต่เดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อ

ที่แท้ก็...

- ทำไงดีน้องเจ พี่เคยคิดว่าตกหลุมเราลึกแล้ว แต่ตอนนี้ก็ตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำอีก น้องเจจะทำให้รักมากถึงขนาดไหนกันครับ พี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ!  (‘∀’●)♡    –

ทนไม่ไหวอยากพูดใจจะขาด! เลยต้องพิมพ์ส่งเพราะกลัวส่อพิรุธในกองถ่ายงั้นสิ ผมถลึงตาใส่เขา ก่อนจะพิมพ์กลับทั้งที่พวกเรายืนอยู่ใกล้กันระยะไม่ถึงหนึ่งเมตร

- คนหน้าไม่อาย! –

- เดี๋ยวเถอะ วันนี้มองอัคตาไม่กะพริบพี่ยังไม่ทันได้สะสางเลยนะ  (; ・`д・´)​  -

- พี่ฌานกล้าทำอะไรผมด้วยเหรอ –

- ท้ากันเหรอน้องเจ อย่าคิดว่าพี่ไม่กล้านะ! ヽ(o`皿′o)ノ –

อ่านจบผมก็เงยหน้าพลางยักคิ้วยั่ว นิฌานดีแต่พิมพ์แต่ตัวจริงแสนจะหงอแกล้งทำเป็นกอดอกตัวสั่น ก่อนเราสองคนจะหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

ไม่ต้องให้ย้ำอีกครั้งนิฌานก็เปลี่ยนเสื้อ ส่วนผมเดินไปหาผู้กำกับเพื่อสอบถามคิวถ่ายเพิ่มเติม

เราสองคนทำเหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว... ยืนใกล้กันขนาดนั้นแต่ใช้พิมพ์ข้อความสื่อสารแทน เนื้อหาก็สุดแสนจะไร้สาระ นี่มันช่าง...ติงต๊องชะมัด!

“ยิ้มอะไรน่ะ” ผู้กำกับถามผมเมื่อจู่ๆ ก็อมยิ้มขึ้นมาซะงั้น

ผมแก้ตัวหน้าตาย

“ไม่มีอะไรครับ”

-----------------

น้องเจนี่...นายเอกในฝันเลยค่ะ
เป็นเด็กดี มีน้ำใจ รับมาเท่าไหร่ก็ให้กลับเท่านั้นไม่พอ ยังฉลาด ไม่งี่เง่า และรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างใจเย็นเอามากๆ นิฌานได้น้องเจถือว่ายิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่หนึ่งอีก!

มาจะกล่าว : มีอะไรอยากจะบอกแฟนๆ ในตอนนี้มั้ยคะ
นิฌาน : ที่บ้านไม่มีน้องเจล่ะสิ//ขยิบตา

#น้องเจที่น่าลัก
เพจนักเขียนที่อยากจับนิฌานไปฆ่าหมกส้วมสักตอน


ปล.เวลาพิมพ์แชทคุยกับน้องเจ เราจะเพิ่มอีโมติค่อนในส่วนของนิฌานนะคะ เพิ่งมาคิดได้ว่าคนอย่างนิฌาน น่าจะชอบจิ้มอีโมติค่อนประกอบภาพเพื่อความมุ้งมิ้งจีบน้อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2018 20:19:39 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
น้องเจฉลาดจริง แต่ก็อยากเห็นตอนน้องหึงเหมือนกันน้า นึกภาพไม่ออกเลยว่าจะแสดงออกมาแบบใหน 555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด