Heartless แค้นนี้...มิอาจห้ามรัก
ตอนที่ 15
น้อยใจและหวง
‘เล่นกับความรักน่ะ มันไม่สนุกหรอกนะครับเจ้าจอม’
เสียงของอินทัชยังดังอยู่ในหัวของเจ้าจอมซ้ำไปซ้ำมาจนปวดหัวไปหมด...อยากรู้ว่าทำไมอินทัชถึงได้พูดแบบนั้น อยากรู้ว่าทำไมอินทัชพูดเหมือนรู้ออกมาอย่างนั้น
สิ่งที่เจ้าจอมรู้นั่นคืออินทัชเป็นคนดี...
แต่ก็เพิ่งจะมารู้เอาตอนนี้เหมือนกันว่าอินทัช...เป็นคนที่น่ากลัว น่ากลัวมากๆ เลยสำหรับเขา
“อะไรคือการเล่นกับความรักนะ...”
ร่างบางเดินไปตามทางซึ่งเป็นเส้นทางที่พาเขาไปที่สำนักงานเพื่อลงเวลาเข้างาน เดี๋ยวโดนพี่ชายหักเงินเดือน...เพราะเจ้าจอมเป็นถึงน้องชายของเจ้าของรีสอร์ท การเข้างานส่ายถือเป็นสิ่งไม่สมควร จะถูกหักเงินเดือนมากกว่าเป็นพิเศษ และไม่มีการรับฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าจะเข้างานช้าต้องบอกล่วงหน้า...นั่นคือสิ่งที่รามินทร์กำหนดให้กับเจ้าจอม
“สวัสดีค่ะคุณจอม”
“สวัสดีครับ” เขาทักทายพนักงานที่เดินตามทางเดินบ้างสวนกันบ้างไปทางเดียวกัน
เขาเดินเข้าห้องทำงานไปแล้วสแกนนิ้วมือลงเวลางานก่อนเวลาแปดโมงเช้าประมาณสิบนาที ร่างเล็กเดินไปนั่งประจำโต๊ะของตัวเองแล้วเริ่มทำงานในส่วนที่รามินทร์เร่งให้เสร็จก่อน
Rrrrrr
“ฮะพี่ราม” เขารับดทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงสุภาพ
(เดี๋ยวพี่จะออกไปข้างนอก กลับประมาณสิบโมง ตอนนั้นเอาบัญชีมาให้พี่นะ)
“ได้ฮะพี่ราม...”
เจ้าจอมวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างมือแล้วลงมือทำงานที่ได้รับมอบหมายต่อไป โดยที่พยายามสลัดคำพูดของอินทัชออกไปจากความคิดด้วย
“ตามนี้เลยฮะพี่ราม...ถ้ามีอะไรดูแปลกไป พี่รามรีบบอกเลยนะ” มือเล็กยื่นแฟ้มข้อมูลบัญชีที่พิมพ์ออกมาให้รามินทร์ตรวจสอบไปยังเจ้าของรีสอร์ทที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“อืม...พี่ขอดูแป๊บนะครับ”
“ฮะ…”
“เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับเจ้าจอม ตอนเช้าเรายังดูอารมณ์ดีอยู่เลย ทำไมตอนนี้ทำหน้าเครียดๆ ล่ะครับ” รามินทร์ที่สังเกตเห็นความผิดปกติของลูกพี่ลูกน้องหนุ่มก็เอ่ยปากถามอย่างนึกห่วง
“เปล่าฮะ จอมแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไม่มีอะไรสำคัญหรอกฮะ”
“แน่ใจนะ มีอะไรบอกพี่ได้”
“ไม่มีจริงๆ ฮะพี่ราม”
“ถ้าอย่างนั้นจอมไปพักดีกว่าไป เดี๋ยวพี่จะตรวจอีกสักพัก ถ้ามีอะไรผิดปกติหรือผิดพี่จะไปหาที่ห้องนะ” รามินทร์อยากให้น้องชายพักเลยเสนอให้เจ้าจอมไป ซึ่งคนเป็นน้องก็พยักหน้าจำยอม...
“ฮะพี่ราม งั้นจอมขอตัว”
“ครับ”
เจ้าจอมเดินออกจากห้องทำงานของรามินทร์แล้วตรงออกไปยังด้านนอก ก่อนจะตรงไปยังไซต์งานเพื่อที่จะได้เห็นหน้าจุลจักร เผื่อจะอารมณ์ดีกว่านี้
แต่เมื่อไปถึงเขากลับได้เห็นภาพบาดตาบาดใจ...คนที่เจ้าจอมชอบกำลังรับของบางอย่างจากหญิงสาวคนหนึ่งด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่จักร แก้วทำกับข้าวมาให้จ้ะ ลองกินดูนะจ้ะ ฉันทำมาสุดฝีมือเลย”
“ขอบใจนะแก้ว พี่จะกินมันให้หมด ไม่ให้เสียน้ำใจเลยล่ะ”
อะไรก็ไม่น่าเจ็บใจเท่าที่จุลจักรยินดีที่จะรับมันแล้วยิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สาเลยว่าผู้หญิงกำลังให้ท่า เรียกสั้นๆ ว่าอ่อยนั่นแหละอยู่...
“ถ้าพี่ชอบ พรุ่งนี้ฉันจะทำมาอีกนะจ้ะ”
“เอาเวลาว่างทำอาหารให้ผู้ชายไปทำงานดีกว่าไหม!!”
“ค่ะ คุณจอม” สองเสียงหนุ่มสาวเรียกชื่อของคนที่พูดขึ้นมาขัดด้วยน้ำเสียงที่ติดจะไม่พอใจอย่างนึกกลัว...
“ที่นี่ก็มีบริการอาหารให้กับคนงานอย่างดี...แล้วที่เธอทำมาใช้ของที่ไหนทำ ของที่บ้านตัวเอง หรือของโรงครัว” เจ้าจอมถามด้วยน้ำเสียงและสีหน้าหาเรื่อง
“ค่ะ คือแก้ว...แก้วใช้ของครัวค่ะ”
“หึ...ของทุกอย่างมีต้นทุน มิน่าล่ะ ค่าใช้จ่ายของรีสอร์ทถึงได้เยอะนัก เพราะมีคนงาน พนักงานเอาของของรีสอร์ทมาใช้ส่วนตัวนี่เอง” ที่พูดมามีส่วนเป็นจริง เจ้าจอมไม่ได้หาเรื่องเพราะเหตุผลส่วนตัวอย่างเดียว แต่ค่าใช้จ่าของรีสอร์ทมันเพิ่มมากขึ้นจริงๆ
“ข่ะ ขอโทษค่ะคุณจอม แก้ว…แก้วจะไม่ทำอีกแล้วค่ะ”
“เอ่อ...คุณจอมครับ อย่าตำหนิแก้วนักเลยครับ แก้วคงทำไปด้วยความไม่รู้” จุลจักรช่วยพูดขึ้นมาทำเอาทั้งสองหันไปมองเป็นตาเดียว หญิงสาวมองด้วยความขอบคุณและซึ้งใจ และคิดไปไกลว่ากำลังช่วยปกป้องเธออยู่ ส่วนเจ้าจอมมองด้วยความโมโหที่จุลจักรพูดช่วยผู้หญิงคนนั้น ทั้งๆ ที่ทำผิด
“เรื่องพวกนี้ไม่ต้องมีใครบอกก็ควรรู้เอาไว้ ถ้าเธอทำ แสดงว่ามีคนอื่นก็ทำด้วย ถ้าอย่างนั้นเธอไม่กล้าทำหรอกจริงไหม!”
เจ้าจอมกำลังโมโหและโกรธ ทั้งอยากจะร้องไห้ออกมาที่คนซื่อบื้ออย่างจักรไม่เข้าใจอะไรเลย แถมยังมองว่าเขาเป็นคนใจร้ายอีกด้วย
“ฮึก...ก่ะ แก้ว ข่ะ ขอโทษค่ะ แก้วจะไม่ทำอีกแล้ว ฮึก” เธอร้องไห้ออกมาเพราะกลัวน้ำเสียงที่ติดดุของเจ้าจอมที่สำคัญมันยังดังขึ้นเหมือนตะคอก
ทางด้านจักรเองที่มองอยู่ก็นึกสงสาร เลยช่วยพูดเท่าที่ช่วยได้
“คุณจอม...อย่าว่าแก้วนักเลยนะครับ ผมก็รับมายังไงผมก็ขอโทษแทนน้องมันด้วย”
เจ้าจอมมองหน้าร่างสูงแล้วเม้มปากแน่น...
ทำไมถึงไม่มีใครเข้าใจเขา...เขาแค่ทำตามหน้าที่เพราะรู้ต้นตอของการทำให้ค่าใช้จ่าของรีสอร์ทมันเพิ่มมากขึ้น แต่คนพวกนี้ทำเหมือนว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่...
“อืม...ฉันจะรับคำขอโทษของนายแล้วก็เธอเอาไว้ อย่าให้เจออีกก็แล้วกัน”
“ข่ะ ขอบคุณค่ะคุณจอม ขอบคุณค่ะ” เธอเงยหน้าทั้งน้ำตายกมือไหว้ขอบคุณร่างบางยกใหญ่ ส่วนจักรเองก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ช่วยน้องเอาไว้ได้
“ขอบคุณนะจ้ะพี่จักร”
“ไม่เป็นไร พี่ก็ไม่ได้ทำอะไร” จักรยิ้มให้แก้วอย่างไม่คิดอะไร แต่คนคิดคือคนที่มองภาพบาดตาบาดใจอยู่ตอนนี้อย่างเจ้าจอมต่างหาก
ถ้าจะโง่จนไม่เข้าใจความรู้สึกเขาแบบนี้นะ...
“นี่เป็นเวลางาน ไม่ใช่เวลาจีบกัน...ถ้าจะจีบก็ต้องรอให้เลิกงานก่อน ฉันขอตัวล่ะ” ร่างบางหมุนตัวเดินหนีหลังจากทิ้งระเบิดเอาไว้
จุลจักรที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ยืนนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าจะโดนเข้าใจผิด แต่พอจะแก้ตัว เจ้าจอมก็เดินหนีไปแล้ว...
“เอ่อ...คือว่า”
“เองไม่ต้องคิดมาแก้ว พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเองเกินกว่าน้องสาวหรอก สบายใจได้ เดี๋ยวพี่จะไปพูดบอกคุณจอมใหม่ไม่ให้เข้าใจเราผิด” จักรพูดแบบนั้นเมื่อเห็นว่าแก้วทำสีหน้าอึกอัก หน้าแดงด้วยความอาย ก้คิดว่าน้องมันกำลังอายที่โดนเข้าใจผิดแน่ๆ
คนที่ไม่เคยเข้าใจความรู้สึกใคร เข้าใจแต่ความรู้สึกตัวเองอย่างจักร ไม่รู้เลยว่ากำลังทำร้ายจิตใจคนถึงสองคนด้วยกัน หญิงสาวมองจักรด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย ส่วนจักรก็มองตามร่างบางของคนที่กุมหัวใจตนเอาไว้ด้วยความกังวล ประจวบเหมาะกับอินทัชเดินเข้ามาหา
“มึงโง่จริงๆ ว่ะจักร ถ้ามึงยังไม่ฉลาดขึ้นนะ กูแนะนำว่ามึงอย่าเพิ่งจีบน้องจอมเลย...รังแต่จะทำให้ไม่เข้าใจกันเปล่าๆ” เสียงทุ้มเสน่ห์ของอินทัชดังขึ้นมาจากด้านหลังของคนทั้งสอง หลังจากที่แอบดูอยู่นานแล้ว
เจ้าจอมทำถูกแล้วที่ตำหนิพนักงาน เพราะน้องไม่ได้ใช้การตะคอก แค่ขึ้นเสียงปกติเวลาตำหนิใคร แล้วก็ยังมีเหตุผลด้วย ซึ่งอินทัชก็เป็นแบบนั้นเวลาลูกน้องผิดพลาด
“ไอ้อิน...”
“พ่ะ พี่อิน...เอ่อ คือ อะไร” แก้วมองอินทัชสลับกับมองจุลจักรที่เธอแอบชอบ คิดไปคิดมาก็เข้าใจว่าทำไมจักรถึงอยากจะอธิบายเรื่องที่เจ้าจอมเข้าใจผิดนัก
ที่แท้พี่จักรก็ชอบคุณจอมนี่เอง...
“แก้วไปทำงานเถอะไป แล้วก็กล่องอาหารนี่พี่ขอคืนนะ มันเป็นอาหารที่ไม่ควรทำมา”
“เอ่อ...จ้ะ พี่จักร” ร่างบางหยิบกล่องข้าวกลับคืนมาด้วยสีหน้าเจื่อนๆ เพราะผิดหวัง...ก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นไปอย่างเศร้าใจ...
พอเหลือกันสองคน จักรก็หันไปมองอินทัชอย่างต้องการคำตอบ
“มึงหมายความว่ายังไง”
“กูก็หมายความตามนั้น ก็มึงโง่ไงจักร มึงเลยไม่รู้ว่าเมื่อกี้น้องจอมเสียใจขนาดไหน”
“เสียใจ? เสียใจอะไรวะ” พอได้ยินคำว่าเจ้าจอมเสียใจ จักรก็กระวนกระวายทันที
“น้องจอมทำถูกแล้วที่ตำหนิพนักงานที่ทำผิด น้องเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรแรงเลย ไม่ขึ้นเสียง ไม่ตะคอกใส่ เป็นเจ้านายที่ดีออกแบบนั้น แต่มึงดันเห็นใจขอร้องไม่ให้น้องจอมตำหนิแก้ว...เจ้าจอมเห็นแก่มึงเลยยอมถอย แต่มึงไม่รู้หรอกว่าน้องจอมเขาคิดยังไง”
“คิดยังไง…”
“คิดว่ามึงปกป้องแก้วไง คิดว่ามึงชอบ เลยปกป้อง และน้อยใจที่มึงไม่ยอมเข้าใจว่าเจ้าจอมทำไปเพราะอะไร ก็เพราะหน้าที่ไง หน้าที่ของคนเป็นเจ้านายกับสถานะของมึงมันไม่เหมือนกัน มึงอาจจะมีความเห็นใจ แต่ในฐานะที่น้องจอมเป็นคือเห็นใจไม่ได้ ต้องเด็ดขาด หากคนๆ นั้นทำผิดจริงๆ น้องเขาก็ต้องว่า เชื่อเถอะว่าตอนนี้แก้วกำลังถูกน้องจอมตำหนิต่อแน่ๆ แต่ที่ยอมทำตามที่มึงขอเพราะน้องเขาไม่อยากให้มึงมองเขาไม่ดีไง” จุลจักรนิ่งค้างไปเมื่อคิดตามสิ่งที่อินทัชบอกมา
เขาไม่รู้จริงๆ เขามองสีหน้าของเจ้าจอมไม่ออกจริงๆ เขารู้เพียงแต่ว่าเขาสงสารแก้วที่โดนว่า เลยช่วยเท่านั้น ไม่ได้คิดเลยว่าเจ้าจอมจะคิดมากไปขนาดนั้น
“จริงหรือวะ”
“มึงจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่มึง...”
“กูควรทำยังไง”
“อย่างแรกคือมึงต้องฉลาดไง!!”
“แล้วทำยังไงถึงจะฉลาดล่ะ!!!” ขึ้นเสียงถาม เพราะตัวเองชักจะหงุดหงิดแล้วนะที่โดนด่าว่าบ้าอย่างนั้น โง่อย่างนี้ เขาไม่ได้โง่ แค่ไม่รู้...
“อย่างแรกเลยนะ มึงต้องรู้...ดูสถานการณ์ให้เป็น อ่านสีหน้าและฟังน้ำเสียงให้ออก”
“เรื่องแบบนั้นมีแต่เทพที่ทำได้เว้ย!!!” แย้งขึ้นมาอย่างโมโห
“งั้นกูก็เทพสิวะ เพราะกูมองทุกคนออก ไม่เหมือนมึง!!” อดจะด่าเพื่อนไม่ได้จริงๆ
“เออๆ ไอ้อิน มึงนี่หลอกด่ากูตลอดเวลาจริงๆ”
“ทีแบบนี้ทำมาเป็นฉลาด!!!”
“คุณจอมโกรธกูมากไหมวะ” จู่ๆ จักรก็เข้าสู่โหมดเครียดอย่างจริงจัง ทำเอาร่างโปร่งบางถึงกับส่ายหน้าไปมาด้วยความหน่ายใจ
ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจอมไม่รับรักจักรเร็วๆ
เพราะถ้ามีแฟนที่ใจกว้างเป็นแม่น้ำ ใจดีรับของที่ผู้หญิงอื่นเอามาให้ด้วยหน้าชื่อตาบาน คงจะต้องไม่มีความสุขแน่ๆ ล่ะ
“โกรธไหมไม่รู้ แต่ถ้าน้อยใจไหม เสียใจไหม ตอบเลยว่า...มาก!!” หน้าของจักรเจื่อนไปเลยเมื่ออินทัชตอบแบบนั้น
“ทำไงดีวะ”
“ถ้าอยากให้น้องจอมเขารับรักมึง อย่างแรกมึงต้องฉลาด มองหน้า มองสายตาให้ออกว่า ณ ตอนนั้นเจ้าจอมรู้สึกอะไร อย่าทำตัวใจดีกับคนอื่นต่อหน้าเขา...แล้วกูบอกไว้เลยนะว่า ความเชื่อที่เจ้าจอมเชื่อว่ามึงรักเค้าจริงๆ น่ะมันลดฮวบลงมาแล้วรู้ไหม”
ก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอก เขาแค่กระตุ้นให้จักรมันฉลาดขึ้นเท่านั้นเอง...
“จริงเหรอวะ”
“มึงไม่ควรให้ความหวังผู้หญิงคนไหน อย่างแก้วเมื่อกี้เขาก็ชอบมึง แต่มึงก็ทำเหมือนให้ความหวัง เจ้าจอมก็รู้ ก็ดูออกเลยคิดว่ามึงสองคนจีบกันไง...”
ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างตกใจเพราะไม่รู้มาก่อนว่าแก้วชอบเขา แต่พอคิดดีๆ แล้วมันก็มีเค้าที่จะเป็นจริง นั่นทำให้จักรรู้สึกผิดเข้าไปอีก... ใจของเขาลอยตามคนครอบครองไปแล้ว แต่ร่างกายยังคงต้องทำงานหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
“แล้วกูจะทำได้ยังไง”
“งั้นมึงไม่ต้องฉลาดแล้วไอ้จักร”
“อะไรของมึงเนี่ย สรุปจะให้กูทำยังไงกันแน่วะ!!” ร่างสูงใหญ่ชักจะอารมณ์ไม่ดีที่อินทัชเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนสับสนไปหมดแล้วตอนนี้
อินทัชที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าจักรคงไม่มีทางดูความเจ้าเล่ห์ของเจ้าจอมออกแน่ๆ เลยเปลี่ยนวิธีใหม่ และคิดเอาไว้ว่าต้องโดนด่า
“ก็ไหนๆ มึงก็ฉลาดไม่ได้ ก็โง่ต่อไปแล้วกัน แต่โง่กับน้องจอมคนเดียว ส่วนคนอื่นมึงต้องมองให้ออกมาเขาเข้าหามึงเพราะจุดประสงค์อะไร เพราะถ้าหากว่ามึงกับน้องจอมคบกัน เป็นแฟนกัน ทั้งๆ ที่มึงยังใจดีแบบนี้ อย่าหวังเลยว่าความรักมึงจะชื่นมื่น มีความสุข”
“อะไรวะ?”
“นี่กูพูดอย่างเยอะมึงไม่เข้าใจ?”
“เออดิ พูดอะไร งงไปหมดแล้ว”
“งั้นมึงจับใจความได้ว่ายังไง”
“ให้กูโง่กับคุณจอมคนเดียว นอกนั้นก็ต้องดูให้ออก แค่นี้” เขาตอบไปตามที่ตัวเองจับใจความได้จริงๆ อย่างอื่นมีแต่ประโยคที่ต้องแปลเป็นไทยอีกรอบ
“ดีหน่อยที่อย่างน้อยก็ฟังได้เนื้อ” อินทัชพึมพำเบาๆ อย่างเหนื่อยใจ
เขาไม่น่าให้ไอ้จักรมันโกนหนวดโกนเคราจริงๆ ไม่คิดว่าจะทำให้เรื่องของเจ้าจอมกับจุลจักรมันวุ่นวายกว่าเดิมแบบนี้ นี่เป็นการคำนวณที่ผิดพลาดไปจริงๆ
ช่างเถอะ...มีทางแก้ไขอยู่ก็ไม่เท่ากับผิดพลาดมากมายเท่าไหร่
“สรุปคือกูต้องยอมคุณจอม ชี้ไม้เป็นนกก็ต้องว่านกใช่ไหม”
“เออ!! แบบนั้นแหละ”
ก็ไม่ใช่ทุกเรื่องนะ แต่เอาเถอะ ถ้าไอ้จักรได้อยู่กับเจ้าจอมนานๆ มันอาจจะซึมซับและรู้จักคนที่มันรักเยอะกว่านี้แน่ๆ
คราวนั้นก็คงจะตามเจ้าจอมทันแล้วล่ะมั้ง...คนเราคงไม่ซื่อบื้ออยู่อย่างนี้นานๆ หรอก
ทางด้านเจ้าจอมที่รู้สึกหงุดหงิด โมโห ไม่สบอารมณ์ เดินเข้าโรงครัวไปด้วยความไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้เหวี่ยงใส่ใครแต่อย่างไร หลายคนที่รู้จักเจ้านายตัวเองดีก็ได้แต่ทำงานของตัวเองเงียบๆ เพราะถ้าไปสะกิดต่อมระเบิดเมื่อไหร่ องค์ลงเมื่อนั้นแน่ๆ
“ที่นี่มีพนักงานที่เอาวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารให้กับลูกค้าและคนงานไปใช้เพื่อการส่วนตัว นั่นคือการทำอาหารออกไปให้ผู้ชาย!!! ผมจับได้คนหนึ่ง แล้วได้ตำหนิไปแล้ว เตือนไปแล้ว ไม่อยากจะเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง พวกคุณรู้บ้างไหมว่าการที่ใช้วัตถุดิบเพื่อส่วนตัวมันทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ผมหวังว่าจะไม่เจอแบบนี้อีก ครั้งนี้ผมจะไม่รายงานพี่รามแต่ถ้าพี่รามรู้ ผม...ช่วยอะไรไม่ได้นะครับ” เจ้าจอมว่ากล่าวตักเตือนพนักงานที่ต่างพากันทำหน้ากลืนไม่ได้คายไม่ออก ซึ่งก็ประจวบเหมาะกับแก้วที่เดินกลับมา เธอเดินก้มหน้าเข้ามาด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว
ส่วนร่างบางก็มองเธอแบบไม่พอใจ แต่ก็ไม่คิดจะหาเรื่อง
“อย่าให้มีอีกก็แล้วกัน ส่งใบซื้อวัตถุดิบ เช็คขายเช็คเสียให้ผมด้วยทุกวันด้วยนะครับป้ารี” เขาหันไปบอกหัวหน้าแม่ครัว ซึ่งเธอเป็นคนงานเก่าแก่ รู้ดีว่าอะไรควรทำและต้องทำยังไง
“ได้ค่ะคุณจอม เดี๋ยวป้าจะให้เด็กๆ จัดการเรื่องนี้อย่างเคร่งครัดเลยค่ะ แล้วจะเตือนเด็กๆ อีกครั้งค่ะ”
“ขอบคุณนะครับป้ารี ยังไงก็ทำงานต่อเถอะครับ ผมไม่รบกวนเวลาแล้ว”
ร่างเล็กเดินออกมาจากโรงครัวตรงไปยังห้องทำงานของตัวเองเพื่อทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ จากที่คิดว่าจะไปเจอหน้าจักรให้หายหงุดหงิด ดันกลายเป็นว่าหงุดหงิดมากกว่าเดิมเสียอีก
...
...
...
50%
เม้นท์ๆ ด้วยนะคะนักอ่านที่น่ารัก ^_^ ตอนนี้มาเร็วหน่อยความเป็นจริงต้องลงพรุ่งนี้ แต่ทนคิดถึงทุกคนไม่ไหว อยากลงให้อ่านกันไวๆ
หากมีคำถามหรืออยากพูดคุยไปที่แฟนเพจของยูกินะเจ้าคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki/