{{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Just U,Not US }} เมื่อผมเป็นผู้จัดการดารา -(ตัวอย่าง)ตอนพิเศษ:เกมเศรษฐี P.25  (อ่าน 143771 ครั้ง)

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
#ฌานหลงเจ


เราเห็นด้วยกับอันนี้ค่ะ #ฌานหลงเจ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ๊ะ........น้องเจ  เริ่มใจอ่อนนิดๆและ   :impress2:

ออฟไลน์ Fallinlove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
น้องเจน่ารัก พี่ฌานอบอุ่น ฮื่ออออ  :m1:

ออฟไลน์ Blackbone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
น้องเจคนน่ารัก :-[  ทำไมน่ารักอย่างงี้ อ๊ายยยยย :impress2:

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
อยากจะแหมให้กับความสตรอว์ของอิพี่ชาญจริงๆ น้องเจอย่างเพิ่งหลงกลนะ

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 14 : บุกกองถ่าย


กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกคน วันนี้กระผมนายเจตริน ทองคำดี จะพาทัวร์กองถ่ายของซีรีส์เช็กเมทครับ!

แต่ก่อนจะไปเจอกับเหล่านักแสดง ผมต้องขอเล่าคร่าวๆ เพื่อความเข้าใจตรงกัน อะแฮ่ม เช็กเมทเป็นซีรีส์แนวสืบสวนหักมุม ภาคแรกจะเน้นปูตัวละครผ่านการสืบสวนจบในตอน  โดยทุกตอนพระเอกจะพูดคำว่า ‘เช็กเมท’ หรือ ‘รุกฆาต’ เมื่อจับคนร้ายสำเร็จ

และคนแสดงเป็นพระเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่น! อัครเดช พระเอกชื่อดังขึ้นแท่นดารานักบู๊ประจำช่อง รูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์ม ซิกแพคเห็นชัด ผิวคล้ำนิดๆ เซ็กซี่กระชากใจ เพราะพระเอกซีรีส์นี้สืบคดีไม่พอยังถูกองค์กรไล่ล่า ต้องวิ่งหนียิงปืนกระโดดข้ามตึกบุกน้ำลุยไฟก็ไม่หวั่น และมักจะมีหญิงสาวพัวพันด้วยคอนเซปเดียวกับเจมส์ บอนด์ นั่นคือ...ไม่มีนางเอกตายตัว สลับสับเปลี่ยนตัวเอกหญิงไปเรื่อยๆ ตามบทบาทความนิยม หรือบางคนผ่านมาแล้วตายเลยในตอนเดียวก็ยังมี...

“อัค!! มาทางนี้เร็ว มาสวัสดีนิฌานหน่อย”

อัครเดชซึ่งแต่งหน้าแต่งตัวพร้อมถ่ายถูกผู้กำกับเรียกให้มาเคารพนักแสดงอาวุโสอย่างนิฌานที่เยือนกองกะทันหันเนื่องด้วยตารางงานมีจำกัด ผมตื่นเต้นดีใจจนเหงื่อแตกพลั่ก ถลานำหน้านิฌานส่งนามบัตรให้พระเอกผิวคล้ำกับมือ

“สวัสดีครับ ผมคือผู้จัดการของนิฌาน ชาญชัย ถ้าเขามีปัญหาอะไรสามารถติดต่อผมได้ตลอดนะครับ!”

“น้องเจ...” นิฌานกุมขมับ ส่วนอัครเดชยิ้มอย่างเป็นมิตร สมแล้วที่ไม่เคยมีข่าวฉาวเลย ผมหมายถึง...ทั้งต่อหน้าและลับหลังนะครับ ให้เทียบกับดาราในสังกัดผมแล้วอัครเดชน่ะคะแนนความดีนำโด่ง!

“สวัสดีครับพี่ฌาน” อัครเดชรับนามบัตรเป็นมารยาท ไม่ถือสาท่าทางกระตือรือร้นจนเกินเหตุของผม ก่อนจะหันไปยกมือไหว้นิฌานที่แอบคิ้วกระตุกเบาๆ เพราะตั้งแต่เข้ากองมาผมก็ไม่สนใจดาราพ่อปลาไหลกระทั่งหางตายังไม่แล “หืม...เจตริน ทองคำดี เป็นน้องชายจิตรินหรือเรา”

“ใช่ครับ จิตรินคือพี่ชายของผมเอง!”

วันนี้ต้องกลับไปโม้กับพี่จิคนดีแล้ว! เพราะพี่ชายผมเคยเป็นสตั้นท์แมนให้กับอัครเดชมาก่อน แม้จะเป็นไม่นาน...แต่คนคนนี้กลับจำนามสกุลได้ สมแล้วที่เป็นอัครเดช สมแล้วที่เป็นพระเอกอันดับหนึ่งของช่อง!

“น้องชายจิตริน? ไหนๆ ขอดูหน้าบ้างสิ” พลันนักแสดงคนหนึ่งเดินแทรกกลางมากอดอกพิจารณา นะ...นี่มันธนัทนี่นา!!

ผมมือสั่นปากสั่น แก๊งของพระเอกเช็กเมทมีทั้งหมดสามคน และธนัทก็คือหนึ่งในนั้น!! เขารับบทเป็นเพลย์บอยเจ้าสำราญที่มีความสามารถพิเศษในการสะเดาะกลอน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ แต่ผมไม่เห็นรู้เลยว่าเขารู้จักกับพี่จิด้วย!?

“ไม่ยักเหมือนพี่ชายแฮะ” ธนัทเลิกคิ้ว แม้จะรับบทเป็นชายหนุ่มอารมณ์ดี แต่ตัวจริงค่อนข้างโผงผาง พูดจาตรงไปตรงมาแสดงออกอย่างชัดเจน “ดีแล้วๆ ไม่เหมือนพี่ชายก็ดีแล้ว”

“คะ...คุณรู้จักพี่จิด้วยเหรอครับ” ความสงสัยจุกอกเกินจะเก็บกลั้น

“ไม่รู้จักได้ยังไง ก็รายนั้นน่ะเป็นแฟนกับ...” ธนัทหัวเราะหึหึในลำคอ ช่องว่างนั้นเป็นอันรู้กัน เพราะจะเป็นใครไปได้ถ้าไม่ใช่เจ้าของบริษัทแต่ในนามอย่างเสี่ย ถ้าจำไม่ผิด...ธนัทก็เคยเป็นหนึ่งในคู่ควงของท่านประธานก่อนที่พี่ชายผมจะปฏิบัติการฝอยตกเสี่ย

“สวัสดีครับพี่นิฌาน ผมชื่อพาย ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

แล้วคนสุดท้ายของแก๊งพระเอกก็ถูกผู้กำกับตามมาสวัสดีนักแสดงอาวุโสจนครบก๊วน พายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งมีบทบาทสำคัญในซีซันหลังๆ แทนในส่วนของมิสเตอร์เอส ถึงตรงนี้คงสงสัยกันใช่มั้ยครับว่าแล้วมิสเตอร์เอสไปไหน คนโปรดของผมอยู่ไหน!

คืออย่างนี้ครับท่านผู้ชม แก๊งพระเอกมีสามคน ประกอบด้วยอัครเดชสายบู๊ ธนัทสายคารมรวมข่าวสาร และมิสเตอร์เอสสายเฝ้าบ้านเพราะเป็นแฮกเกอร์มือฉมัง คนรับบทนี้คือจิระ แต่เพราะซีซันสอง...เพราะซีซันสอง!!

อะแฮ่ม ขอเวลาให้ผมได้เล่าสักนิด ซีซันสองของเช็กเมทมิสเตอร์เอสถูกองค์กรซึ่งเป็นศัตรูของพระเอกจับมาล้างสมองจนกลายเป็นตัวร้าย กว่าจะจำความได้ก็ปาไปตอนท้ายเรื่อง นึกแล้วผมก็บีบหัวใจ เพราะมิสเตอร์เอสถูกองค์กรชั่วร้ายฝังเครื่องมือที่จะทำให้หัวใจหยุดเต้น เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจงรักภักดีกับองค์กรต่อไป แต่ถึงอย่างนั้น...ก็แอบเจาะระบบ สมแล้วที่เป็นแฮกเกอร์มือฉกาจ! ผมภูมิใจในตัวมิสเตอร์เอสมาก ภูมิใจแม้กระทั่งในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต...มิสเตอร์เอสก็ยอมสละชีพเพื่อให้พระเอกถล่มองค์กรใต้ดินสำเร็จ!!

ก็ไม่แปลกที่ซีซันสามจะได้ผลตอบรับสูงตั้งแต่ตอนแรก เพราะเนื้อเรื่องเริ่มพลิกกลับ พระเอกเป็นฝ่ายไล่ล่าองค์กรร้ายที่หลบหนีจากซีซันสองเพราะโดนมิสเตอร์เอสหักหลัง แถมพระเอกแสนดียังถูกความแค้นครอบงำตั้งใจแก้แค้นให้เพื่อนรักจนกลายเป็นปรากฏการณ์อัครเดชภาคดิบเถื่อนฟีเวอร์

และคนที่มารับบทหัวหน้าองค์กรผู้ชั่วร้าย ที่จนป่านนี้ก็ยังไม่เผยตัวก็คือ...

“ทำไมมองพี่แบบนั้นล่ะครับน้องเจ”

เพราะพี่ฌานเป็นคนฆ่ามิสเตอร์เอส! พี่ฌานฆ่ามิสเตอร์เอสของผมได้ยังไง!!

“พวกเราดีใจมากเลยครับที่ได้ร่วมงานกับพี่” อัครเดชเอ่ยแทรกบรรยากาศกระอักกระอ่วนจากสายตาอันร้อนแรงของผม “หากติดขัดตรงไหนอย่าเกรงใจพวกเราสอบถามได้ตลอดเลยนะครับ ผมคิดว่าพี่อาจจะไม่ค่อยคุ้นกับการถ่ายทำของเช็กเมท เพราะเน้นถ่ายไปฉายไป แถมคนเขียนบทก็มีการแก้กันสดๆ หน้าฉาก ขนาดนักแสดงนำยังไม่รู้ตอนจบของเรื่องเลย บางทีก็โดนหลอก โดนเปลี่ยนทุกเมื่อเลยครับ”

อัครเดชช่างเป็นคนดี!

“อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณที่เตือนนะ พี่เรียกเราว่าอะไรดี? อัค?” นิฌานผู้ผ่านแต่กองภาพยนตร์คลี่ยิ้มสบายมากแม้ในใจจะลอบเหงื่อตกเบาๆ ผมรู้หรอกน่าว่าความฝังใจในวัยเด็กทำให้อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลายนั้นกลายเป็นขวากหนามอันยิ่งใหญ่ที่เขาต้องก้าวข้ามไปให้ได้

“เรียกผมว่าอัคได้ครับเลยพี่ ส่วนนี่นัท แล้วก็พาย”

“สวัสดีครับพี่ฌาน / สวัสดีครับพี่นิฌาน”

“ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอก พี่ต่างหากที่ต้องเกร็ง เปลี่ยนจากจอเงินเป็นจอแก้วครั้งแรกก็เจอของแข็งเลย หากทำอะไรผิดพลาดก็ไม่ต้องเกรงใจนะ บอกกล่าวกันได้เต็มที่!” นิฌานตบไหล่ธนัทกับพายแปะๆ อย่างถึงเนื้อถึงตัวตามประสาปลาไหลที่สามารถตีเนียนสนิทสนมกับทุกคนได้อย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที

ผมรู้สึกเหมือนตัวลอยๆ ชอบกล นักแสดงนำสามคนจากซีรีส์เช็กเมทอยู่ใกล้แค่เอื้อม คุยเล่นกันตรงหน้าในมุมที่ไม่เคยเห็นที่ไหน ถ้าขอลายเซ็นจะโดนด่ามั้ยนะ ถ้าขอถ่ายรูปด้วยล่ะจะเหมาะมั้ย...

“แนะนำตัวเสร็จแล้วก็มาคุยรายละเอียดทางนี้นะนิฌาน!”

“ครับ!” นิฌานขานตอบผู้กำกับ ก่อนจะหันไปยักไหล่อย่างเสียดายใส่สามหนุ่มที่กำลังคุยกันออกรส ผมแสร้งทำเนียน เขยิบห่างจากนิฌานเพราะคิดว่าผู้จัดการไม่จำเป็นต้องไปคุยเรื่องบทสักหน่อย ขอเป็นเสาประดับตรงนี้จะดีกว่า แต่ไม่รอดครับ นิฌานเอาแขนพาดบ่าเกี่ยวคอพาลากออกจากแก๊งพระเอกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นะ!

“พี่ฌานคนใจร้ายปล่อยผมนะ!”

“พี่ใจร้ายตั้งแต่เมื่อไหร่” นิฌานทำหน้าเหวอ

“พี่ฆ่ามิสเตอร์เอส!”

นิฌานหัวเราะพรวด หน้ากากรุ่นพี่แสนดีคุยหยอกกับรุ่นน้องเมื่อครู่แหลกสลายในพริบตา สายตาที่มองผมก็แลอ่อนโยนน่าขนลุกแปลกๆ คงไม่ได้ตกหลุมรักกันอีกแล้วใช่มั้ย ป่านนี้จมไปถึงไหนแล้วเนี่ย

เพราะเจอภาพน่าสยอง ผมเลยตัดสินใจปิดปากเงียบยอมโดนลากแต่โดยดี

“อ่านบทคร่าวๆ แล้วใช่มั้ย” ผู้กำกับเอ่ยเข้าเรื่องด้วยสีหน้าจริงจัง ไอ้เราก็แอบหูผึ่งนิดหน่อยเพราะนิฌานไม่ยอมให้แตะบทของซีรีส์เช็กเมทเลย อ้างว่าแฟนพันธุ์แท้อย่างผมขนาดสปอยยังไม่กล้าอ่าน แล้วริจะข้ามขั้นอ่านบทได้ยังไง ผมเห็นด้วย ยังไม่อยากหมดสนุกแม้จะต้องเห็นการถ่ายทำอยู่ดีก็เถอะ “มีตรงไหนไม่เข้าใจรึเปล่า”

“มีไม่เข้าใจหลายจุดเลยครับ แต่เมื่อกี้อัคบอกแล้วว่าคนเขียนบทชอบแก้ไม่ก็เพิ่มรายละเอียดลงไปทีหลังเลยเขียนไม่เจาะจงมากนัก ตอนจบก็อุบไว้ก่อน ผมเลยไม่มั่นใจว่าจะคิดภาพรวมออกมาตรงกับผู้กำกับและคนเขียนบทรึเปล่า”

“เรื่องนั้นถ้าลองแสดงเดี๋ยวก็รู้เองนั่นแหละ คาแรคเตอร์ของหัวหน้าองค์กรยังไม่กำหนดชัด พอเปลี่ยนคนแสดงอะไรหลายๆ อย่างก็เปลี่ยนไปด้วย แล้วแต่จะตีความ”

“แสดงว่าบางตอนผมด้นสดเติมเองได้เลยใช่มั้ย”

“ใช่ ตอนมิสเตอร์เอสก็ทำแบบนี้เหมือนกัน จิระเป็นคนสร้างคาแรคเตอร์ช่วงโดนล้างสมองเองเลยนะ แถมยังตั้งชื่อโค้ดเนมตอนเป็นสมาชิกองค์กรเองเลยด้วย”

“จริงเหรอครับ!” ผมโพล่งขึ้นมาอย่างตื่นเต้น ไม่ได้เจอวันนี้ได้ยินแค่ชื่อก็ยังดี เห็นมั้ยล่ะว่าผมชอบมิสเตอร์เอสมากแค่ไหน โปสเตอร์พร้อมลายเซ็นที่ได้มาก็ใส่กรอบตั้งตรงหัวเตียง ขนาดพี่จิยังไม่ให้จับ!

“เด็กที่ไหนเนี่ย” ผู้กำกับเลิกคิ้วมองผมอย่างงุนงง

“ขอโทษที่เสียมารยาทครับ ผมเจตริน ทองคำดี เป็นผู้จัดการของนิฌานครับ” ผมรีบส่งนามบัตรให้ทันทีด้วยความอับอาย ปกติในเวลางานจะวางมาดเคร่งขรึม แต่เมื่อกี้ดันหลุดเข้าอย่างจัง ขนาดนิฌานยังกลั้นหัวเราะจนตัวสั่น “เป็นผู้จัดการจริงๆ ครับ”

ผมรีบย้ำเมื่อผู้กำกับมองด้วยสายตาแปลกๆ เป็นอันรู้กันว่าคนอย่างนิฌาน ชาญชัยนั้นแม้ช่วงหลังจะไม่ค่อยออกลาย แต่ความเจ้าชู้เป็นที่เลื่องลือ จู่ๆ ก็รับเด็กมาเป็นผู้จัดการ แวบแรกหลายคนเลยเผลอคิดว่าผมโดนหลอกมารึเปล่า

“ทองคำดี? นามสกุลคุ้นๆ นะ เรามีพี่ชายรึเปล่า ที่ตัวสูงๆ ผิวคล้ำๆ ดูล้นๆ หน่อย”

“พี่จิตรินคือพี่ชายผมเองครับ” ผมยืดอกอย่างภูมิใจ คิดไม่ถึงว่าสตั้นท์แมนตัวไม่เล็กจะเป็นที่รู้จักในกองถ่ายเช็กเมทซะด้วย

“ถ้าคนเขียนบทรู้คงดีใจ เขาชอบจิตรินมาก”

“พี่จิก็ชอบมากครับ เขาเป็นแรงบันดาลใจให้พี่จิเริ่มฝึกเขียนบทเลย”

“นั่นสินะ ล่าสุดได้รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วยนี่ จุ๊ๆ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ เห็นซื่อๆ เซ่อๆ เป็นสตั้นท์แมนให้อัครเดชอยู่แท้ๆ จู่ๆ ก็เป็นนักเขียนบทมือทองซะแล้ว”

“อะแฮ่ม”

“พี่จิเขาจินตนาการเก่งครับ” ให้อวยพี่ชายบอกเลยเจตรินบ่หยั่น

“ใช่ๆ ฉันยังจำได้เลยว่าตอนคุยด้วยครั้งแรกเล่นเอามึนตึ้บ” ผู้กำกับหัวเราะ สรุปว่าที่จำพี่ชายผมได้เพราะประทับใจจากความฝอยสินะ

“อะแฮ่ม!”

พลันพวกเราสองคนหันมามอง ‘หัวหลักหัวตอ’ ที่กระแอมไอจนหน้าแดง

“มาคุยกันเรื่องบทหัวหน้าองค์กรต่อดีมั้ยครับ” เรียกร้องความสนใจสำเร็จ นิฌานก็ฉีกยิ้มการค้าทันควัน “ตรงที่ให้ปลอมตัวหมายความว่ายังไงเหรอครับ ผมจำบทมาแล้ว แต่ข้างหลังกลับมีวงเล็บว่าเปลี่ยนแปลงได้ เล่นเอางงเลย”

“อ้อ เรื่องปกติของคนเขียนบทน่ะ” ผู้กำกับโบกมือปัดกับความอินดี้ของคนเขียนบทชื่อดังประจำช่อง “ไม่มีใครเคยเห็นหน้าของหัวหน้าองค์กรมาก่อน เปิดตัวทั้งทีจะออกมาบอกว่าเป็นตัวร้ายเอาโต้งๆ ก็ไม่สนุกใช่มั้ยล่ะ คนเขียนบทเลยอยากให้ปลอมตัวเพื่อเข้าหาพระเอก ไม่งั้นขืนปล่อยให้อัครเดชตามไล่ล่าอย่างเดียวก็ไม่น่าลุ้นสิ ความจริงฉากนี้ถ่ายไปแล้ว นักแสดงคนที่ประสบอุบัติเหตุปลอมตัวเป็นตำรวจตามบทที่เธอได้รับนั่นแหละ แต่ในเมื่อนิฌานให้เกียรติตอบตกลงทั้งทีคนเขียนบทเลยอยากฟังความเห็นก่อนเผื่อจะเสริมเติมแต่งอะไรที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองลงไป ระหว่างรอก็ลองคิดดูแล้วกัน เพราะตอนนี้คนเขียนบทถูกเรียกไปคุยแผนงานคร่าวๆ ที่ต้องเปลี่ยนใหม่กับเบื้องบนอยู่น่ะ”

ตำรวจ? คนร้ายกลายมาเป็นตำรวจก็นับว่าไม่เลว แค่ได้ยินผมก็ตื่นเต้นแล้ว!

แต่พอมองหน้านิฌาน ผมก็รู้เลยว่าเขาไม่เห็นด้วย

ตำรวจมันเบสิกเกินไปสำหรับนิฌาน ชาญชัยซึ่งเริ่มสวมบทบาททำความเข้าใจกับตัวละครตัวนี้ หัวหน้าองค์กรย่อมมีความเจ็บแค้นที่พระเอกบุกถล่มรังจนต้องหลบหนีหัวซุกหัวซุน แม้ผู้บริการระดับสูงคนอื่นๆ จะหนีไปได้ แต่ก็แค่ไม่กี่สิบคนเท่านั้น ในตอนท้ายของซีซันสอง สมาชิกขององค์กรใต้ดินถูกจับทั้งเป็นและตาย นับเป็นการสูญเสียมหาศาลจนเจ้าตัวเคลื่อนไหวไม่ได้ระยะหนึ่ง

แม้ในเรื่องจะพอเกริ่นว่าองค์กรนั้นพอมีเส้นสายกับตำรวจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ตำรวจกำลังได้ผลงานจากการบุกจับครั้งนั้น และตัวอัครเดชเองก็ไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากคนในเครื่องแบบ เพราะการตามล่าเป็นไปเพื่อการแก้แค้นล้วนๆ

“ถ้าจำไม่ผิด...มิสเตอร์เอสเป็นตัวละครที่ไม่มีประวัติความเป็นมาชัดเจนใช่มั้ยครับ”

“ใช่ เดิมทีมิสเตอร์เอสไม่ได้โดดเด่นขนาดนี้หรอก แต่เพราะจิระแสดงได้มีเสน่ห์เกินไป คนเขียนบทเลยเพิ่มบทขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงนำ ขนาดชื่อจริงยังไม่เคยเปิดเผยเพราะไม่ได้คิดไว้แต่แรก”

ที่แท้ความเป็นมาของมิสเตอร์เอสของผมก็น่าเศร้าขนาดนี้...แต่ยิ่งพูดถึงมิสเตอร์เอส ผมก็ลอบน้ำตาซึม ยังจำภาพวินาทีสุดแสนสะเทือนใจได้ดี วันนั้นผมถึงกับร้องไห้กอดคอกับแม่ ต่อให้ย้อนดูซ้ำอีกหลายครั้งก็มักถูกการแสดงของจิระดึงดูดจนเจ็บปวดตาม

“แล้วมิสเตอร์เอสเจอกับพระเอกได้ยังไงครับ”

“จากที่คุยคร่าวๆ กับคนเขียนบทคือมิสเตอร์เอสหนีออกจากบ้าน ใช้พรสวรรค์ในการแฮกเกอร์ก่ออาชญากรรมยักยอกเงินดำรงชีพ จนพระเอกมาเจอตัวแล้วชวนเข้าร่วมก๊วน เพราะขนาดธนัทเพื่อนเก่าของอัครเดชมิสเตอร์เอสยังไม่รู้จักเลย แสดงว่าทั้งสองคนเพิ่งจะร่วมงานกันได้ไม่กี่ปี”

นี่มันผลพลอยได้จากการเข้ากอง! ได้ยินความลับที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน!

“ถ้าอย่างนั้น...หากจู่ๆ จะมีญาติโผล่ขึ้นมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใช่มั้ยครับ”

ผู้กำกับและผมเงยหน้ามองนิฌานตาปริบๆ

“ผมเปลี่ยนบทตำรวจเป็นอย่างอื่นได้ใช่มั้ย”

“ก็ต้องดูว่าความเห็นน่าสนใจแค่ไหน”

“งั้นผมจะปลอมตัวเป็น...อืม...ให้เป็นพ่อก็เกินไป งั้นเอาเป็นพี่ชายของมิสเตอร์เอสแล้วกัน! ตีสนิทพระเอกแล้วเนียนว่าจะช่วยแก้แค้นให้น้องชาย ดีมั้ยครับ!”

ผมอ้าปากค้าง

นี่มันไม่ใช่แค่ดี...แต่มันเหนือความคาดหมาย และกระแทกใจแฟนมิสเตอร์เอสตัวยงอย่างผมเข้าจังๆ

“พี่ฌานคนใจร้าย พี่ฆ่ามิสเตอร์เอสแล้วยังจะแสร้งเป็นญาติมาแก้แค้นอีกเหรอ หน้าไม่อาย!!”

นิฌานหัวเราะเริงร่า ส่วนผู้กำกับให้ไฟเขียวทันที

ก็ขนาดผมยังเป็นซะขนาดนี้ แล้วตอนเฉลยออกมาผู้ชมไม่ดีดดิ้นกันเลยเหรอ

หมากตานี้ร้ายกาจนัก! นิฌาน ชาญชัย!!

 

 

-----------

บุกกองเช็กเมทพร้อมแฮชแทคใหม่ #น้องเจที่น่าลัก !!!

เพราะน้องเจน่ารัก เลยอยากลักกลับบ้าน แอร๊ยยยย

ยินดีต้อนรับสู่เช็กเมทแบบเต็มตัวค่ะ! ในที่สุดก็มาถึงซีซันสาม ซึ่งเป็นซีซันสุดท้ายของซีรีส์แล้วนะคะ เรารักเช็กเมทพอๆ กับที่รักตัวละครทุกตัวในนิยายชุดนี้เลย ถ้าอิงจากบทบาทที่ได้รับ นิฌานก็คือคนกดปุ่มตอนมิสเตอร์เอสเดินออกจากห้องแล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงในซีซันสองค่ะ น้องเจเลยกล่าวประณาม พี่ฌานคนฆ่ามิสเตอร์เอส!!!

#น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก #น้องเจที่น่าลัก
ปล.ตอนนี้เรามีทวิตเตอร์แล้วนะคะ -> @MajaYnaja <-

เพจนักเขียนที่ต่อให้ไม่มีมิสเตอร์เอสก็ยังมีน้องเจในดวงใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-06-2018 19:47:01 โดย มาจะกล่าวบทไป »

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่านแล้วคิดถึงหนูจิทั้ง 2 คนเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
#น้องเจที่น่าลัก น่าเอ็นดูด้วยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ขำผู้กำกับ ประทับใจจตรินเรื่องฝอยแหลก
นัท ยังคงไม่ชอบจิตรินต่อไปเพราะเสี่ยนั่นแหละ   :z6:

เจ ออกแนวมีความสุขกับการทำงานแล้ว
ได้พบดาราเช็กเมทที่ชื่นชอบอีก
ได้รู้ลึกของการถ่ายทำ  :z3: :z3: :z3:
นิฌาน เจ   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
คือทุกคนรู้จักนายจิเพราะความฝอยสินะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
แค่เปิดตัวหัวหน้าองค์กร ด้วยการปลอมตัวเป็นญาติมิสเตอร์เอสก็น่าสนใจมากๆแล้วค่ะ ริติดตามเช็คเมทซีซั่นสามนะคะ

ออฟไลน์ คุณซี

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อยากเห็นเช็คเมทเป็นหนังขึ้นมาจริงๆเลย ฮื้ออออ

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
นี่เพิ่งอ่านหนูจิจบไปพอมาอ่านตอนนี้เลยเหมือนได้อ่านภาคต่อไปด้วย เราว่าอีกหนึ่งเสน่ห์ของนิยายเรื่องนี้ก็คือซีรี่ส์เช็กเมทนี่แหละ ทั้งๆที่เป็นแค่ส่วนนึงในนิยายแต่พอบอกว่าจะเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้วก็อดใจหายไม่ได้เหมือนกัน

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
อยากดูซีรี่เช็คเมท เลยค่ะ

ชอบตั้งแต่ภาคแรก  คิดว่าถ้าออกมาเป็นซีรี่จริงคงมันน่าดู

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3
น้องเจแฟนพันธ์แท้55555555

ออฟไลน์ kunt

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 700
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
พี่ฌานคนใจร้าย ทำไมเรานึกภาพน้องเจดีดดิ้นนะ ฮ่าาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่ฌาณคนใจร้าย พี่ฆ่ามิสเตอร์เอส5555555 น้องเจอินสุดดดด เอ็นดู~~~~

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
โหยยยยย    #พี่ฌาญคนใจร้าย  ร้ายกาจสุดๆไปเลย

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ rockiidixon666

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 760
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
มิสเตอร์เอส คิดถึงจิระจังเลยยย ตอนอ่านฉากตายของมิสเตอร์เอสในเรื่องก่อนเราน้ำตาแตกไปเลยจ้า  :hao5:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
อ่านเรื่องเดียวเหมือนดูหนังสองเรื่องไปด้วย

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 15 : โทรศัพท์สายพิเศษ

 

ไม่นาน คนเขียนบทที่ชักหน้ายุ่งเนื่องจากเปลี่ยนตัวนักแสดงกะทันหันก็มาเยือนกองถ่าย แต่ทันทีที่ได้ฟังไอเดียของนิฌานจากหน้าบึ้งก็กลายเป็นหน้ายิ้ม ความกดดันกลายเป็นความปลื้มใจ เพราะคนคนนี้ชอบความแปลกใหม่เหนือคาด โดยเฉพาะกับซีรีส์เช็กเมทที่มักมีเรื่องราวพลิกผันตลอดเวลา

“แหม กำลังเครียดอยู่เลยว่านักแสดงมากประสบการณ์จะหยิ่ง กลัวจะรับไม่ได้กับงานลวกงานร้อนครั้งนี้ ที่ไหนได้ ความคิดเจ๋งไม่เลวเลยนี่นา!”

ความเจ้าชู้ของนิฌานทำให้บางครั้งดูไม่จริงจังกับงาน จนมักถูกเข้าใจผิดอยู่เสมอ ก็ไม่แปลกที่ตอนแรกคนเขียนบทจะหน้านิ่วคิ้วขมวด กลัวว่าดาราคนนี้จะถือความเก่าแก่ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่กระตือรือร้นเสนอความเห็นเหมือนดารารุ่นใหม่ที่ต้องขวนขวายสร้างโอกาสให้ตัวเอง

“เพราะใกล้ตัวผมมีคนติดเช็กเมทและชอบมิสเตอร์เอสมาก ผมเลยไม่อยากให้เขาผิดหวังน่ะครับ” นิฌานพูดพลางเหล่มองผมที่ยังโดนล็อกคอขยับไปไหนไม่ได้ บ้าเอ๊ย ผมไม่อยากอยู่กับตัวร้ายนะ ปล่อยผมไปดูการถ่ายทำของพวกอัครเดชเถอะ เพราะตั้งแต่คนเขียนบทเดินลงมาผู้กำกับก็ขอตัวไปทำงานต่อทันที ดูนั่นสิ สามหนุ่มสามมุมพยายามระดมสมองวางแผน เห็นแล้วก็อดซาบซึ้งในมิตรภาพไม่ได้

“นั่นสินะ ซีซันสามไม่มีมิสเตอร์เอสซะด้วย ยกมาเป็นประเด็นสำคัญให้คนหายคิดถึงอย่างนี้ก็ไม่เลว”

ไม่เลวอะไรล่ะ เลวมากเลยต่างหาก!

ผมซุกหน้ากับฝ่ามือ ไม่อยากจะได้ยินได้ฟังเรื่องแสนสะเทือนใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องรับรู้การหารือของคนเขียนบทและนิฌานอยู่ดี ด้วยเวลาที่กระชั้นและจำเป็นต้องเขียนบทใหม่เกินครึ่ง ฉากที่ถ่ายไปแล้วของนักแสดงคนก่อนจึงไม่ถูกตัดทิ้ง แต่นำมาเป็นจุดไขว้เขว ให้พระเอกเข้าใจผิดว่าเป็นหัวหน้าองค์กรปลอมตัวมาทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่! ถือเป็นการหลอกซ้ำหลอกซ้อน หลอกให้ตายใจกันไปข้างหนึ่ง!

สองคนนี้ยิ่งคุยก็ยิ่งถูกคอ พยายามใช้คีย์เวิร์ด ‘มิสเตอร์เอส’ มาขยี้เรื่องราวให้ยิ่งกรีดลึกจนผมเลือดซิบไปหมด ความจริงแล้วตารางวันนี้นิฌานต้องมาถ่ายในส่วนเดิมของนักแสดงคนก่อน แต่ในเมื่อไม่จำเป็นแล้วเลยลองแสดงต่อหน้าคนเขียนบทแทน

เพียงเห็นผมก็แทบลุกไปต่อย เขาแสดงได้น่ากระทืบเกินไปแล้ว!

“ทำไมพี่ถึงชั่วร้ายขนาดนี้!”

ด้วยใจภักดีต่อมิสเตอร์เอส ผมไม่สามารถทำเป็นบื้อใบ้ปรบมือชมเชยเหมือนที่คนเขียนบทกำลังทำได้จริงๆ

“ก็พี่เป็นตัวร้าย ไม่ให้พี่ร้ายแล้วจะรับเล่นทำไมล่ะครับน้องเจ”

นิฌานสะใจมากที่เห็นผมนั่งกระฟัดกระเฟียดอยากเข้าไปบอกแผนการลับของหัวหน้าองค์กรกับพวกพระเอกเต็มแก่ อย่าไปเชื่อ! มิสเตอร์เอสไม่มีพี่ชายสับปลับอย่างนี้หรอก!

กว่านิฌานจะลองแสดงหลายๆ แบบเพื่อหาจุดลงตัวที่คนเขียนบทเห็นชอบ ลองชุดเพื่อจะได้แจ้งกับฝ่ายคอสตูมในการเข้ากองครั้งหน้า ลองเข้าฉากกับแก๊งพระเอกเพื่อให้ผู้กำกับเห็นภาพเสร็จก็ปาไปเกือบเที่ยงคืน

ยังไม่ทันเริ่มแสดงก็ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ผมชักเล็งเห็นปัญหา

รวมถึงปัญหารถเมล์หยุดวิ่งด้วย!

“นอนค้างที่นี่สิน้องเจ เชื่อใจพี่ได้เลยว่าเหนื่อยขนาดนี้ไม่มีแรงทำอะไรเราหรอก”

“ผมเรียกแท็กซี่ได้ครับพี่ฌาน ตอนนี้ถนนโล่ง ไม่กี่นาทีก็ถึงบ้านแล้ว”

ถึงเห็นเขาเหนื่อยหนักตาปรือปรอย แม้ร่างกายจะปลอดภัยแต่ผมก็รู้สึกเหมือนได้รับการคุกคามทางจิตใจอยู่ดี

“ถ้าถึงบ้านแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะครับ”

“ผมส่งข้อความบอกแล้วกัน”

“ไม่เอา พี่กลัวเผลอหลับ”

“ก็เพราะกลัวพี่ฌานหลับผมเลยไม่อยากโทรปลุกไง”

“แต่พี่อยากรู้ว่าน้องเจกลับอย่างปลอดภัยรึเปล่า ไม่ต้องห่วงหรอกครับ โทรมาปลุกได้เลย ดีกว่าให้พี่นอนฝันร้ายกลัวน้องเจไม่ถึงบ้าน”

 สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายพยักหน้าเอออออย่างจำยอม เพราะเช็กเมททำพิษคนแก่เลยต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ รู้สึกผิดจนไม่รู้จะบรรยายยังไงแล้วนิฌานยังอุตส่าห์เป็นห่วงกันอีก

เมื่อขึ้นรถแท็กซี่ผมก็หยิบตารางงานขึ้นมาบันทึกใหม่ เพราะซีรีส์เช็กเมทเป็นแบบถ่ายไปฉายไป บทบาทของนิฌานที่แทรกกะทันหันจึงถูกขอคิวที่ว่างเกือบทั้งหมดในการเข้ากอง

แล้วดูตารางเขาสิ แน่นเอี๊ยดจนแทบกระดิกตัวไม่ได้เพราะเพิ่งรับงานอีเวนต์ตระเวนโชว์ตัวด้วยผลพ่วงจากการเปิดตัวบิวตี้เพอร์ฟูม ที่เหลืออยู่ก็มีแค่ช่วงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น...ไม่ก็หลังพระอาทิตย์ตกดิน

ถ้าไม่เพราะคนเขียนบทขอเขียนเนื้อเรื่องส่วนของนิฌานใหม่หมด พรุ่งนี้มีหวังได้เข้ากองตั้งแต่ตีห้า...แต่ดูจากงานพิธีกรรับเชิญในรายการข่าวเช้าตอนเจ็ดโมงตรงก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่

สำหรับเด็กอายุสิบแปดยังเอ๊าะๆ อย่างผม นอนดึกตื่นเช้าไม่นับว่าทรมานสังขารนัก แต่คนใกล้จะสามสิบเนี่ยสิ...

พอถึงบ้านผมก็โทรหานิฌาน รอสายอยู่นานกว่าเขาจะกดรับ

(( น้องเจถึงบ้านแล้วเหรอครับ ))

ฟังจากเสียงงัวเงีย สงสัยจะเผลอหลับจริงด้วย

“ถึงแล้วครับ พรุ่งนี้ผมไปหาพี่ฌานที่คอนโดตอนหกโมงนะ”

(( ไม่นัดเจอกันที่บริษัทเหมือนปกติล่ะครับ ถ่อไปถ่อมาให้เหนื่อยทำไม ))

“พี่ฌานจะได้หลับในรถเอาแรงก่อนเข้างานอีกหน่อยไงครับ เดี๋ยวผมซื้อโจ๊กแถวบ้านเจ้าอร่อยไปฝากนะ”

(( พี่อยากกินฝีมือแม่น้องเจมากกว่า ไม่ได้กินตั้งนาน คิดถึงจัง หาววว ))

“ผมออกมาเช้ากว่าปกติ แม่คงยังทำกับข้าวไม่เสร็จ เอาไว้วันอื่นแล้วกันนะพี่ฌาน”

นิฌานงึมงำในลำคอ คงถึงขีดจำกัดในวันนี้แล้ว ใจผมเจ็บแปลบ รู้ดีว่าใครเป็นตัวต้นเรื่อง สร้างปัญหาวุ่นวายทั้งหมดให้เขารับกรรม

ก็ผมนี่ไง!

ฉะนั้นถ้าช่วยให้เขาสบายใจ นอนหลับเต็มอิ่มกว่าเดิมสักนิดก็ยินดี

“ฝันดีนะครับพี่ฌาน”

พลันได้ยินเสียงคนตกเตียงดังโครม!

“พี่ฌาน เกิดอะไรขึ้น!!”

(( มะ...ไม่มีอะไรครับน้องเจ )) นิฌานเอ่ยตะกุกตะกักเหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก่อนจะพึมพำเสียงเบาหวิวเหมือนคุยกับตัวเอง (( จะจีบน้องเจรุกอย่างเดียวไม่ได้แต่ต้องใช้ใจแลกใจสินะ ))

“...ผมได้ยินนะครับพี่ฌาน” ผมกลอกตาสามที ปฏิบัติ!

(( ราตรีสวัสดิ์ครับน้องเจ! ))

แล้วดาราชื่อดังก็รีบวางสายเหมือนเผลอหลุดความในใจจนต้องหนีหน้า ทิ้งให้ผมกุมขมับ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่คนเดียว!

ก่อนหน้านี้โดนรุกทีไรเป็นต้องต่อปากต่อคำไม่ไว้หน้า คิดว่ายังไงซะก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะจีบผมติด ซึ่ง...ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนั่นแหละ แต่เพราะความทุ่มเทของเขา ทำให้สายเลือดทองคำดีทำร้ายผม บอกว่าผมต่างหากที่ชั่วร้าย!

ถึงผมพร้อมเผชิญหน้ากับคมสัน ต่อให้ตกปากรับคำไปแล้วก็จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอิสรภาพของนิฌานคืนมาให้ได้ แต่คนเจ้าชู้กลับยิ่งออกลาย เห็นผมลนลานเท่าไรก็ยิ่งกระตือรือร้นจะเข้ากองเมื่อนั้น ถึงเขาจะตัดสินใจเอง แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไอ้การกระทำเหล่านั้นน่ะเพื่อเอาใจกัน! อยากเห็นผมดีใจ ปลื้มปริ่มจนลืมใครบางคนที่เรียกร้องความสนใจโดยการล็อกคอหาความดีความชอบ...

สถานการณ์เข้าขั้นกระอักกระอ่วน หมายถึงผมเนี่ยที่ทำตัวไม่ถูก! ไม่กล้าจะเย็นชาใส่ ตัดรอนน้ำใจเหมือนเคยเพราะเกรงใจคนแก่ที่เห็นแก่ผมมากกว่าความเหนื่อยของตัวเอง แล้วทำไมคนถูกจีบต้องคิดแทนคนจีบด้วยวะเนี่ย!

ความดีความชั่วกำลังตีกันเอง ผมสูดหายใจเข้าลึก หลังตั้งสติแล้วก็หันไปตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีห้า ซึ่งนับว่าเช้าที่สุดนับตั้งแต่เป็นผู้จัดการมาเพราะต้องวนไปรับนิฌานก่อนค่อยเข้าบริษัท เป็นครั้งแรกที่ผมเสนอตัวขนาดนี้ และคาดว่าจะต้องทำแบบนี้อีกหลายครั้งระหว่างถ่ายทำเช็กเมท เผลอๆ จะต้องตื่นตีสองตีสาม ผิดวิสัยนิฌานผู้จัดตารางได้เป็นเลิศ พิสูจน์จากการทำงานแสนราบรื่น พักผ่อนเพียงพอ นอนหลับเต็มอิ่มตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

อึก...เจ็บปวดอีกแล้ว ผมเป็นคนทำลายวงจรชีวิตของเขาจนไม่เหลือสภาพ! 

แล้วอีแบบนี้จะมองเมินได้ยังไง มีส่วนต้องรับผิดชอบกันเห็นๆ จากโจ๊กเจ้าอร่อยจะเพิ่มเป็นพิเศษใส่ไข่ใส่หมูเยอะๆ ก็แล้วกัน คนงกอย่างผมถึงกับยอมควักอย่างไม่เสียดายเชียวนะ!

ได้ทำงานกับคนที่เข้าขากันนั้นดีอย่าง คือไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่กลัวโดนเข้าใจผิด โดยเฉพาะกับคนฉลาดอย่างนิฌาน ชาญชัย ต่อให้จู่ๆ ผมดีใส่เขาย่อมรู้ว่าผมทำไปด้วยใจเมตตาหาใช่ความพิศวาส...เหอๆ ก็เขาหวังผลแบบนี้อยู่แล้วนี่!

แต่ถึงอย่างนั้น...ไอ้คนเจ้าเล่ห์ก็ยังดีใจจนกลิ้งตกเตียงกับแค่คำว่าฝันดี

“ว๊ากกกก ผี!!”

“ผีอะไรล่ะพี่จิ นี่ผมเอง เจน้องชายพี่ไง!” ผมรีบอธิบายให้พี่ชายซึ่งนอนหลับอยู่ดีๆ ไม่ชอบดันนึกอุตริพลิกตัวมาเห็นฉากน่าสยองเข้า

“แล้วเจเอาหัวโขกเตียงทำไม...มันน่ากลัวนะ!”

ผมลูบหน้าผากที่เห่อแดงพร้อมยิ้มเจื่อน ภาพของเด็กหนุ่มนั่งบนเตียงเป็นเงาตะคุ่ม กลุ้มอกกลุ้มใจจนเอาหัวโขกเนี่ยไม่บอกก็รู้ว่าชวนหัวใจวายขนาดไหน

ว่าแล้วก็ถือโอกาสปรึกษาพี่ชายซะเลย

“พี่จิรู้เรื่องนิฌานรับเล่นซีรีส์เช็กเมทแล้วใช่มั้ย”

พี่ชายกะพริบตาปริบๆ ถือว่าเป็นคำตอบรับแล้วกัน

“พี่จิรู้รึเปล่าว่ามีเบื้องลึกเบื้องหลัง นิฌานรับเล่นเรื่องนี้เพราะอยากจะเคลมผม...พี่จิว่าผมทำถูกมั้ย ทั้งที่รู้แก่ใจก็ยังจะสงสารคนทำดีหวังผล แต่จะให้ยิ้มเริงร่าเข้ากองในฝันขณะที่อีกคนทำงานหนักผมก็ทำเป็นไม่สนใจไม่ได้เหมือนกัน พี่ว่าผมควรจะทำยังไงดี ผมไม่อยากให้เขาได้ใจ แต่พอเห็นเขาดีใจขนาดนั้นก็สับสนมาก...พี่จิ...พี่จิ!!”

“คร่อก....ฟี้”

หมดกันพี่ชายผม ลืมไปเลยว่าพี่จิคนดีเป็นเด็กอนามัย นอนเร็วตื่นเช้าออกกำลังกาย รักษารูปร่างและมีสุขภาพแข็งแรงขนาดไหน

“เฮ้อ...ฝันดีนะพี่จิ” ผมทิ้งตัวข้างพี่ชาย นอนชิดริมเตียงเพราะกลัวจะโดนจระเข้ฟาดหางป้าบเข้าให้เป็นลูกหลงจากใครบางคนที่ชอบนอนดิ้น

แต่ระหว่างที่ผมกำลังเคลิ้มๆ อยู่นั้นจู่ๆ พี่ชายก็จับไหล่หมับพร้อมแรงบีบที่ไม่เบา

“เจ...”

ผมสะดุ้งตื่นทันควัน

“จะกลุ้มไปไยไอ้น้อง อยากทำอะไรก็ทำ จะคิดมากทำไม เอิ้กๆ”

...บอกทีว่าพี่ชายผมกำลังปลอบหรือนอนละเมอกันแน่

“นิฌานเองก็คงไม่คิดเยอะหรอก เขาทำในสิ่งที่อยากทำ จะทำเพื่อเอาใจเจหรือเพื่ออะไรก็ช่าง ตัดสินใจไปแล้วก็ลุยให้เต็มที่! ทำตามหัวใจเรียกร้อง!  ลุยให้สุดแล้วหยุดที่คำว่า...”

“คำว่า?”

“คร่อก...ฟี้”

ผมแทบจะลุกเอาหัวโขกเตียงอีกรอบ ถ้าไม่ติดว่ามีเวลานอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง

เอาวะ อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เลิกคิดมากแล้วทำอย่างที่อยากจะทำก็แล้วกัน!

 






แล้วเรื่องก็เกิดจริงๆ ครับ

ไม่รู้จะเรียกว่าสมพรปากดีมั้ย แต่เอาเป็นว่าผมรีบวิ่งไปคุยโทรศัพท์ในรถแทบไม่ทันเมื่อเห็นสายโทรเข้าระหว่างนิฌานกำลังถ่ายรายการนอกสถานที่ในช่วงสาย

(( เช็กเมท? นิฌานไปถ่ายเช็กเมทได้ยังไง เขาไม่รับเล่นละครไม่ใช่เหรอ! ))

น้ำเสียงดุหาเรื่องมาก่อนเลย

“พอดีเลขาคมสันระบุตัวมาน่ะครับ” ผมตอบอ้อมแอ้มตามประสาคนมีคดีติดตัว ก็ไม่แปลกหรอกที่แม่ของนิฌานจะตกใจ รีบโทรกลับทันทีที่ผมส่งตารางงานใหม่ของลูกชายสุดที่รัก

(( คมสันเคยระบุตัวก็จริง แต่เขาปฏิเสธไปแล้วนี่ ))

ผมพยายามอย่างมากที่จะไม่สำลักไอเผยพิรุธ

“คือ...เพราะครั้งนี้มีเหตุจำเป็นจริงๆ นิฌานเลยตอบตกลงน่ะครับ” ผมเลือกที่จะโกหกมากกว่าพูดตามจริง จะบอกได้ยังไงล่ะว่าขนาดเลขาคมสันออกโรงเองนิฌานยังปฏิเสธไม่ไยดี สื่อว่าเขายึดติดกับความฝังใจในวัยเด็กมากกว่าอิทธิฤทธิ์จอมมาร

แต่สุดท้ายก็แพ้พ่ายให้ความรัก

แหวะ ถุย

เล่นเองสยองเอง ผมลูบต้นแขนเบาๆ ก่อนจะจดจ่อกับการคุยโทรศัพท์ต่อ หลังได้รับคำปลอบใจจากพี่จิคนดีสมองก็ปลอดโปร่งกว่าเดิมเยอะ พร้อมรับมือทุกสถานการณ์

(( เริ่มถ่ายวันพรุ่งนี้เหรอ ))

“ครับ เพราะคนเขียนบทขอเวลาเกลาบทใหม่” ผมอธิบาย ยังนึกทึ่งไม่หายที่คนเขียนบทขอเวลาแค่วันเดียวในการปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องตามที่นิฌานเสนอ แต่ถ้าไม่ใช้เวลาแค่วันเดียวก็เห็นจะไม่ทัน เพราะเขาอยากแทรกบทตัวละครใหม่นี้ลงในตอนที่กำลังจะฉายช่วงเสาร์อาทิตย์ที่กำลังจะถึงแค่ไม่กี่นาทีก็ยังดี เลยต้องเร่งถ่ายกันสุดๆ  เวลากระชั้นชิดชนิดห้ามขาด ห้ามลา ห้ามตายกันทั้งกอง

(( ตารางแน่นขนาดนี้เขามีเวลาพักผ่อนเพียงพอหรือ ))

ไม่น่าเชื่อ แม่ของนิฌานห่วงสุขภาพของลูกชายด้วยเหรอเนี่ย แต่พอมองตารางงานที่ผมเพิ่งส่งให้เธอ...มันก็น่ากลัวมากจริงๆ

“ผมจะดูแลลูกชายของคุณให้ดีที่สุดครับ ไม่ต้องห่วง!”

ไฟแห่งความรู้สึกผิดลุกโชนอีกแล้ว ผมให้สัญญาอย่างมาดมั่นด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่สิ่งที่ตอบกลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะซะงั้น เพราะไม่เห็นหน้า ผมเลยไม่รู้ว่าเธอขบขันด้วยความรู้สึกด้านบวกหรือด้านลบกันแน่

(( ลูกฉันคงงานยุ่งไปอีกหลายเดือน ))

“น่าจะราวๆ สองเดือนครึ่งได้ครับ”

(( โหมงานยาวเลยสิเนี่ย เขาแทบไม่มีวันหยุดตั้งแต่ตอนรับรางวัล Love After Death...ต่อบิวตี้เพอร์ฟูมแล้วยังมาเช็กเมทอีก ))

แม่ของนิฌานรำพึงรำพัน วันนี้มาแปลกมาก จนผมเลือกจะปิดปากเงียบเพราะกลัวใจอ่อนเข้า สายเลือดทองคำดีค่อนข้างอ่อนไหวเป็นพิเศษกับสายสัมพันธ์ครอบครัว

ที่สำคัญ ผมยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่านิฌานกับแม่ของเขาขัดแย้งกันเรื่องอะไร จะบอกว่าเรื่องเงิน? ก็ไม่น่าใช่ในเมื่อฝ่ายนั้นพยายามสร้างเรื่องฉาวลดงานลูกชาย จะบอกว่าแค้นเคือง? ก็ดูไม่เข้าเค้าในเมื่อข่าวฉาวก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสถึงขั้นบีบออกจากวงการ

(( ตั้งแต่บุกกองถ่ายครั้งล่าสุดเขาก็ไม่มาเจอหน้าฉันอีกเลย ไม่คุย ไม่ยุ่งเกี่ยว เหมือนเราไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน นับๆ ดูแล้ว...ก็หนึ่งปีพอดี ))

ผมลอบสะดุ้งในใจ แม่ลูกไม่ได้เจอหน้ากันหนึ่งปี ทั้งที่อยู่ในประเทศเดียวกัน จังหวัดเดียวกันเนี่ยนะ

(( โทรไปก็ไม่ยอมรับ ให้เธอฝากบอกว่าโทรกลับก็ไม่โทร สมฤดีไปตามมากินข้าวก็ไม่ยอมมา ฉัน...เฮ้อ ))

เสียงถอนหายใจนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าโศกเหงาหงอย ผมสับสนกับจุดยืนของแม่นิฌานจนเหงื่อตก

(( ถ่ายทำเช็กเมทตารางก็ไม่แน่นอน เกาะกระแสซีรีส์อันดับหนึ่งของช่องคงทำให้ได้งานต่อไปอีก...ฉัน...ควรจะดีใจกับลูกชาย แต่ฉัน...ก็ไม่อยากเห็นลูกผ่านโทรทัศน์ไปอีกปีโดยไม่ได้คุยกัน ))

คำพูดตัดพ้อนั้นช่างเสียดร้าว

(( นิฌานเล่าเรื่องครอบครัวให้ฟังบ้างหรือเปล่า ))

“เอ่อ เปล่าครับ” ผมเอ่ยอย่างระแวดระวังสุดขีด เรียกเสียงถอนหายใจอีกเฮือกจากหญิงวัยกลางคน

(( ตอนเด็กฉันบังคับเขารับงานมากเกินไป จนเขาไม่มีเพื่อน แถมเรียนจบช้ากว่ารุ่นเดียวกันอีก เขาโกรธฉันมาก จากนั้นก็ไม่ยอมให้แตะต้องเรื่องงาน แรกๆ ฉันก็ไม่ชอบใจหรอก อันที่จริงฉันก็ไม่เข้าใจ จนไม่เจอหน้าลูกมาตลอดหนึ่งปีเต็ม ))

ผมเงียบอีกครั้ง

(( ฉันคิดถึงลูก... ))

ผมขมวดคิ้ว พยายามหาความจริงใจจากประโยคนั้น

(( พวกเราสองแม่ลูกแตกหักกันเกินกว่าจะเข้าหากันดีๆ แล้ว ฉันเองก็ไม่รู้จะทำยังไงให้เขายอมเชื่อ ยอมให้อภัยความผิดพลาดในอดีต ))

“แต่คุณ...ก็ไล่ผู้จัดการเขาออกตลอดปีเลยไม่ใช่เหรอครับ”

(( ผู้จัดการพวกนั้นไม่ดี แค่ล่อด้วยเงินก็ทิ้งลูกชายฉันแล้ว กับคนพวกนี้จะไว้ใจได้ยังไง จริงมั้ย ))

เดี๋ยวๆ ไม่ใช่แค่เงิน แต่มีปืนด้วยนะ!

ราวอ่านใจได้ แม่นิฌานจึงไขข้อสงสัยทันควัน

(( ฉันยอมรับ ฉันไม่อยากให้ใครดูแลลูกชายของฉัน เพราะฉันอยากจะดูแลเขาเอง ฉันเป็นห่วงลูก อยากเจอหน้าเขา เลยใช้วิธีผิดๆ ข่มขู่ ))

ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

“ทำไมถึงเล่าให้ผมฟัง”

(( เพราะนิฌาน...ดูจะให้ความสำคัญกับเธอมาก ))

วินาทีนั้น ผมคล้ายตกไปอยู่ในถังน้ำแข็ง จบกันที่ปิดบังความจริงไว้!

(( เขารับเล่นเช็กเมทเพราะเธอใช่มั้ย ที่ไม่ไปงานเลี้ยง ไม่ควงผู้หญิงคนไหนอีก...ก็เพราะเธอใช่มั้ย ))

แล้วผมจะตอบว่า ‘ใช่! คุณแม่คิดถูกแล้วครับ!’ ได้ยังล่ะเฮ้ย

(( ถ้าเขาฟังเธอขนาดนั้น ฉันก็อยากจะขอร้อง... ))

รับรู้ได้ถึงลางร้ายบางอย่าง

(( ไม่ต้องให้มาที่บ้านก็ได้ แต่ฉันขอ...ขอให้เธอพาเขามากินข้าวกับฉันสักมื้อ ฉันอยากเจอลูกชาย อยากกินข้าวกับเขา อยากพูดคุยกันก่อนที่จะเริ่มถ่ายละครจนหาเวลาปลีกตัวไม่ได้ ))

ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว

(( ทำเพื่อหัวอกแม่คนนี้สักครั้งได้มั้ย เจตริน ))

ถ้านี่เป็นแผน ผมยอมรับเลยว่าช่างเป็นแผนที่มาเหนือ อย่างน้อยเธอก็เจาะประเด็นได้ตรงเผง ทั้งเรื่องผมรักครอบครัว และเรื่องที่นิฌานฟังผม

แต่ แต่ แต่!

เธอรู้เรื่องนิฌานตามจีบผมได้ยังไงทั้งที่ไม่เคยรายงานมาก่อน!

หรือจะเป็นสมฤดีนะ? แต่ผมมั่นใจว่าไม่ได้เผยพิรุธต่อหน้าเธอ ฉะนั้นเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่น่าวางใจ แม้ผมจะเผลอคล้อยตามไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่เพราะเพิ่งได้บทเรียนจากเช็กเมทหมาดๆ จะตัดสินใจอะไรก็รอบคอบขึ้นเป็นเท่าตัวไม่กล้ารับปากซี้ซั้วเหมือนที่ตกกับดักจอมมาร

“ขอผมคิดดูก่อนนะครับ”

พูดจบก็วางสาย ประจวบเหมาะกับนิฌานเดินมาหาพอดี

“น้องเจมาหลบร้อนในรถเหรอครับ ขอพี่เข้าไปนั่งด้วยสิ”

“ทีมงานจัดที่พักให้นักแสดงไว้ไม่ใช่เหรอครับ” แม้จะพูดแบบนั้น แต่ผมก็ปลดล็อกประตูเชิญชวนนิฌานเข้ามานั่งด้านใน พร้อมส่งโทรศัพท์ให้อีกฝ่ายดูทันที

เมื่อเห็นชื่อปลายสายคนที่กำลังขยับตัวหามุมนั่งพักสบายๆ ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันควัน

“แม่พี่อยากนัดกินข้าวแหน่ะ”

“งวดนี้มาแนวแม่บังเกิดเกล้าเหรอเนี่ย น้องเจใจอ่อนเลยสิ”

“ผมยังไม่ได้รับปากนะ!” ผมรีบบอกปัดอย่างร้อนตัว แต่ก็ไม่วายเหลือบมองคนข้างกายด้วยความสงสัยเปี่ยมล้นจนเก็บกักไม่ไหว “พี่ฌานไม่เจอแม่มาหนึ่งปีแล้วจริงๆ เหรอครับ”

“สายตาเรามองพี่เหมือนเป็นลูกอกตัญญูเลย”

“ผมเปล่า!” ผมส่ายหน้าถี่รัว

“เฮ้อ เรื่องของพี่กับแม่ลึกซึ้งน่ะ...จะให้อธิบายก็กลัวจะไม่เห็นภาพ งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน...” นิฌานส่งโทรศัพท์คืนให้ผม “ฝากน้องเจนัดกินข้าว บอกว่าพี่จะพาลูกสะใภ้ไปเปิดตัวแล้วกันครับ”

“จะดีเหรอครับ” ผมถามเขาอย่างไม่มั่นใจ คนที่อาการหนักจนขับรถเป๋เกือบเกิดอุบัติเหตุอย่างเขาไหงจู่ๆ ก็ยอมพบหน้าผู้ให้กำเนิดง่ายดายขนาดนี้

“จะดีเหรอนี่หมายถึงเรื่องนัดเจอหรือเรื่องลูกสะใภ้ล่ะ”

“ก็ต้องอย่างแรกสิ!” ผมน่ะชินแล้วกับการพูดหยอกที่ต้องตัดทอนหารสองลบสามของเขา

“พี่ไม่อยากให้น้องเจเข้าใจผิด และไม่อยากให้น้องเจคิดเองเออเองจนจุกอก ก็เราน่ะคิดมากคิดเยอะจะตายไป แถมยังคิดเผื่อคนอื่นไม่ใช่เรื่องตัวเองอีกต่างหาก ดูสิ ขมวดคิ้วอีกแล้ว เอ๊ะ นี่รอยอะไร ทำไมมันแดงๆ...”

นิฌานที่เอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมถือโอกาสเปิดหน้าม้ามองรอยแดงอย่างงุนงง

แล้วผมจะกล้าตอบได้ไงว่านั่นเป็นรอยหัวโขกเตียง!

ผมผู้คิดมาก ซึ่งถูกผู้ไม่คิดอะไรเลยสองคนไล่ต้อนในวันเดียวกันทำได้แต่ปิดหน้าม้าลงแล้วชี้นิ้วไล่ให้นิฌานไปทำงานได้แล้ว

“อย่าลืมโทรนัดคุณแม่ด้วยนะครับคุณลูกสะใภ้คนใหม่แห่งบ้านชาญชัย”

“รู้แล้วน่า” ผมเออออขอไปที มองเมินประโยคหลังแล้วก้มหน้าปลุกปล้ำกับตารางที่แน่นเอี๊ยด จะนัดหลังเลิกงานช่วงสามทุ่มก็ยังได้แต่ผมคิดว่าการจำกัดเวลาน่าจะดีต่อตัวเองและนิฌานมากกว่า หากคุยกันไม่รอดยังพอมีข้ออ้างปลีกตัว เลยเลือกช่วงพักสั้นๆ เกือบหนึ่งชั่วโมงตอนห้าโมงครึ่ง ถ้านัดใกล้ๆ กับบริษัทคงไม่มีปัญหา

แต่ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาจากอย่างอื่นรึเปล่านี่สิ!

 

-----------------

เราเชื่อว่าหลายคนคิดถึงพี่จิคนดีมากกว่านิฌาน 555

แต่นิฌานเองก็ขยันทำคะแนนมากขึ้นทุกตอนแล้วนะคะ! น้องเจเองก็เริ่มไม่ค่อยขัดแล้ว ออกแนวเออออไม่ได้ยินแทน กลัวจะไปทำร้ายน้ำใจคนใช้กลยุทธ์ใจแลกใจเข้า แหมมมม อยากจะแหมถึงดาวอังคารเลยค่ะ 555

 

แฮชแทค #น้องเจที่น่าลัก -> ทวิต @MajaYnaja

 

เพจนักเขียนที่อยากจะเป็นหมอนรองหัวน้องเจตอนโขกเตียง

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
 :man1:  เอ็นดูน้องจิ

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด