【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【❤เพราะแบบนี้ไงผมถึงปล่อยเขาไปไม่ได้❤】:: UP!! ตอนพิเศษปีใหม่ 1/1/2560!  (อ่าน 107742 ครั้ง)

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
อ่านแล้วอิจฉาคนมีคู่ขึ้นมาเหมือนเอก แชม และแกนเลยยยยย :hao7:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไทกริส อย่าแค่จุ๊บนะ :ling1:

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 22   วันแรกของปี





แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปทั่วพื้นที่ ความอุ่นค่อนไปทางร้อนแทรกผ่านมาตามบานเกล็ดที่เปิดกว้าง กระทบร่างทั้งสองที่นอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงขนาด 5 ฟุตนี่


จนกระทั่ง ร่างที่อยู่หันหน้าเข้ากับหน้าต่าง ขยับยุกยิก ก่อนจะเปิดเปลือกตาอันแสนหนักอึ้งขึ้นมา  หากแต่พอเจอกับความสว่างจ้าอย่างกับมีคนเอาไฟฉายมาส่องหน้า  นัยน์ตาทั้งสองหรี่ลงจนแทบจะปิด

อันที่จริงแล้ว ความสว่างจ้านั้นไม่ได้หมายถึงแสงแดดที่สาดเข้ามาแต่อย่างใด  แต่เป็นแสงที่ตกกระทบกับผิวกายขาวๆของร่างที่นอนอยู่ด้วยกันต่างหากที่ทำให้แสบตา


ไทกริสถอดเสื้อนอนอีกแล้ว ....


ต่ายส่ายหัวอย่างอ่อนใจ  ก็เข้าใจอยู่ว่าเด็กคนนี้ไม่ชอบความร้อนเอามากๆ แถมในห้องนอนนี้ยังมีแต่พัดลมตัวเล็กแค่ตัวเดียว  ลำพังตัวต่ายเองไม่เท่าไหร่หรอก เพราะไม่ใช่คนขี้ร้อน  แต่คนกับอีกคนนี้สิ  ระดับสูงสุดเลยล่ะ

ยิ่งมองซากผ้าห่มที่ถูกถีบไปกองอยู่ปลายเตียงแล้วก็ยิ่งนึกขำ  อันนี้คงเป็นทั้งเขาและไทกริส เพราะนอนผ้าห่มผืนเดียวกัน


ต่ายบิดขี้เกียจจนกระดูกลั่น น้ำตาคลอ พอเข้าที่เข้าทาง  ก็หยิบโทรศัพท์มาดูเวลา 


9 โมงกว่าแล้ว  ไม่รู้ว่า เจ้าพวกนั้นเป็นอย่างไรบ้าง



เขาลุกขึ้นไปทำธุระในห้องน้ำจนเสร็จ  เด็กโค่งก็ยังไม่ตื่น ทั้งที่เป็นคนตื่นเช้าแท้ๆ  เลยปล่อยเลยตามเลย    ส่วนตัวเองก็แอบไปส่องห้องข้างๆ แต่ก็พบกับความว่างเปล่า


ไม่ต้องสืบให้ยาก  ถ้าไม่อยู่ที่ห้องข้างล่าง ก็คงจะเป็นที่แคร่ที่เดิมนั่นล่ะ


แล้วก็จริงอย่างที่เขาคิด  ซากของเพื่อนทั้งสามหน่อ มานอนเกยกันอยู่ข้างล่างนี่เอง 

ก็นับถือในการหอบสังขารเข้าบ้านล่ะนะ   มองสภาพระเกะระกะแล้วก็อนาถใจเบาๆ   เลยต้องทั้งเขี่ยทั้งลากเพื่อนตัวดีให้อยู่ในสภาพดีๆ 


ต่ายเปิดตู้เย็นดูของสดที่ซื้อไว้เมื่อวาน  โชคยังเข้าข้างที่ยังพอมีไข่กับผักเหลือ  ฉะนั้นมื้อเช้าเลยจัดการทำต้มจืดผักกาดกับไข่เจียวแทน

หม้อหุงข้าวที่ไม่ได้งานมาอย่างยาวนาน แต่น่าเหลือเชื่อที่ยังใช้การได้อยู่ หากแต่เขาไม่ได้ซื้อข้าวสารมานี่สิ ....

ต่ายขมวดคิ้วครุ่นคิดว่าเขาควรไปซื้อข้าวเปล่ามา   เพราะถ้าซื้อข้าวสารคงจะเหลือแน่ๆ

ครั้นจะไปรบกวนป้าจู ก็คงจะดูไม่ดี เพราเมื่อวานก็ฝากมื้อใหญ่ๆไปแล้ว



ฉะนั้น.....

หมับ!


“เห้ย”  ร่างเย็นๆ โผล่เข้ากอดหมับเข้าเต็มรัก

“ตกใจหมด” หันไปแหวใส่เจ้าตัวดีที่ทำให้ตกใจเสียได้

หากอีกคนไม่ได้มีความรู้สึกผิดอะไรเลย  แถมยังทำหน้าระรื่นใส่อีกด้วย


“หอม” จมูกโด่งของไทกริสสูดกลิ่นอาหารซะเต็มปอด แต่ที่ต่ายไม่เข้าใจก็คือ

ทำไมต้องมาสูดข้างๆหูเขาด้วย?

“เราไม่มีข้าว  สงสัยต้องออกไปซื้อ” ต่ายบอก

“งั้นออกไปซื้อกัน” เจ้าเด็กโค่งที่หิวโซ รีบกระตุกมือพาอีกคนออกจากห้องครัวทันที

“เดี๋ยวๆ”  รีบหยุดอีกคนไว้ ก่อนต่ายจะเดินไปหาเอกที่นอนเกยตื้นอยู่  ตบๆที่กระเป๋ากางเกงอีกฝ่าย  จนเจอกุญแจรถก็หยิบออกไป


เส้นทางที่นี่ ไม่ได้ซับซ้อนเท่าไหร่ หากแต่มีป่ากับพื้นที่โล่งๆซะส่วนใหญ่ แต่ต่ายก็ยังพอจำได้ว่าเมื่อวานไปที่ไหนกัน


แต่ถึงจะหลงทางยังไง GPS ก็น่าจะช่วยเขาอยู่ดีแหล่ะ  มั้ง...




สุดท้ายก็ต้องพึ่งชาวบ้านข้างทาง  ซึ่งแต่ละคนก็ใจดีซะเหลือเกิน  บอกเส้นทางซะละเอียดยิบ จนคนความจำต่ำอย่างต่ายแทบจะเบลอ 

แต่.. ขาไม่ได้มาคนเดียวเสียหน่อย  เห็นเงียบๆอย่างนี้  จำได้ทุกคำพูดเลยล่ะ



ตลาดในเวลานี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เพราะเป็นช่วงสายแล้ว  พวกอาหารก็เลยมีน้อยลง   


ต่ายเมี่ยงๆมองๆที่ร้านข้าวราดแกงร้านหนึ่ง เจ้าของร้านยิ้มรอ พลางนำเสนอเมนูทุกอย่างที่มีในร้าน
เขาเลือกอาหารเพิ่มไปสองสามอย่าง เพราะคาดการณ์ไว้ว่า หากสามหน่อนั้นตื่นขึ้นมา ต้องห่าลงแน่ๆ

แต่ครั้นที่จะสั่งข้าวเปล่านี่สิ   บอกตามตรงเขาแทบไม่เคยซื้อข้าวเปล่าเลยด้วยซ้ำ  เลยหลุดทำท่าเงอะๆงะๆออกไป
 
“ข้าวเปล่าขายยังไงเหรอครับ”  ยิ้มแหยๆให้   หากแต่คนป้าคนขายยิ้มแป้น

“เราจะเอาเท่าไหร่ล่ะ 5 บาท 10 บาท  ป้าตักให้หมด”

“งั้นเอา 50 บาทครับ”  ป้าตอบรับ ก่อนจะทำการตักข้าวใส่ถุงจนเต็มถุง ทั้งหมด 5 ถุง

“น่าจะพอเนอะ” หันไปถาม เด็กโค่งที่ยืนเงียบอยู่ 

อีกคนพยักหน้าให้

“คนกรุงเทพรึน่ะ?”

“ครับ”

“โหย  ผิวพรรณนี่ช่างดีจริง  ดีกว่าลูกสาวป้าเยอะเลย” แล้วป้าแกก็ชี้ชวน ป้าอีกคนที่ขายผักอยู่แผงข้างๆ

 “ยายอ้อยแกดูนี่สิ   อีกคนถึงจะผิวคล้ำแต่ก็เนียนสวย  อีกคนก็ขาวผ่องออร่า หน้าลูกครึ่งด้วยเนี่ย   รึว่า เราเป็นดารากันเนี่ย??” ป้ายกมือทาบอก

“เอ่อ  เปล่าครับ  เป็นคนธรรมดาครับ ฮ่าๆ”  ต่ายหัวเราะแห้งๆอย่างทำอะไรไม่ถูก  ยิ่งมีคนมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งรู้สึกไม่ปลอดภัยเบาๆ


เขาจึงรีบจ่ายเงินให้ป้าที่ยังคงตื่นตาตื่นใจ  แล้วรีบลากเด็กโค่งออกจากร้านทันที

เดินออกมาจะพื้นที่เสี่ยงได้ก็โล่งใจ 

“กระต่าย”
“หืม”
“อยากกิน”

นิ้วเรียวชี้ไปทางแผงขนมไทย ที่เหลืองอร่ามของขนมตระกูลทองทั้งหลาย  แถมยังมีขนมอื่นๆอีก

ต่ายจึงพาไทกริสไปซื้อ  แม่ค้าสาวสวยทำหน้าเขินอาย ยามที่ไทกริสถามชื่อขนม 

“อันนี้ ขนมชั้น  ขนมเปียกปูน  ขนมน้ำดอกไม้ ตะโก้ ทองหยิบ ทองหยอด เผือกกวน ฝอยทอง  เม็ดขนุน ข้าวเหนียวแก้ว กาละแม  เอาอะไรดีจ๊ะ? ” แล้วหล่อนก็ร่ายขนมที่มีอยู่ในร้านจนหมดร้าน พลางส่งสายตาหยาดเยิ้มไปที่ไทกริสที่สนใจแต่ขนมตรงหน้า

“จะซื้อนี่ กินเป็นรึไง”

“เคยกินน่า”

“อันนี้ น่ากินดีนะ”  ต่ายชี้ไปที่ขนมน้ำดอกไม้ ที่มีสีสันน่าทาน
 
“น่ากินทุกอย่างเลยจ้ะ  คนขายก็ด้วย..”  สาวเจ้านำเสนอเต็มที่  ต่ายรู้สึกคันปากยิกๆอยากจะบอกว่า

เจ้าเด็กนี่มันไม่สนใจผู้หญิงหรอก
 
สุดท้าย พ่อคุณก็เลือกซะทุกอย่าง  แม่ค้าสาวได้ยินดังนั้นก็รีบหยิบใส่ถุงเตรียมประเคนให้เต็มที่

“อันนี้ฉันแถมให้นะจ๊ะ สุดหล่อ”  หล่อนว่า พยายามปรือตาที่กรีดอายไลนเนอร์หนาเตอะเต็มที่  แต่น่าเสียดายที่ไทกริสไม่ได้แม้แต่จะมองหล่อนด้วยซ้ำ   

อาเมน ...


“กลับกันเถอะ”  พอจ่ายเงินเสร็จก็พากันขึ้นรถ เตรียมกลับบ้าน

“เสน่ห์แรงจริงๆน๊า” ต่ายเปรยออกมา   ปรายตามองเด็กโค่งที่นั่งหน้านิ่ง ไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวอะไร


เมื่อขับรถจนมาถึงบ้านพัก  เพื่อนทั้งสามของต่ายก็ยังคงนอนอืดไม่ฟื้น   ก็คงจัดไปเยอะ  หลักฐานก็ที่ใต้ถุน  ต็มไปด้วยขวดเปล่าวางเรียงกันจนต่ายนึกอยากจะเอาลูกโบวริ่งมาโยนเล่นเสียจริง 


สุดท้ายก็มานั่งกินข้าวเช้ากันสองคน 


พวกเขามานั่งอยู่ที่โต๊ะเตี้ยๆหน้าทีวี
ช่างเป็นภาพที่น่าขำ ที่ร่างสูงโย่งของเด็กโค่งกับร่างสมส่วนของต่าย ต่างนั่งขัดสมาธิล้อมโต๊ะตัวน้อยกินข้าวกัน


ช่องรายการในช่วงนี้นั้นน่าเบื่อ ไม่ค่อยน่านใจ  ดูจากน่าเบื่อโลกของเด็กโค่งข้างๆ ที่แม้จะเป็นหนังฝรั่ง  แต่ก็ไม่สนุกเท่าที่ควร   เพราะไม่สามารถรับช่องทีวีดาวเทียมได้    เพราะเป็นพียงแค่หนวดกุ้งรับสัญญาณธรรมดา เลยรับได้ไม่กี่ช่อง   




จนกระทั่งหนึ่งในสามซากศพฟื้นคืนชีพขึ้น ก็ปาไปเที่ยงกว่า

เอกสะลึมสะลือมองไปทั่วๆ  กายและแชมหลับอยู่ขนาบซ้ายขวา  ความร้อนอบอ้าวทำเอาเสื้อที่ใส่นั่นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้จะมีพัดลมเพดานเปิดไว้ให้ก็ตาม    สะบัดหัวอย่างมึนๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน  มองหาเพื่อนอีกคนที่น่าจะตื่นก่อนเขา

หากแต่ ท้องเจ้ากรรมดันครวญครางออกมาเสียก่อน  ภารกิจตามหาเพื่อนรักเลยต้องถูกทิ้งไป
 
“เห้ย  ตื่นได้แล้วเว้ย  นอนกินบ้านกินเมือง” นั่นคือคำพูดของคนที่เพิ่งตื่นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

เอกใช้เท้าสะกิดเอนทั้งสองที่นอนอยู่  คนถูกปลุกด้วยเท้าสบถ ก่อนจะด่าคนปลุกด้วยถ้อยคำรื่นหู

“ไอ้สัด!”  แชมลุกขึ้นนั่งอย่างมึนๆ  แกนที่ลุกตามทีหลังหาววอดๆ

“ไอ้ต่ายอ่ะ”

“ไม่รู้มัน  สงสัยอยู่ข้างบนมั้ง” 
“เค  กูหิวว่ะ”
“ไปกินกัน  ไอ้ต่ายมันทำไว้ให้แล้ว”
“อยากอาบน้ำก่อนว่ะ” แกนพูดขึ้น    เขาเหม็นตัวเองจะแย่อยู่แล้ว

“อ้าว  งั้นไปอาบด้วยกันเลยป่ะ จะได้มากินพร้อมกัน”  แชมบอกพลางยักคิ้ว 
เรื่องแบบนี้ พวกเขาชิวๆอยู่แล้ว

แต่ขนาดห้องน้ำที่คับแคบเกินกว่าจะให้ผู้ชายตัวใหญ่ทั้ง 3 คน อัดเข้าไปอยู่กันได้

“เดี๋ยวกูไปอาบห้องนู่นก็ได้”  แชมเสนอตัว ห้องที่ว่าก็คือห้องที่ต่ายและไทกริสอยู่นั่นเอง

“ไอ้ต่าย  กูขอเข้าห้องน้ำหน่อย”  เขายกมือขึ้นเคาะประตูเบาๆ   แต่ทว่าไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝั่งของประตู

“งั้นกูไม่เกรงใจแล้วนะ”  เพราะลองหมุนลูกบิดดู ปรากฏว่า ไม่ได้ล๊อค จึงเปิดไป

ก่อนจะผงะกับภาพตรงหน้า
สภาพของเพื่อนเขากับเด็กของมัน ที่นอนหนุนกัน ประหนึ่งกำลังเปิดห้องสวีทของโรงแรมห้าดาว  โดยมีพัดลมอีแก่เป็นพร็อพประกอบ 

และที่ผงะยิ่งขึ้นก็คือ 

มือของเจ้าเด็กนั่นล้วงเข้าไปในเสื้อของเพื่อนเขาอยู่น่ะสิ !!

ให้ตาย นี่เขาต้องทำตัวให้ชินกับเรื่องแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย    ชายหนุ่มคิด

สะบัดหัวเบาๆ ก่อนจะค่อยๆเดินผ่านทั้งสองอย่างเบาเสียงที่สุด


พอออกมา ดูเหมือนไทกริสจะตื่นแล้ว  นัยน์ตาสีน้ำตาลทองแดงจ้องเขม็งมาทางเขา 

อย่างกับอยากจะเข้ามาขย้ำคอเขางั้นแหล่ะ

แชมยิ้มแห้งๆก่อนจะยกมือขึ้นทัก

“ตามสบายๆ แค่มายืมใช้ห้องน้ำ”   รีบบอก  ก่อนจะซอยเท้าออกจากห้องไป

พอพ้นตัวห้องมาได้ ก็ต้องถอนหายใจเฮือก 


“ไอ้ต่ายหลับอยู่หรอ”  แกนที่อาบน้ำเสร็จแล้ว เดินเข้ามาถาม
“อืม  แล้วไอ้เอกอ่ะ”
“เดี๋ยวมันก็มา” พูดยังไม่ทันจบ  ร่างสูงใหญ่ของเอกก็เปิดประตูห้องออกมาพอดี
“ไปแดกกัน หิวชิบหาย”  เอกว่าพลางลูบท้องตัวเองอย่างหิวโหย

พอเห็นอาหารตรงหน้า ก็คว้าชามข้าวขึ้นมาสวาปามทันที


“เอกมึงแดกอย่างกับหมา” ต่ายที่เพิ่งตื่น พอลงมาก็เจอเพื่อนตัวเองกำลังกินข้าวกันอยู่

“ก็กูหิว” ปากที่เต็มไปด้วยข้าวพูด  คนอื่นๆมองอย่างปลงๆ

“วันนี้จะไปไหนกันไหมวะ”

“ร้อนๆงี้  อยากไปเล่นน้ำตก ”   

“เออ แถวนี้มีอะไรบ้างอ่ะ” ต่ายถาม  คนถูกถามนิ่งคิด  ก่อนจะควักมือถือออกมา กดยุกยิกซักพักก็เงยหน้าขึ้นมา

“ไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่นมะ   แถวอุทยาน”

“ไปดิ  กูอยากไปถ่ายรูปพอดี”

“โอเค  งั้นรอกินนี่เสร็จ แล้วไปกันเลย”

“ว่าแต่ น้องมึงอ่ะ”

“ยังหลับอยู่  เดี๋ยวว่าจะไปปลุกแล้ว”

“เออดี  บอกมัน ให้น้อยๆลงหน่อย”  แชมพูด  ต่ายขมวดคิ้วอย่างงุนงง

“อะไรวะ”

 “เออน่า” พูดตัดบทเสร็จก็กวักมือไล่เพื่อนที่ยังคงงุนงงไม่หาย   


พอเดินพ้นจากห้องครัว เด็กโค่งหน้ามึนก็เดินลงจากบันไดพอดี

“กำลังจะไปปลุกพอดี  หิวไหม?”  เด็กโค่งส่ายหัว 


แน่ล่ะ  เมื่อตอนสายเล่นกินขนมไทยซะอิ่มแปล้เลย ทั้งเขาทั้งไทกริส  นี่ยังเหลืออีกหลายถุงนะเนี่ย 


พออิ่มท้อง  พวกเขาก็ออกเดินทางไปที่น้ำตกจ๊อกกระดิ่นที่อยู่ไม่ไกลจากตัวอุทยาน  แต่จากที่พักของเขา ก็ถือว่าไกลสมควร
 
กว่าจะไปถึงตัวน้ำตกจริงๆ ก็กินเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง  เพราะใช้เวลาในการงมหาทางไปน้ำตกจาก GPS ของรถ  ไหนจะทางเข้าอีก  แต่ก็ถือว่าไม่เสียแรงที่ต้องทนร้อนทนเหนื่อย หลังจากที่ต้องจอดรถทิ้งไว้ แล้วเดินมาตามทางที่มีให้

พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมไม่มีป้ายบอกทาง  คดว่านักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็คงจะเหมือนกัน  เพราะมีจำนวนไม่น้อยที่ร่วมเดินมากับพวกเขา
 
ระหว่างทางที่เดินมา เป็นลักษณะป่าดิบชื้น มีดอกไม้สวยๆข้างทางให้พอเชยชม  เดินไปได้ซักพักพวกเขาก็เจอลำธารที่มีขอนไม้ขนาดพอเหมาะวางพาดไว้ให้คนข้าม   นั่นเป็นสัญญาณว่า ใกล้จะถึงน้ำตกแล้ว ...


ตัวน้ำตกนั้นไม่ได้อลังการงานสร้างอย่างน้ำตกเอราวัณ แต่ความสวยงามของธรรมชาติก็น่าชื่นชมไม่แพ้กัน น้ำตกจากผาสูงประมาณ 30 เมตร ลงมากระทบกับพื้นด้านล่าง ยิ่งเข้าไปใกล้ๆแล้ว  น้ำที่ตกลงมาแล้วแตกกระจายออกก็จะมากลายเป็นกลุ่มไอน้ำลอยตัวขึ้นมาในอากาศ เป็นอะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ตากล้องอย่างแกนที่พกกล้องมาอย่างดี  หวังไว้ว่าจะมาถ่ายวิวที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ แต่สุดท้ายก็อดไป    มาคราวนี้เลยพกกล้องเพื่อจะถ่ายน้ำตก  ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง  เพราะความสวยงามของที่แห่งนี้เกินจะบรรยาย

เดินมาตามโขดหินที่ไม่ได้สูงชันพอปีนได้ ก็พบแอ่งน้ำใสขนาดใหญ่ สีออกครามๆ ยิ่งสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ยิ่งเกิดประกายเหมือนกับเพชรต้องแสง

พวกเขาหรือจะพลาด ลงเล่นน้ำกับลืมโตเลยทีเดียว


นักท่องเที่ยวที่นี่ ไม่ค่อยเยอะ  แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะพวกเขาจะได้ไม่ต้องแย่งกัน  อีกทั้งตัวน้ำตกก็ไม่ได้ใหญ่อะไร

พอเล่นจนสะใจแล้ว ก็ชวนกันขึ้น ตกลงกันไว้ว่าจะไปร้านอาหารที่มีรีวิวในพันทิปกัน 


ในระหว่างที่กำลังเดินไปตามทางของน้ำตกนั้น  แกนที่ไม่ได้มองทาง  เพราะมัวแต่เช็ครูปในกล้อง ก็เกิดรองเท้าพลิก ทำให้ล้มลง ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆ ไม่เว้นม้แต่ไทกริส

“เชี่ย” สบถลั่น  พอเพื่อนๆเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปถามไถ่

“เฮ้ย เป็นไรเปล่าวะ!!!”

“ไม่อ่ะ  แต่กล้องกูนี่ดิ” บ่นปอดแปด  ไม่ได้ห่วงตัวเองเลย 

 “ก็มึงไม่ยอมดูทาง” แชมเอ็ด  แกนบ่นงุ้งงิ้งฟังไม่รู้เรื่อง ก่อนจะหน้านิ่วคิ้วขมวดตอนลุกขึ้น

“ขาพลิกแล้วไหมล่ะ”  ต่ายพูดออกมา เอกที่ยืนอยู่ใกล้สุด รีบเข้ามาดูอาการเพื่อน

“แค่เคล็ดอ่ะ  ขี่หลังกูเร็ว  ยังเดินอีกไกล” ว่าแล้ว ร่างสูงใหญ่ของเอกก็นั่งยองๆ

“เอ่อ ไม่เป็นไรๆ” แกนบอกปัดๆ

“มึงจะขี่หลังไอ้เอกดีๆ  หรือจะให้มันอุ้มพาดขึ้นบ่า”  คุณแม่ของกลุ่มอย่างแชม พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด 

พอเป็นอย่างนั้น แกนก็ยอมขึ้นหลังเอกแต่โดยดี


ต่ายหัวเราะให้กับท่าทางของเพื่อน  ก่อนจะหุบปากฉับ เมื่อเจ้าเด็กโค่งทำท่าทางเหมือนจะถามเขาว่า …

‘ขี่หลังไหม’

“เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ”  พูดเบาๆให้ได้ยินกันสองคน ก่อนจะเดินเคียงข้างกันจนไปถึงที่รถ


“แล้วกล้องมึงเป็นไรมากปะ”  ต่ายถามขึ้น หลังเห็นแกนพลิกซ้านพลิกขวาสำรวจกล้องตัวเอง

“ก็ยังถ่ายได้อยู่  แต่จับโฟกัสนานมาก”
 
“เอาน่า อย่างน้อยก็ยังปลอดภัย ทั้งมึงทั้งกล้อง” ต่ายเอ่ยปลอบ ไอ้เขาก็ไม่มีความรู้เรื่องกล้องด้วยสิ จะช่วยเพื่อนมากกว่านี้ก็ไม่ได้


หลังจากกลับจากกินมื้อเย็นแล้ว พอถึงบ้านพักก็แทบจะวิ่งหาเตียง   แม้จะเหนื่อยแต่ก็สนุก

“เบียร์ไหม เหลืออยู่สามขวด” แชมถามขึ้น พลางกระดกดื่มทั้งขวด

“เอามาหน่อย” ต่ายแย่งเบียร์ออกจากปากเพื่อน จนเบียร์กระฉอกออกมา เลอะทั้งคนโดนแย่งและคนแย่ง

“ไอ้ต่ายแม่ง..” แชมบ่น พลางใช้มือปาดในส่วนที่เลอะออก  ความเหนียวเหนอะหนะทำให้ต้องใช้น้ำมาเช็ด
 
ส่วนคนแย่งนั้น กระดกเบียร์อย่างสบายใจเฉิบ แม้จะเลอะไม่ต่างกัน

กินจนสะใจแล้วก็หนีขึ้นไปบนห้อง

เจ้าเด็กโค่งยังคงคุยกับน้านี

ดูจากสีหน้าเจ้าเด็กที่ชอบทำหน้าตาย ไร้อารมณ์  แต่ในยามที่คุยกับน้านีแล้ว ก็เหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งคุยกับสาวครั้งแรก
ดูขัดเขินและพูดน้อย แต่ออร่าความสุขกระจายออกจนคนมองรู้สึกหมั่นไส้ยิกๆ


ต่ายยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู  ลังเลว่าจะกดโทรดี หรือไม่โทรดี


สุดท้ายก็ ..

ตืดดด  ตืดดดดด ตืดดด

         “ว่าไง ไอ้ตัวแสบ” ปลายสายรับ ก่อนจะทักด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“นี่โทรหาแม่นะ มารับไมอ่ะ” ปลายสายหัวเราะหึๆ ก่อนจะตอบกลับ

          “ทำไม แม่กับพ่อก็คนๆเดียวกัน” ต่ายทำเสียงแหวะกับถ้อยคำนั้น  ปลายสายได้ยินก็หัวเราะยกใหญ่

“จะโทรมาสวัสดีปีใหม่  มาขอตังค์ด้วย”
 
           “โห ไอ้ลูกธรพี ขนาดพี่แกอยู่เมืองนอก ยังโทรมาหาตอนเที่ยงคืน แถมยังส่งเงินมาให้อีก  แต่แกนี่---” ก่อนที่ทศธีร์จะบ่นยาวกว่านี้ ต่ายก็ตัดบทเสียก่อน

“นี่เมา กลับไปนอนได้ก็บุญละ  แหม่ แล้วแม่อ่ะ จะคุยกับแม่”

            “ว่าไง เจ้าต่าย”

“แม่ค้าบ  สวัสดีปีใหม่  ขอตังค์หน่อย” ดูเหมือนพ่อแม่ของเขาจะเปิดสปีคเกอร์เอาไว้ เพราะได้ยินเสียงพูดทั้งของพ่อและแม่

            “ย่ะๆ พรุ่งนี้จะโอนให้  แล้วนี่อยู่ไหน อยู่กับน้องไทก์รึเปล่า”  ถามหาลูกรักอีกคน

“อยู่ นี่มาเที่ยวกาญฯ กัน”

             “เออ ดูแลน้องดีๆล่ะ เกิดอะไรขึ้นมา เดี๋ยวไม่มีปัญญาใช้คืนนะ” ปลายสายว่า  ต่ายหัวเราะแห้งๆ  เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น .......


วางสายเสร็จ เหลือบมองเจ้าเด็กโค่งที่ยังคุยอยู่ เลยเดินเข้าไปบอกด้วยเสียงเบาๆว่า จะลงไปข้างล่าง
เจ้าตัวพยักหน้าให้  ก่อนจะกดจูบแรงๆ ทั้งๆที่ยังมือให้ถือโทรศัพท์คุยกับแม่  ถ้าเขาไม่ได้หูฝาดไป  แรงจนได้เสียงดังจ๊วบเลยล่ะ

ตีปากอีกคนเบาๆ ขึงตาใส่อีกคนคาดโทษเอาไว้   ก่อนจะรีบลีฟตัวออกจากห้อง  แต่ก็ได้ยินเสียงเจ้าเด็กโค่งพูดว่า แปปนึงนะ
แล้วเจ้าของร่างสูงโย่งของไทกริสก็ปรี่เข้ามาหาต่ายที่กำลังจะเปิดประตูออก

"แว๊กกกกก" ต่ายตกใจกับแขนทั้งสองของไทกริสที่ยกออกมาคร่อมเขาไม่ให้หนีไปไหน

สายตาวิบวับราวกับเจอเหยื่อของไทกริส ทำให้ต่ายขนลุกซู่  ก่อนที่ปากซุกซนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าของเขา จนมาหยุดอยู่ที่ปาก   นัยน์ตาสีน้ำตาลจ้องลึกเข้ามาดวงตาของต่าย  สายตาที่เหมือนถูกสะกดให้นิ่ง

ก่อนที่ริมฝีปากที่ไม่ค่อยได้เปิดออก ในตอนนี้กลับเผยอออก ก่อนจะขบเบาๆที่ริมฝีปากบนของอีกคน  พอสมใจด้านบนก็ต่อด้วยริมฝีปากล่างเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากัน  ต่ายได้แต่ครางออกมาเบาๆ ความรู้สึกเบาเหมือนลอยได้เข้ามาแทนที่   นัยน์ตาหยาดเยิ้มไม่แพ้อีกคน

จนไทกริสผละออก แล้วยกยิ้มให้  ต่ายถึงได้สติกลับคืนมา

พลาดอีกจนได้  ฮ่วยยย !!!!!



ทึ้งหัวตัวเองเสร็จก็รีบลงมาข้างล่าง

ขวดเบียร์ที่ควรจะเหลือ 3 ขวด กลับมีเพิ่มมากขึ้นอีกเท่าตัว

“นี่มึงไปซื้อมา?” ต่ายถามขึ้น พยายามทำให้ตัวเองไม่หลุดอะไรแปลกๆออกไป

“เออ ไปซื้อยานวดให้แกน กูเลยซื้อแถมมาด้วย  ฮ่าๆ ” เอกบอก  พลางหรี่ตามองเขาอย่างสงสัย  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“น้องมึงอ่ะ?”

“อยู่ข้างบน คุยโทรศัพท์อยู่”

“ฮั่นแน่! คุยกับสาวอ่ะดิ”  ทำหน้าเจ้าเล่ห์  ต่ายพ่นลมหายใจใส่


“เออ  คุยกับแม่มันอ่ะ” ต่ายพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ  ก่อนจะรับแก้วมาจากแกนที่รินเบียร์ให้

“เออก็ดี  ตั้งแต่มานี่ กูแทบจะนับคำพูดมันได้เลย  ปกติมันเงียบขนาดนี้เลยเหรอวะ” เอกถามขึ้น

“ก็ไม่ได้เงียบอะไรขนาดนั้น  อารมณ์แบบ พูดในยามจำเป็นจริงๆ แต่พออยู่กับพวกมึงเลยไม่ค่อยกล้าพูดมั้ง”

“สงสัยต้องให้เมาว่ะ กูจำได้ คราวที่แล้วนู่น คุยกับพวกกูอย่างเยอะ”

“เออ อย่างกับรู้จักกันมาสามชาติแปดชาติ”


ซักพักเจ้าตัวก็เดินลงมา  พอเห็นพวกเขานั่งล้อมวงกันอยู่ เด็กโค่งก็มากระแซะนั่งข้างๆต่าย

“เห้ย คุยบ้างก็ได้นะเว้ย ไม่มีใครว่า” เอกพูดอย่างขำๆ  พลางยื่นเก้าเบียร์ให้เด็กหนุ่ม โดยไม่สนสายตาดุๆของเพื่อน

“น่า ให้เด็กมันกินบ้าง  กระชับมิตรไงมึง  แค่นี้ไม่เมาหรอก” แกนว่า

เบียร์ที่เหลืออีก 4 ขวด กับจำนวนคน 5 คน     คงไม่น่าจะทำให้ใครเมาได้



“ทำไมถึงรักมันวะ”  อยู่ๆ แชมก็เปิดคำถามชนิดที่ว่า ไม่ทำให้ใครตั้งตัว
 
“.....”  คนถูกถาม นั่งนิ่งเงียบ  ส่วนคนที่เหลือต่างจ้องเขม็งราวกับรอลุ้นหวย

“กระต่ายน่ารัก” เสียงทุ้มนุ่มเปล่งออกมา   คำตอบที่ไม่น่าเชื่อถือ ทำให้เหล่าผองเพื่อนมองไปทางต่ายอย่างไม่เชื่อสายตา

ตรงไหนที่น่ารักกัน ดุอย่างกับหมา  โมโหทีอย่างกับร๊อคไวเลอร์

“กระต่ายใจดี”  อย่างกับกำลังบอกจุดเด่นแบบสั้นๆได้ใจความ  แต่ว่า เป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจเหล่าคนอายุมากกว่าทั้ง 3

“โห่ววว เอาดีๆสิวะ  ขอแบบซึ้งกินใจหน่อย”

“ไอ้เหี้ย  ให้มันน้อยๆหน่อย” ต่ายโวยวาย 

“กระต่ายเป็นผู้ชายคนแรกที่ใจเต้นด้วย..........และไม่ว่ายังไง กระต่ายก็อยู่ข้างเราตลอด”  คำตอบที่อาจจะดูไม่เคลียร์ในหลายๆประเด็น แต่ดูเหมือนจะสมใจอยากเหล่าคนช่างอยากรู้อยากเห็นทั้งสาม


“ดีมาก ไอ้น้อง” เอกยกแขนขึ้นมากอดคอเด็กหนุ่ม พลางส่งแก้วมาให้อีก   ไทกริสก็ยกดื่มอย่างไม่เกรงใจ


“สำหรับไทกริสอาจะเป็นกระต่ายเลี้ยง แต่สำหรับพวกเรามึงคือกระต่ายป่าว่ะ ไอ้ต่าย” แชมบอก  ก่อนจะได้นิ้วกลางสวยๆมาเป็นรางวัล


และค่ำคืนวันแรกของปีก็ได้จบลง เหลือไว้แต่เพียงความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน ......


TBC...

------------------------------------------------

BEVA TALK :  มาแล้วค่าาาาาาาาา  อะไรเริ่มเข้าที่แล้วค่ะ สติของคนแต่งด้วย  :mew5:  ตอนนี้แต่งเยอะเป็นพิเศษ  ทดแทนกับตอนที่แล้วเน่ามาในความรู้สึกเรา  แต่จะไปแก้ก็รู้สึกแบบมันคนละอารมณ์กันแล้ว  เลยจัดกับตอนนี้ซะเลย

สงสารไทกริสบทน้อยมาก ตั้งแต่ตอนแรกยันตอนนี้ ไม่รู้พูดถึง ยี่สิบประโยครึเปล่า  :mew4: :mew4:

แฮร่ๆ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่านนะคะ  :mew1: :mew1:  รักคนอ่าน รักคนเม้นท์  จุ๊บๆ  :กอด1:

รู้สึกอย่างไรกับตอนนี้ ติชม/ด่า คนแต่งได้ค่ะ   :mew3: :mew3:

แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ


   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-06-2016 19:53:16 โดย bevobova »

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ชอบไทกริสอ่ะ อึนๆมึนๆน่ารักดี :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เม้นรวดเดียว 2 ตอนน 

เฮือกกกกกกกกก   :hao7: :hao7:  ยิ่งอ่านยิ่งหลงไทกริส   :z2:

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
น้องกรีสน่ารักอ่ะ อ๊ายยยย ต่ายพลาดท่าน้องอีกแล้ววว ว๊ายๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ไทกริสขี้อ้อน กับพี่ต่ายคนแมนสินะ ฮา น่ารักดี

ออฟไลน์ shishy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามเรื่องนี้มานานแล้ว แต่เพิ่งมาสมัคร  อิอิ   :katai4:

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 23    กันและกัน





ต่ายกดเปลี่ยนช่องทีวีเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็อาจทราบได้

วันสุดท้ายของการปิดเทอมนั้นช่างน่าเบื่อหน่าย หลังจากจบทริปเมืองกาญฯ ก็มานอนอืดอยู่กับห้อง ไม่ค่อยได้ออกไปไหน  ส่วนเจ้าเด็กโค่งนั้นออกไปไหนไม่รู้แต่เช้า    พอโทรไปถามก็บอกแค่ว่าออกมาทำธุระข้างนอก แล้วก็กดวางสายไป   

ต่ายมองโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปอย่างไม่เชื่อสายตา

อย่างไทกริสนี่นะ? จะตัดสายเขา  เหมือนกับไม่อยากจะคุยอย่างนั้นแหล่ะ  จะว่าตัวปลอมก็ไม่ใช่ เพราเสียงจากปลายสายก็ไทกริสตัวจริงไม่ทิงนองนอยแน่ๆ 


หรือว่า จะอยู่ในวัยต่อต้านซะแล้ว ..... !


ต่ายส่ายหัวให้กับความคิดที่ฟุ้งซ่านค่อนไปทางไร้สาระ ก่อนจะมานั่งกดเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อย ๆ  แต่สุดท้ายก็กดปิดมันซะสิ้นเรื่อง

แล้งนอนเหยียดยาวบนโซฟาเบด


งีบหลับดีกว่า ..



ต่ายสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู  ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจากไทกริส 

เจ้าเด็กโค่งดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขานอนอยู่บนโซฟา 

“กลับมาแล้วเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย พลางมองนาฬิกาที่บอกเวลาที่ 12:10 น.


นี่เขานอนไปเกือบชั่วโมงเลยหรือเนี่ย...


เจ้าเด็กโค่งแว่บเข้าไปในห้องนอน  ก่อนจะออกในสภาพเปลือยท่อนบน   ซึ่งก็เป็นภาพที่เริ่มจะชินตาแล้วสำหรับต่าย 
จากที่รู้สึกแปลกๆเวลาที่เห็นเรือนร่างอีกคน ตอนนี้กลายเป็นเฉยๆแล้ว  เพราะอีกคนเล่นถอดเกือบทุกวัน
ยิ่งตอนนอนถ้าไม่ใส่เสื้อกล้ามบางๆก็จะถอดเสื้อ   ซึ่งต่ายก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะผิวกายเย็นๆเของไทกริส   


“หิวมั๊ย?” ถามอีกคน ขณะที่เขากำลังลุกไปในครัว

“อือ      อยากกินข้าวมันไก่” ต่ายกลอกตาทันที เมื่อได้ยินเมนูนั้น   ไม่อยากปฏิเสธ แต่ไอ้เมนูที่หากินได้ง่ายๆ แต่มันทำง่ายๆซะที่ไหนกัน

“ไว้คราวหน้าจะพาไปกินนะ  วันนี้กินข้าวผัดไก่ไปก่อน”   ยกยิ้มปลอบใจเด็กน้อย ก่อนจะลงมือทำกับข้าว

ไทกริสไม่ได้มีอาการงอแงแต่อย่างใด แม้จะได้กินข้าวมันไก่เก๊ๆ ฝีมือของต่าย 

แต่ผิดคาด  เพราะเด็กโค่งขอเบิ้ลสอง

เป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นนัก ที่ไทกริสจะขอเพิ่ม  พอเห็นอีกคนเจริญอาหารแบบนี้ คนทำก็ปลื้มปริ่มจนน้ำตาจะไหลจนอยากจะแชร์


ความรู้สึกแม่เวลาที่เห็นเขากิน ก็คงจะเป็นแบบนี้สินะ 
แต่ว่าทำไมหลังๆชักเริ่มบ่นเขาว่า เขากินมากไปซะงั้น


ก็นะ ... เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน ...



บ่ายแก่ๆ ต่ายกับไทกริสชวนกันออกมาซื้อของที่ห้าง  เพราะของในตู้เย็นเริ่มร่อยหรอ เพราะแอบจกกินทุกเวลาที่หิว

เขาเดินเข็นรถเข็น ตาก็มองตามเชลฟ์ ส่วนเจ้าเด็กโค่งก็เดินตามไม่ห่าง อย่างกับลูกเป็ดตามแม่ 

ต่ายเลือกซื้อของสดอย่างพวก เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ แล้วก็ผักที่เก็บไว้ได้นานๆ

บอกตามตรง ทั้งเขาและไทกริสเป็นพวกสัตว์กินเนื้อทั้งคู่  พวกผักเลยไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่

พอมาถึงแผนกขนมขบเคี้ยว พวกเขาแทบจะปรี่เข้าไปหา 


เขายังจำได้ว่าสมัยเด็กๆ ไทกริสมักจะถูกสั่งห้ามไม่ให้กินขนมแบบนี้ซักเท่าไหร่ ด้วยเหตุผลที่กรอกหูบ่อยๆนั่นก็คือ

มันคืออาหารขยะ

เขายังเคยไปเถียงเลยว่า ขนมนี่ไม่ได้มาจากถังขยะซะหน่อย จะเป็นอาหารขยะได้ไง  ยิ่งไปกว่านั้น เขาแทบจะไปตามแม่ค้ามาช่วยยืนยันว่าซื้อขนมจากร้านนี้ด้วยซ้ำ   

นึกแล้วก็ขำ ..


ฉะนั้น เจ้าเด็กโค่งก็ไม่ค่อยจะได้ลิ้มรสขนมขบเคี้ยวที่อุดมไปด้วยผงชูรสเหล่านั้นซักเท่าไหร่

แต่พอโตมา ก็อย่างที่เห็น เหมือนจะขาดไม่ได้...


พอพ้นแผนกขนมไป ก็กะว่าจะไปคิดเงิน แต่ดันไปเจอกับร่างที่คุ้นตาซะก่อน
 
และถ้าตาไม่ได้ฝาดไป จะไม่ได้มาแค่คนเดียวเสียด้วย

ต่ายยักคิ้วจึกๆให้ไทกริส ที่สังเกตเห็นเหมือนเขา  ต่ายยิ้มเยาะในใจก็จะปล่อยให้ไทกริสเป็นฝ่ายเข็นแทน  ส่วนตัวเขาก็ปรี่เข้าไป

“เฮ้ย!”
“เฮ้ย!!!”  สองเสียงดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน  แต่คนละสาเหตุ

“ฮ่าๆๆๆ” พอเห็นอีกฝ่ายตกใจจนสะดุ้งโหยงก็หัวเราะสะใจ ก่อนจะเบาเสียงลงเมื่อคนรอบข้างมองด้วยสายตาประนามเบาๆ

“ไอ้ต่าย มึงนะมึง” แกนเข่นเขี้ยวใส่เพื่อนที่หัวเราะจนน้ำตาเล็ด พลางเผื่อไปให้คนข้างๆ ที่หัวเราะไม่แพ้กัน

“หัวเราะไร เดี๋ยวอดกินสุกี้นะ เย็นนี้” ขู่อีกคนไว้

และก็ได้ผล เพราะคนถูกขู่ ทำหน้าตาเหวอก่อนจะรีบเกาะแขน ส่งสายตาอ้อนๆ  นี่ถ้ามีหางด้วย คงส่ายไปส่ายมาแน่ๆ

“มาด้วยกันได้ไงเนี่ย” ต่ายถามขึ้น พลางมองไปที่ทั้งสองอย่างงงๆ 

“กูอยู่คอนโดเดียวกัน จำไม่ได้เหรอ” แกนตอบเนือบๆ   ต่ายร้องอ๋อ ก่อนจะหรี่ตามองรุ่นน้องอย่างจับผิด

“อะไรพี่ต่าย  มองผมแบบนั้นทำไม” โจร้องขึ้น เพราะเห็นสายตาเหมือนกับประเมินเขา 

นี่เขาทำอะไรไม่ถูกใจรึเปล่าเนี่ย

“ก็เปล๊า!”  พูดเสียงสูง ยิ่งทำให้โจรู้ว่ารุ่นพี่คนนี้ต้องมีบางอย่างในใจแน่ๆ

“โย่ว ไทกริส  ไม่ทักกันบ้างเลยนะ ” หันไปทักเพื่อนที่ยืนข้างรุ่นพี่อย่างกับบอดี้การ์ด

“หวัดดี”  คำพูดอย่างขอไปที  ถ้าเป็นคนอื่น คงจะคิดว่ากวนบาทา แต่สำหรับโจแล้ว  เพื่อนหน้านิ่งทักตอบกลับมาก็เป็นอะไรที่กรุณามากแล้ว

“กูไปจ่ายตังก่อนนะ  เย็นกว่านี้เดี๋ยวรถติด”  ต่ายบอก  แกนและโจพยักหน้าให้ก่อนจะโบกมือลาอย่างร่าเริง

“เจอกันพรุ่งนี้”

“เออ”


บอกลาเพื่อนและน้องเสร็จ ก็เดินตามไทกริสที่ทำหน้าเข็นรถแทน

“ทั้งหมดสองพันสี่ร้อยห้าสี่บาท ห้าสิบสตางค์ค่ะ  มีบัตรสมาชิกไหมคะ” แคชเชียร์สาวถามขึ้น

ต่ายควานหาบัตรสมาชิกของห้างนี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจคนข้างๆ  มือขาวยื่นบัตรของตัวเองไป

“นี่ค่ะ ” เธอส่งบัตรกลับคืนมา  ต่ายที่กำลังจะยื่นแบงค์พันสามใบให้  มือขาวของคนข้างๆก็ยื่นบัตรเครดิตสีทองอร่ามเสียก่อน

แคชเชียร์ลังเลไปแวบนึง  ก่อนจะรับบัตรเครดิตนั่นไปรูด

"อะไรเนี่ย” ต่ายถามอย่างงงๆ  ปกติไทกริสจะไม่ค่อยมายุ่งกับเริ่มหยุมหยิมแบบนี้ซักเท่าไหร่

คนถูกถามมองกลับราวกับไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด

ก่อนที่จะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ สาวแคชเชียร์ก็ยื่นใบมาให้เซ็นเสียก่อน


พอเสร็จ ก็หิ้วกันคนละไม้คนละมือจนไปถึงที่จอดรถ


เด็กโค่งเข้าไปนั่งในตำแหน่งคนขับ โดยให้ต่ายเป็นตุ๊กตายักษ์หน้ารถ เหมือนกับปกติ


“อืมมม  เย็นนี้กินอะไรดี”  ต่ายถาม 


ไทกริสมีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะตอบมาด้วยเมนูที่ต่ายอยากจะโขกกระจกรถตาย

เพราะมันยากมากกกกกกกกกก กอไก่พันล้านตัวเลยล่ะ

“อะไรก็ได้”


สุดท้ายก็มาจบลงที่ ไข่เจียวหมูสับกับหมูแดดเดียวที่ไปสอยมาจากห้าง


หลังจากอิ่มหน่ำสำราญกับมื้อเย็น ก็มาประจำที่เดิม เพื่อมาดูซีรี่ส์สุดโปรดของไทกริส

เป็นหนังแอคชั่นแนวสืบสวน  ยิ่งตอนที่ตัวเอกสืบหาคนร้ายเป็นอะไรที่ลุ้นที่สุด

พอเป็นช่วงพักโฆษณา ความรู้สึกหนังท้องตึงหนังตาหย่อยก็กำเริบ  ต่ายยืดตัวบิดขี้เกียจ

“โอยยย  พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วเหรอเนี่ยยยย”  ต่ายโอดครวญ เมื่อรู้สึกว่าวันหยุดกำลังจะหมดไป

จากที่นั่ง กลายเป็นต่ายที่เริ่มเลื้อยไปเกยตักคนตัวสูงเสียแทน    ดูท่าอีกฝ่ายจะสมยอมด้วยสิ ..

ต่ายเงยหน้าขึ้นก็ไปเจอกับสายตาคมที่จ้องมาทางนี้อยู่แล้ว

“นายมีเรียนวันไหนบ้างนะ” 

“จัน อังคารบ่าย พุธ พฤหัส ศุกเช้า”  อีกฝ่ายร่ายมา  ต่ายพยักหน้าก่อนจะนึกถึงตารางเรียนตัวเอง

“เออ พี่ไม่มีเรียนวันศุกแฮะ” ยิ้มแฉ่ง เพราะตัวเองจะได้หยุดยาวตั้งแต่ศุกร์ยันอาทิตย์  ส่วนอีกคนต้องไปเรียนช่วงเช้า

ไทกริสมองคนยิ้มแฉ่งอย่างเบิกบานใจ  เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มลงไปกดจูบปากนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว

“อือ” คนถูกประทุษร้ายดิ้น แต่เหมือนยิ่งดิ้น อะไรๆก็เหมือนจะเข้าล๊อค เลยกลายเป็นเขาที่แหงนหน้ารับจูบอีกฝ่ายแต่โดยดี

ไทกริสผละออก แลบลิ้นเลียที่มุมปาก ไม่รู้ว่าน้ำลายใครเป็นน้ำลายใคร


ต่ายหน้าร้อนผ่าว  ดันตัวเองจะลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ถูกแขนขาวๆของไทกริสะกดไว้สุดท้าย ก็นอนตักดูหนังเหมือนเดิม


พอซีรี่ส์ก็จบลง ซึ่งก็เป็นเวลาที่เด็กอนามัยอย่างไทกริสต้องนอน  ซึ่งก็เหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกบันทึกโปรแกรมเอาไว้


ร่างสูงเดินตรงไปที่ห้องของตน ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ



ส่วนต่ายที่ยังไม่ง่วง ก็ไปจัดอาหารเช้าอย่างคลับแซนด์วิช ที่อัดแน่นไปด้วยเครื่องอย่างไข่ แฮม ทูน่า และผักกรีนโอ๊ค

ใช้เวลาไม่นานคลับแซนวิชเกือบสิบชิ้นก็เรียงเป็นระเบียบอยู่ในกล่องทัพเพอร์แวร์  ก่อนจะเก็บเข้าตู้เย็นไป


กลับเข้าห้องมาอีกที กะไว้ว่าอยากจะนอนไว เพื่อที่จะได้สดชื่นรับวันเปิดเทอม ก็มาเจอเจ้าเด็กโค่งที่วันนี้ใส่เสื้อกล้ามตัวบางนอนกำลังนั่งใช้ไดร์เป่าผมอยู่

เขาเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปหา  ก่อนจะแย่งไดร์จากมืออีกคน

“เดี๋ยวเป่าให้”  ไทกริสยอมแต่โดนดี 

ผมสีน้ำตาลอ่อนที่อ่อนนุ่มราวกับขนแมวปลิวไสวไปตามแรงลมของไดร์ 


ต่ายรวบผมของไทกริสที่มา 1 จุก  ชะโงกหน้าเข้าไปดูหน้าตาอีกคน  ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาเสียไม่ได้

แบบนี้ก็ดูเหมือนพวกหนุ่มเซอร์เลย

“อยากตัดผมไหม?” ถามไป ใช้มือสางผมเส้นเล็กนั่นไปพลางๆ 

ไทกริสสั่นหัวดิ๊ก

“งั้นลองมัดผมมะ?  น่ารักดี”

“อยากให้เรามัดเหรอ” อีกฝ่ายถามขึ้น  ต่ายหัวเราะเบาๆ

“ก็แล้วแต่นายล่ะนะ  แต่พี่ว่านายมัดก็ดู  หล่อไปอีกแบบ”

“ถ้าต่ายอยากให้เรามัด เราก็จะมัด” 

“อ่ะๆ จะมัดก็มัด”  ยีผมนุ่มๆนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนจะจัดการเก็บไดร์ให้เข้าที่

“พี่ไปอาบน้ำก่อนนะ”  บอกเสร็จก็คว้าผ้าขนหนูพาดบ่าเข้าห้องน้ำไป


กว่าจะเสร็จ เด็กโค่งก็ไปเฝ้าพระอินทร์เรียบร้อย ในขณะที่ห้องยังสว่างโล่

ต่ายเอื้อมมือไปไปปรับโคมไฟให้สว่างน้อยสุด

ส่วนตัวเองก็กึ่งนั่งกึ่งนอนไถ่ไอโฟน รอให้ร่างกายง่วง

นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืน
พร้อมกับ โทรศัพท์ของไทกริสสั่นดังครืดๆ  ต่ายหันไปมองอย่างตกใจเบาๆ  ซึ่งเจ้าตัวก็ลืมตาขึ้น แล้วเอื้อมมือไปกดปิดอย่างชำนาญ

“กระต่าย~” เสียงแหบพร่าเพราะเพิ่งตื่นดังขึ้น

“หืม?”

“แฮปปี้ เบิร์ธเดย์นะครับ” ต่ายเบิกตากว้าง   มองใบหน้าหล่อที่ยังปรือๆ อย่างงงๆและตกใจ

วันนี้วันเกิดเขานี่หว่า

ครืดๆ ๆๆ ๆๆๆ  ๆๆๆๆ ๆๆ ๆ 


การแจ้งเตือนดังขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน  ก็คงไม่พ้นมาอวยพรวันเกิดนี่แหล่ะ


แต่ที่มากกว่านั้น  เจ้าเด็กโค่งนี่จำวันเกิดเขาได้
ในขณะที่เขาลืมวันเกิดตัวเองไปเสียสนิท



“อ้อ  ขอบคุณนะ  นี่ลืมไปเลยนะเนี่ย” ต่ายหัวเราะกับตัวเอง   


ไทกริสลุกขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามา  มอบจุมพิตที่แสนหวานและนุ่มนวล

ก้อนเนื้อที่อกซ้ายของเขาเต้นรัว ความรู้สึกหวานซ่าบซ่านอย่างที่ไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน


ไม่รู้ว่าเนิ่นนานเท่าไหร่ที่พวกเขาจูบอย่างกับโหยหากันและกัน.....

TBC......


------------------------------------------

BEVA TALK :  รู้สึกจะจูบบ่อยขึ้น  :hao7:   ระดับนี้ก็ได้แค่นี้แหล่ะ  จะให้ขึ้น :oo1:  คงจะไม่ใช่  ฮ่าาาาาาา
ตอนนี้คิดไม่ตกว่าจะแบ่งเป็นสองพาร์ทดี หรือสองตอนดี   สรุปสองตอนละกัน   :katai4:

ตอนหน้ายิ่งกว่านี้ค่ะ  บอกไว้ก่อนเลย    :hao3: 

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ ทุกบวกเป็ด  บีว่าอ่านทุกอันเลยค่ะ  รู้สึกมีกำลังใจในการแต่งมากๆ  ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะคะ   :pig4:



ขอความกรุณาติชมนิยายเรื่องนี้หน่อยนะคะ  อยากรู้ฟีดแบคจริงๆ  o13

รักทุกคนน๊าาา  :กอด1:





 



 




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
กริสน่ารักกอ่ะ ต่ายเสร็จแน่งานนี้

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
กริสนี่เสพติดการจูบกระต่ายไปเสียแล้ววววว

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
น่ารักกกกกกก ชอบมากเลน  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ว้าววว ไทต่ายน่ารัก

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กรี๊ดดดดดดดด มีโม้เมนต์จุ๊บสุขสันต์วันเกิดอ่ะ!!!
>\\\\\\\\\\<

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
ไทกริสน่ารักอ้ะ มีโมเม้นหวานๆตลอดเลย

ออฟไลน์ Supak-davil

  • สาว Y = Why I don't have a boyfriend ??????????
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เด็กน้อยกินแต่ปากพี่กระต่าย
แล้วเมื่อไหร่เขาจะได้ฟิจเจอร์ริ่งกันเนี่ย

ออฟไลน์ todiefor

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
นอกจากกินปาก ก็แบ่บอยากให้เค้าลองกินอย่างอื่นกันดูบ้างงงงงงง คุคุคุ

ออฟไลน์ mayomhwan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อย่าเอาแต่จูบสิคะะะะะะะะะะะะะ   ขอมากกว่านี้หน่อยได้ม๊ายยยย  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
หวานๆ ชอบจังครับ

ออฟไลน์ shishy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หวานน้ำตาลหกแล้วค่าาา

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ SuPeRDonGDanG

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พึ่งจะมีโอกาสได้เข้ามาอ่าน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
เรื่องนี้อ่านไปยิ้มไป
น่ารักดีค่ะ ทั้งพี่และน้องเลย
 :mew1:

มาอัพเร็วๆนะคะ

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
โอยตาย เพราะชื่อเรื่องเลยนึกว่ามาม่า พออ่านแล้ว ต๊ายยยยยยย.....มีความน่าเอ็นดู มีความโชตะค่าา

ออฟไลน์ bevobova

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
บทที่ 24   ป่วนๆ  ณ วันเกิด




วันเกิด สำหรับต่ายก็ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น  คงเป็นเพราะวัยขนาดนี้ จะให้มาลัลล๊ากับวันเกิดก็คงดูไม่ได้เท่าไหร่

อันที่จริงๆ ทุกครั้งที่ถึงวันเกิดของเขา คนรอบตัวเขากลับตื่นเต้นมากกว่าตัวเขาเองเสียอีก  และทุกปี คุณแม่สุดที่รักก็จะมาปลุกตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่  แล้วก็กระเตงกันสองแม่ลูก ฝ่ารถติดเพื่อไปวัดที่อยู่โคตรจะห่างจากบ้านไปหลายกิโล


แต่ในปีนี้  แทนที่จะมีเสียงปลุกของแม่หรือฟังเสียงพระสวด 
กลับเป็นเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างเป็นจังหวะของคนที่นอนอยู่ข้างๆแทน  ...


น่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่เขาตื่นก่อนเจ้าเด็กโค่ง


คงเป็นเพราะเมื่อคืนตื่นมากลางดึกน่ะสิ ..



พอนึกถึงเรื่องเมื่อคืนก็อยากจะทึ้งหัวตัวเอง





หลังจากที่จูบดูดวิญญาณเสร็จ ด้วยอารมณ์ที่พลุ่นพล่านตามวัยคะนอง  ต่ายคิดในใจแล้วล่ะว่าอาจจะมีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่ๆ  ขนาดเขายังรู้สึก เจ้าเด็กโค่งก็คงไม่ต่างกัน  ครั้นพอจะปลุกอารมณ์หื่นอีกครั้ง ก็สังเกตว่า  อีกคนก็นิ่งแปลกๆไป
จนได้มองหน้าเต็มๆ  เขาก็ต้องเงิบขนาดหนัก

เพราะอีกคนแบตหมดไปแล้วครับ ….

พาวเวอร์แบงค์อยู่ไหนนนนนนนนนนนนน  !!!!


ต่ายแทบจะจับอีกเขย่าๆให้ตื่น แล้วตะโกนใส่หน้าว่า ให้มารับผิดชอบกันหน่อย

มาให้อยากแล้วจากไป .... 

แล้วจะทำไงได้ล่ะ นอกเสียจาก   

โลกสวยด้วยมือเรา .....

ช่างเป็นวันเกิดที่น่าอนาถใจเสียจริง




ต่ายถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า


ทางฝั่งอีกหนึ่งชีวิตในห้องนอน

ร่างสูงโปร่ง พอได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำก็ลืมตาโพลง  แล้วลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ ก่อนจะปรี่เข้าไปที่ห้องครัวอย่างรวดเร็ว


วันนี้วันเกิดของกระต่าย  เขาก็อยากจะเซอร์ไพร์สอะไรเล็กๆน้อยๆ อย่างทำมื้อเช้า ....


แม้จะไม่ถนัดเรื่องนี้ซักเท่าไหร่  แต่เพื่อคนคนนี้เขาจะพยายาม
หลังจากศึกษาการทำเมนูนี้อยู่ซักพักใหญ่ ก็เริ่มลงมือทำ

อันที่จริงตอนอยู่ฮังการีก็ใช่ว่าจะไม่เคยเข้าครัว มันก็พอหยิบจับอะไรได้บ้างแหล่ะ

มื้อเช้าวันนี้ เขาตั้งใจจะทำไข่คนกับขนมปังปิ้ง   อาหารเช้าสไตล์ยุโรป

ไทกริสตอกไข่ใส่ถ้วยก่อนจะผสมนมพริกไทยและเกลือลงไปใช้ส้อมคนๆให้เข้ากัน  ก่อนจะหันไปหยิบขนมปังแผ่นเข้าที่ปิ้งขนมปังให้เรียบร้อย


นัยน์ตาคมยืนจ้องหน้าเตาไฟฟ้าอย่างครุ่นคิด  มันทำงานอย่างไรกัน?..

กดปุ่ม ON แล้วแต่กลับไม่มีความร้อนใดๆ  แล้วอย่างนี้ไข่จะสุกได้อย่างไร   แถมยังส่งเสียงเตือนออกมาอย่างน่ารำคาญอีก   

แต่พอวางกระทะลงไปเสียงก็เงียบลง

ไทกริสถอนหายใจอย่างโล่งใจ  พลางเอามือแตะที่กระทะ ก็ต้องเฮือกเพราะความร้อน

สายตากวาดหาเนยอย่างเร่งรีบเพราะกลุ่มควันเริ่มออกมา  พอใส่เนยเท่านั้น เสียงซู่ก็ดังลั่น แถมด้วยกลิ่นไหม้จางๆอีกต่างหาก  จนต้องยกกระทะออกหนีทันที

พอเหตุการณ์เริ่มสงบลง เขาก็จัดการวางกระทะไว้ที่เดิม แล้วเทไข่ที่อยู่ในถ้วยลงไป ใช้ส้อมคนจนเริ่มเป็นก้อนๆ แล้วรีบกดปิดเตา 


“ทำอะไรน่ะ?”  ต่ายที่เอ่ยถามอย่างงุนงง  คนที่น่าจะนอนอยู่ที่เตียง ในตอนนี้กลับเข้าครัวทำกับข้าว


พระเจ้า นี่เขากำลังฝันอยู่ใช่ไหม ...


“ทำข้าวเช้า”  ไทกริสตอบพลางวางจานไข่คนกับขนมปังปิ้งไว้ให้พร้อม  พลางพยักเพยิดให้ต่ายที่ยังยืนงงอยู่มานั่งที่

“เอ่อ ขอบใจนะ” นั่งตัวเกร็ง ก่อนจะมองอาหารตรงหน้า


 ไข่คนรึเปล่า?   น่าตาก็หน้ากินอยู่ แต่รสชาตินี่สิ .....

ตักเข้าปากด้วยหัวใจที่เต้นอย่างลุ้นไปด้วย  พอเหลือบตาขึ้นมองเจ้าเด็กโค่งที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆโต๊ะด้วยสายตาลุ้นไม่แพ้กัน



อืมม

เค็มว่ะ....


แต่มองสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังสูงสุดจากเด็กโค่งหน้านิ่ง จึงทำได้แต่ยิ้มแกนๆ แล้วพูดว่า

“อร่อยดีนะ  แต่เค็ม(มาก)ไปหน่อย” แน่นอน คำว่ามาก  ต้องกลืนลงคอพร้อมกับไข่เค็มนั่น

“แล้วนายไม่กินเหรอ” 

อีกฝ่ายส่ายหน้า

“ไปอาบน้ำก่อน” ว่าแล้วก็ออกจากห้องครัวไป  ปล่อยให้คนอายุมากกว่านั่งอยู่กับจานไข่คนอันแสนอร่อย

ว่าแต่ ... แล้วคลับแซนวิสที่เขาอุตส่าห์ทำไว้ล่ะ ??


ไทกริสกลับเข้ามาทีด้วยสภาพชุดนักศึกษาเต็มยศ  ต่างจากต่ายที่ใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์  ส่วนเสื้อช๊อปพาดบ่าไว้

เขาย่นคิ้วลง มองอีกคนที่นั่งกินข้าว แต่ปริมาณดูไม่พร่องลงไปเลย
 
“กระต่าย”

“หืม!”  คนนั่งเขี่ยเศษเปลือกไข่อยู่ เงยหน้าขึ้นทันใด

“ไม่อร่อยเหรอ” ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนลง   ต่ายรีบจ้วงไข่คน พลางกัดขนมปังปิ้งเต็มปาก

“อย่อยย”  ยิ้มแก้มปริ น้ำตาปริ่ม เพราะรสชาติอันแสนวิเศษ แถมยังเป็นฝีมือของไทกริส ที่ร้อยวันพันปีที่ไม่เคยทำแบบนี้ให้  อย่างน้อยต้องไม่ทำให้เสียกำลังใจ

ไทกริสมองอีกคนที่นั่งเคี้ยวจนแน่ใจแล้ว ก็เปิดตู้เย็น ก่อนจะสะดุดที่กล่องคัพเพอร์แวร์ ที่ข้างในมีแซนวิสเต็มกล่อง





“กระต่าย”

“อื๋อ?”

“อยากได้อะไรเป็นของขวัญเหรอ”  ในขณะที่รอไฟแดง  ไทกริสที่ละสายตาจากข้างหน้าหันมาถามต่าย ที่ยังคงอืดๆกับอาหารชุดพิเศษอยู่ 

เพราtหลังจากกินหมด เขาต้องกระดกน้ำไป 3 แก้วเต็มๆ

“อืมม  ไม่รู้สิ  ซื้ออะไรมาก็รับหมดแหล่ะ” ยิ้มกว้างแล้วตบปุๆลงที่กลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนนั่นเบาๆ

“อือ”  ว่าแค่นั้น แล้วพ่อคุณก็เงียบไป  จนถึงหน้าคณะวิศวฯนั่นแหล่ะ

“กระต่าย  ตั้งใจเรียนนะ”  ต่ายหลุดขำทันที หลังจากได้ยินประโยคนี้

นี่ใครเป็นพี่เป็นน้องกันแน่นะ ???

“นายก็ด้วย  ไอ้เด็กบ้า” จุ๊บเหม่งขาวๆหนึ่งที เป็นการขอบคุณที่ขับรถมาส่ง 

แต่ถ้า ยอมแค่นั้น ก็ไม่ใช่ไทกริส

อีกคนชี้มาที่ปาก    ต่ายกลอกตากับเด็กโลภมากคนนี้ 

เพี๊ยะ !

ตีเบาๆที่ปากนั่น  ก่อนจะรีบลงจากรถ

“ติดไว้ก่อนแล้วกันเนอะ”  หัวเราะร่าแล้วก็รีบวิ่งหนี

ไทกริสมองอีกฝ่ายจนลับสายตา ก็ออกรถเพื่อที่คณะตัวเองบ้าง


“โอ๊ะๆๆ มันมาแล้วๆๆ”
เสียงมาก่อนที่ต่ายจะเดินไปถึงเสียอีก

“เป็นไรกัน” มองเหล่าผองเพื่อนที่ทำตัวลับๆล่อๆด้วยสายตาเหมือนเห็นสิ่งประหลาด 

“สุขสันต์วันเกิดนะมึงง อ่ะนี่  ของขวัญจากพวกกูรวมเงินซื้อกัน”  เอกยื่นถุงสีแดงชื่อห้างห้างหนึ่ง  ในถุงมีกล่องกระดาษ 1 กล่อง
ต่ายมองกล่องรองเท้ายี่ห้อนันXX

สัญญาณเตือนดังในหัวเขาอย่างรวดเร็ว 


ไอ้พวกนี้ไม่ได้มาดีๆแน่


พอเปิดเท่านั้นแหล่ะ ก็รู้ซึ้ง

เซ็กส์ทอย  เจลหล่อลื่น ถุงยาง 


“ไอ้เหี้ย”  ทั้งสามต่างหัวเราะลั่น แถมยังมีการเอามือไปโจ๊ะกันอีก

“สนุกมากมั้ง”   ต่ายรีบเก็บของใส่ถุง  มองเพื่อนที่เอาแต่หัวเราะอย่างไม่เกรงใจชาวบ้านชาวเมือง


เปิดเทอมวันแรก ต่ายก็เจอของยาก อย่างอ.สุชาดา เจ้าเก่า  โปรเจ็คเน้นๆ สั่งตั้งแต่ต้นเทอม  มีทั้งงานกลุ่มและงานคู่

แต่ดีหน่อย ที่วิชาตอนบ่าย อาจารย์เข้ามาเช็คชื่อ พูดคุยกันนิดหน่อยแล้วก็ปล่อยไป

พวกเขาแทบจะวิ่งออกมาอย่างกับเจอทุ่งหญ้าสะวันนา   

คุยไลน์กับไทกริส  อีกฝ่ายยังเหลืออีก 2 ชั่วโมงถึงจะปล่อย  พวกเขาเลยตกลงกันว่าจะไปหาอะไรกินที่โรงอาหารกันก่อน
 
พอกินเสร็จ ก็ไปจับเจ่ากับอยู่ใต้คณะวิศวะกัน  คุยเรื่องงานกลุ่มกันนิดหน่อย


นิดหน่อยจริงๆ เพราะนอกนั้นออกทะเลล้วนๆ


จนกระทั่ง ...


“เฮ้ยยยย”  ป๊าบบบ!!!

 เสียงที่คุ้นหูในอดีตกับแรงตีที่หนักหน่วงจนไหล่แทบทรุด  ต่ายหันขวับมองผู้กระทำทันที

ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มแฉ่งรอ….

นัยน์ตาสีเข้มเบิกกว้าง มองคนตรงหน้าอย่างเหวอๆ

“อ้อน!!!!”

“ถั่วต้มมม” ร่างเล็ก หน้าหมวยในชุดเสื้อยืดกับกางเกงสกินนี่  ผมยาวสีเทาควันบุหรี่ ดูเข้ากับหน้าที่แต่งซะเฉี่ยว ชนิดดาราเกาหลีต้องชิดซ้ายให้เธอคนนี้

'อ้อน'  เพื่อนคนแรกในสมัยมัธยม ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขมา 6 ปีเต็ม เหมือนกับแชมและกานต์นั่นเอง

“เดี๋ยวววววว ไม่เจอกันนาน เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ”  ต่ายมองตั้งแต่หัวจรดอย่างอึ้งๆ   ยัยทอมในสมัยมัธยม เป็นสาวเปรี้ยวในทันใด

“สวยใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ” ถ้าเป็นอ้อนคนก่อน   คงไม่พูดคำนี้แน่ๆ  ต่ายพนันได้เลย

“นั่งก่อนๆ”  ต่ายตบลงตรงที่ว่าง  หญิงสาวรีบนั่งทันใด  ก่อนจะมองรอบโต๊ะด้วยสายตาระริกระรี้

“แชมมึงก็รู้เหรอ” ต่ายถามแชมที่ดูไม่ตกใจอะไรกับเพื่อนสาวคนนี้

“ฮ่าๆๆ กูนัดเจอกับมันเป็นสิบรอบแล้ว  แต่ไม่บอกมึงเอง”  อ้อนยักคิ้วให้จึกๆ

 “เออ อ้อน   นี่แกน  ส่วนนี่ เอก    พวกมึงนี่อ้อน  เพื่อนสมัยมัธยมของกูกับแชมแล้วก็กานต์ด้วย” เอกยิ้มทักทาย ส่วนแกนที่รับมือกับคนประเภทนี้ไม่ค่อยถูกแต่พยักหน้าให้

“แล้วกานต์ล่ะ ไปไหน?”  อ้อนหันซ้ายขวาถามหาเพื่อนอีกคน

“เรียนคนละคณะกัน จำไม่ได้เรอะ” ต่ายพูด

“อ้อ เออใช่ มันเรียนนิเทศนี่หว่า” 

“มันเรียนบริหารต่างหาก” แชมแก้ให้  อีกคนทำหน้าเหวอๆ ก่อนจะหัวเราะดังลั่นอย่างกลบเกลื่อน

ถึงภายนอกจะเปลี่ยนไป  แต่นิสัยเดิมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

“กูจะเจอไอ้กานต์ไหมเนี่ย   กูจะแกล้งมัน  แชมมันเล่าให้กูฟังแล้ว เรื่องมึงอ่ะต่าย”  อ้อนพูดถึงเรื่องเมล่อน
แต่พวกเขาก็แทบไม่ได้ได้คิดอะไรแล้ว

“เดี๋ยวก็คงออกมามั้ง”

“หึหึ เสร็จแน่” อ้อนบอกอย่างหมายมั่น  เหล่าสุภาพบุรุษทั้งหลายิ้มแห้งๆให้ อย่างเป็นกำลังใจให้


สุดท้ายก็ต้องพาคุณเธอไปรอแถวคณะบริหาร  จากการติดต่อแล้วกานต์กำลังเลิกพอดี  ต่ายก็เลยถือโอกาสมารอไทกริสด้วยซะเลย

พวกเขามารอตรงแถวลานประจำคณะบริหาร

“มันออกมาละ” แชมพูด พลางพยักเพยิดไปทางกานต์ ที่เห็นลิบๆอยู่หน้าคณะ

“อีก๊านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!”  หญิงสาวเพียงคนเดียวแหกปากเรียกชื่อลั่น ก่อนจะมาหลบหลังเอกที่ตัวใหญ่ที่สุด   ซึ่งก็บังซะมิดจริงๆ


คนโดนเรียก พร้อมทั้งคนอื่นๆ ต่างสะดุ้งกับน้ำเสียงระดับแปดหลอดของอ้อน

กานต์หันซ้าย หันขวา ก่อนจะทำสีหน้างุนงงมาทางพวกเขา

พออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ๆ   ร่างเล็กที่หลบอยู่ข้างหลังเอก ก็โผล่พรวดออกมา

“แบร่!!”  แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ กานต์ที่มองอย่างตะลึงๆ

“ตกใจล่ะสิ”   หัวเราะคิกคัก ก่อนจะยืนเท้าสะเอว ภูมิใจกับผลที่ได้

“ใคร?” แต่แล้ว คำถามนี้ ก็ทำให้อ้อนตกเป็นฝ่ายตกใจเสียเอง

“นี่มึง ล้อกันเล่นใช่ปะ”

“นี่ใครวะ” หันไปถามคนอื่นๆ พลางชี้มาทางหญิงสาวตัวเล็กในวง

“อีกานนนนนนนนนนนนนน  ถ้ามึงเล่นงี้กู โกรธมึงแน่” อ้อนว่าเสียงแข็ง

“ผีอะไรเข้าสิงเนี่ยอ้อน” กานต์หัวเราะในลำคอ ก่อนจะหันมาถาม

“ไม่มีผีตัวไหนหรอก  กูก็แค่อยากเปลี่ยนตัวเอง” อ้อนงึมงำ 

“ใครวะ มาเปลี่ยนทอมให้เป็นเธอได้เนี่ย ฮ่าๆ”  ต่ายหัวเราะก๊าก ก่อนจะโดนหมัดเล็กๆซ้ำรอบที่โดนตีไหล่ไป

“ครบองค์แล้ว  จะไปเลี้ยงไหนปะ” อ้อนถามด้วยสายตาวิบวับ 

“น้ำลายย้อยแล้ว” แชมว่าอย่างหยอกๆ แต่อีกคนทำตาเหลือกใส่แล้วปาดมุมปากอย่างระมัดระวัง 

“ไม่เว้ย”

“ย----” ต่ายที่กำลังจะอ้าปากพูด แต่ก็โดนขัดเสียก่อน

“ยังไม่ครบ รอเด็กต่ายมันก่อน”  เอกพูด ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์มาที่ต่าย   อ้อนสายตาวิบวับด้วยความอยากเสือกขั้นสูงสุด

“ห๊ะ เด็กม---  มึงงง ผู้ชายคนนั้นโคตรวิ้งค์อ่ะ”  อ้อนรีบชี้ไปที่ร่างสูงที่คุ้นตาคนนึง

นั่นก็คือไทกริสนี่เอง

“กานต์ๆ  นั่นใครอ่ะ เค้าออกมาจากคณะมึง  รู้จักไหมๆ” กานต์กลอกตาอย่างหมดคำพูด  ก่อนจะโยนไม้ต่ายรับ

“ถามต่ายมันดู”

“หา???  มึงรู้จักเหรอ”

“นี่แหล่ะ เด็กมัน” เอกขยิบตาให้    อ้อนเบิกตากว้าง  นิ้วเรียวสั่นๆชี้มาทางต่ายก่อนจะชี้ไปทางไทกริสที่กำลังเดินเข้ามา

“ฮรืออออ หล่ออ่ะ  คนข้างหลังก็หล่ออออ   อร๊ายยยย ><”  ทำจริตเขินอายม้วนอย่างเว่อร์วัง   ต่ายโคลงหัวอย่างเอือมๆ


ไทกริสและเพื่อน เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้างุนงงขั้นสุด ซึ่งตัวการก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล

“น้องๆชื่ออะไรอ่ะ  พี่ชื่ออ้อนนะคะ ส่วนนี้ไลน์---  อื้อออ”  ก่อนจะได้แจกไลน์ให้เด็กหนุ่มทั้งสาม ก็ถูกกานต์หิ้วคอไปเสียก่อน

“น้องเขากลัวมึงหมดแล้ว”
 
“เอ่อ นี่อ้อน เพื่อนพี่เอง”  ต่ายพูดเนิบๆ

“อ้อ สวัสดีครับ” โจและฟรานต่ายก้มหัวทักทายอย่างมีมารยาท  ส่วนเจ้าเด็กโค่งของต่าย ที่ยังกั้นอาณาเขต ได้แต่ผงกหัวให้นิดๆ แล้วเดินมาต่าย

“เอ้อ พี่ต่าย  พวกผมไม่รู้ว่าวันนี้วันเกิดพี่  เลยซื้อของขวัญให้ไม่ทัน  แต่ผมเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นมา  เอาขนมนี่ไปก่อนนะ”  โจยื่นกล่องขนมหน้าตาน่ากินมาให้

“ขอบใจ  ที่จริงของขวัญไม่ต้องก็ได้” 

“อยากมาอยู่ที่นี่จัง  มีแต่อาหารตา”  อ้อนพูดอย่างเพ้อๆ  ถ้าเป็นการ์ตูนตาคงขึ้นรูปหัวใจแน่ๆ

“กูเริ่มขนลุกกับเวอร์ชั่นนี้ของมึงนะ”  ต่ายลูบแขนตัวเอง มองเพื่อนตัวเองอย่างหวาดๆ

“พูดงี้ ไม่ต้องเอานะ ของขวัญอ่ะ”  อีกฝ่ายยึดถุงที่ถือมามากอดแน่น  อย่างกับเด็กหวงของเล่น

“แหม โทษๆ”



เนื่องด้วยทั้งต่ายและคนอื่นๆมีเรียนพรุ่งนี้กันหมด ดังนั้นงานเลี้ยงวันเกิดของต่ายเลยรวบยอดไปวันศุกร์แทน  คนมาไกลอย่างอ้อน เกิดอาการเสียดายอย่างเห็นได้ชัด  แต่เจ้าตัวจะเข้าใจอะไร  เพราะมหาวิทยาลัยของคุณเธอเปิดอาทิตย์หน้า 

พอให้ของขวัญกันเสร็จ ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

เด็กโค่งที่ปกติเป็นคนไม่ค่อยพูดอยุ๋แล้ว  พอมีอ้อนเข้ามา ไทกริสเลยกลายเป็นคนใบ้ไปโดยปริยาย  แม้จะรู้กันไม่นาน แต่เพราะความเฟรนลี่สุดๆ ของอ้อน ทำให้สนิทกับคนอื่นได้ง่าย   แม้หล่อนจะมาหยอดๆไทกริสบ้าง  แต่เจอความมึนบวกความเงียบเข้าไป ก็ต้องยอมถอยทัพ แล้วไปหยอดเพื่อนของไทกริสแทน



พอเปิดประตูเข้ามา บรรยากาศสลัวๆด้วยแสงเทียนเล่มน้อย   ความรู้สึกแว่บเข้ามาว่า เจ้าเด็กโค่งต้องคิดอะไรแผลงๆไว้แน่

ต่ายเดินไปตัวยังอักษรที่เรียงเป็นทางจนถึงห้องครัว รวมแล้วได้คำว่า

  HAPPY BIRTHDAY TO MY RABBIT

ต่ายรู้สึกร้อนๆที่แก้ม กับความว่า My rabbit มาก 


แต่ว่าเขาไม่ใช่ กระต่ายที่เป็นสัตว์ซะหน่อย 

แต่การถกเถียงเรื่องนี้ ก็เหมือนเป็นการ คุยเรื่อง ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนนั่นแหล่ะ


“นายทำเอง?”  ถามเสียงเบา เพราะยังตะลึงไม่หาย

ไทกริสที่เดินตามหลังมา ส่ายหัวดิ๊ก

“ให้พี่ริชช่วย”  ต่ายยิ้มให้ ก่อนจะลูบหัวของไทกริสเบาๆ  เป็นการขอบคุณเบาๆ

“ขอบใจมากนะ”

“อือ”

พอเดินไปที่โต๊ะกินข้าว บรรยากาศแบบภัตตาคารหรูก็แว่บเข้ามา 

ต่ายนั่งลงช้า อีกคนก็นั่งตาม ก่อนเด็กโค่งจะเป็นฝ่ายเปิดฝาครอบขึ้น  สเต็กเนื้ออะไรซักอย่าง กลิ่นหอมของเครื่องเทศ ยั่วยวนต่ายอย่างยิ่ง   


เหลือบมองไทกริสที่ลุกขึ้นไปหยิบไวน์ ที่แอบไว้อยู่ในตู้ออกมา  ต่ายผงะไปชั่วครู่  มองเจ้าเด็กโค่งที่รินไวน์ใส่แก้วให้อย่างชำนาญอย่างกับมือโปรมาเอง

รสชาติไวน์ที่หอมนุ่มลิ้น กลมกล่อม หวานนิดๆ   ตัดกับรสชาติของสเต็กเนื้อที่ชุ่มช่ำด้วยซอสเกรวี่ 

เอาจริงๆ ต่ายไม่เคยมีโอกาสได้ทานอาหารแบบนี้ซักเท่าไหร่ อับดับแรกคือ มันแพงเกิน
 
พอได้มาเห็นไทกริสทำให้แบบนี้ เขาชักรู้สึกเกรงใจน้านีและลุงอาธ   ไม่อยากให้ไทกริสต้องช่ายอะไรฟุ่มเฟือย


คงต้องสอนหน่อยแล้ว~

   


แต่คงต้องเป็นคราวหน้านะ ....


เพราะ ตอนนี้...



สเต็กมันอร่อยมากกกกกกกกก



TBC
-----------------------------

BEVA TALK :  ตอนพิมพ์ไป ท้องก็ร้องไปค่ะ  อยากกินเนื้อ  จริงๆ นิสัยหลายๆนิสัยของตัวละครก็มาจากบีว่านี่แหล่ะค่ะ 555555

เอามาเสิร์ฟแล้วนะคะกับตอนนี้  จะเที่ยงคืนอีกล้าว T^T  ใครจะมาเฝ้านิยายของบีว่าบ้างเนี่ยยยยย ????

ขอบคุณวำหรับทุกเม้นท์ ทุกบวกเป็ดนะคะ  รักทุกคนโลยยยยย  :pig4: :pig4: :pig4:


คิดเห็นอย่างไรกับตอนนี้ ติชม/ด่า คนแต่งได้ที่นี่   *พับเพียบรอ*


//// ตอนต่อไป  เอามาแปะไว้นิดนึง

“ขอบคุณมากๆเลยนะวันนี้  พี่มีความสุขมากเลยล่ะ”  รอยยิ้มสดใสเหมือนดั่งดวงอาทิตย์ฉายชัดบนใบหน้าของต่าย   
แต่เหมือนจะเป็นการไปจุดปุ่มรีเซ็ตอะไรเข้า  เพราะเจ้าคนที่เอาแต่นอนนิ่งกลับพลิกตัวเขาให้ไปอยู่ข้างล่างแทน
ก่อนจะพรมจูบตั้งแต่ขมับไล่มาที่พวงแก้ม กกหู จนไปถึงซอกคอ  ขบเม้มแรงๆ จนต่ายสะดุ้งกับความเจ็บ  แต่ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายทำต่อไป

คงเป็นเพราะไวน์ที่กินไปแน่ๆ   
ความร้อนวูบวาบยามที่ไทกริสสัมผัส   ยิ่งทำให้ต่ายครางในลำคอ

นิ้วเรียวของไทกริสปลดกระดุมเสื้อนอนของคนใต้ร่างที่มองมาทางเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม 

ไม่รู้ว่าเพราะไวน์หรืออย่างอื่นกันแน่ .......

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

เผ่นค่ะะะะะะะะ




ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
อย่าให้เจอตัวนะคะคนเขียน เดินตลาดก็ระวังๆนะ 55

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ชาร์ตแบตหรือยังจ๊ะ?อิอิอิอิ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เปนงานวันเกิดแสนเรียบง่าย และอบอุ่น ^^
พับเพียบรอตอนหน้าเช่นกัน 55555

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด